สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

แซบต้องรอ!! "เย็นตาโฟบัตรคิว"

เย้!! ฝนตกแล้ว ชุ่มฉ่ำทั่วฟ้าเมืองไทย คนกรุงได้คลายร้อน ชาวนาชาวไร่เริ่มหว่านไถ ฤดูกาลผลิดอกออกใบกลับมาอีกครั้ง มองไปไหนก็เขียวสดชื่น รื่นรมย์ซะจริงๆ

บรรยากาศ จะดีกว่านี้ถ้ามีของอร่อยให้หม่ำ จัดไปอย่าให้เสีย ร้านนี้คอนเฟิร์มว่าอร่อยเลอค่ามาก เพราะกว่าจะได้กินต้องรอขั้นต่ำครึ่งชั่วโมง คิดดู! คนมารอหม่ำก่อนตั้งร้านอีก!!

ร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวกับเย็นตาโฟ เป็นรถเข็นเล็กๆ อยู่แถวตลาดบางแค นักหม่ำรู้จักร้านนี้ในนาม  “เจ๊กบเย็นตาโฟบัตรคิว” ของแกดีจริง  อาเหม่งหม่ำแล้วติดใจจนต้องเอามาบอกต่อ

“แซบต้องรอ!!
เย็นตาโฟต้มยำทะเลจัดจ้านถึงใจ


“แซบต้องรอ!!
เมนูใหม่ "เกี๊ยวกุ้ง"

“เย็นตาโฟ ทะเลต้มยำ” เมนูยอดฮิตขายดีสุดของร้าน เจ๊กบประโคมเครื่องทะเลแบบจัดเต็มจนมองไม่เห็นเส้น รสชาติโดนใจสุดๆ อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม ครบรสจัดจ้าน เปรี้ยว หวาน  เผ็ด เค็มลงตัวกำลังดี หอมน้ำซอสและมะนาวสดโชยขึ้นจมูก แมงกะพรุนกรอบอร่อย กุ้งปลาหมึกสดมาก...กก  ดั่งเพิ่งขึ้นจากทะเล ปลาหมึกเคี้ยวเด้งหนุบหนับดีแท้ๆ กุ้งจากทะเลตัวใหญ่หวานธรรมชาติ ชามนี้อาเหม่งให้  5  ดาว ชามละ  50  บาทเท่านั้น

เย็นตาโฟ ธรรมดาราคา 40 บาท ก็เลอค่าไม่แพ้กัน เพียงแต่เจ๊กบไม่ได้ปรุงรสต้มยำให้ ผักบุ้งล้างสะอาดอย่างดี กรอบอร่อย สิ่งสำคัญคือน้ำซอสที่เจ๊กบกับพี่เสน่ห์สามีปรุงเองทำเอง เจ๊ไม่หวงสูตรบอกอาเหม่งหมดเปลือก ใครจะเอาไปทำขายเจ๊กบยินดี เพราะเห็นใจคนทำมาหากินเหมือนกัน
“แซบต้องรอ!!
ก๋วยเตี๋ยวนํ้าใสอร่อยลงตัว

ซอส เย็นตาโฟเจ๊กบใช้เต้าหู้ยี้ยีละเอียดผสมกับซอสแดง ใส่น้ำกระเทียมดองเพิ่มความกลมกล่อม น้ำตาลทราย น้ำปลา เคี่ยวรวมกัน ทิ้งไว้ให้เดือดสักพักก็เป็นอันใช้ได้

อีกเมนูหนึ่งที่เด็ดไม่แพ้ เย็นตาโฟคือก๋วยเตี๋ยวน้ำใส จะสั่งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ก็อร่อยเหมือนกัน น้ำซุปเจ๊กบชนะเลิศ ซดแล้วชื่นใจ กลมกล่อมจริงๆ น้ำใส หอม หวานน้ำต้มกระดูก น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวของแท้ต้องแบบนี้!! หมูเด้งก็หนุบหนับ ส่วนลูกชิ้นหมูเจ๊กบคัดสรรเจ้าอร่อยที่สุดมาให้ลูกค้าสุดที่รักได้หม่ำ มันอร่อยจริง หม่ำแล้วรู้เลยว่านี่แหละคือลูกชิ้นหมู ไม่ใช่ลูกชิ้นแป้ง ก๋วยเตี๋ยวราคา 40 บาท

ร้านเจ๊กบมีของ กินเล่นเป็นเกี๊ยวกรอบ แตกต่างจากที่อื่น เพราะเกี๊ยวกรอบเจ๊แกหม่ำกับพริกคั่ว ไอ๊หยา!! อย่าคิดว่าไม่เข้ากัน  เกี๊ยวกรอบจิ้มพริกคั่วเผ็ดๆ มีรสเค็มนิดๆ  มันเข้ากันอย่างลงตัว เผลอแป๊บเดียวเกี๊ยวหมดจาน
“แซบต้องรอ!!
"เกี๊ยวทอดจิ้มพริก" ออเดิร์ฟระหว่างรอ

พริก คั่วเจ๊กบไม่ธรรมดา อร่อยจนลูกค้าถามหาจนต้องใส่ขวดโหล ขายขวดละ 40 บาท เจ๊กบใช้พริกป่นคั่วผสมกับกระเทียมเจียว ใส่เกลือหน่อยหนึ่งแค่นี้ก็อร่อยล้ำ หลายคนเติมพริกคั่วใส่ก๋วยเตี๋ยวช่วยเพิ่มความหอม ชูรสให้อร่อยเพิ่มขึ้นอีก เกี๊ยวทอดเจ๊กบขายตัวละบาทเดียว พริกเติมได้ไม่อั้น

ส่วนเกี๊ยวทอด ร้านนี้มีรสชาติด้วย ไม่ใช่กรอบเฉยๆ น้ำมันต้องใช้ครั้งเดียว ก่อนทอดเกี๊ยวพี่เสน่ห์จะทอดลูกชิ้นกุ้งและของทอดอื่นๆก่อน ทอดเกี๊ยวเป็นอย่างสุดท้าย ทำให้เกี๊ยวซึมซับรสชาติอาหารอย่างอื่นที่ทอดก่อนหน้าเข้าไปด้วย เกี๊ยวเจ๊กบจึงมีรสชาติอร่อยแตกต่างจากที่อื่น
“แซบต้องรอ!!
อย่าลืมหยิบ "บัตรคิว" ไม่งั้นอดหมํ่า!!

ล่าสุดเจ๊กบสร้างสรรค์ทำเมนูเกี๊ยวกุ้ง ขอบอกว่าคำโตมาก กุ้งสดๆ ห่อด้วยเกี๊ยว จะหม่ำแบบต้มยำหรือน้ำใส อร่อยเหมือนกัน ชามนี้คุ้มค่าสุด เพราะเจ๊กบเลือกกุ้งสดๆ ตัวโตจากทะเลมาห่อเอง กุ้งหวานธรรมชาติเจอกับฝีมือปรุงของเจ๊กบ เชื่อว่าเมนูนี้จะขายดีต่อไปในอนาคต ชามนี้เจ๊กบบอกว่า ขอตั้งราคาสูงกว่าอย่างอื่นนิดหนึ่งเพราะต้นทุนสูง ขอขายชามละ 60 บาท

