สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

เคาหยก

เคาหยก อาหารขึ้นสำรับวันนี้ เป็นอาหารจีน ตำรับกวางตุ้ง ที่คนจีนหลายๆบ้านรู้จักดี โดยเฉพาะครอบครัวของ ดร.สันติ กนกธนาพร ผู้อำนวยการสถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ ภายใต้การกำกับดูแล ของกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งรับประทานมาตั้งแต่ยังเด็กๆ โดยมีวิธีการปรุงที่หลากหลาย เคาหยกที่ใช้เผือกเป็นเครื่องปรุง จะมีชื่อเรียกเต็มยศว่า  หวู่เถาเคาหยก   แต่ถ้าเคาหยกแบบที่ปรุงกับผักกาดขาวหมักเกลือตากแห้ง ก็เรียกว่า หมุ่ยชอยเคาหยก

เคาหยก อาหารขึ้นสำรับวันนี้ เป็นอาหารจีน ตำรับกวางตุ้ง


เคาหยก อาหารขึ้นสำรับวันนี้ เป็นอาหารจีน ตำรับกวางตุ้ง
เคาหยก อาหารขึ้นสำรับวันนี้ เป็นอาหารจีน ตำรับกวางตุ้ง

ดร.สันติ หรือที่เพื่อนๆสมัยเรียนเรียกกันว่า“แซน” ซึ่งย่อมาจากสันตินั่นเอง ได้เล่าว่า ครอบครัวผมลูกชายจะทำอาหารเป็นกันหมด ในขณะที่ลูกสาวบ้านนี้ทำกับข้าวไม่เป็นเลย!! คงจะเป็นเพราะผมคอยช่วยคุณแม่ทำครัวมาตั้งแต่เด็ก ได้เห็นได้เรียนรู้ไปด้วย ยิ่งเมื่อได้ไปเรียนต่อที่อังกฤษ เช่าบ้านอยู่รวมกันกับคนจีนฮ่องกง ช่วยกันทำอาหารรับประทาน ก็เหมือนได้แลกเปลี่ยนสูตรอาหารกันและกันไปด้วย อย่างเช่น เป็ดย่างฮ่องกง ดร.แซนบอกว่า ผมก็เคยลองทำมาแล้วคร้าบ ขณะที่อาหารกวางตุ้งส่วนใหญ่ ดร.แซนจะได้สูตรมาจากคุณแม่ อย่างเช่น หวู่เถาเคาหยก นี้ ซึ่งจะต้องใส่เต้าหู้ยี้ด้วย

เคาหยก อาหารขึ้นสำรับวันนี้ เป็นอาหารจีน ตำรับกวางตุ้ง
เคาหยก อาหารขึ้นสำรับวันนี้ เป็นอาหารจีน ตำรับกวางตุ้ง

เครื่อง ปรุง : เนื้อหมู 3 ชั้น (แต่ถ้าเลือกได้ 5 ชั้น ยิ่งดี เพราะจะได้หมูชิ้นหนา) 6-8 ขีด/เผือก 1 หัว/ หอมแดง 3 หัว/รากผักชี 2 ต้น/น้ำมันงา 1/2 ชช./พริกไทยป่นหยาบ 1/2 ชช./ซีอิ๊วขาว/น้ำตาลทราย 2 ชช./เต้าหู้ยี้แดง 3 ก้อน และน้ำที่ดอง 2 ชต./น้ำมันหอย 1 ชต.

เคาหยก อาหารขึ้นสำรับวันนี้ เป็นอาหารจีน ตำรับกวางตุ้ง

วิธี ทำ
1) นำหมู 3 ชั้นลงทอดด้วยไฟปานกลาง ประมาณ 3-5 นาที พอให้เนื้อหมูรัดตัว เวลานำไปต้มเนื้อหมูจะได้ไม่ยุ่ย

2) นำเผือกมาผ่าครึ่งพร้อมปอกเปลือกออกให้หมด แล้วนำไปทอดด้วยไฟปานกลาง กลับไปมาสัก 2-3 ครั้งก็พอ แล้วพักไว้

3) ต้มน้ำสะอาดปริมาณ 2 ลิตรจนเดือด จึงใส่หมูและเผือกที่ทอดลงไป พร้อมด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด ยกเว้นน้ำตาลทราย และซีอิ๊วขาว เพราะต้องรอชิมรสสุดท้ายหลังจากเคี่ยวได้ที่แล้ว ความเค็มของเต้าหู้ยี้อาจทำให้ไม่ต้องเติมซีอิ๊วขาวอีก

4) เคี่ยวต่อด้วยไฟปานกลางสักครึ่ง ชม. จึงตักเอาเผือกออก จากนั้นคอยดูไม่ให้น้ำแห้ง โดย คอยเติมน้ำและตักฟองน้ำมันออก

5) หลังจากเคี่ยวได้ครบ 1 ชม. ชิมรสชาติอีกครั้ง ถ้ายังหวานเค็มไม่ถูกใจ ก็สามารถเติมน้ำตาลทรายและซีอิ๊วขาวได้ แล้วจึงตักหมูออกจากหม้อมาพักไว้ให้เย็น ส่วนน้ำที่เหลือเคี่ยวให้งวดลงอีก

6) นำหมูและเผือก มาหั่นเป็นชิ้นๆ และจัดเรียงสลับกันให้ดูสวยงาม แล้วราดน้ำที่เคี่ยวไว้ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ แต่ถ้ากลัวจะเลี่ยนไปก็มีผักแนมเป็นเครื่องเคียงไปด้วยก็ได้  เป็นผักกาดแก้วหรือผักหางหงส์ ตามชอบ และมีพริก (ตำ) น้ำส้มอีกหน่อยอร่อยชัวร์!!

Credit by..http://www.thairath.co.th/content/life/360548

Read More...


หมูโค้ว

ใกล้ถึงวันสารทจีนอีกแล้ว เลยขอเสนอเมนูที่ทำจากของเซ่นไหว้ ให้เป็นเมนูใหม่ๆสำหรับเก็บไว้กินได้นานๆ อย่างหมูโค้วเมนูจาก คุณติ๋วทัศนาพร กนกธนาพร อดีตเลขาฯผู้บริหาร บมจ.ทีพีไอ ซึ่งเล่าว่าพอวันตรุษวันสารท ที่บ้านจะมีของเซ่น ไหว้ ทั้งหมู (สามชั้น) เป็ด ไก่ จำนวนมาก ก็ต้องเอาไปแปรรูปเป็นเมนูต่างๆ สำหรับเก็บไว้ทานได้อีกหลายๆมื้อ และ เมื่อก่อนถึงจะไม่ใช่ฤดูไหว้เจ้า ทางบ้านก็ยังทำหมูโค้วนี่แหละส่งมาให้เธอและน้องๆที่มาอยู่โรงเรียนประจำที่กรุงเทพฯได้เก็บไว้ทานอีกด้วย เพราะกลัวลูกจะอดอยาก


Pic_363429

คุณติ๋วเล่าถึงเมนูหมูโค้วนี้ว่า เป็นอาหารตำรับไหหลำสูตรโบราณ แต่ละบ้านก็มีวิธีการทำที่แตกต่างกันไป บางบ้านจะใส่กะปิ แต่ที่บ้านเธอจะใส่ปลาอินทรีเค็ม และส่วนผสมอื่นๆก็จะคล้ายๆกัน< เครื่องปรุงประกอบด้วย : หมูสามชั้น 6–8 ขีด/ปลาเค็ม/กระเทียม 2–3 หัว/ซีอิ๊วขาว/ซีอิ๊วดำ/น้ำตาลทราย..... 


วิธีทำ 
1) นำหมูสามชั้นไปต้มให้สุก แล้วเก็บน้ำซุปไว้ด้วย 

2) หั่นหมูที่ต้มแล้วเป็นชิ้นๆค่อนข้างหนา แล้วต้มกับน้ำซุป พร้อมกับเติมซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย และปลาเค็มเล็กน้อย เคี่ยวไปจนหมูสามชั้นเริ่มเปื่อย ประมาณ 2 ชั่วโมงได้

3.จึงทุบกระเทียมใส่ลงไปมากหน่อย
เคี่ยวจน กระเทียมเปื่อยและน้ำซุปลดลง เหลือน้ำขลุกขลิก 

4) เติมน้ำมันลงไปนิดหน่อย เพื่อให้เป็นมันเงา 5) เติมซีอิ๊วดำนิดหน่อย เพื่อให้มีสีสัน




คุณติ๋วบอกด้วยว่า ยังมีวิธีทำอีกแบบหนึ่ง ซึ่งนำหมูสามชั้นที่ต้มสุกและหั่นเป็นชิ้นๆไปคั่วกับน้ำมันก่อน เพื่อให้หมูมีสีสัน ออกสีน้ำตาล จากนั้นเติมซีอิ๊วขาว น้ำตาล และกะปิ ผัดคลุกเคล้าเข้าด้วยกันให้มีกลิ่นหอม จึงเติมน้ำซุปจนท่วมเนื้อหมู และเคี่ยวไปสักพัก ค่อยทุบกระเทียมใส่ลงไป และเคี่ยวต่อจนหมูเปื่อย อย่าคนบ่อยจะทำให้เนื้อหมูเละไม่เป็นชิ้นๆ เมื่อหมูเปื่อยได้ที่ และเหลือน้ำขลุกขลิก ก่อนปิดไฟค่อยเติมซีอิ๊วดำเพิ่มสีสัน และน้ำมันพืชให้เป็นเงางามชวนให้น่ารับประทาน โดยเฉพาะน้ำมันที่ติดก้นกระทะอย่ารีบนำกระทะไปล้าง ให้ใส่ข้าวสวยลงไปผัดกับน้ำมันที่ติดก้นกระทะ อาจจะเติมเครื่องปรุงให้มีรสชาติตามชอบ จะได้ข้าวผัดแสนเอร็ดอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ.

