ปีใหม่หรือเทศกาลต่างๆ คนไทยมักมอบของขวัญเป็นขนมให้กันอยู่เสมอ
แต่น่าเสียดายที่ขนมส่วนใหญ่นั้นนำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งที่ความจริงแล้ว
ขนมไทยถือเป็นสื่อแทนใจที่ใกล้ตัว และมีความหมายมาตั้งแต่โบราณ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม
อาจารย์ประจำสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ให้ความเห็นถึงคุณค่าของขวัญที่เป็นขนมไทยว่า
ขนมไทยตอบโจทย์คนไทยและช่วยในการอนุรักษ์ ทำให้คนไทยมีรายได้หมุนเวียน
ปัจจุบันคนทำขนมไทยหายากเพราะไม่มีคนต่อยอด ที่ผ่านมาเมื่อมีเทศกาล คนไทยจะนำขนมต่างชาติเข้ามาให้กันแทนขนมไทย เกิดจากค่านิยมทำให้ขนมต่างประเทศมีบทบาทมากขึ้น ด้วยคนไทยมองว่าของต่างประเทศดูดีมีราคา แล้วยังมีความรู้สึกว่าทำให้ตัวเองมีความทันสมัย
“คนที่ได้รับจะดีใจที่ได้ของต่างประเทศทำให้ตัวเองดูดี แต่หารู้ไม่ว่าทำให้เราเสียเปรียบทางการเงิน แต่ถ้าเราใช้ของไทยจะทำให้เงินตราไหลเวียนอยู่ในประเทศมากขึ้น”
ถ้ามองตั้งแต่อดีตขนมต่างประเทศเข้ามาเมื่อสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขนมที่นำเข้ามาส่วนใหญ่ทำด้วยแป้งสาลีและน้ำตาลทราย อิทธิพลเหล่านี้ได้มาจากการค้าขายกับต่างประเทศ คนไทยสมัยนั้นได้เรียนรู้การทำขนม ทั้งด้านวัตถุดิบการทำขนม และมีการพัฒนามาถึงปัจจุบัน
จริง ๆ แล้วขนมที่มอบเป็นของขวัญคนไทยมีมาช้านานตั้งแต่สมัยสุโขทัย เวลาเราไปไหนจะเอาของไปฝากกัน โดยเฉพาะของไทย ๆ ที่เราปลูกหรือผลิตเองในบ้านมาแลกเปลี่ยน เช่น กับข้าว ขนม ของที่ระลึก ซึ่งในเทศกาลปีใหม่ก็มีการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
การให้ของเด็กควรให้ผู้ใหญ่ เพราะคนไทยสมัยก่อนสอนเด็กให้รู้จักการอ่อนน้อมถ่อมตน การมอบของที่ให้แล้วรู้สึกสบายใจ ผู้ใหญ่จะรู้สึกได้รับการแบ่งปัน หลังจากนั้นผู้ใหญ่จะให้พรแก่เด็กกลับมา การที่เราได้รับพรในวันปีใหม่ทำให้รู้สึกว่าสดชื่น และได้อะไรใหม่ ๆ มาในชีวิต
ขนมไทยที่คนสมัยก่อนนิยมให้กันในวาระยินดีต่าง ๆ เช่น การเลื่อนยศ โดยขนมที่มอบให้ต้องมีความหมาย อย่าง ขนมชั้นความหมายคือ การเลื่อนขั้น สมัยก่อนนิยมทำกัน 9 ชั้น เพราะการเป็นคหบดีเป็นชั้นระดับ 9 สูงสุดและเป็นมงคลในการก้าวหน้า อีกขนมคือ จ่ามงกุฎ มีความหมายว่าหนึ่งเดียวที่มีความหมายสูงสุด
ขนมทองเอก ความหมายคือทองเป็นสิ่งที่มีค่าและยิ่งเป็นเอกหมายถึงหนึ่งเดียวที่มีค่ามาก หรือขนมทองม้วน หมายถึง ทองต่าง ๆ ที่ม้วนเก็บไว้ในบ้านเรา เช่นเดียวกับขนมทองพับที่หมายความว่ามีทองพับไว้ในบ้านเรา
ขนมที่ชื่อทองต่าง ๆ โดยเฉพาะทองหยิบคือ หยิบเงินหยิบทอง ขนมทองหยอดคือ หยอดเงินหยอดทอง ขนมฝอยทองคือ เส้นไหมแพรพรรณ ที่สมัยก่อนมีเส้นทางค้าขายเส้นไหมต่าง ๆ ขนมที่ชื่อทองต่าง ๆ ถือว่าเป็นสิ่งมงคลหมายถึงทองที่คนได้รับแล้วมีความเจริญมั่งคั่ง
ขนมถ้วยฟู หมายถึงมีชื่อเสียงไปไกลและเฟื่องฟู ส่วนใหญ่ขนมที่คนไทยนิยมให้กันเน้นชื่อเป็นมงคลเป็นหลักใหญ่ ขณะที่ขนมแห้ง ๆ อย่างทองพลุหมายถึง ชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตก
สมัยก่อนขนมที่ให้ไปไม่คำนึงถึงคุณค่าทางโภชนาการ แต่คำนึงถึงชื่อเป็นหลัก แต่ปัจจุบันคนรักษาเรื่องสุขภาพมากขึ้น เพราะสมัยก่อนขนมส่วนใหญ่
