สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income: แฟรนไซส์
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แฟรนไซส์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ แฟรนไซส์ แสดงบทความทั้งหมด

'i-frezh' ไอศกรีมโยเกิร์ต แฟรนไชส์รับลมร้อน

ธารทิพย์ ศุขสายชล (คนกลาง) เจ้าของธุรกิจ
       อุณหภูมิที่ร้อนระอุในช่วงเดือน เมษายน ที่ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นทุกปี อาหารและเครื่องดื่มช่วยดับร้อนในช่วงเดือนเมษายน คงไม่พ้นไอศกรีมเย็น และสำหรับคนรักษ์สุขภาพปัจจุบันมีไอศกรีมเพื่อสุขภาพอย่างไอศกรีมโยเกิร์ต เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ให้สาวที่ห่วงใยเรื่องรูปร่างได้ทานไอศกรีมในเพื่อดับร้อนกันแบบไม่ต้องกลัว เรื่องไขมันส่วนเกิน
ไอศกรีมถ้วยขนาดปกติ 36 บาท
       สำหรับไอศกรีมโยเกิร์ตจัดเป็นไอศกรีมประเภท soft serve ที่ต้องกดไอศกรีมออกมาจากเครื่อง ซึ่งไอศกรีมในกลุ่ม soft serve เมืองไทยไม่ค่อยแพร่หลายเหมือนกับกับไอศกรีมประเภท hard serve หรือไอศกรีมตักที่สามารถหาซื้อทานได้ทั่วไป ส่วนจุดขายของไอศกรีมโยเกิร์ตอยู่ที่ส่วนผสมของโยเกิร์ตที่เป็นส่วนผสมหลัก ในไอศกรีม ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในต่างประเทศ เพราะด้วยคุณสมบัติที่ดีต่อสุขภาพของโยเกิร์ต ส่งผลให้ไอศกรีมโยเกิร์ตได้รับความนิยมไปด้วยเช่นกัน
     
       ส่วนตลาดไอศกรีมโยเกิร์ตในประเทศไทยเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะมีผู้ผลิตไอศกรีมโยเกิร์ตออกจำหน่ายทั้งที่เป็นแบรนด์ในประเทศและแบ รนด์จากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์จากประเทศเกาหลีเปิดตัวให้เห็นกันได้ทั่วไปในย่าน ธุรกิจ และสำหรับไอศกรีมโยเกิร์ตแบรนด์คนไทยที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน ก็คงจะเป็นแบรนด์ i-frezh ที่มี ธารทิพย์ ศุขสายชล เจ้าของที่พลิกผันตัวเอง จากการทำงานให้กับบริษัทชื่อดังด้านการส่งออกมาทำกิจการของตนเอง โดยเลือกทำไอศกรีมโยเกิร์ตด้วยเหตุผล เพราะเป็นธุรกิจอาหารที่ยังมีช่องว่าง เนื่องจากยังถือได้ว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับตลาดเมืองไทย
ท็อปปิ้ง ผลไม้ชนิดต่างๆ ในตู้แช่
       ธารทิพย์ เล่าว่า ได้เริ่มเปิดตัวไอศกรีมโยเกิร์ต i-frezh เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยการออกงานแสดงสินค้า พร้อมกับเปิดตัวแฟรนไชส์ของ i-frezh ในงานซึ่งมีผู้ให้ความสนใจค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีผู้สนใจและซื้อแฟรนไชส์ พร้อมที่จะเปิดให้บริการจำนวน 10 สาขา และที่เลือกขยายสาขาในรูปของแฟรนไชส์ เพราะเล็งเห็นว่าตลาดยังมีช่องว่างอีกมากสำหรับตัวไอศกรีมโยเกิร์ต จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ และที่สำคัญเราต้องการจะทำหน้าที่ในการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อซัพพร็อตเรื่องการตลาดและต้องการจะทุ่มเทเวลาไปกับการสร้างแบ รนด์i-frezh ให้แข็งแรง
     
