ท่ามกลางอุณหภูมิที่กำลังเพิ่มองศาขึ้นทุกขณะ
หลายคนอาจมีรูปแบบคลายร้อนต่างกัน บ้างก็นึกถึงทะเล
หรือไม่ก็เครื่องปรับอากาศเย็น ๆ เพื่อนอนแช่ให้ชุ่มฉ่ำปอด
และหนึ่งในวิธีฮิตติดท็อปที่ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี นั่นคือ
การหาของกินเย็น ๆ ใส่ท้องเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย วันนี้ทีมงาน
“ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลวิธีคลายร้อนมานำเสนอ
กับเมนูแปรรูปผลไม้หน้าร้อนอย่างเช่น “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า”
อีกสูตรพิเศษของ คณะคหกรรมศาสตร์
สาขาวิชาอาหารและโภชนาการมาให้พิจารณากัน...
ผู้ถ่ายทอดสูตร “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า” เป็นนักศึกษาสาวจากสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี รุ่ง กัทรา ชาวแพรกน้อย, วิไลลักษณ์ ศิริรุ่ง เรืองกุล และ อาภาวรรณ จันทาบ ควบคุมดูแลโดย ผศ.มาริน สาลี อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรมศาสตร์ฯ อธิบายถึงที่มาของสูตรดังกล่าวว่า “เชอร์เบท” เป็นไอศกรีมอีกแบบหนึ่ง ที่มีส่วนผสมหลัก ๆ คือ นํ้าตาล นํ้าผลไม้ และเนื้อผลไม้ สาว ๆ ยุคใหม่จะชอบกินไอศกรีมชนิดนี้ เพราะมีส่วนผสมของนมเพียงเล็กน้อย หรืออาจไม่มีเลย ทำให้ไม่อ้วน จึงคิดใส่ไอเดียความ เป็นไทยลงไปในไอศกรีมเชอร์เบท ด้วยการนำเอาผลไม้ไทยอย่าง “ลูกหว้า” มาแปรรูป เพื่อทดแทนการนำเข้าผลไม้จาก ต่างประเทศ...
“ปกติลูกหว้าจะนำไปทานกันสด ๆ หรือไม่ก็นำไปแปรรูปเป็นไวน์ จึงคิดเอาลูกหว้าไปแปรรูปทำเป็นไอศกรีมเชอร์เบท เนื่องจากลูกหว้าเป็นผลไม้ไทยที่หาได้ง่าย ราคาถูก และยังมีคุณประโยชน์กับสรรพคุณทางยา ช่วยแก้โรคเบาหวาน แก้บิด แก้ท้องร่วง รวมถึงลดการจับตัวของลิ่มเลือด ที่สำคัญคือ ยังไม่มีการแปรรูปเป็นไอศกรีม จึงคิดที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลไม้ชนิดนี้ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ชื่นชอบไอศกรีมรสชาติอมเปรี้ยวอมหวานฝาดนิด ๆ ตามธรรมชาติด้วย”
อุปกรณ์ มีเครื่องปั่นผลไม้, เครื่องทำไอศกรีม, กะละมัง และเครื่องไม้เครื่องมืออื่น ๆ จากในครัว
ส่วนผสม มีเนื้อลูกหว้า 375 กรัม, เจลาตินแผ่น 2 แผ่น, นํ้าตาลทรายขาว 250 กรัม, นมผง 15 กรัม, นํ้าสะอาด125 กรัม, นํ้ามะนาว 44 กรัม หรือ 4 ช้อนโต๊ะ และนํ้าแข็ง 100 กรัม
ขั้นตอนการทำ “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า”
เริ่มจากนำเนื้อลูกหว้าสดที่เตรียมไว้ใส่หม้อสเตนเลส เติมนํ้าตาลทราย นมผง และนํ้าสะอาดลงในหม้อ จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อน ๆ ทำการคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ตีประมาณ 5 นาที ไม่ต้องรอให้เดือด เพราะจะทำให้สีของลูกหว้าเปลี่ยน พอนมผงและนํ้าตาลทรายละลายดีแล้วยกลงจากเตา นำเจลาตินแผ่นที่เตรียมไว้ใส่ลงไปคนให้ละลาย ปล่อยทิ้งให้ส่วนผสมเย็น
