สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

'ชัยพัฒนา' ต่อยอดผลผลิตข้าวภัทรพัฒน์ทำเป็นข้าวปรุงสำเร็จ บรรจุกระป๋อง

มูลนิธิชัยพัฒนาร่วมกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ต่อยอดโครงการส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภคและสนับสนุนเกษตรกรไทย เปิดตัว “ข้าวภัทรพัฒน์ ปรุงสำเร็จ” ข้าวกล้องหุงสุกบรรจุกระป๋อง ทั้งข้าวเปล่าและข้าวพร้อมปลาซาร์ดีน 4 รส ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่รักสุขภาพ และต้องการประหยัดเวลาในการหุงหาอาหารบริโภค
Pic_342385


ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ชิมอาหารจานเด็ดจากข้าวภัทรพัฒน์.
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ชิมอาหารจานเด็ดจากข้าวภัทรพัฒน์.

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เผยถึงข้าวปรุงสำเร็จภายใต้แบรนด์ “ภัทรพัฒน์” ว่า ที่ผ่านมามูลนิธิชัยพัฒนาได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกด้าน แต่การจะดึงชาวบ้านให้หลุดพ้นจากความทุกข์ ประกอบกับปัญหาที่พบคือ เมื่อชาวบ้านผลิตสินค้าแล้วไม่มีช่องทางการจำหน่าย มูลนิธิชัยพัฒนาจึงได้สร้างแบรนด์ “ภัทรพัฒน์” ให้ชาวบ้านนำสินค้ามาวางจำหน่าย ในจำนวนนี้มีข้าวหอมที่มูลนิธิส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวปลอดสารเคมี ตามมาตรฐานการเพาะปลูกที่ดี และมาตรฐานการผลิตที่ดี เป็นข้าวหอมคุณภาพสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ประกอบกับการที่มูลนิธิได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ และพบว่าข้าวที่นำไปแจกจ่ายชาวบ้านบางครั้งบูดเร็ว ทำให้เกิดแนวความคิดว่าน่าจะมีกระบวนการอำนวยความสะดวก จึงได้ประสานงานกับ “นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง” เจ้าของอาหารกระป๋องปุ้มปุ้ย ในการผลิตข้าวสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ “ภัทรพัฒน์” เพื่ออำนวยความสะดวกเวลาเกิดเหตุต่างๆ จะได้ช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันท่วงที ไม่ต้องกลัวเรื่องอาหารบูด อีกทั้งอาหารกระป๋องยังสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันที่ต้องเร่งรีบ

รำภา คำหอมรื่น และ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ร่วมกันเปิดตัว
รำภา คำหอมรื่น และ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ร่วมกันเปิดตัว "ข้าวภัทรพัฒน์ ปรุงสำเร็จ"

โอกาสนี้ น.ส.รำภา คำหอมรื่น ผู้บริหารจากบิ๊กซี ที่ให้การสนับสนุนได้กล่าวถึงจุดเด่นของ “ข้าวภัทรพัฒน์ ปรุงสำเร็จ” ว่า ผลิตจากข้าวหอมที่สะอาด ปลอดสารพิษ อุดมด้วยคุณประโยชน์ด้านสุขภาพ ภายใต้โครงการแปลงสาธิตการทำนาในที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งเป็นข้าวกล้องหุงสุกบรรจุกระป๋องพร้อมรับประทาน มีทั้งข้าวเปล่า และข้าวพร้อมปลาซาร์ดีนผัดหน้าต่างๆรวม 4 รส ได้แก่ ข้าวราดหน้าปลาซาร์ดีนผัดกระเทียม พริกไทย ข้าวราดหน้าผัดกะเพราปลาซาร์ดีนทอด ข้าวราดหน้าหนำเลี้ยบปลาซาร์ดีนทอด ข้าวราดหน้าผัดเผ็ดปลาซาร์ดีน เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ที่ต้องการอาหารที่อร่อย ดีต่อสุขภาพ และประหยัดเวลาในการหุงหา โดยวางจำหน่ายที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และร้านภัทรพัฒน์ทุกสาขา.


Credit by.. http://www.thairath.co.th/content/life/342385

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


หมูสะเต๊ะ เจ้าแรกของประเทศไทย (เจริญพร)

เฮ้ย!!! ชาติเรานี่เกิดอะไรขึ้น เพื่อนบ้านเราต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น ฝ่ายซ้ายจะลุยเอา 4.6 ตร.กม. ส่วนข้างล่างก็จะเอาตั้ง 3 จังหวัด เวรแท้ๆ เราคนไทยต้องลุกขึ้นมาปกป้องชาติเรา เราไม่สามารถแบ่งแผ่นดินนี้แม้แต่เซนติเมตรเดียวให้ใครได้ คำเรียกร้องใดๆ ก็ไม่สำคัญ ประชาชนไทยไม่ใช่เพียงหน้าที่ แต่ต้องรักษาไว้ หากต้องสู้เราต้องสู้ ดังคำว่า "ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด" จำไว้ในใจเสมอ

Pic_341564


วันนี้ จะพาไปกิน "หมูสะเต๊ะ" ของกินที่เราท่านคุ้นเคย แต่วันนี้จะพาไปกินหมูสะเต๊ะเจ้าแรกของประเทศไทย ที่มาของสะเต๊ะมาจากเกาะชวา ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งรับอิทธิพลจากคาบับ ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของอินเดียภาคเหนือ เจ้าที่จะพาไปกินชื่อร้านเจริญพร (จึงอังลัก) เมื่อก่อนเจ้านี้อยู่ที่เฉลิมบุรี ผมไม่เคยไปที่ร้านเก่า แต่มากินเจ้านี้เป็นครั้งแรก มีผู้ใหญ่แนะนำว่าน่าจะมาลองดูว่า รสชาติที่เป็นดั้งเดิมเป็นอย่างไร เมื่อมาถึงรู้เลยว่า ความเก่าที่แท้ ความเก๋านี่แน่นอนมากเลยครับ งั้นคงอยู่มาไม่ถึงวันนี้


เอ้า สั่งกันให้รู้ดีกันไปเลยว่าแน่นอนอย่างที่พูดไว้ไหม เข้ามาในร้านเห็นพระรามลงสรง อาหารที่หากินยากมาก เป็นข้าวที่ราดด้วยน้ำราดหมูสะเต๊ะ มีหมูต้มและผักบุ้งลวกและราดด้วยน้ำพริกสูตรพิเศษ และผมสั่งหมูสะเต๊ะ เนื้อหมูที่นี่แตกต่างกับหมูที่อื่นๆ ที่มาทั้งชิ้นใหญ่ เนื้อล้วนๆ ไม่มีมัน สำหรับผู้ที่ต้องการแบบนุ่มนวลไม่ใช่ร้านนี้ แต่ของที่ร้านจะเป็นเนื้อหมูที่ผสมเครื่องเทศที่ไม่รุนแรงแต่กลมกล่อม ส่วนน้ำจิ้มต้องบอกได้คำเดียวว่าสุดทีนจริงๆ ไม่มีที่ไหนสู้ได้เลย อาจาดของที่ร้านกลมกล่อมมากๆ ไม่สร้างความผิดหวังให้ผมจริงๆ


ร้านนี้อยู่ที่ 1921/46 ถ.พระราม 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
ก็พูดง่ายๆ ว่า สวนหลวง หรือเราจะเรียกว่าเชียงกง โทรไปก่อนก็ได้ 02-252-9390

Rating : ชาตินี้ต้องกิน

เรื่องและภาพโดย
ดร.ธนา ทุมมานนท์ (เบย์พาเลส)

www.facebook.com/baypalace
credit  by : http://www.thairath.co.th/content/life/341564

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


ทองม้วนสด ใส่ มะพร้าวอ่อน ก็ขายดี

“ทองม้วน” ขนมไทยที่มีมาแต่โบราณ มีทั้งแบบที่เป็นทองม้วนแบบกรอบ และอีกแบบคือ “ทองม้วนสด” เป็นของว่างทานเล่นที่มีความเหนียวนุ่มและหอมหวาน ซึ่งวันนี้ทีม ’ช่องทางทำกิน“ มีข้อมูลการทำการขาย ’ทองม้วนสดมะพร้าวอ่อน“ มานำเสนอ ซึ่งทองม้วนสูตรนี้เมื่อทำได้อร่อยก็เป็นช่องทางอาชีพ สร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี... ณัฐวรรณ ตัญญะ ทำ “ทองม้วนสดมะพร้าวอ่อน” ขายอยู่ที่ตลาดน้ำบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา โดยเจ้าตัวเล่าว่า จริง ๆ แล้วมีอาชีพเป็นชาวสวน ปลูกผักสวนครัว เริ่มจากปลูกไว้กินเอง พอเหลือจึงขาย ปัจจุบันมีการปลูกไว้เยอะ จึงมีขายได้ทุกวัน และก็ทำเป็นอาชีพเรื่อยมา ซึ่งวันธรรมดาก็จะเป็นแม่ค้าขายผักสวนครัวอยู่ที่ตลาดสด วันเสาร์-อาทิตย์ก็เอามาวางขายที่ตลาดน้ำ จนมาช่วงหลังลูกที่กำลังเรียนอยู่อยากที่จะหารายได้พิเศษ จึงขอมาขายของที่ตลาดน้ำ และก็เลือกที่จะขายขนมทองม้วนสด เพราะคิดว่าทำไม่ยาก ซึ่งก็จะผสมแป้งให้ลูกมาทำขายที่ตลาดน้ำวันเสาร์อาทิตย์ ทำขายวันแรกยังไม่ได้สูตรที่ลงตัว ทำออกมาแล้วขนมแข็ง ไม่เหนียวนุ่ม ลูกค้าก็ติชมและก็ช่วยบอกสูตรให้เพิ่มเติม ลดส่วนผสมบางตัว “เราก็กลับมาปรับปรุง ซึ่งก็ใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่เป็นเดือน จนได้สูตรที่ลงตัว ได้ทองม้วนที่มีความเหนียวนุ่ม หอมหวานมัน ประกอบกับการขูดมะพร้าวอ่อนใส่ลงไปในทองม้วนสดที่ทำด้วย ก็ยิ่งเพิ่มรสชาติความอร่อย ทำให้ลูกค้าหลายคนชอบและติดใจ ทุกวันนี้ก็มาทำทองม้วนสดมะพร้าวอ่อนขายอยู่ที่ตลาดน้ำบางคล้าทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ ส่วนแผงขายผักสวนครัวที่ตลาดสดก็ยังขายอยู่ แต่ให้ลูกไปดูแลขายแทน” ณัฐวรรณกล่าว


