สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income: New
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ New แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ New แสดงบทความทั้งหมด

ดื่มชาชมสวน สดชื่นสไตล์ ‘ไทนี่ ทรี’

ยังไม่ทันพ้นเดือนแรกของปี แสงแดดร้อนแรงทำท่าข่มฤดูหนาวเสียแล้ว ดังนั้นช่วงสาย ๆ ของวันว่าง หากใครไม่รีบร้อน ลองมาหลบแดดชมความรื่นรมย์ของต้นไม้ใบหญ้าให้สบายใจ ในร้านเก๋ ๆ อย่าง ไทนี่ ทรี การ์เด้นท์ (Tiny Tree Garden) ซึ่งหลบมุมอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ทันทีที่เท้าก้าวเข้ามาภายในร้าน จะพบกับความ “สดชื่น” แปลกตาไม่ซ้ำใคร เพราะต้นไม้ใบหญ้าที่พูดถึงนี้ไม่ได้เขียวครึ้มบนสวนหย่อมใหญ่ หากเป็นเพียงต้นไม้ต้นเล็ก ๆ บรรจุอยู่ในขวดหลากหลายรูปแบบ หรือที่เรียกกันว่า “สวนขวด” ที่ น้ำค้าง-ณัฐจรินทร์ พฤกษดานนท์กุล ปลุกปั้นมาเองกับมือ

หลังจากปิ๊งไอเดียระหว่างพักฟื้นรักษาร่างกายให้กลับมาแข็งแรงจากระบบภูมิคุ้มกันไวผิดปกติ “ก่อนเปิดร้านเป็นพนักงานออฟฟิศระยะหนึ่ง พอไม่สบายจึงลาออกกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านสวน จ.จันทบุรี วันหนึ่งเกิดแรงบันดาลใจหยิบเอาต้นไม้ ขวด และวัตถุดิบตกแต่ง ลองจัดเป็นสวนขวดเล็ก ๆ ประดิดประดอยให้เพื่อน ๆ เป็นของขวัญ โดยจัดบ่งบอกตามสไตล์ของเพื่อนแต่ละคน วันหนึ่งมีรุ่นพี่แนะนำให้ทำขาย เห็นว่าหนุ่มสาวออฟฟิศน่าจะชอบ ตัดสินใจลองผิดลองถูกเกือบครึ่งปี เปิดขายช่องทางแรกคือเฟซบุ๊กและอินสตาแกรม ทำให้ได้รับความนิยมมาเรื่อย ๆ เพราะคนชอบซื้อแล้วมอบเป็นของขวัญ” เจ้าของร้านร่างเล็กไม่แพ้ชื่อร้านบอกเล่าที่มา

พอสวนขวดเริ่มเป็นเทรนด์และมีคนสนใจมากขึ้น จึงตั้งหลักปักฐานเปิดหน้าร้านที่ซอยสุขุมวิท 31 นอกจากเป็นพื้นที่พบปะระหว่างคนชอบธรรมชาติและความคิดสร้างสรรค์แล้ว คุณน้ำค้างยังดึงดูดร้านให้น่านั่งเล่นมากยิ่งขึ้น ด้วยการบรรจุเมนูเครื่องดื่มไว้ดับกระหาย และมีขนมหวานรสชาติเข้าคู่กันอย่างลงตัวจากฝีมือหุ้นส่วนของร้าน “เครื่องดื่มและขนมทางร้านจะไม่หวานจัด เพราะเราปรับสูตรเพื่อสุขภาพ หวานแค่นี้กำลังดีนะ บางครั้งลูกค้าติดหวานเราก็จะอธิบายว่าใส่นมและน้ำตาลเยอะแล้ว อย่าเติมอีกเลย เรียกว่าไม่ตามใจลูกค้าเลย” คนร่างเล็กเล่าพลางหัวเราะ

เมนูสั่งซ้ำของทางร้านมีทั้ง “น้ำมะนาวดองสูตร 80 ปี” รสเปรี้ยวซ่ากระชากใจสูตรจาก จ.สุพรรณบุรี และ “ชาไทยใส่นม” ที่คิดสูตรจากเครื่องดื่มแก้วโปรดประจำบ้าน “สูตรนี้นำมาบรรจุเป็นเมนูแรก ๆ ของทางร้าน เพราะคุณพ่อชอบกินชาเย็นมาก เสาะแสวงหาร้านจนเจอเจ้าประจำแถวเจริญรัถ ย่านวงเวียนใหญ่ ขนาดบ้านอยู่แถบสุขุมวิทแท้ ๆ ยังต้องขับรถไปซื้อ ซึ่งร้านเป็นรถเข็นธรรมดา แต่รสชาติล้ำลึกมากและตั้งชื่อรู้กันเฉพาะสมาชิกภายในบ้านว่า ชาเขย่า เพราะเวลาทำคุณลุงเจ้าของร้านจะมีลีลา “เขย่า” ชาเป็นเอกลักษณ์ คุณพ่อสังเกตวิธีการชงอย่างละเอียดละอ่อน ค้นพบว่าหากชงชาให้อร่อยเคล็ดลับอยู่ที่น้ำต้องร้อนจัด”

วันนี้จึงขอให้คุณน้ำค้างวางมือจากสวนขวด มาเป็นมือวางขวดแก้วอันกลมกล่อมแทน สำหรับ “ชาไทยใส่นม” สูตรคุณพ่อโปรดปรานใช้ส่วนผสมดังนี้ ผงชา 5 ช้อนชา จะเลือกเป็นชาไทยหรือชาที่ชื่นชอบก็ได้, น้ำเดือด 150 มล., นมคาร์เนชั่น 60 มล., นมข้น 40 มล. และนมสดสำหรับตีทำฟอง

วิธีทำ ตักชาใส่ถุงกรอง แช่ในน้ำเดือดจัดประมาณ 2 นาที รอจนกลิ่นชาหอมฉุย แล้วค่อยเติมนมคาร์เนชั่น และนมข้นตามลงไป แนะนำให้ใช้ผงชาชงแก้วต่อแก้ว เพื่อความเข้มข้นและสดใหม่ จากนั้นใช้เครื่องตีฟองชนิดมือตีนมสดจนกลายเป็นฟอง เคล็ดลับขั้นตอนนี้ คุณน้ำค้างเผยว่าต้องใช้นมสดที่เย็นจัด จึงจะได้เนื้อฟองที่นุ่มเนื้อละเมียดลิ้น เสร็จแล้วตักน้ำแข็งใส่โหลแก้วราดชาเย็นลงไปแล้วตักฟองครีมเติมด้านบน เสิร์ฟพร้อมเบเกอรี่หรือจิบพลางชมสวน...ชื่นตาสบายใจ ลองทำไว้ดื่มเองหรือแวะมาที่ร้านก็ไม่ขัดศรัทธา.

‘ช้องมาศ’

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/291242/‘ผัดไทยสุโขทัย’+จานร้อนรสย้อนยุค

Read More...