       สำหรับลักษณะของไอศกรีมโยเกิร์ต เป็นไอศกรีมที่มีส่วนผสมของโยเกิร์ตสูตรไร้ไขมัน โดยการนำเข้าผงโยเกิร์ตจากประเทศอิตาลี และมีส่วนผสมของนมสด มีการตกแต่งหน้าด้วยผลไม้สดและอื่นๆ และผลไม้ตามฤดูกาล สูตรในการทำไอศกรีมเป็นสูตรที่ได้ศึกษามาจากผู้เชี่ยวชาญในการทำไอศกรีม โยเกิร์ตในประเทศอิตาลี ซึ่งได้ทำการซื้อสูตรมาและนำมาปรับบางส่วนให้เหมาะสมกับรสชาติที่คนไทยชื่น ชอบ
       ในส่วนกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป็นคนรุ่นใหม่ที่รักษ์ห่วงใยในสุขภาพ ปัจจุบันร้านต้นแบบอยู่ที่สีลม ลักษณะ Shop in Shop ขายคนทำงานในย่านนั้น ราคาใกล้เคียงกับไอศกรีมพรีเมียม ราคาถ้วยละ 36 บาท ไปจนถึง 49 บาท แผนการขยายสาขาในปีนี้ ตั้งเป้าขยาย 30-50 สาขา ทั่วประเทศในรูปของแฟรนไชส์ และในปีนี้ บริษัทมีแผนจะขยายสาขาไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่างประเทศเวียดนาม ที่เมืองโฮจิมิน และฮานอย และประเทศพม่า ด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำข้อตกลง
       รูปแบบของร้านสาขาแฟรนไชส์ มี 4 แบบให้ลูกค้าได้เลือกได้แก่ Shop in Shop รูปแบบร้านขนาดเล็กที่สามารถเปิดให้บริการได้ในร้านค้าอื่นๆ อาทิ ร้านอาหาร ร้านค้าปลีก ร้านกาแฟ Stand Alone Shop รูปแบบนี้จะต้องใช้พื้นที่ตั้งแต่ 10 ตารางเมตร จนถึง 50 ตารางเมตร มีไอศกรีม เบเกอรี่ กาแฟ และการให้บริการอินเตอร์เน็ต Kiosk ร้านขนาดเล็กที่ต้องการพื้นที่ 4-6 ตารางเมตร เพื่อวางอุปกรณ์ และรูปแบบสุดท้ายเป็นรูปแบบที่ลูกค้าต้องการ
       ส่วนราคาค่าแฟรนไชส์ เริ่มต้น 300,000 บาท ไปจนถึง 650,000 บาท ผลิตภัณฑ์ที่ทางลูกค้าต้องซื้อจาก i-frezh เท่านั้น มีวัตถุดิบ 3 ตัวหลัก หรือ ผงโยเกิร์ต นมสด และถ้วย เพราะต้องใช้ถ้วยที่มีตรายี่ห้อของ i-frezh เท่านั้น ระยะเวลาในการคืนทุนขึ้นอยู่กับทำเล ค่าเช่าสถานที่ และจำนวนลูกค้า ส่วนผลตอบแทนขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการด้วย โดยแบ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบไม่รวมค่าเช่าค่าบริหารจัดการประมาณ 40% รวมค่าบริหารจัดการอยู่ที่ประมาณ 60-70% เหลือผลตอบแทนกำไรประมาณ 30-40%
       

Read More...


'Thai Zaa' พลิกโฉมน้ำดื่มไทยให้โดน !

       น้ำ ซ่าหรือน้ำอัดลมโบราณ ได้ห่างหายจากสังคมมานานนับ 10 ปี อาจเรียกได้ว่าเป็นสินค้าที่ตายไปจากตลาดแล้วก็ได้ เพราะปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ยังทำน้ำซ่าเหลืออยู่เพียง 5 รายเท่านั้น
      
       เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้ประกอบการต้องเลิกกิจการไป เพราะเป็นสินค้าไม่ได้รับความนิยมเมื่อเทียบกับน้ำอัดลมจากต่างประเทศหรือใน ประเทศรายใหญ่ ราคาสินค้าต่ำมากขายได้เต็มที่ก็ 3-5 บาทต่อแก้วเท่านั้น จึงทำให้ไม่มีทายาทเข้ามาสืบทอด
วิธาน ศิริเบญจวรรณ
       แต่สำหรับ "วิธาน ศิริเบญจวรรณ" เจ้าของแบรนด์ "วาสนาน้ำโบราณ" หรือใช้ภาษาอังกฤษว่า Thai Zaa (ไทยซ่า) เป็นหนึ่งในรายที่เหลือที่นำน้ำซ่าหรือน้ำอัดลมโบราณของไทยขึ้นมาปัดฝุ่น เคาะสนิมกันใหม่
      
       ความน่าสนใจอยู่ที่ว่าเพราะเหตุใด ที่นักธุรกิจที่ประสบวิกฤติเศรษฐกิจเป็น NPL และเกือบถูกฟ้องล้มละลาย กลับมาหยิบสินค้าที่กำลังตายไปจากตลาด ที่เขาบอกว่ามีโอกาสนั้นคืออะไร และทำอย่างไร ?
      
       สิ่งสำคัญเขาเชื่อมั่นในระบบแฟรนไชส์ที่จะช่วยสร้างเครือข่าย โดยนำจุดดีมาใช้ ปรับจุดอ่อนให้เหมาะกับสภาพการลงทุนในไทย และล่าสุด เตรียมรีโนเวทธุรกิจใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ภาพลักษณ์ แพคเกจจิ้ง ฯลฯ เพื่อนำน้ำอัดลมโบราณเจาะกลุ่มวัยรุ่นและโกอินเตอร์
      
       *** ฟื้นโปรดักส์โบราณ ชูสุขภาพเจาะวัยโจ๋ ***
       

       เขา บอกกับว่า โอกาสที่เขาเห็นคือโปรดักส์ น้ำหวานรสซ่าอย่างไรก็ต้องคู่กับประเทศเมืองร้อนอย่างไทย และการรับรู้ก็มีแม้อาจจะน้อยนิดหรือรู้เฉพาะคนรุ่นเก่าเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสในการสร้างการรับรู้โดยเจาะตลาดคนรุ่นใหม่ โจทย์ที่ท้าทายคือทำอย่างไรให้ “โดน” คนกลุ่มนี้
      