อุปกรณ์ในการทำทองม้วนสดมะพร้าวอ่อน หลัก ๆ มีดังนี้คือ... เตาปิ้งทองม้วนแบบใช้ไฟฟ้า เตาปิ้งไฟฟ้าแบบ 4 หัว ราคาประมาณ 8,500 บาท, กะละมังนวดแป้ง, กระบวยใส่แป้งทองม้วน, ทัพพี, เกรียงสำหรับแคะ, ตัวขูดมะพร้าว

วัตถุดิบที่ใช้ทำตามสูตรมี... แป้งมัน 10 ถ้วยตวง, แป้งข้าวเจ้า  ถ้วยตวง, แป้งท้าวยายม่อม 1 ถ้วยตวง, น้ำตาลมะพร้าว 1.5 กิโลกรัม, กะทิ 2 กิโลกรัม, ไข่เป็ด 10 ฟอง, เกลือ 1 ช้อนชา, งาดำคั่ว  กิโลกรัม และมะพร้าวอ่อน

มะพร้าวที่ใช้นั้นจะต้องใช้ลูกที่ไม่อ่อนและไม่แก่เกินไป เพราะถ้าอ่อนเกินไปเนื้อมะพร้าวจะนิ่มมากไป ถ้ามะพร้าวแก่เกินไปเนื้อก็จะแข็ง ต้องใช้มะพร้าวที่กำลังดี จึงจะได้เนื้อมะพร้าวที่นุ่มกำลังดี

วิธีการทำแป้งทองม้วนสด... เริ่มจากการนำแป้งทั้ง 3 ชนิดเทผสมรวมกันลงในกะละมัง จากนั้นก็ตอกไข่เป็ดผสมลงไปในแป้ง แล้วทำการนวดไปเรื่อย ๆ ให้แป้งกับไข่เข้ากัน จากนั้นก็เทกะทิใส่ผสมลงไปบางส่วนแล้วก็ทำการนวดแป้งต่อไปอีกประมาณ 45-60 นาที นวดไปจนกว่าแป้งจะมีลักษณะนุ่มมือและไม่ติดมือ

“ขนมไทยทุกชนิดต้องนวดแป้งให้ถึง ขนมถึงจะนุ่มและอร่อย” ...ณัฐวรรณกล่าว

หลังจากนวดแป้งได้ที่แล้ว ก็ให้นำกะทิที่เหลือเทลงไปในแป้งให้หมด และก็ตามด้วยน้ำตาลมะพร้าว ทำการคนให้แป้งและน้ำตาลมะพร้าวละลายเข้ากัน เมื่อส่วนผสมทุกอย่างละลายเข้ากันดีแล้วก็ใส่ถุงแล้วนำเข้าแช่ในตู้เย็นเก็บ ไว้ เวลานำมาใช้ก็เทแบ่งใส่กระบวย ถ้าจะทำให้เป็นแป้งสีเขียวก็ผสมน้ำใบเตยลงไป หรือถ้าจะทำให้แป้งเป็นสีม่วงก็ผสมน้ำดอกอัญชัน
การปิ้งทองม้วนสดนั้น ให้ใช้ไฟแรงพอประมาณ ทำการเปิดเตาทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที เพื่อเป็นการวอร์มเตา เวลาหยดแป้งลงเตาก็ใช้ทัพพีตักแป้งทองม้วนจากกระบวยใส่ลงไปบนเตา เกลี่ยให้ได้แผ่นพอประมาณ พอแป้งเดือดเล็กน้อย ก็ให้ขูดมะพร้าวอ่อนให้เป็นชิ้นขนาดพอดีวางลงบนแป้งทองม้วน 1 ชิ้น จากนั้นก็ประกบฝาเตาเข้าหากัน ทิ้งไว้สักพัก ประมาณว่าเปลี่ยนไปหยอดเตาอื่นเสร็จ เตาที่ปิ้งไว้ก่อนก็สุกพอดี พอสุกก็ทำการม้วนให้มะพร้าวอ่อนโชว์อยู่ด้านบน เท่านี้ก็เสร็จเตรียมแพ็กใส่กล่องขาย

จากสูตรที่ว่ามานั้น สามารถทำแป้งทองม้วนได้ประมาณ 5 กิโลกรัม ใช้ทำทองม้วนสดได้ประมาณ 150 กล่อง แต่ละกล่องมี 7 ตัว หรือ 7 ชิ้น ขายในราคากล่องละ 20 บาท โดยมีทุนวัตถุดิบประมาณ 1,000 บาทขึ้นไป

’ทองม้วนสดมะพร้าวอ่อน“ ของณัฐวรรณ ขายอยู่ที่ตลาดน้ำบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เป็นอีกหนึ่งสินค้าขนมไทย ๆ ที่ในปัจจุบันก็ยังคงเป็น ’ช่องทางทำกิน“ ที่น่าสนใจ.

บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน / วรัญญู เหมือนเดช : ภาพ
........................................................................................
คู่มือลงทุน...ทองม้วนสดมะพร้วอ่อน
ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 12,000 บาท
ทุนวัตถุดิบ 1,000 บาทขึ้นไปต่อ 150 กล่อง
รายได้ ราคาขายกล่องละ 20 บาท
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านอาหาร, ชุมชน, ตลาดนัด
จุดน่าสนใจ เป็นอีกหนึ่งขนมไทยที่ยังขายดี

Credit by.. http://www.dailynews.co.th/article/384/200039

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


ทองเอก - เสน่ห์จันทร์ ปัจจุบันยังมีตลาดทำเงิน

ผู้ที่จะเชี่ยวชาญในเรื่องการทำขนมไทยนั้น ต้องมีใจรัก และอดทนพอสมควร อย่างไรก็ดี หากเชี่ยวชาญแล้วก็สามารถจะใช้เป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ดีได้ ซึ่งกับการทำขนม “ทองเอก” และ “เสน่ห์จันทร์” ขนมที่นิยมใช้ในงานมงคล อาทิ แต่งงาน ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ที่นับวันจะหาผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในการทำได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ นี่ก็น่าสนใจ... อ.จันทิรา นวทิศพาณิชย์ ผู้อำนวยการโครงการอนุรักษ์ขนมไทย ก่อตั้งโครงการอนุรักษ์ขนมไทยมานานกว่า 20 ปี ด้วยการรวบรวมสูตร และเคล็ดลับ จากวัด ชาวบ้าน ครูอาจารย์ ฯลฯ เพื่อนำมาถ่ายทอด และปรับปรุงรสชาติ วิธีทำขนมไทย ให้ทันสมัย ทำง่าย รวดเร็ว สะดวก แต่ได้มาตรฐาน เพื่อฟื้นฟูรักษามรดกทางวัฒนธรรมการทำขนมไทย เกิดประโยชน์ด้านการสร้างงาน การประกอบเป็นอาชีพ โดยมีการเปิดสอนด้วย



สำหรับ ขนมทองเอก และ เสน่ห์จันทร์ ก็เป็นขนมที่คนให้ความสนใจเรียน ซึ่งคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” ได้นำสูตรและวิธีทำของทางโครงการนี้ มานำเสนอกัน โดยอุปกรณ์ในการทำหลัก ๆ ก็มี กระทะไฟฟ้า, เครื่องปั่น, ไม้พาย, ถ้วยตวง, พิมพ์ทองเอก, กรรไกรเล็ก, พู่กันจีน และภาชนะเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ที่ใช้ในการทำขนม

ส่วนผสมการทำ ทองเอก ตามสูตรนี้ ก็มี แป้งข้าวเจ้า (อบควันเทียน) ตราสามเศียร 60 กรัม, แป้งมัน (อบควันเทียน) 10 กรัม, น้ำกะทิ 1 ถ้วย, น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย, ถั่วเขียว เลาะเปลือกนึ่งสุก 1 1/2 ถ้วย, เกลือ 1/4  ถ้วย, ไข่แดงของไข่ไก่ 1 ฟอง และเทียนอบ

วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมด ยกเว้นไข่แดง ใส่เครื่องปั่น ปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน ปั่นเสร็จแล้วแบ่งส่วนผสมออกเป็น 2 ส่วน นำส่วนผสมส่วนแรกไปกวนในกระทะไฟฟ้า ใช้ไฟกลาง เพิ่มสีสันให้เนื้อขนมด้วยสีผสมอาหารสีเหลืองมะนาวและสีส้มเล็กน้อย กวนพอให้แป้งข้น แล้วใส่ไข่แดงลงไป หรี่ไฟอ่อน ๆ แล้วกวนต่อไป จนแป้งล่อนหลุดจากกระทะ ไม่ติดมือ แล้วนำไปนวดให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

จากนั้นนำแป้งที่เตรียมเสร็จแล้วไปแบ่งกดใส่ในพิมพ์ทองเอก และเมื่อเคาะขนมออกมาจากพิมพ์แล้วก็ให้แปะด้วยแผ่นทองคำเปลวที่ตัดแบ่งเป็น ชิ้น เล็ก ๆ จากนั้นนำไปอบควันเทียน 1-2 ชั่วโมง หรือเพื่อความหอมที่มากขึ้นก็อาจจะอบข้ามคืนเลย

สำหรับวิธีทำ เสน่ห์จันทร์ ขนมมงคลอีกชนิดหนึ่ง ก็นำส่วนผสมอีก 1 ส่วนที่แบ่งไว้จากการทำทองเอก มากวนในกระทะไฟฟ้า ใช้ไฟกลาง กวนพอให้แป้งข้น จากนั้นหรี่ไฟอ่อน ๆ กวนต่อไปจนแป้งล่อนหลุดจากกระทะ ไม่ติดมือ หลังจากนั้นก็นำแป้งไปนวดอีกครั้งให้เนียนเป็นเนื้อเดียวกันอีกครั้ง แล้วนำแป้งที่ได้ไปปั้นเป็นขนมเสน่ห์จันทร์

วิธีปั้น แบ่งแป้งขนมเป็นก้อน ๆ ขนาดเท่ากับลูกชิ้น แล้วปั้นเป็นลูกกลม ๆ วางลงบนจาน ใช้ปลายพู่กันจิ้มลงไปตรงกลางให้เป็นรูบุ๋มเล็กน้อย

