เป็นเวลานานแล้วที่ผมไม่ได้ไปกินอาหารที่ร้านอาหารฝรั่งเศส
แต่ครั้งนี้มีโอกาสก็เลยแวะไปกิน โดยร้านนี้มีชื่อว่า เลอ บัวลิเออ
ตั้งอยู่ในตึกแอทธินี ทาวเวอร์ ชั้นล่างสุด ทางด้านซ้ายของตึก
ลักษณะของร้านเป็นครัวเปิด บรรยากาศดีและมีที่นั่งมากพอสมควรครับ
ตกแต่งทั้งข้างบนและข้างล่างได้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้ยังมีที่นั่งข้างนอกซึ่งเป็นไวน์บาร์อีกด้วย
ร้านนี้ไม่ใช่ร้านที่หรูหราโอ่อ่ามากนัก ส่วนเรื่องอาหารไม่ต้องพูดถึงครับ
อร่อยทุกจานเลย
อาหารจานแรกที่ได้ชิมคือ ขากบทอดแบบฝรั่งเศส ซึ่งคนที่อยู่ในยุโรปหรือคนที่อยู่ในอังกฤษจะเรียกคนฝรั่งเศสว่า “กบ” เพราะคนฝรั่งเศสชอบกินกบมาก ซึ่งขากบของที่ร้านนี้ทำได้อร่อย ทอดได้กรอบและไม่อมน้ำมัน จากนั้นเขาเสิร์ฟ ปาเต้ฝรั่งเศสบนขนมปังแบบคันทรี เป็นอาหารกินเล่นอีกจานหนึ่ง อร่อยดีครับ เบา ๆ ท้อง
ต่อมาเป็น หอยเชลล์ทอดกับซอสเบลอบองก์ ซึ่งเป็นซอสจากไวน์ขาวตีกับนมหรือครีมให้เป็นฟองแล้วก็ราดไปบนหอย เป็นอาหารสมัยใหม่ แต่รสชาติยังเป็นแบบฝรั่งเศสโบราณแท้ ๆ ที่เต็มไปด้วยนม เนย และไข่ รสชาติใช้ได้ ไม่เลี่ยนมากจนเกินไป
หลังจากนั้นเป็น สลัดเนยแข็ง ซึ่งเนยแข็งนี่เป็นเนยคล้าย ๆ กับคอตเตจชีส แต่ว่าเป็นเนยแข็งที่ทำจากนมวัวที่มาจากประเทศอิตาลี ฉะนั้นจึงหากินยากพอสมควรและราคาค่อนข้างสูงด้วยครับ เนยแข็งชนิดนี้เรียกว่า บูราตาร์ ที่มีรสชาติอร่อยมาก โดยที่ร้านเสิร์ฟมาพร้อมกับมะเขือเทศสีดา ใบร็อกเก็ต ใส่น้ำมันมะกอกเล็กน้อย และบีบมะนาวไม่มาก กินกับขนมปังบาง ๆ กรอบ ๆ อร่อยดีครับ
สำหรับอาหารจานหลัก ผมสั่ง ปลามังค์ฟิชทอด มากิน ปลาชนิดนี้เป็นปลาที่หน้าตาดูไม่ได้เลยครับ ในส่วนของรูปร่างบ้องหางจะคล้าย ๆ กับหางของจระเข้ แต่ว่ารสชาติของเนื้อปลาอร่อยมากครับ
เหมือนกับล็อบสเตอร์เลย เพราะว่าไม่เละ เนื้อแน่นดีครับยังมี ซี่โครงแกะย่าง ซึ่งเชฟของที่นี่เขาทำได้อร่อยมากจริง ๆ เขาย่างได้สุกกำลังดี (ถ้าย่างสุกมากจนเกินไป จะทำให้เนื้อแข็ง กระด้าง ไม่อร่อย) เนื้อซี่โครงยังเป็นสีชมพูอ่อน ๆ อยู่เลย ราดซอสมาด้านบน ผมลองชิมแล้ว อร่อยนุ่มดีครับ สู้ฟันเล็กน้อย
มี นกกระทาทอด เสิร์ฟกับมันบดและผักต่าง ๆ ที่นี่เขาจะใช้นกกระทาที่นำเข้ามานะครับ ไม่ใช่นกกระทาบ้านเรา โดยเอานกกระทามาหมัก กลิ่นจะยังตุ ๆ เล็กน้อย แล้วเอามาทอดให้พอกรอบ แล้วก็ทำซอสราดให้เรากิน รสชาติอร่อยดีครับ เนื้อยังแดงอยู่นิด ๆ กินตอนร้อน ๆ จะอร่อยมาก