'กิน ดื่ม' ช่วงปีใหม่ อย่างคนสุขภาพดี



อีกไม่กี่วันก็ถึงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองที่มีอาหาร และเครื่องดื่มเป็นตัวเชื่อมประสาน บางคนสนุกสนานต่อเนื่องแบบเที่ยงวันยันเที่ยงคืน แถมอาจลากยาวไปอีกหลาย ๆ วัน ซึ่งเมื่อดูวันหยุดปีนี้แล้วเฉลี่ย ๆ ก็อย่างน้อย 4 วัน แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่อย่าลืมใส่ใจกับสุขภาพของตัวเองด้วย ทั้งเรื่องการดื่ม กิน และการพักผ่อน เพื่อต้อนรับศักราชใหม่ด้วยร่างกายที่สมบูรณ์ เต็ม 100%

วันนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ อย่างนายสง่า ดามาพงษ์ ได้ออกมาแนะนำถึงการกิน อยู่ สังสรรค์ในช่วงเทศกาลปีใหม่ให้เป็นเทศกาลแห่งความสุขอย่างแท้จริง ด้วยหลักการง่าย ๆ คือ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รับประทานอาหารที่ไม่หวานจนเกินไป ไม่มันเกินไป และไม่เค็มเกินไป ขณะเดียวกันก็ควรเพิ่มสัดส่วนการรับประทานผัก ผลไม้ให้มากขึ้น เพราะในผักผลไม้จะมีไฟเบอร์สูง ตรงนี้จะเป็นตัวช่วยการย่อยสิ่งที่รับประทานเข้าไปได้ดี

นายสง่า บอกด้วยว่า ถึงแม้จะเป็นช่วงแห่งการเฉลิมฉลองเพียงสั้น ๆ ไม่กี่วัน แต่ก็สามารถก่อให้เกิดความทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บตามมาได้ โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้ เพราะ อาหารหลักที่นิยมรับประทานกันในช่วงนี้ส่วนใหญ่จะอุดมไปด้วยรสหวานจัด มัน เค็มจัด และเต็มไปด้วยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ทั้งนี้เพราะโปรตีนเป็นตัวผลิตไนโตรเจน เมื่อร่างกายได้รับไนโตรเจนมากเกินไปจะทำให้ร่างกายเสียความสมดุล ระบบการย่อยเป็นไปด้วยความยาก นอกจากนี้ยังนำพาไปสู่โรคต่าง ๆ ตามมาในระยะยาวได้ เช่น กระดูกบาง เพราะไนโตรเจนที่เข้าไปจะไปดูดซึมเอาแคลเซียมในร่างกายออกมา

อีกหนึ่งความนิยมรับประทานในเทศกาลปีใหม่มากที่สุดก็คือ “เค้ก” ซึ่งเป็นตัวที่อุดมไปด้วยน้ำตาล ไขมัน ครีม นม เนยสูงมาก เรียกว่าอุดมไปด้วยความอ้วน การห้ามรับประทานเลยอาจจะดูใจร้ายเกินไปดังนั้นการรับประทานเค้กควรเลือกชนิดที่น้ำตาลน้อย หวานน้อย ที่สำคัญรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะพอควร อย่าให้มากเกินไป และไปเพิ่มการรับประทานอาหารที่ประเภทผัก ผลไม้เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยดูดซับเอาไขมันที่เรากินเข้าไปออกมาได้ส่วนหนึ่ง

“ปัญหาที่ตามมาจากการกินอาหาร แม้จะเป็นเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ก็มากพอที่จะทำให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมการกินได้ สมมุติเรากินอาหารที่อุดมไปด้วยไขมัน น้ำตาลสูง ในที่สุดนิสัยเราจะเริ่มติดรสชาติของอาหารในช่วงปีใหม่นี้ โรคไม่ติดต่อเรื้อรังก็จะตามมากลายเป็นการทำร้ายตัวเองเสียมากกว่า”

มาที่เครื่องดื่มในการสังสรรค์ช่วงปีใหม่ คือแอลกอฮอล์ ที่วันนี้จะไปห้ามใครดื่มคงไม่ได้ แต่ก็อยากให้ประชาชนรับทราบและดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งโดยหลักการทั่ว ๆ ไป หากเป็นไวน์ก็ไม่ควรดื่มเกิน 2 แก้ว ถ้าเป็นเบียร์เฉลี่ยอยู่ที่ 2-3 แก้ว ประมาณนั้นซึ่งแต่ละคนอาจจะดื่มได้ในปริมาณที่แตกต่างกัน ดังนั้นการสังเกตตัวเองว่าถึงจุดที่ควรจะพอหรือไม่ คือถ้าดื่มแล้วลิ้นพันกัน พูดไม่รู้เรื่อง หน้า ตึง ๆ และรู้สึกว่าครองสติไม่อยู่ก็ควรหยุดดื่ม ที่สำคัญคือเมาแล้วไม่ขับ เพราะเป็นอันตรายมาก เนื่องจากแอลกอฮอล์จะทำลายประสาทส่วนกลางทำให้ครองสติไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ จนเกิดอุบัติเหตุตามมาดังนั้นขอให้ดื่มแต่พอดี แต่ถ้าไม่ดื่มเลยก็ดี เพราะความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการดื่มแอลกอฮอล์มาเป็นตัวเริ่มต้น คุณสามารถรับประทานอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ ทำให้มีความสุขได้เช่นเดียวกัน

ปีใหม่ปีนี้คุณจะหาของขวัญอะไรให้กับตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นแก้วแหวน เงินทอง หรือวัตถุ แต่เริ่มต้นด้วยการทำให้สุขภาพตัวเองดี กินเป็น ออกกำลังกาย ควบคุมอารมณ์ได้ เชื่อว่าของขวัญปีใหม่ชิ้นนี้น่าจะมีคุณค่ามากที่สุดในชีวิตคุณ ของขวัญปีใหม่ที่ดีที่สุดคือปรับนิสัยการรับประทาน ออกกำลังกาย ควบคุมอารมณ์ และในที่สุดเราก็จะสุขภาพดีตลอดปี ตลอดไป นี่คือของขวัญชิ้นงามแล้ว.

อภิวรรณ เสาเวียง : รายงาน

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/289997/‘‘กิน+ดื่ม’+ช่วงปีใหม่+อย่างคนสุขภาพดี

Read More...


