เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้หอยเชลล์มาจากอเมริกาตัวใหญ่มาก
เลยคิดถึงเมนูนี้ขึ้นมา เพราะเราไม่ต้องยุ่งยากอะไรกับการเตรียมหอยเลย
และไม่ต้องปรุงรสด้วย เมนูที่ผมจะทำคือ หอยเชลล์สะโหร่งเบคอนทอด
เป็นเมนูง่าย ๆ และสะดวกดีครับ
เริ่มต้นการทำอย่างแรกคือ การทอดหอยเชลล์ เริ่มจากเราม้วนเบคอนไปรอบหอยเชลล์ แล้วเอาเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ลวกแล้วมาพันรอบเบคอนอีกรอบหนึ่ง จะกลายเป็นหอยเชลล์ห่อสะโหร่งเบคอน เสร็จแล้วพักไว้ (คุณผู้อ่านอาจจะใช้เส้นชนิดอื่นแทนก็ได้ แต่ผมจะเอาผงปรุงรสหมูสับต้มยำที่เขาให้มาใช้สำหรับทำน้ำซอส)
จากนั้นเตรียมกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปรอให้ร้อนแล้วนำหอยเชลล์ที่เตรียมไว้ลงไปทอด โดยต้องใช้ไฟแรง ๆ เพื่อที่จะทำให้เส้นบะหมี่กรอบและเบคอนสุกเร็วที่สุด โดยไม่ทำให้หอยเชลล์สุกมากจนเกินไป ตรงกลางของเนื้อหอยเชลล์ยังคงมีสีชมพูอยู่ พอเส้นบะหมี่สุกเหลืองให้ตักขึ้นพักไว้
มาถึง การทำซอสครีมเห็ดต้มยำ เอากระทะอีกใบมาตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย แล้วเอาหอมแดงสับลงไปผัดให้หอม จากนั้นเอาเห็ดแชมปิญองที่เราสไลซ์เป็นชิ้นบาง ๆ ใส่ตามลงไปผัด อาจจะใช้เห็ดนางฟ้าหรือเห็ดอะไรก็ได้นะครับ จากนั้นโรยผงปรุงรสหมูสับต้มยำและแป้งสาลีลงไป ผัดให้เข้ากันจนแป้งสุก แล้วเทน้ำซุปลงไป เอาไม้ตีไข่คนให้ซอสข้นขึ้นมา
ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว จากนั้นหากอยากให้น้ำซอสข้นให้ใส่วิปปิ้งครีม คนให้เข้ากัน เคี่ยวจนกระทั่งเหนียวและข้น ชิมรสชาติให้มีรสเปรี้ยวและเค็ม เสร็จแล้วตักไว้บนจานเสิร์ฟ และนำหอยเชลล์ห่อสะโหร่งเบคอนที่ทอดแล้วมาวาง แต่งหน้าด้วยข่าหั่นฝอยทอดกรอบและมะนาวเหลือง เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ เป็นเมนูง่าย ๆ สำหรับทำกินกันในครอบครัว ลองสิครับ อร่อยจริง ๆ.
