สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

“ทานตะวันงอกผัดแหนม” อร่อยชวนลอง หอมกรอบพล่าปลาสลิดรสจัดจ้าน

.
.
.
.
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 


ทุกคนคงทราบดีว่าผมไปจังหวัดเชียงใหม่เป็นประจำ และทุกครั้งที่ไปผมมักจะไปชิมอาหารที่ร้าน แสนคำเทอร์เรส  ซึ่งอยู่ออกนอกเมืองมาทางสะเมิง ในหมู่บ้านในฝัน และอยู่ใกล้ ๆ กับที่เขาจัดงานพืชสวนโลกเลยครับ

เมื่อ 3-4 ปี ผมเคยเขียนให้กับร้านนี้แล้ว และตั้งแต่ที่ผมเขียนให้กับร้านนี้ ที่นี่ก็ได้ทำเมนูใหม่ ๆ ขึ้นมาให้ลูกค้าได้ลิ้มรสกันเสมอ ผมเลยต้องเขียนให้กับเขาอีกครั้งหนึ่งครับ โดยมากแล้วเวลาไปที่ร้าน ผมมักจะชอบกินเมนูเดิม ๆ คือ เห็ดหอมทอด ไส้อั่ว ลาบทอด แต่ เปาะเปี๊ยะสาหร่าย ที่ทำเป็นเส้น ๆ ยาว ๆ  ผมเองยังไม่เคยลองชิมเลยครับ

อาหารพื้นเมืองที่ธรรมดาอย่าง ข้าวซอย ผมก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าของเขาก็อร่อย จึงขอบรรยายให้ฟังว่า ครั้งที่แล้ว ผมไปกินอะไรมาบ้าง ผมไปอยู่นานเลยครับเพราะเขาให้ผมเป็นที่ปรึกษาให้ คือ เป็นคนชิมและให้แสดงความคิดเห็นครับ  ซึ่งการไปแต่ละครั้งก็มีแต่ของใหม่ ๆ ให้ผมชิม แล้วผมก็จะบอกว่า อันนี้เปรี้ยวไป อันนี้เผ็ดไป อันนี้ไม่ดี แล้วเขาก็จะปรับปรุงให้ดีและสมบูรณ์ขึ้นครับ

อาหารจานแรกที่ผมชอบมากและยังไม่เคยเขียนถึง ก็คือ เส้นสาหร่ายเซี่ยงไฮ้ผัดปลาเค็ม ไม่รู้เขาคิดอาหารจานนี้ได้อย่างไรนะครับ อร่อยมาก พอผัดเส้นสาหร่ายเซี่ยงไฮ้กับปลาเค็มเสร็จพร้อมเสิร์ฟ เมื่อเห็นเครื่องข้างบนทำให้ผมตกใจ เพราะเขามีปลาดุกฟูกรอบ ๆ วางไว้ข้างบนด้วย แล้วก็ยังมีเครื่องเคียงคล้าย ๆ ข้าวผัดปลาเค็ม มีหอมหัวใหญ่ มะนาว และพริกสับ ผมเอามาคลุกให้เข้ากัน กินเข้า ไปแล้วสดชื่น อร่อยจริง ๆ ครับ  ผมดีใจที่ได้กินของแบบนี้บ้าง ซึ่งเป็นการคิดแบบสร้างสรรค์ครับ ทำให้ผมได้กินของแปลกที่อร่อย

สิ่งที่เป็นแฟชั่นที่เชียงใหม่ในขณะนี้คือ ทานตะวันงอก ที่ร้านก็เลยเอามาทำอะไรหลาย ๆ อย่าง เช่น ทานตะวันงอกผัดไทย ซึ่งยอมรับว่ากรอบและเคี้ยวมันดีครับ โดยตรงหัวทานตะวันจะกรุบ ๆ มัน ๆ ไม่เหม็นเขียวเลยนะครับ ตอนแรกนึกว่าจะเหม็นเขียว แต่กลับอร่อยครับ

ยังมี แกงส้มทานตะวันงอกซึ่งจะใส่ปลาอะไรก็ได้ครับ แล้วใส่เม็ดทานตะวันงอกทีหลัง โดยจะโรยในน้ำแกงส้มร้อน ๆ ผมก็เลยขโมยเอามาทำในรายการโทรทัศน์ของผมด้วย เพราะว่าหน้าตาดีมาก และไม่เหมือนคนอื่นด้วย

อีกเมนูหนึ่งที่ได้กิน คือ ราดหน้า ครับที่นี่อร่อยพอสมควร น้ำไม่เหนียวจนเกินไป ผักก็สดดีครับ ตามมาด้วย พล่าปลาสลิด ซึ่งเขาจะเอาปลาสลิดที่ทอดกรอบ ๆ แล้วเอาน้ำพล่าราด ไม่ได้เอาไปคลุกนะครับ ราดเฉย ๆ ไม่เช่นนั้นจะทำให้ปลาสลิดไม่กรอบและนุ่มเกินไป ซึ่งเขาทำได้ดี  ทำให้อาหารจานนี้อร่อยมาก
 
จากนั้นเป็น ก๋วยเตี๋ยวสมุน ไพร ผมตกใจเพราะมองไปมีสับปะรดด้วย คิดในใจสงสัยรสชาติจะคล้าย ๆ ขนมจีนซาวน้ำหรือเปล่า แต่ไม่ใช่ครับ เขาทำคล้ายขนมจีนซาวน้ำแต่ไม่ทำด้วยกะทิครับ เขาทำด้วยน้ำซุปแทน อร่อย กินแล้วสดชื่น ซึ่งเขาทำมาให้กินนั้นไม่มากเกินไปด้วย ต้องลองชิมกันดูครับ ไม่ลองไม่รู้นะครับ

ที่นี่เขามีทานตะวันงอกธรรมดา ผัดคล้าย ๆ กับผัดผักบุ้งไฟแดงด้วยนะครับ แต่ที่ผมชอบ คือ ทานตะวันงอกผัดแหนม โดยเขาจะเอาเม็ดทานตะวันงอกไปผัดกับแหนม ใส่พริกเล็กน้อย แล้วก็ใส่มะเขือเทศด้วย จานนี้ผมกินเปล่า ๆ ได้อย่างสบายมากเลยครับ

อีกเมนูหนึ่งก็คือ ปลาทอดกระเทียมพริกไทยของเขาอร่อยเช่นกันครับ และที่นั่นก็อยู่ใกล้กับโครงการหลวง เขาเลยมีเมนู ปลาเทราต์ทอดกระเทียม ให้ผมกินด้วย หมักได้กำลังดีครับ รสชาติใช้ได้

มีผักชนิดหนึ่งที่ฤดูแล้งและฤดูหนาวเขาจะมีครั้งหนึ่ง เรียกว่า ผักปั๋ง เขาเอามาผัดกับแหนมให้ผมกิน ก็รสชาติดีนะครับ แถมท้ายด้วยเมนูขนมหวานที่ผมตกใจที่สุดเลย เรียกว่า ทับทิมกรอบคาปูชิโน่ มาพร้อมหลอดดูด คล้ายหลอดชาไข่มุกนะครับ แต่ว่าเสิร์ฟในแก้วแชมเปญสวยงาม ผมลองชิมดูรสชาติไม่หวานจนเกินไป อร่อยดีครับ ผมว่าคนไทยน่าจะชอบนะครับ แต่ว่าฝรั่งไม่ชอบแน่ ๆ เลย

อย่างไรก็ตาม ถ้าใครไปจังหวัดเชียงใหม่ ลองไปกินกันดูนะครับ คนที่นี่เขาจะรู้จักกัน เพราะเป็นร้านที่ตกแต่งแบบเท่ ๆ และอาหารอร่อยด้วยครับ.
.........................................
เข้าครัวกับหมึกแดง - ปลาทูห่อใบองุ่นย่าง
เครื่องปรุงปลาทูย่าง
- เนื้อปลาทูสด แล่เอาแต่เนื้อ 2      ตัว
- เกลือป่น             พอประมาณ
- พริกไทยดำบดสด           พอประมาณ
- ใบองุ่น 4     ใบ
- น้ำมันมะกอก 1/4 ถ้วยตวง
วิธีทำ

1. นำปลาทูสดมาโรยเกลือ และพริกไทยทั้งสองด้าน

2. จากนั้นห่อด้วยใบองุ่น ราดด้วยน้ำมันมะกอก

3. นำกระทะย่างขึ้นตั้งไฟให้ร้อน นำปลาทูที่ห่อใบองุ่นแล้วลงย่างให้สุกทั้งสองด้าน ยกออกพักไว้ เสิร์ฟกับยำมะเขือม่วงอบ
เครื่องปรุงยำมะเขือม่วงอบ
- มะเขือม่วงลูกใหญ่ 2      ลูก
- กระเทียมแกะเปลือกหั่นแว่นหนา 10      กลีบ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยดำบดสด             พอประมาณ
- น้ำมันมะกอก            พอประมาณ
- น้ำมะนาวเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสับ 1 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมหัวใหญ่สับ 1/4 ถ้วยตวง
- ลูกเกดสีเหลือง แช่น้ำให้พอง 1/4 ถ้วยตวง
- ผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. เปิดเตาอบให้ร้อน ที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส

2. นำมะเขือม่วงมาผ่าครึ่งตามทางยาว แล้วกรีดเนื้อมะเขือตามทางยาว (ต้องไม่ทะลุถึงเปลือก)  แล้วยัดกระเทียมที่หั่นไว้ลงไปตามร่องที่กรีดให้เต็ม

3. โรยด้วยเกลือ พริกไทย และน้ำมันมะกอก

4. นำมะเขือม่วงมาคว่ำหน้าลงในถาดอบ นำเข้าเตาอบ อบประมาณ  5-10 นาที หรือจนกระทั่งมะเขือม่วงสุก ยกออกพักไว้

5. ในชามผสม นำเนื้อมะเขือม่วงมาขูด เอาแต่เนื้อลงไปในชามผสม ยีให้ส่วนผสม
เข้ากัน

6. ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวเหลือง พริกขี้หนู ซีอิ๊วขาว หอมสับ ลูกเกดเหลือง น้ำมันมะกอก และผักชีสับ ผสมพอเข้ากัน ชิมรสให้ออกเค็ม เปรี้ยว หวานตาม พักไว้
การเสิร์ฟปลาทูสดห่อใบองุ่นย่าง
- ยำมะเขือม่วงสำเร็จแล้ว           พอประมาณ
- ปลาทูสดห่อใบองุ่นย่างสำเร็จ        2     ตัว
- น้ำมันมะกอก              พอประมาณ
- ทับทิมแกะเม็ดแล้ว              พอประมาณ
- มะนาวเหลืองหั่นเสี้ยว            สำหรับเสิร์ฟ
วิธีเสิร์ฟ
1. นำจานเสิร์ฟมาตักยำมะเขือม่วงลงกลางจาน แล้ววางปลาย่างใบองุ่นทับลงไป

2. ราดด้วยน้ำมันมะกอก โรยหน้าด้วยเม็ดทับทิม เสิร์ฟทันทีพร้อมมะนาวเหลืองหั่นเสี้ยว.
.........................................
ชิมให้เป็น
สมมุติว่าเป็นเมนูพิเศษที่ไม่เคยกินมาก่อน เช่น เส้นสาหร่ายเซี่ยงไฮ้ผัดกับปลาเค็ม นั้น เราจะต้องถามตัวเองเสียก่อนว่า คล้าย ๆ กับเอาเส้นมาผัดกับปลาเค็ม เหมือนกับข้าวผัดปลาเค็มใช่หรือไม่? ซึ่งเราจะได้รู้ว่าลักษณะอาหารจานนี้ควรจะเป็นอย่างไร มีอะไรเป็นส่วนประกอบบ้าง

ตรงนี้จะช่วยให้เราใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้ว่า จะต้องมีหอมแดงซอยมาให้ด้วย มีถั่วก็ได้หรือไม่มีถั่วก็ไม่เป็นอะไร แต่ว่าต้องมีมะนาวให้เรากินด้วย แล้วถ้าอยากจะใส่ขิงก็ได้ คงไม่เป็นอะไร แต่ว่าต้องมีอะไรกรอบ ๆ เปรี้ยว ๆ เค็ม ๆ มัน ๆ ด้วย

สำหรับที่ร้านนี้ อาหารจานนี้ทำให้ผมประหลาดใจมาก เพราะผมนึกว่าจะได้ถั่ว แต่ว่ากลับมีปลาดุกฟูใส่มาแทน ยิ่งทำให้เมื่อเคี้ยวแล้วยิ่งมัน ยิ่งกรอบ แล้วก็ยิ่งอร่อยมากขึ้น แถมทำเหมือนกับข้าวผัดปลาเค็ม แต่ว่าใช้เส้นแทนข้าว อร่อยมากครับ  แล้วถ้าเราเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของเชฟที่เขาจะทำแบบนี้ ทำให้เรากินให้เป็น แล้วเราก็จะได้รู้ว่าอาหารจานนี้อร่อยได้อย่างไร เมื่อรู้แล้วก็จะทำให้เราชิมให้เป็นอย่างไรครับ.

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : หมึกแดง
www.mcdangguide.com

Read More...


อร่อยเด็ด สเต๊กเนื้อกับซอสไวน์ หวานชื่นใจไอศกรีมชุบช็อกโกแลต

.
.
.
.
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
มีเพื่อนที่สนิทชิดชอบกันมาก เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก เขาเลยชวนผมไปหาอะไรกินกัน เราเลือกไปกินอาหารที่ เทเบิลส์ ซึ่งอยู่ในโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ  และเปิดมานานแล้ว ที่นั่นมีห้องพิเศษด้วยนะครับ ครั้งสุดท้ายที่ผมไปนั่งกินอาหารก็ได้นั่งที่ห้องพิเศษ

คราวนี้ผมไปอีกครั้ง แต่ได้นั่งด้านนอก ห้องอาหารของเขาน่ารักมาก ความจริงคอนเซปต์การทำร้านเทเบิลส์นั้น ก็คือ การเอาอาหารต่าง ๆ ที่เราสั่งนั้นมาทำให้เสร็จ ที่ภาษาฝรั่งเรียกว่า ฟินิช หรือมาทำซอสให้กินตรงข้างโต๊ะที่เราจะกินข้าว แล้วเสิร์ฟกันตรงนั้นเลย ซึ่งผมว่าเป็นไอเดียที่ดีมากครับ แต่ว่าจะต้องมีที่ดูดควันที่มาจากการทำกับข้าวด้วย คนนั่งทานจะได้รู้สึกสบายมากกว่านี้

วันนั้นเราไปกัน 4 คน สั่งทั้งอาหารแปลก ๆ และอาหารเดิม ๆ มากินกัน  เพื่อน ๆ และลูกชายผมสั่ง กุ้งค็อกเทล มากิน ซึ่งก็คือ กุ้งลวกแช่เย็นและมีซอสที่คล้าย ๆ มายองเนสมาให้กินด้วยกัน รสชาติก็ใช้ได้ครับ มี ซุปเห็ด ซุปครีม ด้วย อร่อยดีครับ หลานชายผมสั่งอาหารมาอีกจานหนึ่ง เป็น หอยเชลล์กับรีซอตโต้ ซึ่งเขาไม่ได้มาทำที่โต๊ะให้เรานะครับ เขาทำมาจากในครัวแล้วเอามาเสิร์ฟ จานไม่ใหญ่มากครับ ผมว่าแห้งไป แต่ผมก็ชอบ รสชาติดีครับ

ในส่วนของอาหารจานหลักและอาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ที่เขาจะเอามาทำที่โต๊ะให้เราดู เพื่อนผมคนหนึ่งสั่ง สเต๊กเนื้อกับซอสพริกไทยสด มากิน ผมลองชิมดู เนื้อไม่เหนียวครับ ย่างได้กำลังดี ส่วนอีกคนหนึ่งสั่ง สเต๊กเนื้อกับซอสไวน์ สำหรับผมสั่ง ปลาโซลทอด ซึ่งปลาโซลมีลักษณะ คล้าย ๆ ปลาตาเดียว

จากนั้น ผมขอกินเนื้อดิบ เรียกว่า สเต๊กทาทาร์ ผมอยากรู้ว่าเขาทำกันอย่างไรครับ เมื่อเห็นแล้วถึงรู้ว่าเอาเนื้อดิบสด ต้องพูดว่าคล้ายลู่ของฝรั่ง แต่ไม่ใช่ลาบเนื้อสดของภาคอีสานนะครับ  เขาเอาเนื้อมา แล้วใส่เครื่องต่าง ๆ ที่อยู่ในถาด ผสมในภาชนะมีมัส ตาร์ด เคเปอร์ ซอสต่าง ๆ หอมสับ และเครื่องหลายอย่างที่ใส่เข้าไปในนั้น ทำให้แซบและมัน มีไข่แดงสด ๆ ใส่เข้าไปด้วยนะครับ แล้วผสมให้เข้ากัน จากนั้นเอามาวางในจานเป็นก้อน ไม่ค่อยจะน่าดูเท่าไรนะครับ

จานนี้ให้กินกับขนมปังปิ้งแผ่นบาง ๆ กรอบ ๆ รสชาติจะออกเปรี้ยว ๆ มัน ๆ เค็ม ๆ แซบ ๆ คำว่าแซบของผม หมาย ความว่ารสจัด แต่ไม่ใช่เผ็ดแบบไทยนะครับ รสชาติของฝรั่งเขาจะไม่เผ็ดมากเหมือนอาหารไทยครับ