เมื่อส่วนผสมเย็นดีแล้ว ใส่นํ้ามะนาวที่เตรียมไว้ลงไปเพื่อเพิ่มวิตามินซี และทำให้เกิดความเปรี้ยว จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นให้เนื้อเนียน โดยใช้ความเร็วปานกลาง ประมาณ 10 วินาที แล้วเทใส่ภาชนะพักไว้สักครู่
นำนํ้าแข็งที่เตรียมไว้มาปั่นให้ละเอียด เสร็จแล้วนำส่วนผสมลูกหว้าที่ปั่นไว้เมื่อครู่เทลงในเครื่องปั่น ปั่นรวมกันอีกรอบเพื่อให้นํ้าแข็งกับส่วนผสมเข้ากันดี ปั่นให้เนื้อละเอียดเนียนเหมือนนํ้าแข็งปั่น ลักษณะสีสม่ำเสมอนวลสวย (ทั้งนี้ หากนำส่วนผสมที่ทำไว้ไปแช่แข็ง ประมาณ 1-2 คืนจะทำให้เนื้อลูกหว้ามีความเป็นไอศกรีมเพิ่มมากขึ้น)
จากนั้นเทส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องทำไอศกรีม ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที หรือนำมาบรรจุใส่ถ้วยกระดาษ เพื่อแช่แข็งยืดอายุในการเก็บรักษาให้ยาวนาน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ไอศกรีมรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ รสชาติไทยแท้ ๆ อร่อยไม่เลี่ยนแบบใส่นมใส่ครีมด้วย
เคล็ดลับการเก็บรักษา ให้เนื้อไอศกรีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสีและด้านเนื้อสัมผัส ด้วยถ้วยกระดาษ ขนาด 4 ออนซ์ หรือถ้วยกระดาษที่มีนํ้าหนักเบา ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า มีราคาอยู่ที่ถ้วยละ 25 บาท ต้นทุน 10 บาท
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทานได้ทุกเพศทุกวัย กินคลายร้อนก็ได้ นำไปประกอบอาชีพทำขายก็ดูดี หากสนใจอยากจะลองฝึกทำ “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.มาริน สาลี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ภาควิชาอาหารและโภชนาการ โทร.0-2549-3160-61 หรือ 08-4094-8222 ซึ่งทางอาจารย์ก็ยังมีสูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจอีกหลายชนิด.
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ
คู่มือลงทุน...เชอร์เบทลูกหว้า
ทุนเบื้องต้น 3,000 บาท
หมุนเวียน 40% ของราคา
รายได้ ราคา 25 บาท/ชุด
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด ร้านเครื่องดื่ม-ไอศกรีม, ตลาด
จุดน่าสนใจ ดีต่อสุขภาพเป็นจุดขาย
credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/233062/‘เชอร์เบทลูกหว้า’+ทำกินง่าย...ทำขายก็ดี!
ผู้ถ่ายทอดสูตร “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า” เป็นนักศึกษาสาวจากสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี รุ่ง กัทรา ชาวแพรกน้อย, วิไลลักษณ์ ศิริรุ่ง เรืองกุล และ อาภาวรรณ จันทาบ ควบคุมดูแลโดย ผศ.มาริน สาลี อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรมศาสตร์ฯ อธิบายถึงที่มาของสูตรดังกล่าวว่า “เชอร์เบท” เป็นไอศกรีมอีกแบบหนึ่ง ที่มีส่วนผสมหลัก ๆ คือ นํ้าตาล นํ้าผลไม้ และเนื้อผลไม้ สาว ๆ ยุคใหม่จะชอบกินไอศกรีมชนิดนี้ เพราะมีส่วนผสมของนมเพียงเล็กน้อย หรืออาจไม่มีเลย ทำให้ไม่อ้วน จึงคิดใส่ไอเดียความ เป็นไทยลงไปในไอศกรีมเชอร์เบท ด้วยการนำเอาผลไม้ไทยอย่าง “ลูกหว้า” มาแปรรูป เพื่อทดแทนการนำเข้าผลไม้จาก ต่างประเทศ...
