สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

“ตูมตามกล้วยปิ้ง” จับแต่งตัวสไตล์คนรุ่นใหม่ จุดขายน้ำจิ้มเนื้อมะพร้าว


       ปัจจุบันการดำเนินชีวิตของคน รุ่นหลังเริ่มเปลี่ยนไป พอมาถึงยุคนี้ สถาบันการศึกษาคงไม่ได้มุ่งที่จะสอนให้คนออกมารับราชการ หรือเป็นมนุษย์เงินเดือน เพราะที่ผ่านมาประเทศที่พัฒนาแล้ว เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปได้ด้วยการที่คนส่วนใหญ่ออกมาประกอบอาชีพ หรือ เป็นเจ้าของกิจการ SMEs
       

    
       พอถึงวันนี้ คนไทยที่เป็นรุ่นใหม่เองก็คงจะต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเป็นเจ้าของกิจการ ตั้งแต่เรียนจบ เพราะโอกาสที่จะได้เข้าทำงานบริษัทที่ดี กิจการ มั่นคง เงินเดือนดี หรือรับราชการ ก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยาก ด้วยเหตุนี้ทำให้เราได้เห็นผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ออกมาโลดแล่นอยู่บนถนน แห่งความเป็นจริง ซึ่งมีทั้งที่เป็นกิจการขนาดเล็กมากๆ ไปจนถึงกิจการขนาดใหญ่ขึ้นมา
“ตูมตามกล้วยปิ้ง” จับแต่งตัวสไตล์คนรุ่นใหม่ จุดขายน้ำจิ้มเนื้อมะพร้าว
รถเข็นที่ตกแต่งสะดุดตา
       ประยุกต์เรียนโภชนการอาหาร
       ปรับกล้วยปิ้งแบบฉบับคนรุ่นใหม่
    
       วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ ร้าน “กล้วยปิ้ง ตูมตาม” ที่เลือกร้านนี้มาถ่ายทอดประสบการณ์ สู่คนอ่านเพราะเห็นถึงความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของ “ตูม” หรือ “ชินณุพงศ์ ชาญปรีชา” คนรุ่นใหม่ ที่ น่าจะเป็นตัวอย่างของการไม่เลือกหรือเกี่ยงที่จะมีอาชีพเพื่อจะมีรายได้ และไม่เป็นภาระทางบ้าน ถ้าวันนี้ไปบอกว่าน้องๆ เรียนจบมาและมาขายกล้วยปิ้ง เชื่อว่าทุกคนก็คงจะไม่ทำ แม้ว่ารายได้จะดีก็ตาม แต่สำหรับ “ตูม” ไม่ใช่ เพราะอะไรที่สร้างรายได้ให้ตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพา “น้า” ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กได้ เขาก็จะทำ
“ตูมตามกล้วยปิ้ง” จับแต่งตัวสไตล์คนรุ่นใหม่ จุดขายน้ำจิ้มเนื้อมะพร้าว