ทั้งนี้ แป้งที่ใช้ปั้นนี้ ให้แบ่งออกมาส่วนหนึ่ง ไม่ต้องมาก นำมาผสมผงจันป่น และผงดาร์กช็อกโกแลต เพื่อให้มีทั้งสีดำ และกลิ่นช็อกโกแลต แล้วใช้แป้งผสมนี้ทำเป็นส่วนขั้วของลูกขนมเสน่ห์จันทร์

วิธีปั้นขั้วเสน่ห์จันทร์ ก็ปั้นแป้งส่วนขั้วให้เป็นรูป หยดน้ำเล็ก ๆ ใช้กรรไกรตัดแบ่งตรงกลางหยดน้ำออกมาเป็น 2 ส่วน จากนั้นใช้กรรไกรตัดแบ่งแต่ละส่วนให้ออกมาเป็นกลีบ ๆ โดยส่วนแรกตัดให้เป็น 3 กลีบ อีกส่วนตัดเป็น 2 กลีบ ตกแต่งปลายกลีบให้สวยงาม นำไปติดตรงรอยบุ๋มตรงกลางลูกเสน่ห์จันทร์ แล้วใช้กรรไกรตัดส่วนขั้วออก เหลือแต่กลีบเอาไว้ ใช้ปลายพู่กันจิ้มให้กลีบกับลูกจันทร์ติดกันอีกครั้ง เสร็จแล้วติดแผ่นทองคำเปลวที่ตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กลงไป จากนั้น จึงนำไปอบควันเทียน

จากส่วนผสมดังที่กล่าวมาข้างต้น จะทำขนมทองเอกและเสน่ห์จันทร์ได้รวมประมาณ 50 ชิ้น ราคาขายชิ้นละ 9-12 บาท ในขณะที่ต้นทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 200 บาท ซึ่งนี่ก็นับเป็นขนมไทยขายฝีมือที่ได้ราคาดีอีกประเภทหนึ่ง

สนใจขนม “ทองเอก–เสน่ห์จันทร์” ต้องการติดต่อ อ.จันทิรา ติดต่อได้ที่ 1107/2 ซอยวชิรธรรมสาธิต 63 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ โทร. 08-9665-5584 หรือที่ www.facebook.com/โครงการอนุรักษ์ขนมไทย

(ชมคลิปภาพชุด ช่องทางทำกิน ได้ที่ www.dailynews.co.th)
สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล รายงาน


Credit by.. http://www.dailynews.co.th/article/384/197141

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


ฝึกอาชีพฟรี รุ่น 4-5 'เดลินิวส์ เดินหน้า ปี 2 .......


หน้า “ช่องทางทำกิน” วันนี้ทางทีมงานเก็บตกบรรยากาศ โครงการ ’เดลินิวส์ฝึกอาชีพ“ รุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 5 ฝึกอบรมการทำธุรกิจขาย ’ข้าวมันไก่“ มานำเสนอ ซึ่งกิจกรรมทั้ง 2 รุ่นในครั้งนี้ทาง เดลินิวส์ จัดขึ้นโดยความร่วมมือกับ บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดย ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร “ห้าดาว” ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปอย่างอบอุ่น สนุกสนาน แต่อัดแน่นด้วยความรู้เชิงอาชีพแบบอร่อย ๆ และเหล่านี้คือความรู้สึกของประชาชนบางส่วนที่ได้เข้า ’ฝึกอบรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย“ ในกิจกรรมของโครงการฯ ในครั้งนี้...

คุณจันจิรา เคารพ ผู้เข้าอบรมจาก จ.สมุทรปราการ บอกกับทีมงานว่า ทำงานเป็นพนักงานบริษัท และก็พยายามมองหาอาชีพเสริมด้วย แต่เพราะไม่มีความรู้ทางด้านธุรกิจจึงยังไม่มีโอกาสได้ลองทำอาชีพอื่น ซึ่งก็ชอบและติดตามคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” ในหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ มาโดยตลอด อ่านแล้วทำให้ได้ความรู้การทำมาค้าขายและการทำอาชีพต่าง ๆ จนทางเดลินิวส์ได้จัดโครงการฝึกอาชีพขึ้นมา ก็ได้สมัครเข้าร่วมด้วย และที่ได้มาฝึกอบรมการขายข้าวมันไก่ในครั้งนี้ก็ดีใจและถือว่าเป็นโชคดีมาก ได้เข้าร่วมฝึกอบรมแล้วทำให้ได้ศึกษาธุรกิจการค้าขาย ได้ความรู้มาก ก็คิดว่าจะนำความรู้ วิธีการทำข้าวมันไก่ กลับไปทดลองทำกันในครอบครัว

“ถ้ามีโอกาสก็จะลองทำขายดู วางแผนกับแฟนไว้แล้วว่าถ้าไม่ได้ทำงานประจำก็จะหาธุรกิจเล็ก ๆ ทำเป็นของตัวเอง สำหรับโครงการฝึกอาชีพของเดลินิวส์นี้ต้องบอกว่าเป็นโครงการที่ดีมาก ให้โอกาสคนที่กำลังมองหาอาชีพ อาชีพเสริม ธุรกิจส่วนตัว ให้ความรู้ ทำให้คนได้ตื่นตัว ก็อยากจะให้เดลินิวส์มีโครงการดี ๆ แบบนี้ต่อไปอีกเรื่อย ๆ และมีการฝึกอาชีพอื่น ๆ อีก”

คุณวลัยพร ปันฑรางกูร ผู้เข้าร่วมอบรมที่อยู่ในกรุงเทพฯ บอกว่า โครงการเดลินิวส์ฝึกอาชีพเป็นโครงการที่ดี เปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้ามาเรียนรู้ ได้ความรู้ ผู้ที่ได้เข้าอบรมมีความรู้ติดตัว สามารถนำไปประยุกต์ปรับใช้ นำไปทำเป็นอาชีพ เป็นธุรกิจ สามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับคนที่มาอบรมได้แน่นอน

“ที่ได้มาเรียนรู้ครั้งนี้ก็ได้ความรู้หลาย ๆ อย่าง ทั้งเรื่องการทำธุรกิจ วิธีการขั้นตอนของการทำข้าวมันไก่ทุกขั้นตอน และความรู้ที่ได้ในครั้งนี้ก็จะติดตัวเราไปอีกนาน ซึ่งก็จะลองกลับไปทดลองทำกินเองก่อน และถ้ามีโอกาสก็อาจจะเปิดร้านขายก็ได้”

คุณพงศ์พันธุ์ พงศ์กัณฑ์ ผู้เข้าอบรมจาก จ.เพชรบุรี บอกว่า มีอาชีพค้าขาย นวดแผนโบราณ และทำกุญแจ อยากจะได้เข้าฝึกอบรมกับโครงการนี้มานานแล้ว เพราะต้องการจะศึกษาเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพเพิ่มเติม หากมีเงินทุนก็อยากจะทำข้าวมันไก่ขายเพิ่มจากการขายเครื่องดื่มที่ทำอยู่ ซึ่งน่าจะไปด้วยกันได้

“โครงการเดลินิวส์ฝึกอาชีพนี้ดีนะครับ เพราะเป็นการเปิดโอกาส ให้ทางเลือกกับคนที่อยากจะมีอาชีพ คนที่ตกงาน ช่วยให้ได้มีความหวังในชีวิต ซึ่งตอนที่ทราบว่าได้รับการคัดเลือกก็ดีใจมาก ตื่นเต้นมาก หัวใจเต้นแรงเลย และรีบเดินทางเข้ามาค้างในกรุงเทพฯตั้งแต่วันศุกร์เลยครับ”

คุณจารุชา เอี่ยมสำอางค์ ผู้เข้าร่วมอบรมรายนี้บอกว่า ทำงานเป็นพนักงานบริษัทมา 20 กว่าปี สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ไว้เพราะอยากจะมีอาชีพอิสระที่เป็นธุรกิจส่วนตัว บ้าง และส่วนตัวก็เป็นคนชอบทานข้าวมันไก่อยู่แล้ว และคิดว่าชื่อเสียงของข้าวมันไก่ห้าดาวเขาก็ใช้ได้ มีชื่อเสียงในเรื่องของสูตร และความสะอาด

“ดีใจที่ได้เข้าร่วมกับโครงการเดลินิวส์ฝึกอาชีพและได้เข้าฝึกอบรมเรื่อง ข้าวมันไก่ โครงการของเดลินิวส์นี้เป็นโครงการที่มีประโยชน์ เปิดโอกาสให้กับคนหลาย ๆ ระดับได้เข้ามามีส่วนร่วม”

คุณภัทรภร นอประสิทธิ์ ผู้เข้าอบรมจาก จ.ชลบุรี บอกว่า ที่ผ่านมาประกอบอาชีพค้าขาย พร้อมทั้งทำเกษตรกรรมควบคู่ไปด้วย และก็เป็นแฟนหนังสือพิมพ์เดลินิวส์มานานนับ 10 ปีแล้ว

“ที่สมัครร่วมโครงการเพราะอยากหาความรู้อาชีพอื่น ๆ เพิ่ม โครงการนี้ดีมาก ช่วยส่งเสริมให้คนมีอาชีพ มีรายได้ ส่วนที่มาฝึกข้าวมันไก่นี่ก็คิดว่าทำได้แน่ และตลาดในต่างจังหวัดก็ยังกว้างอยู่”

คุณสุภาพันธุ์ สังคร ผู้เข้าอบรมจาก จ.ปทุมธานี บอกว่า รับราชการ และก็อยากจะหาอาชีพเตรียมไว้หลังเกษียณ จึงสมัครเข้าร่วมโครงการนี้ ซึ่งเมื่อได้มาอบรมแล้วก็เข้าใจง่าย แต่ก็คงต้องฝึกฝนอีกหน่อยถึงจะชำนาญ และทำขายได้ ซึ่งก็มีทำเลอยู่แล้ว เรื่องอื่น ๆ คิดว่าก็คงไม่ยากอะไรนัก

“เดลินิวส์ฝึกอาชีพเป็นโครงการที่ดีนะคะ เป็นการตอบแทนสังคมแบบให้จริง ๆ เพราะช่วยเหลือคนทั่วไปให้เข้าถึงการประกอบอาชีพ ที่เป็นเรื่องยากมากในยุคปัจจุบันนี้”

