ขึ้นปีใหม่หลายคนอยากเปลี่ยนงานใหม่
แต่ยังนึกไม่ออกว่าอาชีพไหนน่าจะรุ่งในปีหน้า
บางทีอาชีพที่ว่าอาจได้ค่าตอบแทนคุ้มค่าอย่างคาดไม่ถึง โดย นพวรรณ จุลกนิษฐ
ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด
ประเมินสถานการณ์อาชีพใหม่ในประเทศ
จริงแล้วในอาเซียนเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ
เป็นอาชีพเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ
รวมถึงเป็นอาชีพลงลึกมากขึ้น คือเป็นอาชีพเดิมที่เคยเห็นอยู่
เพียงมีสาขาเพิ่มเติมขึ้นมา เช่น
งานด้านการตลาดเพราะเดี๋ยวนี้มีสมาร์ทโฟนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมากขึ้นทำให้มี
อาชีพเฉพาะทางเกิดขึ้น
สำหรับ อาชีพที่ไม่ได้อยู่ภายใต้บริษัท เรื่องการทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต,
การกดไลค์, แท็กรูป,แชร์ เพื่อตัวสินค้าให้มีคนรู้จักมากขึ้น
ให้คนภายนอกรู้สึกว่าสินค้าตัวนี้ดี
คนมาแชร์มากดไลค์ให้เกิดการตลาดแบบปากต่อปาก หรือการตลาดแบบบอกต่อ
เพราะเดี๋ยวนี้การใช้ชีวิตในการที่จะซื้อของหนึ่งชิ้นหลายคนหาข้อมูลในอิน
เทอร์เน็ตว่ามีผลตอบรับเป็นอย่างไร
แต่ถ้าเป็น อาชีพใหม่ที่อยู่ในองค์กร คือ
1. เอสอีโอ (SEO : Search Engine Optimization) เป็นคนที่ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับในกูเกิล ค้นหาแล้วอยู่ในหน้าแรก ๆ แต่อันนี้เป็นการปรับแต่งเว็บโดยไม่มีการเสียค่าใช้จ่าย โดยกูเกิลใช้วิธีการไล่ลำดับจากเว็บที่ขึ้นมาจากความเกี่ยวข้องหรือเกี่ยว โยงด้วยคีย์เวิร์ดคำพูด ถ้าเราค้นหาข้อมูลโดยใช้คำใดคำหนึ่งจะค้นหาเว็บไซต์ใกล้เคียงหรือคำที่ต้อง การมาไว้ข้างบนสุด
2. เอสอีเอ็ม (SEM : Search Engine Marketing) คือการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับแต่ต้องจ่ายเงินเป็นการจ่ายเงินลงโฆษณากับกู เกิลโดยต้องทำให้ไปอยู่ในลำดับที่สูง มีคำโดดเด่น แต่ทำอย่างไรให้ดูเด่นกว่าคนอื่น ให้เว็บเรามีคีย์เวิร์ดหรือคำเฉพาะให้ตรงกับการค้นหา
3. เอสเอ็มโอ (SMO : Social Media Optimization) ทำในเรื่องการให้มีเพื่อนหรือให้มีคนเข้ามาสนใจ ในส่วนของตัวบริษัทไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก หรือโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อให้องค์กรมีโอกาสในการทำการประชาสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้า หรือบริการใหม่