       โดยชูเรื่องคุณภาพ สุขภาพ ให้เห็นจับต้องได้ อย่างแรกที่ทำคือ การพัฒนาวัตถุดิบใหม่ทั้งหมด มุ่งเน้นวัตถุดิบที่ได้คุณภาพ ผ่านการรับรององค์การอาหารและยา (อย.) อุปกรณ์ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งวัตถุดิบคุณภาพที่ใช้จะเห็นว่าสารให้ความหวานทั่วไปจะใช้น้ำตาลและขัน ฑตสกรณ์
      
       แต่เขาใช้น้ำตาลฟรุตโตส หรือน้ำตาลจากผลไม้ ซึ่งประโยชน์คือร่างกายามารถดูดซับได้เร็วในกระแสเลือด ทำให้เกิดความสดชื่นหลังการดื่มได้ทันที อีกทั้งฟรุตโตสไม่สะสมคอเรสเตอรอล ไม่สะสมไขมัน เหมาะกับผู้ควบคุมน้ำหนักและผู้ป่วยเบาหวาน
ขั้นตอนอัดลม เอกลักษณ์ของน้ำซ่าไทย
       และบอกต่อไปว่า ไม่เพียงเท่านั้นการจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จนอกจากโอกาสที่เล็ง เห็นแล้ว ต้องมีกลยุทธ์ โดยการวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง คู่แข่งขั้น และโอกาสธุรกิจในอนาคต โดยอธิบายคร่าวๆ ถึงหลักการทำธุรกิจของวาสนาน้ำโบราณว่า
      
       จุดอ่อนเนื่องจากเป็นผู้เล่นรายใหม่ในตลาดจะต้องกระตุ้นตลาดอย่างไร ? โดยเฉพาะกับกลุ่มวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ จุดแข็งสินค้าเหมาะกับประเทศเมืองร้อน นำเสนออย่างไรให้เกิดการยอมรับ ขณะที่คู่แข่งโดยตรงเหลือไม่มาก แต่คู่แข่งทางอ้อมอย่างน้ำอัดลมแบรนด์นอกหรือแบรนด์ไทยบางยี่ห้อ จะไม่ชูเรื่องสุขภาพเมื่อเทียบกับวาสนาน้ำโบราณที่ใช้น้ำตาลฟรุตโตส
      
       "น้ำอัดลมโบราณ ไม่ใช่ว่าตลาดไม่รู้จักแต่ที่ล้มหายไปก็เพราะเหตุข้างต้นที่กล่าวมาทำให้คน รุ่นหลังไม่สืบทอดกิจการ รู้สึกเป็นภาระมากกว่าจะทำกำไรหนีไปทำธุรกิจอื่นกันหมด แต่เรามองยังมีจุดขายเพียบแต่ต้องทำการบ้านอย่างหนักว่านำเสนออย่างไรถูกใจ ผู้บริโภค โดยมองความต้องการก่อนจะทำอะไร ต้องหาคำตอบให้ได้ก่อนว่าเขาต้องการอะไร"
      
       ***รีโนเวตธุรกิจ นำจุดอ่อน-แข็งระบบนอกปรับใช้***
      
       ทุกวันนี้จะเห็นวาสนาน้ำโบราณหรือไทยซ่า มากกว่า 100 สาขา ซุ้มรูปลักษณ์ไทยๆ ขยายตามทำเลแหล่งชุมชม และงานแฟร์ ออกร้านต่างๆ ซึ่งวิธาน เชื่อว่า การสร้างการรับรู้ในวงกว้าง การขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์เป็นวิธีที่ดีที่สุด แต่ทำอย่างไรที่จะนำระบบแฟรนไชส์จากต่างประเทศโดยเฉพาะจากอเมริกานั้นนำมา ปรับใช้ให้เหมาะกับสังคมการลงทุนในไทย
      
       "ผมศึกษารูปแบบการลงทุนแบบแฟรนไชส์มานานตั้งแต่เริ่มธุรกิจ แต่พอจะนำมาใช้จริงเราพบจุดอ่อนที่ไม่เหมาะกับการลงทุนในไทยอยู่มาก เพราะส่วนใหญ่ไม่เข้าใจค่าฟี มาร์เก็ตติ้งฟี รอยัลตี้ฟี เราจึงนำมาปรับใช้ด้วยด้วยนำจุดเด่น และจุดอ่อนมาปรับให้เหมาะ"
      
       วิธาน บอกว่า จุดแข็งที่ระบบแฟรนไชส์ต่างประเทศเข้มแข็งนั้นคือเรื่องระบบและแบรนด์ ระบบนั้นต้องทำตามที่แฟรนไชซอร์วางไว้ ทั้งการปฏิบัติงาน การแต่งกาย ขั้นตอนการทำ การควบคุมคุณภาพสินค้ามาตรฐานเดียวกันทุกแก้ว ฯลฯ
      