ก่อน หน้านี้เจ๊กบเคยเป็นลูกจ้างร้านขายยามาเกือบสิบปี พอมีสามีจึงขอเถ้าแก่ออกมาเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยว เถ้าแก่ใจดีให้เจ๊ขายที่หน้าร้านฟรีๆ เจ๊กบกับพี่เสน่ห์ซาบซึ้งในน้ำใจเพราะที่ทางค้าขายในกรุงเทพฯไม่ใช่หาง่าย ทุกวันหลังขายเสร็จทั้งคู่จะเก็บกวาดหน้าร้านให้สะอาด ดูแลอย่างดีไม่ให้เถ้าแก่ผิดหวังที่ให้ที่ค้าขายกับตน
“แซบต้องรอ!!
ร้านรถเข็นแต่ต้องรับบัตรคิว

อยาก หม่ำไปได้ ร้าน “เจ๊กบเย็นตาโฟบัตรคิว” ขายอยู่หน้าร้านขายยาอมรฟาร์มาซี ตลาดบางแค ขายตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม ตอนนี้รถติดนิดหนึ่งเพราะกำลังสร้างรถไฟฟ้า แต่ดึกๆสามารถจอดรถริมถนนได้ ไปถึงก็ไปหยิบบัตรคิว เขามีบัตรคิว 2 แบบ คือ แบบหม่ำที่ร้าน กับใส่ถุงกลับบ้าน

ใครอยากหม่ำกลางวันไม่ต้องเสียใจ เจ๊กบกับพี่เสน่ห์เก็บตังค์ได้ก้อนหนึ่ง เปิดสาขา 2 ได้ฤกษ์ขายวันแรกพรุ่งนี้! วันนี้อย่าเพิ่งไปเขายังไม่ขาย ร้านใหม่เจ๊กบอยู่แถวบางแคนั่นแหละ เลยจากร้านเดิมมาทางถนนสุขาภิบาล 1 เยื้องๆกับ ธนาคารไทยพาณิชย์ ร้านใหม่มีที่จอดรถสะดวกสบาย
“แซบต้องรอ!!
เจ๊กบกับพี่เสน่ห์เจ้าของร้าน

ใกล้ ตรงไหนไปตรงนั้น อร่อยเหมือนกันเพราะเจ๊กบกับพี่เสน่ห์ควบคุมการผลิตทุกขั้นตอน สอบถามทาง โทร. 08-1948-9910 เบอร์นี้ใช้โทร.ถามทางนะ ไม่ใช่โทร. ไปสั่ง เพราะเขาไม่รับจองทางโทรศัพท์  เจ๊กบเกรงใจลูกค้าที่มายืนรอคิว
Credit by..

แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

“แซบต้องรอ!!

Read More...


ส้มตำ - ตำโขยง สารพัดตำ

ปัจจุบันมีร้านอาหารผุดขึ้นมาเพียบ รวมถึงร้านส้มตำที่มีมากมาย แต่ละร้านก็มีความแตกต่างเพื่อเป็นจุดขายในการเรียกลูกค้า ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลส้มตำ “ตำโขยง” ร้าน “ตำโขยง by Cafe TORINO” ที่มีเมนูสารพัดตำมากกว่า 50 รายการ และเด่นที่รสชาติแซบ รสมือแม่นเสมอกันทุกครก มานำเสนอให้ลองพิจารณากัน...

ร้านส้มตำร้านนี้บรรยากาศโมเดิร์นในสไตล์ยุโรป มีเมนูทั้งยุโรป ไทย และอีสาน โดยในส่วนของส้มตำนั้นการันตีด้วยถ้วยรางวัลแชมป์ส้มตำ ซึ่ง คุณริน-สิรินรี อริวรรณา และ คุณเสถียร อมรเกษมวงศ์ เจ้าของร้าน ร่วมกันเล่าให้ฟังว่า อาหารที่ขายรวมทุกอย่างแล้วก็มีกว่า 100 ชนิด โดยเปิดร้านอาหารเพราะเป็นอีกอาชีพที่ชอบ ทั้งชอบทานและชอบทำอาหาร โดยเฉพาะส้มตำจะชอบเป็นพิเศษ และอีกเหตุผลคือปกติทำงานบริษัทโฆษณา เมื่อมีงานก็จะสั่งอาหารจากร้านต่าง ๆ แต่ปัญหาที่เจอตลอดคือรสชาติอาหารไม่ค่อยคงที่ จึงตัดสินใจหุ้นกับเพื่อนเปิดร้านอาหารเป็นอีกงานหนึ่ง

“ตำโขยง”
“ตำโขยง”
“ตำโขยง”
“ตำโขยง”
“ตำโขยง”
“ตำโขยง”


 “นอกจากการปรุงที่แซบถึงใจแล้ว ที่เน้นเป็นพิเศษคือเรื่องความสะอาด ใส่ใจทุกรายละเอียดเรื่องของวัตถุดิบ หัวใจสำคัญอีกอย่างคือพัฒนาและพลิกแพลงสูตรอาหารอยู่เรื่อย ๆ เมนูเด็ดและชื่อเมนูของที่ร้านจะร่วมกับพ่อครัวช่วยกันคิดและสร้างสรรค์ มีสารพัด เมนูส้มตำ และหลากหลายอาหารรสแซบ ๆ ซึ่งก็โชคดีที่ได้ คุณกี้-สัญญา สาระบุตร มือตำแชมป์โล่พระราชทานจากการประกวดทำส้มตำที่วังสราญรมย์ มาเป็นผู้ปรุงแต่งรสชาติให้ลูกค้าได้ลิ้มลองกัน”

คุณรินบอกว่า ที่อยากแนะนำ เป็นเมนูขายดี ลูกค้าต่างการันตีว่าแซบอร่อย คือ ตำโขยง และรวมถึง ตำแสบสนิท ตำข้าวโพดไข่เค็ม หรือถ้าเป็นส้มตำพื้นฐานต้องยกให้ ส้มตำไทย และส้มตำปูปลาร้า ซึ่งปลาร้าไม่มีกลิ่นฉุนรบกวนจมูก เพราะใช้น้ำปลาร้าต้มแล้วนำมากรองน้ำแล้วนำมาทำเป็นน้ำยำส้มตำอีกที รสชาติได้ใจทั้งเผ็ดเปรี้ยวแซบ สำหรับตำข้าวโพดไข่เค็ม ข้าวโพดหวานจะซึมซับรสน้ำยำ ส้มตำ ออกหวานเปรี้ยวและเผ็ด และได้ความมันและความเค็มของไข่เค็ม

นอกจากนี้ก็มี ตำกระฉูด ตำลาวสาวเวียงจันทน์ ตำลาวสาวเหนือ ตำลาวสาวใต้ ตำสามภาค ตำซั่ว ตำมั่ว ตำมะม่วงปลากรอบ ตำคอหมูย่างอบโอ่ง ตำอินเตอร์ ตำแตงหมูยอ ตำโลโซ ตำไฮโซ ตำกะเทย ตำโคราช ตำหอยดอง ตำหัวปลี ตำกระท้อน ตำสะบัด ตำสามแต๋ว ตำผักบุ้งกรอบ ตำปูม้ากุ้งสด ฯลฯ และมีเมนูอีกมากมายที่สาธยายกันไม่หมดในที่นี้ เช่น แกงผักหวานไข่มดแดง ต้มไก่ใบมะขาม เมี่ยงคะน้าปลาทู ลาบปลาดุกกรอบ สปาเกตตีทะเล บลูเบอรี่เค้ก ฯลฯ

อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการทำ สำหรับขายส้มตำและอาหารอื่น ๆ นั้น ก็ต้องเตรียมให้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเขียง, มีด, ช้อน, ส้อม, ทัพพี, หม้อมีด้ามสำหรับใช้ปรุง, กระปุก-โหลสำหรับใส่วัตถุดิบ, กะละมัง, กระทะ, เตาแก๊ส,เตาถ่าน, ซึ้งนึ่งข้าวเหนียว, ตะแกรง, หม้อต้มน้ำซุป, ถาด, คีมคีบ ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้คือครกกับสากไม้

