บ่อยครั้งหนังสือเพียงเล่มเดียวสามารถสร้างแรงบันดาลใจดี ๆ ให้กับผู้อ่าน เอ๋-อนุพงษ์ นวลฉวี นักศึกษาด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว ม.กรุงเทพ ในสมัยนั้น ตกหลุมรักอาชีพ “เชฟ” ทันทีหลังจากวางหนังสือสกายเชฟลงบนหน้าตัก พร้อมทำความฝันให้เป็นจริง ด้วยการโอนย้ายหน่วยกิตเรียนต่อสายอาหารเต็มตัว ที่วิทยาลัยดุสิตธานี จนบัดนี้ขึ้นแท่นเป็นพ่อครัวขนมหวานมากประสบการณ์ ประจำโรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา เต็มตัว และยังใจดีนำเสนอเมนูของหวานซิกเนเจอร์อย่าง “เอแคลร์ราสเบอร์รี่” มาให้คนหลงใหลความหวานเช่นกัน ฝึกทำรับเทศกาลคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง
ก่อนลงมือทำ เชฟเอ๋เท้าความหลังก่อนมาอยู่หน้าเตาว่า เส้นทางชีวิตไม่ได้หอมหวานเหมือนขนมอบสุกใหม่ เพราะต้องผ่านทั้งความกดดันสารพัด ระหว่างเรียนทำกิจกรรมลงแข่งขันทำขนมบ้าง ทำงานพาร์ทไทม์บ้าง แต่ที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์ประทับใจที่สุด ต้องยกให้โครงการแลกเปลี่ยนเวิร์ก แอนด์ ทราเวล ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา “ผมขอทำงานด้านเบเกอรี่ก่อน เพราะได้ยินว่าเชฟของหวานประจำที่นั่นเป็นลูกครึ่งชาวฝรั่งเศสกับอเมริกา ซึ่งส่วนตัวผมชื่นชอบขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศส แต่พบปัญหาด้านภาษา สิ่งที่เขาบอกเรากับสิ่งที่ผมเรียนมามันไม่ตรงกัน จึงพัฒนาตัวเองด้วยการเปิดทีวีฟังภาษาอังกฤษอยู่ประมาณ 1 เดือนเริ่มเข้าที่เข้าทาง พอการสื่อสารราบรื่นหลังจากนั้นไม่นาน ได้รับความไว้วางใจรับหน้าที่ทำเค้กงานแต่ง”
สร้างความมั่นใจให้กับตัวเชฟเอ๋มากขึ้น “ผมเริ่มกล้าโชว์ผลงานมากขึ้นนะ ส่วนตัวคิดว่าความละเอียดอ่อน ความมุ่งมั่นตั้งใจ เป็นคุณสมบัติที่เขาไว้วางใจ จนกระทั่งครบ 4 เดือน จึงกลับมาเรียนต่อ หลังจากนั้นไปฝึกงานตามโรงแรมทั้งในและต่างประเทศ” ผู้หญิงกับของหวานคู่กันไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สำหรับผู้ชายอย่างเชฟเอ๋เห็นว่าการทำขนมหวานเป็นงานท้าทาย การทำขนมเป็นเหมือนการทดลองวิทยาศาสตร์มากกว่าการประกอบอาหารประเภทอื่น ๆ การทำขนมต้องมีอุณหภูมิที่เหมาะสม ทุกอย่างต้องเตรียมการ วางแผนล่วงหน้าแล้วก่อนที่จะเอาเข้าเตาอบ และไม่สามารถแก้ไขได้หลังจากอบไปแล้ว หลังจากนั้นก็นำเอาศิลปะมาตกแต่ง ดังนั้นต้องใช้ใจและใช้สมาธิมาก “จริง ๆ แล้วของหวานเรากินเป็นอย่างสุดท้าย ถ้าของหวานออกมาดีทุกคนจะลืมข้อเสียของอาหารก่อนหน้าทั้งหมด” เชฟเอ๋ กล่าว
เมนูของหวานต้องการนำเสนอวันนี้ เชฟเอ๋เลือก “เอแคลร์” มาเป็นพระเอกขี่ม้าขาว “ผมต้องการคริสต์มาสให้อยู่ในรูปแบบเอแคลร์ ส่วนใหญ่คนคิดถึงคริสต์มาส พุดดิ้ง, คริสต์มาส ร็อก แต่ผมมีความรู้สึกว่า ถ้าผมเอาคริสต์มาสมาอยู่ในเอแคลร์ยิ่งทำให้น่าสนใจมากขึ้น โดยสร้างความโดดเด่นด้วยการตกแต่ง และพยายามคิดรสชาติแปลกใหม่ วันนี้จึงใช้เพสท์อัลมอนด์มาตัดรสชาติอมเปรี้ยวของไส้ราสเบอร์รี่ ขณะเดียวกันเอแคลร์เป็นขนมหวานคลาสสิก ได้รับความนิยมอยู่เสมอ
สำหรับส่วนผสมและวิธีทำแบ่งเป็น 3 ส่วน เพื่อให้เข้าใจง่ายดังนี้ แป้งชูสำหรับเอแคลร์ วัตถุดิบประกอบด้วย แป้งขนมปัง 680 กรัม, ไข่ไก่ 1,040 กรัม, น้ำ 750 กรัม, เนย 340 กรัม และเกลือ 10 กรัม วิธีทำ ต้มน้ำ เนย และเกลือเข้าด้วยกัน เติมแป้งขนมปัง คนจนกระทั่งส่วนผสมเข้ากันดีและไม่ติดกระทะ นำไป
ใส่ชามผสม ตีแป้งด้วยความเร็วปานกลางประมาณ 1 นาที และค่อย ๆ เติมไข่ไก่ไปทีละนิดจนกระทั่งหมด วางพักไว้จนเย็น และนำไปบีบบนถาดที่ความยาวประมาณ 14 ซม. อบด้วยความร้อน 170 องศาเซลเซียส ประมาณ 45 นาที วางไว้ให้เย็นบนตะแกรงก่อนที่จะเติมไส้
มูสราสเบอร์รี่ วัตถุดิบ น้ำราสเบอร์รี่แบบบดเข้มข้น 1,000 กรัม, น้ำตาล 300 กรัม, เจลาติน 50 กรัม, วิปปิ้งครีม 1,200 กรัม วิธีทำ ต้มราสเบอร์รี่และน้ำตาลเข้าด้วยกัน ใส่เจลาตินลงไปวางทิ้งไว้ให้เย็น ค่อย ๆ คนเข้าด้วยกันและค่อย ๆ ใส่วิปปิ้งครีมลงไป
เอแคลร์ วัตถุดิบ เอแคลร์ 10 ชิ้น, มูสราสเบอร์รี่ 500 กรัม, เพสท์อัลมอนด์ 150 กรัม, สีแดง 4 กรัม, เจลแอพริคอท 20 กรัม วิธีทำ เจาะรูเอแคลร์ 3 รูเพื่อเติมไส้เอแคลร์มูสราสเบอร์รี่ ผสมเพสท์อัลมอนด์ด้วยสีแดง รีดเป็นแผ่นบางประมาณ 0.2 เซนติเมตร และไปไว้บนตัวเอแคลร์ เคลือบด้านบนด้วยเจลแอพริคอท และตกแต่งให้สวยงามตามใจชอบ.
ช้องมาศ
credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/288544/‘เอแคลร์ราสเบอร์รี่’+คริสต์มาสนี้มีความหวาน
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001