       ส่วนแบรนด์ นั้น เขาให้นิยามว่า คือประสบการณ์ของผู้บริโภคในการเรียนรู้โปรดักส์ ทั้งวิธีการบริโภค รสชาติ หาดื่มได้ที่ไหน เพราะหากผู้บริโภครู้มากเท่าไหร่นั้นแสดงถึงความเข้มแข็งของแบรนด์
      
       ซึ่งจุดแข็งนี้ วิธานมุ่งมั่น แต่ยอมรับว่าความล้มเหลวก็มีเกิดขึ้นเช่นกันซึ่งมีตัวเลขสูงถึง 30% ทำให้ขณะนี้เขาได้ชะลอการขายแฟรนไชส์รายใหม่คงที่ 100 กว่าสาขาเท่าเดิม หากมีรายใหม่เกิดขึ้นเขาจะพิจารณาสูงมากให้ความสำคัญกับความตั้งใจและมุ่ง มั่นของผู้เข้ามาลงทุนมีการทดสอบมากมาย
      
       เขายอมรับว่ากับเม็ดเงินการลงทุนกับวาสนาน้ำโบราณเพียง 39,000 บาท ย่อมเป็นตัวเลขที่ดึงคนทุกกลุ่มเข้ามาลงทุนได้ง่าย และมีอุปกรณ์ให้ยืมไม่ต้องจ่ายค่ารอยัลตี้ฟี มาร์เก็ตติ้งฟี ยิ่งทำให้การสกรีนผู้ลงทุนต้องเข้มงวดยิ่งขึ้น
      
       วิธาน เล่าต่อไปอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรีโนเวทวาสนาน้ำโบราณใหม่ทั้งหมด โดยวางคอนเซ็ปต์เป็นร้านเครื่องดื่มสำหรับวัยรุ่น ที่จะตั้งตามทำเลที่มีวัยรุ่นและชุมชนใหญ่ ทั้งการตกแต่งร้าน แพกเกจจิ้ง การน้ำเสนอจากที่ผ่านมาเครื่องอัดออกซิเจน ที่ทำให้เกิดความซ่ารูปทรงจรวด ก็เปลี่ยนมีหน้าตาที่ทันสมัย น้ำหวานจากโถแก้วทรงโบราณ ก็อยู่ในหลอดรูปทรงทันสมัย
      
       "ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา คาดจะสามารถเปิดตัวได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งได้มีการวางคอนเซ็ปต์ไปแล้วนั้น โปรดักส์ก็ต้องมีความหลากหลายขึ้น โดยวัตถุดิบนั้นได้มีการคิดค้นสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้น สามารถนำไปใช้กับเครื่องดื่มหลากหลายประเภท หรือใช้ประกอบอาหารของว่างต่างๆ เช่น ลักษณะราดลงหน้าอาหารของว่างจานนั้นๆ"
บูท "วาสานาน้ำโบราณ" กับเครื่องอัดลมรูปจรวดที่คุ้นตา
       เขา บอกว่า หากการรีโนเวทนี้ลงตัว พร้อมที่จะขายเป็นระบบแฟรนไชส์ราคาการลงทุนที่ระดับแสนบาทขึ้นไป ขณะเดียวกันจะชะลอแฟรนไชส์รูปแบบเดิมคงไว้ที่ 100 กว่าสาขา และพัฒนาร้านเหล่านี้เติบโตตามไปด้วยในหลายช่องทางเช่นการขยับเข้าสู่ แฟรนไชส์รูปแบบใหม่ หรือคงการลงทุนแบบเดิมแต่เพิ่มช่องทางการจำหน่ายเช่น หารายได้จากการออกงานต่างๆ หรือในงานรับจัดเลี้ยงเป็นต้น
      
       ***ผนึก 3 องค์กร สร้างนวัตกรรมใหม่***
      
       วิธาน บอกว่า การที่จะสร้างธุรกิจให้ยั่งยืนต้องไม่หยุดนิ่ง โดยเฉพาะการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา ซึ่งขณะนี้เขาได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จ และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ทำการวิจัยโปรดักส์ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่จะนำไปใช้กับโปรดักส์ในหลายตัวไม่ว่า จะเป็นเครื่องดื่มรสซ่า สมูทตี้ หรือใช้ราดกับอาหารว่างจานนั้นๆ
      
       ทั้งนี้นวัตกรรมโปรดักส์ดังกล่าวจะเป็นการต่อยอดโปรดักส์เดิมที่มี อยู่ให้เกิดความหลากหลาย และเกิดโปรดักส์ใหม่ๆ ด้วยวัตถุดิบที่คิดค้นขึ้น
      
       ขณะเดียวกันการส่งเสริมของหน่วยงานดังกล่าว ยังนำกลุ่มผู้ประกอบการไปดูงานยังต่างๆ ประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ซึ่งวิธาน บอกว่าเป็นการให้ประสบการณ์อย่างมากในการนำมาใช้กับการทำธุรกิจในประเทศ จะเห็นได้ว่าในงานที่เกี่ยวกับอาหาร เครื่องดื่ม ของต่างประเทศโยเฉพาะในประเทศเพื่อนบ้านนั้นวัตถุดิบสำคัญคือผลไม้ ซึ่งถ้าหากผู้ประกอบการไทยนำมาปรับใช้จะได้ประโยชน์และได้เปรียบอย่างมาก ด้วยความหลากหลายชนิดของผลไม้ และปัจจุบันมีการพัฒนาสายพันธุ์ต่างๆ มากขึ้น
      
