สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

มันเทศต้มน้ำขิง

http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-02.JPG
สมัยยังละอ่อน ตอนยังเรียนอยู่ ป.ตรี ทุกช่วงหน้าหนาว ต.ค.-พ.ย. ของทุกปี พิมกับเพื่อนรุ่นพี่มักจะชอบรวมแก๊งค์ไปเที่ยวภูกระดึงกันคราวละ  7-8 วันค่ะ แล้วแทบทุกครั้งที่ไปภูกระดึงในหน้าหนาว พวกเราจะต้องพกมันเทศกับขิงไปต้มกินบนภูอยู่เสมอๆ เลยค่ะ
แล้วพอวันก่อนพิมไปเดินจ่ายกับข้าวที่ตลาดบางกะปิ  เห็นแม่ค้าเจ้าที่พิมซื้อกระเทียมไทย เค้ามีมันเทศหัวสวย ๆ มาขาย  พิมเลยอดที่จะซื้อ มาทำขนมหวาน  "มันเทศต้มน้ำขิง" ระลึกถึงความหลัง ครั้งยังละอ่อน .... ไม่ได้ค่ะ ^^"
ป.ล. พูดถึงภูกระดึง ... พิมกับรุ่นพี่ผู้ชาย เคยพกขาหมูเผา ขึ้นไปทำต้มยำกินกันบนภูในช่วงเดือน พ.ค. ด้วยนะคะ (ประมาณปี 38) ^^"  ยังจำรสชาติและความเหนียวสุด ๆ ของมันได้ อยู่เลยค่ะ  ... แบบว่าเหนียวมากๆๆๆๆๆๆๆ เนื่องจากว่าพอต้มเสร็จ กะว่าสุก ก็เอามาปรุงรสกินเลย ไม่มีการเคี่ยวให้เปื่อย เพราะว่าเปลืองแก๊สค่ะ -*-
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-01.JPG
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
1. มันเทศ 900 กรัม   (ปอกเปลือกแล้วเหลือประมาณ 800 กรัม)
2. ขิงแก่ 90 กรัม
3. น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
4. น้ำสะอาด 5 + 1/3 ถ้วย
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-06.JPG
:: เตรียมของ และลงมือทำ ::
เริ่มแรก .. เราก็มาจัดการ "มันเทศ" กันก่อนนะคะ
เอามันเทศ (ที่หัวดี ๆ ไม่เน่า ไม่หนอน ไม่ค่อยมีรู)  มาปอกเปลือกให้หมด  แล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามชอบ (กะว่าชิ้นละคำ) ... โดยจะหั่นสี่เหลี่ยม เหลาเป็นกลม ๆ  หรือจะหั่นตามพิม แบบในรูปก็ได้ค่ะ
หั่นเสร็จ ก็เอาไปล้างน้ำสัก 2 รอบ เพื่อให้ยางออกให้หมด  ... แล้วก็ใส่ตะกร้าไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-07.jpg
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-08.jpg
ต่อมา .. .ก็มาดูที่ "ขิง" .. ขิงที่ใช้ทำมันเทศต้มน้ำขิงเนี่ย ให้ใช้ขิงแก่ค่ะ   (ขิงแก่ จะมีเสี้ยนที่เป็นเส้น ๆ ค่อนข้างเยอะ)
เอาขิงมาปอกเปลือกค่ะ  ตัดส่วนที่ไม่ใช้ทิ้งไป  แล้วก็ฝานเป็นแว่นแบบนี้ (ไม่ต้องให้บางมาก)
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-09.JPG
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-10.jpg
จากนั้นก็ล้างน้ำสักครั้งนึง แล้วเอาไปใส่รวมไว้กับมันเทศค่ะ
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-11.JPG
หันมาต้มน้ำเชื่อมกัน ... โดยใส่น้ำประมาณ 5 ถ้วยกว่า ๆ ลงในหม้อสะอาด  เติมน้ำตาลลงไปราว ๆ 2 ถ้วย  (สำหรับคนชอบหวานน้อย ให้ใส่สัก 1 1/2 ถ้วย ก็พอค่ะ)  ... แล้วก็นำไปตั้งเตาไฟ
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-12.jpg
คนด้วยทัพพีหรือกระบวยเป็นระยะๆ ... จนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-13.JPG
ก็เทมันเทศ + ขิง ทั้งหมด ... ใส่ลงไป
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-14.jpg
แล้วก็ปิดฝา .... เป็นระยะเวลาประมาณสัก 15-25 นาที   (ขึ้นกับว่าใช้ไฟแรงแค่ไหน และต้องการให้มันเทศ สุกมากน้อยขนาดไหน)
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-15.JPG
แล้วพอผ่านไปสัก 18-20 นาที ... เปิดฝาหม้อขึ้นมา มันเทศในหม้อก็จะสุกประมาณนี้  ......  ซึ่่งสำหรับพิมชอบให้สุกขนาดนี้แหละค่ะ ... รู้สึกว่ามันกำลังดี (ไม่ชอบเละ ๆ และไม่ชอบแข็งๆ)
และพอสุกได้ที่ ... ก็จัดการปิดไฟเตา ....... เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-16.jpg
ตักขึ้นใส่ชาม ... แบ่ง ๆ กันไปคนละชามสองชาม  .... และชามนี้สำหรับเพื่อน ๆ ที่เข้ามาชมเมนูนี้ค่ะ ^__^
http://www.pim.in.th/images/all-thai-dessert/sweet-potato-in-ginger-syrup/sweet-potato-in-ginger-syrup-05.JPG
หากเพื่อนๆ คนไหนสนใจ ก็ลองเอาไปทำดูนะคะ .... ไม่ต้องทำกินตอนหน้าหนาวก็ได้ค่ะ  หน้าร้อน หน้าฝนอย่างนี้ ... ทำกินสักถ้วย สักหม้อ  ก็อร่อยดีเหมือนกันนะคะ  แต่ว่า "มันเทศต้มน้ำขิง" แบบนี้เนี่ย ต้องกินตอนกำลังอุ่น ๆ หน่อย จึงจะอร่อยที่สุดเลยค่ะ

credit  : http://www.pim.in.th/

Read More...


