เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ห้องอาหารริบรูมแอนด์บาร์ (อาร์อาร์แอนด์บี) โรงแรมแลนด์มาร์คได้เปิดให้บริการซันเดย์ บรันช์ ที่แปลว่าอาหารเช้าผสมอาหารกลางวัน เนื่องจากวันอาทิตย์ คนฝรั่งโดยมากจะตื่นสายกว่าปกติและจะกินอาหารเช้าประมาณ 12.00-13.00 น. จึงทำให้วันอาทิตย์ โรงแรมระดับห้าดาวในกรุงเทพฯ ส่วนมากจะมีบริการซันเดย์ บรันช์ ซึ่งราคาจะอยู่ที่ 2,000-4,000 บาท แต่ซันเดย์ บรันช์ของห้องอาหารริบรูมแอนด์บาร์ ไม่เหมือนกับที่อื่น เพราะเป็นบริการแบบบุฟเฟ่ต์เหมือนกัน แต่ไม่ใช่บุฟเฟ่ต์ขนาดใหญ่ที่มีอาหารทุกประเภท เช่น อาหารไทย อาหารจีน ก๋วยเตี๋ยว หรืออาหารญี่ปุ่น เพราะโรงแรมแลนด์มาร์คมีห้องอาหารเอเทรี่ยมที่อยู่ชั้นล่างทำลักษณะนั้นอยู่ แล้ว
แนวคิด ซันเดย์ บรันช์ที่ห้องอาหารริบรูมแอนด์บาร์นี้มีแต่อาหารฝรั่งเศสและอาหารอิตาเลียน และราคาย่อมเยาลงด้วย ที่นี่มี บุฟเฟ่ต์อาหารทะเล ที่เอาไปลวกทำให้สุกและนำไปแช่เย็น กินกับซอสชนิด ต่าง ๆ มีขนมและ ชีสนานาชนิด ยังมี สลัดปลาซาร์ดีนสด ซึ่งผมไม่ค่อยได้เห็นมานานมากแล้วเพราะต้องสั่งปลามาจากต่างประเทศ โดยจะมีโต๊ะทำ ซีซาร์สลัด ตรงนั้นเลยครับ
จากนั้นเป็น สลัดหัวอาติโช้ค รสชาติใช้ได้ครับ มี ปลาแซลมอนดิบ ให้กินกับเครื่องเคียงต่าง ๆ เช่น ลูกเคเปอร์ ไข่ขาวสับ ไข่แดงสับ โดยมีน้ำจิ้มทะเลให้กินด้วย ยังมี ยำปลาดิบแบบอิตาเลียน ที่หั่นบาง ๆ แล้วราดด้วยน้ำมันมะกอก โรยต้นหอมและกุยช่ายฝรั่งสับ จานนี้มีรสชาติจัดจ้านมากขึ้น แต่ไม่เผ็ดมากครับ เพราะฝรั่งจะไม่ค่อยกินเผ็ดกัน
มี สลัดชีสกับมะเขือเทศ หรือเรียกว่า คาปรีเซ่ สลัด จานนี้อร่อยดีครับ มีความเค็มของชีสมาช่วยตัดความเปรี้ยวของมะเขือเทศ เข้ากันได้ดี ยังไม่หมดเมนูสลัดนะครับ มี สลัดเห็ด ด้วย จานนี้ผมชอบครับ มีพาร์ม่าแฮมกับมะเดื่อสด ซึ่งสมัยก่อนจะนิยมกินพาร์ม่าแฮมกับแตงหรือเมลอน แต่ที่ร้านนี้หาของแปลก ๆ มาให้เรากินกันครับ
ถ้าใครได้กินบุฟเฟ่ต์หมดทุกอย่างก็อิ่มมากแล้วครับ แต่ที่สร้างความแตกต่างขึ้นมานั้นคือ ร้านนี้จะมีเมนูสีแดงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไว้ให้ ในนั้นมีรายการอาหารหลายชนิดที่เป็นจานเล็ก ๆ ที่ทางร้านจะปรุงให้กินเดี๋ยวนั้นเลย ภาษาอังกฤษเรียกว่า อะลามินิท ที่แปลว่า เดี๋ยวนั้นหรือในเวลานั้น โดยจะเปลี่ยนรายการอาหารในเมนูสีแดงนี้ไปเรื่อย ๆ มีให้เลือกหลายอย่าง ซึ่งจะมีทั้ง ซุป อาหารจานหลักซึ่งมีประมาณ 6-7 เมนู และขนม หากต้องการกินสามารถบอกกับพนักงานเสิร์ฟได้ทันที มี เนื้อย่าง โดยนำเนื้อย่างทั้งก้อนมาสไลซ์ให้กินเดี๋ยวนั้นเลยครับ เขาย่างได้ดีมาก เนื้อสุกกำลังดี ข้างในยังเป็นสีแดง ๆ อยู่ เมื่อได้ชิมแล้ว ได้ความหวานของเนื้อ อร่อยมากครับ