       วิธาน กล่าวว่า สำหรับวาสนาน้ำโบราณหรือไทยซ่านั้น เมื่อมีการรีโนเวทใหม่จะมีการนำนวัตกรรมวัตถุดิบนี้นำไปใช้กับโปรดักส์ใน ร้านด้วย ซึ่งเมื่อวันนั้นมาถึงจะสามารถเป็นแฟรนไชส์ที่เต็มรูปแบบทั้งระบบ แบรนด์ ความหลากหลายของโปรดักส์
      
       และมองถึงอนาคตภายภาคหน้าที่จะ น้ำอัดลมโบราณก้าวไกลถึงต่างประเทศ เพราะเชื่อมั่นกลยุทธ์ Blue Ocean หรือการสร้างความแตกต่างในตลาดจะสามารถใช้ได้ดีกับโปรดักส์นี้ และไม่แน่ว่าจะเห็น Thai Drink The Best ภายใน 5 ปีนี้ก็เป็นได้ !

Read More...


แฟรนไชส์ ICE blinkz มิติใหม่ไอศกรีมโชว์ผัดสดๆ

       โชว์วิธีทำแปลกใหม่ ผัดกันสดๆ แบบลูกต่อลูก นี่คือจุดขายของ “ ICE blinkz” (ไอซ์ บลิงคส์) ไอศกรีมแฟรนไชส์แบรนด์ไทยรายล่าสุด ซึ่งนำเทคนิคจากต่างประเทศ มาผสมกับรสชาติฉ่ำหวานของผลไม้ หวังสร้างกระแสฮิตโดนใจวัยรุ่นไทย
       
อภิลักษณ์ สิริกีรติกุล
       อภิลักษณ์ สิริกีรติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ลีฟวิ่งไอเดีย จำกัด ผู้บุกเบิกแฟรนไชส์ไอศกรีมผัดสด “ICE blinkz” เผยว่า ไอเดียมาจากส่วนตัวต้องเดินทางติดต่อธุระต่างประเทศเป็นประจำ ในหลายๆ ประเทศ อย่างเกาหลี หรือแถบยุโรป นิยมกินไอศกรีมแบบผัดเป็นก้อนกันสดๆ อย่างมาก
     
       ส่วนในประเทศไทยยังไม่มีมาก่อน แต่มีน้ำผลไม้ปั่น ซึ่งลักษณะจะคล้ายๆ กับวัตถุดิบที่ใช้ทำไอศกรีมผัด จึงเกิดไอเดียนำวิธีการทำไอศกรีมสดมาผสมกับน้ำผลไม้ปั่น แลวนำเสนอเป็นไอศกรีมโฉมใหม่ในเมืองไทย รวมถึง จะแตกต่างจากในต่างประเทศ ตรงใช้ผลไม้เป็นวัตถุดิบหลัก
ขั้นตอนผัดสด นำครีมราดลงกะทะ อุณหภูมิ -20 องศา
       “จุดขายของ ICE blinkz คือ เทคนิคการทำที่แปลกใหม่ ทำสดลูกต่อลูก เรียกความสนใจจากลูกค้าที่ผ่านไปมา โดยเราเป็นเจ้าแรกในเมืองไทย ส่วนความอร่อยจากวิธีทำแบบนี้จะได้รสชาติที่สดฉ่ำกว่าไอศกรีมแช่แข็งทั่วไป ยิ่งใช้วัตถุดิบหลักเป็นผลไม้ เมื่อกินเข้าไปแล้วจะยิ่งรู้สึกสดชื่น และมีประโยชน์ต่อสุขภาพด้วย” อภิลักษณ์ อธิบาย และเผยต่อว่า
ผัดไป มา
       บริษัทฯ ใช้งบประมาณกว่าเจ็ดหลัก ในการวิจัยพัฒนา ทั้งตัวสินค้าจนได้สูตรลงตัว และเครื่องผัดไอศกรีมที่มีคุณสมบัติทำความเย็นได้ถึง – 20 องศา สามารถผัดไอศกรีมแข็งเป็นก้อนในเวลา 1-2 นาที ผลิตโดยโรงงานในประเทศจีน และเกาหลี รวมถึง เปิดร้าน ICE blinkz ในห้างเดอะ มอลล์ บางกะปิ เมื่อประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา เพื่อทดสอบกระแสตลาด
ใช้เวลาแค่ 1-2 นาที จะกลายเป็นก้อนแข็ง
       สำหรับแผนธุรกิจนั้น เลือกจะขยายแบบแฟรนไชส์ เพื่อให้แบรนด์ ICE blinkz เป็นที่รู้จักมากขึ้นในเวลารวดเร็ว โดยเงื่อนไขการลงทุนแฟรนไชส์ ใช้ทุนเบื้องต้นประมาณ 230,000 บาท โดย 200,000 บาทเป็นค่าอุปกรณ์ครบชุด และค่าแฟรนไชส์ ฟี (Franchise fee) ส่วน 30,000 บาทเป็นเงินประกันคุณภาพ จะคืนเมื่อยกเลิกสัญญาระหว่างกัน
       