ยังไม่หมดเท่านี้นะครับ ยังมี แก้มวัวตุ๋น ซึ่งเขาตุ๋นนานมาก ภาษาฝรั่งเรียกว่า สโลว์คุก โดยใช้ซอสที่มีสีเข้มเกือบจะดำเลยครับ แม้หน้าตาอาจจะไม่ค่อยน่ากินสักเท่าไร แต่เมื่อชิมแล้วอร่อยเหลือเกิน เนื้อจะมีความนุ่มแล้วก็มีความชุ่มชื้นอยู่ในนั้น รสชาติกลมกล่อมครับ
ส่วนของหวานนั้นมีหลายชนิดด้วยกัน แต่ว่าเชฟที่นี่มีชื่อเสียงมาก แล้วเขาทำ ซูเฟล ได้เป็นอย่างดีทีเดียว ซึ่งซูเฟลนั้นจะคล้าย ๆ กับเค้กที่เบามาก ไม่มีแป้งอยู่ในนั้นเลยนะครับ โดยซูเฟลจะมีหลายชนิด ทั้งซูเฟลถั่วเฮเซลนัท ซูเฟลแกรนด์มาร์นิเออร์ ซูเฟลเหล้ากรอมันเยย์ ซูเฟลที่ทำจากช็อกโกแลตก็มีนะครับ แต่ว่าต้องสั่งล่วงหน้า เพราะจะต้องใช้เวลาทำประมาณ 20-25 นาที นับเป็นอาหารพิเศษสำหรับร้านนี้เลยก็ว่าได้ครับ โดยวันนั้นที่ผมกินคือ สตรอเบอรี่ ฟลอร์เบลย์ เขาจะเอาสตรอเบอรี่ไปผัดกับน้ำตาลและเนย เสิร์ฟกับไอศกรีมวานิลลาที่เขาทำเอง รสชาติหอมชวนกินมาก ไม่หวานจนเกินไปนัก
ถ้ามีโอกาสต้องลองไปชิมกันดูนะครับ โดยตอนกลางคืนนั้นราคาอาหารจะค่อนข้างสูงพอสมควร แต่ถ้ามาช่วงกลางวันราคาจะถูกกว่า หากมีโอกาสพิเศษลองไปชิมกันดูนะครับ รับรองไม่ผิดหวัง.
ไก่อบเครื่องแกง - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุงไก่อบเครื่องแกง
-เครื่องแกงแดง 1 ช้อนโต๊ะ
-ขมิ้นสับหยาบ 1 ช้อนชา
-หัวกะทิ 250 มิลลิลิตร
-น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
-ตะโพกไก่ติดหนัง 400 กรัมเลาะกระดูกแล้ว
-ขนมปัง 4 แผ่น
-เนยสด สำหรับทอด
วิธีทำ
1. เปิดเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 250 องศาเซลเซียส พักไว้
2. ในเครื่องปั่น ใส่เครื่องแกงแดง ขมิ้น หัวกะทิ น้ำปลา น้ำมะขามเปียก ปั่นส่วนผสมให้เข้ากัน เป็นซอสสำหรับหมักไก่
3. ในชามผสม เทซอสสำหรับหมักลงไป นำเนื้อไก่ลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 30 นาทีหรือค้างคืน
4. ในถาดอบ นำเนื้อไก่ที่หมักไว้เรียงลงในถาดอบ แล้วเอาซอสที่เหลือราดลงไปบนเนื้อไก่ นำเข้าเตาอบ อบประมาณ 25–30 นาที หรือจนกระทั่งสุกเหลือง นำออกจากเตาพักไว้
5. นำกระทะตั้งไฟพอร้อนนำขนมปังทาด้วยเนย ลงนาบลงบนกระทะให้เหลือง กรอบ นำขึ้นจากเตาพักไว้