ไข่กระทะทำขาย

ภาพ:EggPan01.jpg

        ไข่กระทะสูตรนี้จะไม่ใช้หมูยอ แต่จะนำชีส เสริมโปรตีน

เครื่องปรุง

1. ไข่ไก่ 2 ฟอง / 1 เสริฟ
2. เนย สำหรับทอดไข่
3. กุนเชียงหั่นแฉลบ 5-6 ชิ้น
4. หมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ และกระเทียมสับ 2 กลีบ รวนให้สุก ปรุงรสด้วยพริกไทยและซอสปรุงรสตามชอบ
5. ชีสหั่นเป็นก้อนเล็กๆ
6. ต้นหอมซอย
7. พริกไทยป่นสำหรับโรยหน้า

ภาพ:EggPan02.jpg
ภาพ:EggPan03.jpg
ภาพ:EggPan04.jpg
ภาพ:EggPan05.jpg

วิธีทำ
ภาพ:EggPan06.jpg

1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ผัดหมูสับกับกระเทียมให้สุก ปรุงรสด้วยพริกไทย และซอสตามชอบ ได้ที่แล้วตักพักไว้

ภาพ:EggPan07.jpg

2. นำกระทะขนาดเล็กตั้งไฟกลาง ละลายเนย 1/2 ช้อนโต๊ะ เมื่อเนยละลาย ตอกไข่ใส่กระทะ และนำชีสก้อนเล็กๆ ใส่ให้ทั่ว กดให้จมเนื้อไข่เล็กน้อย

ภาพ:EggPan08.jpg

3. เรียงกุนเชียงให้ทั่ว โรยด้วยหมูสับ แล้วปิดฝาเพื่อให้ไข่สุกทั่วถึงค่ะ ถ้าชอบไข่ดึ๋งๆก็ไม่ต้องปิด

ภาพ:EggPan09.jpg

4. พอไข่สุกตามต้องการก็โรยหน้าด้วยต้นหอม และพริกไทย เท่านี้ก็พร้อมเสริฟ

ภาพ:EggPan10.jpg

        รับประทานคู่กับขนมปังฝรั่งเศส หรือ จิ้มกับแม็กกี้ แล้วก็ซอสพริก ตัดเลี่ยนกำลังดีเลย ซดกาแฟตามสักหน่อย เมนูนี้ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะไหนจะเนยไหนจะไข่ แถมใส่ชีสเข้าไปอีก คอเรสตอรอลสูงมาก แต่ว่านานๆทานทีก็ดีนะ ลองหากระทะเล็กๆ แบบนี้ แล้วชวนเด็กๆที่บ้านทำกินกันดูซิค่ะ ครอบครัวอบอุ่นๆๆ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

วิธีทำไข่กะทะกับขนมปังฝรั่งเศษ





ส่วนผสมวิธีทำไข่กะทะกับขนมปังฝรั่งเศษ 
Thai Food:How to make Egg pan with French bread.

1.กุนเชียง Sausage.
2.หมูยอ Thai Hot dog.
3.น้ำมัน Oil
4.หมูสับ Minced pork.
5.พริกขี้หนูสับ Thai Chilli chopped.
6.ใบกระเพราสับ Basil leaves chopped.
7.ซอสถั่วเหลือง Soy sauce.
8.เนย Butter.
9.ไข่ไก่ Egg.
10.เชดด้าชีส Chet Dar cheese.
11.ต้นหอมสับ Onion chopped.
12.พริกไทย Pepper.
13.ขนมปัง Bread.


ขั้นแรกนำกุนเชียงและหมูยอมาหั่นเป็นชิ้น แล้วนำไปทอดให้สุก เสร็จแล้วใส่จานพักไว้ ขั้นตอนต่อไปตั้งกะทะใส่น้ำมันรอให้ร้อนใส่หมูสับและพริกขี้หนูสับลงไปผัด ให้สุก แล้วปรุงรสชาติด้วยซอสถั่วเหลืองผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้วใส่ใบกระเพราสับลงไปผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่จานพักไว้ ขั้นตอนต่อไปตั้งกะทะและทาด้วยเนยแข็งรอให้กะทะร้อน ใช้ไฟอ่อน ระหว่างก็ให้ตอกไข่ใส่ถ้วยรอไว้ เมื่อกะทะร้อนแล้วเทไข่ใส่ลงไปแล้วปิดฝา ระหว่างนี้นำเชดด้าชีสมาหั่นเป็นชิ้น ไข่ใกล้สุกก็ตกแต่งด้วยกุนเชียงและหมูยอ โรยด้วยหมูผัดกระเพรา วางเชดด้าชีสลงไป ปิดฝารอให้เชดด้าชีสละลาย และให้ไข่สุก ระหว่างนี้นำขนมปังทาด้วยเนย ใส่หมูยอและกุนเชียงแล้วนำไปอบ ถ้าไม่มีเตาอบก็ให้ใช้กะทะแทน วางขนมปังลงในกะทะแล้วปิดฝา พลิกขนมปังให้ทั่วทั้งชิ้นจะได้ขนมปังที่กรอบนอกนุ่มใน นำต้นหอมสับไปโรยบนไข่กะทะเสร็จแล้วยกลงจากเตาพร้อมเสริฟ

หมายเหตุ การใส่เครื่องปรุงก็แล้วแต่คนชอบนะครับชอบทานรสชาติแบบไหนก็ใส่ไปเลยครับไม่มีกำหนด

Read More...