“ตำโขยง” เมนูจานพระเอกของร้านนี้ที่ทุกโต๊ะต้องสั่ง เป็นอาหารอีสานที่มีรสแบบภาคกลาง ส่วนผสมหลัก ๆ ก็มี หมูยอหั่น, หอยแครงลวก, กะหล่ำปลีซอย, ถั่วฝักยาวหั่น, ผักชีฝรั่ง, ขนมจีน, ปลากรอบ, กากหมู, พริกขี้หนู,กระเทียม, น้ำตาลปี๊บ, น้ำปลา,น้ำปลาร้า, น้ำมะนาว, มะละกอสับ, มะเขือเทศสีดา, มะเขือลาย

วิธีทำ...เริ่มจากตำพริกขี้หนูและกระเทียมให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา เคล้าให้เข้ากันก่อน แล้วหั่นมะเขือเทศสีดา มะเขือลาย ใส่ตามลงไปในครก เคล้าพอเข้ากันอีกครั้ง จากนั้นใส่หมูยอหั่น หอยแครงลวก ปลากรอบ กากหมู น้ำปลาร้า กะหล่ำปลีซอย ถั่วฝักยาวหั่น ผักชีฝรั่ง ขนมจีน และมะละกอสับ คลุกเคล้าให้เข้ากันดี ชิมรสให้มีรสเปรี้ยวหวาน และเค็มนำ รับประทานพร้อมผักแกล้มคือ ใบสะระแหน่ และถั่วงอก

แถมด้วย ตำข้าวโพดไข่เค็ม ส่วนผสมก็มี พริกขี้หนู, กระเทียม, น้ำปลา, น้ำมะนาว, น้ำตาลปี๊บ, ข้าวโพดต้ม, กุ้งแห้ง, ถั่วลิสงคั่ว, มะเขือเทศสีดา, ไข่เค็ม (ไข่แดง) และแครอทสับฝอย วิธีทำ...ตำกระเทียมกับพริกขี้หนูให้เข้ากัน ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ ตำผสมพอเข้ากัน แล้วใส่ข้าวโพดต้ม กุ้งแห้ง มะเขือเทศสีดา ตามด้วยไข่แดงไข่เค็ม ปิดท้ายด้วยแครอทสับฝอย ใช้สากเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน ชิมรสให้เปรี้ยว หวาน และมีความมันของไข่แดง ก็เป็นอันใช้ได้

อีกสูตรคือ ตำมะม่วงปลากรอบ ส่วนผสมก็มี พริกขี้หนูแห้ง, น้ำตาลทราย, หอมแดง, น้ำมะนาว, น้ำปลา, กะปิ, มะเขือเทศสีดา, ปลากรอบ, ปลาเนื้ออ่อน, ตะไคร้ฝอย, เนื้อมะม่วงสับ (มะม่วงโชคอนันต์ เดือน 9) วิธีทำ...ตำพริกขี้หนูแห้ง ใส่น้ำตาลทราย หอมแดง น้ำมะนาว น้ำปลา กะปิ ตำให้เข้ากัน จากนั้นใส่มะเขือเทศสีดา ปลากรอบ ปลาเนื้ออ่อน ตะไคร้ฝอย และเนื้อมะม่วงสับ คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จ

ทั้งนี้ ราคาอาหารร้านนี้ อยู่ในช่วง 50 บาท ถึง 100 กว่าบาทเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงกับเมนูส้มตำด้วย
******

ร้านตำโขยง by Cafe TORINO อยู่ที่ SCB Park สำนักงานใหญ่ มีร้านสาขาที่ใต้ตึกซันทาวเวอร์ ถนนวิภาวดีรังสิต, เดอะมอลล์บางแค, เดอะมอลล์บางกะปิ ซึ่งกำลังจะเปิดใหม่ที่พระราม 2 ด้วย ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.30 น. มีบริการรับจัดเลี้ยงและรับออกร้านนอกสถานที่ด้วย เบอร์โทรศัพท์คือ 0-2617-6077 และ 08-9492-5689.
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / วรัญญู เหมือนเดช : ภาพ

Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/213866


แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้




สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


ชวนชิมเมนูปิ้งย่างสไตล์เกาหลี อร่อยเด็ด ‘อาหารอิตาเลียน’ รสชาติไทย

วันนี้ผมขอนำสูตรง่าย ๆ ของอาหารปิ้งย่างสไตล์เกาหลีมาฝากกัน เผื่อที่บ้านใครอยากทำรับประทานร่วมกันในครอบครัวจะกินด้วยตะเกียบ กินกับข้าวญี่ปุ่นหรือข้าวสวยของไทยเรา จิ้มกับน้ำจิ้มก็อร่อยได้เช่นกัน โดยเมนูที่ว่านั้นคือ ลิ้นวัวย่างแบบเกาหลี ซึ่งสูตรที่ให้ไปนี้จะใช้เนื้อหมูหรือเนื้อวัวหั่นบาง ๆ ทุบแล้วไปหมักก็ได้ แต่ที่ใช้ลิ้นวัวเพราะได้ความหอม
เริ่มกันที่ การทำน้ำหมักและน้ำจิ้ม โดยนําเอาเครื่องปรุงมาผสมในชามผสม ซึ่งจะมีกระเทียบสับ โคนต้นหอมสับมิโสะ น้ำผึ้ง นํ้าลูกแพร์ (สำหรับการทำน้ำลูกแพร์ ให้ซื้อลูกแพร์ที่สุกมากมาปอกเปลือกแล้วเอาไปคั้นน้ำ  หรือถ้ามีเครื่องปั่นพอปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำเข้าเครื่องปั่นได้เลย) จากนั้นใส่เกลือ พริกไทยดำบด และงาขาวบด (ภาษาอังกฤษเรียกว่าทาฮินี่ ซึ่งมีขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เกต) ผสมให้เข้ากัน ชิมรสชาติให้ดี ถ้าใครชอบเค็มก็ให้เพิ่มมิโสะหรือเกลือลงไป
เมื่อผสมทุกอย่างเข้ากันแล้ว ให้แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเอาไปหมักกับชิ้นเนื้อที่แล่เป็นชิ้นบาง ๆ โดยต้องหมักค้างคืนไว้เลยนะครับ เพื่อให้เข้าเนื้อ เนื้อจะนุ่ม หวาน เค็มและมีความหอม ส่วนผสมส่วนที่สองจะแบ่งไว้เป็นน้ำจิ้มสำหรับจิ้มเนื้อที่ย่างแล้ว


111

มาถึง การย่างเนื้อ  เตรียมกระทะย่างหรือเตาปิ้งให้พร้อม จากนั้นเทน้ำมันใส่ลงไปในเนื้อที่หมักไว้หรือจะเทลงไปในกระทะที่จะย่างก็ได้ โดยต้องรอให้น้ำมันร้อนจริง ๆ เพราะเนื้อที่แล่ไว้บางมาก หลังจากนั้นเอาเนื้อลงไปย่างแบบเร็ว ๆ  จนกระทั่งสุก แต่อย่าให้สุกมากเกินไปนัก เพราะจะทำให้เนื้อเหนียวและแห้ง รสชาติไม่อร่อย กลับทั้งสองด้านให้เหลือง จากนั้นยกขึ้นตักใส่จาน