อาหารที่ผมชอบของร้านนี้ คือ สเต๊กเนื้อกับซอสพริกไทยสดของเพื่อนผม ซึ่งเขาทำออกมาสวยงาม แล้วเขาก็เอาซอสพริกไทยสดมาราดให้เหมือนกับสเต๊กเนื้อกับซอสไวน์

หลังจากนั้น เขาก็จะเอามันฝรั่งอบ ที่เรียกว่า สแกลล็อปด์ โปเตโต้ มาให้เรากิน อร่อยดี แล้วเราก็สั่งของหวานมากินกันเล็กน้อย เพราะว่าตอนนี้เบาหวานผมกำลังขึ้นซะด้วย แต่ไม่ถึงขั้นขึ้นตานะครับ ก็เลยไม่อยากกินขนมหวานมากนัก  แล้วก็กินกาแฟ

ยังมีของแถมอีกเป็น ไอศ กรีมชุบช็อกโกแลต เสิร์ฟในชาม ที่มีน้ำแข็งแห้งและน้ำอยู่ข้างล่าง เหมือนมีเมฆหมอกมีควันที่ทำให้ยังเย็นด้วยครับ

ร้านนี้ใช้ได้เลยครับ ใครที่อยากตื่นตาตื่นใจ ที่นี่เป็นอีกร้านหนึ่งที่เขามาทำอาหารให้เราดูข้าง ๆ โต๊ะของเราเลย ควรลองไปกินกันดูนะครับ เพราะจะได้ประสบการณ์ในการกินด้วย  เวลาเชฟเขามาทำอาหารให้เราข้าง ๆ โต๊ะ สามารถพูดคุยกับเขาได้ แล้วก็ถามเขาว่าต้องใส่อะไรบ้าง กำลังทำอะไรอยู่เขาจะเล่าให้เราฟัง เป็นสิ่งที่สนุกสนานเฮฮาดีนะครับ อยากให้ลองไปชิมและรับรู้ถึงบรรยากาศการกินอาหารแบบนี้กันดูนะครับ.
สเต๊กทาทาร์ - ชิมให้เป็น
อาหาร อย่าง สเต๊กทาทาร์ หรือยำเนื้อดิบของฝรั่งนั้น เป็นอาหารของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งหลายคนคงจะไม่ทราบว่าเป็นอาหารของคนฝรั่งเศส และไม่ทราบว่าลักษณะรสชาติของเขาเป็นอย่างไร ต้องกินกับอะไร

โดยปกติแล้ว ลักษณะของสเต๊กทาทาร์ จะต้องเข้มข้น แซบ ไม่เปรี้ยวหรือเค็มจนเกินไป  และไม่มีเครื่องเทศมากจนเกินไปนัก แต่ว่ายังได้รสชาติความหวานของเนื้อดิบที่สด ๆ และต้องได้ความมันของไข่แดงดิบที่ใส่ลงไปในนั้นด้วย แต่เพื่อตัดความเลี่ยนและความคาวของไข่แดง เราเลยต้องใส่มัสตาร์ดและวู้ดสเตอร์ซอส  รวมทั้งอะไรอีกหลายอย่าง และพริกไทยสดเข้าไป

ถ้าวัตถุดิบที่ใส่มีรสแรงเกินไปหรือมีรสจัดจ้านเกินไป ซึ่งจะทำให้เราต้องกินขนมปังให้มากขึ้น และอิ่มเร็วเกินไป เพราะฉะนั้นต้องทำให้รสชาติพอดี ๆ และไม่แรงจนเกินไปนัก แต่ที่ผมได้กินนั้น รู้สึกว่ารสชาติจะจัดจ้านเกินไป ควรจะลดลงมาจะได้อร่อยมากกว่านี้

เพราะฉะนั้น ก็เลยอยากจะบอกให้เพื่อน ๆ ชิมให้เป็น ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารของฝรั่งเศสเขาก็ตาม เมื่อเรากินแล้ว ต้องเข้าใจว่ารสชาติที่แท้จริงควรจะเป็นอย่างไร แล้วเราจะกินอย่างไรถึงจะเป็นการกินที่ถูกต้องครับ
เปาะเปี๊ยะเวียดนาม - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุงน้ำจิ้มเปาะเปี๊ยะ
-พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
-กระเทียมไทย 15 กลีบ
-รากผักชีซอย 2 ราก
-น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
-ใบสะระแหน่เด็ดใบ 1/2 ถ้วยตวง
-น้ำต้มสุก 1/2 ถ้วยตวง
-แครอทขูด 1/4 ถ้วยตวง
-ถั่วลิสงคั่วบุบพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.ในเครื่องเตรียมอาหารใส่พริกขี้หนูสวน กระ เทียมไทย รากผักชีซอย น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลทราย ใบสะระแหน่ และน้ำต้มสุกลงไป
2.ปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียด ชิมรสให้ออกเปรี้ยว เค็ม หวาน  ตักออกใส่ถ้วย โรยหน้าด้วย แครอทขูด และถั่วลิสงบุบ
เครื่องปรุงไส้เปาะเปี๊ยะเวียดนาม
-หมูยอขะแม 10 แท่ง
-แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง
-ไข่ไก่ 2 ฟอง
-เกล็ดขนมปังป่น 2 ถ้วยตวง
-น้ำมันปาล์ม 500 มิลลิลิตร

วิธีทำ
1.ในชามผสม 3 ใบ ใบที่ 1 ใส่แป้งสาลี  ใบที่ 2 ใส่ไข่ไก่  ใบที่ 3 ใส่เกล็ดขนมปังป่น
2.นำหมูยอขะแมที่หั่นเป็นแท่งแล้ว มาชุบแป้ง ไข่ไก่ และเกล็ดขนมปังให้ทั่ว
3.นำกระทะตั้งเตาใส่น้ำมันปาล์มลงไป พอร้อนนำหมูยอขะแมลงทอดให้เหลืองกรอบ ตักออกพักไว้
เครื่องปรุงเปาะเปี๊ยะเวียดนาม
-แผ่นเปาะเปี๊ยะญวนสด 10 แผ่น
-ผักกาดหอมเด็ดใบ 10 ใบ
-แตงกวาหั่นเป็นแท่ง 5 ลูก
-ใบโหระพาเด็ดใบ 1 ถ้วยตวง
-ต้นหอม  พอประมาณ
-ผักชีใบเลื่อย  พอประมาณ
-เส้นหมี่ลวกสุก 80 กรัม
-หมูยอขะแมชุบทอดแล้ว 200 กรัม
วิธีทำ
1.วางผักกาดหอมลงบนแผ่นเปาะเปี๊ยะญวนสด วางแตงกวาเรียงทับไปบนผักกาดหอมอีกที ให้เป็นเส้นยาว แล้ววางใบโหระพา เส้นหมี่ลวก และหมูยอขะแมทับลงไป
2.ม้วนแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะญวนสด ให้ห่อเครื่องทั้งหมดเป็นแท่งยาว ๆ
3.ตัดเปาะเปี๊ยะญวนสดเป็นท่อน วางลงบนจาน เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มเปาะเปี๊ยะ

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : หมึกแดง
www.mcdangguide.com


Read More...


อร่อยอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม หอมหวานหอยทากอบเนย

.
.
.
.
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
เมื่อสองเดือนที่แล้ว  เพื่อนผมมาจากอเมริกาเลยชวนกันไปกินข้าว ตอนนั้น ผมไม่แน่ใจว่าจะพาเขาไปที่ ไหนดี จนกระทั่งมีลูกน้องผมมาบอกให้ลองไปชิมอาหารที่ร้านซึ่งอยู่ติดกับถนน คอนแวนต์ เข้าไปในซอยเล็ก ๆ ผมก็เลยพาเพื่อนมาลองชิมอาหารดูครับ

ร้านนี้มีชื่อว่าร้าน อินดิโก เรสเตอร์รอง ข้างนอกร้านของเขามีที่นั่งร่มรื่นมากครับ ส่วนข้างในร้านก็มีที่นั่งอยู่หลายที่เหมือนกัน แล้วก็มีบาร์ที่ใหญ่มาก ตอนแรกที่ลูกน้องบอกให้ไปนั้น ผมไม่ทราบเลยว่าเป็นร้านอาหารอะไร แต่คำว่าอินดิโกนั้น ก็คงพอจะบอกผมได้บ้างว่า คงจะเป็นร้านอาหารฝรั่ง ปรากฏว่า เป็นอาหารฝรั่งเศสแบบเดิม ๆ เลยครับ ก็ดีใจเหมือนกันนะครับ เพราะไม่ได้มากินอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมมานานแล้ว