ขณะเดียวกันอาชีพใหม่ที่เกิดขึ้นก็มีมิจฉาชีพหลายคนใช้ในการหลอกลวง คนสมัครงานต้องระลึกไว้เสมอว่าอย่าโลภ โดยต้องดูบริษัทที่มั่นใจได้ เพราะบางคนชอบเอารูปเงินเอารูปคนประสบความสำเร็จมาโชว์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติแต่มันทำให้คนส่วนใหญ่โหยหาเงิน ซึ่งเป็นเรื่องทางสังคมที่มีเรื่องเงินเป็นหลัก รวมทั้ง สิ่งของ วัตถุนิยม เพราะฉะนั้นต้องระวังในเรื่องนี้ เนื่องจากนวัตกรรมเทคโนโลยีก็เป็นดาบสองคม โดยเฉพาะกลวิธีหลอกลวงด้วยการให้จ่ายเงินก่อน สมัครสมาชิกแล้วคุณจะได้งาน ซึ่งไม่น่าเชื่อถือ ถ้ารู้สึกไม่มั่นใจอย่าไปเกี่ยวข้องเลยดีกว่า
ด้านอาชีพอื่น อย่าง สาขาพลังงาน เช่น นาโนเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นในแง่สุขภาพถือเป็นอีกกระแสที่มาแรง ขณะที่บางมหาวิทยาลัยมีคณะเฉพาะทาง อย่าง ทัศนศาสตร์ เรียนเรื่องดวงตาอย่างเดียวส่วน การแพทย์แผนไทย มีคนสนใจมากขึ้น เพราะบางครั้งแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด และแพทย์แผนไทยเรายังไม่มีการพัฒนาค้นคว้าหรือวิจัยเรื่องสมุนไพรของไทย
อาชีพทดสอบสินค้า เป็นอีกสิ่งที่หายาก คือคนที่ทำให้มั่นใจว่าสินค้าที่จะออกมาทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การใช้งาน ที่ดี เช่น แอพพลิเคชั่นหน้าโทรศัพท์ ผู้ขายต้องการทดสอบว่าสิ่งที่ทำขึ้นมาผู้ใช้รู้สึกอย่างไรต้องผ่านผู้ทดสอบ เป็นเหมือนคนที่มาทำให้เกิดความมั่นใจ โดยทุกบริษัทต้องมีการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างเล็ก ๆ ที่มีความหลากหลายในกลุ่มนั้น ๆ เพื่อให้เห็นว่ากลุ่มคนแต่ละกลุ่มชอบแบบไหน ซึ่ง เป็นอาชีพที่หายากมากเนื่องจากเป็นอาชีพเฉพาะทาง
“อาชีพใหม่ที่เล่ามา ตลาดแรงงานกว้าง ยังต้องการคนอีกมากและหายากมาก เพราะถ้าเก่งอะไรสักอย่างต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ฝึกฝน เป็นอะไรที่เฉพาะทางซึ่งเพิ่งเกิดเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ในไทยกลุ่มคนทางด้านนี้กำลังฟักตัวหรือบางทียังไม่รู้สึกตัว เรียกได้ว่าคนที่ทำงานในด้านนี้ บางทีมาแบบไม่รู้ตัว บางคนเป็นสายที่มาจากโปรแกรมเมอร์ เขาก็เรียนตัวโปรแกรมมาธรรมดา แต่บางคนมีความรู้เลยนำมาปรับใช้ได้ แต่ในด้านการเรียนการสอน คิดว่ายังไม่มีมหาวิทยาลัยไหนสอนในด้านนี้เชิงลึก แต่ส่วนมากจะเป็นการไปเรียนรู้จากงานที่ทำมากกว่า”
