ชาบู ชาบู คือ ประเภทของอาหารแบบหม้อไฟแบบญี่ปุ่น ซึ่งส่วนผสม เช่น ผัก, เนื้อหั่นบาง ๆ และอาหารทะเล จะถูกแช่ลงในน้ำเดือด หรือน้ำซุป และปล่อยทิ้งไว้สักพัก จากนั้นนำส่วนผสม อาทิ เต้าหู้, เส้นบะหมี่ ลงตุ๋นให้เข้ากัน แล้วรับประทานโดยจุ่มลงในซอส ซึ่งในปัจจุบันมีร้านชาบูหลากหลายประเภทให้เลือกรับประทาน ทั้งชาบูแบบดั้งเดิม หรือแบบประยุกต์ให้เข้ากับลักษณะของลูกค้าแต่ละประเภท รวมไปถึง “ชาบูสไตล์ไทย” ซึ่งทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้
ชื่นชีวัน ชนินทร์อารักษ์ และ คมณ์ วิเชียร์วิญญู เจ้าของร้าน ก๊กออ ชาบู ย่านถนนลาดพร้าว 87 เล่าว่า เป็นพนักงานบริษัทเอกชนทั้งคู่ แต่อยากจะหาความมั่นคงให้กับชีวิตด้วยการทำธุรกิจที่เป็นของตนเอง และธุรกิจนั้นจะต้องเริ่มต้นจากความชอบด้วย เพราะจะได้ทำไปได้นาน ๆ “ด้วยความที่เป็นคนชอบทานชาบู ชาบู ทั้งคู่ ประกอบกับงานประจำที่ทำนั้น เกี่ยวกับการให้คำปรึกษาเรื่องโรงแรม และร้านอาหาร จึงคุ้นเคยกับธุรกิจประเภทนี้เป็นอย่างดี อีกอย่างมีพื้นที่ที่จะทำร้านอยู่แล้วจึงเริ่มต้นได้ไม่ยาก” ชื่นชีวัน กล่าว
อุปกรณ์ในการทำชาบู ชาบู หลัก ๆ มี เตาแก๊ส, หม้อน้ำซุป, เขียง-มีด, กะละมังใส่ผัก และอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดที่ใช้ในครัวทั่วไป
ชื่นชีวัน กล่าวว่า น้ำซุป เป็นหัวใจสำคัญของอาหารประเภทชาบู ชาบู และน้ำซุปที่ใช้ในร้านจะเป็น ซุปผัก โดยน้ำซุปผักนี้มีส่วนผสมของข้าวโพด, แครอท, กะหล่ำปลี, หัวไชเท้า และรากผักชี
วิธีทำ ปอกเปลือก หัวไชเท้า, แครอท และ ข้าวโพด ออกให้หมด ล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั่นเป็นแว่น ๆ ให้มีความหนาชิ้นละประมาณ 1 ซม. ส่วนข้าวโพด ให้หักเป็นท่อน ท่อนละ 5-6 ซม.,
กะหล่ำปลี ล้างน้ำให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ส่วน รากผักชี ล้างรากให้สะอาด แล้วทุบเบา ๆ ให้รากแตกออกเล็กน้อย
นำผักทั้งหมดใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำพอประมาณ ต้มด้วยไฟปานกลาง จนความหวานจากหัวไชเท้าออก ใส่เกลือ, พริกไทยเม็ดบุบ เคี่ยวจนน้ำเหลือประมาณ 2 ใน 3 ปิดไฟ แล้วยกลงกรอง เตรียมไว้ ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงขึ้นไป
“เหตุผลที่เราใช้ผักทำน้ำซุป ก็เพื่อที่จะรองรับความต้องการของลูกค้าที่เป็นมุสลิมด้วย เพราะจะได้สบายใจเวลาที่เข้ามาทานกันที่ร้าน และเหตุผลที่สำคัญที่สุดคือ เราไม่ต้องการให้ลูกค้าเดินออกจากร้านไปด้วยอาการของปากและคอแห้ง เพราะรู้ว่าลูกค้าหลาย ๆ คน คำนึงถึงสุขภาพเป็นหลัก” ชื่นชีวัน กล่าว
ส่วนของ น้ำจิ้ม ที่ใช้นั้น มีน้ำจิ้ม 3 ประเภท ได้แก่ น้ำจิ้มหวาน, น้ำจิ้ม แจ่ว และ น้ำจิ้มซีฟู้ด
น้ำจิ้มหวาน มีส่วนผสมของซีอิ๊วดำ 500 กรัม, ถั่วเหลืองบดละเอียด 400 กรัม และน้ำตาลทรายอีก 100 กรัม
วิธีทำ ตั้งหม้อเคี่ยวซีอิ๊วดำและถั่วเหลืองบดให้เข้ากัน จากนั้นค่อย ๆ เติมน้ำตาลทรายลงไป ชิมรสตามที่ต้องการ และเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนกว่าส่วนผสมจะงวดเข้ากัน เท่านี้ก็เป็นอันใช้ได้ เวลาเสิร์ฟน้ำจิ้ม ให้เสิร์ฟกระเทียมทุบ, พริกขี้หนูบด และน้ำมะนาวเพิ่มไปด้วย น้ำจิ้มแจ่ว มีส่วนผสมของ พริกป่น 3 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ, ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ และผักชีฝรั่งซอย