ส่วนซุปนั้น ทุกอาทิตย์ร้านจะเลือกซุปมาให้กินกับขนมปังที่มีวางบนโต๊ะ วันที่ผมไปนั้นเป็น ซุปข้าวโพดกับหอยแมลงภู่ ซึ่งเสิร์ฟโดยใส่ในโหลแก้วมา แปลกดีครับ ซุปมีความเข้มข้นและไม่หวานเกินไป มีกลิ่นหอมของหอยแมลงภู่ด้วย
นอกจากนี้ ยังมี กุ้งมังกรแอต แลนติก ที่ทำในครัวกันสด ๆ เลยครับ กินกับเครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน รสชาติดีและมีวิธีการตกแต่งที่สวยงาม ส่วนอาหารอย่างอื่น มี ตับห่านทอด ที่ไม่รู้ไปคลุกกับอะไรมา เมื่อนำมาเสิร์ฟสีดำเหมือนถ่านเลยครับ แต่เมื่อได้ชิมแล้วไม่มีรสขม ไม่มีกลิ่นไหม้หรือกลิ่นของถ่านเลย เมื่อหั่นตับห่านทอดออกมา พบว่าเนื้อข้างในนุ่ม มีกลิ่นหอม และรสชาติกลมกล่อมดีครับ และมี สเต๊กเนื้อ ที่ชิ้นใหญ่พอสมควรเสิร์ฟมาโดยวางอยู่บนผักต่าง ๆ รวมทั้ง มันฝรั่งแล้วราดด้วยซอสด้านล่าง เนื้อนุ่มครับ ไม่เหนียว
มี เนื้อลูกวัวอบ ด้วยนะครับ โดยเขาจะเอาไปอบแล้วสไลซ์เสิร์ฟกับผักย่างและซอสชีส เมนูนี้เป็นเมนูโปรดของผมครับ มี พอร์คช็อป ตามมาด้วย ปลาแซลมอนทอด ที่ร้านทอดได้ดีเหลือเกินเพราะปลาแซลมอนนั้นไม่ควรทอดให้สุกจนเกินไป จึงมีความนุ่ม หอม แล้วมีซอสที่มาช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น
ส่วนขนมหวานที่ต้องสั่งคือ ขนมแอปเปิล หรือที่เรียกว่า ทาร์ตทาร์ทาร์ ที่ทำโดยการเอาแป้งที่คล้ายแป้งพัฟฟ์มาวางแล้วเอาแอปเปิ้ลที่ผัดกับเนย น้ำตาลทราย และอบเชยมาวางบนแป้ง จากนั้นเอาไปอบจนแป้งกรอบซึ่งทำให้แอปเปิ้ลมีสีดำเล็กน้อยเสิร์ฟกับไอศกรีม โดยที่นิยมจะเป็นไอศกรีมวานิลลา จานนี้อร่อยดีครับ
ของหวานอีกอย่างหนึ่งคือ ขนมที่ทำจากลูกแอพริคอต โดยจะนำไปตุ๋น มีรสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ เวลาเสิร์ฟจะมีครีมในถ้วย พร้อมกับคุกกี้และมีแอพริคอตสดเผามาให้กินอีกด้วย ผมชอบเมนูของหวานนี้มาก
อาหารซันเดย์ บรันช์ที่นี่เป็นอาหารที่เรียบง่าย โดยมีแนวคิดที่ว่า อยากให้มาพักผ่อน มากินอาหารฝรั่งที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน หากเพื่อน ๆ อยากทานบุฟเฟ่ต์บรรยากาศสบาย ๆ ต้องลองมาที่นี่กันดูนะครับ.