ต้มกระดูกหมูผักกาดดอง : Pickled lettuce soup with spare rips

วันนี้ แอบมาโพสต์สูตรต้มกระดูกหมูผักกาดดองก่อนจะหลบหน้าหลบตาไป 3-4 วัน หนีไปเที่ยวไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่บ้านมากค่ะ เมืองที่จะไปเที่ยวชื่อเมือง Cochem เป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำ โรแมนติกมากๆ อยากไปมาตั้งนานแล้วแต่ก็ขับรถข้ามไปข้ามมา ไม่ได้แวะซะที ครั้งนี้เห็นว่าอากาศกำลังดีเลยต้องไปเยือนซะหน่อย และก่อนจะหายไปก็ขออัพบล็อกส่งท้ายนิดนึง วันนี้มีอาหารง่ายๆ เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดีมาฝากค่ะ

ต้มกระดูกหมูผักกาดดองเนี่ยสมัยอยู่ เมืองไทยยังทำกับข้าวกินเองไม่เป็น พี่สาวกับเพื่อนสาวจะเป็นคนทำให้กินบ่อยๆ ค่ะ ชอบมากกกกกก กินเล่นคนเดียวได้เป็นหม้อ (เล็กๆ) เลย คุณปู้จายเคยกินที่ร้านอาหารที่เมืองไทยครั้งนึงแล้วเธอไม่ชอบ แต่วันนี้เราอยากกินเลยไม่สนใจล่ะ ไม่ชอบก็จะทำ 55 จริงๆ แล้วก็ไม่รู้หรอกว่าเค้าทำยังไง ต้องใส่อะไรบ้าง ก็ทำไปตามสัญชาิตญาณอันน้อยนิดค่ะ รสชาติที่ออกมาก็ไม่ได้ต่างจากที่พี่และเพื่อนทำให้กินเท่าไรนัก พอทำเสร็จคิดว่าท่านที่บ้านจะไม่กินแต่ที่ไหนได้ เธอบอกว่าอร่อย ซดน้ำเพลินเลย อ๊ะ.. อย่างนี้มีหวังไฟเขียวให้ทำได้บ่อยๆ แน่

ส่วนผสมโดยประมาณ สำหรับ 2-3 คน
  1. กระดูกหมู 300 กรัม
  2. ผักกาดกระป๋อง 200 กรัม
  3. แครอท 1 หัว
  4. กระเทียม 1 กลีบใหญ่
  5. พริกไทยเม็ด 1/2 ชช.
  6. รากผักชี 1 ราก
  7. น้ำมันพืช 1 ชต.
  8. น้ำมันหอย 1/2 ชต.
  9. ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
  10. น้ำปลา 1 ชต.
  11. น้ำตาลทราย 1/4 ชช.
  12. น้ำ 500 มล.
วิธีทำ
ผัก กาดดองสะเด็ดน้ำพักไว้ แครอทปอกเปลือกแล้วหั่นตามชอบ กระเทียมปอกเปลือกนอกแล้วหั่นหยาบๆ รากผักชีซอยหยาบๆ โขลกกระเทียม พริกไทย และรากผักชีรวมกันให้ละเีอียด

ใส่ น้ำมันพืชในหม้อ ตั้งไฟจนร้อน ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดจนส่งกลิ่นหอม ไม่ต้องผัดให้ถึงกับเครื่องมีสีเหลืองนะคะ จากนั้นใส่กระดูกลงไปผัดจนหมูตึงและเริ่มเปลี่ยนสีค่ะ

ใส่ แครอท น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำปลา และน้ำตาลทรายลงไปคนให้เข้ากัน เติมน้ำให้ท่วมแล้วปิดฝาหม้อรอให้เดือด หมั่นช้อนฟองทิ้งด้วยก็ดีค่ะ น้ำซุปจะได้ใสๆ น่ากิน เมื่อน้ำเดือดแล้วก็ใส่ผักกาดดองลงไป คนพอเข้ากัน ชิมรสตามชอบ แล้วปิดฝาหม้อตุ๋นไฟอ่อนสุดประมาณ 45-60 นาที หรือจนกระดูกหมูเปื่อยดีค่ะ เรียบร้อยแล้วค่ะ ง่ายดีเนาะ

 

Read More...


ปอเปี๊ยะทอด : spring rolls

ได้ ฤกษ์หากินกับเมนูเก่าๆ อีกแล้วค่ะ พอดีเพื่อนบ้านของแม่สั่งปอเปี๊ยะทอด 50 ชิ้น เราเลยแปลงร่างเป็นแม่ค้าปอเปี๊ยะทอด แล้วเห็นว่าไหนๆ ก็ลงมือทำแล้ว ถ่ายรูปวิธีทำมาเพิ่มในบล็อกเก่าที่ลงไว้ดีกว่า เพราะตอนนั้นลงแต่รูปสำเร็จและสูตร ไม่ได้ลงรูปวิธีทำไว้ด้วยน่ะค่ะ