ฐานเงินเดือนของคนกลุ่มนี้สูง เพราะด้วยอาชีพนี้มีคนน้อย ซึ่งคนที่เก่งจริง ๆ มีน้อย แต่คนที่ไม่เก่งแต่เงินเดือนสูงก็มี เพราะเขาคิดว่าเป็นมนุษย์ทองคำ งานที่ทำอยู่ไม่ใช่งานที่ทุกคนทำได้ เป็นงานเฉพาะทาง ฉะนั้นเงินเดือนของคนกลุ่มนี้จะสูงกว่าคนที่ทำงานด้านการตลาดทั่วไป
ด้าน ไอทีโปรแกรมเมอร์ เดี๋ยวนี้หายาก หรือบางอาชีพที่มองข้ามไป อย่างเช่น บัญชี หาแรงงานยากพอสมควร ถึงไม่ใช่อาชีพใหม่ แต่บริษัทต้องการตลอด เพราะต้องมีคนที่ต้องดูแลเรื่องของการทำบัญชีให้บริษัท หรือว่าพนักงานขายซึ่งเป็นอาชีพยอดฮิต เพียงแต่ว่าอาจเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปบ้าง สมัยก่อนรูปแบบคนที่เป็นพนักงานขายต้องไปพบลูกค้า แต่เดี๋ยวนี้เป็นพนักงานขายทางโทรศัพท์ ขายผ่านออนไลน์ ขายผ่านเว็บไซต์ ฉะนั้นทักษะจึงไม่เหมือนกัน คนที่ต้องไปพบลูกค้า ท่าทาง บุคลิก หน้าตา ต้องดูดี แต่สำหรับพนักงานขายทางโทรศัพท์อาจต้องมีน้ำเสียงที่สดใสให้ความรู้สึกน่า คุย
’เทรนด์อาชีพใหม่ในอาเซียนเป็นเหมือนกัน เพราะไม่ว่าบริษัทไหนเจอปัญหาเดียวกัน คือคนเหล่านี้หายาก คนที่เก่งคนที่ดีหายาก เพราะอาชีพนี้เฉพาะทาง เหมือนกับว่าอยู่ดี ๆ มันก็ฮิตขึ้นมา แต่เหมือนกับว่าสถานศึกษา หรือว่ามหา วิทยาลัยไม่ได้คิดถึง ว่าอยู่ดี ๆ ก็โตขึ้นมา คนที่รู้เรื่องนี้คือไปเรียนรู้เอาที่หน้างาน แล้วเกิดการแย่งกันเพราะทุกบริษัทอยากได้คนแบบนี้ ซึ่งก็มีอยู่ไม่กี่คน แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้วงการโฆษณา ยังมีประเภทโฆษณาดิจิทัลคือทำเฉพาะเรื่องดิจิทัลอย่างเดียว“
สิ่งที่ภาครัฐควรต้องปรับคือ การเรียนการสอนเด็กก่อนออกสู่ตลาดแรงงาน ควรสอนโดยเด็กเป็นตัวกลางไม่ใช่ครูเป็นตัวกลาง บางครั้งอาจให้โจทย์แตกต่างกันในเด็กแต่ละกลุ่ม เพื่อหาจุดเด่นของเด็กเอง ถ้าเด็กมีความเก่งเฉพาะด้านเฉพาะทางไม่มีความจำเป็นต้องไปสอบเข้า มหาวิทยาลัย แต่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เด็กทุกคนต้องเรียน 8 ชั่วโมง เหมือนกันในห้องเรียนต้องเรียนครบทุกวิชาหมด อีกอย่างหนึ่งคือ เรียนในห้องเรียนไม่พอเสาร์-อาทิตย์เด็กยังต้องไปเรียนพิเศษ จึงไม่อยากให้ปลูกฝังว่าต้องเป็นสังคมอุดมปริญญาบัตร อยากให้เปลี่ยนเป็นสังคมอุดมปัญญาคือ ไม่จำเป็นต้องเรียนจบปริญญาตรี เพราะนั่นไม่ได้แปลว่าคุณไม่ฉลาดหรือเก่งน้อยกว่าคนอื่น
เทรนด์อาชีพใหม่ถือเป็นอีกตัวชี้วัดการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ และพัฒนาคนรุ่นก่อนให้มีประสิทธิภาพเพื่อแข่งขันกับหลาย ๆ ประเทศ.