เชอร์เบ็ทน้อยหน่า - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุงน้ำเชื่อม
- น้ำตาลทราย 250 กรัม
- น้ำเปล่า 300 มิลลิลิตร
วิธีทำ
1. นำหม้อใส่น้ำตาลทรายและน้ำเปล่า ขึ้นตั้งไฟให้เดือด
2. ยกหม้อออกจากเตาพักไว้ให้น้ำเชื่อมเย็น
เครื่องปรุงเชอร์เบ็ทน้อยหน่า
- เนื้อน้อยหน่าปั่นหยาบ 2 ถ้วยตวง
- น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำแข็งป่น พอประมาณ
- เกลือเม็ด พอประมาณ
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ พอประมาณคั่วบดหยาบ
- ถั่วแมคคาเดเมีย พอประมาณคั่วบดหยาบ
วิธีทำ
1. ในชามผสมใส่เนื้อน้อยหน่า น้ำเชื่อม และเกลือป่นลงไปผสมให้เข้ากัน
2. เทส่วนผสมทั้งหมดลงไปในหม้อถังไอศกรีม ปิดฝา
3. โรยน้ำแข็งป่นและเกลือเม็ดไปรอบ ๆ หม้อที่อยู่ในถังปั่น อัดน้ำแข็งให้แน่นและเต็มถัง
4. กดเครื่องปั่นปั่นให้ส่วนผสมแข็งตัว
5. ปิดเครื่องปั่น ตักส่วนผสมเชอร์เบ็ทใส่กล่อง นำเข้าตู้แช่แข็ง
6. เมื่อจะรับประทาน ตักเชอร์เบ็ทใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วแมคคาเดเมีย เสิร์ฟทันที
ปลาแซลมอน - ชิมให้เป็น
การที่เราจะรู้ลักษณะของอาหารที่อร่อยนั้น สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือวัตถุดิบที่ใช้ต้องสด โดยเฉพาะ ปลาแซลมอน ซึ่งเป็นปลาที่มีไขมันมากพอสมควรและยังมีโอเมก้า 3 ซึ่งดีสำหรับร่างกายอีกด้วย การนำปลาแซลมอนไปนึ่ง ย่าง อบ หรือทอด ถ้าทำไม่เป็น ก็จะทำให้เนื้อปลาสุกมากจนเกินไป แล้วเมื่อเนื้อปลาชนิดนี้สุกมาก เนื้อจะแข็งกระด้าง ไม่อร่อย ฉะนั้น วิธีนำเนื้อปลาแซลมอนไปปรุงนั้นจะต้องไม่สุกมากนัก โดยข้างในต้องมีสีชมพูอยู่ จะทำให้ได้รสชาติเนื้อปลาที่หวานและไม่แข็ง
หมึกแดง
www.mcdangguide.com
แนวคิด ซันเดย์ บรันช์ที่ห้องอาหารริบรูมแอนด์บาร์นี้มีแต่อาหารฝรั่งเศสและอาหารอิตาเลียน และราคาย่อมเยาลงด้วย ที่นี่มี บุฟเฟ่ต์อาหารทะเล ที่เอาไปลวกทำให้สุกและนำไปแช่เย็น กินกับซอสชนิด ต่าง ๆ มีขนมและ ชีสนานาชนิด ยังมี สลัดปลาซาร์ดีนสด ซึ่งผมไม่ค่อยได้เห็นมานานมากแล้วเพราะต้องสั่งปลามาจากต่างประเทศ โดยจะมีโต๊ะทำ ซีซาร์สลัด ตรงนั้นเลยครับ
จากนั้นเป็น สลัดหัวอาติโช้ค รสชาติใช้ได้ครับ มี ปลาแซลมอนดิบ ให้กินกับเครื่องเคียงต่าง ๆ เช่น ลูกเคเปอร์ ไข่ขาวสับ ไข่แดงสับ โดยมีน้ำจิ้มทะเลให้กินด้วย ยังมี ยำปลาดิบแบบอิตาเลียน ที่หั่นบาง ๆ แล้วราดด้วยน้ำมันมะกอก โรยต้นหอมและกุยช่ายฝรั่งสับ จานนี้มีรสชาติจัดจ้านมากขึ้น แต่ไม่เผ็ดมากครับ เพราะฝรั่งจะไม่ค่อยกินเผ็ดกัน