ส่วนผสม สำหรับปอเปี๊ยะ 12 ชิ้น
  1. แป้งปอเปี๊ยะ 12 แผ่น
  2. หมูสับ 200 กรัม
  3. กะหล่ำปลี 50 กรัม
  4. เห็ดหอม 50 กรัม
  5. ถั่วงอก 50 กรัม
  6. วุ้นเส้น 50 กรัม
  7. แครอทหัวใหญ่ 1 หัว
  8. รสดีรสหมู 1 ก้อน
  9. น้ำมันหอย 2 ชต.
  10. น้ำมันงา 1 ชช.
  11. เกลือ พริกไทย
  12. น้ำมันหรือเนยขาวสำหรับทอด
วิธีทำ
แผ่น ปอเปี๊ยะถ้าแช่แข็งไว้ก็นำออกมาวางไว้นอกตู้เย็นทิ้งไว้ให้นิ่มก่อนค่ะ ส่วนกะหล่ำปลีก็ล้างแล้วซอยเป็นเส้นบางๆ เห็ดหอมแช่น้ำให้นิ่ม แล้วหั่นบางๆ ถั่วงอกล้างให้สะอาด วุ้นเส้นแช่น้ำให้นิ่ม ตัดเป็นท่อนสั้นๆ แครอทปอกเปลือกและขูดเป็นเส้นฝอยๆ เหมือนขูดมะละกอเพื่อ ทำส้มตำน่ะค่ะ รสดีก้อนก็บดละเอียดไว้ค่ะ
ใส่ ส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นเกลือและพริกไทย ในอ่างผสม นวดให้เข้ากันดี (เมื่อถึงขั้นตอนนี้ หากใครทำน้อยๆ คิดว่าทอดแล้วจะทานเลยก็จัดการนำแผ่นปอเปี๊ยะมาห่อแล้วทอดเลยได้ค่ะ เราว่ามันจะอร่อยกว่าไส้ที่ผ่านการผัด แต่ถ้าทำเยอะๆ สำหรับฟรีซหรือทำไปงานเลี้ยง อันนี้ต้องผัดไส้ก่อนเพื่อให้ไส้แห้ง ทอดแล้วแป้งจะได้กรอบนานๆ ค่ะ) นำกระทะตั้งไฟแล้วใส่ส่วนผสมที่นวดไว้ลงไปผัดจนหมูสุก ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย ชิมรสตามชอบ ปิดไฟแล้วพักไว้ให้เย็นก่อน เพราะถ้าห่อร้อนๆ เลยจะทำใ้ห้แผ่นปอเปี๊ยะ ขาดง่ายนะคะ
เมื่อ ได้เวลาห่อก็นำแผ่นปอเปี๊ยะวางเฉียงให้ด้านที่มีปลายแหลมอยู่ข้างบน ตักไส้ใส่ลงไป แล้วตลบปลายแป้ง ม้วนทับไส้ 1 รอบ ก่อนพับด้านข้างเข้าหากัน ม้วนต่อไปจนเกือบสุดปลายแป้งด้านบน แล้วทาน้ำเย็นตรงปลายบางๆ ก่อนม้วนเพื่อให้แป้งติดกันดีค่ะ
นำ เนยขาวหรือน้ำมันพืชใส่หม้อตั้งไฟ ใช้น้ำมันเยอะหน่อยนะคะ แล้วก็ทอดด้วยไฟกลางค่ะ พอน้ำมันร้อนจัดก็นำปอเปี๊ยะลงทอดจนแป้ง มีสีเหลืองทอง ตักขึ้นวางบนกระดาษเพื่อซับน้ำมันค่ะ
หากใครไม่อยากทำบ่อยๆ ก็ทำไว้ครั้งเดียวเยอะๆ เลยก็ได้ค่ะ หลังจากห่อแล้วก็จัดเรียงใส่กล่องปิดฝามิดชิดหรือถุงซิปล็อก นำไปแช่ช่องฟรีซไว้ หิวเมื่อไหร่ก็แค่นำมาทอดได้เลย สะดวกดีค่ะ เมื่อทอดเสร็จแล้วก็จัดใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ คู่กับน้ำจิ้มปอเปี๊ยะ ทานเพลินเลยค่ะ


Read More...


ปลาเทราส์นึ่งซีอิ๊ว : Steamed Trout in Soja Sauce


วันนี้ทำปลาเทราส์นึ่งซีอิ๊วของโปรดของคุณพ่อบ้านค่ะ (คุณแม่บ้านด้วย 55) ดูเหมือนชาติก่อนคนบ้านนี้จะเคยเกิดเป็นแมว ชาตินี้ถึงได้ชอบกินปลาเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นปลาทอด ปลาย่าง ปลานึ่ง ปลาผัด กินได้ไม่รู้เบื่อ ส่วนปลาเทราส์ตัวนี้ซื้อมาจากตลาด ตัวโตมากๆ เป็นปลาเทราส์-แซลมอน คือปกติปลาเทราส์จะมีเนื้อสีขาวใช่ป่ะคะ แต่พันธุ์นี้มีเนื้อสีส้มเหมือนปลาแซลมอน เวลากินก็เลาะก้างออกง่ายดี ติดใจเนื้อมันอร่อยมากๆ เมี๊ยวๆ

เครื่องปรุง
  1. ปลาเทราส์ตัวโตๆ 1 ตัว ของเราหนักประมาณ 8 ขีดค่ะ
  2. กระเทียมกลีบใหญ่ 4 กลีบ
  3. มะนาว 2 แว่น
  4. ขิงแก่ 1 แง่ง
  5. ต้นหอมอวบๆ 2 ต้น
  6. คื่นช่าย 2 ต้น (วันนี้ไม่มีเลยไม่ได้ใส่ค่ะ)
  7. พาร์สลีย์ 2-3 ต้น
  8. พริกชี้ฟ้า 4 เม็ด
  9. ซีอิ๊วขาว 2-3 ชต.
  10. น้ำมันหอย 1 ชต.
  11. น้ำตาลทราย 1 ชช.
  12. น้ำมันงา 1 ชช.
  13. พริกไทยดำป่น 1/2 ชช
  14. น้ำซุป 1/3 ถ้วย
วิธีทำ

  • ขอดเกล็ดแล้วผ่าท้องปลาเทราส์ เอาพุงออกให้หมด บั้งแล้วล้างให้สะอาด จากนั้นใช้กระดาษซับน้ำให้แห้ง แล้ววางบนภาชนะสำหรับนึ่งค่ะ เราวางบนจานที่ใช้เสิร์ฟเลย ปลาตัวยาวไปหน่อยเลยต้องตัดครึ่งค่ะ
  • ต่อไปก็จัดการปอกเปลือกกระเทียม หั่นชิ้นโตๆ ปอกเปลือกขิงแล้วหั่นแว่น ต้นหอมลอกเปลือกนอกออกแล้วหั่นท่อน คื่นช่ายหั่นท่อน ส่วนพริกชี้ฟ้าหั่นเฉียงค่ะ แบ่งกระเทียมและขิงอย่างละนิดพร้อมด้วยมะนาวทั้งสองแว่นไปยัดท้องปลาไว้ค่ะ
  • จากนั้นผสมพริกชี้ฟ้า ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาล น้ำมันงา พริกไทยป่น และน้ำซุปรวมกัน คนให้เข้ากันแล้วชิมรสตามชอบค่ะ เสร็จแล้วก็วางกระเทียมและขิงที่เหลือจากยัดท้องวางกระจายบนตัวปลา ราดด้วยน้ำซอสครึ่งหนึ่งค่ะ
  • ต่อไปก็วางผักที่หั่นไว้บนตัวปลาแล้วราดน้ำซอสส่วนที่เหลือ นำรังถึงใส่น้ำตั้งไฟแรง ต้มจนน้ำเดือดก็นำปลาไปนึ่งประมาณ 10 นาทีก็สุกแล้วค่ะ ถึงตอนเสิร์ฟก็วางจานเสิร์ฟบนหม้อไฟ น้ำซุปจะได้อุ่นตลอดเวลาค่ะ แค่นี้เองค่ะ ง่ายดีจริงๆ


Read More...