       ทั้งนี้ ด้วยความที่เป็นคนรุ่นใหม่ และได้รับการสนับสนุนไอเดียร่วมกับน้า ทำให้ตูมทำกล้วยปิ้งออกมาแบบไม่ธรรมดา จุดแรกที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนคือ รูปแบบเคาน์เตอร์ด้านหน้าร้าน และสิ่งที่เราเห็นตามมานั่นคือ ไอเดียของกาแฟถุงกระดาษ ได้ ถูกหยิบมาใช้เป็นถุงกล้วยปิ้ง และถ้วยกระดาษร้านน้ำแข็งไสก็ถูกนำมาใช้เป็นภาชนะใส่กล้วยปิ้ง ทุกอย่างดูลงตัว ทำให้กล้วยปิ้งตูมตามไม่ธรรมดาตั้งแต่แรกเห็น
“ตูมตามกล้วยปิ้ง” จับแต่งตัวสไตล์คนรุ่นใหม่ จุดขายน้ำจิ้มเนื้อมะพร้าว
เตาปิ้งไฟฟ้าช่วยควบคุมอุณหภูมิ
       อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดที่กล่าวมาก็คงเป็นเพียงแค่สิ่งที่ฉาบหน้าเอาไว้เท่านั้น เพราะ สิ่งที่ทำให้กล้วยปิ้งของตูมตามได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตั้งแต่สัปดาห์ แรกที่นำออกมาขายอยู่ที่ตัว “น้ำจิ้ม” เพราะตูม และน้าช่วยกันคิดสูตรน้ำจิ้ม เชื่อว่าไม่เหมือนใคร เพราะใช้วัตถุดิบ อย่างดี และสด ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลที่เลือกใช้น้ำตาลโตนดอย่างดี ราคากิโลกรัมละเป็นหลักร้อย หรือ มะพร้าวก็จะใช้มะพร้าวที่ทำกันสดๆ แบบวันต่อวัน
“ตูมตามกล้วยปิ้ง” จับแต่งตัวสไตล์คนรุ่นใหม่ จุดขายน้ำจิ้มเนื้อมะพร้าว
ใส่ถุงกระดาษสีน้ำตาล สไตล์กาแฟถุงเก็บความร้อน
       เนื่องจากร้านเปิดขายอยู่ที่อำเภอนครชัยศรี และเป็นบ้านเกิด ประกอบกับสามารถหาวัตถุดิบมะพร้าว กล้วย ได้ในราคาไม่แพง และได้ของสดใหม่ทุกวันจากสวนที่อยู่ใกล้ๆ บ้าน ดัง นั้น เพื่อไม่ให้เหมือนใคร นอกจากรสชาติที่เป็นแบบฉบับของกล้วยปิ้งตูมตามแล้ว เขายังได้ใส่เนื้อมะพร้าวลงไปในน้ำจิ้ม ทำให้เมื่อนำมาราดบนกล้วยปิ้งก็จะได้กินเนื้อมะพร้าวด้วย และมันเข้ากันได้อย่างลงตัว ซึ่งเชื่อว่ายังไม่เคยมีใครได้ทำมาก่อน
“ตูมตามกล้วยปิ้ง” จับแต่งตัวสไตล์คนรุ่นใหม่ จุดขายน้ำจิ้มเนื้อมะพร้าว
"ตูม" "ชินณุพงศ์ ชาญปรีชา"
       ตูมเล่าว่า เขาได้เรียนจบด้านโภชนาการอาหาร แต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาทำอาหาร หรือ ปิ้งกล้วยขาย แต่ตรงนี้เกิดจากความที่ครอบครัว และน้าชอบทำอาหาร และกล้วยปิ้งเป็นอาหารที่ทำกินง่าย และบ้านเราก็มีกล้วยที่ไม่ต้องลงทุนไปหาซื้อมาจากที่ไหน และที่สำคัญกล้วยปิ้งเป็นเมนูที่คนไทยชื่นชอบ ใครก็สามารถกินกล้วยปิ้งได้ เพียงแค่ปรับเมนูแบบชาวบ้านให้มันดูดี และอร่อย ในแบบของเราได้
“ตูมตามกล้วยปิ้ง” จับแต่งตัวสไตล์คนรุ่นใหม่ จุดขายน้ำจิ้มเนื้อมะพร้าว
       แล้วก็ไม่ผิดหวัง เพราะเพียงแค่ 3 สัปดาห์หลังจากที่ทำออกขายได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี วันหนึ่งสามารถมีกำไรไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท และน้าจะเป็นคนออกทุนให้ เพื่อให้เรามีรายได้ พอได้กำไรเท่าไร เราก็นำไปฝากธนาคาร พอมาถึงวันนี้ตูมบอกว่าเขามีเงินเก็บกว่า 20,000 บาทจากการขายกล้วยปิ้งไม่ถึง 1 เดือน กลุ่มลูกค้า เริ่มจากคนที่มาพบเห็น เพราะร้านเปิดขายอยู่ที่ตลาดท่านา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ต่อมาเริ่มได้ลูกค้าประจำจากคนในย่านนั้น และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวที่ตลาดท่านา เพราะที่นั่นมีจุดขายตรงที่เป็นตลาดเก่า และมีร้านอาหารอร่อยที่ขึ้นชื่อหลายร้าน
“ตูมตามกล้วยปิ้ง” จับแต่งตัวสไตล์คนรุ่นใหม่ จุดขายน้ำจิ้มเนื้อมะพร้าว
       ตูมเล่าว่า แรกไม่คิดว่าจะทำจริงจังอะไร เพราะน้าอยากให้เราเฝ้าร้านขายของเก่าที่เปิดขายอยู่ แต่นั่งเฝ้าร้านก็ไม่มีรายได้อะไรเพิ่มขึ้นมา ก็เลยคิดว่าน่าจะลองทำอะไรขายดู และก็มาจบตรงกล้วยปิ้ง เพราะหาวัตถุดิบง่าย และไม่ต้องลงทุนสูง ซึ่งราคา ขายอยู่ที่ถ้วยละ หรือถุงละ 25 บาท กล้วยลูกใหญ่ 4 ลูก แต่ถ้าเป็นลูกเล็ก 5-6 ลูก พร้อมน้ำจิ้ม วันหนึ่งขายได้กี่ชุดนั้นไม่ได้นับ แต่รู้ว่าใช้กล้วยประมาณ 10-15 หวี หวีหนึ่งประมาณ 15-16 ลูก ซึ่งรายได้ อยู่ในระดับที่เราพอใจกับการเปิดตัวครั้งแรก
“ตูมตามกล้วยปิ้ง” จับแต่งตัวสไตล์คนรุ่นใหม่ จุดขายน้ำจิ้มเนื้อมะพร้าว
       ตูมพูดแผนในอนาคตว่า เราเองกลัวว่าลูกค้าจะเบื่อ น้ำ จิ้มแบบนี้ จึงมีไอเดียที่จะทำน้ำจิ้มรสชาติอื่นๆ ออกมาที่สามารถไปกับกล้วยปิ้งของเราได้ เช่น รสช็อกโกแลต โอวัลติน แผนในอนาคตที่วางไว้ ที่สำคัญก็คือ ต้องทดลองชิมก่อนว่าจะไปกันได้กับกล้วยปิ้งของเราหรือเปล่า
    
       โทร. 09-1224-6056

credit by : http://www.manager.co.th/iBizchannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000034020

Read More...