มี สลัดชีสกับมะเขือเทศ หรือเรียกว่า คาปรีเซ่ สลัด จานนี้อร่อยดีครับ มีความเค็มของชีสมาช่วยตัดความเปรี้ยวของมะเขือเทศ เข้ากันได้ดี ยังไม่หมดเมนูสลัดนะครับ มี สลัดเห็ด ด้วย จานนี้ผมชอบครับ มีพาร์ม่าแฮมกับมะเดื่อสด ซึ่งสมัยก่อนจะนิยมกินพาร์ม่าแฮมกับแตงหรือเมลอน แต่ที่ร้านนี้หาของแปลก ๆ มาให้เรากินกันครับ
ถ้าใครได้กินบุฟเฟ่ต์หมดทุกอย่างก็อิ่มมากแล้วครับ แต่ที่สร้างความแตกต่างขึ้นมานั้นคือ ร้านนี้จะมีเมนูสีแดงที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไว้ให้ ในนั้นมีรายการอาหารหลายชนิดที่เป็นจานเล็ก ๆ ที่ทางร้านจะปรุงให้กินเดี๋ยวนั้นเลย ภาษาอังกฤษเรียกว่า อะลามินิท ที่แปลว่า เดี๋ยวนั้นหรือในเวลานั้น โดยจะเปลี่ยนรายการอาหารในเมนูสีแดงนี้ไปเรื่อย ๆ มีให้เลือกหลายอย่าง ซึ่งจะมีทั้ง ซุป อาหารจานหลักซึ่งมีประมาณ 6-7 เมนู และขนม หากต้องการกินสามารถบอกกับพนักงานเสิร์ฟได้ทันที มี เนื้อย่าง โดยนำเนื้อย่างทั้งก้อนมาสไลซ์ให้กินเดี๋ยวนั้นเลยครับ เขาย่างได้ดีมาก เนื้อสุกกำลังดี ข้างในยังเป็นสีแดง ๆ อยู่ เมื่อได้ชิมแล้ว ได้ความหวานของเนื้อ อร่อยมากครับ
ส่วนซุปนั้น ทุกอาทิตย์ร้านจะเลือกซุปมาให้กินกับขนมปังที่มีวางบนโต๊ะ วันที่ผมไปนั้นเป็น ซุปข้าวโพดกับหอยแมลงภู่ ซึ่งเสิร์ฟโดยใส่ในโหลแก้วมา แปลกดีครับ ซุปมีความเข้มข้นและไม่หวานเกินไป มีกลิ่นหอมของหอยแมลงภู่ด้วย
นอกจากนี้ ยังมี กุ้งมังกรแอต แลนติก ที่ทำในครัวกันสด ๆ เลยครับ กินกับเครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาพร้อมกัน รสชาติดีและมีวิธีการตกแต่งที่สวยงาม ส่วนอาหารอย่างอื่น มี ตับห่านทอด ที่ไม่รู้ไปคลุกกับอะไรมา เมื่อนำมาเสิร์ฟสีดำเหมือนถ่านเลยครับ แต่เมื่อได้ชิมแล้วไม่มีรสขม ไม่มีกลิ่นไหม้หรือกลิ่นของถ่านเลย เมื่อหั่นตับห่านทอดออกมา พบว่าเนื้อข้างในนุ่ม มีกลิ่นหอม และรสชาติกลมกล่อมดีครับ และมี สเต๊กเนื้อ ที่ชิ้นใหญ่พอสมควรเสิร์ฟมาโดยวางอยู่บนผักต่าง ๆ รวมทั้ง มันฝรั่งแล้วราดด้วยซอสด้านล่าง เนื้อนุ่มครับ ไม่เหนียว
มี เนื้อลูกวัวอบ ด้วยนะครับ โดยเขาจะเอาไปอบแล้วสไลซ์เสิร์ฟกับผักย่างและซอสชีส เมนูนี้เป็นเมนูโปรดของผมครับ มี พอร์คช็อป ตามมาด้วย ปลาแซลมอนทอด ที่ร้านทอดได้ดีเหลือเกินเพราะปลาแซลมอนนั้นไม่ควรทอดให้สุกจนเกินไป จึงมีความนุ่ม หอม แล้วมีซอสที่มาช่วยเพิ่มรสชาติให้อร่อยมากยิ่งขึ้น