กุ้งอบวุ้นเส้น : Prawns cooked in glass noodles

วันนี้ มีกุ้งอบวุ้นเส้นมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ เมนูนี้ทำกินบ่อยมากตามประสาคนบร้ากุ้ง เมื่อก่อนสมัยอยู่เมืองไทยเวลาไปร้านอาหารแล้วเพื่อนๆ ชอบสั่งกุ้งอบวุ้นเส้นมาด้วย เราไม่ค่อยชอบเลยนะ กินได้คำสองคำก็ขอบาย แต่หลังแต่งงานแล้วกลับไปเยี่ยมครอบครัวที่เมืองไทย แล้วคุณปู้จายก็ได้ติดอกติดใจกุ้งอบวุ้นเส้นเข้าให้ พอกลับมาที่นี่แล้วเธอเกิดอยากกินก็ลำบากแจ๋วสิ

แต่ๆๆ พอลองทำกุ้งอบวุ้นเส้นกินเองครั้งแรกแจ๋วก็ติดใจเลยค่ะ ทำไมมันอร่อยเนี่ย เมื่อก่อนกินยังไงก็ไม่เคยรู้สึกว่ามันอร่อย ทำกินเองปุ๊บอร่อยขึ้นมาเชียว พวกหลงตัวเอง 55 หลังจากนั้นเมนูนี้ก็เป็นหนึ่งในเมนูที่ทำบ่อยมากจนคุณปู้จายเริ่มเบื่อแล้ว ฮ่ะ

ส่วนผสม สำหรับรับประทาน 2 คน

วุ้นเส้น 80 กรัม
ซีอิ๊วดำ 1 ชต.
กุ้งสดตัวโตๆ 6-8 ตัว
หมูสามชั้นหั่นเส้นบางๆ 50 กรัม
ต้นหอมอวบๆ 2 ต้น
รากผักชี 2 ราก
ขิงหั่นแว่น 3-4 แผ่น
กระเทียมกลีบใหญ่ 2 กลีบ
น้ำซุปไก่ 1/4 ถ.
ซีอิ๊วขาว 2 ชต.
น้ำมันหอย 1 1/2 ชต.
น้ำตาลทราย 1/2 ชต.
เหล้าจีน 1/2 ชต.
น้ำมันงา 1 ชช.
พริกไทยป่น 1 ชช. โปร่งๆ
น้ำมันพืช 1 ชต.
คื่นช่าย 2 ต้น (หรือตามชอบ)

วิธีทำ :

นำ วุ้นเส้นไปลวกในน้ำร้อนแค่พอนิ่มแล้วสะเด็ดน้ำให้แห้ง เทใส่ชามอ่างตามด้วยซีอิ๊วดำ คลุกเคล้าให้เข้ากันดีแล้วพักไว้ก่อน จากนั้นหันไปผสมน้ำซุป ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำตาลทราย เหล้าจีน น้ำมันงา และพริกไทยป่นรวมกันแล้วคนให้เข้ากันดีค่ะ

ล้างกุ้งให้สะอาด ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ส่วนหมูสามชั้นก็หั่นเป็นชิ้นกว้างประมาณ 2-3 ซม. ปอกเปลือกกระเทียมแล้วผ่าครึ่งหรือผ่าสี่ ลอกต้นหอมแล้วล้างให้สะอาดก่อนหั่นท่อน รากผักชีล้างแล้วทุบให้แตกค่ะ

นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอน้ำมันร้อนใส่ขิง กระเทียม และต้นหอมลงไปผัดพอส่งกลิ่นหอมก็ปิดไฟ ยกลงจากเตาค่ะ จากนั้นวางหมูสามชั้นที่หั่นไว้เรียงในก้นหม้อให้ทั่ว แล้วแบ่งผักที่ผัดไว้ครึ่งหนึ่งวางบนหมูสามชั้นค่ะ
นำ กุ้งไปคลุกน้ำปรุงรสที่เราผสมไว้ ก่อนแบ่งกุ้งครึ่งหนึ่งวางเรียงบนผัก แบ่งวุ้นเส้นครึ่งหนึ่งกลบกุ้งให้ทั่วแล้วราดน้ำปรุงรสครึ่งหนึ่งบนวุ้นเส้น จากนั้นวางผักส่วนที่เหลือ ตามด้วยกุ้งและวุ้นเส้นส่วนที่เหลือ ราดน้ำปรุงรสที่เหลือทั้งหมดให้ทั่ววุ้นเส้นค่ะ

ปิด ฝาหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อนสุด อบประมาณ 15 นาที แล้วจึงใส่คื่นช่ายหั่นท่อน ปิดฝาอบต่ออีก 5 นาที หรือจนกว่าเปลือกกุ้งจะเปลี่ยนเป็นสีแดงซึ่งแสดงว่าสุกแล้วค่ะ ปิดไฟ ยกลงจากเตาแล้วรับประทานร้อนๆค่ะ

Read More...