เครื่องปรุง สำหรับ 4 ท่าน
-หอยเชลล์ตัวใหญ่ 12 ตัว
-เบคอนลวกแล้ว 100 กรัม
-เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลวกแล้ว 1 ซอง
-น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
-ซอสครีมเห็ดต้มยำ สำหรับเสิร์ฟ
-มะนาวเหลือง 1 ลูก
-ข่าหั่นฝอยทอดกรอบ สำหรับแต่งหน้า
เครื่องปรุงซอสครีมเห็ดต้มยำ
-เนย 1 ช้อนโต๊ะ
-ผงปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ซองรสหมูสับต้มยำ
-หอมแดงสับ 1 ช้อนชา
-เห็ดแชมปิญองหั่นแว่น 5 ดอก
-แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำซุป 1 ถ้วยตวง
-วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วยตวง
-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
ร้านอาหารชวนชิม
วันนี้ผมจะพาไปชิมที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเปิดมานานตั้งแต่ก่อนที่ผมจะไปเรียนเมืองนอกเสียอีก จนมาถึงทุกวันนี้ ร้านนี้ยังคงอยู่ที่เดิม อาหารและทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือพนักงานเริ่มชราแล้ว ร้านที่ผมพูดถึงคือร้าน สงวนศรี อยู่ปากทางออกโรงแรมพลาซ่าแอทธินี กรุงเทพบนถนนวิทยุ วันนั้นผมไปทำงานเลยได้มีโอกาสพาทีมงานไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน นี้ อาหารของเขาเป็นอาหารไทยแบบโบราณ เมนูยังคงเป็นลายมือที่เขียนขึ้นมาทั้งแผ่น ซึ่งผมชอบมาก เป็นอะไรที่ดิบ ๆ ดีครับ
จานแรกผมสั่ง ลูกชิ้นปลากรายผัดเขียวหวานแห้ง พอเขาเสิร์ฟออกมา ผมขอข้าวเลยครับ ทุกคนแย่งกันกินเพราะรสชาติเข้มข้น แต่ไม่เผ็ดมาก อร่อยครับ
ผมเคยมากิน หมูผัดพริก เลยสั่งมาทานอีก ซึ่งของที่นี่เขาไม่ใส่น้ำมันหอยนะครับ พอกินเข้าไปรสชาติดี ไม่ต้องเติมอะไรเลย อร่อยมาก
จานต่อมาเป็น ทอดมันปลากราย เหนียวหนึบ หอมกลิ่นเครื่องแกง กินกับข้าวร้อน ๆ ยังคงอร่อยเหมือนเดิม
มี ลาบวุ้นเส้นหมู ทำได้ดีมาก วุ้นเส้นสุกพอดี ไม่เละ แถมรสเด็ด แกล้มกับผักสด แสนอร่อย
สำหรับเมนู เปาะเปี๊ยะทอด ที่ร้านนี้เขาทำเป็นชิ้นเล็ก สั้น ๆ พอคำ ไม่ยาวเหมือนที่อื่น ๆ กรอบอร่อย จิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วยธรรมดา แต่อร่อยที่ตัวเปาะเปี๊ยะนะครับ
ผมชอบกินเนื้อเลยสั่ง สเต๊กเนื้อ ร้านนี้ใช้เนื้อสันใน ราดด้วยซอสที่ทำจากมะเขือเทศ อีกเมนูเป็น แกงเหลือง ใส่ผักหลายอย่าง ซึ่งยังคงความอร่อยตามต้นตำรับดั้งเดิม
จานต่อมาเป็น ผัดพริกขิง เขาใช้ปลาช่อนซึ่งที่อื่นมักจะใช้ปลาดุกกัน แต่ผมว่ารสชาติไม่อร่อยเท่าที่ผมเคยกินนะครับ แต่อย่างอื่นที่กินมายังอร่อยเหมือนเดิม
ส่วนขนมหวานต้องกิน กล้วยไข่เชื่อม ไม่หวานมาก เชื่อมกล้วยได้พอดี ไม่เละและไม่แข็ง ราดหัวกะทิเยอะ ๆ ของหวานอีกอย่างคือ ทับทิมกรอบ แป้งไม่หนาแต่กรอบ น้ำกะทิก็หอมอร่อย
หากใครจะแวะไปกิน ผมอยากให้ไปถึงสักประมาณ 11.00 น. กำลังดีนะครับ เพราะหลังจากนี้ที่นั่งจะเต็มต้องรอ ที่สำคัญราคาไม่แพง ผมต้องกลับไปกินที่นั่นอีกแน่นอนครับ.