       อภิลักษณ์ เผยว่า ลูกค้าเป้าหมายไอศกรีม ICE blinkz ได้แก่ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา และคนทำงานจบใหม่ ซึ่งกลุ่มนี้ชอบทดสอบของแปลกๆ ใหม่ๆ อยู่เสมอ และมีกำลังซื้อสูง โดยหัวใจที่จะกำหนดความสำเร็จของธุรกิจ คือ ทำเล ควรจะอยู่ในย่านสถานศึกษา หรือแหล่งวัยรุ่น ซึ่งขนาดพื้นที่ไม่จำเป็นต้องมาก แค่ประมาณ 6-15 ตารางเมตรเท่านั้น โดยเงื่อนไขผู้สนใจลงทุนต้องเป็นฝ่ายหาทำเลมาเสนอ จากนั้นบริษัทฯ จะมีทีมพิจารณา ถ้าวิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่เหมาะจะบอกตรงๆ ให้เปลี่ยนหาทำเลใหม่เสีย
       ทั้งนี้ ราคาขายปลีกหน้าร้านของ ICE blinkz กำหนดไว้ที่ลูกละ 39 บาท ซึ่งราคานี้ แฟรนไชส์ซีจะได้กำไรจากต้นทุนประมาณ 69% ถ้าหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด เช่น ค่าเช่า ค่าพนักงาน จะเหลือกำไรต่อหน่วยประมาณ 33% หากขายได้วันละ 70 ลูก/วัน สามารถคืนทุนได้ในเวลาประมาณ 8 เดือน โดยแฟรนไชส์ซี ควรมีเงินทุนหมุนเวียนสำรองประมาณ 100,000 บาท/เดือน
     
       “ร้านต้นแบบที่เดอะมอลล์ บางกะปิ มียอดขายประมาณ 100 ลูกต่อวัน อีกทั้ง ICE blinkz มีรูปแบบที่ต่างออกไป จึงไม่มีคู่แข่งโดยตรงเลย ขณะที่กลุ่มลูกค้าหลักเป็นเด็กวัยรุ่นไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร มีผลกระทบต่อคนกลุ่มนี้น้อยมาก ประกอบกับ ภาพรวมของธุรกิจไอศกรีมในเมืองไทยในปีที่ผ่านมา (2550) อัตราเติบโต 100% จากปัจจัยเหล่านี้ ทำให้เชื่อว่า ธุรกิจนี้มีความน่าสนใจสำหรับผู้ลงทุน ซึ่งจะประสบความสำเร็จแบบยั่งยืนได้” อภิลักษณ์ ระบุ
       ในแง่ของการควบคุมคุณภาพแบรนด์ และแฟรนไชส์นั้น กำหนดต้องรับวัตถุดิบหลักจากบริษัทฯ เท่านั้น เช่น ครีมสำหรับทำไอศกรีม เป็นต้น นอกจากนั้น ก่อนเปิดร้านจริงมีการจัดอบรม และทุก 3 เดือนจะมีทีมตรวจสอบคุณภาพ เพื่อให้ปรึกษาแก้ปัญหาต่างๆ อีกทั้ง จะส่งเสริมการตลาดให้ต่อเนื่อง โดยสำรองงบปีนี้ (2551) ไว้ที่ 1 ล้านบาท สำหรับซื้อโฆษณา และทำกิจกรรมประชาสัมพันธ์ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักของลูกค้ายิ่งขึ้น
     
       ทั้งนี้ ไอศกรีมผัด ICE blinkz มีให้เลือกทั้งหมด 25 รส โดยกลิ่นและหัวเชื้อไอศกรีม ส่วนใหญ่นำเข้าจากต่างประเทศ และบางส่วนเป็นวัตถุดิบในประเทศ เน้นใช้ผลไม้สดเป็นส่วนผสม เช่น แอบปริคอทและสตรอว์เบอร์รี่จากเชียงใหม่ เป็นต้น
บูท ICE blinkz ที่ เดอะมอลล์ บางกะปิ
       อภิลักษณ์ เผยว่า เริ่มเปิดตัวแฟรนไชส์อย่างเป็นทางการในงานแสดงสินค้าอาหาร 2551 (THAIFEX) ระหว่างวันที่ 21 – 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ได้ผลตอบรับอย่างสูง มีผู้สนใจยื่นความประสงค์ซื้อแฟรนไชส์หลายสิบราย ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาคัดเลือก นอกจากนั้น ได้ขยายไปสู่ต่างประเทศแล้ว โดยขยายแฟรนไชส์ 1 แห่งในประเทศอินโดนีเซีย
     
       สำหรับเป้าหมายในปีนี้ จะขยายโดยบริษัทฯ เองประมาณ 4-5 แห่ง ซึ่งบางสาขาจะเป็นร้านขนาดใหญ่ ลูกค้านั่งกินในร้านได้ ส่วนการปล่อยแฟรนไชส์วางไว้ในปีนี้ ไม่เกิน 10 สาขา โดยจะคัดผู้ร่วมธุรกิจที่มีความพร้อม และทำเลเหมาะสมจริง ๆ เพื่อให้ประสบความสำเร็จทั้งสองฝ่าย
       *** *** *** *** ***
     