ส่วนขนมหวานที่ต้องสั่งคือ ขนมแอปเปิล หรือที่เรียกว่า ทาร์ตทาร์ทาร์ ที่ทำโดยการเอาแป้งที่คล้ายแป้งพัฟฟ์มาวางแล้วเอาแอปเปิ้ลที่ผัดกับเนย น้ำตาลทราย และอบเชยมาวางบนแป้ง จากนั้นเอาไปอบจนแป้งกรอบซึ่งทำให้แอปเปิ้ลมีสีดำเล็กน้อยเสิร์ฟกับไอศกรีม โดยที่นิยมจะเป็นไอศกรีมวานิลลา จานนี้อร่อยดีครับ
ของหวานอีกอย่างหนึ่งคือ ขนมที่ทำจากลูกแอพริคอต โดยจะนำไปตุ๋น มีรสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ เวลาเสิร์ฟจะมีครีมในถ้วย พร้อมกับคุกกี้และมีแอพริคอตสดเผามาให้กินอีกด้วย ผมชอบเมนูของหวานนี้มาก
อาหารซันเดย์ บรันช์ที่นี่เป็นอาหารที่เรียบง่าย โดยมีแนวคิดที่ว่า อยากให้มาพักผ่อน มากินอาหารฝรั่งที่ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน หากเพื่อน ๆ อยากทานบุฟเฟ่ต์บรรยากาศสบาย ๆ ต้องลองมาที่นี่กันดูนะครับ.
เชอร์เบ็ทน้อยหน่า - เข้าครัวกับหมึกแดง
เครื่องปรุงน้ำเชื่อม
- น้ำตาลทราย 250 กรัม
- น้ำเปล่า 300 มิลลิลิตร
วิธีทำ
1. นำหม้อใส่น้ำตาลทรายและน้ำเปล่า ขึ้นตั้งไฟให้เดือด
2. ยกหม้อออกจากเตาพักไว้ให้น้ำเชื่อมเย็น
เครื่องปรุงเชอร์เบ็ทน้อยหน่า
- เนื้อน้อยหน่าปั่นหยาบ 2 ถ้วยตวง
- น้ำเชื่อม 1 ถ้วยตวง
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำแข็งป่น พอประมาณ
- เกลือเม็ด พอประมาณ
- เม็ดมะม่วงหิมพานต์ พอประมาณคั่วบดหยาบ
- ถั่วแมคคาเดเมีย พอประมาณคั่วบดหยาบ
วิธีทำ
1. ในชามผสมใส่เนื้อน้อยหน่า น้ำเชื่อม และเกลือป่นลงไปผสมให้เข้ากัน
2. เทส่วนผสมทั้งหมดลงไปในหม้อถังไอศกรีม ปิดฝา
3. โรยน้ำแข็งป่นและเกลือเม็ดไปรอบ ๆ หม้อที่อยู่ในถังปั่น อัดน้ำแข็งให้แน่นและเต็มถัง
4. กดเครื่องปั่นปั่นให้ส่วนผสมแข็งตัว
5. ปิดเครื่องปั่น ตักส่วนผสมเชอร์เบ็ทใส่กล่อง นำเข้าตู้แช่แข็ง
6. เมื่อจะรับประทาน ตักเชอร์เบ็ทใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และถั่วแมคคาเดเมีย เสิร์ฟทันที
ปลาแซลมอน - ชิมให้เป็น
การที่เราจะรู้ลักษณะของอาหารที่อร่อยนั้น สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือวัตถุดิบที่ใช้ต้องสด โดยเฉพาะ ปลาแซลมอน ซึ่งเป็นปลาที่มีไขมันมากพอสมควรและยังมีโอเมก้า 3 ซึ่งดีสำหรับร่างกายอีกด้วย การนำปลาแซลมอนไปนึ่ง ย่าง อบ หรือทอด ถ้าทำไม่เป็น ก็จะทำให้เนื้อปลาสุกมากจนเกินไป แล้วเมื่อเนื้อปลาชนิดนี้สุกมาก เนื้อจะแข็งกระด้าง ไม่อร่อย ฉะนั้น วิธีนำเนื้อปลาแซลมอนไปปรุงนั้นจะต้องไม่สุกมากนัก โดยข้างในต้องมีสีชมพูอยู่ จะทำให้ได้รสชาติเนื้อปลาที่หวานและไม่แข็ง
หมึกแดง
www.mcdangguide.com
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001