5 เคล็ดลับปรับใช้งาน
1. ก่อนเรียนจบควรฝึกงานเพื่อได้เรียนรู้สังคมการทำงาน และอาชีพที่ตนเองสนใจ
2. สมัครงานที่แรก ๆ ไม่ควรดูเงินเดือนเป็นหลัก แต่ควรดูการทำงานในสิ่งที่ชอบหรือมีความก้าวหน้าในการต่อยอดความรู้
3. หาให้ดีก่อนจะเลือกเรียนอะไรต้องดูความต้องการในตลาดแรงงาน เช่น เปิดตำแหน่งงานที่ต้องการในเว็บไซต์
4. การสมัครงานควรเลือกหน่วยงานที่น่าเชื่อถือโดยดูการจดทะเบียนบริษัทเพื่อความมั่นใจ
5. ถึงที่สุดแล้วแม้ต้องทำงานไม่ตรงสาย แต่สามารถพัฒนาตัวเองเพิ่มมูลค่าด้วยนำสิ่งที่ตัวเองถนัดมาปรับใช้ในงาน
วาไรตี้
แต่ถ้าเป็น อาชีพใหม่ที่อยู่ในองค์กร คือ
1. เอสอีโอ (SEO : Search Engine Optimization) เป็นคนที่ทำให้เว็บไซต์ติดอันดับในกูเกิล ค้นหาแล้วอยู่ในหน้าแรก ๆ แต่อันนี้เป็นการปรับแต่งเว็บโดยไม่มีการเสียค่าใช้จ่าย โดยกูเกิลใช้วิธีการไล่ลำดับจากเว็บที่ขึ้นมาจากความเกี่ยวข้องหรือเกี่ยว โยงด้วยคีย์เวิร์ดคำพูด ถ้าเราค้นหาข้อมูลโดยใช้คำใดคำหนึ่งจะค้นหาเว็บไซต์ใกล้เคียงหรือคำที่ต้อง การมาไว้ข้างบนสุด
2. เอสอีเอ็ม (SEM : Search Engine Marketing) คือการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับแต่ต้องจ่ายเงินเป็นการจ่ายเงินลงโฆษณากับกู เกิลโดยต้องทำให้ไปอยู่ในลำดับที่สูง มีคำโดดเด่น แต่ทำอย่างไรให้ดูเด่นกว่าคนอื่น ให้เว็บเรามีคีย์เวิร์ดหรือคำเฉพาะให้ตรงกับการค้นหา
3. เอสเอ็มโอ (SMO : Social Media Optimization) ทำในเรื่องการให้มีเพื่อนหรือให้มีคนเข้ามาสนใจ ในส่วนของตัวบริษัทไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก หรือโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เพื่อให้องค์กรมีโอกาสในการทำการประชาสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสินค้า หรือบริการใหม่
ขณะเดียวกันอาชีพใหม่ที่เกิดขึ้นก็มีมิจฉาชีพหลายคนใช้ในการหลอกลวง คนสมัครงานต้องระลึกไว้เสมอว่าอย่าโลภ โดยต้องดูบริษัทที่มั่นใจได้ เพราะบางคนชอบเอารูปเงินเอารูปคนประสบความสำเร็จมาโชว์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติแต่มันทำให้คนส่วนใหญ่โหยหาเงิน ซึ่งเป็นเรื่องทางสังคมที่มีเรื่องเงินเป็นหลัก รวมทั้ง สิ่งของ วัตถุนิยม เพราะฉะนั้นต้องระวังในเรื่องนี้ เนื่องจากนวัตกรรมเทคโนโลยีก็เป็นดาบสองคม โดยเฉพาะกลวิธีหลอกลวงด้วยการให้จ่ายเงินก่อน สมัครสมาชิกแล้วคุณจะได้งาน ซึ่งไม่น่าเชื่อถือ ถ้ารู้สึกไม่มั่นใจอย่าไปเกี่ยวข้องเลยดีกว่า