คุณกมลชนก บวรสถิตกุล ผู้เข้าร่วมอบรมที่อยู่ในกรุงเทพฯ บอกว่า ทำงานเป็นพนักงานบริษัท ซึ่งก็ดีใจมากที่ได้รับการคัดเลือกจากเดลินิวส์ให้เข้าฝึกอาชีพ เหตุที่อยากเข้าร่วมก็เพราะอยากจะหาแนวทางการประกอบอาชีพใหม่ ๆ ให้ตนเอง ซึ่งการอบรมของโครงการเดลินิวส์ฝึกอาชีพนี้ก็มีความเป็นมาตรฐาน

“มีมาตรฐานทั้งเนื้อหาทฤษฎี และภาคการฝึกอบรมปฏิบัติก็เข้าใจไม่ยาก โครงการนี้มีประโยชน์มากสำหรับคนว่างงาน คนที่กำลังมองหาอาชีพใหม่ ๆ หรือหาอาชีพเสริมให้กับตนเอง”

คุณศศิลักษณ์ สวัสดิ์สาลี ผู้เข้าร่วมอบรมที่อยู่ในกรุงเทพฯ อีกราย รายนี้เป็นข้าราชการบำนาญ ซึ่งบอกว่า อยากเข้าร่วมโครงการนี้เพราะอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเติม ยิ่งเป็นการเรียนรู้ด้านอาชีพก็ยิ่งดี

“อยากจะมาร่วมฝึกอาชีพกับเดลินิวส์นานแล้ว และคิดว่าโครงการนี้ดี มีประโยชน์มาก ๆ คนมาฝึกได้ความรู้มากเลย”

คุณทัศนีวรรณ รัตนะ ผู้เข้าอบรมจากบางบัวทอง จ.นนทบุรี บอกว่ามีอาชีพเป็นลูกจ้างเหมาชั่วคราว ได้ส่งรายชื่อสมัครเข้าร่วมโครงการฝึกอาชีพของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ตั้งแต่ ลงใบรับสมัครแรก ๆ ซึ่งการที่มีโอกาส ได้รับคัดเลือกเข้ามาฝึกอบรมการทำข้าวมันไก่ ก็รู้สึกดีใจมาก เพราะอาชีพที่ทำอยู่นั้นเป็นลูกจ้างเหมาชั่วคราว ไม่มั่นคง ถ้าหมดสัญญาก็ไม่มีอาชีพ จึงต้องพยายามมองหาอาชีพเสริมเพื่ออนาคตที่มั่นคง และจากที่ได้เข้าร่วมอบรมครั้งนี้ก็ได้ความรู้พื้นฐานในการทำข้าวมันไก่มาก พอสมควร

“เมื่อได้มาสัมผัสกับขั้นตอนการทำก็ไม่ยากอย่างที่คิด คิดว่าจะลองฝึกทำดู คิดว่าเราก็สามารถทำได้แน่ อาจจะปรับตามแบบฉบับของตนเอง หรือทำแบบห้าดาวเลย ต่อไปในอนาคตอาจจะกลายเป็นอาชีพหลักก็ได้ ในย่านที่อยู่มีคนทำธุรกิจไก่ย่างห้าดาว แต่ยังไม่มีข้าวมันไก่ห้าดาว ต้องขอขอบคุณทางเดลินิวส์ที่มีโครงการดี ๆ แบบนี้ให้คนที่ไม่มีโอกาส ให้ได้มีโอกาสมาเรียนรู้”

คุณนิตยา ศรีสมัย ผู้เข้าอบรมจากเขตประเวศ กรุงเทพฯ รายนี้ก็บอกว่า มีอาชีพรับราชการ ที่ได้มาร่วมฝึกอบรมอาชีพในครั้งนี้ ดีใจมาก ดีใจที่ได้เป็นผู้หนึ่งที่ได้รับโอกาสดี ๆ จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ขอบอกว่าไม่ผิดหวังเลยที่เป็นแฟนเดลินิวส์มานานนับ 10 ปี ตั้งแต่ยังไม่มีครอบครัว จนปัจจุบันมีลูกและโตแล้ว วันนี้ได้ความรู้เยอะมาก ได้เรียนรู้ทั้งเรื่องอาหารปลอดภัย การแนะนำวัตถุดิบ และขั้นตอนการปฏิบัติที่เข้าใจง่าย

“มีรายได้ทางเดียวไม่ค่อยเพียงพอกับรายจ่ายในครอบครัว จึงอยากมีอาชีพเสริมหรือธุรกิจส่วนตัว ข้าวมันไก่นี่ปกติเป็นแต่คนกิน ไม่รู้ว่าทำยังไง แต่วันนี้ได้ลงมือทำเอง มันไม่ยากอย่างที่คิด ใช้เวลาทำไม่นาน กินได้อร่อย และหน้าตาก็ดีด้วย ต้องบอกว่าภูมิใจมาก คิดว่ากลับไปแล้วจะเอาความรู้ที่ได้จากการอบรมไปลองทำให้คนที่บ้านชิมดูก่อน แล้วค่อยคิดเรื่องทำขาย ซึ่งก็อาจจะทำกับห้าดาว เพราะเขาดูทำเลขายให้ แถมยังจะมีส่วนลดให้กับผู้ที่ได้เข้าอบรมกับโครงการของเดลินิวส์ครั้งนี้ ด้วย”

ทั้งนี้ นี่ก็เป็นความรู้สึกของประชาชนบางส่วนที่ได้เข้า ’ฝึกอบรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย“ ในกิจกรรมรุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 5 ของ โครงการ ’เดลินิวส์ฝึกอาชีพ“ ซึ่งครั้งนี้ทาง บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดย ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร “ห้าดาว” ได้เข้ามาร่วมกันทำเพื่อสังคมไทย กับทาง เดลินิวส์ ด้วย โดยโครงการ “เดลินิวส์ฝึกอาชีพ” รุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 5 นี้ เป็นการประเดิมการทำกิจกรรมตามโครงการใน ’ปีที่ 2“
ยินดีที่ได้วิ่งไปพร้อมๆกัน

“โครงการนี้ เกิดขึ้นเพื่อส่งคืนความสุขให้กับพี่น้องประชาชน และแฟนเดลินิวส์ทุกท่าน”

...นี่เป็นส่วนหนึ่งจากการระบุของ ดร.พิสิฐ เหตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและจัดจำหน่าย หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ในการจัดกิจกรรมฝึกอาชีพการทำธุรกิจขายข้าวมันไก่ให้กับประชาชนโดยไม่มีค่า ใช้จ่ายใด ๆ ซึ่งทาง ดร.พิสิฐ ยังได้กล่าวไว้อีกบางช่วงบางตอนว่า...ขอขอบคุณผู้เข้าอบรมทุกท่านที่ให้ เกียรติมาร่วมโครงการฝึกอาชีพของทาง “เดลินิวส์” ซึ่งก็หวังว่าทุกท่านคงจะได้นำความรู้ที่ได้ในครั้งนี้ไปประยุกต์ใช้เพื่อ ให้เกิดประโยชน์และเป็นอาชีพต่อไป และสุดท้ายนี้ ก็ขอยก “สุภาษิตแอฟริกา” ขึ้นมากล่าวไว้ ณ ที่นี้ว่า...

’ถ้าคุณเป็นสิงโตที่อยู่ในทุ่งหญ้าสะวันนา คุณต้องเป็นสิงโตที่วิ่งเร็วกว่ากวางที่วิ่งช้าที่สุด ถ้าคุณเป็นกวางคุณต้องวิ่งให้เร็วกว่าสิงโตที่วิ่งเร็วที่สุด เพื่อความอยู่รอด ไม่ว่าคุณจะเป็นสิงโตหรือกวาง คุณจำเป็นต้องวิ่งตลอดเวลาจะหยุดนิ่งไม่ได้ และเดลินิวส์เรามีความยินดีที่ทุกท่านได้ร่วมวิ่งไปพร้อมกับเรา“.

รุ่น 6-7-8-9-10 ตอนนี้ก็พร้อมลุยแล้ว!!


ทีม ช่องทางทำกิน รายงาน
วรัญญู เหมือนเดช - วรพรรณ เลอสิทธิศักดิ์ ภาพ


แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


ขายข้าวมันไก่ ฝึกได้ไม่ยากอย่างที่คิด

หน้า “ช่องทางทำกิน” วันนี้ยังคงเก็บตกบรรยากาศ โครงการ “เดลินิวส์ฝึกอาชีพ” รุ่นที่ 4 และรุ่นที่ 5 ฝึกอบรมการทำธุรกิจขาย “ข้าวมันไก่” ซึ่งทาง เดลินิวส์ จัดขึ้นโดยร่วมมือกับ บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดย ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร “ห้าดาว” ที่สถาบันสอนทำอาหารและเบเกอรี่ แม่บ้านคลับ หมู่บ้านทาวน์อินทาวน์ ซอย 9 กรุงเทพฯ เมื่อ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีทั้งการสอนการทำข้าวมันไก่ตามรูปแบบแฟรนไชส์ห้า ดาว และยังมีการแจกเอกสาร “สูตรการทำข้าวมันไก่” ด้วย...