สุดท้าย การเสิร์ฟ วางเนื้อย่างลงในจานเสิร์ฟ โรยด้วยงาดำงาขาวคั่ว และต้นหอมซอย เสิร์ฟเครื่องเคียงที่เป็นผัก มีหัวไช้เท้าซอย แครอทซอย และขิงดองญี่ปุ่น ซึ่งหาได้ง่ายตามซูเปอร์มาร์เกต ไม่ต้องมีวาซาบิ จะใช้น้ำจิ้มที่แบ่งไว้หรือจะจิ้มกับซีอิ๊วหรือน้ำปลาพริกก็ยังได้ กินกับข้าวสวยร้อน ๆ และสามารถเพิ่มรสชาติด้วยการหาซื้อกิมจิดี ๆ มากินแกล้มด้วย อร่อยอย่าบอกใคร ลองทำกันดูนะครับ.
เครื่องปรุง
-ลิ้นวัวเลาะพังผืดแล้ว 500 กรัมหรือเนื้อหมู
-กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-โคนต้นหอมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
-มิโสะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
-น้ำลูกแพร์ 1/2 ถ้วยตวง
-เกลือ 1 ช้อนชา
-พริกไทยดำบด 1 ช้อนชา
-งาขาวบด 1 ช้อนโต๊ะ
-นํ้ามันพืช  สำหรับทากระทะย่าง
-ต้นหอมซอย สำหรับแต่งหน้า
-งาดำงาขาวคั่ว สำหรับแต่งหน้า
-ขิงดองญี่ปุ่น สำหรับเสิร์ฟ
-หัวไช้เท้าซอย สำหรับเสิร์ฟ
-แครอทซอย สำหรับเสิร์ฟ

ร้านอาหารชวนชิม
วันนี้ผมจะพาไปกินอาหารอิตาเลียนที่คนไทยทำ รสชาติแบบไทย ๆ และราคาย่อมเยา ที่ร้าน ฟาบิโอ อิตาเลียน สเต็ก เฮ้าส์ อย่างแรกที่ต้องสั่งคือ สลัดยำกุ้ง ทำคล้ายซีซาร์สลัด แต่ใส่กุ้ง เบคอนกรอบ และพริกขี้หนูสับ เผ็ดอร่อยเข้ากัน ต่อด้วย ขนมปังพิซซ่ากับตับบด มีน้ำมันมะกอกผสมพริกตำแบบอิตาเลียนเสิร์ฟมาพร้อมด้วย แป้งขนมปังพิซซ่าไม่หนาเกินไป ไม่มัน และกรอบนอกนุ่มใน
จากนั้นเป็น เนื้อเป็ดอบกับผักโขม ซึ่งผมชอบเรียกว่าลาซานญ่าเป็ด เหมาะกับคนที่ไม่กินเนื้อวัวเพราะรสชาติอร่อยเหมือนกับทำจากเนื้อวัว เมนูต่อมาเป็น เส้นหมึกดำผัดขี้เมาทะเล เผ็ดร้อน รสชาติแบบไทยแต่สไตล์ฝรั่ง ต่อด้วยอาหารหลัก เนื้อสเต๊กย่าง ย่างแบบง่าย ๆ ไม่ต้องมีซอสมากมาย เอาเนยไปผสมเครื่องเทศมาวางไว้บนเนื้อ พอเนยละลายทำให้เนื้อมีความมันและหอม อร่อย

ยังมี ปลาแซลมอนย่าง ราดซอสที่ทำจากแอปเปิลหั่นเป็นลูกเต๋าเล็ก ๆ ผัดกับเนยและเครื่องเทศ เนื้อปลาตรงกลางยังเป็นสีชมพู ไม่สุกเกินไป ต่อด้วยของโปรดของผมคือ กล้วยทอด เอากล้วยไปชุบแป้งทอด โรยน้ำตาลไอซิ่ง เสิร์ฟพร้อมกับน้ำผึ้ง เวลากินระวังร้อนนะครับ ค่อย ๆ ตัด ร้านนี้ทอดกล้วยได้พอดี มีความหวาน มัน นุ่ม และกรอบ แถมยังได้ความหอมของน้ำผึ้ง อร่อยใช้ได้เลยครับ
ผมเชื่อว่าอาหารเมนูต่าง ๆ ของร้านนี้อร่อยถูกปากคนไทยแน่นอน อยากให้เพื่อน ๆ ว่าง ๆ ลองไปกันดูนะครับ.

หมึกแดงไกด์สำหรับ
ฟาบิโอ อิตาเลียน สเต็ก เฮ้าส์
ความอร่อย 
ความสะอาด
คุณภาพของวัตถุดิบ
การบริการ
ราคา 
ความเผ็ด
ที่อยู่ : 4 ซอยเทศบาลรังสฤษฎ์ใต้ ประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทร : 0-2954-4194 เวลาทำการ : 10.30-22.00 น.
หมึกแดง
www.mcdangguide.com

Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/224/211572


แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


‘วุ้นแฟนซี’ไปได้ดี..ถ้ามีลูกเล่น!!

ขนมหวานประเภท “วุ้น” นั้นทำเมื่อไหร่ก็ขายได้ จึงเป็นที่สนใจของหลายคนมาตลอด เหตุเพราะวิธีทำไม่ยุ่งยาก และใช้เงินลงทุนไม่สูงจนเกินไปนัก สามารถทำเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริม ยิ่งรู้จักดัดแปลงเพิ่ม “ลูกเล่น” ใหม่ ๆ เช่นทำให้มีสีสันแปลกตา ก็สามารถทำขายเป็น ’ช่องทางทำกิน“ ได้ไม่ยากนัก อย่างเช่น ’วุ้นแฟนซี“ ที่จะนำเสนอในวันนี้...
    
“ประสงค์-นลินญา ดิษฐาพรเศรษฐ์” ทำ “วุ้นแฟนซี” จำหน่ายมาได้ 7 ปีแล้ว โดยยึดเป็นอาชีพหลักหลังลาออกจากงานประจำในบริษัทเอกชน ซึ่งประสงค์เล่าว่า ความรู้ในการทำวุ้นแฟนซีนี้ อาศัยการเปิดหนังสือทำขนม และได้ไปฝึกอบรมการทำจากที่ต่าง ๆ โดยนำมาปรับใช้ให้ตรงกับความต้องการของตัวเอง จนกลายเป็นวุ้นแฟนซีอย่างที่เห็น

และถึงแม้จะไม่มีหน้าร้าน แต่อาศัยทำตลาดโดยเริ่มจากการทำแจกให้เพื่อนฝูงคนรู้จักทดลองชิม นอกจากนี้ยังเปิดช่องทางนำเสนอสินค้าผ่านเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อว่า www.facebook.com/WunFancyLoveU เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้จัก ซึ่งรูปแบบของวุ้นนั้น เขาบอกว่า แบ่งออกเป็น วุ้นจิ๋ว, วุ้นกระปุก, วุ้นเค้ก โดยราคาก็จะแตกต่างกันไป และสามารถเพิ่มมูลค่าได้จาก “บรรจุภัณฑ์” ที่เลือกใช้ ขณะที่รายละเอียดของวุ้นแฟนซีที่สามารถตกแต่งได้หลากหลาย และสามารถทำได้หลายรสชาติ ก็เป็นอีกจุดเด่นที่ทำให้คนนิยม ทำให้มีลูกค้าหันมาสนใจวุ้นแฟนซีมากขึ้น