ปอเปี๊ยะสด : fresh spring roll

ปอเปี๊ยะสด เนี่ยเป็นอาหารสุดโปรดของเราเลยจ้ะ เชื่อว่ากินทุกวันก็ไม่เบื่อเลยแหละ นี่่ก็กิน 4 วันติดกันแล้วนะเนี่ย

ส่วนผสมปอเปี๊ยะสด ปริมาณกะเอาเองตามชอบนะคะ
1. ปูอัด
2. กุ้งสด
3. อกไก่
4. ผักสลัด
5. แตงกวา
6. แครอท
7. แผ่นปอเปี๊ยะเวียดนาม

หมายเหตุ สำหรับไส้ปอเปี๊ยะเนี่ย จริงๆ แล้วก็ใช้อะไรก็ได้ตามใจคนกินนะคะ ไม่จำเป็นต้องเหมือนที่เราบอกไว้ข้างบนเป๊ะๆ ถ้าใครชอบพวกกุนเชียง ไส้กรอก เต้าหู้ สะระแหน่ โหระพา ถั่วงอก ไข่เจียว เนื้อปู เส้นขนมจีนฯลฯ ก็ดัดแปลงได้ตามชอบเลยค่ะ

วิธีทำ
- ปูอัดผ่าครึ่งตามยาว
- ผักสลัดเด็ดใบแล้วล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำพักไว้
- แตงกวาเอาไ่ส้ออกแล้วหั่นเป็นเส้นตามยาว
- แครอทปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นเส้นตามยาว
- กุ้งแกะเปลือกออกให้หมดแล้วนำไปลวกให้สุก หั่นเป็นชิ้นพอคำ
- อกไก่ล้างให้สะอาด หั่นเป็นเส้นๆ ไม่หนามาก แล้วนำไปลวกให้สุก

นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟ ใส่เกลือ 1/2 ชช. น้ำตาลทราย 1 ชช. น้ำส้มสายชู 1 ชช. ลงไป ต้มจนเดือดใส่แครอทลงไปลวกประมาณ 1 นาที ใส่แตงกวาแล้วปิดไฟ ตักแตงกวาและแครอทขึ้นสะเด็ดน้ำทันที

เมื่อถึงเวลาห่อปอเปี๊ยะสด นำน้ำร้อนใส่ชามอ่างใบใหญ่เตรียมไว้ นำแผ่นปอเปี๊ยะเวียดนามลงผ่านน้ำร้อนประมาณ 5-10 วินาที หรือจนกว่า แผ่นปอเปี๊ยะจะนิ่ม ยกขึ้นจากอ่างน้ำร้อน สะบัดน้ำออก แล้ววางแผ่นปอเปี๊ยะบนเขียง วางผักสลัด / สะระแหน่ / ใบโหระพา ลงบนแผ่นปอเปี๊ยะ ตามด้วยแตงกวา แครอท ปูอัด กุ้ง เนื้อไก่ แล้วม้วนแผ่นปอเปี๊ยะทับไส้ 1 รอบ ตลบด้านข้างซ้าย-ขวาเข้าหากัน แล้วม้วนขึ้นไปด้านบนจนสุดแผ่นแป้งค่ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน โดยประมาณนะคะ
1. น้ำตาลทรายแดง 4 ชต.
2. น้ำตาลปี๊บ 4 ชต.
3. น้ำมะขามเปียก 4 ชต.
4. ซีอิ้วดำ 1 ชต.
5. ซีอิ้วขาว 1 ชต.
6. น้ำปลา 1 ชต.
7. น้ำส้มสายชู 1/2 ชต.
8. เกลือ 1/4 ชช.
9. ผงพะโล้ 1/4 ชช.
10. แป้งมัน 1 ชต.
11. น้ำสะอาด 1 ชต.

ส่วนผสมข้อ 1-9 ใส่หม้อตั้งไฟอ่อนเคี่ยวไปเรื่อยๆ จนส่วนผสมข้นเหนียว ละลายแป้งมันกับน้ำแล้วใส่ในหม้อน้ำจิ้ม คนให้เข้ากันดี เคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 1 นาทีแล้วยกลงค่ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้มเผ็ด
1. พริกขึ้หนู
2. กระเทียม
3. น้ำมะนาว
4. น้ำตาลทราย
5. น้ำปลา


นำ ส่วนผสมทุกอย่างปั่นรวมกันจนละเอียด ชิมรสเปี้ยว เค็ม เผ็ด หวานกลมกล่อมค่ะ หรือถ้าใครไม่มีเครื่องปั่นก็โขลกกระเทียมกับพริกขี้หนูให้ ละเอียดแล้วเติมน้ำมะนาว น้ำตาลทราย และน้ำปลาลงไปปรุงรสตามชอบค่ะ

 
รูปบนราดน้ำจิ้มเปรี้ยวหวาน ส่วนรูปล่างราดน้ำจิ้มเผ็ดค่ะ เราชอบทั้งสองแบบเลย บางครั้งราดผสมกันทั้งสองอย่างก็อร่อยแปลกดีค่ะ



Read More...


แกงส้มผักรวม : sour soup with prawns and omelette

เมื่อ วันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อนเลิฟทำแกงเลียงใส่ผักตู้มๆ มาให้ อร่อยสุดๆ เลยแหละ งานนี้คุณปู้จายได้มีเอี่ยวนิดหน่อยเพราะเธอคุ้ยหาแต่ฟักทองกับเห็ดนางฟ้า เท่านั้น ผักอย่างอื่น เช่น ผักหวานเอย ซูคีนี่เอย เธอเมินฮ่ะ แกงเลียงของคุณเพื่อนเลยเสร็จโจรอุ้ย อร่อยสมกับที่กำลังอยากกินอยู่พอดี ถามว่าก็อยากกินขนาดนั้นแล้วทำไมเธอไม่ทำกินเองล่ะยะ คำตอบก็คือฮาโลวีนมันผ่านไปแล้ว หาฟักทองไม่ได้เลยเจ้าค่ะ
อ้อ.. แล้วแกงเลียงมันเกี่ยวอะไรกับแกงส้มที่ทำวันนี้ล่ะ จริงๆ ก็ไม่เกี่ยวหรอกฮ่ะ เพียงแต่มันใส่ผักแยะเหมือนกัน แล้วก็ซดมันซดเพลินเหมือนกันด้วยไง เมื่อเย็นวานทำไปรอบนึงแล้วนะเนี่ย ติดใจมากมาย คุณซาลามี่ก็อร่อยด้วย แย่งเรากินอ่ะ วันนี้เลยทำเป็นมื้อเที่ยงสนองความอยากของตัวเองคนเดียวหมดเรื่องหมดราว แซ่บหลายๆ เลยค่า