ด้านอาชีพอื่น อย่าง สาขาพลังงาน เช่น นาโนเทคโนโลยี หรือนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นในแง่สุขภาพถือเป็นอีกกระแสที่มาแรง ขณะที่บางมหาวิทยาลัยมีคณะเฉพาะทาง อย่าง ทัศนศาสตร์ เรียนเรื่องดวงตาอย่างเดียวส่วน การแพทย์แผนไทย มีคนสนใจมากขึ้น เพราะบางครั้งแพทย์แผนปัจจุบันไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด และแพทย์แผนไทยเรายังไม่มีการพัฒนาค้นคว้าหรือวิจัยเรื่องสมุนไพรของไทย
อาชีพทดสอบสินค้า เป็นอีกสิ่งที่หายาก คือคนที่ทำให้มั่นใจว่าสินค้าที่จะออกมาทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การใช้งาน ที่ดี เช่น แอพพลิเคชั่นหน้าโทรศัพท์ ผู้ขายต้องการทดสอบว่าสิ่งที่ทำขึ้นมาผู้ใช้รู้สึกอย่างไรต้องผ่านผู้ทดสอบ เป็นเหมือนคนที่มาทำให้เกิดความมั่นใจ โดยทุกบริษัทต้องมีการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างเล็ก ๆ ที่มีความหลากหลายในกลุ่มนั้น ๆ เพื่อให้เห็นว่ากลุ่มคนแต่ละกลุ่มชอบแบบไหน ซึ่ง เป็นอาชีพที่หายากมากเนื่องจากเป็นอาชีพเฉพาะทาง
“อาชีพใหม่ที่เล่ามา ตลาดแรงงานกว้าง ยังต้องการคนอีกมากและหายากมาก เพราะถ้าเก่งอะไรสักอย่างต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ฝึกฝน เป็นอะไรที่เฉพาะทางซึ่งเพิ่งเกิดเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ในไทยกลุ่มคนทางด้านนี้กำลังฟักตัวหรือบางทียังไม่รู้สึกตัว เรียกได้ว่าคนที่ทำงานในด้านนี้ บางทีมาแบบไม่รู้ตัว บางคนเป็นสายที่มาจากโปรแกรมเมอร์ เขาก็เรียนตัวโปรแกรมมาธรรมดา แต่บางคนมีความรู้เลยนำมาปรับใช้ได้ แต่ในด้านการเรียนการสอน คิดว่ายังไม่มีมหาวิทยาลัยไหนสอนในด้านนี้เชิงลึก แต่ส่วนมากจะเป็นการไปเรียนรู้จากงานที่ทำมากกว่า”
ฐานเงินเดือนของคนกลุ่มนี้สูง เพราะด้วยอาชีพนี้มีคนน้อย ซึ่งคนที่เก่งจริง ๆ มีน้อย แต่คนที่ไม่เก่งแต่เงินเดือนสูงก็มี เพราะเขาคิดว่าเป็นมนุษย์ทองคำ งานที่ทำอยู่ไม่ใช่งานที่ทุกคนทำได้ เป็นงานเฉพาะทาง ฉะนั้นเงินเดือนของคนกลุ่มนี้จะสูงกว่าคนที่ทำงานด้านการตลาดทั่วไป
ด้าน ไอทีโปรแกรมเมอร์ เดี๋ยวนี้หายาก หรือบางอาชีพที่มองข้ามไป อย่างเช่น บัญชี หาแรงงานยากพอสมควร ถึงไม่ใช่อาชีพใหม่ แต่บริษัทต้องการตลอด เพราะต้องมีคนที่ต้องดูแลเรื่องของการทำบัญชีให้บริษัท หรือว่าพนักงานขายซึ่งเป็นอาชีพยอดฮิต เพียงแต่ว่าอาจเปลี่ยนแปลงรูปแบบไปบ้าง สมัยก่อนรูปแบบคนที่เป็นพนักงานขายต้องไปพบลูกค้า แต่เดี๋ยวนี้เป็นพนักงานขายทางโทรศัพท์ ขายผ่านออนไลน์ ขายผ่านเว็บไซต์ ฉะนั้นทักษะจึงไม่เหมือนกัน คนที่ต้องไปพบลูกค้า ท่าทาง บุคลิก หน้าตา ต้องดูดี แต่สำหรับพนักงานขายทางโทรศัพท์อาจต้องมีน้ำเสียงที่สดใสให้ความรู้สึกน่า คุย