หมึกแดงไกด์
สำหรับร้าน
สงวนศรี
ความอร่อย
ความสะอาด
คุณภาพของวัตถุดิบ
การบริการ
ราคา
ความเผ็ด
ที่อยู่ : 59/1 ถนนวิทยุ แขวง ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร : 0-2251-9378, 0-2252-7637
เวลาเปิด : 10.00-15.00 น. หยุดวันอาทิตย์
หมึกแดง
www.mcdangguide.com
Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/224/221471
เริ่มต้นการทำอย่างแรกคือ การทอดหอยเชลล์ เริ่มจากเราม้วนเบคอนไปรอบหอยเชลล์ แล้วเอาเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ลวกแล้วมาพันรอบเบคอนอีกรอบหนึ่ง จะกลายเป็นหอยเชลล์ห่อสะโหร่งเบคอน เสร็จแล้วพักไว้ (คุณผู้อ่านอาจจะใช้เส้นชนิดอื่นแทนก็ได้ แต่ผมจะเอาผงปรุงรสหมูสับต้มยำที่เขาให้มาใช้สำหรับทำน้ำซอส)
จากนั้นเตรียมกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปรอให้ร้อนแล้วนำหอยเชลล์ที่เตรียมไว้ลงไปทอด โดยต้องใช้ไฟแรง ๆ เพื่อที่จะทำให้เส้นบะหมี่กรอบและเบคอนสุกเร็วที่สุด โดยไม่ทำให้หอยเชลล์สุกมากจนเกินไป ตรงกลางของเนื้อหอยเชลล์ยังคงมีสีชมพูอยู่ พอเส้นบะหมี่สุกเหลืองให้ตักขึ้นพักไว้
มาถึง การทำซอสครีมเห็ดต้มยำ เอากระทะอีกใบมาตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย แล้วเอาหอมแดงสับลงไปผัดให้หอม จากนั้นเอาเห็ดแชมปิญองที่เราสไลซ์เป็นชิ้นบาง ๆ ใส่ตามลงไปผัด อาจจะใช้เห็ดนางฟ้าหรือเห็ดอะไรก็ได้นะครับ จากนั้นโรยผงปรุงรสหมูสับต้มยำและแป้งสาลีลงไป ผัดให้เข้ากันจนแป้งสุก แล้วเทน้ำซุปลงไป เอาไม้ตีไข่คนให้ซอสข้นขึ้นมา
ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำมะนาว จากนั้นหากอยากให้น้ำซอสข้นให้ใส่วิปปิ้งครีม คนให้เข้ากัน เคี่ยวจนกระทั่งเหนียวและข้น ชิมรสชาติให้มีรสเปรี้ยวและเค็ม เสร็จแล้วตักไว้บนจานเสิร์ฟ และนำหอยเชลล์ห่อสะโหร่งเบคอนที่ทอดแล้วมาวาง แต่งหน้าด้วยข่าหั่นฝอยทอดกรอบและมะนาวเหลือง เท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ เป็นเมนูง่าย ๆ สำหรับทำกินกันในครอบครัว ลองสิครับ อร่อยจริง ๆ.
เครื่องปรุง สำหรับ 4 ท่าน
-หอยเชลล์ตัวใหญ่ 12 ตัว
-เบคอนลวกแล้ว 100 กรัม
-เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลวกแล้ว 1 ซอง
-น้ำมันพืช 2 ถ้วยตวง
-ซอสครีมเห็ดต้มยำ สำหรับเสิร์ฟ
-มะนาวเหลือง 1 ลูก
-ข่าหั่นฝอยทอดกรอบ สำหรับแต่งหน้า
เครื่องปรุงซอสครีมเห็ดต้มยำ
-เนย 1 ช้อนโต๊ะ
-ผงปรุงรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ซองรสหมูสับต้มยำ
-หอมแดงสับ 1 ช้อนชา
-เห็ดแชมปิญองหั่นแว่น 5 ดอก
-แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
-น้ำซุป 1 ถ้วยตวง
-วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วยตวง