“วุ้นแฟนซีทำขายได้ทั้งปี และจะดีในช่วงใกล้เทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ วาเลนไทน์ นอกจากนี้ ตามงานเลี้ยงหรืองานต่าง ๆ อาทิ ทำบุญ เลี้ยงพระ ก็นิยมหันมาใช้วุ้นแฟนซีแทนขนมอื่น ๆ กันมากขึ้น” ประสงค์กล่าว

ทุนเบื้องต้นอาชีพ ลงทุนประมาณ 3,000 บาท แต่ถ้าใครมีอุปกรณ์ครัวอยู่บ้างต้นทุนส่วนนี้ก็จะลดลงไปอีก ส่วนทุนวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 50% จากราคาขาย ซึ่งมีตั้งแต่ชิ้นละ 2.50 บาท ไปจนถึง 500 บาท ขึ้นกับขนาดและชนิดของวุ้นแฟนซีที่ทำ

เครื่องมืออุปกรณ์ หลัก ๆ ประกอบด้วย หม้อส่วนผสม, แม่พิมพ์วุ้นแบบและขนาดต่าง ๆ, ถ้วยตวง, ไม้พาย สำหรับกวน, บรรจุภัณฑ์, กระติกเก็บความร้อน, ภาชนะพลาสติก, ถาด, ผ้าขาวบาง และกล่องโฟม สำหรับบรรจุวุ้นเพื่อส่งให้ลูกค้า

ส่วนผสม “วุ้นใส” ประกอบด้วย ผงวุ้น 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทรายขาว 2  ถ้วยตวง, ใบเตยสด 6 ใบ, กลิ่นใบเตย 5-10 หยด, น้ำเปล่า 8 ถ้วยตวง สำหรับ “วุ้นกะทิ” ประกอบด้วย ผงวุ้น 3 ช้อนโต๊ะ, หัวกะทิ 4 ถ้วยตวง, น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง, เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง, ใบเตย 6 ใบ โดยสูตรนี้จะทำวุ้นจิ๋วได้ 300 ชิ้น หรือทำวุ้นเค้กได้ 1 ปอนด์

ขั้นตอนการทำ เริ่มที่การทำวุ้นใส นำผงวุ้นที่ตวงแล้วผสมกับน้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาให้นำน้ำเปล่าอีก 6 ถ้วยตวงมาผสม จากนั้นนำใบเตยสดที่ล้างสะอาดมาตัดเป็นท่อน ๆ ยาวประมาณ 4-5 นิ้ว นำมาตั้งไฟเคี่ยวจนกระทั่งได้กลิ่นหอมใบเตยจึงตักออกจากหม้อ นำวุ้นที่แช่น้ำไว้ใส่ลงไป ใช้ไม้พายคนจนวุ้นละลายทั่ว หรือจนมีลักษณะหนึบ ๆ นำน้ำตาลทรายขาวและกลิ่นใบเตยใส่ลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันหรือจนน้ำตาลละลายจึงยกลง เทลงบนผ้าขาวบางที่ปูไว้เหนือกระติกเก็บความร้อน เทเสร็จ ปิดฝา พักไว้ก่อนเพื่อไปทำวุ้นกะทิต่อ

การทำวุ้นกะทิ เริ่มจากนำน้ำเปล่า 1 ถ้วยตวงผสมกับผงวุ้นที่ตวงไว้ แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อครบกำหนดนำน้ำเปล่าอีก 3 ถ้วยตวงผสมลงไป จากนั้นทำขั้นตอนต่อไปเหมือนกับการทำวุ้นใส คือนำใบเตยสดที่ล้างสะอาดมาตัดเป็นท่อน ๆ ยาวประมาณ 4-5 นิ้ว นำมาตั้งไฟเคี่ยวจนกระทั่งได้กลิ่นหอมใบเตยจึงตักออกจากหม้อ นำวุ้นที่แช่น้ำใส่ลงไปคนจนวุ้นละลายหรือมีลักษณะหนึบ ๆ เติมน้ำตาลทรายขาว ใส่เกลือ แป้งข้าวเจ้า และหัวกะทิ จากนั้นคนแค่พอให้สุก อย่าให้กะทิแตกมัน ยกลงจากเตา แล้วเทวุ้นกะทิลงไปในกระติกเก็บความร้อน

“วิธีการหยอดแม่พิมพ์เพื่อตกแต่งนั้น ให้ตักแบ่งวุ้นกะทิจากกระติกเก็บความร้อนใส่ถ้วยตักแบ่งให้พอกับส่วนที่จะ หยอด เมื่อหยอดวุ้นกะทิแล้วก็ให้ทำการหยอดวุ้นใสลงแม่พิมพ์ที่ต้องการขึ้นรูปของ วุ้น พอส่วนที่เป็นวุ้นใสแข็งตัวก็ให้ตักวุ้นใสสีอื่นหรือวุ้นกะทิลงไปตกแต่งตาม ต้องการ ทำสลับกันจนเต็มแม่พิมพ์ ทิ้งไว้สักครู่ให้เย็นตัวลงนิดหน่อย จึงนำไปแช่เย็น” ประสงค์กล่าว
    
ใครสนใจ ’วุ้นแฟนซี“ อยากติดต่อเจ้าของกรณีศึกษา ’ช่องทางทำกิน“ รายนี้ ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-1806-8769, 08-1854-6811 และหากใครสนใจอยากจะหัดทำเป็นเรื่องเป็นราวก็สามารถสอบถามข้อมูลแบบเจาะลึก ได้โดยตรงที่เจ้าตัวเลย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกช่องทางทำกินจาก “วุ้น” ที่พลิกแพลง “ใส่ลูกเล่น” ได้อย่างน่าสนใจ.
ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ : เรื่อง-ภาพ


Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/210060


แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


“ขนมเบื้องแฟนตาซี” จุดขายอยู่ที่ความแปลก

ขนมกินเล่นแบบไทยอย่าง “ขนมเบื้อง” นอกจากจะมีหน้าฝอยทอง หน้ากุ้ง ยุคนี้ยังมีการทำเป็น “ขนมเบื้องแฟนตาซี” ใส่ลูกเล่นในการตกแต่งหน้าเพิ่มเติมเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นสายรุ้ง เยลลี่ ช็อกโกแลต เกล็ดน้ำตาล ฯลฯ กลายเป็นรูปแบบที่แปลกใหม่ และก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบ “ช่องทางทำกิน” ที่วันนี้ ณ ที่นี้มีข้อมูลมานำเสนอเป็นกรณีศึกษา... คุณนุช-อัญชุลี ปิ่นทองเจริญ เจ้าของร้าน “นะโม-น้ำมนต์ ขนมเบื้องแฟนตาซี” ในตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง เล่าว่า ขายขนมเบื้องมา 6 ปีแล้ว โดยแรกเริ่มนั้นขายเฉพาะขนมเบื้องที่เป็นหน้าฝอยทอง และหน้ากุ้ง เริ่มขายแถวบ้านก่อน เมื่อมีการเปิดตลาดบางน้ำผึ้งก็ได้มาขายที่นี่ เพราะเห็นว่าในตลาดนี้ยังไม่มีใครขายขนมเบื้องเลย




ส่วน “ขนมเบื้องแฟนตาซี” นั้นขายเพิ่มมาประมาณ 3 ปี โดยลูกสาวเป็นคนริเริ่มในการทำขายเพิ่มขึ้นมา ซึ่งลองทำแล้วก็ปรากฏว่าขายได้ ตลาดกว้างขึ้น จากเดิมที่ขายได้เฉพาะผู้ใหญ่เป็นหลัก แต่ขนมเบื้องแฟนตาซีจะขายได้ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และชาวต่างชาติที่มาเที่ยวตลาด เพราะเขาเห็นว่าแปลกดี