อู้ฮู! เปิด 5 อาชีพ รายได้สูงสุด-ต่ำสุดในไทย


เมื่อร่ำเรียนจบมา ใครหลายคนก็อยากได้ทำงานดีๆ แล้วที่ว่า "งานดีๆ" มันหมายถึงสิ่งใด "ไทยรัฐออนไลน์" เชื่อว่า งานดีๆ มันคงไม่มีอะไรมาก ก็แค่อาจจะเป็นความมั่นคั่งทางเงินเดือน กับความมั่นคงขององค์กร ปฏิเสธไม่ได้ว่า 2 อย่างนี้ เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือกงานเสมอ บางคนก็อาจเลือกความมั่งคั่ง บางคนก็เลือกความมั่นคง แต่ถ้า 2 อย่าง มันมาควบคู่กันล่ะ นั่นแหละมั้ง...ที่เรียกว่า "งานดี"
วันนี้ "ไทยรัฐออนไลน์" ขอนำเรื่องของความมั่นคั่ง หรือ "เงินเดือน" โดยอ้างผลสำรวจของบริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี เกี่ยวกับงานที่มีระดับเงินเดือนสูงสุด ในกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ของเอเชีย มาเสนอผู้อ่าน เพื่อแนะนำให้นักเรียน นักศึกษา ได้วางแผนการเรียน และการทำงานในอนาคตกัน

โดยบริษัทจัดหางานชื่อดัง ได้สำรวจข้อมูลอาชีพที่ได้รับเงินเดือนสูงสุดใน 20 ประเภทงาน จากใบประกาศรับสมัครงานของผู้ประกอบการ ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ซึ่งมีประกาศรับสมัครงานกว่า 180,000 ตำแหน่ง ใน 5 ประเทศ คือ ฮ่องกง อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย พบว่าอาชีพที่ได้รับเงินเดือนสูงสุดในเอเชีย ได้แก่ งานบริการเฉพาะทาง งานธนาคารและการเงิน และงานไอที
ส่วนในประเทศไทย พบว่า อาชีพที่มีรายได้ต่อเดือนมากที่สุด ในบรรดานักศึกษาจบใหม่ ได้แก่
1. งานบริการเฉพาะทาง อาจไม่ชัด ยกตัวอย่าง เช่น เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ระบบ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์การขาย เจ้าหน้าที่วิเคราะห์รายได้ ทนายความ เจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย เจ้าหน้าที่กฎหมายและกำกับดูแลธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา เป็นต้น   มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 32,800 บาท
2. งานธนาคารและการเงิน   มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 31,100 บาท
3. งานบริการด้านการแพทย์    มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 30,400 บาท
4. งานประกันภัย    มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 30,200 บาท
5. งานไอที   มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 29,900 บาท

ส่วนงานที่มี รายได้ต่อเดือนต่ำที่สุด ของประเทศไทย ได้แก่
1. งานจัดซื้อ   มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 25,900 บาท
2. งานท่องเที่ยว และ F&B   มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 25,400 บาท
3. งานบัญชี   มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 25,400 บาท
4. งานธุรการ และ HR   มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 25,300 บาท
5. งานขนส่ง   มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 25,200 บาท

อย่างไรก็ตาม ทางจ๊อบส์ดีบี ทั้ง 5 อาชีพที่มีรายได้ต่อเดือนต่ำที่สุดของประเทศไทย มีแนวโน้มได้รับเงินเดือนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 44% หลังจากมีอายุการทำงานและประสบการณ์ 3 ปีขึ้นไป
เอาล่ะ! ใครอยากเป็นอะไร ประกอบอาชีพไหน เริ่มวางแผน เตรียมตัวกันได้เลย "ไทยรัฐออนไลน์" เป็นกำลังใจให้ทุกคน ได้เดินทางตามความฝันของตัวเอง.

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/461440

Read More...


TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน

วิศวกรออกแบบระบบฯ, เภสัชกร, ล่ามแปลภาษา, บรรณาธิการสื่อออนไลน์ งานอาชีพที่ติดอันดับรายได้สูงที่สุดในจีน (ภาพไชน่าเดลี)
       ไชน่าเดลี เผย 10 งานอาชีพรายได้สูงที่สุดในจีนเวลานี้ โดยเว็บไซต์ YJBS.com ระบุว่า ขณะนี้งานอาชีพที่มีอนาคตที่ดีในตลาดแรงงานจีน ด้วยมีความต้องการแรงงานสูง และรายได้งามนั้น 10 อันดับแรกมีดังต่อไปนี้
TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน
10. สายงานอุตสาหกรรมผลิตยา รายได้ 60,000 หยวนขึ้นไป / ต่อปี
       10. สายงานอุตสาหกรรมผลิตยา
       รายได้ขั้นต่ำ 60,000 หยวนขึ้นไป / ต่อปี 
       ในบรรดาผู้ศึกษาด้านการแพทย์และเภสัชฯนั้น พบว่า มีสัดส่วนของผู้สำเร็จการศึกษาที่เลือกทำงานในอุตสาหกรรมผลิตยา ที่นับวันจะมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ
TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน
9. สายงานธุรกิจขนส่ง ลอจิสติกส์ รายได้ 70,000 - 100,000 หยวน/ ต่อปี
       9. สายงานธุรกิจขนส่ง ลอจิสติกส์
       รายได้ขั้นต่ำ 70,000 - 100,000 หยวน/ ต่อปี
       ธุรกิจการจัดการโลจิสติกส์ หรือ ลอจิสติกส์ (logistics) เป็นระบบการจัดการการส่งสินค้า ข้อมูล และทรัพยากรอย่างอื่นจากจุดต้นทางไปยังจุดบริโภคตามความต้องการของลูกค้า ขณะที่เทคโนโลยีซื้อขายออนไลน์ได้เติบโตมาก ผู้ประกอบการขนส่งจึงได้รับอานิสงค์อย่างมหาศาลไปด้วย อย่างไรก็ตาม ในประเทศจีนนั้้น ยังมีผู้ทำงานด้านนี้ที่สำเร็จการศึกษาโดยตรงเพียงสัดส่วนที่ร้อยละ 21 เท่านั้น จึงยังมีที่ว่างสำหรับบัณฑิตใหม่ใฝ่อนาคตอีกมาก
TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน
8. สายงานวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม รายได้ 80,000 - 100,000 หยวน/ ปี
       8. สายงานวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม
       รายได้ขั้นต่ำ 80,000 - 100,000 หยวน/ ปี
       การพัฒนาอุตสาหกรรมของจีนได้มีผลกระทบกับทรัพยากรธรรมชาติ และก่อมลภาวะมากมาย รัฐบาลจีนจึงมีวาระแห่งชาติ ให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ดังนั้น บุคลากรด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Engineering) ซึ่่งสามารถศึกษา วิเคราะห์ ออกแบบ ก่อสร้าง ควบคุมดูแลระบบเพื่อแก้ไขปัญหาทางสิ่งแวดล้อม เช่น มลภาวะทางน้ำ อากาศ เสียง ขยะ สารพิษอันตราย ฯลฯ จึงเป็นอีกตำแหน่งที่อย่างไรเสีย ไม่มีวันตกงาน หรือรายได้ต่ำ
TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน
7. ผู้เชี่ยวชาญพิธีการศุลกากร รายได้ 80,000 - มากกว่า 100,000 หยวน/ ปี - ภาพสตรีคนหนึ่งกำลังเลือกหาตำราในหมวดพิธีการศุลกากร
       7. ผู้เชี่ยวชาญศุลกากร
       รายได้ขั้นต่ำ 80,000 - มากกว่า 100,000 หยวน/ ปี
       เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ได้รับอานิสงค์จากการเปิดตลาดค้าขายสู่โลกกว้าง ของจีนเช่นเดียวกับสายงานด้านลอจิสติกส์ โดยผู้ประกอบการซึ่งผลิตสินค้ายังคงต้องพึ่งพาคนกลางที่ประสานพิธีการ ศุลกากรอันจุกจิก และมักมีปัญหาเฉพาะหน้าให้แก้ไขนั่นเอง
TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน
6. ผู้ตรวจสอบบัญชี รายได้มากกว่า 100,000 หยวน/ ปี - ภาพซุ้มนิทรรศการงานอาชีพ ผู้ตรวจบัญชีฯ ในจีน
       6. ผู้ตรวจสอบบัญชี
       รายได้ขั้นต่ำมากกว่า 100,000 หยวน/ ปี
       มีผู้กล่าวว่า งานด้านบัญชีนั้นอย่างไรเสียก็ตกงานยาก เพราะไม่ว่ากิจการห้างร้านที่รุ่งเรืองหรือล้มละลาย คนที่จะถูกไล่ออกคนสุดท้ายคือคนทำบัญชี ขณะที่การค้าจีนรุ่งเรือง ผู้ให้บริการทางการบัญชี ซึ่งสามารถดูแลการทำบัญชี และการตรวจสอบบัญชี การตรวจสอบ การรับรองความถูกต้อง และความครบถ้วนในการทำบัญชี และเอกสารทางการเงินได้ยิ่งต้องเป็นที่ต้องการตลอดกาล
TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน
5. บรรณาธิการออนไลน์ รายได้ 100,000 - 120,000 หยวน/ ปี
       5. บรรณาธิการออนไลน์
       รายได้ขั้นต่ำ 100,000 - 120,000 หยวน/ ปี
       ด้วยการเติบโตของวัฒนธรรมสื่อรุ่นใหม่ ทำให้ปัญหาให้ของการป้อนข้อมูลข่าวสารอย่างมีประสิทธิภาพตามช่องทางจำนวนมาก ที่เปิดกว้าง กำลังเป็นพื้นที่ใหญ่ให้ผู้มีความสามารถด้านการเรียบเรียงเนื้อหา ข้อมูลสำหรับผู้รับสาร และนี่คืองานของบรรณาธิการออนไลน์ และนักข่าวนักเขียนออนไลน์ทั้งหลาย
TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน
4. นักคณิตศาสตร์ประกันภัย รายได้ขั้นต่ำ 120,000 - มากกว่า 150,000 หยวน / ปี (ภาพนายเว่ย อิ่งหนิง นายกสมาคมผู้ตรวจสอบบัญชีแห่งชาติจีน ขณะร่วมลงนามกับนายโรนัลด์ โบวี่ ประธานสถาบันผู้ตรวจสอบบัญชี ในกรุงปักกิ่ง (ภาพจากแฟ้มซินหวา)
       4. นักคณิตศาสตร์ประกันภัย
       รายได้ขั้นต่ำ 120,000 - มากกว่า 150,000 หยวน / ปี
       นักคณิตศาสตร์ประกันภัย (actuary) ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอดอาชีพที่มีรายได้ดีที่สุด โดยผู้ทำอาชีพด้านนี้มีความเชี่ยวชาญในการประเมินผลกระทบและความเสี่ยงทาง ด้านการเงินจากความไม่แน่นอนในอนาคต อันเป็นหลักการทำธุรกิจที่สำคัญของทุกบริษัทประกันฯ ซึ่งเป็นกลุ่มกิจการที่ขยายเติบโตอย่างมากในจีนจนคาดว่าอีกไม่กี่ปี จีนจะเป็นตลาดประกันภัยที่ใหญ่โตมหาศาลที่สุดในโลก
TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน
3. วิศวกรผู้ออกแบบ และดูแลระบบฯ รายได้ขั้นต่ำ 100,000 - 200,000 หยวน/ปี
       3. วิศวกรผู้ออกแบบ และดูแลระบบฯ
       รายได้ขั้นต่ำ 100,000 - 200,000 หยวน/ปี
       ผู้ทำงานด้านนี้ต้องการคนหัวพิเศษที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวางระบบ ต่างๆ ที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึง รวมทั้งดูแลรักษาระบบข้อมูลอันเป็นสิ่งจำเป็นของทุกองค์กร โดยบัณฑิตจบใหม่ ยังไม่มีประสบการณ์ ก็รับไปก่อนเลยไม่ต่ำกว่า 80,000 ต่อปี
TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน
2. วิศวกรเทคโนโลยี 3จี รายได้ขั้นต่ำ 200,000 หยวนขึ้นไป /ปี
       2. วิศวกรเทคโนโลยี 3จี
       รายได้ขั้นต่ำ 200,000 หยวนขึ้นไป /ปี
       เนื่องจากเทคโนโลยี 3จี เป็นเสมือนโครงสร้างใหม่แห่งการสื่อสารของโลกทุกวัน ดังนั้น ผู้ประกอบการต่างต้องการพัฒนาซอฟตแวร์โปรแกรมต่างๆ เพื่อใช้กับเทคโนโลยีนี้ และชิงความได้เปรียบทางธุรกิจเหนือคู่แข่งฯ
TOP 10 อาชีพอะไร รายได้สูงที่สุดในจีน
1. ล่ามแปลภาษา รายได้ขั้นต่ำ 300,000 - มากกว่า 400,000 หยวน/ ปี
       1. ล่ามแปลภาษา
       รายได้ขั้นต่ำ 300,000 - มากกว่า 400,000 หยวน/ ปี
       เมื่อตะวันออกเปิดประตูสู่ตะวันตก ตำแหน่งงานของล่ามสำหรับสื่อสารกับชาวต่างชาติ นับเป็นงานที่มีรายได้ต่อชั่วโมงสูงที่สุดในจีนเวลานี้ (ไม่ต่ำกว่า 4,000 - 8,000 หยวน/ ชั่วโมง) อีกทั้งมีงานให้เลือกทำอย่างมากมาย โดยล่ามภาษาซึ่งมีความสามารถในการแปลแบบฉับพลัน หรือล่ามสดนี้ รายได้จะดีเพียงใดขึ้นอยู่กับภาษาและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านซึ่งลูกค้าต้อง การ ตั้งแต่เรื่องธุรกิจการค้าทั่วไป ตลอดจนถึงการสื่อสารที่ต้องใช้ศัพท์เทคนิค และความรู้ความเข้าใจเฉพาะ เช่น ล่ามในศาลยุติธรรม ล่ามในการเจรจาธุรกิจที่มีความซับซ้อน ฯลฯ

credit by : http://www2.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9570000101025

Read More...