           
สูตรข้าวมันไก่ที่มีการแจกให้กับทางผู้เข้าอบรมนั้น มีดังนี้คือ... ส่วนผสมข้าวมัน... ข้าวหอมมะลิ 1 กก., ข้าวเหนียว 150 กรัม, เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ, ซีอิ๊วขาว 1.5 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ, ซุปก้อนไก่ 2 ก้อน, น้ำมันไก่ 10 ช้อนโต๊ะ, กระเทียมทุบทั้งเปลือก 20 กรัม, ขิงหั่นแว่นทุบพอแตก 50 กรัม, ใบเตย 3-4 ใบ, น้ำเปล่า 5-6 ถ้วยตวง วิธีทำ... ตั้งน้ำให้เดือด ใส่ซุปก้อนคนให้ละลาย พักไว้ ผสมข้าวหอมมะลิกับข้าวเหนียว ซาว 1 ครั้ง ใส่ตะแกรงพักให้สะเด็ดน้ำ ตั้งกระทะใส่น้ำมันไก่ พอร้อนใส่กระเทียมและขิงลงเจียวสักครู่ ใส่ข้าวลงผัด ปรุงรสด้วยเกลือป่น ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย เคล้าให้เข้ากัน ตักใส่หม้อ ใส่น้ำซุป และใบเตย หุงจนข้าวสุก

ขั้นตอนการทำข้าวมันนี้ จะมีส่วนผสมสำคัญตัวหนึ่งคือน้ำมันไก่หรือน้ำมันเจียวไก่ โดย การเจียวน้ำมันไก่... ก็ใส่มันไก่ หนังไก่ ลงในกระทะที่ตั้งไฟอ่อน เจียวให้ไขมันค่อย ๆ ออกมา เจียวจนหนังไก่และมันไก่มีสีเหลืองนวล (อย่าให้เข้มจะทำให้ได้น้ำมันสีเข้ม) นำน้ำมันไก่ขึ้นพักไว้ให้เย็น เก็บใส่ภาชนะ สำหรับใช้ทำข้าวมันส่วนผสมต้มไก่... ไก่ตอน 1 ตัว, เกลือป่น 6 ช้อนโต๊ะ, พริกไทยเม็ดบุบหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ, กระเทียมทุบ 30 กรัม, ขิงแก่ 100 กรัม, เก๋ากี้ 1.5 ช้อนโต๊ะ, ฮั่วซัว 3-4 ชิ้น, รากผักชี 10 ราก, น้ำเปล่า วิธีทำ... นำเครื่องเทศทุกอย่างห่อด้วยผ้าขาวบางมัดให้แน่นใส่ลงในหม้อน้ำเปล่า ใส่เกลือป่น พอเดือดนำไก่ลงต้มจนสุก จึงตักไก่ขึ้นแขวนให้สะเด็ดน้ำ เมื่อมีลูกค้าสั่งก็นำมาแล่สับเป็นชิ้น ๆ โปะข้าวมัน ใส่แตงกวาหั่น เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม น้ำซุป

ส่วนผสมน้ำจิ้ม... น้ำตาลปี๊บ 75 กรัม, น้ำตาลทราย 50 กรัม, น้ำเปล่า 120 กรัม, ใบเตย 10 กรัม, ขิงแก่ 150 กรัม, พริกขี้หนู-พริกสดสีแดง 80 กรัม, ซีอิ๊วดำหวาน 40 กรัม, น้ำส้มสายชู 220 กรัม, ซีอิ๊วขาว 150 กรัม, เต้าเจี้ยวสูตร 1 บดหยาบ 170 กรัม, กระเทียมไทย 50 กรัม, กระเทียมดอง 20 กรัม, น้ำกระเทียมดอง 50 กรัม วิธีทำ... เคี่ยวน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำเปล่า ใบเตย ใช้ไฟอ่อน ๆ จนเหนียว ตักใบเตยออก ยกส่วนผสมขึ้นพักไว้ ปั่นขิงแก่ พริก เต้าเจี้ยว กระเทียมดอง (ฉีกเป็นกลีบ ไม่เอาก้าน) น้ำกระเทียมดอง ซีอิ๊วดำหวาน น้ำส้มสายชู ซีอิ๊วขาว ให้ละเอียด จากนั้นนำมาผสมกับน้ำตาลที่เคี่ยวไว้ เมื่อจะใช้ขายให้ผสมน้ำซุปลงในน้ำจิ้มด้วยเพื่อให้น้ำจิ้มไม่ข้นเข้มมากไป (ปริมาณน้ำซุปตามชอบ) แต่ถ้าจะเก็บน้ำจิ้มไว้นาน ๆ ไม่ต้องเติมน้ำซุป และให้เก็บไว้ในตู้เย็น
ส่วนผสมน้ำซุป... โครงไก่ 1 โครง, น้ำเปล่า 20 ถ้วยตวง, รากผักชีบุบ 7 ราก, กระเทียมบุบ 15 กลีบ, พริกไทยเม็ดบุบ 1 ช้อนโต๊ะ, เก๋ากี้ 2 ช้อนโต๊ะ, เกลือป่น 2.5 ช้อนโต๊ะ, มะนาวดอง 2 ลูก, ใบเตย 5-6 ใบ, น้ำตาลกรวด 2 ช้อนโต๊ะ, ฟักหั่นเป็นชิ้น 500 กรัม วิธีทำ... ห่อรากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ด เก๋ากี้ ด้วยผ้าขาวบางให้แน่น พักไว้ นำหม้อใส่น้ำเปล่า โครงไก่ ใบเตย และห่อผ้าขาวบางที่เตรียมไว้ ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ ปรุงรสด้วยเกลือป่น น้ำตาลกรวด พอเดือดให้หรี่ไฟ เมื่อรสชาติเข้ากันดีแล้วก็ใส่มะนาวดองและฟัก ชิมรสอีกครั้งตามชอบ
ทั้งนี้ สูตรส่วนผสมต่าง ๆ ดังที่ว่ามา หากจะทำข้าวมันไก่มากขึ้นก็เพิ่มส่วนผสมต่าง ๆ ตามสัดส่วน และเรื่องการล้างไก่ก็สำคัญ โดย เทคนิคการล้างทำความสะอาดไก่ก่อนต้ม... ตรวจสภาพไก่ ต้องไม่มีรอยช้ำหรือมีกลิ่นเหม็น ขนาดและน้ำหนักเหมาะสม อายุไก่ไม่แก่เกินไป ดึงขน ขนอ่อน ออกให้หมดทั่วตัว ล้างทำความสะอาดทั้งภายในภายนอก ทาเกลือป่นหยาบให้ทั่วตัวไก่ ทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างเกลือออกให้หมด ล้างภายในท้อง ดัดขาไก่ขึ้นพักให้น้ำออกจากท้อง ดัดปีกไก่ให้แนบลำตัวโดยขัดปลายปีกขึ้นด้านบน ใช้เชือกผูกเป็นวงกลมคล้องส่วนปีกทั้งสอง ยกไก่ขึ้น พร้อมนำไปต้ม โดยไก่ตอนน้ำหนักประมาณ 1 กก. ใช้เวลาต้มประมาณ 40 นาที น้ำหนักประมาณ 2 กก. ใช้เวลาต้มประมาณ 40-50 นาที น้ำหนักประมาณ 3 กก. ใช้เวลาต้มประมาณ 60 นาที
ขั้นตอนการต้มไก่... ใส่รากผักชี ต้นหอม น้ำเปล่า ลงในหม้อตั้งไฟให้เดือด ใส่เกลือป่นลงในหม้อ ใส่ไก่ลงลวก 2-3 ครั้ง จากนั้นต้มไก่ประมาณ 20-25 นาที แล้วยกไก่ขึ้นให้น้ำร้อนในท้องไก่ไหลออกมา แล้วใส่ไก่ลงต้มต่อจนสุก นำไก่ขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นเพื่อลดความร้อน แช่ประมาณ 5-8 นาที แล้วพักไก่ให้สะเด็ดน้ำ ผสมเกลือป่นและน้ำมันพืชคนให้ละลาย ทาไก่ด้วยน้ำมันบาง ๆ ให้ทั่ว ยกไก่ขึ้นแขวนให้น้ำในไก่ไหลออกหมด เป็นอันเสร็จ

นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับสูตรการทำข้าวมันไก่ดังที่แจกแจงมาข้างต้นนี้แล้ว การจะขายข้าวมันไก่นั้นก็จะต้องฝึกหัดส่วนอื่น ๆ อีก เช่น การตักข้าวมัน และที่สำคัญคือการแล่ไก่ การสับไก่ ให้สวยงาม ให้เหมาะสมกับราคาขาย รวมถึงถ้าจะใส่เลือดไก่ ใส่เครื่องในไก่ ในข้าวมันไก่ด้วย ก็ต้องฝึกฝนวิธีทำในส่วนนี้เพิ่มเติมให้ชำนาญ
          
เหล่านี้ก็เป็นข้อมูล “สูตรการทำข้าวมันไก่” ที่เก็บตกจากการจัดฝึกอบรมอาชีพให้กับประชาชนฟรีที่สถาบันฯแม่บ้านคลับ ซึ่ง โครงการ “เดลินิวส์ฝึกอาชีพ” ร่วมจัดกับ บริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดย ธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหาร “ห้าดาว” วันนี้ทางหน้า “ช่องทางทำกิน” ก็นำมาฝากกันไว้ ณ ที่นี้ด้วย

ใครสนใจก็ลองฝึกฝนกันดู!!

(ชมคลิปวิดีโอ ช่องทางทำกิน ได้ที่ www.dailynews.co.th)
ทีมงานช่องทางทำกิน รายงาน
วรัญญู เหมือนเดช - วรพรรณ เลอสิทธิศักดิ์ ภาพ

Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/195681


แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


ไก่หมุน-ปลาเผา ขายคู่ รายได้เพิ่ม เงินไม่สะดุด

อาหารย่างที่ใช้วิธี “ย่างเตาถ่าน” นั้นปัจจุบันกลับมาได้รับความนิยม เพราะนอกจากจะเป็นวิธีที่คลาสสิกแล้ว ยังได้รสชาติที่ได้อร่อยแบบเข้าถึงเนื้ออีกด้วย ซึ่ง “ไก่หมุน–ปลาเผา” ก็เข้าข่าย และวันนี้ “ช่องทางทำกิน” มีสูตรของ “คุณนุ้ย-ทองเริ่ม จันทร์มี” และ “สมจิตร จันทร์มี” ซึ่งยึดอาชีพนี้มา 7 ปี มานำเสนอ… 

kaimun ‘ไก่หมุน ปลาเผา’ ขายคู่ อาชีพทำเงินไม่สะดุด

คุณนุ้ยเล่าว่า เคยเป็นเซลส์ขายเสื้อผ้าเด็กมาก่อน เมื่อเวลาผ่านไปคิดว่าถ้าขายของเองน่าจะได้กำไรดีกว่า จึงได้หันมาขาย “ไก่หมุน” ส่วนสูตรนั้นได้มาจากคนรู้จักแถวบ้าน เพราะบ้านตนเองถูกไฟไหม้ เขาเห็นก็เลยให้สูตรมา เพื่อที่จะใช้ทำกินฟื้นตัว ก็นำมาทดลองทำ พลิกแพลงจนกลายเป็นสูตรเฉพาะของตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้
ในตอนเริ่มแรกที่ทำธุรกิจนี้ใหม่ ๆ นั้น จะขายไก่ได้ประมาณวันละ 150 ตัว แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้มีข่าวไข้หวัดนกระบาด ทำให้ความนิยมลดลง แต่ก็ยังพออยู่ได้ โดยปัจจุบันขายได้วันละ 40-50 ตัว และได้เพิ่มเติมเมนู “ปลาเผา” โดยใช้ปลานิลเป็นปลาหลัก และมีปลาทับทิม ปลาซาบะ เสริมให้ดูหลากหลายด้วย

นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมกลยุทธ์เรียกลูกค้าแบบถึงอกถึงใจ ด้วย “เดลิเวอรี่ บริการส่งอาหารถึงบ้าน” โดยคิดค่าบริการเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเท่านั้น !!