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำขนมเบื้อง หลัก ๆ ก็มี เตาขนมเบื้อง, เครื่องตีแป้ง, เตาแก๊ส-กระทะ และภาชนะเครื่องครัวเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ

ส่วนผสมแป้งขนมเบื้อง ตามสูตรก็มี แป้งข้าวเจ้า 1 กก. ต่อแป้งหมี่ 500 กรัม, น้ำตาลทราย 800 กรัม, น้ำปูนใสพอประมาณ และไข่ไก่ 6 ฟอง

วิธีทำ นำแป้งข้าวเจ้า แป้งหมี่ และน้ำตาลทราย มาผสมรวมกัน แล้วใช้ที่ตีแป้งตีให้เข้ากัน หรืออาจจะใช้มือขยำก็ได้ จากนั้นเทน้ำปูนใสลงไปพอประมาณ ตอกไข่ไก่ลงไปผสมด้วย ผสมให้ส่วนผสมเข้ากันดีโดยไม่เหนียวเกินไป และไม่เหลวเกินไป ดูว่าแป้งมีสีน้ำตาลกำลังดี สีไม่เข้มและไม่อ่อนจนเกินไป

สำหรับหน้าขนมเบื้อง มีดังนี้คือ 1.หน้าครีม มีส่วนผสมคือ น้ำตาลปี๊บ 2 กก. ต่อไข่ขาว 500 กรัม ตีผสมรวมกันจนเป็นครีมฟู 2.หน้าฝอยทอง ใช้ขนมฝอยทองที่ซื้อสำเร็จรูปมาใช้ได้เลย หรืออาจจะทำเองก็ได้

3. หน้ากุ้ง มีส่วนผสมของ นมสด 1 กระป๋อง ต่อมะพร้าวขูดฝอย 2 กก. เนื้อกุ้งสับ 300 กรัม กุ้งฝอย 300 กรัม น้ำตาลทราย 1 กก. พริกไทย 300 กรัม เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ รากผักชีตำและกระเทียมตำพอประมาณ วิธีทำหน้ากุ้งคือ ตั้งกระทะ ใช้ไฟร้อนปานกลาง เคี่ยวนมสดและน้ำตาลทรายให้เข้ากัน จากนั้นใส่พริกไทย กระเทียม กุ้งฝอย เนื้อกุ้งสับ รากผักชี มะพร้าวขูดฝอย และสีผสมอาหารสีแสดนิดหน่อย  ผัดไปเรื่อย ๆ ให้เข้ากัน จนมะพร้าวสุก เท่านี้ก็เป็นอันใช้ได้ และสำหรับ หน้าแฟนตาซี สิ่งที่ใช้ก็มี ครีมสตรอเบอรี่, ครีมบลูเบอรี่, ครีมช็อกโกแลต, เยลลี่,  เฟิร์สช็อก (ช็อกโกแลตก้อน), โอริโอ, ช็อกไรซ์ (เกล็ดช็อกโกแลต), เรนโบว์ (เกล็ดน้ำตาลสี) และลูกเกด 
วิธีทำเป็นขนมเบื้อง ตั้งเตาขนมเบื้อง ใช้ไฟร้อนพอประมาณ เช็ดน้ำมันพืชให้ทั่วเตา จากนั้นใช้กระจ่าแตะที่แป้งขนมเบื้องที่เตรียมไว้ แล้วค่อย ๆ ละเลงบนกระทะเป็นวงรี ให้มีความกว้างประมาณ 2 นิ้ว
จากนั้น เมื่อลูกค้าเลือกว่าจะให้ทำเป็นหน้าอะไร โดยลูกค้าสามารถเลือกหน้าได้ 3 อย่างต่อ 1 ชิ้น ก็ใส่หน้านั้น ๆ เมื่อใส่หน้าเสร็จแล้วก็รอสักพักจนขนมสุก จึงพับครึ่งแล้วแซะใส่ถาด จัดใส่ภาชนะ พร้อมขาย 

ขนมเบื้องแฟนตาซีเจ้านี้ ขายในราคากล่องละ 25 บาท จะมีขนมเบื้อง 10 ชิ้น หรือขายแยกในราคา 2 ชิ้น 5 บาทก็ได้ แล้วแต่ว่าลูกค้าจะซื้อเท่าไหร่
******

สนใจ “ขนมเบื้องแฟนตาซี” ของคุณนุช-อัญชุลี ปิ่นทองเจริญ ร้าน “นะโม-น้ำมนต์ ขนมเบื้องแฟนตาซี” ร้านอยู่ในตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ขายทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 07.00-16.00 น. โทร. 08-9456-9622 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” จากการขายขนม ที่มีการประยุกต์พลิกแพลง จนมีตลาด มีกลุ่มลูกค้ากว้างมากขึ้น.
สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : เรื่อง / วรพรรณ เลอสิทธิศักดิ์ : ภาพ


Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/212173

แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


ยุพินเมี่ยงปลาเผา สูตรน้ำจิ้มรสแซบหอยแครงลวก

ไทยอาชีพ.com ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ “คุณลุง วิทวัส” และ “คุณป้า ยุพิณ” เจ้าของร้าน ยุพินเมี่ยงปลาเผา ตั้งอยู่ที่พัทยา ซ.เขาน้อย หลายท่านที่พักอาศัพอยู่บริเวณนั้นจะรู้จักร้านยุพินเมี่ยงปลาเผาดี เพราะร้านนี้เปิดขายมานานกว่า 4 ปีแล้ว ปัจจุบันมีทั้งลูกค้าขาจรและลูกค้าประจำแวะเวียนมาอุดหนุนอยู่เรื่อยๆ ไม่ขาดสาย


จุดเด่นของร้านปลาเผา

จุดเด่นของร้านนี้คือ น้ำจิ้มปลาเผา ซึ่งมีรสชาติอร่อยและลงตัว เทคนิคการย่างปลาเผาคุณลุงวิทวัสและคุณป้ายุพิณก็ไม่เหมือนใคร คนอื่นอาจจะคิดว่าการย่างปลาเผาจะมีเทคนิคอะไรมากมายก็แค่เอาเกลือมาโรยและ ย่างบนเตาถ่านแค่นั้นก็เสร็จ แต่มันไม่ใช่สำหรับร้านนี้ คุณลุงกับคุณป้าพิถีพิถันทุกขั้นตอน กว่าจะได้ปลาเผาสูตรพิเศษมาขายนั้นลุงกับป้าก็ลองผิดลองถูกกันมาตลอด จนสุดท้ายได้เทคนิคและวิธีการทำปลาเผาให้อร่อยจนสามารถเปิดร้านและขายมา นานกว่า 4 ปีแล้วค่ะ


เมี่ยงปลาเผาเสริมด้วยหอยแครงลวก

นอกจากเมี่ยงปลาเผาแล้ว ยังมีหอยแครงลวก น้ำจิ้มหอยแครงก็อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ ส่วนปลาเผาก็มีให้ลูกค้าเลือกหลายขนาดหลายราคา มีตั้งแต่ราคา 100 บาท ไปจนถึง 300 บาท แต่ราคานี้คุ้มมากค่ะ เพราะก่อนที่เราจะไปสัมภาษณ์เราได้ลองซื้อมาทานแล้วถึงขนาดติดใจต้องขอเป็น ลูกค้าขาประจำอีกคน ซื้อปลาเผาตัวใหญ่ 1 ตัว