“ปกติลูกหว้าจะนำไปทานกันสด ๆ หรือไม่ก็นำไปแปรรูปเป็นไวน์ จึงคิดเอาลูกหว้าไปแปรรูปทำเป็นไอศกรีมเชอร์เบท เนื่องจากลูกหว้าเป็นผลไม้ไทยที่หาได้ง่าย ราคาถูก และยังมีคุณประโยชน์กับสรรพคุณทางยา ช่วยแก้โรคเบาหวาน แก้บิด แก้ท้องร่วง รวมถึงลดการจับตัวของลิ่มเลือด ที่สำคัญคือ ยังไม่มีการแปรรูปเป็นไอศกรีม จึงคิดที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลไม้ชนิดนี้ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ชื่นชอบไอศกรีมรสชาติอมเปรี้ยวอมหวานฝาดนิด ๆ ตามธรรมชาติด้วย”
อุปกรณ์ มีเครื่องปั่นผลไม้, เครื่องทำไอศกรีม, กะละมัง และเครื่องไม้เครื่องมืออื่น ๆ จากในครัว
ส่วนผสม มีเนื้อลูกหว้า 375 กรัม, เจลาตินแผ่น 2 แผ่น, นํ้าตาลทรายขาว 250 กรัม, นมผง 15 กรัม, นํ้าสะอาด125 กรัม, นํ้ามะนาว 44 กรัม หรือ 4 ช้อนโต๊ะ และนํ้าแข็ง 100 กรัม
ขั้นตอนการทำ “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า”
เริ่มจากนำเนื้อลูกหว้าสดที่เตรียมไว้ใส่หม้อสเตนเลส เติมนํ้าตาลทราย นมผง และนํ้าสะอาดลงในหม้อ จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อน ๆ ทำการคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ตีประมาณ 5 นาที ไม่ต้องรอให้เดือด เพราะจะทำให้สีของลูกหว้าเปลี่ยน พอนมผงและนํ้าตาลทรายละลายดีแล้วยกลงจากเตา นำเจลาตินแผ่นที่เตรียมไว้ใส่ลงไปคนให้ละลาย ปล่อยทิ้งให้ส่วนผสมเย็น
เมื่อส่วนผสมเย็นดีแล้ว ใส่นํ้ามะนาวที่เตรียมไว้ลงไปเพื่อเพิ่มวิตามินซี และทำให้เกิดความเปรี้ยว จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นให้เนื้อเนียน โดยใช้ความเร็วปานกลาง ประมาณ 10 วินาที แล้วเทใส่ภาชนะพักไว้สักครู่
นำนํ้าแข็งที่เตรียมไว้มาปั่นให้ละเอียด เสร็จแล้วนำส่วนผสมลูกหว้าที่ปั่นไว้เมื่อครู่เทลงในเครื่องปั่น ปั่นรวมกันอีกรอบเพื่อให้นํ้าแข็งกับส่วนผสมเข้ากันดี ปั่นให้เนื้อละเอียดเนียนเหมือนนํ้าแข็งปั่น ลักษณะสีสม่ำเสมอนวลสวย (ทั้งนี้ หากนำส่วนผสมที่ทำไว้ไปแช่แข็ง ประมาณ 1-2 คืนจะทำให้เนื้อลูกหว้ามีความเป็นไอศกรีมเพิ่มมากขึ้น)
จากนั้นเทส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องทำไอศกรีม ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที หรือนำมาบรรจุใส่ถ้วยกระดาษ เพื่อแช่แข็งยืดอายุในการเก็บรักษาให้ยาวนาน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ไอศกรีมรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ รสชาติไทยแท้ ๆ อร่อยไม่เลี่ยนแบบใส่นมใส่ครีมด้วย
เคล็ดลับการเก็บรักษา ให้เนื้อไอศกรีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสีและด้านเนื้อสัมผัส ด้วยถ้วยกระดาษ ขนาด 4 ออนซ์ หรือถ้วยกระดาษที่มีนํ้าหนักเบา ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า มีราคาอยู่ที่ถ้วยละ 25 บาท ต้นทุน 10 บาท
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทานได้ทุกเพศทุกวัย กินคลายร้อนก็ได้ นำไปประกอบอาชีพทำขายก็ดูดี หากสนใจอยากจะลองฝึกทำ “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.มาริน สาลี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ภาควิชาอาหารและโภชนาการ โทร.0-2549-3160-61 หรือ 08-4094-8222 ซึ่งทางอาจารย์ก็ยังมีสูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจอีกหลายชนิด.
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ
คู่มือลงทุน...เชอร์เบทลูกหว้า
ทุนเบื้องต้น 3,000 บาท
หมุนเวียน 40% ของราคา
รายได้ ราคา 25 บาท/ชุด
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด ร้านเครื่องดื่ม-ไอศกรีม, ตลาด
จุดน่าสนใจ ดีต่อสุขภาพเป็นจุดขาย
credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/233062/‘เชอร์เบทลูกหว้า’+ทำกินง่าย...ทำขายก็ดี!
ขายของได้ทุกที่ บนรถขายขายของเคลื่อนที่ ได้ทั้งของกินและเครื่องดื่ม
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
ตัวอย่างอาชีพค้าขายที่ไม่ง้อทำเล(รูป)ตอน 1-12
download ...http://commercial-on-wheels.blogspot.com/
adv001