“ทำอาหารเหมือนกับเล่นดนตรีคือ ต้องใส่ใจลงไป ทุกคนทำได้หมด อร่อยหรือไม่อร่อยขึ้นอยู่กับรสชาติที่ชื่นชอบ เพลงไพเราะหรือไม่ไพเราะขึ้นอยู่กับรสนิยมการฟังของแต่ละคน” ปรีชา ชนะภัย หรือ “เล็ก คาราบาว” นักกีตาร์ฝีมือดีคนหนึ่งของเมืองไทย เจ้าของฉายา “กีตาร์ลายเซ็น” เล่าขณะกำลังสาละวนคลุกเคล้าไก่ต้มเค็มให้เข้าเนื้อ เมนูเลื่องชื่อโอชาไม่แพ้ลีลาดีดกีตาร์อันพลิ้วไหว ซึ่งรสชาติเตะลิ้นคนรู้จักมักคุ้นอย่าง ทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย จนเอ่ยปาก ขอสูตรมาเสิร์ฟทุกไฟลต์บินของสายการบินแอร์เอเชีย สามารถสั่งได้ในเซต “ไก่ต้มเค็มเล็ก คาราบาว”
คุณเล็ก-ปรีชา บอกถึงที่มาของสูตรเด็ดว่า สูตรนี้ได้มาจากแม่ยายทำง่ายมาก ประเมินด้วยสายตาดูแล้วไม่น่าอร่อย แต่หลายคนได้ลองกินแล้วติดใจ สมัยก่อนนัดสังสรรค์กับเพื่อนที่บ้านบ่อย นัดคุยงาน เล่นดนตรีกันบ้าง มักเข้าครัวทำอาหารอย่างเมนูนี้คนถามเสมอทำอย่างไร ด้วยความที่มันง่ายมาก ขนาดย้ำบอกให้ดูดี ๆ นะ แต่ระหว่างทำไม่ค่อยมีคนสนใจหรอก พอตักเข้าปากกินคำแรก เพื่อนจะร้อง เฮ้ย!!! อร่อยทำยังไง ขี้เกียจสาธยายต่อแล้ว เป็นอย่างนี้อยู่หลายรอบ สรุปไม่ต้องรู้วิธีทำ กินอย่างเดียวเถอะ
“ผมไม่หวงสูตรนะ ตอนคุณทัศพลบอกให้คิดค่าลิขสิทธิ์ ผมบอก “ใครอยากได้เอาไปเถอะให้ฟรี” คือ ผมยึดหลักการดำเนินชีวิตที่ว่า คนเราต่างมีความฝัน ผมโชคดีมาถูกทางขณะที่หลายคนเดินไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อยืนอยู่บนจุดสำเร็จ เวลาที่เหลือก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแล้วแบ่งปันสิ่งดี ๆ ต่อสังคม” มือกีตาร์หนวดงามเผยนิยามชีวิตและเล่าต่อว่า เรื่องอาหารทำด้วยใจรัก แม่เป็นแม่ค้าตอนเด็ก ๆ ช่วยแม่ทำอาหารขาย พอแต่งงานก็สอนภรรยาบ้าง อยากให้ภรรยาทำอาหารให้กิน ช่วงนี้เพลามือลงเลือกกินมากขึ้น งดอาหารรสจัด เพราะต้องถนอมร่างกายหลังจากใช้ชีวิตวัยหนุ่มมาคุ้มค่า”
เนื่องจากเมนู “ไก่ต้มเค็ม” วันนี้มีรสเผ็ดโดดเด่นมากกว่าความเค็ม เมนูนี้คุณเล็กจึงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า “ไก่พิโรธ” ร้อนแรงด้วยเครื่องเทศและแซบจี๊ดจ๊าดแบบถึงใจ วัตถุดิบและส่วนผสมสำหรับเสิร์ฟ 1 ที่ ประกอบด้วย ตะโพกไก่ 80 กรัม, ข้าวหอมมะลิ 165 กรัม, หัวหอมแดง 1 กรัม, พริกจินดา 1 กรัม, รากผักชี 1 กรัม, พริกไทย 1 กรัม, ซอสถั่วเหลือง 60 กรัม, ซีอิ๊วขาวและเกลือชนิดเม็ด สำหรับสัด ส่วนนี้คุณเล็กเผยว่า ไม่ตายตัวถ้าชอบรสเผ็ดใส่พริกเพิ่มได้ตามใจชอบ สังเกตให้ดีเมนูนี้ใช้เครื่องปรุงน้อย เพราะอยากให้ได้รสชาติธรรมชาติแท้ ๆ อย่างน้ำตาลจะไม่ใส่เลยเพราะได้ความหวานจากหัวหอม แดงแล้ว ความเผ็ดจากพริก ส่วนรากผักชีและพริกไทย เพิ่มกลิ่นให้เย้ายวนเตะจมูก “คนโบราณใช้เกลือเป็นหลัก การปรุงอาหารใช้แค่น้ำปลากับเกลือ ไม่ใส่ซอสนั่นซอสนี่วุ่นวาย”
ส่วนวิธีการทำ ล้างไก่ให้สะอาดเทใส่ลงหม้อ ตามด้วยส่วนผสมของหัวหอมแดง, พริกจินดา, รากผักชี และพริกไทยที่โขลกรวมกันพอหยาบ เติมรสชาติด้วยเกลือ ซอสถั่วเหลือง และซีอิ๊วขาว ต้มทิ้งไว้สักครู่ เทน้ำเปล่าพอขลุกขลิก พอเดือดค่อย ๆ คนไม่ต้องกลัวเหม็นคาว จากนั้นตั้งไฟต่อจนไก่สุกกำลังดี ถ้ามีมันไก่ลอยขึ้นมาให้ค่อย ๆ ช้อนมันทิ้ง เสร็จแล้วจัดเสิร์ฟใส่จานกินพร้อมกับข้าวสวยร้อน ๆ กำลังดี สำหรับมือใหม่หัดทำ คุณเล็กใจดีแนะนำว่า อย่าเพิ่งหนักมือ จะลดหรือเพิ่มค่อย ๆ ปรุง ถ้าชอบกินหมูสามารถประยุกต์ใช้ซี่โครงหมูได้ ซึ่งสัดส่วนผสมเหมือนกันทุกประการ แตกต่างกันแค่เวลาที่ใช้ต้ม.
credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/244689/‘ไก่พิโรธ’+สำแดงเดชเผ็ดลิ้น
Read More...