สำหรับหน้าตาอาหารก็ไม่หรูไม่หรามากนักและราคาไม่แพงจนเกินไป แถมรสชาติยังอร่อยด้วยครับ ผมไปกันแค่ 2 คน เลยได้ชิมไม่มากนัก แต่ก็กินไปเยอะเหมือนกันครับ

เมื่อไปถึง เขาเอา ขนมปัง มาให้ มีเนย 2 ชนิด ที่เป็น เนยธรรมดา กับ เนยที่ใส่เฮิร์บ เข้าไป เฮิร์บ ก็คือ สมุนไพรฝรั่งที่ใส่เข้าไปในนั้นนะครับ กินไป ชิมไป แล้วสั่งไวน์มากิน ร้านอาหารที่ฝรั่งเศสหรือปารีสนั้น เขาจะมีจานอาหารทะเลจานใหญ่พิเศษ ซึ่งในนั้นจะมี หอยนางรม กุ้ง กั้ง ปลาหมึก ต่าง ๆ หลายอย่าง

ที่ร้านนี้ อินดิโก ก็มีเหมือนกันครับ โดยเขาจะเอาจาน อาหารทะเลจานใหญ่ มาวางบนโต๊ะของเรา มีขาตั้งมาวางให้ด้วย ข้างล่างเขาจะเอาซอสสำหรับเสิร์ฟกับอาหารทะเลวางไว้ข้างใต้ มีมายองเนสเป็นครีมสลัด และมีซอสอีกอันหนึ่งที่ทำจากไวน์แดงกับหอมแดงสับ รสชาติเปรี้ยว ๆ มาให้จิ้มกินกับอาหารทะเล

พอมาถึงผมตกใจเพราะเยอะมากเลย ไม่รู้ว่าจะกินหมดหรือไม่ นอกจากอาหารจะมีราคาไม่แพงแล้ว ยังไม่ขี้เหนียวอาหารด้วยนะครับ ผมสั่งอาหารเมนเข้าไปแล้วด้วยสิ แต่ไม่เป็นไรครับ ผมอยากชิม สำหรับหอยนางรมที่เขาเอามาให้กินนั้น ไม่ใช่ของไทยนะครับแต่นำเข้ามาจากฝรั่งเศสทั้งหมด  ส่วนอาหารทะเลอย่างอื่นมาจากน่านน้ำของเมืองไทยเราครับ เมื่อเขาเอามาเสิร์ฟเรียบร้อยแล้ว ผมเอาไปลวกแล้วทำให้เย็น จิ้มกับน้ำซอสและกินกับขนมปังอร่อยดีครับ 

จากนั้น ผมสั่งหอยทากอบเนย ของฝรั่งเศส ที่เรียกว่า เอสคาโก มากินด้วยครับ เป็นอาหารที่ผมกินมาตั้งแต่เด็ก ๆ ตอนที่อยู่ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ผมก็เลยต้องสั่งมาชิมดูครับ วิธีการกินหอยทากทุกคนคงจะรู้กันนะครับว่าจะต้องกินอย่างไร เพราะเขาอาจจะเสิร์ฟมาในถ้วยเล็ก ๆ หรืออาจจะเสิร์ฟในตัวหอยเองเลยก็ได้ แล้วนำไปอบกับเนยและซอสเนย ซึ่งมีเนื้อที่นิ่มพิเศษมาก

การกินของผม คือ ใช้ขนม ปังจิ้มแล้วดูดเอาน้ำออกมาแล้วกินครับ รสชาติหวานมัน อร่อย หอมจริง ๆ ครับ ผมกินกันเข้าไปซะเต็มพุง  หลังจากนั้น เป็นอาหารเมนที่เราสองคนสั่งมา เราสั่งสเต๊กกันทั้งสองคน คนหนึ่งสั่ง สเต๊กซอสพริกไทยสด ซึ่งอร่อยมาก ส่วนผมนั้นเป็นคนชอบกินเนื้อ จึงสั่ง เนื้อย่างริบอาย เขาเอาเนื้อย่างริบอาย ชิ้นใหญ่มากมาให้ผมกินครับ ติดมันมานิดหน่อย ถ้ากินมันมาก ๆ ผมคงแย่แน่ครับ

จากนั้นได้กินขนม มีขนมสองอย่าง ขนมอันแรก เป็นขนมของฝรั่งเศส คือ ทาร์ต แอปเปิ้ล เป็นแป้งอบกับแอปเปิ้ลมีซอสวานิลลาและครีมมาให้ด้วย อร่อยมากครับ ทำให้น้ำตาลผมขึ้นอีกด้วย ส่วนเพื่อนฝรั่งของผมเขาสั่ง ช็อก โกแลตลาวาเค้ก ลาวา ก็เหมือนกับภูเขาไฟ พอตัดเค้กออกน้ำของช็อกโกแลตจะไหลออกมาครับ เขาถึงได้เรียกว่าลาวา แต่ความร้อนไม่เท่ากันนะครับ ขืนเอาลาวา หรือช็อกโกแลตร้อน ๆ ใส่เข้าไปในปากจริง ๆ มีหวังแย่แน่ครับ แต่ขนมจานนี้อร่อยมากเวลาช็อกโกแลตไหลออกมา ใส่เข้าไปในปากแล้วเคี้ยว ทั้งมัน ทั้งหวาน อุ่น ๆ นิด ๆ อร่อยครับ

ผมนั่งกินอาหารอยู่ที่นั่นราวสามชั่วโมงได้ครับ นั่งคุยกับเพื่อน เราทำงานอยู่ในวงการเดียวกัน แต่เพื่อนผมเขาทำรายการโทรทัศน์ที่เมืองนอก  แล้วตัวผมกำลังจะไปที่นิวยอร์ก เลยได้คุยกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน

ลองแวะไปดูนะครับ อาหารที่นี่อร่อย แล้วราคาไม่แพงจนเกินไปนัก ผมเลยอยากจะเรียนเชิญให้เพื่อน ๆ ไปกันนะครับ.
หอยทากอบกับเนย - ชิมให้เป็น
ผมพูดหลายต่อหลายครั้งว่า บางคนจะไม่รู้เลยว่าคืออะไร บอกว่า กินเอสคาโก เท่านั้น ก็ตกใจว่าเราจะกินหอยทากหรือ  แต่จริง ๆ แล้วเป็นวัฒนธรรมการกินของฝรั่งเศสที่มีมาตั้งแต่ดั้งเดิมแล้วครับ วิธีการทำเอสคาโกหรือ หอยทากอบกับเนยนั้น คือ การเอาหอยทากที่เขาขายเป็นกระป๋องก็ได้ หรือจะเป็นที่เขาขายเปลือกด้วยก็ได้ครับ

เวลาเราจะทำ ก็เปิดกระป๋องเอาหอยทากออกมา แล้วเอาหอยใส่เข้าไปในถ้วยตะไล จากนั้น ให้เอาเนย กระเทียม ผักชีฝรั่งหรือที่เรียกว่าพาสลี่ย์  รวมทั้ง เหล้าชนิดหนึ่งที่เรียกว่า เพอโน  เกลือ และพริกไทย เอาทั้งหมดไปปั่นในเครื่องปั่นให้เข้ากัน แล้วชิมให้ออกรสหอมชวนกิน

เสร็จแล้วให้เอาเนยที่ปั่นแล้ว ปาดเข้าไปบนหอย แล้วเอาไปอบจนเดือด จากนั้นก็เอามาเสิร์ฟทั้งอย่างนั้นเลยครับ จะกินกับมือหรือจะใช้ส้อมได้ทั้งสองอย่างครับ โดยเนยที่ละลายแล้วนั้นจะหอมมาก ต้องเอาขนมปังลงไปจิ้มให้ดูดน้ำของเนยที่ละลายขึ้นมาแล้วกิน จะอร่อยมากครับ การทำอย่างนี้ถึงจะเรียกว่าชิมให้เป็นอย่างไรครับ
กุ้งฮ่องกง - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุงหมักกุ้ง
- หอมแดงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- ไวน์ขาว  ถ้วยตวง
- เกลือป่น  ช้อนชา
- พริกไทยดำบดสด ช้อนชา
- กุ้งแกะเปลือก 300 กรัม
- น้ำมันพืช 1,000 มิลลิลิตร
- แป้งมันฮ่องกง 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ

1. ในชามผสม ใส่หอมแดงสับ ไวน์ขาว เกลือ พริกไทยดำบดสด และกุ้งลงไป หมักทิ้งไว้ 5 นาที แล้วเทน้ำหมักออก พักกุ้งไว้

2. นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไปพอร้อน

3. ในชามผสม ใส่แป้งมันฮ่องกงลงไป แล้วนำกุ้งลงไปคลุกกับแป้ง

4. นำกุ้งที่คลุกแป้งแล้วลงทอดให้สุก ตักออกพักไว้ ก่อนนำไปผัด
เครื่องปรุงกุ้งฮ่องกง
- น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
- พริกป่นญี่ปุ่น 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุป  ถ้วยตวง
- พริกไทยป่น  ช้อนชา
- กุ้งที่ทอดแล้ว 200 กรัม
- ต้นหอมซอย 1 ต้น
- ข้าวสวย สำหรับเสิร์ฟ
วิธีทำ