ขั้นตอนการทำไก่หมุน คุณนุ้ยบอกว่าไม่มีอะไรยุ่งยาก เริ่มต้นที่การใช้ “ไก่สด” ที่ทำสำเร็จแล้ว โดยใช้ขนาดน้ำหนักตัว 1.1-1.2 กก. เมื่อทำเป็นไก่หมุนเรียบร้อย แล้วน้ำหนักจะเหลือประมาณ 1 กก. แต่ปัจจุบันใช้ไก่จากฟาร์มเลี้ยงระบบปิด ทำให้เลือกไก่ไม่ได้มาก ซึ่งเมื่อก่อนจะใช้ไก่ที่ชาวบ้านเลี้ยงกัน สามารถเลือกขนาดได้ง่ายกว่า

เมื่อได้ไก่มาแล้วจะนำมาตัดตั้งแต่ส่วนคอและข้อหัวเข่าไก่ออกก่อน ตัดเสร็จเรียบร้อยก็จะทำความสะอาดด้วยน้ำ โดยจะเน้นทำความสะอาดที่ “ปอด” กับ “ก้นไก่” ให้มากกว่าจุดอื่น เพราะทั้ง 2 ส่วนนี้จะมีเศษมัน เศษเมือกอยู่มาก ขั้นตอนการล้างทำความสะอาดนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที /ตัว แล้วพักให้สะเด็ดน้ำอีกประมาณ 10 นาที

เพื่อไม่ให้เสียเวลา ระหว่างที่รอไก่สะเด็ดน้ำ ก็จะเตรียมส่วนผสมสำหรับ “หมักไก่” โดยจากสูตรต่อไปจะใช้หมักไก่ได้ 100 กก. ใช้ตะไคร้ 2 มัดใหญ่ ตัดใบออก, ใบมะกรูด 2 กำใหญ่, กระเทียมสด 1 กก., กระเทียมดองแท้, พริกไทยดำ (เม็ด) เมล็ดผักชี อย่างละ 500 กรัม, ขมิ้นชัน 1 กก. และเกลือป่นอีก 25 ถุง นำส่วนผสมทั้งหมดรวมกันใส่เครื่องปั่นให้ละเอียด แล้วนำไปใช้หมักไก่ โดยหมักในถุงพลาสติกใบใหญ่ ก่อนที่จะปิดถุงแช่น้ำแข็ง

การหมักให้ราด “น้ำมันหอย” ลงไปด้วยพอประมาณ เพื่อให้ไก่ได้รสชาติที่หอมยิ่งขึ้น

หมักน้ำแข็งทิ้งไว้ 1 คืน เมื่อถึงเวลาขายก็จะเสียบเหล็กยาวย่าง และใช้ไม้ลูกชิ้นเสียบไก่ให้แน่น ไม่ให้หลุดจากเหล็ก ซึ่งขั้นตอนการเสียบเหล็กย่างนี่คุณนุ้ย เรียกว่า “นั่งเก้าอี้” เมื่อเรียงไก่จนเต็มเหล็กยาวแล้วก็จะนำไก่ไปหมุนย่างกับเตาถ่านที่ไฟร้อน กรุ่น ๆ อยู่ด้านล่าง โดยอุปกรณ์สำหรับย่างนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ต้องสั่งทำพิเศษ ใช้มอเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อน และใช้ไฟฟ้าเป็นแหล่งให้พลังงาน ซึ่งอุปกรณ์นี้ราคาสั่งทำประมาณ 20,000 บาท

เคล็ดลับที่จะทำให้ไก่หมุนออกมาอร่อยนั้น จะต้อง ใช้ไก่ที่สดใหม่ บวกกับการหมุนไก่ให้ได้ที่ ให้ไก่ออกสีน้ำตาล อ่อน ๆ ดูแล้วชวนกิน ซึ่งจะใช้เวลาหมุนย่างประมาณ 40-50 นาที ส่วนน้ำจิ้มก็ต้องทำให้รสชาติออกมาหวาน กลมกล่อม สามารถเข้ากับเนื้อไก่หมุนได้อย่างลงตัว

สูตรน้ำจิ้มรสเด็ด จะมีส่วนผสมของ มะขามเปียก, กระเทียมดอง, กระเทียมกลีบ, พริกขี้หนูอย่างละ 1 กก., น้ำตาลทรายแดง 2 กก., น้ำตาลปี๊บ 2 กก. และน้ำสะอาดอีก 5 ลิตร นำมาปั่นรวมกันให้ละเอียด แล้วอาจจะเติมหรือไม่เติมผงชูรสและผงปรุงรสก็ได้ จากนั้นนำส่วนผสมที่ปั่นเรียบร้อยแล้วไปเคี่ยวกับไฟอ่อน ๆ สักพัก ก็ใช้ได้

นอกจากไก่หมุนแล้ว อีกเมนูหนึ่งของร้านคุณนุ้ยที่เพิ่มเติมขึ้นมาสู้กับไข้หวัดนกก็คือ “ปลานิลเผา-ปลาทับทิมเผาคลุกเกลือ” ขั้นตอนการทำคุณนุ้ยบอกว่า เหมือนกับการทำปลาทั่ว ๆ ไป
นำปลาตัวขนาดประมาณ 700 กรัม มาผ่าท้องเอาไส้ออก และล้างด้วยการใช้แปรงสีฟันขูดเอาเมือกดำ ๆ ออกให้หมด แล้วก็เอาใบมะกรูด 2-3 ใบยัดเข้าไปในท้องปลา นำไปคลุกเกลือ 1 รอบ จากนั้นก็เอาลงเตาเผาได้

ส่วนปลาอีกอย่างคือ “ปลาซาบะย่าง” ช่วงนี้ใช้ “ปลาโอวบะ” แทน การทำก็เอาเหงือกออก และบั้งตามตัวปลา ใช้ซีอิ๊วหวานราดให้ทั่ว ห่อด้วยกระดาษ ฟอยล์ เท่านี้ก็เอาลงเตาย่างได้แล้วเช่นกัน ซึ่งปลาเผานี้ใช้เวลาเผาหรือย่างไม่เกิน 20 นาทีก็ใช้ได้แล้ว โดยจุดเน้นคือต้องหมั่นคอยดูถ่านให้ร้อนสม่ำเสมอ ไม่ร้อนมาก-น้อยเกินไป 

pla ‘ไก่หมุน ปลาเผา’ ขายคู่ อาชีพทำเงินไม่สะดุด

สำหรับน้ำจิ้มปลาเผานั้นมี 2 แบบ คือ “น้ำจิ้มซีฟู้ด” ก็ปั่นกระเทียมกลีบ 1 กก. ต่อพริกขี้หนู 1 กก. ให้ละเอียด จากนั้นผสมด้วยน้ำมะนาว 1 ขวด, น้ำปลา 2 ขวด, น้ำเปล่า 1 ขวด, น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม, ผงชูรสเล็กน้อย คนให้เข้ากัน เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย และ “น้ำจิ้มแจ่ว” ใช้พริกขี้หนูคั่ว และกระเทียมคั่วอย่างละ 1 กก. ปั่นให้ละเอียด ผสมด้วยน้ำตาลปี๊บ 500 กรัม, น้ำมะนาว 1 ขวด, น้ำปลา 2 ขวด, น้ำเปล่า 2 ขวด และปรุงรสด้วยชูรสนิดหน่อย

“การที่จะทำน้ำจิ้มทุกอย่างให้อร่อย มีรสหวาน หอม ให้เพิ่มรากผักชีสัก 200-300 กรัม ลงไปปั่นด้วย ก็จะได้น้ำจิ้มอร่อย ๆ ตามที่ต้องการ” คุณนุ้ยเผยเคล็ดลับอีกส่วน
ไก่หมุนร้านนี้จะขายตัวละ 100-110 บาท ส่วนปลาเผาขายตัวละ 50-80 บาท

ร้านขาย “ไก่หมุน-ปลาเผา” ของคุณนุ้ย อยู่ที่ปากซอยปลูกจิต ถนนพระรามที่ 4 ขายตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. และสามารถสั่งไปใช้ในงานเลี้ยงต่าง ๆ พร้อมเมนูส้มตำ ลาบ น้ำตก ได้ด้วย โดยติดต่อที่ โทร. 08-9881-1671

นี่คืออีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่แม้บางครั้งอาจจะมีอุปสรรคมากระทบบ้าง แต่ถ้ารู้จักพลิกแพลง การทำกิน อาหารย่างรูปแบบนี้ก็สามารถทำเงินต่อไปได้แบบไม่มีสะดุด !!

เอื้อเฟื้อข่าวการประกอบอาชีพโดย

dailynews ‘ไก่หมุน ปลาเผา’ ขายคู่ อาชีพทำเงินไม่สะดุด

Credit by..

Read More...


