หนึ่งในนั้น คือ ผลิตภัณฑ์จาก "น้ำมันรำข้าว" ซึ่งแปรรูปเป็นสินค้าหลายชนิด
รำ ข้าว คือ เยื่อทองที่ห่อหุ้มเมล็ดข้าวกล้อง ส่วนน้ำมันรำข้าวได้มาจากการนำเอารำข้าวและจมูกข้าวที่ผ่านการสีครั้งที่สอง แล้วนำรำข้าวและจมูกข้าวมาบีบอัดเอาน้ำมันออกมา
น้ำมันรำข้าว จึงเป็นน้ำมันธรรมชาติที่ได้จากข้าวกล้อง
ตาม หลักโภชนาการ พบว่ารำข้าวเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงที่สุดของข้าว มีสารสำคัญ คือ แกมม่า โอไรซานอล และวิตามินเอ วิตามินบีคอมเพล็กซ์ เบต้าแคโรทีน วิตามินอีสูง กลุ่มโทโคโตรอินอล กลุ่มไฟโตสเตอรอล และกรดไขมันโอเมก้า 3, 6 และ 9 ช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ลดปัญหาการเกิดโรคหัวใจและโรคที่เกิดจากหลอดเลือดตีบตัน บำรุงร่างกาย บำรุงสมอง มีสารต้านอนุมูลอิสระเป็นจำนวนมาก และยังมากกว่าพืชหลายชนิด จึงช่วยชะลอและลดปัญหาการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงผิว บำรุง ดวงตาและสายตา แต่น้อยคนนักจะทราบประโยชน์เหล่านี้ ในประเทศไทยยังไม่ค่อยนิยมรับประทานน้ำมันรำข้าวหรือนำมาปรุงอาหารมากนัก
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร่วมออกบูธในงาน "มติชน เฮลท์แคร์" โดยมี ปานบัว บุนปาน ให้การต้อนรับ |
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีอีโออกริฟู้ด จำกัด ผู้ผลิตน้ำมันดิบจากรำข้าว และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากน้ำมันรำข้าวแบรนด์ "The Rice Bran Oil Company" หรือ "ที.อาร์.บี.โอ." นำหลายผลิตภัณฑ์มาแนะนำในงานมติชนเฮลท์แคร์ 2013 บอกว่า คนทั่วไปมักเข้าใจว่า "รำข้าว" เอาไว้เลี้ยงสุกรเพียงอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วประโยชน์ของรำข้าวมีมากมายกว่านั้น จึงมีแนวคิดนำรำข้าวมาเพิ่มมูลค่าให้ได้มากที่สุด โดยสร้างโรงงานผลิตน้ำมันรำข้าว เพื่อสกัดเป็นน้ำมันดิบแล้วพัฒนาเป็นสินค้าต่างๆ ได้แก่ ขนมขบเคี้ยว เครื่องสำอาง น้ำมันนวด น้ำมันสลัด น้ำมันรำข้าวสำหรับปรุงอาหาร ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ออกวางจำหน่ายผ่านช่องทางร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อกว่า 600 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีนักธุรกิจจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาร่วมลงทุนเพื่อทำตลาดใน ญี่ปุ่นด้วย
"น้ำมันรำข้าว เหมาะกับการปรุงอาหาร เป็นที่นิยมมากในประเทศญี่ปุ่น ต่างชาติมีความต้องการมาก เป็นแนวทางที่ดีเพราะบ้านเราปลูกข้าวติดอันดับโลก แต่องค์ความรู้เรื่องประโยชน์ของน้ำมันรำข้าวยังน้อย ผมจึงต้องการเป็นตัวกลางในการนำเทคโนโลยีมาพัฒนาสร้างสินค้า เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับข้าว ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยต่างๆ และหน่วยงานภาครัฐ ที่ให้การสนับสนุน" พิธากล่าว
ในข้าวเปลือก 100 ตัน มีน้ำมันรำข้าว 7 ตัน หรือข้าว 1 ไร่ จะได้น้ำมันรำข้าว 1 ลิตร