’เทรนด์อาชีพใหม่ในอาเซียนเป็นเหมือนกัน เพราะไม่ว่าบริษัทไหนเจอปัญหาเดียวกัน คือคนเหล่านี้หายาก คนที่เก่งคนที่ดีหายาก เพราะอาชีพนี้เฉพาะทาง เหมือนกับว่าอยู่ดี ๆ มันก็ฮิตขึ้นมา แต่เหมือนกับว่าสถานศึกษา หรือว่ามหา วิทยาลัยไม่ได้คิดถึง ว่าอยู่ดี ๆ ก็โตขึ้นมา คนที่รู้เรื่องนี้คือไปเรียนรู้เอาที่หน้างาน แล้วเกิดการแย่งกันเพราะทุกบริษัทอยากได้คนแบบนี้ ซึ่งก็มีอยู่ไม่กี่คน แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้วงการโฆษณา ยังมีประเภทโฆษณาดิจิทัลคือทำเฉพาะเรื่องดิจิทัลอย่างเดียว“
สิ่งที่ภาครัฐควรต้องปรับคือ การเรียนการสอนเด็กก่อนออกสู่ตลาดแรงงาน ควรสอนโดยเด็กเป็นตัวกลางไม่ใช่ครูเป็นตัวกลาง บางครั้งอาจให้โจทย์แตกต่างกันในเด็กแต่ละกลุ่ม เพื่อหาจุดเด่นของเด็กเอง ถ้าเด็กมีความเก่งเฉพาะด้านเฉพาะทางไม่มีความจำเป็นต้องไปสอบเข้า มหาวิทยาลัย แต่ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เด็กทุกคนต้องเรียน 8 ชั่วโมง เหมือนกันในห้องเรียนต้องเรียนครบทุกวิชาหมด อีกอย่างหนึ่งคือ เรียนในห้องเรียนไม่พอเสาร์-อาทิตย์เด็กยังต้องไปเรียนพิเศษ จึงไม่อยากให้ปลูกฝังว่าต้องเป็นสังคมอุดมปริญญาบัตร อยากให้เปลี่ยนเป็นสังคมอุดมปัญญาคือ ไม่จำเป็นต้องเรียนจบปริญญาตรี เพราะนั่นไม่ได้แปลว่าคุณไม่ฉลาดหรือเก่งน้อยกว่าคนอื่น
เทรนด์อาชีพใหม่ถือเป็นอีกตัวชี้วัดการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ และพัฒนาคนรุ่นก่อนให้มีประสิทธิภาพเพื่อแข่งขันกับหลาย ๆ ประเทศ.
5 เคล็ดลับปรับใช้งาน
1. ก่อนเรียนจบควรฝึกงานเพื่อได้เรียนรู้สังคมการทำงาน และอาชีพที่ตนเองสนใจ
2. สมัครงานที่แรก ๆ ไม่ควรดูเงินเดือนเป็นหลัก แต่ควรดูการทำงานในสิ่งที่ชอบหรือมีความก้าวหน้าในการต่อยอดความรู้
3. หาให้ดีก่อนจะเลือกเรียนอะไรต้องดูความต้องการในตลาดแรงงาน เช่น เปิดตำแหน่งงานที่ต้องการในเว็บไซต์
4. การสมัครงานควรเลือกหน่วยงานที่น่าเชื่อถือโดยดูการจดทะเบียนบริษัทเพื่อความมั่นใจ
5. ถึงที่สุดแล้วแม้ต้องทำงานไม่ตรงสาย แต่สามารถพัฒนาตัวเองเพิ่มมูลค่าด้วยนำสิ่งที่ตัวเองถนัดมาปรับใช้ในงาน
วาไรตี้
Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/224/180820
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001