ลิ้มรสเมนูใหม่ "พิซซ่าญี่ปุ่น" หอมนุ่มอร่อย "ออส่วน" จานเด็ด

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผมได้ลองทำอาหารเมนูหนึ่งซึ่งค่อนข้างแปลกแต่น่ารับประ ทาน และผมคิดว่าเพื่อน ๆ ก็คงจะชอบเหมือนกัน เมนูที่ว่านั้นคือ พิซซ่าญี่ปุ่น (โอโคโนมิยากิ) โดยผมจะลวกเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซึ่งเป็นวัตถุดิบที่แทบทุกบ้านต้องมีติด ครัวไว้ ใส่ลงไปด้วย ทำง่าย ๆ ครับ ผมเลยอยากให้คุณผู้อ่านลองทำกันดู เริ่มด้วยวิธีการปรุงแป้งพิซซ่าญี่ปุ่น ให้เอาชามผสมมาใส่แป้งสาลี แป้งมัน และใส่เกลือลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำเย็นลงไป เหตุที่ต้องใช้น้ำเย็นเพราะว่าถ้าใช้น้ำธรรมดาจะทำให้โมเลกุลของแป้งยืด พิซซ่าจะเละ ไม่กรอบ ไม่ฟู ถ้าอยากให้พิซซ่าหนาก็ทำให้แป้งข้นขึ้น แต่ถ้าอยากได้พิซซ่าบางก็ใส่น้ำให้แป้งใส เมื่อคนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วตั้งพักไว้



จากนั้นเอาเบคอนหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ มาผัดในกระทะจนเกือบกรอบ เพื่อจะเอาน้ำมันจากเบคอนซึ่งมีความหอมมาใช้ แต่ถ้าใครไม่มีเบคอนให้ใช้น้ำมันธรรมดาครับ แล้วเอาเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ลวกไว้แล้วลงไปผัดให้เข้ากันเสร็จแล้วปิด ไฟ พักไว้

ต่อจากนั้น ให้นำกระทะก้นแบนอีกใบมาตั้งไฟ ใส่เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ผัดเตรียมไว้ลงไปที่กระทะ เกลี่ยเส้นให้ทั่ว ลดไฟ อย่าใช้ไฟแรง จากนั้นเทน้ำแป้งพิซซ่าญี่ปุ่นที่ผสมไว้ลงไปบนเส้นบะหมี่เกลี่ยน้ำแป้งให้ ทั่ว รอจนสุก ระวังอย่าให้ไฟแรงเกินไปเพราะจะทำให้ก้นไหม้

พอแป้งเริ่มแห้ง ให้ใส่กะหล่ำปลีซอยลงไป ตามด้วยโรยกุ้งและปลาหมึกลวกไปด้านบนแล้วตอกไข่ไก่ใส่ลงไป พอข้างล่างสุกแต่หน้าไข่ข้างบนยังคงเป็นน้ำอยู่ให้พลิกกลับอีกด้านหนึ่งขึ้น รอจนสุกก็จะได้หน้าพิซซ่าญี่ปุ่นที่สวยงามน่ากิน

จากนั้นปิดเตา ยกพิซซ่าญี่ปุ่นใส่จานที่เตรียมไว้ ราดด้วยมายองเนสโดยใส่ขวดแล้วบีบให้เป็นเส้น ตามด้วยซอสมะเขือเทศหรือซอสโอโคโนมิยากิสำเร็จรูป ซึ่งเป็นซอสที่ใช้กินกับพิซซ่าญี่ปุ่นโดยหาซื้อได้จากซูเปอร์มาร์เกตทั่วไป โรยต้นหอมซอย แต่งหน้าด้วยกุ้งและปลาหมึกลวก แล้วโรยปลาโอแห้ง เสิร์ฟร้อน ๆ น่ากินมาก

เพียงแค่นี้ก็จะได้พิซซ่าญี่ปุ่นมาชิมกันแล้ว วิธีทำและเครื่องปรุงไม่ยุ่งยาก ลองทำร่วมกันในครอบครัวดูนะครับ ผมหวังว่าจะมีความสุขกับเมนูนี้.

..........................................................................................

เครื่องปรุงแป้งพิซซ่าญี่ปุ่น

- แป้งสาลี    100    กรัม
- แป้งมัน    1    ช้อนโต๊ะ
- เกลือ    1/4    ช้อนชา      
- น้ำเย็น    140    มิลลิลิตร

เครื่องปรุงพิซซ่าญี่ปุ่น

- น้ำมันถั่วเหลือง    2    ช้อนโต๊ะ      
- เบคอน    100    กรัม
- กะหล่ำปลีซอย    2    ถ้วยตวง
- แป้งพิซซ่าญี่ปุ่นที่ผสมแล้ว    50    กรัม
- เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลวกแล้ว    60    กรัม
- กุ้งแกะเปลือกผ่าหลังลวกแล้ว    100    กรัม
- ปลาหมึกลวกหั่นแว่น    50    กรัม
- ไข่ไก่    2    ฟอง
- ซอสโอโคโนมิยากิสำเร็จรูป        ตามต้องการ
- มายองเนส        ตามต้องการ

..........................................................................................

ร้านอาหารชวนชิม

วันนี้ผมจะพาไปชิมร้านอาหารจีนแถวสามย่านร้านหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านที่คุณพ่อชอบและเคยไปชิมไว้นานมากแล้วแต่ยังคงความอร่อยเหมือน เดิม ชื่อว่า นครโภชนา ไฮ้ ครั้งนี้ผมไปกัน  4  คน แต่สั่งอาหารมาหลายอย่าง จานแรกเป็น ออส่วน เขาทำได้อย่างที่ผมต้องการเลยครับ ต้องไม่กรอบ ต้องหยุ่น ๆ เหนียว ๆ ใช้หอยนางรมสด ทำได้อร่อยครับ

ต่อมาเป็น ผัดปวยเล้ง ซึ่งเป็นผักตามฤดู  เขาผัดได้ดี รสชาติอร่อยใช้ได้ครับ ส่วนอาหารดังของที่ร้านคือ เป็ดหนังกรอบ ลักษณะเป็นเป็ดแห้งแต่ไม่เหนียว หนังกรอบ อร่อยสมชื่อครับ จากนั้นเป็น กุ้งทอดซอสมันกุ้ง เขาเอากุ้งไปทอดได้กรอบ ไม่เหนียว ส่วนซอสที่ใช้ทำมาจากมันกุ้ง รสชาติเข้มข้นถึงใจเข้ากันมาก กินกับข้าวก็อร่อยหรือจะกินเล่นยิ่งอร่อย

ยังมี ข้าวผัดกุ้ง ซึ่งเขาจะผัดแห้ง ๆ ไม่แฉะ ข้าวยังเป็นเมล็ด แถมผัดได้กลิ่นกระทะแบบจีนโบราณด้วยครับ อร่อยมาก แล้วก็ต่อด้วย กั้งทอดกระเทียม ทอดกั้งได้สุกพอดี ปรุงรสได้ดี หอมกลิ่นกระเทียม

ต่อมาเป็นจานโปรดของผม เส้นหมี่ผัดผักกระเฉด เป็นเส้นหมี่ขาวและนุ่ม หากินยาก เขาผัดผักกระเฉดได้กรอบ ไม่เหนียว ใส่กุ้งด้วย รสชาติกลมกล่อม ผัดได้ลงตัวดีมาก ถ้าใครมีโอกาสแวะไป ลองเข้าไปชิมอาหารจีนแบบโบราณของเขาดูนะครับ รับรองอร่อยแน่นอน.

หมึกแดง
www.mcdangguide.com

credit by   http://www.dailynews.co.th/article/224/193624

Read More...


เค้กหน้านิ่มๆ รสชาติสไตล์ไทยขายลื่น

“ขายเบเกอรี่” เป็นอีกอาชีพใฝ่ฝันของใครหลายคน บ้างก็ฝันอยากเปิดร้านเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง บ้างฝันอยากทำอยู่กับบ้านแล้วส่งไปขายตามที่ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งรอการสั่งจากเพื่อนฝูงและคนรู้จักแล้วจึงลงมือทำ ซึ่งเส้นทางไต่ไปถึงฝันนั้นอาจมีอุปสรรคยากหรือง่ายแตกต่างกันไป บางคนไปถึงแล้ว แต่บางคนก็ยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ อย่างไรก็ดี วันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” มีตัวอย่างผู้ประสบผลสำเร็จกับธุรกิจเบเกอรี่มาแนะนำ กับสูตรการทำ “เค้กหน้านิ่ม” ...


 
พัชรธร เชี่ยวหัตถ์พงษ์ หรือ ป้อ เจ้าของธุรกิจเบเกอรี่ เล่าให้ฟังที่มาที่ไปของธุรกิจว่า เธอเรียนด้านบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ จบแล้วก็ช่วยธุรกิจโรงแรมของครอบครัว ด้วยความที่เป็นคนชอบกินกาแฟ จึงเปิดร้านกาแฟสดควบคู่ไปด้วย พอดีมีคนรู้จักที่เก่งในการทำเค้กญี่ปุ่นจะสอนให้ทำ เพราะเห็นว่าเธอมีร้านกาแฟก็ควรจะมีเค้กขายในร้านด้วย จากนั้นเธอก็ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ต และตำราขนมและเบเกอรี่ แล้วนำความรู้ที่ได้มาปรับเพื่อให้เข้ากับตลาดและความชอบของคนไทย ธุรกิจเบเกอรี่ของเธอก็เริ่มจากตรงนี้  
      
“สังเกตเห็นลูกค้าที่มาสั่งเครื่องดื่มที่ชอบแล้ว เขาก็จะมองหาขนมด้วย จึงตัดสินใจทำเบเกอรี่ด้วย เริ่มจากหาซื้ออุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในการทำเบเกอรี่ ควบคู่ไปกับการฝึกทำ ทดลองทำ ปรับสูตรขนมเค้กกว่าจะอยู่ตัวก็ใช้เวลานานหลายเดือน จนมั่นใจ จากนั้นก็ทำฝากให้คนโน้นคนนี้ชิม ช่วยคอมเมนต์ทั้งรสชาติและหน้าตา ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย หน้าตาดี ไม่เหมือนใคร ก็เริ่มประเดิมทำขายที่ร้านกาแฟของตัวเอง เค้กขายดีมาก เพราะใช้วัตถุดิบอย่างดี ขายราคาไม่แพง ลูกค้าสั่งเข้ามามากจนทำแทบไม่ทัน ก็ขยายธุรกิจมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน”      
ป้อแนะนำคนที่จะเข้าสู้เส้นทางทำเบเกอรี่เป็นอาชีพว่า สำคัญคือต้องทำให้อร่อยและเหมือนกันทุกครั้ง ฝีมือต้องสม่ำเสมอ และอาชีพนี้ต้องมีเงินทุนเพียงพอ เพราะอุปกรณ์มีราคาค่อนข้างสูง ที่สำคัญคือต้องมีความจริงใจกับลูกค้า

อุปกรณ์ในการทำ หลัก ๆ ก็มีอาทิ... เตาอบขนม, เครื่องนวดแป้ง, ตะกร้อมือ, ตาชั่ง, ตะแกรงร่อน, ถาดอบขนมขนาดกว้าง, พิมพ์ขนม, ตะแกรง, พายพลาสติก, หม้อสเตนเลสอย่างหนา, ชุดแก๊ส, กะละมัง, ทัพพี, มีด, กระดาษไขรองเค้ก, กระดาษห่อขนม, บล็อกขนม, เครื่องตัดขนม ฯลฯ      

ส่วนผสมในการทำ “เค้กหน้านิ่ม” แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนผสมของตัวเนื้อเค้ก และส่วนผสมของหน้าเค้ก