      

แฟรนไชส์ไอศกรีมผัด “ICE blinkz”
- เงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 200,000 บาท แบ่งเป็น
1.ค่าอุปกรณ์ครบชุด เช่น เครื่องผัดไอศกรีม , ค่าเคาน์เตอร์ , ค่าวัตถุดิบพื้นฐาน , ตู้แช่ ฯลฯ มูลค่า 165,000 บาท
2. ค่าแฟรนไชส์ฟี (Franchise fee) 35,000 บาท
- เงินประกันคุณภาพ 30,000 บาท (ได้รับคืนเมื่อยกเลิกสัญญาระหว่างกัน)
- ผู้ลงทุนควรมีเงินทุนหมุนเวียนสำรองประมาณ 100,000 บาท/เดือน
- เงื่อนไขต้องรับวัตถุดิบจากบริษัทฯ เท่านั้น
- กำไรหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 33% ต่อหน่วย
- คาดการณ์คืนทุนในเวลาประมาณ 8 เดือน

     
       โทร.02-721-6549

Read More...


Frozzen ฉีกกฎไอศกรีม ชูธงเลือกอร่อยได้ตามใจคุณ

       “ฟรอสเซน” (Frozzen) ไอศกรีมแบรนด์น้องใหม่รุกตลาดแฟรนไชส์ ชูจุดเด่นมิติใหม่ทำสดใหม่ลูกต่อลูก ได้ความอร่อยและนุ่มละมุนที่เหนือกว่า พร้อมเปิดโอกาสให้ลูกค้าสร้างสรรค์ไอศกรีมในแบบฉบับของตัวเอง
       

Avi Bouhadaua (ขวา) และธนิสร หาญกอบกุล
       ***ชูจุดขายไอศกรีมทำสด
      
       Avi Bouhadaua กรรมการผู้จัดการ และธนิสร หาญกอบกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟรเซ่น จำกัด เผยว่า ไอศกรีม Frozzen คือการขยายธุรกิจจากบริษัทแม่ Time Out Gelato Bars ซึ่งดำเนินธุรกิจร้านไอศกรีม “Timeout” มากว่า 4 ปี มีสาขาอยู่ที่เมืองพัทยา 5 แห่ง จากประสบการณ์ดังกล่าว ช่วยให้มีพื้นฐานในธุรกิจนี้ครบวงจร อีกทั้ง มีเครื่องมือพร้อมผลิตวัตถุดิบไอศกรีมจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อจะเพิ่มช่องทางกระจายวัตถุดิบกว้างขึ้น เป็นที่มาของการขยายธุรกิจ โดยสร้างเครือข่ายแฟรนไชส์ ภายใต้ชื่อ Frozzen
      
       “ไอศกรีมอื่นๆ ทั่วไปในท้องตลาด จะใช้วิธีทำเสร็จแล้วแช่แข็งรอไว้ตักให้ลูกค้า ซึ่งวิธีนี้จะทำให้เสียรสชาติความอร่อยที่แท้จริงของไอศกรีมไป แตกต่างจากไอศกรีม Frozzen ใช้วิธีทำกันสดๆ ลูกต่อลูก ขั้นตอนแค่ใส่วัตถุดิบพื้นฐาน ซึ่งมีอยู่ 3 ชนิด คือ ช็อกโกแลต โยเกิร์ต และชิสเค้ก ลงในเครื่อง ส่วนรสชาตินั้น ให้ลูกค้าได้สร้างสรรค์เอง โดยเลือกใส่ส่วนประกอบอะไรก็ได้ที่มีกว่า 20 ชนิดลงไปในเครื่อง รอแค่ 30 วินาที จะออกมาเป็นไอศกรีมที่มีเนื้อนุ่มละมุน และสดใหม่กว่าไอศกรีมทั่วไป” Avi อธิบายถึงจุดเด่น
บูทของ Frozzen
       ธนิสร อธิบายเสริมว่า เครื่องผลิตไอศกรีมชนิดนี้ นำเข้าจากประเทศแคนาดา มูลค่าตัวละประมาณ 1 แสนกว่าบาท โดยเคล็ดลับความอร่อยของ Frozzen คือ การทำแบบสดใหม่ลูกต่อลูก และแต่ละลูกมีเอกลักษณ์รสชาติต่างกันไป จากวัตถุดิบที่ลูกค้าจะเลือกใส่
      
       จุดเด่นอีกประการ คือ ราคาขายปลีกถูกกว่าไอศกรีมระดับเดียวกันในท้องตลาด โดยอยู่ที่ถ้วยเล็ก 2 สกู๊ป 49 บาท ซึ่งราคานี้ ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่า
ทำได้ในเวลา 30 วินาที
       ***บุกตลาดแฟรนไชส์
      