1.นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไปพอร้อน

2.ใส่กระเทียมสับ ผัดพอหอมแต่อย่าให้ไหม้หรือเหลือง ใส่พริกป่นญี่ปุ่นลงไป หรี่ไฟ  ผัดให้เข้ากัน

3.เทซอสพริก ซอสมะเขือเทศ น้ำมันหอย และน้ำซุป พริกไทยป่น ผัดให้เข้ากัน เร่งไฟนิดหน่อย

4.ชิมรสให้ออก เปรี้ยว เค็ม และหวาน เท่า ๆ กัน ผัดให้ซอสข้นและเหนียว

5.ใส่กุ้งที่ทอดแล้วลงไปผัดคลุกให้ซอสเคลือบกับตัวกุ้ง
6.ตักกุ้งใส่จาน โรยหน้าด้วย ต้นหอมซอย ยกเสิร์ฟร้อน ๆ กับข้าวสวยความรู้คู่ครัว
- ทำไมต้องทอดกุ้งกับแป้งก่อนเคลือบซอส ?

เพราะแป้งที่ทอดเคลือบกุ้งจะอบซอสได้ดีกว่าเนื้อกุ้งเปล่า ๆ
ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : หมึกแดง

Read More...


ชิมอาหารญี่ปุ่นแบบประยุกต์เลิศรส “ผักย่างกับซอสมิโซะ”

.
.
.
.
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีร้านอาหารเปิดใหม่  เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เชฟเป็นคนญี่ปุ่นที่เอาอาหารไปทำให้เก๋ และน่ารับประทาน ส่วนบรรยากาศของร้านก็ดีมาก  มีสาขาทั้งที่นิวยอร์ก ลอนดอน แต่ร้านอาหารที่ผมจะเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังนั้น เป็นร้านเปิดใหม่  ชื่อว่า ซูม่า เรสเตอรองท์ ตั้งอยู่ที่โรงแรมเดอะ เซนต์ รีจิส กรุงเทพ

อาหารของเขาแปลกและเอร็ดอร่อยมากครับ ผมไม่รู้จะเลือกจัดเซตเมนูอย่างไรดี เพราะว่ามีมากมายเหลือเกิน พอดีหันไปเห็นเซตเมนูสำหรับสองคนราคา  2,850 บาทต่อคน ผมคิดว่าน่าจะได้กินอะไรหลายอย่างดี ซึ่งปรากฏว่า ก็จริงอย่างที่
ผมคิด โดยผมได้เริ่มกินกันตั้งแต่ 11.00 น. เลยครับ  นอกจากอาหารเป็นเซตแล้ว เรายังสั่งอะไรมากินเพิ่มกันอีกด้วยนะครับ พวกผมจะเป็นอย่างนี้ครับ ต้องสั่งอย่างอื่นมากินด้วยไม่อย่างนั้นเหมือนไม่ได้กินเต็มที่ครับ

สิ่งแรกที่อยู่ในเซตเมนู คือ ปลาทูน่าทาทาร์กับมิโซซุปข้าวบาร์เลย์และรากบัวทอดกรอบ เขาทำดีมากเลย จานที่ใช้สวย รสชาติดีใช้ได้เลยครับ  แต่ไม่ดีเท่าจานที่ 2 ผมชอบมาก คือ ปลากะพงขาวแล่บางกับซอสยูซุน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล ซอสยูซุ เป็นน้ำยำครับ มีน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลอยู่ในนั้น อาหารจานนี้เขาจัดมานิดเดียวเองนะครับ แต่ว่าอร่อยมาก แล้วก็เป็นอาหารที่จัดมาอย่างสวยงามจริง ๆ

กว่าจานต่อไปจะมา ผมเลยสั่ง ผักย่างกับซอสมิโซะ รวมทั้ง ซาซิมิ มาให้กินระหว่างรอด้วยครับ อร่อยมาก และก็มี หมูสามชั้นย่าง มาให้เรากิน เขาเอาหมูสามชั้นหมักก่อนแล้วเอามาเสียบไม้ย่าง ผมว่ารสชาติดีมากเลยครับ เสียอย่างเดียวที่น้ำจิ้มไม่ใช่น้ำจิ้มแจ่ว จะได้รสชาติเผ็ด ๆ ของไทย ซึ่งจะช่วยให้อร่อยมากยิ่งขึ้น

สำหรับจานที่ 3 ในเซตเมนูถัดมา เป็น เนื้อทาทากิแล่บางราดด้วยซอสยูซุโคซุ ทาทากิ ก็คือ เนื้อดิบนำไปราดด้วยซอสครับ มีหัวไชเท้าเล็กน้อย อาหารจานนี้เรากินกันคนละ 2 คำ  เพราะว่าอร่อยมาก เลยต้องแบ่งกันกินครับ จะได้รู้ว่ารสชาติที่อร่อยเป็นอย่างไร ที่ร้านเขาใช้เนื้อดีมากเลยนะครับ อร่อยจริง ๆ

หลังจากนั้นเป็น อาหารจานรวม เขาเสิร์ฟมาในจานยาว ๆ มีทั้งข้าวปั้นและปลาดิบรวม ข้าวห่อสาหร่ายไส้ปลาฮามาชิ ข้าวห่อสาหร่ายไส้สไปซี่ทูน่า  รวมทั้ง ซูชิ อร่อยทุกอย่างเลยครับ ซอสที่ใช้จิ้มกินของเขาก็อร่อยมากครับ ยังมี หอยเชลล์ฮอกไกโดย่างเสิร์ฟพร้อมซีอิ๊วหวานและซอสแอปเปิลวาซาบิ ด้วยครับ จานนี้ได้กินกันคนละ 1 ชิ้นเท่านั้น อร่อยดีครับ

จากนั้นมีอีกสองอย่างที่สั่งครับ จานแรกเป็น ไก่ยากิโตริ คือ เนื้อไก่เสียบไม้สลับด้วยต้นหอมญี่ปุ่นทาด้วยน้ำซอสแล้วเอาไปย่าง อร่อยมากครับ  ส่วนอีกจานหนึ่งเป็น เนื้อย่างที่สั่งพิเศษ แต่ผมคิดว่าจานนี้เขาย่างสุกเกินไป

จานสุดท้ายก่อนที่เราจะกินขนมหวาน ก็คือ เนื้อสันในย่างซอสเผ็ด เขาเอาเนื้อสันในมาย่างแล้วเอาซอสที่มีรสเผ็ดนิด ๆ มาราด ผมคิดว่า เขาทำเนื้อย่างไม่เก่งเท่าที่เมืองนอกทำครับ เพราะเนื้อย่างที่เขาทำมาให้ผมกินนั้น สำหรับผมแล้วรู้สึกว่าจะสุกเกินไปนะครับ

เมนูที่ผมคิดว่ามันอร่อยกว่าที่อื่น ๆ ก็คือ ปลาแบล็คคอดหมักมิโซชิหรุเสิร์ฟพร้อมใบโฮบะ เขาเอาปลาแบล็คคอดมาหมักกับมิโซชิหรุแล้วเอาไปอบ มิโซชิหรุ คือ เต้าเจี้ยวของญี่ปุ่น บางครั้งก็หวาน บางครั้งก็เค็ม แต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ ความหอม ที่นี่เขาทำไม่หวานจนเกินไป กำลังพอดีเลยครับ รสชาติกลมกล่อม เนื้อปลาแยกออกมาเป็นชิ้น ๆ ยังมีสีชมพู ๆ อยู่ อร่อยครับสำหรับอาหารจานนี้

ส่วน ของหวาน ที่นี่ไม่รู้จะพูดว่าอย่างไรดี เพราะว่าของหวานที่นี่มาเป็นถาดขนาดใหญ่ครับ มีทั้ง ลาวาเค้ก ไอศกรีม ฮันนี่เค้ก ผมกินไม่ได้เลยสักอย่างหนึ่ง เพราะเดี๋ยวน้ำตาลจะขึ้นไปมากกว่านี้ ผมให้เพื่อนผมกินหมดเลย เยอะมาก แต่เขาจัดมาอย่างสวยมากเลยครับ ผมเองก็อยากกิน แต่ผมกลัวว่าผมกินเข้าไปแล้วต้องเข้าโรงพยาบาลแน่เลยครับ