สำหรับส่วนผสมของตัวเนื้อเค้ก วัตถุดิบก็มี... แป้งเค้ก, นมสดรสจืด, วานิลลาผง, ไข่ไก่, ครีมออฟทาร์ทาร์, น้ำตาลทราย, น้ำมันพืช, ผงฟู, เกลือป่น, สีผสมอาหาร, สารแต่งกลิ่นและรสชาติตามชอบ    เช่น ชาเขียว ชาไทย ช็อกโกแลต น้ำแดง กาแฟ ส้ม ไมโล นมสด

ขั้นตอนการทำตัวเนื้อเค้ก เริ่มจากนำแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ ร่อนรวมกันในอ่างผสม ตั้งพักไว้

แยกไข่ขาว-ไข่แดง นำไข่แดง นมสด น้ำมันพืช ใส่ภาชนะ ใช้ตะกร้อมือตีส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่รสชาติตามชอบ (ถ้าเป็นผงให้ชงกับน้ำร้อนแบบเข้มข้น) เสร็จแล้วก็ใส่สีแต่งกลิ่นเล็กน้อย คนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน ตั้งพักไว้สักครู่

หันมาตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์ ตีให้เป็นฟองหยาบ ค่อย ๆ เติมน้ำตาลทรายลงไป ตีด้วยความเร็วสูง จนฟองตั้งยอด แล้วปรับความเร็วต่ำเพื่อตัดฟองอากาศ

ตักส่วนผสมไข่ขาว 1 ส่วน ลงไปผสมในส่วนผสมของแป้ง ใช้ตะกร้อมือคนเบาๆ ให้ส่วนผสมแป้งเบาตัวขึ้น แล้วค่อยเทส่วนผสมแป้งกลับลงไปในอ่างของส่วนผสมไข่ขาว ค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากัน

จากนั้นเทส่วนผสมลงใส่พิมพ์ที่รองด้วยกระดาษไข (ไม่ต้องทาเนย) นำเข้าเตาอบ 180-200 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง อบนานประมาณ 20 นาที พอขนมสุกนำออกมาคว่ำบนตะแกรง แล้วลอกกระดาษไขออก พักไว้จนเย็น วางด้านที่จะโชว์คว่ำบนกระดาษไข

ระหว่างรอเนื้อเค้กเย็น หันมาทำส่วนหน้าเค้ก ส่วนผสมหน้าเค้กก็มี... เนยเค็มละลาย, นมสดรสจืด (แบ่งเป็น 2 ส่วน มากกับน้อย), น้ำตาลทราย, ผงวุ้น, แป้งข้าวโพด และรสชาติตามชอบ (ถ้าเป็นผงชงกับน้ำร้อนแบบเข้มข้น)

ขั้นตอนการทำหน้าของเค้กหน้านิ่ม นำนมสดรสจืด (ที่แบ่งเป็น 2 ส่วน มากกับน้อย) โดยใช้นมสดส่วนน้อย มาผสมกับแป้งข้าวโพด คนให้แป้งละลาย เตรียมไว้ จากนั้นนำนมสดส่วนที่เหลือที่เป็นส่วนมาก ผงวุ้น และรสชาติที่ชอบ (ปรับลดตามชอบ) ใส่ลงในหม้อ ตั้งไฟ คนไปเรื่อย ๆ จนเดือด นำส่วนผสมนมกับแป้งข้าวโพดใส่ตามลงไป คนต่อไปจนส่วนผสมเดือดปุด ๆ นำเนยละลายใส่ตามลงไป จังหวะนี้ต้องรีบคนเร็ว ๆ เพราะส่วนผสมจะมีความหนืด ปิดไฟยกลงจากเตา      

ขั้นตอนสุดท้าย บล็อกเนื้อเค้ก เทส่วนผสมของหน้าเค้กราดลงไปบนตัวเนื้อเค้กให้มีความหนาประมาณ 1 ซม. นำเข้าตู้เย็นแช่ให้ขนมเซตตัว เมื่อเซตตัวดีแล้วก็นำบล็อกเนื้อเค้กออก ใช้เครื่องตัดขนมเป็นชิ้น ๆ ตามที่ต้องการ
   
สำหรับราคาขาย “เค้กหน้านิ่ม” เจ้านี้ขายส่งชิ้นละ 12 บาท (สั่ง 500 ชิ้น ส่งถึงที่)

“เค้กหน้านิ่ม” รสชาติ-สไตล์ไทยเจ้านี้ นอกจากขายทั่วไปแล้ว ยังรับสั่งทำเป็นอาหารว่างในงานสัมมนา งานสังสรรค์ต่าง ๆ ซึ่งหากใครสนใจติดต่อคุณป้อ ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-6905-8886 และ 08-6893-5564 ทั้งนี้ นี่ก็เป็นอีก “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ!!

เชาวลี ชุมขำ เรื่อง / วรัญญู เหมือนเดช ภาพ

Read More...


สมุนไพรทอดกรอบ กินเล่นๆ ทำเงินจริงๆ

ในงานตลาดนัดภูมิปัญญาสร้างอาชีพ ครั้งที่ 3 ที่จัดโดยสำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน และผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการฝึกอาชีพแก่ผู้สูงอายุกว่า 50 อาชีพ ซึ่งทีม “ช่องทางทำกิน” ก็แวะไปดูงานนี้ และก็ได้ข้อมูลการทำ “สมุนไพรทอดกรอบ” มาให้ลองพิจารณากัน...


  
สุนีย์ เปถะรัตน์ ประธานกลุ่มแม่บ้านกำนันแม้น 3 ซึ่งสอนทำ “สมุนไพรทอดกรอบ” ในงานตลาดนัดฯ เล่าว่า ประกอบอาชีพค้าขายมาก่อน และได้รวมกลุ่มทำพริกต่าง ๆ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ต่อมาทางสำนักงานเขตต้องการให้ทำผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเพื่อประกวด 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ และส่งวิทยากรมาสอนให้ ซึ่งสมุนไพรทอดกรอบนี้เป็นการประยุกต์จากสูตรน้ำพริกของวิทยากรที่มาสอนให้ ทางกลุ่มนั่นเอง

อุปกรณ์ที่ใช้ทำ “สมุนไพรทอดกรอบ” หลัก ๆ ก็มี เตาแก๊ส, กระทะ, มีด-เขียง, ถาดอะลูมิเนียม  และอุปกรณ์เครื่องครัวเบ็ดเตล็ดทั่วไป

สำหรับส่วนประกอบในการทำ “สมุนไพรทอดกรอบ” คุณสุนีย์บอกว่า ตามสูตรก็ประกอบด้วย หอมแดงซอย 200 กรัม, กระเทียม (แกะเปลือก) ซอย 100 กรัม, ตะไคร้ซอย 100 กรัม, ใบมะกรูดฉีก 100 กรัม, พริกขี้หนูแห้ง 100 กรัม, ปลาไส้ตัน 100 กรัม และกุ้งแห้งทอด 100 กรัม

ในการทำนั้น เริ่มแรกก็นำส่วนประกอบทั้งหมดมาทอดน้ำมันให้สุก เหลืองกรอบ โดยแยกทอดทีละอย่าง ทอดโดยใช้ไฟแรงปานกลาง อย่าใช้ไฟแรงมาก เพราะของที่ทอดจะไหม้ง่าย เมื่อทอดเสร็จแล้วก็พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน แต่ในส่วนของพริกขี้หนูแห้งเมื่อทอดเสร็จแล้วให้หักหรือหั่นเป็นท่อน ๆ เตรียมไว้       

ขั้นตอนต่อมา เตรียม “น้ำปรุงรส” ตามสูตรก็จะมีส่วนผสมของน้ำมะขามเปียกแบบข้น ๆ 2-3 กก., น้ำตาลปี๊บ 1 กก.,น้ำตาลทราย 1 กก. และเกลือ 2 ช้อนชา

วิธีทำ “น้ำปรุงรส” ก็ตั้งกระทะ ใช้ไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำมะขามเปียก, น้ำตาลปี๊บ, น้ำตาลทราย ลงไปเคี่ยวให้เข้ากัน จากนั้นจึงใส่เกลือลงไปเคี่ยวรวมด้วย เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมจะเข้ากันดี สังเกตจากน้ำปรุงรสจะข้น และเหนียว แต่ระวังอย่าให้เหนียวมากจนเป็นตังเม ซึ่งจะใช้ไม่ได้    

ชิมรสน้ำปรุงรสให้มี 3 รส คือ เปรี้ยว หวาน เค็ม โดยที่จะต้องมี “รสเปรี้ยวนำ” ไว้ก่อน จึงจะใช้ได้
 
คุณสุนีย์แนะนำด้วยว่า ควรเตรียม “น้ำปรุงรส” ไว้ข้ามคืนจะดีกว่า เวลาที่ทำจริงจะได้ไม่ลำบาก ไม่กระชั้นเกินไปในการที่จะใช้คลุกกับสมุนไพรทอดการคลุกสมุนไพรทอด ก็ตั้งกระทะ ใช้ไฟร้อนปานกลาง ตักน้ำปรุงรสที่ทำเตรียมไว้พอประมาณ ใส่ลงไปอุ่นให้ร้อน จากนั้นจึงเทของทอดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปทีละอย่าง เริ่มจากกุ้งแห้ง ปลาไส้ตัน กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนูแห้ง จนครบ คลุกของทอดกับน้ำปรุงรสให้เข้ากันด้วยตะหลิวคู่ แล้วเทน้ำตาลทรายพอประมาณลงไปคลุกด้วยเป็นขั้นตอนสุดท้าย

“วิธีคลุกต้องคลุกแบบมีจังหวะ ต้องใช้ความชำนาญพอสมควร ต้องฝึกฝนให้มากจึงจะคลุกได้ชำนาญ ซึ่งคล้าย ๆ กับการคลุกหมี่กรอบนั่นเอง” คุณสุนีย์บอก

เมื่อคลุกได้ที่แล้ว ก็พร้อมจะทำการแบ่งขาย ซึ่งถ้าแบ่งเป็นถุง ถุงละ 100 กรัม ขายได้ในราคาขีดละ 30 บาท หรือ กก.ละ 300 บาท โดยมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 70% ของราคาขาย

ใครสนใจ “สมุนไพรทอดกรอบ” อยากสอบถามเพิ่มเติม ติดต่อ คุณสุนีย์ เปถะรัตน์ ประธานกลุ่มแม่บ้านกำนันแม้น 3 ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-5933-1683 ซึ่งสำหรับ “ช่องทางทำกิน” จากอาหารกินเล่นนั้น กับอาหารแนวสมุนไพรแบบนี้ก็น่าสนใจ.

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล 

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.