หลักสูตรความรู้ด้านอาหาร ‘ชาวสตูล’ นำร่องเสริมความเข้มแข็งให้ชุมชน








การที่เราจะสร้างชุมชนให้เข้มแข็งนั้นต้องพัฒนาจากรากฐานของ ชุมชนนั้น ๆ ให้สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ดังเช่น “โครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชน” ของวิทยาลัยชุมชน ซึ่งถือเป็นโครงการนำร่องที่มีการจัดทำหลักสูตรเพื่อพัฒนาชุมชนด้วยการลง พื้นที่ศึกษาข้อมูลและภูมิปัญญาจากชาวบ้านจนสามารถพัฒนามาเป็นหลักสูตรที่ ช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้ชาวบ้านในชุมชน นอกจากจะอยู่กินอย่างสุขสบายแล้วยังมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวที่จะ มาท่องเที่ยวในชุมชนสร้างรายได้เลี้ยงชุมชนอีกด้วย

ทั้งนี้ รศ.ดร.ชวนี ทองโรจน์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น ให้ความรู้ถึงภาพรวมของโครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็ง ชุมชนว่า การศึกษาชุมชนเป็นสิ่งสำคัญเพราะจะทราบว่าชุมชนใดมีความเข้มแข็งตรงไหน และส่วนที่ชุมชนต้องการเสริมหรือพัฒนาคืออะไร การที่ทางวิทยาลัยชุมชนลงไปศึกษาวิจัยข้อมูลและองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่มีในชุมชน แล้วนำมาใช้วิธีการจัดการความรู้เข้าไปช่วยจะทำให้ประมวลได้ว่าจริง ๆ แล้วควรจะทำหลักสูตรออกมาเรื่องอะไรบ้างหรือว่ารูปแบบไหนบ้างเพื่อสนองความ ต้องการของชุมชนนั้น ๆ

การจัดการศึกษาแบบวิทยาลัยชุมชนไม่ใช่ว่าทำหลักสูตรขึ้นมาแล้วใช้แบบนั้นไป เหมือนกันหมดทั่วประเทศ แต่หลักสูตรนั้นจะเหมาะกับชุมชนนั้น ๆ แล้วชาวบ้านสามารถนำไปใช้ได้จริง ในขณะเดียวกันบางหลักสูตรอาจจะเป็นเรื่องของนโยบายระดับประเทศว่ายุทธศาสตร์ ของประเทศจะไปทางไหน ความต้องการมีอะไรบ้าง เช่น เราจะเป็นสังคมของผู้สูงอายุในอนาคตต้องมีเรื่องของการจัดการการดูแลที่ถูก ต้องเหมาะสมเพื่อทำให้คุณภาพของผู้สูงอายุนั้นดีต่อไป อาจจะมีหลักสูตรของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ

โครงการนี้ทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 และจะทำต่อเนื่องไปในปีถัดไปด้วย เบื้องต้นได้ข้อมูลมาแล้วระดับหนึ่งเพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าส่วนที่จะเป็นความ เข้มแข็งเป็นองค์ความรู้แต่ละพื้นที่ที่ไปศึกษามามีอะไรบ้าง ซึ่งมีประมาณ 6 สาขา ได้แก่1. การจัดการความรู้ด้านเกษตร 2. การจัดการความรู้เพื่อจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชน การจัดการความรู้เพื่อสืบสานวัฒนธรรม 3. การจัดการความรู้เรื่องผ้าพื้นเมือง 4. การจัดการความรู้ด้านอาหาร5. การจัดการความรู้เพื่อดูแลผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ด้อยโอกาส และ 6. การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งจะทำเป็นลักษณะของหลักสูตรฐานสมรรถนะ เพื่อจัดการเรียนการสอนในลักษณะนั้น

วิทยาลัยชุมชนสตูล เป็นหนึ่งในวิทยาลัยชุมชนจากทั้งหมด 20 วิทยาลัยชุมชนที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการจัดการความรู้ด้านอาหาร ปัจจุบันสภาพพื้นที่ของจังหวัดมีความอุดมสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพยากร วัตถุดิบทั้งทางบกและทางนํ้า รวมทั้งพืชผัก ประกอบกับด้านวิถีชีวิตวัฒนธรรมทางด้านอาหารค่อนข้างเด่นชัด แต่ปัญหาคือ ณ วันนี้พวกวัฒนธรรมเหล่านั้นแทบจะไม่มีคนมาสืบสานต่อยอด

นำชัย กฤษณาสกุล ผอ.วิทยาลัยชุมชนสตูล กล่าวว่า จังหวัดสตูลเป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่เพิ่งเปิดจังหวัดทำการท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญ คือต้องมีแหล่งท่องเที่ยวที่ดี มีอาหารที่อร่อย มีที่พักที่สบาย และมีของที่ระลึก โดยทางวิทยาลัยชุมชนได้เล็งถึงว่าทำอย่างไรให้เกิดรายได้และกระจายรายได้ จึงจับเรื่องของการท่องเที่ยวโดยชุมชนทำร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และรับผิดชอบในพื้นที่ทั้งหมด 26 ชุมชนในระยะเวลา 2 ปี การดำเนินงานจึงเข้าไปอบรมชุมชนเหล่านี้เพื่อยกระดับการท่องเที่ยว พร้อมจัดหาของโอทอปมาเป็นของฝากด้วย

อย่างไรก็ตามเท่าที่ลงพื้นที่พบว่าเกือบทุกพื้นที่แทบจะรับนักท่องเที่ยวไม่ ได้เลย เพราะชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและเกษตรกรดั้งเดิม ชาวบ้านจึงไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกนักท่องเที่ยวในเรื่องของอาหารการกิน ซึ่งอาหารของสตูลมีความโดดเด่นหลายอย่าง ทางวิทยาลัยเข้าไปประยุกต์สูตรอาหาร หลักสูตรดั้งเดิม และนำเข้าไปพัฒนาในชุมชนสิ่งที่ชาวบ้านได้มี 2 ส่วน คือสร้างเชฟหรือกุ๊กไปอยู่กับผู้ประกอบการและบางคนไปเปิดร้านตัวเองในชุมชน เพื่อยกระดับให้ชุมชนสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ เพราะนักท่องเที่ยวบางคนไม่กล้ารับประทานกลัวอาหารไม่สะอาดเพียงพอ อีกทั้งหลายชุมชนยังทำอาหารแบบไม่ทราบรสนิยมของนักท่องเที่ยว เราจึงพยายามต้องเข้าไปช่วยสอนและปรับให้ในเรื่องของรสนิยม เรื่องของการปรุงอาหาร และสิ่งที่จะไปต่อคือ หลักสูตร เกี่ยวกับโฮมสเตย์และที่พัก

อาหารสตูลที่มีความโดดเด่น มีการบันทึกไว้อยู่ในสารานุกรมส่วนใหญ่เป็นอาหารที่มีวัตถุดิบทางทะเล และแกงที่ใช้เครื่องเทศแบบกึ่งอินโดนีเซีย ไทย อินเดีย เพราะเนื่องจากภูมิภาคนี้เมื่อก่อนมีคนอพยพมาจากทางนั้นจำนวนมาก เช่น มุสลิมมาจากทางอินโดนีเซีย อินเดีย และมาเลเซียตอนเหนือ และชาวจีนที่อยู่ในมาเลเซีย อาหารจึงเป็นลักษณะผสมผสานกับมุสลิม แบ่งเป็นหลักสูตร ได้แก่ อาหารพื้นเมือง อาหารท้องถิ่นยอดนิยม เป็นหลักสูตรที่จัดออกมาเป็นเมนูต่าง ๆ เช่น มุสลิมต้องการเรียนเรื่องของแกงมุสลิมที่คนนิยม เช่น แกงมัสมั่น แกงกุละมา แกงตอเมะ เป็นหลักสูตรระยะสั้น ซึ่งเป็นในมิติที่เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน

หลังจากจัดการความรู้และฝึกอบรม แล้วชาวบ้านเริ่มตื่นตัวในเรื่องการท่องเที่ยวในชุมชน ถึงแม้จะยังไม่ได้เปิดร้านอาหารเป็นของตัวเองก็ตาม แต่เราจะเข้าไปอบรมเรื่องการรวมกลุ่มให้สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ คาดว่าใน 2 ปีนี้ทั้ง 26 ชุมชนจะสามารถทำเป็นแพ็กเกจทัวร์ มีทั้งเที่ยวบนบกและทางทะเลได้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ชาวบ้านต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เพราะเมื่อก่อนชาวบ้านได้รายได้จากการรับจ้าง และทำสวนยางบ้าง ปัจจุบันที่ดินส่วนหนึ่งขายไปให้ลูกเรียน เป็นช่วงที่รายได้ไม่พอจ่าย เราจึงสามารถปรับเปลี่ยนชาวบ้านได้ วิทยาลัยชุมชนจึงถือว่าเรื่องการเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนเป็นพันธกิจ หนึ่งที่ต้องทำงานอย่างต่อเนื่องจึงจะเห็นว่ายกระดับชุมชนได้จริง สามารถเปลี่ยนแปลงรายได้ของชาวบ้านได้

จุฑารัตน์ บิลังโหลด วิทยากรขนมพื้นเมือง ชาวบ้านชุมชนสี่แยกคอกเป็ด เล่าว่า ในชุมชนมีชาวบ้านสนใจเรียนหลัก สูตรขนมพื้นเมืองจำนวน 20 คน บางคนอยากเรียนเพราะบรรพบุรุษมีความรู้เรื่องขนมพื้นเมือง บางคนอยากสานต่อวิธีการทำขนมพื้นเมือง และบางคนอยากทำขายในตลาดเพื่อสร้างรายได้ หลังจากเรียนจบแล้วเราสามารถสร้างเป็นอาชีพและรวมกลุ่มช่วยกันทำส่งขายตาม ตลาด รับจ้างทำขนมตามงานเทศกาลต่าง ๆ ส่งผลให้รายได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เดือนหนึ่งตกประมาณหลักหมื่น จากที่แต่ก่อนมีรายได้ไม่แน่นอน ซึ่งขนมพื้นเมืองของสตูล ได้แก่ ปาดะ ไข่หงส์ กะหรี่ปั๊บ อาปม (ขนมถ้วยฟู) ปาโหลด (ไข่เต่า) นอกจากขายในจังหวัดสตูลแล้วยังส่งไปขายยังหาดใหญ่ด้วย

กัลยรัตน์ สหับดิน ประธานกลุ่มข้าวเกรียบปูนิ่ม ชุมชนหัวทาง เปิดเผยว่า มีสมาชิกทั้งหมด 53 คน จาก 3 ชุมชน คือชุมชนหัวทาง โคกพะยอม ท่านายเนาว์ ทั้ง 3 ชุมชนเป็นพื้นที่ติดเขตชายเลน ทะเลฝั่งอันดามัน จึงมีอาชีพประมงโดยเฉพาะการเลี้ยงปูนิ่มเพื่อส่งให้พ่อค้าคนกลางจัดส่งไปยัง ตลาดหรือร้านอาหาร ต่อมาชุมชนมีการท่องเที่ยวเชิงระบบนิเวศเข้ามา ชักจูงนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวใน 3 ชุมชน จึงคิดว่าการเลี้ยงปูนิ่มทำแทบทุกครัวเรือน ทำอย่างไรจะเพิ่มรายได้จากการนำปูนิ่มที่คัดแล้ว (ตัวที่ไม่ได้มาตรฐาน) มาเพิ่มมูลค่าในการทำเป็นสินค้าโอทอปของชุมชน ทางวิทยาลัยชุมชนจึงจัดฝึกอบรมการทำข้าวเกรียบปูนิ่ม ซึ่งเป็นสูตรการทำปูนิ่มที่ได้มาตรฐานสอดคล้องกับสภาพท้องถิ่นและวิถีชีวิต ของคนในชุมชน ซึ่งข้าวเกรียบปูนิ่มถือเป็นหนึ่งเดียวในโลกที่ยังไม่มีใครคิดสูตร จึงได้มีการจดลิขสิทธิ์เอาไว้แล้วด้วย

ด้าน จามรี หลังลีงู ชาวบ้านตำบลสาคร กล่าวว่า เรารวมตัวกันเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อทำเบเกอรี่หลากหลายประเภทหลายชนิด ส่งขายตามร้านค้า โรงเรียน ตลาด ส่วนขนมไทยก็วางขายในตลาด ทุกคนอยากเรียนทำเบเกอรี่เพราะเป็นขนมที่รับประทานได้ทุกโอกาส เป็นหลักสูตรระยะสั้นของทางวิทยาลัยชุมชนที่ช่วยเพิ่มพูนความรู้ หลังจากเรียนจบแล้วทางกลุ่มจะรวมเงินกันซื้อเตาอบเพื่อมาทำขนมเบเกอรี่ ได้แก่ ขนมปังอบไส้ถั่วแดง ขนมเค้ก ขนมคุกกี้ ส่วนขนมไทย ได้แก่ ตะโก้ ขนมชั้น หม้อแกง หลายคนชอบแต่งหน้าเค้ก เพราะสนุกและมีความสุข แถมได้รายได้เพิ่มด้วย ทุกวันนี้จึงสามารถหาเงินส่งเสียให้ลูกเรียนหนังสือได้แบบสบาย ๆ ถึงแม้สามีจะเสียชีวิตไปแล้วแต่ก็ไม่ได้ลำบากอะไรเพราะเรามีความรู้ที่นำมา แปรเปลี่ยนเป็นรายได้