ร้านนี้เป็นร้านที่สวยแล้วก็ใหญ่มาก ที่นั่งสามารถเลือกนั่งได้หลายที่ ผมไปกินมาสองสามครั้งแล้ว ครั้งสุดท้ายไปนั่งด้านนอกเขามีแอร์ด้วยนะครับ นั่งติดกับหินแล้วเขาก็มีร่มให้  แต่ผมว่าที่สวยงามและน่าไปนั่งที่สุดก็คือ ที่บริเวณบาร์ ซึ่งเขาตกแต่งไว้อย่างสวยงาม

เพราะฉะนั้น ถ้าใครชอบอาหารญี่ปุ่นแบบประยุกต์ ควรจะไปลองลิ้มรสที่ร้านนี้ดูนะครับ ราคาผมคิดว่าไม่แพงจนเกินไปนัก  จะได้รู้ว่าอาหารญี่ปุ่นประยุกต์หน้าตาแปลก ๆ เป็นอย่างไรไงครับ.
.........................................
เข้าครัวกับหมึกแดง - สาคูแคนตาลูป
เครื่องปรุงน้ำสาคูแคนตาลูป
- น้ำเชื่อมสำเร็จ 150 กรัม
- เนื้อแคนตาลูปหั่นเต๋า 50 กรัม
- สาคูต้มสุก 80 กรัม
- เนื้อแคนตาลูปลูกกลม ๆ 50 กรัม
- เนื้อเมล่อนเป็นลูกกลม ๆ 50 กรัม
- น้ำแข็งป่น              ตามต้องการ
- นมสด 60  กรัม
- ใบสะระแหน่                สำหรับแต่งหน้า
วิธีทำ

1. ในเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ใส่น้ำเชื่อมสำเร็จ เนื้อแคนตาลูปหั่นเต๋าลงไปปั่นให้ละเอียดเข้ากันดี ตักออกพักไว้ในตู้เย็น

2. ในแก้วเสิร์ฟ ตักสาคูที่ต้มสุกแล้วลงไปในแก้วประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ แล้ววางเนื้อแคนตาลูปตักเป็นลูกกลม ๆ 4-5 ลูก เนื้อเมล่อนตักเป็นลูกกลม ๆ 4–5 ลูก แล้วราดน้ำแคนตาลูปที่ปั่นไว้

3. ตักน้ำแข็งป่นใส่บนส่วนผสมที่อยู่ในแก้ว แล้วราดหน้าด้วยนมสด แต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่ ยกเสิร์ฟทันที
.........................................
ชิมให้เป็น - ปลาแบค็คคอดหมักมิโซชิหรุเสิร์ฟพร้อมใบโฮบะ
อาทิตย์นี้จะขอพูดถึงปลาแบล็คคอดหมักมิโซชิหรุเสิร์ฟพร้อมใบโฮบะ  การที่เขาเอาปลาแบล็คคอดหมักกับเต้าเจี้ยวของญี่ปุ่นหรือมิโซชิหรุแล้วเอาไป อบ  เราต้องรู้ลักษณะของเขาว่าเขาอยากให้เป็นอย่างไร จะไปบอกว่า อาหารอย่างนี้ไม่ใช่ลิ้นคนญี่ปุ่นไม่ได้ รสชาติที่แท้จริงของคนญี่ปุ่นจะต้องกลมกล่อมเท่ากัน

ซึ่งจริง ๆ แล้ว อาหารชนิดนี้จะต้องมีรสชาติเค็ม หอม และหวานนิด ๆ จะได้ไม่ทำให้ความหวานของเนื้อปลาที่อบเจือจางไม่ได้รสชาติที่แท้จริงของปลา ร้านนี้เขาทำเก่งมาก เพราะไม่ทำให้หวานจนเกินไป จึงทำให้ได้รสชาติที่อร่อยจริง ๆ ครับ  ยังมีรสหวานของเนื้อปลาอยู่ ผมอยากใส่กระเป๋าเอากลับบ้านสักสามสี่ชิ้น เพราะว่าเขาทำเป็น และเขาทำได้สมดุลกันดีอาหารถึงออกมาอร่อย นี่แหละครับชิมให้เป็น.

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ :หมึกแดง
www.mcdangguide.com

Read More...


ชวนชิม "ขาหมู" สูตรเด็ด ลิ้มรสน้ำชาแท้ตำรับญี่ปุ่น

.
.
.
.
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

หลังจากวิกฤติน้ำท่วมผ่านไปแล้ว สิ่งที่ผมตั้งใจเอาไว้ก็คือ ผมอยากจะเขียนถึงร้านที่ถูกน้ำท่วม เพราะเขาจะได้ฟื้นตัวกลับมาทำอาหารที่อร่อยให้พวกเราได้กินกันเหมือนเดิม โดยวันนี้ผมจะเขียนถึงร้านอร่อยสองร้านด้วยกัน

ร้านแรกที่ผมจะพาไปกินอยู่ที่เมืองทองธานีครับ เป็นร้านข้าวขาหมูที่อร่อย ชื่อว่า ร้านขาหมูเมือง ทอง คงไม่ต้องบอกนะครับว่าจะมีอะไรให้กินบ้าง อย่างแรกที่เข้าร้านมาแล้วต้องสั่ง ก็คือ คากิ ซึ่งมีให้กินแน่ ๆ แล้วคากิของเขาไม่ได้มันอย่างเดียวนะครับ แต่ทั้งมันและนุ่ม รสชาติดี เมื่อกินเข้าไปแล้วเหมือนจะละลายในปากของเราเลยครับ

จากนั้น มี หมูกรอบ ที่อร่อยมาก หนังของหมูกรอบจะไม่ฟูครับ เกือบเหมือนของฮ่องกงเลย เมื่อกินขาหมู ก็ต้องกินกับข้าว ฉะนั้นเวลาไปกิน ผมจะสั่งข้าวมาเป็นจาน ๆ เลย แล้วก็สั่งกับ มีทั้งคากิ หมูกรอบ ขาหมู แล้วก็จะมีแกงจืดด้วย

สิ่งที่ขาดไม่ได้ ต้องไม่ลืมนะครับว่าที่นี่เขามี หน่อไม้ต้มกระดูกหมู ที่อร่อยมาก ๆ ด้วย โดยมากแล้วจะเป็นผมที่กินอยู่คนเดียว เพราะคนอื่นเขาไม่รู้ว่าอาหารจานนี้อร่อยแค่ไหน รสชาติเข้มข้นดีครับ หน่อไม้ของเขาเป็นหน่อไม้ที่กรอบแล้วก็มัน ความมันของหน่อไม้จะคล้าย ๆ มันแกว แต่จะมีรสชาติที่ดีกว่ามาก

มีอาหารอีกอย่างหนึ่ง บางคนอาจจะไม่ทราบว่าที่นี่เขามี กวย จั๊บน้ำข้น ให้กินด้วย ต้องไปกินนะครับ เพราะเดี๋ยวนี้หากวยจั๊บน้ำข้นอร่อย ๆ ยากมาก แต่ร้านนี้เขาทำได้ดี ขนาดไม่มีสิ่งที่ผมชอบ นั่นคือลิ้นหมู เพราะทางร้านบอกว่าสมัยนี้คนเขาไม่กินลิ้นหมูกันก็ตาม แต่เพื่อน ๆ คงทราบดีนะครับว่าความสม่ำเสมอของอาหารและรสชาติของเขาเหมือนเดิมมาตลอด เพราะเขาทำแบบครอบครัว ไม่ต้องจ้างเชฟมาทำ ช่วยกันทำมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผมมีความสุขครับ เวลามีการถ่ายทำโทรทัศน์ที่บ้าน ผมจะส่งคนไปซื้อขาหมู กวยจั๊บน้ำข้น และหน่อไม้ต้มกระดูกหมู แต่ไม่ได้ซื้อเป็นข้าวขาหมูมานะครับ จะซื้อแยกกัน

ถ้าเพื่อน ๆ ผ่านไปแถวนั้น อย่าลืมแวะไปชิมกันนะครับ ร้านจะอยู่ด้านหน้าซอยที่เข้าไปมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เมื่อเลี้ยวเข้าไปแล้วจะอยู่ซ้ายมือ อาจจะหาที่จอดรถยากเล็กน้อย เพราะต้องจอดตามข้างทาง ที่ร้านจะไม่มีที่จอดรถ

อีกร้านหนึ่งที่ผมจะพูดถึง เขามีหลายสาขาในกรุงเทพฯ (รู้สึกว่าจะมีประมาณ 8 สาขา) ยังไงก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ของเขาอีกทีนะครับว่ามีสาขาอยู่ที่ ไหนบ้าง

ร้านที่ผมพูดถึงนี้เป็นร้านน้ำชา ชื่อว่า ชาโฮ เป็นร้านขายน้ำชาแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ มีน้ำชาหลายชนิดที่น่ากิน เขามีเมนูให้เลือกเยอะแยะ แต่ผมจะพูดถึงชาที่ผมชอบมากก่อนแล้วกันนะครับ นั่นก็คือ มัตฉะ ซึ่งทำมาจากชาเขียว เป็นชาที่แพงที่สุดในร้านเลย รู้สึกว่าจะราคาราว ๆ 380 บาท