น่ากินได้อีก!! เมนูไข่ม้วน อร่อย หน้าตาดี ทำง่าย ๆ ได้ประโยชน์


วันนี้ขอชวนเพื่อน ๆ มาทำกับข้าวค่ะ เป็นเมนูง่าย ๆ ที่สามารถทำได้กันทุกคนแน่นอน คือ ไข่ม้วน แต่จะให้เป็นไข่อย่างเดียวก็ดูกระไรอยู่ ขอเพิ่มโปรตีน และวิตามินจากผักซักหน่อย หรือหากเพื่อน ๆ อยากจะเคลียร์ตู้เย็นก็เอามาเป็นส่วนผสมในไข่ม้วนก็ได้นะคะ แต่ในวันนี้เราขอเสนอเมนูไข่ม้วนที่มีส่วนผสมง่าย ๆ ดังนี้
  1. ไข่ไก่
  2. ต้นหอม
  3. แฮม/โบโลน่า
  4. เครื่องปรุงรส (ตามชอบเลยจ้า)

วิธีทำไข่ม้วนอร่อย ๆ

เมนูไข่ม้วนทำเอง

ขั้นแรก ให้เพื่อน ๆ ล้างต้นหอมให้สะอาด หั่นต้นหอม และแฮมเป็นชิ้นเล็ก ๆ หากเพื่อน ๆ อยากจะใส่ผัก หรือเนื้ออื่น ๆ เข้าไปก็ได้ค่ะ แต่เน้นว่าต้องหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ และเล็ก ๆ เพื่อให้สะดวกต่อการม้วน วันก่อนแอดมินทอดไข่กับใบมะรุมก็อร่อยดีเหมือนกันค่ะ ลองเอามาใส่ดูก็ได้นะคะ จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดมาใส่ในถ้วยไข่ไก่ที่เราตอกไว้ ตีให้ส่วนผสมเข้ากัน


เมนูไข่ม้วนทำเอง

ตั้งกระทะก้นแบนทาน้ำมันให้ทั่วทั่วกระทา จากนั้นให้เทส่วนผสมลงกระทะให้เป็นแผ่นหนาพอประมาณ รอให้ไข่สุกจากนั้นทำการม้วนไข่ไปทางซ้ายตามตัวอย่างในรูป

เมนูไข่ม้วนทำเอง

เมื่อได้ไข่ม้วนในชั้นที่ 1 แล้ว เรามาเพิ่มความหนาให้กับไข่ม้วนด้วยการเลื่อนไข่ม้วนไปทางด้านข้างกระทะ แล้วเทส่วนผสมลงไปในพื้นที่ที่เหลือ ให้มีความหนาประมาณเดียวกันกับขั้นแรก รอให้สุก แล้วม้วนไข่ให้สวยงาม

เมนูไข่ม้วนทำเอง

เมื่อได้ความหนาของไข่ม้วนตามความต้องการของเพื่อน ๆ แล้ว ให้นำมาตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ จัดแต่งบนจานให้สวยงามน่ากิน ก็จะได้เมนูไข่ม้วน อร่อย ๆ ดูดีเหมือนสั่งกินที่ร้านมาทานกับข้าวสวยร้อน ๆ แล้วล่ะค่ะ ถือเป็นเมนูที่ทำได้ง่าย ๆ และได้ประโยชน์อีกด้วย

credit by :  http://www.gdsweet.com/น่ากิน-เมนูไข่ม้วน-ง่าย/

Read More...


สยามชีสเค้กแบบไม่อบ (วิธีทำ)



1.ผสมทองม้วน งา และเนยให้เข้ากัน นำมากรุลงในพิมพ์ให้แน่น แช่เย็นพักไว้ให้แข็งตัว

2.แช่เจลาตินในน้ำมะนาวให้พองตัว นำไปตั้งในน้ำร้อนหรือเข้าไมโครเวฟให้ละลายเข้ากัน พักไว้

3.ตีครีมชีสกับคอตเทจครีมให้เข้ากัน พักไว้

4.คนน้ำตาลกับไข่ให้ละลายเข้ากันด้วยตะกร้อมือ พักไว้

5.ผสมวิปปิ้งครีมและนมให้เข้ากัน นำไปอุ่นให้ร้อนแต่ไม่เดือด ค่อยๆ เทลงผสมกับส่วนผสมไข่ข้อ 4 ทีละน้อย คนด้วยตะกร้อมือเร็วๆ ให้เข้ากัน เทใส่ลงหม้อ เติมผิวมะนาว ยกขึ้นตั้งไฟอ่อนคนส่วนผสมจนข้นขั้น ปิดไฟ ยกลงใส่เจลาตินที่ละลายไว้ในข้อ 2 ลงไป คนให้เข้ากันเติมชีสที่ตีไว้ในข้อ 3 ลงไป คนให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอนตาถี่หากมีเศษชีสให้บี้ผ่านกระชอนลงไปให้หมด

6.เทส่วนผสมใส่ในพิมพ์ที่กรุฐานทองม้วนไว้ในข้อ 1 เขย่าพิมพ์เล็กน้อยให้ส่วนผสมเรียบเสมอกัน นำไปแช่เย็นอย่างน้อย 6 ชั่วโมงให้ขนมเซตตัว แกะออกจากพิมพ์โดยใช้มีดแซะเค้กที่ติดขอบพิมพ์ แล้วถอดเค้กออกจากพิมพ์ ตัดชิ้น แต่หน้าด้วยทองม้วนชุบไวท์ช็อกโกแลตและงาขาวก่อนเสิร์ฟ

Tip
- การกรองส่วนผสมจะช่วยให้เนื้อขนมเนียมละเอียด
- ถ้าหาคอตเทจชีสไม่ได้ ใช้ครีมชีสแทนในอัตราส่วนที่เท่ากัน แต่รสชาติจะไม่นุ่มนวลเท่าคอตเทจชีส
- หากชอบชีสเค้กรสเปรี้ยว สามารถเติมน้ำมะนาวเพิ่มเล็กน้อยได้
- ใช้น้ำมะนาวแช่เย็นจะช่วยให้เจลาตินพองตัวดี ง่ายต่อการนำไปละลาย
- ใช้พิมพ์ถอดก้นทรงกลมขนาด 2.5 - 3 ปอนด์ (เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 9 นิ้ว) แทนได้"

credit by :  http://www.megazy.com/#BID1-58969

Read More...