และ นี่คือความท้าทายของพิธา ที่จะทำอย่างไรให้ส่วนสำคัญที่มีประโยชน์แฝงอยู่มากที่สุดของข้าวได้เป็นที่ รู้จัก และเป็นที่ต้องการของทุกคน ซึ่งถือว่าไม่ใช่งานง่ายๆ เขามีโรงสกัดน้ำมันรำข้าว กำลังการผลิตวันละ 400 ตันต่อวัน ถือว่าเป็นโรงสกัดน้ำมันรำข้าวขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ โดยจะรับข้าวเปลือกจากจังหวัดต่างๆ ในภาคกลาง แหล่งปลูกข้าวขนาดใหญ่ของประเทศ
ส่วนใหญ่น้ำมันรำข้าวเป็นที่รู้จัก ในลักษณะอาหารเสริม ซึ่งพิธาบอกว่า ปัจจุบันมีการเข้าใจและโฆษณากันผิดๆ ว่ามีคุณค่ามากมายเกินจริง ขอแนะนำว่า หากต้องการให้ได้ประโยชน์ที่หลากหลาย ควรรับประทานควบคู่กับอาหารเสริมอื่นๆ ด้วย ส่วน "สารแกมม่าโอไรซานอล" ที่พบได้มากในน้ำมันรำข้าว เป็นสารสำคัญที่สามารถยับยั้งกระบวนการสังเคราะห์คอเลสเตอรอลของร่างกาย จึงมีส่วนช่วยลดอาการไขมันในเลือดสูงได้
ประเทศญี่ปุ่นที่มีชื่อ เสียงเรื่องความปลอดภัยและความสะอาดของอาหาร นิยมนำน้ำมันรำข้าวมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะการทอดที่ใช้ความร้อนสูง เนื่องจากน้ำมันรำข้าวมีจุดที่ก่อให้เกิดควันสูง (High Smoke Point) ช่วยรักษากลิ่นรสของอาหาร ช่วยลดการเกิดควัน ไม่มีกลิ่นหืน และดีต่อสุขภาพ
นอก จากการทอดอาหารแล้ว ยังสามารถใช้ในการประกอบอาหารอื่นๆ เช่นการการผัด สามารถนำมาทำน้ำสลัดแทนน้ำมันมะกอก หรือจะใช้ทำเบเกอรี่ก็ได้ แม้จะมีกลิ่นไม่หอมเท่ากับการใช้เนย แต่ถ้าดูเรื่องของคุณค่าทางโภชนาการและเพื่อสุขภาพที่ดีแล้ว ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียว
ด้าน "สง่า ดามาพงษ์" ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ แนะนำการใช้น้ำมันปรุงอาหารให้เหมาะสมว่า ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันอะไรก็ตามควรใช้ให้พอเหมาะ ไม่ควรใช้ประกอบอาหารมากเกินไป ซึ่งน้ำมันทุกชนิดล้วนมีประโยชน์และโทษต่างกัน มีกรดไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัวต่างกัน สัดส่วนไม่เท่ากัน
ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะสม หากรับประทานมากไปก็จะเกิดการสะสมในร่างกายได้ทั้งนั้น และควรเลือกใช้หลากหลายยี่ห้อ หรือชนิดใดชนิดหนึ่ง เพราะจะให้ประโยชน์ต่างกัน แนะนำให้ใช้น้ำมันปาล์มสำหรับทอด เพราะแตกตัวเป็นสารโพลีไซคลิก อะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน ได้ยาก ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง แต่ไม่ควรทอดซ้ำเกิน 2 ครั้ง ส่วนการผัด แนะนำให้ใช้น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกคำฝอย หรือน้ำมันถั่วเหลือง
เมื่อ ทราบประโยชน์ของน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหารแล้ว ลองหันมาปรับเปลี่ยนการนำมาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเหมาะสม สร้างทางเลือกในการดูสุขภาพให้หลากหลาย
แต่หากต้องการดูแลสุขภาพแบบครบครัน แนะให้ไปงานมติชนเฮลท์แคร์ ต้องติดตามกันว่าปีหน้าจัดที่ไหน อย่าพลาดเชียว
หน้า 21,มติชนรายวัน ฉบับวันอังคารที่ 4 มิถุนายน 2556
Credit by..
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001