ดังนั้น โครงการจัดการความรู้เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งชุมชนของวิทยาลัย ชุมชน จึงถือเป็นโครงการนำร่องที่ช่วยเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็งอย่างแท้จริง อีกทั้งยังช่วยสืบสานภูมิปัญญาของชาวบ้านในท้องถิ่นให้คงอยู่ยั่งยืนคู่กับ ชุมชนไปพร้อม ๆ กับการสร้างรายได้อย่างแท้จริง.
“วิทยาลัยชุมชนสตูล เป็นหนึ่งในวิทยาลัยชุมชนจากทั้งหมด 20 วิทยาลัยชุมชนที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการจัดการความรู้ด้านอาหาร ปัจจุบันสภาพพื้นที่ของจังหวัดมีความอุดมสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพยากร วัตถุดิบทั้งทางบกและทางนํ้า รวมทั้งพืชผัก ประกอบกับวิถีชีวิตวัฒนธรรมทางด้านอาหารค่อนข้างเด่นชัด แต่ปัญหาคือ ณ วันนี้พวกวัฒนธรรมเหล่านั้นแทบจะไม่มีคนมาสืบสานต่อยอด”
รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในวิทยาลัยชุมชน
การจัดการการเรียนรู้ในวิทยาลัยชุมชน ประกอบด้วยรูปแบบที่สำคัญ 3 ประการ คือ รูปแบบที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่นชุมชน (TRACK วิทยาลัยชุมชน) การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาท้องถิ่น ชุมชน เน้นการพัฒนาต่อยอดจากประสบการณ์ของวิทยาลัยชุมชนในโครงการจัดการความรู้ เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน โดยปรับปรุงให้มีรูปแบบการดำเนินการที่ชัดเจนและสอดคล้องกับการจัดการศึกษา เพื่อประกอบอาชีพ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือ พัฒนาหรือยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน โดยออกแบบการจัดการศึกษาตอบสนองความต้องการของชุมชนและท้องถิ่น สร้างผู้ประกอบการ ส่งเสริมรายได้ ความสงบและสันติสุขในชุมชน

รูปแบบที่ 2 การจัดการศึกษาเพื่อการประกอบอาชีพ (TRACK อาชีพ) หมายถึงการพัฒนากำลังคนในชุมชนและท้องถิ่น มุ่งสู่การประกอบอาชีพที่มีการศึกษาวิเคราะห์และวางแผนความต้องการกำลังคน ที่ชัดเจน ซึ่งไม่ได้มุ่งหวังอนุปริญญาหรือประกาศนียบัตร แต่มุ่งให้เกิดความรู้ ทักษะ สามารถประกอบอาชีพในอนาคตได้  โดยมี 2 ระดับ ได้แก่ 1.หลักสูตรการพัฒนาอาชีพเพื่อตอบสนองความต้องการการพัฒนาประเทศ และ 2.หลักสูตรการพัฒนาอาชีพเพื่อตอบสนองความต้องการในชุมชน ท้องถิ่น

รูปแบบที่ 3 การจัดการศึกษาระดับอนุปริญญา (TRACK อนุปริญญา) มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเตรียมความพร้อมของนักศึกษาเพื่อศึกษาต่อในระดับ ปริญญา จึงต้องมีการปรับปรุงคุณภาพ มาตรฐานและกำหนดกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอนุปริญญาให้ชัดเจน สร้างอัตลักษณ์บัณฑิตวิทยาลัยชุมชน จัดระบบการเทียบโอนผลการศึกษาจากระบบการศึกษาและฝึกอบรมของวิทยาลัยชุมชน เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ระบบวิทยาลัยชุมชนให้มากที่สุด.
ทีมวาไรตี้

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/136394/หลักสูตรความรู้ด้านอาหาร+‘ชาวสตูล’+นำร่องเสริมความเข้มแข็งให้ชุมชน

Read More...


มอบของขวัญ ‘ขนมไทย’ เลือกซื้อถูกหลัก ช่วยเสริมเศรษฐกิจ

 