6. วางไก่อบลงในจานเสิร์ฟ กับอาจาดมะละกอและขนมปังปิ้ง จัดเสิร์ฟ
เครื่องปรุงอาจาดมะละกอ
- น้ำส้มสายชู 4 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
-เกลือ 1 ช้อนชา
-มะละกอดิบขูดเป็นเส้น 1 ถ้วยตวง
-หอมแดงหั่นเส้น 4 หัว
-พริกชี้ฟ้าแดง เขียว และ 2 เม็ดเหลืองหั่นเป็นเส้น
วิธีทำ
1. ในชามผสม ใส่น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย และเกลือ ผสมให้เข้ากัน
2. ใส่มะละกอขูด หอมแดง พริกชี้ฟ้า ลงผสมให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ในตู้เย็น สำหรับเสิร์ฟพร้อมไก่อบความรู้คู่ครัว
- ทำไมสมัยก่อน ต้องกินแกงกะทิที่มีเครื่องแกงเผ็ด เช่น แกงมัสมั่น คู่กับอาจาดด้วย?
เพราะผักอาจาดมีรสชาติเปรี้ยว ช่วยแก้เลี่ยน และยังช่วยชูรสชาติให้อร่อยขึ้น.
ซูเฟล - ชิมให้เป็น
ซูเฟลคือขนมเค้กชนิดหนึ่งที่ไม่มีแป้ง มีวิธีทำคือเอาไข่แดงผสมกับน้ำตาลเชื่อมร้อน ๆ หรือกลิ่นวานิลลาหรือนมที่ทำให้ข้นด้วยน้ำตาลกับไข่แดง แต่ไม่มีผงฟู จากนั้นเอาไข่ขาวไปตีแล้วใส่น้ำตาลเข้าไปเป็นไข่ขาวที่หวานมีฟอง จากนั้นตะล่อมฟองมาผสมกับน้ำซอสที่จะทำเป็นเค้กแล้วใส่ไปในภาชนะที่เราจะนำ ไปอบ ซึ่งในภาชนะนั้นให้ทาเนย และโรยน้ำตาลให้รอบข้างในเสียก่อน จึงค่อยใส่ซูเฟลเข้าไป
หลังจากนั้นก็เอาไปอบ ใช้เวลาราว ๆ 20 นาที ขนมจะค่อย ๆ ฟูขึ้นมา โดยข้างในก็ยังจะเหลว ๆ ข้น ๆ เล็กน้อย แต่ข้างนอกจะเป็นโครงร่างที่ฟูขึ้นมา ให้เสิร์ฟทันที โดยโรยน้ำตาลไอซิ่งก็ได้นะครับ แล้วเอาช้อนตักลงไปตรงกลาง ถ้าเป็นกรอมันเยย์หรือใส่เหล้าก็จะมีกลิ่นเป็นเหล้า หรือใส่ถั่วเฮเซลนัทก็จะเป็นกลิ่นถั่ว
รสชาติของขนมชนิดนี้จะหวาน โดยที่ไม่หวานจนเกินไปนัก ซูเฟลจะต้องไม่มีความเผ็ดและจะต้องไม่หวานจนเกินไป ซึ่งจะมีทั้งซูเฟลคาวและซูเฟลหวาน สำหรับผมแล้ว ซูเฟลหวานอร่อยครับ.
หมึกแดงไกด์ สำหรับ
ร้านเลอ บัวลิเออ
ความอร่อย
ความสะอาด
คุณภาพของวัตถุดิบ
การบริการ
ราคา
ที่อยู่ : ตึกแอทธินี ทาวเวอร์ ชั้นกราวน์ เลขที่ 63 ถนนวิทยุ
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทรศัพท์ : 0-2168-8220
เวลาเปิด : 11.30–15.00 น. และ 18.30-23.00 น.
ไวน์บาร์ 17.30–01.00 น.
หมึกแดง
www.mcdangguide.com
Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/224/183078
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001