และหอยแครงลวกจิ้มอีกครึ่งกิโล ขอบอกว่าทานกันไม่หมดเลยทีเดียว และที่สำคัญร้านนี้เขาไม่คิดค่าผักเพิ่มนะค่ะ ลูกค้าสามารถหยิบผักเองได้ตามใจชอบ ไม่เหมือนบางร้านเราจะเห็นเขานำผักใส่ถุงไว้พร้อมกับขนมจีนและน้ำจิ้มไว้ เรียบร้อยเลย หากลูกค้าต้องการผักเพิ่มลูกค้าก็ต้องเสียเงินอีกประมาณ 20-30 บาท




คืออันนี้แอดมินเคยเจอมาจริงๆ นะค่ะ ซึ่งราคาปลาเผาก็แพงอยู่แล้ว ตัวเล็ก 120 บาท แล้วเรายังต้องมาเสียเงินซื้อผักเพิ่มอีกอ่ะหรอ มันก็ยิ่งแพงไปอีก คุณลุงกับคุณป้าได้เล่าให้เราฟังว่าเมื่อก่อนลุงกับป้าเคยเป็นผู้รับเหมาก่อ สร้าง มีรายได้สูงแต่ความเสี่ยงก็สูงด้วย ต้องดูแลรับผิดชอบหลายอย่าง พอดีลุงกับป้าได้รู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งเขาแนะนำให้ลองทำขายดู เลยเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจนี้มาจนถึงปัจจุบัน

ราคาปลาเผา

ราคาปลาเผาของร้านนี้ก็ไม่แพงอย่างที่คิดเลยค่ะ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ตัวละ 100 บาท ถ้า ปลาตัวละ 7 – 9 ขีด = 120 –  140 บาท หรือปลาตัวละ 1 กิโลกรัม – กิโลครึ่ง = 180 – 200 บาท และหากเป็นตัวใหญ่สุด 2 กิโลกรัม – 2 กิโลครึ่ง = 280 -300 บาท (ผักฟรี + น้ำจิ้มฟรี + ขนมจีนฟรี) ร้าน นี้เปิดขายทุกวัน จันทร์ – พฤหัสจะขายได้ประมาณ 50 – 60 ตัว หากเป็นศุกร์ – อาทิตย์จะอยู่ที่ประมาณ 70 – 90 ตัว แต่หากอยู่ในช่วงเทศกาลถือศีล กินเจ หรือช่วงเข้าพรรษา ยอดขายอาจจะลดลงเหลือเพียงวันละ 40 – 50 ตัว 

แหล่งที่มาของปลา

ลุงกับป้าไปรับปลามาจากตลาดสด ปลาที่รับมาทำปลาเผาก็จะมีอยู่สองชนิดคือ ปลาทับทิมและปลานิล ซึ่งราคาของปลาทับทิมก็จะอยู่ที่ประมาณ 50 – 85 บาท และราคาของปลานิลอยู่ที่ 30 – 58 บาท แล้วเราค่อยมาแยกไซส์และราคาของปลาเผาเป็นตัว ว่าจะจัดให้ตัวไหนราคาเท่าไหร่ตามกิโลกรัมของปลา (ราคาปลาที่รับมาขึ้นอยู่กับราคาของตลาดอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาค่ะ)
สูตรวิธีทำปลาเผา
  1. ให้ทำความสะอาดปลาที่จะนำมาทำปลาเผาให้สะอาด โดยผ่าท้องควักเครื่องในออกไม่ต้องขอดเกล็ดออก และล้างด้วยน้ำสะอาดเท่านั้น
  2. ทุบตะไคร้ให้แตก ขูดขิงให้เป็นฝอย แล้วพันด้วยใบโหระและใบเตยพายัดเข้าไปในพุงปลาให้เต็ม ใส่ขิงขิงเพื่อดับกลิ่นคาวและเพิ่มความหอมจากใบเตย
  3. นำเกลือโรยให้รอบตัวปลาพอประมาณ
  4. ให้นำปลาไปย่างกับเหล็กปิ้งปลา หรือนำไม้เสียบกับตัวปลามาแล้วเอามาย่างก็ได้ ด้วยเตาถ่านให้คอยดูจนสุก
เครื่องปรุงปลาเผา 
  • ปลานิลเลือกไซส์ใหญ่ 1 ตัว ตัวประมาณ 1 กิโลกรัมกำลังดี
  • เกลือ ความเป็นเกลือที่สะอาด
  • ตะไคร้ 2 ต้นขึ้นไปใส่ให้พอดีกับปลา
  • ใบโหระพา ไม่ต้องใส่ก็ได้อยู่ที่ความชอบ
  • ขิงฝอย  ใส่เพื่อดับกลิ่นคาว
เครื่องเคียง
  • มีผักสด ผักกาดหอม ผักกาดขาว ผักชีไทย ผักชีฝรั่ง ผักใบเลื้อย สะระแหน่ ใบโหระพา
  • ขนมจีน
  • เส้นหมี่ขาว
  • แผ่นเมี่ยงญวน
ส่วนผสมน้ำจิ้มชนิดเผ็ด
  • พริกขี้หนูสวน 1/2 กก.
  • รากผักชี 2 ขีด
  • กระเทียมดอง 2 ขีด
  • กระเทียมแบบกลีบปอกเปลือก 1 ขีด
  • พริกไทยเม็ดขาว 1 ขีด
  • น้ำปลา 1/2 ลิตร
  • น้ำมะนาว 1/2 ลิตร
  • น้ำตาล 3 ขีด
วิธีทำ
  • นำส่วนผสมทั้งหมดรวมกันแล้วปั่นให้ละเอียดเพียงเท่านี้ค่ะ
ส่วนผสมน้ำจิ้มชนิดหวาน
  • น้ำมะขาม เปียก 1/2 กก.
  • น้ำปลา 1/2 ลิตร
  • ถั่วลิสง 2 ขีด
  • น้ำตาลปี๊บ 3 ขีด
วิธีทำ
  • เคี่ยวน้ำมะขามเปียกด้วยไฟอ่อนๆ เติมน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผสมลงไป แล้วคนให้เข้ากัน ชิมให้ได้ รสเปรี้ยว เค็ม หวาน โรย หน้าด้วยถั่วลิสงตำหยาบๆ หรือจะใช้เป็นถั่วตัดก็จะได้รสชาติจัดจ้านขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติม
ร้านยุพิณเมี่ยงปลาเผารับจัดเลี้ยงบุฟเฟ่ต์ปลาเผา งานวันเกิด หรืองานเลี้ยงต่างๆ หากท่านใดสนใจรายละเอียดและวิธีการทำเมี่ยงปลาเผา สามารถติดต่อลุงวิทวัสและคุณป้ายุพิณได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 084 – 3497370 และ 084 – 5498431

Credit by..http://www.thaiarcheep.com/เมี่ยงปลาเผา.html

แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...


“ห่อหมกปลากราย” เนื้อเนียนไร้ก้างสร้างเงิน

ห่อหมกปลา อาหารพื้นบ้านโบราณที่แสดงถึงตัวตนความเป็นคนไทย กว่าจะปรุงสำเร็จออกมาเป็นห่อหมกแสนอร่อยสักห่อต้องพิถีพิถันและต้องผ่าน ขั้นตอนการทำที่ต้องอาศัยความอดทนอยู่ไม่น้อย ทั้งการกวน ห่อ และนึ่ง ซึ่งผู้ที่มีอาชีพทำห่อหมกขายจะต้องมีความมุ่งมั่นถึงจะทำห่อหมกออกมาได้ดี แต่ถ้าทำได้ดี ก็สามารถจะเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่ดีได้ อย่างการทำ “ห่อหมกปลากราย” ขาย ที่จะนำเสนอให้ได้พิจารณากันในวันนี้...