Credit by..http://www.thairath.co.th/content/life/363429

Read More...


ข้าวคลุก...อร่อยควิก

ผมเคยได้ยินหลายคนพูดว่า “ไม่มีเวลาทำอาหาร ซื้อมากินง่ายกว่า สะดวกกว่า” แต่อันที่จริงการทำอาหารรับประทานเองมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งคุณค่า ปริมาณ ความสะอาด และรสชาติที่ถูกใจมากกว่า ที่สำคัญ การทำอาหารยังช่วยคลายเครียดจากงานยุ่งๆ ได้ด้วย ลองเริ่มจากเมนูที่ผมนำมาฝากครั้งนี้กันก็ได้นะครับ

Pic_361048



ผม ดัดแปลงข้าวคลุกกะปิให้ดูเข้ายุคและทำง่ายขึ้น เป็น “ข้าวคลุกกะปิไข่ข้น” โดยลดขั้นตอนบางอย่างลง เช่น เจียวไข่ซอยเป็นเส้น เคี่ยวหมูหวานนานๆ โดยนำไอเดียข้าวไข่ข้นมาเติมเครื่องข้าวคลุกกะปิอย่างถั่วฝักยาว หอมเล็ก พริกขี้หนู กุ้งแห้งทอด และหมูหวานสูตรลัด ที่ผมใช้หมูสับผัดกับน้ำตาลปี๊บและซีอิ๊วดำแทน ทั้งหมดนี้วางบนข้าวคลุกกะปิหอมๆ ตามด้วยมะม่วงเปรี้ยวสับหรือมะนาวสักซีก เท่านี้ก็ได้ข้าวคลุกกะปิรสชาติคุ้นเคย หน้าตาไฉไล ทำง่ายอร่อยควิกแล้ว หรือใครจะซื้อข้าวคลุกกะปิมา แล้วทำไข่ข้นแปลงโฉมก็ยิ่งเร็วขึ้นไปอีก สะดวกแบบไหนลองทำกันดู อย่างน้อยก็ได้ชื่อว่าได้ทำเองแล้วนะครับ





ข้าวคลุกกะปิไข่ข้น!
ส่วนผสม (สำหรับ 1 ที่) เตรียม 5 นาที ปรุง 10 นาที
ข้าวสวย 1 ถ้วย
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย  1/2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 2  กลีบ
ถั่วฝักยาวซอย 1 ช้อนโต๊ะ
หอมเล็กซอย 1 ช้อนโต๊ะ พริกขี้หนูซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
มะม่วงเปรี้ยวซอย 1 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งทอดกรอบ 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัด 1/2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมหมูหวาน
หมูสับ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับผัด 1/4 ถ้วย
เกลือเล็กน้อย

ส่วนผสมไข่ข้น ไข่ไก่เบอร์2  2 ฟอง
นมสด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับทอด 2 ช้อนโต๊ะ



วิธีทำ
1.  ทำข้าวคลุกกะปิโดยนำกระทะตั้งไฟกลางใส่น้ำมันพืช เจียวกระเทียมให้หอม เติมกะปิและน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ใส่ข้าวสวย เคล้าจนเข้ากัน พักไว้

2. ทำหมูหวานโดยตั้งกระทะไฟกลางใส่น้ำมันพืช ผัดหมูสับจนสุก เติมน้ำตาลปี๊บ น้ำซีอิ๊วดำ และเกลือ ผัดให้เข้ากันจนข้น พักไว้

3.  ทำไข่ข้นโดยตีไข่กับนมสดให้เข้ากัน ตั้งกระทะไฟกลาง เทไข่ลงในกระทะ กลอกไข่ให้แผ่ทั่วกระทะ สังเกตไข่เริ่มสุกแต่ตรงกลางยังไม่สุกเล็กน้อยปิดไฟ

4.  จัดเสิร์ฟโดยตักข้าวคลุกกะปิใส่ถ้วยกดให้แน่น คว่ำใส่ในจาน เอาถ้วยออก วางไข่ข้น โรยด้วยหอมเล็ก ถั่วฝักยาว พริกขี้หนู กุ้งแห้งทอด มะม่วงเปรี้ยว และหมูหวาน พร้อมรับประทาน



TIP

ควร ใช้กระทะเทฟลอนในการทำไข่ข้น เพราะจะทำให้ไข่ไม่ติดกระทะ พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค 722.48 กิโลแคลอรี โปรตีน 24.73 กรัม ไขมัน 43.87 กรัมคาร์โบไฮเดรต 55.63 กรัม ไฟเบอร์ 1.60  กรัม

Credit by..http://www.thairath.co.th/content/life/361048

Read More...


‘ข้าวอบเบญจรงค์’ จานด่วนสุขภาพสร้างอาชีพ

ข้าวผัดเป็นอาหารยอดนิยมอีกอย่างที่ทานกันได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และปัจจุบันเมนู “ข้าวอบ” ก็นิยมกันแพร่หลายเช่นกัน ข้าวอบที่รู้จักกันดีก็มีหลายอย่าง เช่น ข้าวอบสับปะรด ข้าวอบเผือก ข้าวอบกุนเชียง ข้าวอบหนำเลี้ยบ ฯลฯ ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีสูตรข้าวอบที่อุดมด้วยสารอาหารที่หลากหลายจากวัตถุดิบที่นำมาปรุง หน้าตาสวยงาม และอร่อย  คือ “ข้าวอบเบญจรงค์” หรือ “ข้าวอบ 5 สี” เพื่อเป็นช่องทางในการหารายได้ให้กับผู้ที่สนใจ...

ผศ.สุวรรณี อาจหาญณรงค์ อาจารย์ประจำวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ให้ข้อมูลว่า เมนูข้าวอบเบญจรงค์ถือเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง ปัจจุบันคนหันกลับมาสนใจสุขภาพ ประกอบกับมีการรณรงค์ให้คนไทยบริโภคข้าวไทย จึงคิดเมนูอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำง่าย วัตถุดิบหาง่าย  สามารถดัดแปลงได้ตามความชอบ ก็ได้เมนูข้าวอบเบญจรงค์ หรือข้าวอบ 5  สี เป็นทางเลือกใหม่



“เมนูนี้แม้จะเป็นเมนูง่าย ๆ แต่ว่าอร่อยล้ำ แถมยังเหมาะสำหรับเด็กที่ไม่สามารถทานอาหารเผ็ด ๆ ด้วย  ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่ส่วนผสม แต่ละตัวอุดมไปด้วยสารอาหารและคุณประโยชน์มากมาย  เช่น มีแครอท จะมีวิตามินเอ และสารเบต้าแคโรทีนสูง  ช่วยบำรุงสายตา  แก้โรคตาฝ้าฟาง บำรุงผิว และช่วยยับยั้งความเสื่อมของอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย มีเห็ดหอม ช่วยบำรุงสมองและระบบประสาท เพิ่มความสดชื่น ลดคอเลสเตอรอล  ต้านมะเร็ง ต้านไวรัส  ลดความเครียด ชะลอความชรา มีแปะก๊วย ช่วยบำรุงปอด แก้ไอ แก้หอบ มีถั่วฝักยาว อุดมไปด้วยแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน มีส่วนช่วยเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน โปรตีน อีกทั้งยังควบคุมการทำงานของไตด้วย”

อุปกรณ์หลัก ๆ ที่ใช้ในการทำ ก็เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำครัวทั่ว ๆ ไป เช่น เตาแก๊ส กระทะ ทัพพี เขียง กะละมัง ฯลฯ และอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้คือ หม้อหุงข้าวไฟฟ้า และตะเกียบ

ส่วนผสมที่ใช้ในการทำ ก็มี... ข้าวสารข้าวเจ้า, ข้าวสารข้าวเหนียว, น้ำมันพืช, ขิงแก่, พริกไทยป่น, น้ำซุปหรือน้ำสต๊อก, ผงปรุงรส (หมู), ซีอิ๊วขาว, เห็ดหอมแห้ง, แครอท, ถั่วฝักยาว, แปะก๊วย, กุ้งแห้ง

ขั้นตอนการทำ “ข้าวอบเบญจรงค์” เริ่มจากการหุงข้าวก่อนเป็นอันดับแรก ในการทำข้าวอบเบญจรงค์หรือข้าวอบ 5 สีนั้น การหุงข้าวเราต้องใช้ข้าวสารข้าวเจ้าผสมกับข้าวสารข้าวเหนียว ในอัตราส่วน  5  ต่อ 1   ทำการซาวข้าวสองชนิดให้สะอาด สรงขึ้นกรองให้สะเด็ดน้ำ ตั้งพักไว้สักครู่

ระหว่างรอข้าวสะเด็ดน้ำก็หันไปเตรียมเครื่องปรุงทั้งหมดให้พร้อม เห็ดหอมแห้งนำมาแช่น้ำทิ้งไว้สักครู่   พอเห็ดนิ่ม สรงขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วหั่นเป็นเส้นตามที่ต้องการ ขิงแก่นำมาปอกเปลือกแล้วล้างให้สะอาดหั่นเป็นแว่นตามขวางบาง ๆ แครอทสดนำมาปอกเปลือกล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นรูปสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ถั่วฝักยาวก็นำมาล้างให้สะอาดแล้วหั่นเป็นท่อนเล็ก ๆ  กุ้งแห้งนำไปแช่น้ำสักครู่ ส่วนแปะก๊วยนำไปต้มให้สุกแล้วตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ

เตรียมเครื่องปรุงทั้งหมดพร้อมแล้ว ต่อไปก็ตั้งกระทะบนเตา  โดยใช้ไฟปานกลาง  ใส่น้ำมันพืชลงไปพอประมาณ  ใส่ขิงลงไปผัดให้พอมีกลิ่นหอม จึงใส่เห็ดหอม ตามด้วยกุ้งแห้งใส่ตามลงไป ผัดกลับไปกลับมาสัก 4-5  รอบ จึงใส่ข้าวสารผสมที่เตรียมไว้ลงไปผัดเบา ๆ  ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว และผงปรุงรสหมู ผัดส่วนผสมในกระทะโดยใช้ไฟแรงประมาณ 10 นาที จนส่วนผสมเข้ากันดี และข้าวสารดีดตัว (สังเกตปลายเมล็ดจะชี้) ก็เป็นอันใช้ได้

จากนั้นก็ให้นำส่วนผสมข้าวที่ผัดมาใส่ลงในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า นำส่วนผสมที่เหลือคือ แครอท ถั่วฝักยาว และแปะก๊วย ใส่ตามลงไปในหม้อหุงข้าว เติมน้ำซุปลงไปพอเหมาะสมกับการหุงข้าว คนส่วนผสมในหม้อหุงข้าวให้เข้ากัน กดปุ่มหุงข้าว (ถ้าไม่มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าก็ให้ใช้วิธีการนึ่งก็ได้) จนปุ่มหม้อหุงข้าวไฟฟ้าเด้ง ข้าวที่หุงสุก     ทั้งนี้ เพื่อให้เมล็ดข้าวระอุ และเครื่องปรุงซึมเข้าไปในเมล็ดข้าวได้ดี ถึงขั้นตอนนี้ให้ใช้ตะเกียบจุ่มน้ำตะกุยข้าวแทนการใช้ทัพพี เพื่อไม่ให้เมล็ดข้าวแหลก เมื่อจะรับประทานหรือจำหน่ายก็จัดลงภาชนะเสิร์ฟหรือจำหน่าย ถ้าเป็นผู้ใหญ่รับประทาน มีน้ำปลาพริกที่มีหอมแดงกับพริกขี้หนูสวนซอย ก็จะอร่อยกลมกล่อมยิ่งขึ้น

เมนู “ข้าวอบเบญจรงค์” นี้มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก มีวัตถุดิบอะไรก็พลิกแพลงจับใส่ได้ตามชอบ ที่สำคัญคือสามารถนำไปเป็นสูตรสร้าง “ช่องทางทำกิน” ได้  ซึ่งหากใครสนใจ และยังมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มจาก ผศ.สุวรรณี อาจหาญณรงค์ อาจารย์ประจำวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ที่ โทร. 08-1432-0147 ซึ่งทางอาจารย์ก็ยังมีสูตรอาหารเพื่อสุขภาพอีกหลายชนิด.
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง/สุนิสา ธนพันธสกุล : ภาพ

Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/226742

Read More...


อาชีพยอดนิยมสำหรับคนไทยในต่างประเทศ

พนักงานทำความสะอาด Cleaning นอกจากงานเกี่ยวกับร้านอาหาร  งานเสิร์ฟ ทำครัว พ่อครัว แม่ครัว แคชเชียร์ ล้างจาน แล้ว อาชีพอื่นๆ ที่คนไทยยังให้ความนิยม คือ พนักงานทำความสะอาดตามบ้าน ตามสำนักงาน


โดยมากพวกฝรั่งตาน้ำข้าวนั้น มักจะทำความสะอาดบ้านกันเอง อาจจะไม่ได้ทำทุกวัน แต่ก็จะใช้เวลาของวันหยุดทำความสะอาดกัน เนื่องจากพื้นบ้านเป็นพรม จึงมีเครื่องอำนวยความสะดวกช่วย สำหรับการมีคนมาช่วยงานบ้านถือเป็นความฟุ่มเฟือย เพราะต้องเสียเงินถึงชั่วโมงละ $30 แต่ถ้าเขาลงทุนจ้างพนักงานทำความสะอาดมา นั่นคือ จะต้องเป็นการจ้างทำแบบมืออาชีพ  โดยส่วนใหญ่ การทำความสะอาจมักจะทำในสำนักงาน ซึ่งอาจทำในช่วงสำนักงานปิดแล้ว หรือก่อนการเริ่มงานใหม่  เด็กไทยบางคนอาจมีคิวได้ไปทำความสะอาดในช่วงเช้ามืดก็เป็นไปได้

พนักงานนวด นวดสปา นวดแผนไทย โดย ปกติร้านนวดในต่างประเทศ มักจะรับเด็กนวดที่ผ่านการฝึกอบรมมาจากสถาบันที่เชื่อถือได้ในเมืองไทย ใช่ที่วัดโพธิ์ สนามหลวง และอาจฝึกกันเพิ่มเติมในร้าน เพื่อให้เกิดความชำนาญมากยิ่งขึ้น แต่บางประเทศเช่น ในยุโรป พนักงานอาจต้องเรียนเพิ่มเติมในสถาบันของประเทศเหล่านั้น  หรือ ที่อเมริกาต้องเข้าเรียนคอร์สนวดหลายเดือนหลายร้อยชั่วโมง จนกว่าจะมีคุณสมบัติสามารถนวดลูกค้าได้ แต่โอกาสในอาชีพนี้มีมาก เช่นในอังกฤษ คนไทยหรือนักเรียนอาจรับจ้างทำตามร้านสปาของฝรั่ง หรือเริ่มจากรับนวดที่บ้านก็เริ่มมีมากขึ้นค่ะ

รับจัดงานเลี้ยง หรือ catering เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น สำหรับคนไทยที่มีฝีมือด้านทำกับข้าว  หรือ มีศิลปะในการตกแต่งจานให้น่ารับประทาน มีความรู้เกี่ยวกับการทำอาหารสำหรับการจัดเลี้ยง ปาร์ตี้  หรือ ส่งอาหารปิ่นโตตามบ้าน เนื่องจากอาหารไทยในสายตาคนฝรั่งแล้ว ถือเป็นของดี เมนูพิเศษ ได้รับความนิยมมาก แม้แต่สังคมชั้นสูงของพวกเขา งานอดิเรกกลายเป็นงานประจำทำเงินได้ดี หากเราสามารถหาลูกค้าได้มาก บริการได้ประทับใจค่ะ

รับเลี้ยงเด็ก babysitter/nanny เป็นอาชีพเสริมที่ดีสำหรับเด็กไทยที่ต้องการหาค่าขนมในช่วงเย็น หรือช่วงวันหยุด ก็สามารถรับจ๊อบนี้ได้ค่ะ เพราะบางครั้งพ่อแม่เด็กต้องไปงานเลี้ยงตอนค่ำๆ ไม่มีคนช่วยดูลูก เค้าก็จะหาคนมาช่วยดูแลเด็กๆ ที่ต้องการเพื่อน และคนพาเข้านอนในช่วงหัวค่ำ  โดยเฉพาะการหาคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาแถวๆ บ้าน หรือ คนที่คุ้นหน้าคุ้นตากัน  ค่าจ้างก็จะประมาณ $ 10 ต่อชม. การจ้างเด็กเอเชียจะเป็นที่นิยมสำหรับบางบ้าน เพราะค่าจ้างถูกกว่าคนท้องถิ่น

อาชีพอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้า รายได้ก็ประมาณ $800 ต่อเดือน  สำหรับคนที่ชำนาญเส้นทาง มีจักรยาน หรือมีรถจักรยานยนต์ (ควรทำใบขับขี่สากลไปด้วยนะค่ะ) ใช้เวลาช่วงเช้ามืดไม่กี่ชั่วโมง แต่มีรายได้ถึง 800 ดอลล่าร์ต่อเดือน นับว่ารายได้ดีทีเดียว

พี่เลี้ยงสุนัข โดยพาไปมันเดินเล่น ออกกำลังกาย ขับถ่ายข้างนอก บางครั้งเจ้าของเค้าอาจไม่มีเวลา งานยุ่ง แม้จะมีเงินเลี้ยง แต่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล  สำหรับรายได้น่าจะประมาณ $10-$15 ต่อชม. ค่ะ ขึ้นอยู่กับค่าครองชีพและการตกลงกันค่ะ บางครั้งอาจจะมีสัตว์เลี้ยงมากกว่า 1 ตัว ต้องไต่ถามเงื่อนไขกันให้ดีๆ
 
ขายของตามตลาดนัด หรือ คาราวาน เป็น อาชีพเสริมยอดนิยมสำหรับเด็กไทยในอังกฤษ ที่ชอบขายสินค้า หรือ อาหารในตลาดนัด หากสินค้าเป็นที่ต้องตาต้องใจลูกค้า ก็จะมีรายได้ดีพอสมควร

ซ่อมคอมพิวเตอร์ ฆ่าไวรัส ลงโปรแกรม อาชีพ เสริมสำหรับเด็กไทยเก่งด้านไอที แต่ลูกค้าคงไม่ใช่ใครอื่นไกล นอกจากคนไทยด้วยกัน เนื่องจากเด็กไทยนิยมหิ้วโน๊ตบุ๊คจากเมืองไทยไปใช้ในต่างแดน ซึ่งจะไม่มีประกัน เวลาเครื่องมีปัญหา จำต้องใช้บริการคนไทยด้วยกันมากกว่าจะส่งซ่อมตามร้านทั่วไป เพราะสู้ราคาไม่ไหวนั่นเอง

ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ และกำลังมองหารายได้เสริม ก่อนอื่นคุณต้องสำรวจหาความสามารถในตัวคุณเสียก่อนว่าคุณทำอะไรได้บ้าง พร้อมกับหาข้อมูลสถานที่หรือเมืองที่คุณไปอยู่ว่า มีความต้องการแรงงานแบบใด มีคนเชื้อชาติใดอยู่บ้าง โดยเฉพาะคนไทย ในบางครั้ง...สถานที่ใดที่คนไทยด้วยกันเอง รวมตัวกันอยู่หนาแน่น จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย  ข้อดีคือ โอกาสที่คุณจะหาของกิน หางานที่เกี่ยวข้องกับอาชีพของคนไทย หาที่พักราคาถูกนั้นมีง่าย ไม่เหงา มีเพื่อนที่พูดคุยภาษาเดียวกัน สำหรับข้อเสียคือ คุณจะมีคู่แข่งแย่งอาชีพ และ เจอสังคมเดิมๆ เหมือนอาศับอยู่ในประเทศไทย การพัฒนาภาษาจะช้ามาก

อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณหางานได้เร็วขึ้นคือ ทำเรซูเม่ ให้สามารถตอบโจทย์กับงานที่คุณกำลังมองหางานอยู่  ใส่ที่อยู่ เบอร์ติดต่อคุณได้ตลอดเวลา ที่สำคัญ อย่าลืมบอกทักษะว่าคุณทำอะไรได้บ้าง พร้อมรูปถ่ายด้วยนะค่ะ หากคุณไม่สามารถเดินหางาน หรือ ไม่รู้วิธีเข้าถึงว่าที่นายจ้างของคุณ แนะนำว่า คุณควรมองหาเอเจนซี่จัดหางานท้องถิ่น..ซึ่งอาจเป็นคำตอบที่ดี เพราะบริษัทจะติดต่อกับผู้ประกอบการ และจะเป็นช่องทางที่ดีที่จะนำความสามารถของคุณเสนอให้ผู้ประกอบการนั้นๆ พิจารณา  หรือมีอีกช่องทางที่จะช่วยให้คุณหางานได้ คือเว็บไซต์หางาน และหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นนั่นเอง 
Credit by..http://udom4edu.blogspot.com/2012/08/blog-post_8810.html

Read More...


อาชีพเสริม ถ้าไม่เริ่มทำตอนนี้ จะเริ่มตอนไหน

ทำไมต้องหา อาชีพเสริม?
อาชีพเสริมจะช่วยให้ชีวิตของคุณ ดีขึ้นได้อย่างไร?
เราจะมาค้นหาคำตอบกันว่า ถ้าคุณคิดจะเริ่มหารายได้เพิ่ม และทำอาชีพเสริม คุณต้องเลือกจากอะไร

อาชีพเสริม 

คุณอาจจะมีข้อสงสัยว่า ทำไมคุณต้องหาอาชีพเสริม ทั้งๆ ที่ ตอนนี้คุณก็ยังอยู่สบาย เงินเดือนที่ได้มาจากงานประจำก็ยังพอใช้ หนี้สินก็ยังไม่มี ครอบครัวก็ไม่มีให้เลี้ยง หรือคุณพ่อคุณแม่ ก็มีสตางค์อยู่แล้ว ไม่ได้เดือดร้อนให้เราต้อง จ่ายเงินเดือนท่านทุกเดือน แล้วเราจะหาอาชีพเสริม ทำเพื่ออะไร
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทุกคน ไม่ได้มีชีวิตที่ง่ายอย่างนั้น บางคนยังต้องทำ O.T. เพื่อให้เงินเดือนพอใช้จ่าย บางคนมีหนี้บัตรเครดิต หรือบัตรเงินสดที่ต้องชำระ บางคนมีลูกยังเล็ก หรือเข้าโรงเรียนแล้ว ทำให้ต้องเข้าๆ ออกๆ โรงรับจำนำ อยู่เป็นประจำ

บางคนพ่อแม่ก็ทำงานไม่ไหวแล้ว และไม่ได้มีมรดกด้วย ซึ่งในฐานะของลูกที่ดี ก็ต้องดูแลปรนนิบัติพ่อแม่ บางคนอาจจะไม่ได้ลำบากก็จริง แต่ก็มองการณ์ไกลไปถึงอนาคต ว่าต้องมีเงินใช้หลังเกษียณ หรือเตรียมพร้อมสำหรับการแต่งงาน และมีครอบครัว



ยิ่งถ้าเรามองไปที่ ประเทศเพื่อนบ้านต่างๆ เช่น ลาว เวียดนาม กัมพูชา และพม่า ประชากรในประเทศเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ทำ 2 งาน นั่นคือ อาชีพหลัก และอาชีพเสริม เป็นเรื่องปกติ หากคุณได้มีโอกาสไปคุยกับคนเวียดนามแล้ว คุณจะพบว่า แม้แต่วิศวกรที่นั่น ตอนเย็นยังต้องไปขับแท็กซี่เลย เพื่อที่จะได้มีรายได้เสริม ไว้จุนเจือครอบครัว

เพราะค่าจ้างที่เค้าได้รับนั้น ต่ำกว่าในประเทศไทยค่อนข้างมาก ในขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กลับสูงกว่าค่าครองชีพในบ้านเราเสียอีก เพราะสินค้าต่างๆ ที่มีขายอยู่ตามห้างร้านนั้น ล้วนแล้วแต่ส่งมาจากประเทศไทย ทำให้ราคาถูกบวกเพิ่มให้แพงกว่า ของชิ้นเดียวกัน หากซื้อในประเทศไทย
เหตุผลทั้งหลายเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ทำให้ คนส่วนใหญ่นั้น มองว่าการหาอาชีพเสริมทำนั้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตเค้า ในการที่จะช่วยให้เค้าสร้างชีวิตที่มีคุณภาพ เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว ในวัยเกษียณ และดูแลคนที่ตนเองรักได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

อาชีพเสริมจะช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้อย่างไร

 


  • มีเงินเพิ่มขึ้น
    เหตุผลหลักเลยที่ทำให้ คุณเริ่มต้นหาอาชีพเสริมทำ คงเดาได้ไม่ยาก นั่นคือ ความต้องการเงินรายได้เพิ่ม เพื่อมาจุนเจือครอบครัว สร้างอนาคต หรือเหตุผลอื่นๆ ที่เป็นทางออกของเงินเพื่อนำไปใช้จ่าย เพื่อซื้อความสุขให้ตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น นำเงินไปเที่ยวต่างประเทศ หรือถ้าจะให้ตามกระแสสังคมในปัจจุบันหน่อย ก็นำเงินไปศัลยกรรมที่เกาหลีเป็นต้น
  •  
  •  

  • มีโอกาสพัฒนาอาชีพเสริม ไปเป็นธุรกิจ
    นี่เป็นอีกเหตุผล ที่หลายต่อหลายคนมองถึง ว่าเป็นเป้าหมายของการเริ่มต้นทำอาชีพเสริม อาจจะเพราะว่างานประจำที่ทำอยู่ ได้เงินไม่พอใช้ ไม่คุ้มค่าตัว ทำอย่างอื่นน่าจะดีกว่า แต่ถ้าจะให้ลาออกจากงานมาทำเต็มตัวเลย ก็ดูจะสุ่มเสี่ยงเกินไป เลยลองทำ อาชีพเสริม ควบคู่ไปกับงานประจำก่อน และเมื่อสร้างรายได้เพิ่มได้ เป็นกอบเป็นกำ ก็อาจจะตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อเปลี่ยนอาชีพเสริม ให้กลายเป็นธุรกิจได้
 

  • เสริมประสบการณ์
    บางทีการเป็นลูกน้องเค้า นั่งทำงานตามคำสั่งของเจ้านายในงานประจำ อาจจะทำให้บางคนรู้สึกว่า ตนเองเป็นฟันเฟือง ของธุรกิจคนอื่น ไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้ ความรู้ ความสามารถ อย่างเต็มที่ ในการตัดสินใจทำงาน การทำอาชีพเสริม ทำให้เรามีโอกาสได้ “ปล่อยของ” หรือแสดงความรู้ ความสามารถ ที่ไม่มีโอกาสได้ใช้ ในที่ทำงาน ประสบการณ์ที่ได้รับ จากอาชีพเสริมนั้น เป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ทีเดียว
  •  
  •  

  • แรงจูงใจอื่นๆ
    บางครั้ง คนที่เลือกทำอาชีพเสริมบางอย่าง ก็อาจจะมีแรงจูงใจอื่นๆ เช่น เลือกไปช่วยงาน NGO เพราะว่าอยากช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อเติมเต็มความต้องการส่วนตัว หรือขายบัตรเครดิต เพราะต้องการไปเที่ยวต่างประเทศฟรี ตามโปรแกรมกระตุ้นการหาลูกค้าของบริษัทเจ้าของบัตร เหตุผลต่างๆ เหล่านี้ ก็เป็นเหตุผลที่น่าชื่นชม เช่นกัน เพราะเลือกทำ โดยมีเป้าหมายที่ชัดเจน และพร้อมที่จะทำทุกอย่าง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้

ปัจจัยที่ใช้ในการเลือก อาชีพเสริม ที่เหมาะกับตัวคุณ

เมื่อเราเล็งเห็นแล้วว่า ตัวเรานั้น จำเป็นจะต้องหาอาชีพเสริมทำ มันก็จะมีคำถามต่อไป ที่เราจะต้องถามตัวเองว่า แล้วเราจะเลือกทำอะไรดี ที่เหมาะกับตัวเราที่สุด และจะใช้ปัจจัยอะไรในการเลือก ตรงส่วนนี้ จะนำเสนอปัจจัยเบื้องต้น ในการเลือกอาชีพเสริม 4 ข้อ ที่จะทำให้คุณได้ อาชีพเสริมที่หมาะกับตัวคุณ

1. เงินลงทุน

 