คุกกี้ทรัฟเฟิลไส้เนยถั่ว อร่อยได้ไม่ใช้เตาอบ


พูดถึงสูตรทำขนมหรืออาหารอร่อยๆ ที่ต้องใช้เตาอบทีไร หลายคนที่ยังตัดใจซื้อเตาอบไม่ได้ ก็ต้องแอบถอนใจเบาๆ ทุกที ไม่เป็นไรค่ะ บ้านไหนไม่มีเตาอบไม่ต้องเสียใจไปนะคะ วันนี้ Blisby เอาสูตรคุกกี้ทรัฟเฟิลไส้เนยถั่วแบบไม่ต้องอบมาฝาก ถึงหน้าตาจะเป็นก้อนกลมๆ คล้ายช็อกบอลที่เราคุ้นเคย แต่ส่วนผสมต่างกันลิบลับเลยค่ะ เพราะเราคัดเลือกเฉพาะส่วนผสมไขมันต่ำเอาใจสาวๆ สมัยนี้ที่รักสุขภาพ อย่างเช่นข้าวโอ๊ต อินทผลาลัมแห้ง หรือเนยถั่ว (Peanut butter) บางคนอาจสงสัยว่า เนยถั่วนี่หรอไม่อ้วน! อันที่จริงแล้ว เนยถั่วแสนอร่อยเป็นเมนูสุดยอดที่ช่วยลดน้ำหนักได้ดีมาก ให้พลังงานสูง และอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายกว่า 30 ชนิดค่ะ เพราะว่าไขมันในเนยถั่วเป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัว ซึ่งทำให้ทานแล้วไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มและยังช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้น เลือดได้อีกด้วย ประโยชน์มากมายขนาดนี้ สาวๆ ที่ชื่นชอบของหวานแต่กลัวอ้วน รีบจดสูตรคุกกี้กันเลยค่ะ!

ส่วนผสมสำหรับทำคุกกี้ 14 ชิ้น

คุกกี้ทรัฟเฟิลไส้เนยถั่ว 1 ชิ้นให้พลังงาน 147 กิโลแคลอรี มีไขมัน 7 กรัม คาร์โบไฮเดรต 17 กรัม น้ำตาล 10 กรัม โซเดียม 25 มิลลิกรัม ไฟเบอร์ 2.5 กรัม และโปรตีน 4.2 กรัม
ไส้คุกกี้
  • ข้าวโอ๊ตแบบเต็มเมล็ด (Rolled oats) 1/4 ถ้วยตวง (ข้าวโอ๊ตแบบนี้จะไม่มีโปรตีนกลูเตนค่ะ)
  • อินทผลาลัมแห้งแบบแกะเมล็ดแล้ว 2 ผล
  • อัลมอนด์แบบไม่อบ 1/2 ถ้วยตวง
  • ถั่วลิสงอบเกลือ 1/2 ถ้วยตวง
  • เนยถั่วชนิดเค็ม 1/2 ถ้วยตวง
ส่วนผสมสำหรับห่อด้านนอก
  • อินทผลาลัมแห้งแบบแกะเมล็ดแล้ว 18 ผล
  • เนยถั่วชนิดเค็ม 3 ช้อนโต๊ะ
  • ดาร์กช็อกโกแลตชิป 1/2 ถ้วยตวง (ใครที่ทานมังสวิรัติ เลือกใช้ยี่ห้อที่ไม่ผสมนมนะคะ)
  • ข้าวโอ๊ตแบบเต็มเมล็ด (Rolled oats) 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำ

  1. เริ่มทำไส้คุกกี้กันก่อนนะคะ ใส่ข้าวโอ๊ตในเครื่องผสมอาหาร ปั่นให้ละเอียดจนกลายเป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นใส่อินทผลาลัม 2 ผล และปั่นให้เป็นชิ้นเล็กๆ เหมือนกัน เสร็จแล้วตักออกจากเครื่องผสมอาหารและพักไว้ค่ะ
  2. ใส่อัลมอนด์และถั่วลิสงในเครื่องผสมอาหาร ปั่นให้ละเอียด ถ้ามีชิ้นส่วนแข็งๆ เล็กๆ เหลืออยู่บ้างก็ไม่เป็นไรค่ะ เพิ่มความกรุบกรอบเวลาทาน
    ปั่นอัลมอนด์และถั่วลิสง / add almonds and peanuts to the food processor and mix until they turn to meal
  3. ใส่เนยถั่วเพิ่มและปั่นให้เข้ากัน จากนั้นใส่ข้าวโอ๊ตที่ผสมอินทผลาลัมเมื่อสักครู่ลงไป ปั่นจนส่วนผสมทั้งหมดกลายเป็นก้อนนิ่มๆ ถ้าส่วนผสมเหลวไป ให้ใส่ข้าวโอ๊ตเพิ่ม แต่ถ้าส่วนผสมแห้งเกินไป ให้ใส่อินทผลาลัมเพิ่มค่ะ
  4. ใช้ช้อนโต๊ะตักตัวไส้คุกกี้ออกมาแบ่งเป็นก้อนเล็กๆ ปั้นเป็นก้อนกลมและวางบนถาดคุกกี้ (Cookie sheet) แต่เราไม่ได้เอาไปอบนะคะ เราเอาไปใส่ช่องฟรีซแทนค่ะ ใส่ช่องแข็งไว้ประมาณ 15 นาทีเพื่อให้ไส้คุกกี้แข็งตัว
  5. ระหว่างรอไส้คุกกี้แข็งได้ที่ มาทำส่วนที่เอาไว้ห่อด้านนอกกัน ใส่อินทผลาลัม 18 ผลในเครื่องผสมอาหาร ปั่นจนให้มีเหลือแค่ชิ้นเล็กๆ เราแนะนำให้กดปั่นประมาณ 15 ครั้งค่ะ (ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเครื่องผสมอาหารของแต่ละยี่ห้อด้วยนะคะ)
  6. ใส่ข้าวโอ๊ต ช็อกโกแลตชิป และเนยถั่ว ปั่นจนให้ส่วนผสมต่างๆ กลายเป็นชิ้นเล็กๆ เท่าๆ กัน แต่ระวังอย่าปั่นจนละเอียดหรือเละนะคะ
    ใส่ข้าวโอ๊ต ช็อกโกแลตชิป และเนยถั่ว / Add oats, chocolate chips and peanut butter
    ปั้นไส้คุกกี้เป็นก้อนกลมและวางบนถาดคุกกี้ / Scoop out small handfuls of dough and form into small balls
  7. หยิบไส้คุกกี้จากช่องฟรีซทีละ 2-3 ก้อน ที่เหลือแช่ไว้ตามเดิมค่ะ เพราะไส้จะได้ไม่ละลาย จากนั้นใช้ช้อนโต๊ะตักส่วนผสมที่เอาไว้ห่อด้านนอก รีดส่วนผสมให้เป็นแผ่นแบนและวางลงบนฝ่ามือ เอาไส้คุกกี้วางไว้ตรงกลางดังภาพ ปั้นเป็นก้อนกลมเหมือนช็อกบอล แตะน้ำเล็กน้อยเพื่อช่วยทำให้ปั้นได้ง่ายขึ้น ถ้าที่ตักมายังห่อไส้ไม่มิด ตักเพิ่มได้ค่ะ
    ปั้นส่วนผสมคุกกี้เป็นก้อนกลมเหมือนช็อกบอล / form into a ball
  8. เมื่อปั้นครบทุกลูกแล้ว จัดเรียงคุกกี้ทรัฟเฟิลบนถาดคุกกี้ และใส่กลับเข้าไปแช่ในช่องฟรีซต่อ วิธีการเก็บ สามารถใส่ไว้ในถุงซิปล็อคที่รีดอากาศออก เก็บไว้ในช่องฟรีซหรือใต้ช่องฟรีซ จะเก็บไว้ได้นานถึง 1 อาทิตย์เลยค่ะเห็นไหมคะว่าส่วนผสมแต่ละอย่างไม่มีแป้ง ไข่ นม หรือน้ำตาลเลย แถมยังทำง่ายเหมาะเป็นเมนูทานเล่นหรือขนมเสิร์ฟในงานปาร์ตี้ ใครพร้อมทานแล้ว ไปชงการแฟร้อนๆ เตรียมทานคู่กับคุกกี้ทรัฟเฟิลไส้เนยถั่วแสนอร่อยกันได้เลยค่ะคุกกี้ทรัฟเฟิลไส้เนยถั่ว / Peabut-stuffed no bake cookie bitesคุกกี้ทรัฟเฟิลไส้เนยถั่ว / Peabut-stuffed no bake cookie bites
ที่มา: minimalistbaker.com

credit by ;  http://www.blisby.com/blog/how-to-no-bake-cookies/

Read More...


‘ผัดไทยสุโขทัย’ จานร้อนรสย้อนยุค


ตามปกติ “ผัดไทย” โดยทั่วไปมีวัตถุดิบหลักเป็นเส้นจันท์ผัดกับกุยช่ายและถั่วงอกแต่ในวันนี้เพิ่มความพิเศษสักหน่อยด้วยการนำเสนอผัดไทยรูปแบบใหม่สไตล์ย้อนยุคซึ่งหยิบเอาเอกลักษณ์ของก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยมาประยุกต์ผสมผสานเข้ากับผัดไทยสูตรดั้งเดิมกลายเป็นอาหารจานใหม่ท้าทายให้ลิ้มลองเมนู “ผัดไทยสุโขทัย” ผ่านการคิดค้นและปรุงอย่างพิถีพิถันโดยเชฟหนุ่มหุ่นล่ำประจำห้องอาหารเลทเทสเรซิพี ภูมิ-ภัทระสังวาลย์ เชฟรุ่นใหม่ของโรงแรมเลอเมอริเดียน สุวรรณภูมิกรุงเทพฯ กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์สปา

“คนสุโขทัยเน้นใส่ ใบผักชีฝรั่ง กับ ถั่วฝักยาว เป็นหลักสังเกตได้จากก๋วยเตี๋ยวนั่นเองผมจึงนำสูตรเฉพาะท้องถิ่นมาใช้ในโรงแรมเป็นการอนุรักษ์อาหารพื้นบ้านหากินยากในบ้านเราโดยเพิ่มความอร่อยเต็มคำด้วยเนื้อปูแต่สูตรของผมจะแตกต่างจากที่อื่นตรงที่ น้ำมะขามเปียก คนส่วนมากทำน้ำมะขามเปียกจะใช้น้ำปลา น้ำตาลปี๊บน้ำมะขามเปียกมาเคี่ยวรวมกันแต่ผมเอาหัวหอมแดงซอยเจียวในน้ำมันก่อนเพื่อให้มีกลิ่นหอมฉุยแตะจมูกแล้วค่อยใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก ตามปกติผลลัพธ์คือมีกลิ่นหัวหอมแดงเคล้ากลิ่นคั่ว” เชฟหนุ่มวัย 29 ปีที่เบนเข็มชีวิตจากนักศึกษาวิศวะปิโตรเคมีมาเส้นทางสายบริหารจัดการครัวและห้องอาหารของวิทยาลัยดุสิตธานีเพื่อสืบทอดกิจการร้านอาหารทะเล “แสนสมบูรณ์” และ “ท่าเรือซีฟู้ด”ของครอบครัว ณ หาดบางแสน จ.ชลบุรี บอกเล่าเทคนิคที่คิดค้นขึ้นเองจากประสบการณ์สั่งสม