“ห่อหมกปลากราย” ที่จะนำเสนอวันนี้ เป็นสูตรโบราณบางคล้า มีการปรับเปลี่ยนภาชนะห่อหมกจากห่อเป็นกระทง ซึ่งก็สร้างจุดขายที่น่าสนใจได้อีกแบบ โดยผู้ที่จะมาบอกเล่าการทำห่อหมกปลากรายขายคือ คุณชุติพร กิตติโมรากุล หรือ เจ๊ณี อายุ 56 ปี เจ้าของร้านอาหารครัวบ้านไทยปลาเผาซึ่งทำห่อหมกปลากรายขายด้วย ซึ่งเจ๊ณีเล่าว่า เริ่มทำห่อหมกปลากรายขายพร้อม ๆ กับการเปิดตลาดน้ำบางคล้า มาประมาณ 5-6 ปีแล้ว ก่อนหน้านั้นช่วยธุรกิจครอบครัวคือทำโรงงานก๋วยเตี๋ยว ต่อมาก็แยกตัวมาทำธุรกิจส่วนตัว เพราะอยู่ใกล้แม่น้ำ และมีฝีมือในการทำอาหาร จึงเปิดร้านอาหารที่เน้นเรื่องปลาเป็นหลัก โดยปัจจุบันคนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพ หันบริโภคปลากันเยอะ จึงนับว่ามีจุดขายที่ดี




“ช่วงที่ตลาดน้ำบางคล้าเปิดใหม่ ๆ ไม่รู้จะขายอะไรที่นี่ ก็เลยรับหมูยอของพี่ชายมาพายเรือขายตั้งแต่ตลาดเริ่มบุกเบิก ก็ขายดิบขายดี แต่จำต้องเลิกไป เพราะอยู่ไกล กำไรไม่คุ้มกับค่าขนส่ง ช่วงแรก ๆ ที่นี่มีอาหารขายไม่เยอะ จึงไม่ซ้ำกัน ก็นึกถึงห่อหมกปลากรายที่เคยช่วยคุณแม่ทำและขายมาตั้งแต่เด็ก ๆ ปรากฏว่าขายดีมาก ไม่กี่ชั่วโมงก็หมดจนต้องเพิ่มของ และเพื่อเป็นการเอาใจนักท่องเที่ยวที่ต้องการกินไปเดินชมทิวทัศน์ไปด้วย จึงเพิ่มสินค้าอีกตัวคือทอดมันปลากราย ที่ใช้ส่วนผสมเดียวกันกับห่อหมก เพียงแต่เพิ่มส่วนผสมอื่นอีกเล็กน้อย คือถั่วฝักยาวและไข่” เจ๊ณีบอก

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำห่อหมกปลากรายนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำครัวทั่วไป อาทิ เขียง, หม้อ, มีด, เตาแก๊ส, กระทงใบตอง และเครื่องครัวเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ส่วนที่ต้องมีพิเศษคือเครื่องปั่นพริก และลังถึงสำหรับนึ่งห่อหมกปลากราย

ส่วนผสมและวัตถุดิบที่ใช้ ก็มีผักต่าง ๆ สำหรับรองพื้นกระทง เช่น ใบยอ, โหระพา, กะหล่ำปลี (ผักหวาน, เห็ดนางฟ้า) ส่วนของสดก็มี เนื้อปลากรายขูด, ไข่เป็ด, น้ำกะทิ, พริกแกงเผ็ด (เจ้าประจำ), น้ำตาลทราย, น้ำปลา, แป้งข้าวเจ้า และผักที่ใช้โรยหน้า คือใบมะกรูดหั่นฝอย พริกชี้ฟ้าหั่น

ขั้นตอนการทำ “ห่อหมกปลากราย” เริ่มจากการทำผักรองพื้นก่อน โดยนำผักที่จะใช้รองพื้นมาล้างให้สะอาดแล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ นำใบยอมาหั่นเป็นชิ้น ๆ กะหล่ำปลีลวกพอนิ่มหั่นเป็นชิ้นเล็กตามต้องการ ส่วนใบโหระพาเด็ดเป็นใบ ๆ เตรียมไว้ในภาชนะที่สะอาด

นำน้ำกะทิใส่อ่างหรือหม้อสเตนเลสที่มีขนาดกว้างพอประมาณสำหรับใช้กวน ตามด้วยพริกแกงเผ็ดห่อหมก ใช้ไม้พายคนส่วนผสมน้ำกะทิกับพริกแกงให้ละลายเข้ากันดี จากนั้นนำเนื้อปลากรายขูดใส่ลงไปผสม ตามด้วยไข่เป็ด ทำการกวนส่วนผสมห่อหมกให้เข้ากัน (เทคนิคการกวนคือจะต้องกวนไปทางเดียวกัน ถ้ากวนกลับไปกลับมาส่วนผสมจะคลายตัว ไม่เหนียวข้น) ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย น้ำปลา ค่อย ๆ เติมน้ำกะทิทีละน้อยจนหมด กวนส่วนผสมไปเรื่อย ๆ จนฟูและเหนียว ตั้งพักไว้สักครู่

ระหว่างนั้นให้เตรียมทำน้ำกะทิสำหรับหยอดหน้าห่อหมก ด้วยการเอาหัวกะทิผสมกับแป้งข้าวเจ้าและเกลือเล็กน้อย คนให้ละลายเข้ากัน แล้วยกขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ กวนจนกะทิสุก จะข้นหนืดนิด ๆ ยกลงตั้งพักไว้ให้เย็น

จากนั้นใช้ช้อนตักส่วนผสมห่อหมกมาหยอดใส่ลงในกระทงที่รองด้วยผักรองพื้นแต่ ละชนิดประมาณ 1/2  กระทง ใส่ส่วนผสมห่อหมกลงในกระทงจนเต็ม ปาดเก็บส่วนผสมให้สวยงาม เสร็จแล้วจัดเรียงวางกระทงลงในรังถึงจนเต็ม ยกขึ้นนึ่งด้วยน้ำเดือด แล้วค่อย ๆ หรี่ไฟประมาณ 15 นาที (การนึ่งถ้าใช้ไฟแรงเกินไปพอสุกแล้วหน้าห่อหมกจะระเบิดเป็นแฉก ไม่สวย) แล้วยกลง แต่งหน้ากระทงห่อหมกด้วยกะทิ ใบมะกรูดหั่นฝอย และพริกชี้ฟ้าสีแดงหั่น เพื่อเพิ่มสีสันให้กับห่อหมก

ราคาห่อหมกปลากรายเจ๊ณี ขายกระทงละ 10 บาท

สนใจ “ห่อหมกปลากราย” รวมถึงทอดมันปลากราย ของร้านเจ๊ณี ก็ไปกันได้ที่ตลาดน้ำบางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เปิดให้บริการทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ หรือสนใจสั่งไปใช้ในเทศกาลงานต่าง ๆ ติดต่อเจ๊ณีได้ที่ โทร.08-5357-6242 ทั้งนี้ การทำห่อหมกขายนั้นเป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่แม้จะไม่มีหน้าร้านก็ทำแบบรับสั่งทำได้ ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบอาชีพที่น่าสนใจ!!!!.

เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / วรัญญู เหมือนเดช : ภาพ


Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/210381

แนะนำรวมบทความงานฝีมือเพิ่มรายได้

สร้างรายได้เสริม สร้างอาชีพเสริม ด้วยการทำสินค้า Handmade

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.