วิธีทำ นำพริกป่น, ข้าวคั่ว, น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา ใส่ลงไปในภาชนะผสม คนจนกว่าน้ำตาลปี๊บละลาย จากนั้นเติมน้ำมะนาวลงไป โดยค่อย ๆ เติมทีละนิดพร้อมกับชิมไปด้วย จนได้รสชาติตามที่ต้องการ เสร็จแล้วโรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง
ส่วน น้ำจิ้มซีฟู้ด มีส่วนผสมของกระเทียม 200 กรัม, พริกขี้หนู 200 กรัม, น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม, เกลือ 2.5 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาว (ตามความต้องการ) และน้ำร้อน 1 ถ้วย วิธีทำ เริ่มจากนำน้ำตาลปี๊บและเกลือใส่ลงไปในภาชนะผสม จากนั้นให้เทน้ำร้อนใส่ลงไป และคนให้เข้ากันจนเกลือและน้ำตาลปี๊บละลาย จากนั้นให้ใส่น้ำมะนาวลงไปในชามผสมคนให้เข้ากัน เตรียมไว้ นำพริก กระเทียม ใส่ลงไปในเครื่องปั่น ปั่นให้ละเอียด เสร็จแล้วเติมส่วนผสมที่เตรียมไว้ลงไปในเครื่องปั่นประมาณ 1 ถ้วยเพื่อทำให้การปั่นง่ายขึ้น แล้วนำส่วนผสมที่เหลือผสมกับเครื่องที่ปั่นไว้ละเอียดแล้ว คนให้เข้ากัน เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย
สำหรับ ประเภทเนื้อที่ใช้ มี หมูสันคอสไลด์, หมูสันนอกสไลด์, หมูสามชั้นสไลด์, ตับหมู, เนื้อสันคอออสเตรเลีย, ริบอาย, เนื้อใบพาย, เนื้อน่องลาย, เนื้อพับนอก และเนื้อวากิว ในขณะที่ส่วนของ ผักสด มี ผักกาดขาว, ผักบุ้ง, ผักปวยเล้ง, ผักกวางตุ้ง, ขึ้นฉ่าย, ข้าวโพดอ่อน, เห็ดฟาง และเห็ดเข็มทอง
ส่วน อาหารจานรอง มี ลูกชิ้นเนื้อ, ลูกชิ้นหมู, เกี๊ยวกุ้ง, กุ้งสด และเนื้อปลาสด ในขณะที่ เครื่องเคียง อื่น ๆ มี ข้าวสวย, ข้าวกระเทียม, วุ้นเส้น, เต้าหู้ไข่ และไข่ไก่
วิธีทานชาบู ชาบู จะเริ่มจากการใส่ผักลงไปต้มในหม้อก่อนเพื่อให้น้ำซุปได้รสหวานของผัก แล้วจึงค่อยนำเนื้อลงไปลวกกิน (ลักษณะเหมือนการลวกจิ้มจุ่ม) เมื่อตุ๋นไปสักพักน้ำซุปจะหอมหวานเข้มข้น ก็ให้ใส่เส้น หรือข้าวลงไปในน้ำซุป แล้วค่อย ๆ ตักขึ้นมารับประทาน จะต่างจากสุกี้ที่จะเน้นการนำของทุกอย่างลงไปต้มพร้อมกันหมด
ราคาขาย จะเน้นเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ โดย บุฟเฟ่ต์เนื้อ (ยกเว้นเนื้อวากิว) ราคาขายชุดละ 359 บาท ส่วน บุฟเฟ่ต์หมู ราคาขายชุดละ 299 บาท นอกจากเรื่องน้ำซุป, น้ำจิ้ม และวัตถุดิบต่าง ๆ แล้ว ชื่นชีวัน กล่าวว่า การจัดร้าน ก็สำคัญ คือ จะจัดร้านที่ให้ความรู้สึกของการนั่งทานอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องการให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัด จึงวางแปลนของการวางโต๊ะ โดยไม่เน้นที่จำนวนโต๊ะ แต่จะเน้นเรื่องความรู้สึกสะดวกสบายของลูกค้ามากกว่า
ใครสนใจ “ชาบูสไตล์ไทย” ต้องการติดต่อ ชื่นชีวัน เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ ติดต่อได้ที่ ร้านก๊กออ ชาบู ตั้งอยู่ที่ซอยลาดพร้าว 87 แยก 20 หรือถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา (ซอยข้างซีดีซี) เปิดทุกวันยกเว้นวันจันทร์ เวลา 11.00-22.30 น. หมายเลขโทรศัพท์ 08-6352-2996 หรือที่ www.facebook.com/pages/ก๊ก-ออ-ชาบู.
สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : รายงาน/วรพรรณ เลอสิทธิศักดิ์ : ภาพ
คู่มือลงทุน…ชาบู ชาบู สไตล์ไทย
ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60-70% ของราคาขาย
รายได้ ราคา 299-399 บาท/1ชุด
แรงงาน 2-3 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านค้าขายอาหาร
จุดที่น่าสนใจ เป็นเทรนด์อาหารใหม่ในไทย
credit by : http://www.dailynews.co.th/article/331077
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001