“Money is only a tool. It will take you wherever you wish, but it will not replace you as the driver.”
Ayn Rand
“เงินมันก็เป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น มันสามารถนำพาคุณ ไปในทุกที่ๆ คุณต้องการ แต่มันไม่สามารถทดแทนตัวคุณ ซึ่งเป็นคนขับเคลื่อนได้” เป็นคำพูดของ Ayn Rand กวี และนักปรัชญา ชาวอเมริกัน
ถ้าเรามีเงินอยู่ในกระเป๋า หลักหมื่นบาท เราคงไม่ทำเกินตัวไปเลือกอาชีพเสริม ที่จำเป็นต้องใช้เงินลงทุน หลักล้าน เพื่อเบียดเบียนตัวเอง ให้ต้องกระเบียดกระเสียน ใช้จ่ายอย่างประหยัด มากยิ่งขึันไปอีก อย่างแน่นอน เราจึงจำเป็นต้องเลือกอาชีพเสริม ที่ใช้เงินลงทุน เหมาะสมกับเงินในกระเป๋า ถ้าเรามีเงินมากกว่านี้แล้ว จะเปลี่ยนไปทำที่ต้องใช้เงินมาก ก็ยังไม่สาย ถ้าไม่มีเงินลงทุนจริงๆ การเริ่มต้นทำธุรกิจเครือข่าย ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ไม่เลว และความเสี่ยงต่ำเช่นเดียวกัน

2. ช่วงเวลาที่ใช้

 

“Until you value yourself, you won’t value your time. Until you value your time, you will not do anything with it.”
M. Scott Peck
“จนกว่าคุณจะประเมินคุณค่าของตนเอง คุณยังไม่ประเมินคุณค่าของเวลา จนกว่าคุณจะประเมินคุณค่าของเวลา คุณยังไม่ได้เริ่มต้นทำอะไรเลย” เป็นคำพูดของ M. Scott Peck หมอ และนักจิตวิทยา ชาวอเมริกัน

อาชีพเสริมที่คุณเลือกนั้น จำเป็นต้องที่จะต้องลงตัว กับงานประจำ และเวลาที่คุณให้กับครอบครัว รวมถึงสุขภาพของคุณด้วย มันคงไม่ดีแน่ ถ้าทำอาชีพเสริมโดยเบียดบังเวลาทำงาน สุดท้ายโดนเจ้านายให้ออกจากงาน หรือทำอาชีพเสริม จนต้องเลิกกับแฟน หรือร่างกายทรุดโทรม ไม่ได้พักผ่อน

3. เนื้องาน

 

“A business that makes nothing but money is a poor business.”
Henry Ford
“ธุรกิจที่ทำเงินอย่างเดียว เป็นธุรกิจชั้นเลว” เป็นคำพูดของ Henry Ford นักธุรกิจ ผู้ก่อตั้งบริษัท Ford Corporation ชาวอเมริกัน

ถ้างานประจำที่ต้องทำ ทำให้คุณห่อเหี่ยว และรู้สึกไร้ค่าแล้ว ทำไมยังต้องหาอาชีพเสริม ที่ทำร้ายจิตใจตัวคุณเองอีก คุณควรจะหาอะไรทำที่มัน ช่วยจรรโลงจิตใจคุณ เติมเต็มชีวิตของคุณ ให้คุณได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เพราะคุณจะทำมันได้ยอดเยี่ยม และทุกคนจะต้องชอบมัน

4. แรงบันดาลใจอื่นๆ

 

“Inspiration exists, but it has to find us working.”
Pablo Picasso
“แรงบันดาลใจมันมีอยู่ และมันควรจะอยู่ในงานของเรา” เป็นคำพูดของ Pablo Picasso จิตรกรเอกของโลก ชาวสเปน
อาชีพเสริม บางอย่าง อาจจะไม่ได้เติมเต็มคุณ ในแง่ของเงินทองที่ได้รับ แต่คุณจะได้รับอย่างอื่นมาแทน เช่น ประสบการณ์ สิ่งของแลกเปลี่ยนอย่างการไปเที่ยวต่างประเทศ หรือการได้ช่วยเหลือคนอื่น ก็อาจจะเป็นสิ่งที่เติมเต็มคุณได้เช่นกัน

Credit by..http://janejud.com/

Read More...


8 อาชีพฮอตที่สุดในอาเซียน

8 อาชีพ ที่คาดว่าจะเป็นที่ต้องการที่สุดในอาเซียน เมื่อประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2558 ที่จะถึงนี้ ไปดูกันค่ะว่าอาชีพไหนบ้าง


                    11 พ.ย. 55  ในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) ที่จะถึงนี้ เราจะมีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนเกิดขึ้น ซึ่งอาเซียน (ASEAN) หรือ สมาคมประชาชาติเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ (The Association for Southeast Asian Nations) ประกอบด้วยสมาชิก 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม ลาว พม่า และกัมพูชา ได้รวมกลุ่มกัน เพื่อร่วมมือเสริมสร้างให้ภูมิภาคมีสันติภาพ ซึ่งเสถียรภาพทางการเมือง และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม อีกทั้งได้จัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจ (ASEAN Economic Community : AEC) เพื่อส่งเสริมให้เป็นตลาด และฐานผลิตเดียวที่มีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ และการลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินทุนอย่างเสรี ทั้งนี้ได้กำหนดเป้าหมายให้เป็นปีที่มีลักษณะของการรวมกลุ่มประเทศ เปลี่ยนเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ทำให้เกิดผลกระทบด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านแรงงาน จะมีการถ่ายเทแรงงานฝีมือ เพื่อให้สามารถทำงานในประเทศสมาชิกได้ง่ายขึ้น ใน 8 สาขาอาชีพ คือ

1. วิศวกรรม
2. การสำรวจ
3. สถาปัตยกรรม
4. แพทย์
5. ทันตแพทย์
6. พยาบาล
7. บัญชี
8. การบริการ / การท่องเที่ยว

                    อาชีพอิสระที่ได้มาตรฐานได้รับการรับรองสามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานในประเทศ แถบอาเซียนได้ทันที ไม่มีการปิดกั้น อาชีพที่ได้ตกลงไว้ คือ แพทย์ พยาบาล บัญชี สถาปนิก วิศวกร โดยในตอนแรกมีการตกลงว่า ภาษาที่ใช้ในประชาคม คือ ภาษาอังกฤษ ซึ่งนักเรียนควรตระหนักในเรื่องนี้ให้มาก จะต้องเรียนให้เก่งจริง เมื่อเรียนจบปริญญาตรี ต้องใช้องค์ความรู้ที่เรียนมาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งจะต้องรู้ภาษาอังกฤษ รู้ภาษาจีน รอบรู้ประวัติศาสตร์ และรู้เทคโนโลยีด้วย

                    ขณะนี้มีหลายประเทศที่รายได้เฉลี่ยต่ำกว่าไทย ดังนั้นจะมีแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานในเมืองไทยอย่างแน่นอน ช่วง 5 ปีต่อจากนี้ไป อาจยังไม่มีผลกระทบทางลบมากนัก แต่นานไปก็น่าเป็นห่วงว่าคนไทยจะไม่มีงานทำ หรือโดนแย่งงานจากแรงงานต่างชาติ

                    ใน 4-5 ปีข้างหน้า 10 ประเทศก็จะเหมือน 10 จังหวัด ในการเปิดเสรีทางเงินทุน การค้า การบริการ แต่ข้อเท็จจริงการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือจะต้องมีกฎกติกาตามเงื่อนไขที่ตกลง กันในประเด็น 7 สาขาวิชาชีพ ช่างสำรวจ สถาปนิก บัญชี แพทย์ ทันตแพทย์ วิศวกร พยาบาล

                    เมื่อมีกฎแล้วต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของประเทศนั้นๆ ด้วย เช่น วิศวกร จะไปทางานที่ประเทศสิงคโปร์ ก็ต้องผ่านการสอบของสิงคโปร์ด้วย กลุ่มแรงงานระดับล่างยังไม่ตกลงเพราะเป็นเรื่องใหญ่ แต่อีกกลุ่มวิชาชีพหนึ่ง คือ บุคลากรวิชาชีพทางการท่องเที่ยว กำลังอยู่ในขั้นตอนการตกลง มี 9 ประเทศลงนามเรียบร้อยแล้ว แต่ไทยยังไม่ลงนามเพราะติดกรอบทางด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ เนื่องจากการทำข้อตกลงกับต่างประเทศต้องได้รับการยินยอมจากรัฐสภา แม้ยังไม่ลงนามก็มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ถ้าไม่ลงนามก็ไม่สามารถเคลื่อนย้ายแรงงานได้

                    อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ควรจะกล่าวถึงเรื่องของสมรรถนะ ความรู้ความสามารถ (Competency) ในการบริการ การทำงานกับเพื่อนร่วมงานอย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการปรับตัว ความเร็วในการทำงาน ความยืดหยุ่นในการทำงานเป็นหลัก แต่ต่อไปนี้จะทำงานตามหน้าที่ คนมีสมรรถนะคือคนที่ทำงานเร็ว เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และพัฒนาสม่ำเสมอ

                    พ่อแม่ผู้ปกครองควรสนใจในเรื่องนี้และปูแนวทางให้ลูกรักอย่างถูกหลัก วางแผนชีวิตให้เหมาะสมกับความเปลี่ยนแปลงที่คืบคลานมาอย่างรวดเร็วอย่ากระ พริบตา อาจพลาดพลั้งสูญเสียงานสำคัญให้ชาวต่างชาติ และคนไทยเป็นได้เพียงมนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ที่ไม่มีทักษะ ไม่มีสมรรถนะ และไม่มีประเทศไหนรับทำงานเลยก็ได้ ถามตัวเองว่าลูกหลานเราจะเป็นอันดับที่เท่าไรในตลาดประชาคมอาเซียน

                    แพทย์ และพยาบาล ก็เป็นอาชีพหนึ่งที่เป็นที่สนใจของอาเซียน แม้แต่ในประเทศไทยก็เป็นที่ต้องการมาก สถานประกอบการบางแห่งก็ขาดแคลนพยาบาล โรงงานอุตสาหกรรมเป็นหนึ่งสถานประกอบการที่ขาดแคลน เพราะตามกฎหมายสถานประกอบการ หรือโรงงานอุตสาหกรรม จำเป็นต้องมีพยาบาลประจำโรงงาน เช่น กรณีลูกจ้าง 200-999 คน ต้องจ้างพยาบาลจำนวน 1 คน ตลอด 8 ชั่วโมง และทุก 1,000 คนที่เพิ่มขึ้น ต้องจ้างพยาบาลเพิ่ม 1 คน เป็นต้น


ที่มา : http://campus.sanook.com/1091581/8-อาชีพ-ที่จะhot-ที่สุดใน-asean/)

Credit by..