       ด้วยจุดประสงค์ต้องการกระจายวัตถุดิบ นำมาสู่การสร้างจุดเด่นให้ตัวสินค้า และหาผู้สนใจร่วมธุรกิจแฟรนไชส์ ด้วยเงินลงทุน 698,000 บาท หรือเลือกผ่อน โดยวางเงินมัดจำ 349,000 บาท ที่เหลือผ่อน 12 งวด โดยคิดอัตราดอกเบี้ย 15% ต่อปี
      
       Avi เผยว่า บูทแฟรนไชส์ Frozzen ขนาดประมาณ 3 x 2 เมตร ออกแบบเน้นความสดใส ตกแต่งด้วยระบบเล่นแสงสีไฟ LED เปลี่ยนสีตลอดเวลาเรียกความสนใจของลูกค้า
       ทั้งนี้ แม้ว่า Frozzen จะเป็นไอศกรีมแบรนด์น้องใหม่ ไม่เคยมีร้านต้นแบบมาก่อน แต่บริษัทฯ สร้างความมั่นใจให้ผู้จะลงทุน โดยใช้ประสบการณ์จากร้าน Timeout เป็นแม่แบบในการบริหารจัดการภายในร้าน โดย ผลตอบแทนที่แฟรนไชส์ซี่จะได้ ถ้า 1 วันขายถ้วยเล็กราคา 49 บาท ได้ 50 ถ้วยจะคุ้มเงินลงทุนต่อวัน หากขายได้ 100 ถ้วยต่อวัน ระยะเวลาหนึ่งเดือนจะมีกำไร หลังหักค่าใช่จ่ายทั้งค่าเช่าและค่าพนักงาน ประมาณ 60,000 บาท สามารถคืนเงินลงทุนได้ในเวลา 1 ปี ซึ่งเท่าที่ผ่านมา ร้าน Timeout มียอดขายสูงเกิน 100 ถ้วยต่อวันโดยตลอด
       

เลือกใส่ส่วนประกอบได้ตามชอบใจ
       สำหรับเงินลงทุน 698,000 บาท แฟรนไชส์ซีจะได้รับอุปกรณ์พร้อมเริ่มธุรกิจ เช่น บูทสำเร็จรูป ตู้แช่ เครื่องทำไอศกรีม และวัตถุดิบต่างๆ เป็นต้น รวมถึง การจัดอบรมเกี่ยวกับการบริหารร้าน และมีคู่มือ บันทึก DVD เพื่อนำไปอบรมพนักงานต่อไป
      
       ทั้งนี้ ตั้งกฎว่า ผู้ร่วมธุรกิจต้องรับซื้อวัตถุดิบหลักจากบริษัทแม่เท่านั้น ควบคุมผ่านระบบ POS (Point – of – sale) ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ระบบ touch screen บันทึกข้อมูลการซื้อขายสินค้า ระดับสต๊อก ตลอดจนสั่งซื้อวัตถุดิบผ่านระบบออนไลน์กับบริษัทฯ โดยตรง ซึ่งระบบนี้ช่วยให้สามารถควบคุมคุณภาพแฟรนไชส์ อีกทั้ง สามารถนำข้อมูลไปใช้เพื่อการตลาดได้ด้วย
มีให้เลือกกว่า 20 ชนิด
       ***เชื่อจุดขายมัดใจทุกวัย
      
       ด้านธนิสร เผยว่า ลูกค้าเป้าหมายของไอศกรีม Frozzen เริ่มตั้งแต่วัยรุ่นถึงวัยผู้ใหญ่ โดยอาศัยจุดเด่นเป็นไอศกรีมที่มีสีสันในขั้นตอนการทำแบบสดๆ และเปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกรสชาติไอศกรีมในแบบของตัวเอง ประกอบกับราคาไม่แพงนัก ทำให้ได้กลุ่มลูกค้าวัยรุ่น ขณะที่รสชาติสดใหม่ ไขมันต่ำ และมีส่วนประกอบของผลไม้ ช่วยจับกลุ่มลูกค้าคนทำงาน
      
       สำหรับการหาทำเล จะมีทั้งเปิดให้ผู้ลงทุนเป็นฝ่ายเสนอเข้ามาให้บริษัทฯพิจารณา กับอีกทาง บริษัทฯ มีพื้นที่ซึ่งติดต่อกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำไว้แล้วเป็นทางเลือกเสนอให้ โดยทำเลเหมาะสมแนะนำว่าควรเป็นห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาคารสำนักงาน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล สถานที่ท่องเที่ยว และย่านชุมชน เป็นต้น
      
       ทั้งนี้ บริษัทฯ จะนำผลกำไร 5% จากรายได้ทั้งหมดที่เข้ามา ใช้เพื่อส่งเสริมการตลาดให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เช่น ซื้อสื่อโฆษณา ออกงานแสดงสินค้า เป็นต้น ซึ่งเป้าหมายของบริษัทฯ ตั้งว่าภายในปีนี้ (2551) จะขยายแฟรนไชส์ทั่วประเทศ ประมาณ 30 แห่ง หลังจากนั้น จะเปิดตลาดสู่ประเทศเพื่อนบ้านต่อไป
ราคาขายถ้วยละ 49 บาท
       *********************
      
       โทร. 086 341 3500 , www.ilovefrozzen.com
       

      
       **********************
      
       

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.