"ปุ้ย"ผู้ประกาศใช้ชื่อปูทางสร้างแฟรนไชส์นักเก็ตไก่ทอด

 

นักเก็ตไก่ทอด
 

ไก่ทอดนักเก็ต อาหารว่างที่ชื่นชอบของเด็กๆ ร้านจำหน่ายไก่ทอดนักเก็ตในรูปแบบของแฟรนไชส์มีให้เลือกรับประทานกันหลายแบ รนด์ ส่วนหนึ่งที่มีแฟรนไชส์ไก่ทอดนักเก็ตออกมาขายกันอย่างแพร่หลายมาจากบ้านเรา เป็นแหล่งผลิตผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สำเร็จรูปส่งออก ทำให้การเกิดแฟรนไชส์ไก่ทอดนักเก็ตจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับตลาดผู้บริโภค เมืองไทย

      
เช่นเดียวกับแฟรนไชส์ “นักเก็ตไก่ โดยคุณปุ้ย” ของผู้ประกาศสาว “พิมลวรรณ ศุภยางศ์” ซึ่ง ได้ควักกระเป๋าเปิดแฟรนไชส์นักเก็ตไก่ขึ้นมาในรูปแบบของธุรกิจครอบครัว โดยมีสามีเป็นผู้ดูแลกิจการทั้งหมด และใช้ชื่อของคุณปุ้ยเป็นเครื่องการันตีถึงคุณภาพและสร้างความน่าเชื่อถือ ให้กับแฟรนไชส์นักเก็ตไก่ทอดในครั้งนี้

ปุ้ย พิมลวรรณ ศุภยางศ์ เจ้าของแฟรนไชส์นักเก็ตไก่ โดยคุณปุ้ย
 

คุณปุ้ย เล่าว่า จุดเริ่มต้นของแฟรนไชส์ นักเก็ตไก่ของปุ้ยเกิดขึ้นมาจากลูกชาย น้องภูมิชื่นชอบการกินนักเก็ตไก่ ซึ่งถือเป็นอาหารว่างที่คนไทยคุ้นเคยดีโดยเฉพาะเด็กๆ และในปัจจุบันด้วย สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ผู้ปกครองหลายท่านอาจต้องเพิ่มภาระเมื่อบุตรหลานต้องการรับประทานนักเก็ต เพราะจะซื้อในแต่ละครั้งต้องซื้อเป็นชุด และนักเก็ตไก่ทอดที่ขายกันทั่วไป อาจจะไม่สะอาดเท่าที่ควร ซึ่งหัวอกความเป็นแม่ต้องการจะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก เชื่อว่าทุกคนที่มีลูกเหมือนกับปุ้ยก็คงคิดเช่นเดียวกัน
      
และวันหนึ่งได้มารู้จักกับบริษัทผู้ผลิตนักเก็ตไก่ส่งออกในต่าง ประเทศ และมีโอกาสได้รู้จักกับเจ้าของผู้ส่งออกนักเก็ตไก่แช่แข็งดังกล่าว พร้อมกับได้ทดสอบรสชาติคุณภาพและคุณลักษณะพิเศษของสินค้า เห็นว่ายังไม่เคยมีนักเก็ตไก่ทอดที่มีรสชาติเช่นนี้ เคยขายในประเทศไทยมาก่อน และในกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน จึงได้ตัดสินใจเข้ามาทำธุรกิจนี้ และติดต่อขอเป็นตัวแทนขายในประเทศไทย และเปิดขายแฟรนไชส์ในที่สุด
 

 

สาเหตุที่ตัดสินใจเปิดขายแฟรนไชส์ ส่วนหนึ่งมาจากเห็นว่าปัจจุบัน มีคนว่างงาน และนักศึกษาจบใหม่จำนวนมาก บางครั้งไม่สามารถหางานประจำทำได้ และบางคนก็ต้องการจะมีกิจการเป็นของตัวเอง ตรงนี้น่าจะเป็นทางเลือกให้กับคนเหล่านี้ได้ เพราะจากการที่ได้ทดลองตลาด โดยการออกงานแสดงสินค้า ลูกค้าให้ความสนใจ และซื้อกินกันเป็นจำนวนมาก จากการออกงานแสดงสินค้าครั้งแรก 3 วันสามารถขายได้ถึง 500 กิโลกรัม และผลตอบรับที่ดีมากทำให้เรามั่นใจในการขายแฟรนไชส์ให้กับผู้สนใจนำไปทำ ธุรกิจ
      