ต้นตอเคล็ดลับของน้ำมะขามเปียก เชฟภูมิ เล่าว่า “ผมเริ่มต้นการเดินทางในสายอาชีพนี้ที่ห้องอาหารศาลาริมน้ำโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ได้รับคัดเลือกให้ไปอบรมยังประเทศญี่ปุ่นทดลองทำน้ำมะขามเปียกที่โน่นเพราะเวลาเรานำเข้ามะขามเปียกซึ่งผ่านการแช่แข็งเมื่อนำมาปรุงอาหารรสชาติจะเพี้ยนไม่กลม กล่อมดังเดิมจึงลองเอาหัวหอมมาเจียวในน้ำมันดึงกลิ่นหอมชดเชย” ปรากฏว่าดีมากและใช้เคล็ดลับนี้มาตลอด “ผมมองว่าเสน่ห์ของอาหารไทยอยู่ที่ส่วนผสมและเครื่องปรุงทำให้แตกต่างจากอาหารชาติอื่น ๆ ทั้งพริกแกง ซอสต่าง ๆค่อนข้างจุกจิกยุ่งยากสักนิดแต่มันจะไม่มัน ไม่เลี่ยนครบรสอยู่ในจานเดียว” เชฟผู้ชื่นชอบการทำอาหารไทยและเอเชียกล่าว

“ผัดไทยสุโขทัย” สูตรเชฟภูมิมีวัตถุดิบและส่วนผสมดังนี้ เส้นจันท์ 70 กรัม, กุ้งแห้ง 10 กรัม, ไข่ไก่ 1 ลูก, ไชโป๊หวาน 10 กรัม, เต้าหู้เหลือง 15 กรัม, พริกป่น 10 กรัม, ถั่วงอก 40 กรัม, กุยช่ายเขียว 35 กรัม, ถั่วลิสงคั่ว 15 กรัม, น้ำมะขาม 40 มิลลิลิตร, กุ้งแม่น้ำ 1 ตัว, เนื้อปู 40 กรัม, ผักชีฝรั่ง 10 กรัม, น้ำตาลปี๊บ 20 กรัม, ถั่วฝักยาว 15 กรัม และหอมแดง 10 กรัม

วิธีทำ อุ่นกระทะให้ร้อนและเติมน้ำมันพืชจนกระทั่งร้อนปานกลางใส่กุ้งแห้ง ไชโป๊หวานเต้าหู้เหลือง หอมแดงและกุ้งแม่น้ำลงไปในกระทะเคล้าให้ทั่วกันจนกระทั่งกุ้งสุกเติมไข่ไก่ เส้นจันท์ ถั่วงอก กุยช่ายเขียว ถั่วลิสงคั่ว และพริกป่นลงไปคลุกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ผัดให้
เข้ากันและเติมเนื้อปู ผักชีฝรั่ง และถั่วฝักยาว นำอาหารใส่จานและตกแต่งด้วยถั่วงอก กุยช่ายเขียว ถั่วลิสงและน้ำตาลปี๊บนอกจากนี้ยังมีหัวปลีและใบบัวบกไว้แนมด้วย

ส่วนใครที่กังวลว่าถั่วลิสงคั่วจะปนเปื้อนเชื้อรา เชฟภูมิแนะนำทิ้งท้ายว่าถ้าเรานำถั่วลิสงคั่วกับกระทะส่วนใหญ่ถั่วลิสงจะไหม้เป็นรอยดำด้านนอกแต่แกนข้างในไม่สุกทำให้มีกลิ่นหืนและเกิดเชื้อราได้ง่ายปัจจุบันสามารถนำเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเครื่องอบผลไม้แห้งซึ่งไล่ความชื้นได้ดีมาเป็นตัวช่วยนอกจากไม่เกิดเชื้อราแล้วยังสามารถเก็บไว้ได้นาน 1-3 วัน.

‘ช้องมาศ’

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/291242/‘ผัดไทยสุโขทัย’+จานร้อนรสย้อนยุค

Read More...


น้ำแข็งใสใส่ดอกไม้


น้ำแข็งกับอากาศร้อนๆ ของเมืองไทยเป็นของคู่กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร การได้ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ หลังอาหารมื้อแซ่บอย่างส้มตำ หรืออาหารฝรั่งอย่างพิซซาถาดใหญ่ชุ่มชีส ทำให้พวกเราชาว Blisby รู้สึกเหมือนกับได้ขึ้นสวรรค์เลยค่ะ ยิ่งบางร้านใช้น้ำแข็งรูปหัวใจหรือรูปตัวการ์ตูน ก็ยิ่งทำให้พวกเราสนุกกับการสังสรรค์เพิ่มขึ้นไปอีก และยังช่วยให้พวกเราปิ๊งไอเดียเด็ด DIY เพิ่มความน่ารักให้ก้อนน้ำแข็งหน้าตาใสๆ ธรรมดาๆ ด้วยดอกไม้และผลไม้ที่หาได้ทั่วไป ฮั่นแน่! อยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่าพวกเราทำอย่างไร อ่านต่อบรรทัดถัดไปเลยค่ะ