ผมได้ดื่มมัตฉะถ้วยเดียวนะครับ ดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ใครเมามาแล้วดื่มมัตฉะเข้าไป 380 บาท หายเมาเลยครับ โดยจะต้องกินกับขนมดังโงะชาเขียวครับ อร่อยมาก ที่นี่เขามีผงชาขายด้วยนะครับ ตั้งแต่ราคาแพงที่สุด มีคุณภาพดีไปจนถึงราคาไม่แพง แต่คุณภาพก็ดีเช่นกัน

ส่วนขนม เขาทำเองหลายอย่าง แต่ขนมที่ผมชอบมากมีอยู่ 2 อย่าง คือ ขนมดังโงะ และ เค้กเครป กับซอสช็อกโกแลต ซึ่งเป็นแป้งแผ่นบาง ๆ กลม ๆ แล้วเอาวิปปิ้งครีมมาใส่ระหว่างชั้น แล้วหั่นมาเป็นชิ้นสามเหลี่ยม เสิร์ฟกับช็อกโกแลต กินกับน้ำชา อร่อยมากเลยครับ

ที่นี่มี ชาเขียวลาเต้ และ ชาเขียวกับช็อกโกแลตขาว ซึ่งเมื่อคุณกินเข้าไปแล้วจะเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็น ไปรับประทานอาหารอร่อย ๆ เสียก่อน แล้วค่อยแวะไปจิบน้ำชาและของหวานแก้เลี่ยนที่ร้านชาโฮก็ได้นะครับ รสชาติของเขาได้มาตรฐานทุกสาขาเลยครับ.
ต้มยำขาหมูเยอรมัน - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุง
-น้ำเปล่า 1ลิตร
-ขาหมูเยอรมันทอดแล้วหั่นเป็นชิ้น 500กรัม
-ข่าทุบ 3-4แว่น
-ตะไคร้หั่นท่อนทุบ1ต้น
-ใบมะกรูดฉีก 2-3ใบ
-พริกขี้หนูบุบ 10เม็ด
-น้ำปลา 3-5ช้อนโต๊ะ
-น้ำมะนาว 3-5ช้อนโต๊ะ
-เห็ดภูฏาน 100กรัม
-ผักชีใบเลื่อย 1/4ถ้วยตวง
-ผักชีเด็ดเป็นใบ 1/4ถ้วยตวง
-พริกขี้หนูแห้งทอดตามต้องการ
วิธีทำ

1. นำหม้อใส่น้ำเปล่า ตั้งไฟให้เดือด ใส่ขาหมูลงไปเคี่ยวจนนุ่มให้น้ำมีกลิ่นหอมของขาหมู

2. ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดฉีก  และพริกขี้หนูบุบ (ถ้าชอบเผ็ด) ลงไปต้มให้หอม ใช้เวลาประมาณ 30-60 วินาที

3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำมะนาว

4. ใส่เห็ดภูฏานลงไป ต้มให้เดือดอีกครั้ง ชิมรสให้ออก เปรี้ยว เค็ม เผ็ด ปิดไฟ ใส่ผักชีใบเลื่อย ผักชีเด็ดใบ และพริกขี้หนูแห้งทอด เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ
กวยจั๊บ - ชิมให้เป็น
เมื่อตอนเด็ก ๆ ผมไม่เคยเห็นกวยจั๊บน้ำใส อาจจะเป็นเพราะว่าคนเรานั้นเริ่มจะขี้เกียจ ทำให้สมัยนี้ก็เลยเอาเส้นกวยจั๊บไปแช่น้ำแล้วก็ต้มจนกระทั่งเส้นนุ่ม แล้วเอามาสะเด็ดน้ำทำเหมือนก๋วยเตี๋ยว จากนั้นก็เอาน้ำใส ๆ ใส่เข้าไป ใส่เครื่องแค่นี้ก็เสร็จแล้ว

ซึ่งความจริงแล้วกวยจั๊บน้ำใสจะไม่มีทางอร่อยเท่ากวยจั๊บน้ำข้นได้เลย เพราะกวยจั๊บน้ำข้นจะต้องต้มจนกระทั่งแป้งเละ และตัวน้ำซุปของน้ำกวยจั๊บเองก็ต้องต้มจนกระทั่งข้น สีจะออกคล้ำ ๆ น้ำตาลดำ ๆ นิด ๆ และเครื่องที่จะใส่นั้นสำคัญมาก โดยเครื่องในหมูที่เราใส่เข้าไปนั้นจะต้องทำให้สะอาด ซึ่งจะต้องทำเป็น เพราะถ้าล้างไม่เป็น เครื่องในจะมีกลิ่นเหม็นคาว ไข่ต้มสี   คล้ำ ๆ ก็เช่นกัน ต้องหั่นเป็นเสี้ยวมา และที่สำคัญต้องมีเต้าหู้ด้วย เครื่องต้องครบ

ผมยังบ่นกับที่ร้านเลยว่า ทำไมไม่มีลิ้นให้ผมกิน เขามีหมูกรอบ ตับ ไต ไส้พุง ทุกสิ่งทุกอย่างแต่ไม่มีลิ้น เพราะว่าโลกของเราเปลี่ยนไปแล้ว อย่าลืมนะครับว่าจะชิมให้เป็นต้องรู้ว่าแท้จริงแล้วอาหารนั้นจะต้องมีอะไร ใส่เข้าไปบ้าง ทำให้กวยจั๊บเมื่อก่อนอร่อยกว่านี้ครับเพราะว่าครบเครื่องจริง ๆ และจะต้องเป็นน้ำข้นถึงจะเป็นกวยจั๊บของจริงที่มีมาแต่โบราณครับ

ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : หมึกแดง
www.mcdangguide.com

Read More...


ชวนชิมหลากเมนู ''อาหารอีสาน'' อร่อยครบรส...แซบถึงใจ

.
.
.
.
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

คุณเอี๊ยดกับผมเป็นเพื่อนกันมานานมากตั้งแต่ผมกลับจากเมืองนอกใหม่ ๆ คุณเอี๊ยดมีร้านหอยทอด ผัดไทย และอีกหลาย ๆ อย่าง ซึ่งมีหลายสาขาพอสมควร โดยแม่ครัวของคุณเอี๊ยดเป็นคนที่ทำอาหารได้อร่อยมาก ผมลองชิมมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว

และผมมีเพื่อนที่อยู่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเขาทำอาหารอีสานได้อร่อยมาก มีร้านอยู่ที่ขอนแก่นด้วย พอเขามากรุงเทพฯ ผมเลยแนะนำให้ทั้งคู่รู้จักกัน คุณเอี๊ยดจึงขอซื้อสูตรอาหารจากเพื่อนผมมาทำร้านอาหารที่ ถนนรัตนาธิเบศร์ ผมเลยตั้งชื่อร้านให้ว่า เอี๊ยดตำแหลก

ที่ร้านนี้มีอะไรกินบ้าง ผมขอเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังนะครับ อย่างแรกมี ปลาทับทิมเผา ที่ยัดไส้ด้วยสมุนไพรต่าง ๆ แล้วเอาเกลือทา จากนั้นจึงนำไปย่างไม่ให้ปลาแห้งจนเกินไป อร่อยมากครับ เนื้อปลานุ่ม เพราะได้ปลาที่สด ซึ่งจะทำให้ได้รสชาติที่หวานครับ

คอหมูย่าง ที่นี่อร่อยมาก เพราะเนื้อนุ่มเหลือเกินครับ แต่ผมขอพูดเรื่องน้ำจิ้มสักเล็กน้อยที่นี่มีน้ำจิ้มหลายอย่างเหลือเกินครับ มีทั้งแจ่ว น้ำจิ้มซีฟู้ด แจ่วมะเขือเทศ

อย่างเมื่อเขาเอาปลาเผามาเสิร์ฟ ก็จะมีน้ำจิ้มแจ่วมาให้ และมีมะเขือเผามาให้ด้วยครับ ของแปลกที่เขานำมาให้ผมกิน มีทั้ง ผักเคียงที่เยอะมากมาย รวมทั้ง ข้าวเหนียวที่ห่อมาอย่างสวยงามน่ากินมาก นอกจากจะมีปลาทับทิมเผาแล้ว ยังมี ปลาช่อนนึ่ง เสิร์ฟกับแจ่วมะเขือเทศและแจ่วธรรมดาด้วย ผมกินอย่างสนุก สนานเลยครับ

จากนั้น มี ไก่บ้านทอดน้ำปลา อร่อยมากเช่นกันครับ ผมนั่งแทะอยู่คนเดียวเลย เนื้อไก่รสชาติไม่เค็มเกินไป รวมทั้ง เนื้อกับหนังยังกรอบอยู่เลยครับ แต่เนื้อไก่ของเขาจะเหนียวนิด ๆ สู้ฟันเล็กน้อย  แล้วต้องกินกับขนมจีนนิดหนึ่งนะครับถึงจะอร่อย