-น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
-น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
ร้านอาหารชวนชิม
วันนี้ผมจะพาไปชิมที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งเปิดมานานตั้งแต่ก่อนที่ผมจะไปเรียนเมืองนอกเสียอีก จนมาถึงทุกวันนี้ ร้านนี้ยังคงอยู่ที่เดิม อาหารและทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือพนักงานเริ่มชราแล้ว ร้านที่ผมพูดถึงคือร้าน สงวนศรี อยู่ปากทางออกโรงแรมพลาซ่าแอทธินี กรุงเทพบนถนนวิทยุ วันนั้นผมไปทำงานเลยได้มีโอกาสพาทีมงานไปรับประทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน นี้ อาหารของเขาเป็นอาหารไทยแบบโบราณ เมนูยังคงเป็นลายมือที่เขียนขึ้นมาทั้งแผ่น ซึ่งผมชอบมาก เป็นอะไรที่ดิบ ๆ ดีครับ
จานแรกผมสั่ง ลูกชิ้นปลากรายผัดเขียวหวานแห้ง พอเขาเสิร์ฟออกมา ผมขอข้าวเลยครับ ทุกคนแย่งกันกินเพราะรสชาติเข้มข้น แต่ไม่เผ็ดมาก อร่อยครับ
ผมเคยมากิน หมูผัดพริก เลยสั่งมาทานอีก ซึ่งของที่นี่เขาไม่ใส่น้ำมันหอยนะครับ พอกินเข้าไปรสชาติดี ไม่ต้องเติมอะไรเลย อร่อยมาก
จานต่อมาเป็น ทอดมันปลากราย เหนียวหนึบ หอมกลิ่นเครื่องแกง กินกับข้าวร้อน ๆ ยังคงอร่อยเหมือนเดิม
มี ลาบวุ้นเส้นหมู ทำได้ดีมาก วุ้นเส้นสุกพอดี ไม่เละ แถมรสเด็ด แกล้มกับผักสด แสนอร่อย
สำหรับเมนู เปาะเปี๊ยะทอด ที่ร้านนี้เขาทำเป็นชิ้นเล็ก สั้น ๆ พอคำ ไม่ยาวเหมือนที่อื่น ๆ กรอบอร่อย จิ้มกับน้ำจิ้มบ๊วยธรรมดา แต่อร่อยที่ตัวเปาะเปี๊ยะนะครับ
ผมชอบกินเนื้อเลยสั่ง สเต๊กเนื้อ ร้านนี้ใช้เนื้อสันใน ราดด้วยซอสที่ทำจากมะเขือเทศ อีกเมนูเป็น แกงเหลือง ใส่ผักหลายอย่าง ซึ่งยังคงความอร่อยตามต้นตำรับดั้งเดิม
จานต่อมาเป็น ผัดพริกขิง เขาใช้ปลาช่อนซึ่งที่อื่นมักจะใช้ปลาดุกกัน แต่ผมว่ารสชาติไม่อร่อยเท่าที่ผมเคยกินนะครับ แต่อย่างอื่นที่กินมายังอร่อยเหมือนเดิม
ส่วนขนมหวานต้องกิน กล้วยไข่เชื่อม ไม่หวานมาก เชื่อมกล้วยได้พอดี ไม่เละและไม่แข็ง ราดหัวกะทิเยอะ ๆ ของหวานอีกอย่างคือ ทับทิมกรอบ แป้งไม่หนาแต่กรอบ น้ำกะทิก็หอมอร่อย
หากใครจะแวะไปกิน ผมอยากให้ไปถึงสักประมาณ 11.00 น. กำลังดีนะครับ เพราะหลังจากนี้ที่นั่งจะเต็มต้องรอ ที่สำคัญราคาไม่แพง ผมต้องกลับไปกินที่นั่นอีกแน่นอนครับ.
หมึกแดงไกด์
สำหรับร้าน
สงวนศรี
ความอร่อย
ความสะอาด
คุณภาพของวัตถุดิบ
การบริการ
ราคา
ความเผ็ด
ที่อยู่ : 59/1 ถนนวิทยุ แขวง ลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร : 0-2251-9378, 0-2252-7637
เวลาเปิด : 10.00-15.00 น. หยุดวันอาทิตย์
หมึกแดง
www.mcdangguide.com
Credit by..http://www.dailynews.co.th/article/224/221471
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001