วัสดุอุปกรณ์สำหรับทำน้ำแข็งใสใส่ดอกไม้

  • ดอกไม้ Tip! ควรเลือกดอกไม้ที่ปลูกเอง หรือดอกไม้ออร์แกนิกปราศจากยาฆ่าแมลง คุณต้องแน่ใจด้วยนะคะว่าดอกไม้ทีคุณเลือกมานั้นรับประทานได้ ระวังดอกไม้บางชนิดที่มีพิษ เช่น ดอกเข็มสีขาว (สีอื่นๆ สามารถนำมาทานได้แน่นอนค่ะ) ดอกชวนชม ดอกบานบุรี ดอกผกากรอง เป็นต้น
  • ผลไม้ที่ชอบ เช่น แอปเปิ้ล กีวี สาลี่ ฝรั่ง เป็นต้น
  • ใบสะระแหน่
  • ถาดน้ำแข็ง
  • เหยือกน้ำ
    วัสดุและอุปกรณ์สำหรับทำน้ำแข็งใสใส่ดอกไม้ Ingredients and tools for making flower ice cube

วิธีทำ

  1. ล้างดอกไม้ ผลไม้ และใบสะระแหน่ให้สะอาดหมดจด จากนั้นหั่นผลไม้ให้เล็กกว่าช่องถาดน้ำแข็งเล็กน้อย ถ้าเป็นผลไม้ที่มีขนาดเล็กอย่างสตรอเบอร์รี บลูเบอร์รี มัลเบอร์รี่ หรือราสเบอร์รี ไม่จำเป็นต้องหั่นค่ะ
    ใส่ดอกไม้ลงในถาดน้ำแข็ง Put flowers into the ice tray
  2. ใส่ดอกไม้ ผลไม้ และใบสะระแหน่ลงในถาดน้ำแข็งแต่ละช่อง จัดเรียงให้สวยงาม คุณจะใส่ผสมกันก็ได้นะคะ เช่น ใส่มะนาวรวมกับใบสะระแหน่ ใส่แอปเปิ้ลคู่กับกีวี หรือจับคู่สีที่ตัดกันเพื่อเพิ่มความสวยงาม เช่น ดอกอัญชันสีม่วงสดกับมะนาวฝานบางสีเขียว หรือใส่ดอกเข็มหลายๆ สีรวมกันค่ะ
    ใส่ดอกไม้ ใบสะระแหน่ ผลไม้ต่างๆ ลงในถาดน้ำแข็ง Put flowers, peppermint leaves and fruit into ice trayดอกไม้และผลไม้ในถาดใส่น้ำแข็ง Flowers and fruit in ice trays
  3. เติมน้ำสะอาดลงไปในถาดใส่น้ำแข็งเลยค่ะ Tip! เพิ่มลูกเล่นอีกนิดด้วยการใช้น้ำหวาน น้ำผลไม้ หรือน้ำสมุนไพรสีสวยแทนน้ำเปล่า เราแนะนำให้คุณลองเทน้ำอัญชันสีม่วงลงไปในช่องที่ใส่มะนาวฝานบางๆ สีม่วงของน้ำอัญชันจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน หรือจับคู่น้ำมะนาวกับใบสะระแหน่ก็ให้กลิ่นหอมที่เข้ากันได้ดีค่ะ
    เทน้ำลงไปให้ท่วมดอกไม้ Pour water over flowers, fruits, and peppermint leavesเทน้ำให้ท่วมดอกไม้ Pour water over flowers
  4. เอาล่ะ แช่ถาดน้ำแข็งในช่องแช่แข็งได้เลย!
    นำถาดน้ำแข็งเข้าช่องแข็ง Put ice trays into the freezer />
  5. อดใจรอสัก 5 ชั่วโมงนะคะ บางคนอาจคิดว่านานจัง (พวกเราก็รู้สึกแบบนั้นเหมือนกันค่ะ!) ถ้าไม่อยากนั่งรอ คุณทิ้งน้ำแข็งข้ามวันข้ามคืนไว้ได้เลยนะคะ ไม่ต้องห่วงว่าดอกไม้จะเฉาเลยค่ะ
  6. ในที่สุด…น้ำแข็งทุกก้อนก็แข็งแล้ว! สวยมากๆ เลย เห็นด้วยกับเราไหมคะ?
    น้ำแข็งใสใส่ดอกไม้ Flower Ice Cube
  7. แกะน้ำแข็งใส่โถหรือแก้วน้ำ ดื่มคู่กับน้ำสะอาด น้ำหวาน หรือน้ำอัดลมก็สดชื่นไม่แพ้กันค่ะ มาชนแก้วดื่มน้ำไปพร้อมๆ กันกับเรานะคะ
    เทน้ำให้เต็มแก้ว Pour water into glassesน้ำแข็งใสใส่ดอกไม้ Flower Ice Cubeน้ำแข็งใสใส่ดอกไม้ Flower Ice Cube
credit by : http://www.blisby.com/blog/diy-flower-ice-cube/

Read More...