ทำจากวัตถุดิบอย่างไข่ โดยเฉพาะบางชนิดทำจากไข่แดงล้วน ๆ ทำให้มีคอเลสเตอรอลสูงหรือบางอย่างมีแป้งสูงเกินไป
ดังนั้นการให้ขนมไทยปัจจุบันควรเลือกดังนี้ 1.ไม่หวานมาก ไม่มันมาก 2.วัตถุดิบที่นำมาใช้ต้องไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่การทานขนมไทยต้องอยู่ในปริมาณเหมาะสม โดยเฉพาะคนรับและคนให้ต้องรู้ว่าคนที่รับมีโรคประจำตัวอะไร และอะไรที่ไม่เหมาะสมในการทานมากเกินไป ไม่ใช่เขาให้มาก็อยากกินไปหมด
คนที่ให้ขนมไทยต้องมีความรู้คือ 1.ไม่ควรให้ขนมสดทั้งหมด แต่ควรมีขนมแห้ง ๆ ที่เก็บไว้กินได้หลายวันด้วย เช่น ทองม้วน ขนมผิง อาลัว ฝอยทองกรอบ โดยการมอบขนมไทยให้หนึ่งตะกร้าควรมีความหลากหลาย มีทั้งของที่เก็บไว้ได้หลายวัน และของที่เก็บได้แค่วันเดียว
ถ้าหากผู้รับมีโรคประจำตัว ขนมทองหยิบ ทองหยอด อาจจัดให้น้อยลง แต่ไปให้ขนมแห้ง ๆ เช่น ทองม้วน หรือขนมที่ไม่หวานมาก หรือขนมประเภทกวนที่อยู่ได้หลาย ๆ วัน เช่น สับปะรดกวน
ขนมไทยส่วนใหญ่ให้ด้านสุขภาพกับคนทาน แต่ต้องอยู่ในปริมาณเพียงพอ คนที่รับต้องรู้ตัวเองด้วยว่าอะไรที่ต้องหลีกเลี่ยงเช่น เป็นเบาหวานขนมที่มีน้ำตาลมากต้องลด คนที่เป็นไขมันหรือคอเลสเตอรอลสูง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทองควรเลี่ยง
“ตัวอย่างเช่น หนึ่งตะกร้ามีทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง และมีตะโก้ ขนมชั้น ขนมผิง ทองม้วน ข้าวตู มะม่วงกวน ขนมเปี๊ยะ ครองแครงกรอบ เพื่อให้ผู้รับเก็บไว้กินได้หลายวัน”
ขนมต่างประเทศเองให้โทษเหมือนกัน เช่น คุกกี้ ขนมเค้ก มีเนยที่เป็นไขมันสูง และยังมีแป้งกับไข่ แถมยังมีน้ำตาลอีกด้วย แต่คนให้ความนิยมกับขนมต่างประเทศมากกว่าขนมไทย ทั้งที่โทษมีเหมือนกัน บางอย่างมีโทษมากกว่าขนมไทยเสียอีก
ผู้ที่ได้รับแล้วต้องรู้ว่าต้องกินขนมอะไรที่จะเสียก่อน โดยค่อย ๆ กินเพื่อไม่ให้มีปัญหาต่อสุขภาพ ด้านความอร่อย คนซื้อนอกจากดูด้านชื่อเสียงแล้ว ความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ เราสามารถดูได้จากสภาพร้านโดยทั่วไป ตลอดจนดูคนทำ และถ้ามีโอกาสลองมองไปหลังร้านว่ามีความสะอาดเหมาะสมหรือไม่
การจัดตะกร้าขนมไทย ถ้าขนมสด ๆ อันไหนไม่มีแพ็กเกจที่สวยอาจนำมาจัดลงตะกร้าด้วยการรองโดยใบตอง
เพื่อเพิ่มความเป็นไทย แล้วยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม หรือนำภาชนะที่คนรับสามารถเอาไปใช้ต่อได้ เช่น ขวดโหล ที่ผู้ใช้พอกินขนมหมดแล้วนำไปใช้ใส่ของต่อได้
ปัญหาเรื่องแพ็กเกจขนมไทย ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องมีความรู้ หากพัฒนาให้ดีจะทำให้ขนมไทยได้รับการยอมรับมากขึ้น ดูอย่างขนมของคนญี่ปุ่นที่เน้นบรรจุภัณฑ์สวยงาม ทั้งที่ขนมไม่มีอะไรมาก ขนมบางอย่างของไทยมีการจัดรูปทรงสวยอยู่แล้ว ถ้าได้บรรจุภัณฑ์ที่สวยเพิ่มเข้าไปอีกจะทำให้คนได้รับมีความรู้สึกดีมาก ขึ้น
ขนมไทยถือเป็นของขวัญที่น่าสนใจในการให้กับผู้ใหญ่ แต่ต้องควบคู่กับการดูแลสุขภาพพร้อมกันไปด้วย.
ทีมวาไรตี้
credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/205232/ มอบของขวัญ+‘ขนมไทย’+เลือกซื้อถูกหลัก+ช่วยเสริมเศรษฐกิจ
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001