ตามมาด้วยส้มตำซึ่งเป็นเมนูที่ขาดไม่ได้ มีทั้ง ส้มตำไทย ส้มตำลาว และ ส้มตำปูม้า เรื่องส้มตำไม่ต้องพูดอะไรมากครับ อร่อย แซบที่ครกครับ ถ้าใครไม่ชอบกินรสเผ็ดมาก ตอนสั่งต้องบอกเขาด้วยนะครับ เพราะเดี๋ยวจะกินกันไม่ได้ เพราะแม่ครัวที่นี่จะตำรสชาติจัดจ้านครับ

เมนูโปรดของผมจริง ๆ ก็คือ ตำแหลกผลไม้  ทำไมถึงเรียกว่าตำแหลกผลไม้ ทราบหรือไม่ครับ ก็เพราะเขาเอาผลไม้ต่าง ๆ มาตำแหลกแบบทางภาคอีสาน ถ้าเป็นผมจะใส่ปูกับปลาร้าเข้าไปด้วย แต่ที่ร้านใส่แต่ปลาร้าเท่านั้นครับ  ตำได้อร่อยมาก เป็นเมนูเพื่อสุขภาพด้วยนะครับ เพราะปลาร้าเขาต้มมาเป็นอย่างดี ไม่ต้องกลัวเรื่องพยาธิครับ

อาหารอีสานเป็นสิ่งที่ผมชอบมากเลย แต่คนไทยมักจะบอกว่าอย่ากินอะไรหวาน ซึ่งความจริงแล้วในอาหารอีสานไม่มีอะไรหวาน เลยนะครับ ฉะนั้นถ้าไปที่ร้านเอี๊ยดตำแหลกจะมีของหวาน ๆ อยู่เหมือนกัน เช่น ส้มตำไทย ก็ต้องหวานหน่อยหนึ่ง ซึ่งจริง ๆ จะต้อง เปรี้ยว เค็ม หวาน เท่า ๆ กัน แต่ถ้าไปสั่งส้มตำลาว ก็คงต้องไปบอกให้เขาใส่น้ำตาลด้วย เพราะส้มตำลาว จะไม่มีน้ำตาลใส่เลยเด็ดขาดครับ ใครไม่ถนัดรสชาติแบบนั้นก็ต้องบอกพนักงานตอนที่เขามารับรายการอาหาร แต่ถ้าใครที่ชอบรสชาติแท้ ๆ ก็ไม่ต้องบอกอะไร สั่งแต่ชื่ออาหารที่อยากกินครับ

ส่วนตำแหลกผลไม้จะมีความหวานอยู่ในตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องใส่น้ำตาลเข้าไป เขาต้องใช้พริกแห้งในการตำจะได้เผ็ด แซบ อร่อย ส่วนส้มตำปูควรจะเป็นแบบ
ไทย ๆ เพราะผมว่าส้มตำปูแบบอีสานไม่ค่อยอร่อย ตรงนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับ

ลองแวะไปดู ร้านนี้มีอาหารมากมายหลายอย่างให้ได้เลือกชิมกัน แต่ผมเพียงเรียนให้ทราบนิดเดียวว่าไก่บ้านทอดน้ำปลาของเขาอร่อยมากครับ  ส่วนอาหารประเภทตำต่าง ๆ สุดยอด เรื่องน้ำจิ้มของเขายิ่งดีใหญ่เลยนะครับ มีให้เลือกหลายอย่าง อร่อยมากครับ และผมก็ชอบมากด้วย เพราะฉะนั้นอยากจะเชิญชวนเพื่อน ๆ ให้ลองไปชิมกันครับ.
ชิมให้เป็น
คนส่วนมากชอบเข้าใจผิดว่า อาหารอีสาน อย่างแจ่ว จะต้องทำให้ถูกปากคนกรุงเทพฯ หรือคนที่ไม่ใช่คนที่มาจากภาคอีสาน ความจริงแล้วต้องไปถามคนอีสานดูนะครับว่าต้องทำอย่างไรถึงจะเรียกว่าชิมให้ เป็น ผมขอบอกเลยว่าแจ่วนั้นทำจากอะไรบ้าง

ความจริงแล้ว จะมีน้ำปลาหรือปลาร้า พริกแห้งหรือพริกป่นก็ได้นะครับ รวมทั้ง น้ำส้มมะขาม (น้ำมะขามเปียก) หรือจะเป็นมะนาวก็ได้ครับ ต้องมีต้นหอมด้วย บางครั้งจะใส่ใบสะระแหน่ หรือผักชีใบเลื่อยเข้าไปด้วยสักเล็กน้อย จากนั้นผสมให้เข้ากันแล้วก่อนยกเสิร์ฟก็ค่อยโรยข้าวคั่ว ไม่ใช่โรยแล้วแช่ไว้นาน ๆ นะครับ เพราะจะทำให้ข้าวคั่วอืดได้

หลายคนสงสัยที่ผมไม่ได้เอ่ยขึ้นมาเลยก็คือ น้ำตาล ใช่หรือไม่ครับ ความจริงแล้ว แจ่วจะไม่มีน้ำตาลนะครับ และรสชาติก็ไม่ควรจะหวานด้วย เดี๋ยวคนอีสานเขาจะหาว่าคนกรุงเทพฯ กินไม่เป็นเด้อ ผมเองก็คิดเหมือนคนอีสาน เพราะคนกรุงเทพฯ กินไม่เป็น ชอบใส่น้ำตาล

แต่ถ้าอยากจะใส่น้ำตาล ก็ใส่ได้ตามใจชอบ เพราะคนเราชอบกินรสชาติไม่เหมือนกัน  แต่ผมเองก็ยังอยากให้ลองกินแบบอีสานดูนะครับ ผมว่ารสชาติแซบกว่ากันตั้งเยอะ รวมทั้งจะได้ชิมให้เป็นด้วยนะครับ
ซุปปูแบบจีน - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุง
-น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
-ต้นหอมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-ขิงสับ 1 ช้อนชา
-เห็ดหูหนูสับหยาบ 30 กรัม
-หน่อไม้จีน 30 กรัมซอยเป็นเส้น
-เนื้อปู 50 กรัม
-น้ำซุป 1 ลิตร
-จิ๊กโฉ่  พอประมาณ
-ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
-เกลือป่น 1 ช้อนชา
-พริกไทยขาวป่น 1/2 ช้อนชา
-พริกไทยดำป่น 1/2 ช้อนชา
-แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ
-ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำมันงา 2 ช้อนชา
- เนื้อปูเป็นก้อน สำหรับโรยหน้า
- ใบผักชี สำหรับโรยหน้า
วิธีทำ

1. นำหม้อตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป พอร้อนใส่ต้นหอมสับ ขิงสับลงไป ผัดพอหอม

2. ใส่เห็ดหูหนูสับหยาบ หน่อไม้จีนซอยเป็นเส้น และเนื้อปูลงไปผัดให้เข้ากัน

3. เติมน้ำซุปลงไป ต้มให้เดือด

4. ปรุงรสด้วย จิ๊กโฉ่ ซีอิ๊วขาว เกลือป่น พริกไทยขาวป่น พริกไทยดำป่น คนให้เข้ากัน

5. ชิมรสให้ออก เปรี้ยว เค็ม ๆ และหวานจากผักและน้ำซุป

6. ในชามผสม ใส่แป้งมันผสมกับน้ำซุป คนให้แป้งละลาย แล้วเทลงไปในหม้อซุป คนให้เข้ากัน ต้มพอเดือดและซุปข้นขึ้น

7. ตอกไข่ใส่ชามผสม ตีพอเข้ากัน แล้วเทไข่ลงไปในหม้อ พักไว้ประมาณครึ่งนาที แล้วคนให้ไข่แตกกระจายให้ทั่ว และเป็นเส้น ๆ ใส่น้ำมันงาลงไป คนพอเข้ากัน ปิดไฟ

8. ตักซุปใส่ถ้วย แต่งหน้าด้วยเนื้อปูเป็นก้อน ใบผักชี เสิร์ฟกับจิ๊กโฉ่
ความอร่อย     ความสะอาด     คุณภาพของวัตถุดิบ   การบริการ    ราคา ความเผ็ด
ที่อยู่ : 35/37-38 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ
อ.เมือง นนทบุรี  11000
โทรศัพท์ : 0-2969-9959
เวลาเปิด :  เปิด  10.00–22.00 น. หยุดทุกวันจันทร์ที่ 4 ของเดือน
*มีห้องสำหรับจัดเลี้ยง*
ขอขอบคุณเจ้าของบทความ : หมึกแดง
www.mcdangguide.com

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.