สำหรับรูปแบบของแฟรนไชส์ มี 3 แบบด้วยกัน คือ แบบพรีเมี่ยมคีออส ราคา 37,000 บาท ได้ตู้คีออสแบบพรี่เมียม เตาทอดไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์การขายครบชุด และนักเก็ตไก่ 10 กิโลกรัม แบบที่2 แบบคีออสสแตนดาดราคา 30,000 บาท มี เตาทอดไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์การขายครบชุด และนักเก็ตไก่ 10 กิโลกรัม แบบที่ 3 แบบประหยัด ราคา 15,000 บาท ป้ายไวนิล นักเก็ตไก่ 10 กิโลกรัม พร้อมอุปกรณ์ครบชุด ซึ่งทั้ง 3 แบบไม่รวมราคาตู้แช่ ธงญี่ปุ่น และค่าขนส่ง ที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ตจะต้องจ่ายเพิ่ม
      
โดยในช่วงแรกจะมีการเรียกเก็บค่าแฟรนไชส์รายปี ปีละ 10,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการทำประชาสัมพันธ์ ค่าดำเนินการ ส่วนหนึ่งเหมือนเป็นค่าตัวคุณปุ้ย เพราะคุณปุ้ยต้องใช้ตัวเองมาเป็นพรีเซนเตอร์การันตีคุณภาพสินค้า ซึ่งมีความเสี่ยงสูงถ้าเกิดความผิดพลาด
 

 

นอกจากนี้ ในส่วนของนักเก็ตไก่แช่แข็ง ทางผู้ซื้อแฟรนไชส์สามารถจำหน่ายได้ด้วย ในราคาขายปลีกกิโลกรัมละ 180 บาท ซึ่งที่ผ่านมาลูกค้าให้ความสนใจซื้อกลับไปทอดเองที่บ้าน เพราะสามารถทอดได้โดยใช้กระทะอะไรก็ออกเหมือนกับทอดที่ร้าน ปัจจุบันมีลูกค้าที่ซื้อแฟรนไชส์ไปแล้วมากกว่า 10 สาขา ตามหัวเมืองใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ หนองคาย ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต และตามสถาบันการศึกษาต่างๆ ในกรุงเทพฯ โดยตั้งเป้าทั้งปีน่าจะขยายสาขาได้ถึง 50 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
      
ส่วนราคาขายปลีกหน้าร้าน ชิ้นละ 6 บาท หรือขายเป็นชุด ชุดเล็ก 5 ชิ้น 30 บาท และชุดใหญ่ 10 ชิ้น 60 บาท บาท (ขึ้นอยู่กับสถานที่ขาย) ราคาต่อ1 ถุงนักเก็ตไก่แช่แข็ง 180 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม กลุ่มลูกค้ามีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ แต่สำหรับแฟรนไชส์ที่เปิดขายในขณะนี้ มีลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ซึ่งเขาคุ้นเคยกันดี พอมาเมืองไทย ก็ซื้อกินกัน และด้วยราคาค่อนข้างสูง การเลือกทำเลในการขายก็มีส่วนสำคัญ เพราะด้องดูกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อพอสมควร ซึ่งวางกลุ่มลูกค้าไว้ที่กลุ่มระดับบีขึ้นไป
 

 

สำหรับการขยายสาขาในแต่ละแห่ง เราจะต้องมีการพิจารณา เพื่อว่าจะได้ไม่อยู่ใกล้กันเกินไป เพื่อจะได้ไม่ไปแย่งลูกค้ากันเอง ส่วนการเก็บค่าแฟรนไชส์รายปี ถ้ามียอดขายในระดับหนึ่ง พอกับค่าบริการจัดการก็อาจจะไม่เก็บค่าแฟรนไชส์รายปี ส่วนการสั่งสินค้าแต่ละครั้งไม่ได้จำกัดจำนวน ลูกค้าสามารถสั่งเท่าไหร่ก็ได้ การส่งสินค้าส่งผ่านรถทัวร์ รถไฟ เครื่องบิน แล้วแต่ความสะดวกของลูกค้าเป็นหลักด้วย ส่วนโอกาสคืนทุนนั้น คุณปุ้ยมองไว้ว่าไม่น่าจะเกิน 6 เดือน
      
โทร. 086-078-9333, 0-2946-1494-5


ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์

ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/

adv001