Read More...


เต้าหู้ดำ

สวัสดีครับวันนี้จะมาแนะนำ เต้าหู้ดำแม่เล็ก เป็นสูตรเด็ดของ นางเซี่ยมจู แซ่ฉั่ว หรือ แม่เล็ก เจ้าของสูตรเต้าหู้ดำของโพธาราม มีรายการโทรทัศน์ และนิตยสารและหนังสือ รวมถึงทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ได้นำเรื่องราวเต้าหู้ดำไปนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ

เต้าหู้ดำ
เต้าหู้ดำ

เต้าหู้ดำ เป็นสูตรดั้งเดิม ประกอบไปด้วย ผงพะโล้ และน้ำตาลทราย เกลือทะเล อบเชย โป๊ยกั๊ก ซึ่งเทคนิคการต้มอยู่ที่การใช้ไฟปานกลางและใช้เวลาในการต้มนานถึง 3 วัน

สำหรับสูตรต้นตำรับ ก็ต้องยกให้กับ “เต้าหู้ดำแม่เล็ก” เรียกได้ว่า ถ้ามาโพธาราม และถามหาเต้าหู้ดำแม่เล็ก คนทั้งตลาดรู้จักกันดี และบอกทางไปซื้อได้แบบไม่ต้องกลัวหลงทางแต่อย่างใด ปัจจุบัน เต้าหู้ดำของ โพธาราม นั่นมีให้เลือกชิมกันเพียง 2 ราย เท่านั้น และก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็เป็นเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงกัน แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาลกินเจก็อาจจะได้เห็นหน้าใหม่มือสมัครเล่นออกมาขายกัน อยู่หลายราย
นางเซี่ยมจู แซ่ฉั่ว หรือ แม่เล็ก เจ้าของสูตรเต้าหู้ดำของโพธาราม เล่าว่า ที่มาของเต้าหู้ดำเกิดขึ้นมาจากเดิม มีพ่อค้าในตลาด ทำเต้าหู้ดำขายมาก่อน แต่เขาต้องการเลิกกิจการ ในสมัยนั้นประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา ตนเอง มีอาชีพขายถุงงอก เต้าหู้ เส้นก๋วยเตี๋ยว อยู่ในตลาดเช่นกัน และเห็นว่า เราก็ขายเต้าหู้อยู่แล้ว ก็เลยลองนำสูตรเต้าหู้ดำของพ่อค้าคนก่อนมาลองทำขาย
เพราะเห็นว่าไม่มีใครทำ ซึ่งก็ไม่ได้ขายดีอะไร แค่พอขายได้ แต่อาศัยว่า เราทำเพียงรายเดียว จึงได้ทำต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีลูกชาย คือ “นายณรงค์ สุธีพงศ์สิทธิ์” มารับช่วง ทำหน้าที่สำคัญนี้ต่อ
ด้านนายณรงค์ เล่าว่า สำหรับสูตรการต้มเต้าหู้ดำนั้น เป็นสูตรที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่เล็ก โดยไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไร โดยตนเอง จะทำหน้าที่ต้มเต้าหู้ดำช่วยแม่เล็ก มาตั้งแต่ต้น ดังนั้นสูตรต่างจึงเป็นสูตรดั้งเดิม โดยส่วนผสมที่ใช้ประกอบไปด้วย ผงพะโล้ และน้ำตาลทราย เกลือทะเล อบเชย โป๊ยกั๊ก ซึ่งเทคนิคการต้มอยู่ที่การใช้ไฟปานกลางและใช้เวลาในการต้มนานถึง 3 วัน
โดยจะไม่มีการใส่สารกันบูดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญของเต้าหูดำ แม่เล็ก คือ การเลือกเต้าหู้คุณภาพดีจากโรงงานที่สั่งซื้อเป็นประจำ เพราะเป็นเต้าหู้ที่ใช้ถั่วเหลือง 100% ไม่มีส่วนผสมของแป้ง เหมือนกับโรงงานเต้าหู้อื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมา เคยมีโรงงานเต้าหู้หลายแห่ง เคยทดลองนำเต้าหู้มาให้เราทดลองต้ม แต่ก็ไม่ได้รสชาติอย่างที่ต้องการ ต้องเปลี่ยนมาใช้เต้าหู้รายเดิม แม้ว่าเต้าหู้แผ่นจะเล็กกว่าโรงงานอื่นๆ แต่ได้เต้าหู้ดำที่มีรสชาติที่ต้องการ

เต้าหู้ดำ
เต้าหู้ดำ

ส่วนรสชาติของเต้าหู้ดำ จะออกหวานเค็ม เหมือนกับพะโล้ สามารถกินเปล่าได้เลย หรือ ถ้าต้องการนำไปปรุงอาหารเพิ่มก็ได้ โดยทางร้านมีเมนูแนะนำให้แก่ลูกค้า ได้แก่ ยำเต้าหู้ดำ เต้าหู้ดำผัดกระเพรา แกงป่าเต้าหู้ดำ เต้าหู้ดำผัดถั่วงอก และพะโล้ ลูกค้าบางคนก็ขอน้ำที่ต้มเต้าหู้ เพื่อนำกลับไปทำพะโล้ โดยทางร้านก็ไม่ห่วงถ้าลูกค้าอยากได้น้ำ เพราะน้ำที่เหลือไม่ได้นำไปต้มต่อ เพราะทำให้รสชาติของเต้าหู้ดำเปลี่ยนไปจากสูตรดั้งเดิม การทำแต่ละครั้งปรุงรสและทำน้ำใหม่ทุกครั้ง

ทั้งนี้ แต่เดิมทำขายและเป็นที่รู้จักเฉพาะในจังหวัดราชบุรี และใกล้เคียง แต่หลังจากที่มีรายการโทรทัศน์ และนิตยสารและหนังสือ รวมถึงทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ได้นำเรื่องราวเต้าหู้ดำไปนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ และพานักท่องเที่ยวมาซื้อที่ร้าน

ทำให้ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เต้าหู้ดำของร้านแม่เล็กกลับมาขายดีเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว จากเดิมวันละ 50-100 ก้อนกลายเป็นวันละ 200 – 300 ก้อน สำหรับวันธรรมดา และถ้าเป็นวันหยุดพิเศษ ก็ขายได้มากถึง 500 – 700 ก้อน และถ้าเป็นช่วงเทศกาลกินเจ 4-5 วัน สามารถขายเต้าหู้ได้มากถึง 20,000-30,000 ก้อน เลยทีเดียว

โดยลูกค้ามาจากต่างจังหวัดในหลายพื้นที่ ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก เมื่อมาท่องเที่ยวและผ่านมาทางอำเภอโพธาราม ก็จะแวะซื้อเป็นของฝากกลับไปรับประทานที่บ้าน โดยอายุการเก็บรักษาใส่ตู้เย็นสามารถเก็บได้นานถึง 10 วัน ส่วนถ้าอยู่ข้างนอกเหมือนกับอาหารทั่วไป อยู่ได้ 1-2 วันเท่านั้น

ราคาขายเต้าหู้ดำ

ส่วนราคาขายเต้าหู้ดำแผ่นละ 16 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ปรับขึ้น ตามราคาเต้าหู้และต้นทุน การผลิตที่เพิ่มขึ้น ทั้งส่วนผสมและราคาก๊าซหุงต้ม และถ่านที่เพิ่มขึ้น ทางร้านจะเปิดขายกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าไปจนถึง 3 ทุ่ม รอเวลาให้กับลูกค้าที่เดินทางมาไกล และตั้งใจมาซื้อเต้าหู้ดำก็จะได้กลับไป
นี่ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจการทำเต้าหู้ดำสามารถนำไปสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวหรือทำเป็นอาชีพเสริมใครสนใจลองติดต่อ โทร.032-231-429

เต้าหู้ดำ
เต้าหู้ดำ

อ้างอิงข้อมูล/ภาพ ASTVผู้จัดการออนไลน์

Read More...