เครื่องปรุงน้ำพริกแกงส้ม สำหรับรับประทาน 2 คน
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำให้นิ่ม 3 ชต.
  • เกลือป่น 1 ชช.
  • หอมแดงปอกเปลือกหั่นเต๋าเล็ก 2 ชต.
  • กระเทียมปอกเปลือกหั่นเต๋าเล็ก 1 ชช.
  • กระชายซอยบางๆ 1 1/2 ชต.
  • กะปิดี 1 ชช.
  • เนื้อปลาต้มหรือนึ่งสุก 1-2 ขีด (เนื้อปลาเนี่ยชอบข้นมากใส่มาก ชอบใสๆ ก็ใส่น้อยๆ นะคะ)
เมื่อเตรียมเครื่องแกงพร้อมแล้วก็จัดการโขลกพริกแห้งกับเกลือรวมกันให้ละเอียด แล้วจึงใส่หอมแดง กระเทียม และกระชาย ลงไปโขลกต่อจนพริกแกงมีเนื้อละเอียดดี จากนั้นจึงใส่กะปิและเนื้อปลาลงไปโขลกรวมกับเครื่องแกงให้เข้ากันค่ะ (เราใช้วิธีบดแทนค่ะ เร็วดี แง่มๆ) ได้พริกแกงส้มแล้วเนอะ
เครื่องปรุงอื่นๆ
  • น้ำสะอาด 400 มล.
  • น้ำปลา 3 ชต.
  • น้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ 4-5 ชต. (แล้วแต่ความเปรี้ยวของมะขามค่ะ)
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ชต.
  • กุ้งสดแกะเปลือก ผ่าหลัง ไว้หาง 4-5 ตัว
  • ผักสด เช่น ดอกกะหล่ำ บล็อกโคลี่ หัวไชท้าว แครอท ผักกะเฉด ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว เป็นต้น
  • ไข่ไก่ขนาดใหญ่ 1 ฟอง (ถ้าชอบชะอมก็หั่นใส่ไปด้วยค่ะ คนที่บ้านเราไม่ชอบเลยซอยใบโหระพาใส่แทน)
วิธีทำ
วิธี คั้นน้ำมะขามเปียกของเราก็อย่างที่เห็นค่ะ นำมะขามเปียกใส่ถ้วย เติมน้ำอุ่นประมาณ 1/3 ถ้วยลงไป คั้นจนได้น้ำมะขามเปียกข้นๆ แบบนี้ค่ะ
จัดการ ล้างและหั่นผักสดเตรียมไว้ให้เรียบร้อย จากนั้นก็หันไปตีไข่กับน้ำปลาประมาณ 1 ชช. และใบโหระพาจนฟู นำหม้อหรือกระทะใบเล็กสุดตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปประมาณ 2 ชต. พอน้ำมันร้อนก็ใส่ไข่ลงไปเจียวจนผิวด้านล่างเริ่มเกรียมกรอบ กลับด้านเจียวอีกด้านให้กรอบเหมือนกัน ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน แล้วหั่นเป็นสี่เหลี่ยม

จาก นั้นก็นำน้ำสะอาดใส่หม้อตั้งไฟ เมื่อน้ำเดือดพล่านก็ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงไป รอให้น้ำเดือดอีกรอบจึงคนเครื่องแกงให้ละลายค่ะ เสร็จแล้วก็ใส่ผักที่แข็งๆ เช่น ดอกกะหล่ำ หัวไชเท้า แครอทลงไปก่อน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำตาลปี๊บ ชิมรสเปรี้ยว เค็ม หวานกลมกล่อมค่ะ สุดท้ายใส่กุ้ง ผักที่เหลือ และไข่เจียวลงไป กดให้จมในน้ำแกง พอใกล้เดือดอีกรอบก็ปิดไฟ ตักเสิร์ฟร้อนๆ ค่ะ

ใครสนใจตักข้าวสวยร้อนมาแจมได้นะคะ พอดีข้าวบ้านนี้หมดคลังค่ะ ยังไม่ได้ซื้อเลย เด็กแบกกระสอบข้าวสารแถวๆ นี้ผลัดวันประกันพรุ่งมากๆ

  
 

Read More...


คั่วกลิ้งหมู : Pork with yellow curry paste


ส่วนผสมเครื่องแกงโดยประมาณ
  • พริกแห้ง 1/2 ถ้วย
  • หอมแดงหั่นหยาบ 2 หัว
  • กระเทียมหั่นหยาบ 2 กลีบใหญ่
  • ตะไคร้ซอย 2 ต้น
  • ข่าหั่นหยาบ 3 แว่น
  • ขมิ้นยาวประมาณซอยละเอียด 3 ซม.
  • ผิวมะกรูดซอยละเอียด 1 ชต.
  • ใบมะกรูดหั่นละเอียด 5 ใบ
  • พริกไทยเม็ด 2 ชต.
  • เกลือป่น 1 ชช.
  • กะปิ 1 ชต.