ปีใหม่หรือเทศกาลต่างๆ คนไทยมักมอบของขวัญเป็นขนมให้กันอยู่เสมอ แต่น่าเสียดายที่ขนมส่วนใหญ่นั้นนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งที่ความจริงแล้ว ขนมไทยถือเป็นสื่อแทนใจที่ใกล้ตัว และมีความหมายมาตั้งแต่โบราณ 
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม อาจารย์ประจำสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ให้ความเห็นถึงคุณค่าของขวัญที่เป็นขนมไทยว่า ขนมไทยตอบโจทย์คนไทยและช่วยในการอนุรักษ์ ทำให้คนไทยมีรายได้หมุนเวียน ปัจจุบันคนทำขนมไทยหายากเพราะไม่มีคนต่อ
ยอด ที่ผ่านมาเมื่อมีเทศกาล คนไทยจะนำขนมต่างชาติเข้ามาให้กันแทนขนมไทย เกิดจากค่านิยมทำให้ขนมต่างประเทศมีบทบาทมากขึ้น ด้วยคนไทยมองว่าของต่างประเทศดูดีมีราคา แล้วยังมีความรู้สึกว่าทำให้ตัวเองมีความทันสมัย
“คนที่ได้รับจะดีใจที่ได้ของต่างประเทศทำให้ตัวเองดูดี แต่หารู้ไม่ว่าทำให้เราเสียเปรียบทางการเงิน แต่ถ้าเราใช้ของไทยจะทำให้เงินตราไหลเวียนอยู่ในประเทศมากขึ้น”
ถ้ามองตั้งแต่อดีตขนมต่างประเทศเข้ามาเมื่อสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขนมที่นำเข้ามาส่วนใหญ่ทำด้วยแป้งสาลีและน้ำตาลทราย อิทธิพลเหล่านี้ได้มาจากการค้าขายกับต่างประเทศ คนไทยสมัยนั้นได้เรียนรู้การทำขนม ทั้งด้านวัตถุดิบการทำขนม และมีการพัฒนามาถึงปัจจุบัน
จริง ๆ แล้วขนมที่มอบเป็นของขวัญคนไทยมีมาช้านานตั้งแต่สมัยสุโขทัย เวลาเราไปไหนจะเอาของไปฝากกัน โดยเฉพาะของไทย ๆ ที่เราปลูกหรือผลิตเองในบ้านมาแลกเปลี่ยน เช่น กับข้าว ขนม ของที่ระลึก ซึ่งในเทศกาลปีใหม่ก็มีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
การให้ของเด็กควรให้ผู้ใหญ่ เพราะคนไทยสมัยก่อนสอนเด็กให้รู้จักการอ่อนน้อมถ่อมตน การมอบของที่ให้แล้วรู้สึกสบายใจ ผู้ใหญ่จะรู้สึกได้รับการแบ่งปัน หลังจากนั้นผู้ใหญ่จะให้พรแก่เด็กกลับมา การที่เราได้รับพรในวันปีใหม่ทำให้รู้สึกว่าสดชื่น และได้อะไรใหม่ ๆ มาในชีวิต
ขนมไทยที่คนสมัยก่อนนิยมให้กันในวาระยินดีต่าง ๆ เช่น การเลื่อนยศ โดยขนมที่มอบให้ต้องมีความหมาย อย่าง ขนมชั้นความหมายคือ การเลื่อนขั้น สมัยก่อนนิยมทำกัน 9 ชั้น เพราะการเป็นคหบดีเป็นชั้นระดับ 9 สูงสุดและเป็นมงคลในการก้าวหน้า อีกขนมคือ จ่ามงกุฎ มีความหมายว่าหนึ่งเดียวที่มีความหมายสูงสุด
ขนมทองเอก ความหมายคือทองเป็นสิ่งที่มีค่าและยิ่งเป็นเอกหมายถึงหนึ่งเดียวที่มีค่ามาก หรือขนมทองม้วน หมายถึง ทองต่าง ๆ ที่ม้วนเก็บไว้ในบ้านเรา เช่นเดียวกับขนมทองพับที่หมายความว่ามีทองพับไว้ในบ้านเรา
ขนมที่ชื่อทองต่าง ๆ โดยเฉพาะทองหยิบคือ หยิบเงินหยิบทอง ขนมทองหยอดคือ หยอดเงินหยอดทอง ขนมฝอยทองคือ เส้นไหมแพรพรรณ ที่สมัยก่อนมีเส้นทางค้าขายเส้นไหมต่าง ๆ ขนมที่ชื่อทองต่าง ๆ ถือว่าเป็นสิ่งมงคลหมายถึงทองที่คนได้รับแล้วมีความเจริญมั่งคั่ง
ขนมถ้วยฟู หมายถึงมีชื่อเสียงไปไกลและเฟื่องฟู ส่วนใหญ่ขนมที่คนไทยนิยมให้กันเน้นชื่อเป็นมงคลเป็นหลักใหญ่ ขณะที่ขนมแห้ง ๆ อย่างทองพลุหมายถึง ชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตก
สมัยก่อนขนมที่ให้ไปไม่คำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการ แต่คำนึงถึงชื่อเป็นหลัก แต่ปัจจุบันคนรักษาเรื่องสุขภาพมากขึ้น เพราะสมัยก่อนขนมส่วนใหญ่
ทำจากวัตถุดิบอย่างไข่ โดยเฉพาะบางชนิดทำจากไข่แดงล้วน ๆ ทำให้มีคอเลสเตอรอลสูงหรือบางอย่างมีแป้งสูงเกินไป
ดังนั้นการให้ขนมไทยปัจจุบันควรเลือกดังนี้ 1.ไม่หวานมาก ไม่มันมาก 2.วัตถุดิบที่นำมาใช้ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่การทานขนมไทยต้องอยู่ในปริมาณเหมาะสม โดยเฉพาะคนรับและคนให้ต้องรู้ว่าคนที่รับมีโรคประจำตัวอะไร และอะไรที่ไม่เหมาะสมในการทานมากเกินไป ไม่ใช่เขาให้มาก็อยากกินไปหมด
คนที่ให้ขนมไทยต้องมีความรู้คือ 1.ไม่ควรให้ขนมสดทั้งหมด แต่ควรมีขนมแห้ง ๆ ที่เก็บไว้กินได้หลายวันด้วย เช่น ทองม้วน ขนมผิง อาลัว ฝอยทองกรอบ โดยการมอบขนมไทยให้หนึ่งตะกร้าควรมีความหลากหลาย มีทั้งของที่เก็บไว้ได้หลายวัน และของที่เก็บได้แค่วันเดียว
ถ้าหากผู้รับมีโรคประจำตัว ขนมทองหยิบ ทองหยอด อาจจัดให้น้อยลง แต่ไปให้ขนมแห้ง ๆ เช่น ทองม้วน หรือขนมที่ไม่หวานมาก หรือขนมประเภทกวนที่อยู่ได้หลาย ๆ วัน เช่น สับปะรดกวน
ขนมไทยส่วนใหญ่ให้ด้านสุขภาพกับคนทาน แต่ต้องอยู่ในปริมาณเพียงพอ คนที่รับต้องรู้ตัวเองด้วยว่าอะไรที่ต้องหลีกเลี่ยงเช่น เป็นเบาหวานขนมที่มีน้ำตาลมากต้องลด คนที่เป็นไขมันหรือคอเลสเตอรอลสูง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทองควรเลี่ยง
“ตัวอย่างเช่น หนึ่งตะกร้ามีทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และมีตะโก้ ขนมชั้น ขนมผิง ทองม้วน ข้าวตู มะม่วงกวน ขนมเปี๊ยะ ครองแครงกรอบ เพื่อให้ผู้รับเก็บไว้กินได้หลายวัน”
ขนมต่างประเทศเองให้โทษเหมือนกัน เช่น คุกกี้ ขนมเค้ก มีเนยที่เป็นไขมันสูง และยังมีแป้งกับไข่ แถมยังมีน้ำตาลอีกด้วย แต่คนให้ความนิยมกับขนมต่างประเทศมากกว่าขนมไทย ทั้งที่โทษมีเหมือนกัน บางอย่างมีโทษมากกว่าขนมไทยเสียอีก
ผู้ที่ได้รับแล้วต้องรู้ว่าต้องกินขนมอะไรที่จะเสียก่อน โดยค่อย ๆ กินเพื่อไม่ให้มีปัญหาต่อสุขภาพ ด้านความอร่อย คนซื้อนอกจากดูด้านชื่อเสียงแล้ว ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ เราสามารถดูได้จากสภาพร้านโดยทั่วไป ตลอดจนดูคนทำ และถ้ามีโอกาสลองมองไปหลังร้านว่ามีความสะอาดเหมาะสมหรือไม่
การจัดตะกร้าขนมไทย ถ้าขนมสด ๆ อันไหนไม่มีแพ็กเกจที่สวยอาจนำมาจัดลงตะกร้าด้วยการรองโดยใบตอง
เพื่อเพิ่มความเป็นไทย แล้วยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม หรือนำภาชนะที่คนรับสามารถเอาไปใช้ต่อได้ เช่น ขวดโหล ที่ผู้ใช้พอกินขนมหมดแล้วนำไปใช้ใส่ของต่อได้
ปัญหาเรื่องแพ็กเกจขนมไทย ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องมีความรู้ หากพัฒนาให้ดีจะทำให้ขนมไทยได้รับการยอมรับมากขึ้น ดูอย่างขนมของคนญี่ปุ่นที่เน้นบรรจุภัณฑ์สวยงาม ทั้งที่ขนมไม่มีอะไรมาก ขนมบางอย่างของไทยมีการจัดรูปทรงสวยอยู่แล้ว ถ้าได้บรรจุภัณฑ์ที่สวยเพิ่มเข้าไปอีกจะทำให้คนได้รับมีความรู้สึกดีมาก ขึ้น
ขนมไทยถือเป็นของขวัญที่น่าสนใจในการให้กับผู้ใหญ่ แต่ต้องควบคู่กับการดูแลสุขภาพพร้อมกันไปด้วย.
ทีมวาไรตี้

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/205232/ มอบของขวัญ+‘ขนมไทย’+เลือกซื้อถูกหลัก+ช่วยเสริมเศรษฐกิจ


Read More...


ของฝาก วิธีผูกผ้าพันคอ หน้าหนาว


วิธีผูกผ้าพันคอ แบบที่ 1 Loop-n-Through


วิธีผูกผ้าพันคอ แบบที่ 2 Loop-n-Through with knot


วิธีผูกผ้าพันคอ แบบที่ 3 Back Drape


วิธีผูกผ้าพันคอ แบบที่ 4 Double wrap


วิธีผูกผ้าพันคอ แบบที่ 5 Fashion knot


วิธีผูกผ้าพันคอ แบบที่ 6 Knot twist and drape (กำลังหัดผูกแบบนี้ไปม.อยู่เลย)


เห็นไหม  ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ  หนาวๆนี้อย่าลืมหาไอเทมเริ่ดมาสร้างความอบอุ่นและความสวยงามให้กับร่างกายกัน

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.