ละมุนลิ้น ‘ก๋วยเตี๋ยวหลอดเป็ดพะโล้’ เข้มข้นจัดจ้าน ‘ต้มยำกุ้งแม่น้ำ’

สมัยนี้คนไทยชอบกินอะไรที่คล้าย ๆ อาหารญวน อย่างเช่น เปาะเปี๊ยะและก๋วยเตี๋ยวหลอด วันนี้เลยมีความคิดอยากชวนทุกท่านมาลองทำ ก๋วยเตี๋ยวหลอดเป็ดพะโล้ กันดูครับ

เริ่มแรก ห่อก๋วยเตี๋ยวหลอด โดยนำแผ่นก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่ตัดให้ได้ขนาดประ มาณ 4x4 นิ้ว วางบนถาดนึ่ง ทาน้ำมันซะหน่อย แป้งจะได้ไม่ติดและมีความเหนียว จากนั้นวางเนื้อเป็ดพะโล้ลงไปในแผ่นก๋วยเตี๋ยว โดยเราสามารถไปซื้อเป็ดพะโล้สำเร็จมาได้เลยครับ ตามด้วยก้านคะน้าที่ลวกแล้ววางทับไปบนเนื้อเป็ด ตามด้วยต้นหอม ถ้าอยากใส่อะไรเพิ่มอีกก็ใส่ได้นะครับแล้วแต่ชอบ อย่างเช่น แตงกวา แล้วราดด้วยซอสฮอยซินเจี่ย เสร็จแล้วม้วนแผ่นก๋วยเตี๋ยวเป็นหลอดกลม ๆ ให้มิดชิด ทำเหมือนกันแบบนี้สัก 4-5 หลอด แล้วเอาไปนึ่ง ประมาณ 10 นาที ก็สุกแล้วครับ



ระหว่างรอก๋วยเตี๋ยวสุก เราก็ทำ น้ำซอสก๋วยเตี๋ยวหลอด โดยเอาน้ำเป็ดพะโล้ ที่มาพร้อมกับเป็ดพะโล้ที่ซื้อมา เติมซีอิ๊วขาวและจิ๊กโฉ่ว จากนั้นใส่ขิงสับลงไปนิดหน่อย ตามด้วยใส่น้ำมันงาแล้วผสมให้เข้ากัน จะกลายเป็นน้ำซอสที่เราใช้ราดในก๋วยเตี๋ยวหลอด

จากนั้นพอก๋วยเตี๋ยวหลอดสุก ก็มาถึง การเสิร์ฟ ทำได้โดยเอาก๋วยเตี๋ยวหลอดออกมาหั่นเป็นท่อน ๆ วางในจานเสิร์ฟ ราดด้วยน้ำซอสที่ทำไว้ แล้วแต่งหน้าด้วยพริกชี้ฟ้าแดงและกระเทียมเจียวก็อร่อยแล้วครับ ทุกอย่างไม่ว่าตัวก๋วยเตี๋ยวหลอดหรือน้ำซอสเราสามารถทำไว้ล่วงหน้าได้ แล้วค่อยมานึ่งตอนที่ต้องการจะรับประทาน เอาไว้กินเล่นกันในครอบครัวครับ.

เครื่องปรุง
-แผ่นก๋วยเตี๋ยว 500 กรัม
-เนื้อเป็ดพะโล้ 400 กรัม
-ก้านคะน้าหั่นเป็นแท่งลวก 150 กรัม
-ต้นหอม 4 ต้น
-ซอสฮอยซินเจี่ย 4 ช้อนโต๊ะ
-ขิงซอย 1/4 ถ้วยตวง
-ผักชีเด็ดใบ สำหรับแต่งหน้า
-พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแว่น สำหรับแต่งหน้า
-กระเทียมเจียว สำหรับแต่งหน้า

เครื่องปรุงน้ำซอสก๋วยเตี๋ยวหลอด
-น้ำเป็ดพะโล้ 1/4 ถ้วยตวง
-ซีอิ๊วขาว 1/4 ถ้วยตวง
-จิ๊กโฉ่ว 1 ช้อนโต๊ะ
-ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมันงา 1 ช้อนชา

ร้านอาหารชวนชิม
ร้านที่ผมจะพาไปชิมกันในวันนี้เป็นร้านเก่าแก่ที่ผมกินมาเป็นเวลาสิบ ๆ ปีแล้ว และเป็นร้านที่ผมชอบมากเพราะอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้กับสะพานพระราม 4 ซึ่งสร้างใหม่ที่ปากเกร็ด ชื่อร้าน ภัตตาคารริมน้ำ (ฮงเส็ง) ร้านจะออกแนวโบราณหน่อย

อาหารว่างของเขาที่มาเสิร์ฟให้รองท้องกันก่อนคือ ข้าวตังหน้าตั้ง รสชาติดี ไม่หวาน ส่วนอาหารจานอร่อยที่สุดของที่นี่เห็นจะเป็น กุ้งเผา ซึ่งพิเศษตรงที่เผาไม่สุกจนเกินไป เนื้อตรงกลางยังคงเป็นสีชมพูอยู่ กลิ่นหอมมาก เนื้อกุ้งกรอบ ไม่เหนียว มันที่หัวกุ้งก็เอาไปคลุกกับข้าวสวยร้อน ๆ และน้ำจิ้มซีฟู้ด อร่อยอย่าบอกใคร

อีกเมนูคือ ลูกชิ้นปลากรายผัดฉ่า ใส่ยอดมะพร้าวอ่อนด้วย ลูกชิ้นของเขาสดอร่อย รสชาติกลมกล่อมจัดจ้าน

ปกติผมจะชอบสั่งปลาแรดทอดกระเทียม เพราะเนื้อปลาของเขาหวานมาก แต่วันนั้นไม่มีผมเลยสั่ง ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมพริกไทย มาแทน เขาทอดได้พอดี กินปลาได้ทั้งตัว จิ้มกับซอสพริก
นอกจากนี้ยังมี ปูผัดผงกะหรี่ เขาไม่ได้ใช้ปูทั้งตัว แต่ใช้เฉพาะเนื้อปูเป็นก้อน ๆ มาผัดแห้ง ๆ ไม่ให้เละ ปูสดมาก ได้รสหวานของเนื้อปูจนผมอยากจะกินแบบญี่ปุ่น คือเอาข้าวใส่ถ้วยและเอาปูผัดผงกะหรี่โปะไว้ข้างบนข้าว

จานต่อมาเป็น ต้มยำกุ้งแม่น้ำ ที่ร้านนี้ไม่ใส่น้ำพริกเผานะครับ แต่ที่เห็นเป็นสีแดงลอยอยู่คือมันที่หัวกุ้งครับ รสเข้มข้น ซดน้ำร้อน ๆ อร่อยมาก สุดท้าย ปลาดุกฟูพริกขิง ผัดแห้ง ๆ อร่อยมากเช่นกัน
ที่นี่มีอาหารอีกหลายอย่างที่ผมอยากกิน แถมบรรยากาศดี นั่งสบาย ๆ รับลมเย็น ๆ ใครอยากไปชิมรีบโทรฯ ไปจองนะครับ เพราะบ่าย ๆ เขาก็ปิดร้านแล้ว.

หมึกแดงไกด์
สำหรับร้าน
ภัตตาคารริมน้ำ
(ฮงเส็ง)
ความอร่อย
ความสะอาด
คุณภาพของวัตถุดิบ
การบริการ
ราคา
ความเผ็ด
ที่อยู่ : 280 หมู่ 2 บริเวณท่าเรือเทศบาลนครปาก เกร็ด ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
โทร : 0-2583-7654, 0-2583-8631
เวลาเปิด : วันจันทร์-ศุกร์ 10.30-14.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ 10.30-17.00 น.

หมึกแดง
Credit by. www.mcdangguide.com

Read More...


‘ผัดไทยกุ้งสด’ ‘ห่อไข่’ เมนูขายคล่อง

“ผัดไทย” เป็นอาหารที่อยู่คู่บ้านเมืองไทยมานาน เป็นอาหารจานเดียวที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว ด้วยรสชาติอร่อยแบบหวานเค็มเปรี้ยวพอดี ๆ สีสันสวยงามน่ารับประทาน จึงกลายเป็นอีกเมนูยอดฮิตของชาวไทย และชาวต่างชาติก็ชอบ แทบจะเรียกว่าเป็นอาหารประจำชาติอย่างหนึ่งที่โด่งดังไปทั่วโลกเช่นเดียวกับ ต้มยำกุ้ง ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้หันมาพิสมัยอาหารไทย ๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ อาหารชนิดนี้ทำไม่ยาก สามารถทำเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ ซึ่งวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีข้อมูลการทำการขายผัดไทยอีกรูปแบบหนึ่ง คือ “ผัดไทยกุ้งสดห่อไข่” มานำเสนอให้พิจารณา...

ณัชชา เอกพจน์ หรือ ตุ๊กตา วัย 33 ปี เจ้าของร้านผัดไทย จ๋อ จ๋อ เล่าให้ฟังว่า เธอนั้นสนใจและชื่นชอบการทำอาหารมาตั้งแต่เด็กแล้ว โดยได้รับการถ่ายทอดสูตรอาหารหลายอย่างมาจากคุณแม่ และผัดไทยหรือก๋วยเตี๋ยวผัดไทยนี่ก็มาจากคุณย่าที่ขายผัดไทยสูตรโบราณอยู่ ที่ตลาดสวนหลวง เธอช่วยเป็นลูกมืออยู่หลายปี หลังจากแต่งงานมีครอบครัว จึงแยกตัวมาค้าขายส่วนตัว ด้วยความที่ชอบทำอาหาร จึงได้ทำ ผัดไทยห่อไข่กุ้งสด สูตรคุณย่า ขายที่ห้างแห่งหนึ่ง



“ผัดไทยห่อไข่ขายดีมาก ตุ๊กตา กับ น้องตาล น้องสาว ทำขายแทบไม่ทัน แต่นาน ๆ ไปก็รู้สึกเบื่อหน่ายและอึดอัดกับกฎเกณฑ์หลาย ๆ อย่างของสถานที่ขาย ระหว่างนั้นก็พยายามมองหาอาชีพอื่นไปด้วย ทีนี้สองคนพี่น้องก็มานั่งปรึกษากันว่าจะทำอะไรดี ก็คิด ๆ กันว่าเรามีฝีมือในการทำอาหารและชำนาญในการทำก๋วยเตี๋ยวผัดไทยห่อไข่ ก็น่าจะเปิดร้านขาย จังหวะพอดีกับที่ได้ทำเลร้านที่ย่านดอนเมือง จึงบอกเลิกสัญญากับห้างแล้วมาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวผัดไทยห่อไข่ และอาหารตามสั่ง สุกี้ และน้ำปั่น เป็นเวลา 6 เดือน
แล้ว ซึ่งที่ร้านเราจะใช้วัตถุดิบอย่างดีทั้งของแห้งและของสด ทำกันใหม่ ๆ วันต่อวัน ลูกค้าจะพูดกันปากต่อปากว่าอาหารที่ร้านอร่อยถูกปาก ราคาไม่แพง ทำให้มีลูกค้าทั้งขาประจำ และขาจรมาอุดหนุนมากมาย บางคนไม่อยากมานั่งรอก็จะโทรฯ มาสั่งล่วงหน้า” ตุ๊กตาเล่า

สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ทำผัดไทย หลัก ๆ ก็มี... เตาแก๊ส, กระทะ และเครื่องครัวเบ็ดเตล็ดทั่ว ๆ ไป

ส่วนผสมผัดไทยห่อไข่กุ้งสด หรือ “ผัดไทยกุ้งสดห่อไข่” ก็มี... ก๋วยเตี๋ยวเส้นจันท์, กุ้งสด หรือกุ้งแห้งเนื้อดี, เต้าหู้เหลืองหั่นลูกเต๋า, ไข่ไก่, หอมแดงสับ, หัวไชโป๊เค็มสับ, น้ำมะขามเปียก, น้ำปลา, น้ำตาลปี๊บ, น้ำมันพืช, น้ำสะอาด, ถั่วลิสงคั่วบุบ, พริกป่น, ถั่วงอก และใบกุยช่ายหั่นท่อน

ผักสดที่ใช้แนม ก็จะมี... หัวปลี, ใบบัวบก, ถั่วงอก, ใบกุยช่าย และมะนาวหั่นชิ้น

ขั้นตอนการทำก๋วยเตี๋ยวผัดไทยห่อไข่กุ้งสด ขั้นตอนแรกต้องเตรียมเครื่องปรุงทั้งหมดให้พร้อม ทั้งของสด ของแห้ง ล้างให้สะอาด สับหรือหั่นให้เรียบร้อย อาจจะดูเยอะแยะมากมายไปบ้าง แต่การเตรียมเครื่องปรุงแต่ละชนิดอย่างดีนี่แหละ เมื่อนำมาผัดรวมกับเส้นจะได้ก๋วยเตี๋ยวผัดไทยที่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม ดึงดูดลูกค้าให้อุดหนุน

ผัดไทยกุ้งสดห่อไข่ ก่อนจะลงมือผัดก็จะต้องทำแผ่นไข่ที่จะใช้ห่อก่อน โดยตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันเพียงเล็กน้อย กลอกน้ำมันให้ทั่วกระทะ ตอกไข่ไก่ 2 ฟองใส่ถ้วย ตีให้เข้ากัน พอกระทะร้อนได้ที่แล้วเทไข่ที่ตีเตรียมไว้ลงไป กลอกให้เป็นแผ่นบาง ๆ ใช้ไฟอ่อน ๆ พอไข่สุกดีแล้วใช้ตะหลิวแซะแผ่นไข่ออกมาวางในจาน เตรียมไว้ห่อเส้น

จากนั้นตั้งกระทะ ใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปพอประมาณ เอากุ้งสดที่เตรียมไว้ใส่ลงไปทอดให้สุกเหลือง ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน ตักน้ำมันออกจากกระทะให้เหลือเพียงเล็กน้อย ใส่เต้าหู้เหลืองหั่น หอมแดงสับ หัวไชโป๊เค็มสับ ลงไปผัดคลุกเคล้าให้ทั่ว พอให้มีกลิ่นหอม แล้วใส่เส้นจันท์ลงไปผัด เติมน้ำพอประมาณ (เพื่อให้เส้นสุกและนุ่ม) ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ มะขามเปียก ผัดไปมาให้เส้นเข้ากับเครื่องปรุง เกลี่ยเส้นแล้วตอกไข่ใส่ลงไป ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันจากนั้นจึงใส่ถั่วงอก และใบกุยช่าย ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดไฟ

เทคนิคห่อไข่ นำแผ่นไข่วางแผ่ลงในถ้วยพลาสติก ตักเส้นผัดไทยวางตรงแผ่นไข่ในถ้วย แล้วห่อพับเป็นห่อสี่เหลี่ยม ใช้ใบตองสดปิดบนถ้วย จับคว่ำลงบนจาน หรือภาชนะอื่นที่ใช้ใส่ขาย ใช้มีดกรีดแผ่ไข่ออกให้สวยงาม นำกุ้งที่ทอดเตรียมไว้วางข้างบน เตรียมถั่วงอก กุยช่าย หัวปลี มะนาวหั่นชิ้น น้ำตาลทราย ถั่วลิสงคั่วบุก็เป็นอันพร้อมเสิร์ฟพร้อมขาย

ราคาขายก๋วยเตี๋ยวผัดไทยห่อไข่กุ้งสดร้านนี้ ชุดละ 50 บาท ถ้าเป็นแบบธรรมดาไม่ห่อไข่ขาย 40 บาท
ใครสนใจ “ช่องทางทำกิน” ลักษณะนี้ ก็ลองไปฝึกทำกันดู หรือต้องการจะลองชิม “ผัดไทยห่อไข่กุ้งสด” สูตรคุณย่า ของร้าน จ๋อ จ๋อ ร้านนี้จะอยู่ตรงถนนประชาอุทิศ เลยสำนักงานเขตดอนเมืองประมาณ 200 เมตร ให้สังเกตขวามือ จะอยู่ตรงข้ามอู่รถ (ร้านปิดวันศุกร์) ต้องการสอบถามทางไปร้านหรือสั่งอาหาร ติดต่อ ตุ๊กตา ได้ที่ โทร. 08-0915-5657 หรือติดต่อ น้องตาล โทร. 08-2652-3626 ทั้งนี้ อาหารนั้นถ้ารู้จักพลิกแพลงให้โดดเด่น ก็มีโอกาสที่จะเป็นสินค้าขายดี!!!.

เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / สุนิสา ธนพันธสกุล : ภาพ

Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/384/223690

Read More...


รถขายหวยรัฐบาลเคลื่อนที่



“เจ๊ เล็ก” แม่ค้าขายล็อตเตอรี่หรือสลากกินแบ่งรัฐบาลรายใหญ่มูลค่ากว่า10 ล้านบาทต่องวด ของจังหวัดพิษณุโลก  เกิดความคิดดีๆ อยากเห็นคนมีงานทำ คนขายสลากกินแบ่งมีความสะดวกในการตระเวนขายสลากกินแบ่งถึงมือลูกค้า จึงดัดแปลงสภาพเป็นรถเคลื่อนที่พร้อมประดิษฐ์ชั้นวางของไว้สำหรับวางขาย สินค้าหลากหลายประเภท ซึ่งรถดังกล่าวเจ๊เล็กได้สร้างเป็นเครือข่ายขายสลากกินแบ่งรัฐบาลพร้อมรอง รับหวยออนไลน์
 

นางนภัสวรรณ ปรีดากุล หรือ เจ๊เล็ก ร้านเจ๊เล็ก อุดมโชคสยาม แม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาล รายใหญ่ของจังหวัดพิษณุโลก  เกิดความคิดอยากเห็นคนมีงานทำ และอยากให้คนขายสลากกินแบ่งมีความสะดวกในการตระเวนขายสลากกินแบ่งถึงมือ ลูกค้าในลักษณะเดลิเวอรี่ จึงออกแบบนำรถยนต์บรรทุกเล็ก ดัดแปลงสภาพเป็นรถเคลื่อนที่พร้อมประดิษฐ์ชั้นวางของ(เชล)ไว้สำหรับวางขาย สินค้าหลากหลาประเภท

เจ๊เล็ก กล่าวต่อว่า ด้วยความผูกพันในอาชีพ จึงเกิดความคิดในการสร้างคนที่ตกงานให้มีงานทำด้วยการเป็นเครือข่ายจำหน่าย สลากกินแบ่งรัฐบาล ในราคาเช่นเดียวกับราคาใน กรุงเทพมหานคร ต้องการประดิษฐ์รถยนต์ พร้อมสร้างเครือข่ายขายสลากกินแบ่งรัฐบาล การทำรถได้ออกแบบทั้งตัวรถมีรูปสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งคันเป็นจุดเด่นที่แตกต่าง สะดุดตาจากรถคันอื่นและเป็นที่รับรู้ว่านี่คือรถจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เคลื่อนที่ อีกทั้งยังเป็นรถเคลื่อนที่สำหรับรองรับการให้บริการจำหน่ายหวยออนไลน์ โดยรถที่ทำขึ้นรวมค่ารถยนต์ ค่าทำสี ค่าตกแต่งและชั้นวางของทั้งคันราคา 700,000 บาทเท่านั้น


นายเฉลิมชัย ศรีบุญเรือง ผู้จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล จ.สุโขทัยบอกว่า สนใจรถยนต์ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลรูปแบบดังกล่าวจึงมาติดต่อให้ทำรูปแบบเดียว กันนี้ หลังจากเจ้เล็กได้นำมาใช้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เป็นการเลียนแบบความสำเร็จ แบบเต็มรูปแบบ และต้องการเป็นเครือข่ายของเจ้เล็ก อีกทั้ง มองว่ารูปแบบรถดูดี ทำให้เราดูมั่นคง ลูกค้าเชื่อถือเชื่อมั่นมากขึ้น นอกเหนือจากการได้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ในการวางจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล มีแผงวางขายหนังสือล็อคเลข คอหวย และอาจจำหน่ายสินค้าประเภทอื่นควบคู่ไป เป็นการเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่งด้วย


Credit by..http://www.phitsanulokhotnews.com/2012/11/03/26414

 ติดตาม ร้านค้าติดล้อขายของ ได้ที่ : http://commercial-on-wheels.blogspot.com/

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.