วิธีทำเครื่องแกง


โขลกหรือบดพริกแห้งให้ละเอียดแล้วใส่ส่วนผสมทุกอย่างยกเว้นกะปิลงไปโขลกรวม กันจนละเอียด สุดท้ายใส่กะปิลงไปโขลกรวมให้เข้ากัน เรียบร้อยค่ะ  (เราไม่มีครกหินใบโตๆ เลยใช้วิธีบดจนละเอียดแทนค่ะ)

เครื่องปรุงคั่วกลิ้ง
  • หมูสับ (หรือหั่นชิ้นตามชอบค่ะ) 250 กรัม
  • พริกแกงคั่วกลิ้ง 2 1/2 ชต.
  • น้ำปลา 1 - 1 1/2 ชต.
  • น้ำตาลทราย 1/2 ชช.
  • ใบมะกรูดหั่นฝอย 3 ใบ
  • พริกกะเหรี่ยงหั่นเฉียง 1 เม็ด
 วิธีทำ


นำกระทะตั้งไฟ พอกระทะเริ่มร้อนใส่เนื้อหมูลงไปรวนจนสุกและเริ่มมีน้ำซึมออกมา ใส่พริกแกงลงไปผัดให้เข้ากันดี ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ ผัดให้เข้ากันจนเครื่องปรุงเข้าเนื้อ ผัดแห้งดีแล้วใส่ใบมะกรูดหั่นซอยและพริกชี้ฟ้าหั่นเฉียงคนให้เข้ากัน ปิดไฟ ทานคู่กับผักเคียงต่างๆ พร้อมไข่ดาวด้วย อร่อยซ๊า


Read More...


ขนมจีนน้ำยาไก่



วันนี้ ทำขนมจีนน้ำยาไก่กินเป็นมื้อเที่ยงค่ะ ขนมจีนนี้ไม่ได้ทำกินมานานพอสมควร เมื่อวันก่อนเพื่อนสาวทำขนมจีนน้ำยาไก่มาเผื่อด้วย อร่อยมาก วันนี้เลยเกิดอยากกินขึ้นมาอีกรอบ ลงมือทำจนได้ ฟาดไปซะ 2 จาน สะใจมาก กินเสร็จก็นั่งปวดท้องเพราะจุก ไม่เคยจำซะทีสิน่าว่าถ้าท้องมันบอกว่าอิ่มก็ควรจะหยุด แต่ปากกับใจมันค้านไงคะ เลยกินต่อ สุดท้ายก็ปวดท้องตามเคย 55

เครื่องปรุง  (โดยประมาณนะคะ ไม่ได้ตวง)
  • ไก่ เราใช้สะโพกติดน่อง 2 ชิ้นใหญ่ (หนักประมาณ 450 กรัมค่ะ) 
  • พริกขี้หนูแห้ง 15 เม็ด
  • หอมแดง 4 หัว
  • ข่า 5-7 แว่น
  • กระชาย 4 แง่ง
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • ใบมะกรูด 6-7 ใบ 
  • น้ำสะอาด 800 มล.  
  • เกลือป่น 1 ชช. 
  • กะทิ 200 มล. 
  • พริกแกงเผ็ด 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2-3 ชต.
  • น้ำตาลทราย 1 ชช.
  • เส้นขนมจีน 
  • ไข่ต้ม ผักตามชอบ เช่น ผักกาดดอง, ถั่วฝักยาว, ถั่วงอก, กะหล่ำปลี, โหระพา, สะระแหน่, แครอท, หัวปลี ฯลฯ
วิธีทำ
 

พริก ขี้หนูแห้งเด็ดขั้วออก หอมแดงปอกเปลือกออก กระชายและตะไคร้หั่นท่อนแล้วทุบให้แตก ใบมะกรูดล้างให้สะอาด ส่วนไก่ก็ล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำ พักไว้ก่อนค่ะ



นำน้ำสะอาดใส่หม้อใบใหญ่นิดนึงขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เกลือป่น ตามด้วยไก่ พริกแห้ง หอมแดง ข่า กระชาย ตะไคร้ และใบมะกรูดลงไป ปิดฝาหม้อต้มไปเรื่อยๆ จนไก่สุกเปื่อยดีใช้เวลาต้มประมาณ 30 นาทีค่ะ

เมื่อไก่สุกดีแล้วก็ปิดไฟ ตักพริกแห้ง หอมแดง ข่า กระชาย ตะไคร้ และใบมะกรูดออกจากหม้อ สะเด็ดน้ำพักไว้ (เก็บน้ำที่ต้มไก่ไว้ด้วยนะคะ) ส่วนชิ้นไก่ก็ตักออกมาแล้วแกะเอาแต่เนื้อ หนังและกระดูกก็ทิ้งไปค่ะ โขลกพริกแห้ง หอมแดง ข่า และกระชายรวมกัน ไม่ต้องละเอียดนะคะ เอาแค่หยาบๆ ก็พอค่ะ จากนั้นก็ใส่เนื้อไก่ที่แกะไว้ลงไปคลุกๆ ให้เข้ากันค่ะ

ใส่ กะทิประมาณ 1/4 ถ้วย ลงในหม้ออีกใบ นำขึ้นตั้งไฟ เมื่อกะทิเดือดก็ใส่พริกแกงเผ็ดลงไปผัดจนเริ่มแห้งและแตกมัน ค่อยๆ รินกะทิที่เหลือทั้งหมดใส่ลงไปช้าๆ  เมื่อกะทิเดือดอีกครั้งก็ใส่เครื่องที่โขลกลงไปผัดรวมกันจนส่งกลิ่นหอม แล้วจึงเติมน้ำซุปที่เก็บไว้ลงไปประมาณ 500-600 มล. ใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไปคนให้เข้ากัน ต้มต่อไปจนเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบแล้วปิดไฟ เสร็จเรียบร้อยค่ะ


วันนี้ เรากินกับไข่ต้ม แตงกวา ถั่วงอก ผักกาดดอง ถั่วแขก กะหล่ำปลี โหระพา และสะระแหน่ค่ะ ผักท่วมจาน อร่อยๆ ตอนกำลังกินอยู่เราหันไปถามคนที่บ้านว่าอร่อยมั้ย เค้าบอกอร่อยมาก กินอย่างเมามันจนน้ำยากระเด็นเข้าตา จากนั้นก็งานกร่อยเลยค่ะ  นั่งกินต่อแบบฝืนๆ สงสัยจะหมดอร่อยแล้วแต่กลัวโดนเหวี่ยงเลยไม่กล้าหยุดกิน 55


 
credit : ภาพและสูตรอาหารและขนม © http://varithorn.blogspot.com

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.