ขนมต้มจิ๋ว


ขนมต้ม เป็นขนมที่มีหลักฐานว่ามีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เข้ามาพร้อมกับศาสนาพราหมณ์และลัทธิความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้า โดยจะมีทั้งขนมต้มแดงและขนมต้มขาว ในสมัยโบราณจะใช้เป็นเครื่องเซ่นในพิธีกรรมทางศาสนา เช่น พิธียกเสาเอก การตั้งศาล เป็นต้น ความอร่อยของขนมชนิดนี้จะอยู่ที่ ไส้มะพร้าวผัด ที่จะต้องทั้งหวานทั้งหอม บางทีก็จะใช้วิธีอบเทียนหอมให้ไส้ขนมนั้นมีความหอมมากขึ้น
จากขนมต้มแบบชาวบ้านที่เห็นกันทั่วไป จะเป็นลูกกลมโต แต่วันนี้ถูกลดขนาดลงเป็นขนม ต้มจิ๋ว สีเขียวขนาดพอคำ คลุกเคล้ากับเนื้อมะพร้าวน้ำหอม ชวนให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น จากการคิดดัดแปลงของ คุณโอ้–ปิ่นศักดิ์ อินทร์ประสิทธิ์ ชายหนุ่มผู้รักการทำขนมไทย แห่งตลาดสามชุก ซอย 4 จ.สุพรรณบุรี โดยมี คุณบิ๊ก–ศศิธร ไชยศิริโชติ ภรรยาที่ช่วยกันสืบสาน “ขนมต้มจิ๋ว” ให้เป็นเอกลักษณ์ของตลาดสามชุก


คุณโอ้ และ คุณบิ๊ก เล่าว่า ด้วยใจรัก ประกอบกับติดใจในรสชาติขนมต้มที่แม่เคยทำให้กิน เวลาที่มีคนมาว่าจ้าง เพื่อใช้ในพิธีกรรมต่างๆ จึงคิดที่จะทำขายดูบ้าง โดยลองปรับสูตร ปรับขนาด และใส่ใจในวัตถุดิบ อย่างมะพร้าวที่ยังต้องปีนขึ้นไปเก็บด้วยตนเอง นอกจากนี้ขนมต้มจิ๋วของสามีภรรยาคู่นี้ ยังโดดเด่นด้วยสีสันและกลิ่นหอมจากใบเตย ทำให้ยิ่งกิน ยิ่งเพลิน สำหรับคนกรุงสามารถหาชิมขนมต้มจิ๋วของคุณโอ้และคุณบิ๊กได้ที่ตลาดนัดประจำ เดือนของ รพ. พระมงกุฎฯ ส่วนเสาร์-อาทิตย์ จะปักหลักขายอยู่ที่ตลาดสามชุก บ้านเกิด จนทุกวันนี้เป็นปีที่ 9 แล้ว หรือถ้าอยากจะติดต่อมาปั้นให้ทานถึงบ้านก็โทร.ติดต่อได้ที่ 08-1252-6467


ส่วนผสมของแป้ง : แป้งข้าวเหนียว 1 กก./แป้งมันสำปะหลัง 1 ขีด/น้ำใบเตยแช่เย็น ประมาณ 3 ถต. .......วิธีนวดแป้ง เทแป้งทั้ง 2 ชนิดในชามผสม ตามด้วยน้ำใบเตย จากนั้นนวดจนได้เนื้อแป้งที่เนียนนุ่มมือ ราวกับเนื้อดินน้ำมัน สังเกตว่าจะสามารถปั้นง่าย และแป้งไม่ติดมือ


ส่วนผสมของไส้ขนมต้ม : มะพร้าวทึนทึกน้ำหอมขูดขาวละเอียด 1 กก./น้ำตาลมะพร้าว 7 ขีด....วิธีทำ นำมะพร้าวกับน้ำตาลผัดรวมกันด้วยไฟอ่อน จนแห้งและจับตัวกันดี ผึ่งลมจนเย็น จึงลงมือปั้นเป็นลูกกลมๆขนาดเล็กประมาณปลายนิ้วก้อย


จากนั้นเริ่มต้นการทำขนมต้ม 1) ตั้งน้ำสะอาดให้เดือดรอท่า 2) แบ่งแป้งออกมาพอประมาณ (แป้งหนาขนมไม่อร่อย แป้งบางหุ้มไส้ไม่มิด เวลาต้ม ขนมจะแตกไส้จะหลุดออกหมด) แผ่แป้งออก ใส่ไส้ลงตรงกลาง หุ้มปิดไส้ขนมให้มิด แล้วใช้ฝ่ามือคลึงให้เป็นก้อนกลม 3) หย่อนขนมลงต้มในน้ำเดือด เมื่อขนมสุกจะลอยตัว ช้อนขึ้น คลุกเคล้าด้วยมะพร้าวทึนทึกน้ำหอม ที่ขูดเป็นเส้นฝอย ซึ่งเหยาะเกลือป่นเล็กน้อยให้มีรสปะแล่มๆ


เคล็ดลับ : หากต้องการให้ขนมอยู่ได้นานขึ้น ควรนึ่งมะพร้าวที่ใช้คลุกขนมต้มก่อน แต่มะพร้าวสดจะให้รสชาติขนมที่ดีกว่า ส่วนการต้มขนม หากใช้ไฟแรง ขนมจะแตก หากไฟเบาไป ขนมก็สุกช้า และจะอุ้มน้ำเสียรสชาติ เนื้อขนมก็จะเหลวเละอีกด้วย โดยหม้อที่ใช้ต้มก็ต้องให้ได้ขนาดพอดี เพื่อให้น้ำสุกทั่วกัน.

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/476237

Read More...


เคล็ดลับน่ารู้ สูตรเด็ดการต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเปล่าๆให้อร่อย


ไม่น่าเชื่อว่า สิ่งที่ดูเหมือนจะง่ายๆ อย่างการต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่ใครๆ ก็น่าจะทำเป็นนั้น หากเราทำผิดวิธี ผิดขั้นตอน ก็ทำให้บะหมี่ออกมารสชาติไม่อร่อยได้ แต่ถ้าทำได้ถูกวิธีแล้วล่ะก็ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเปล่าๆ ถ้วยละไม่กี่บาท จะออกมารสชาติอร่อย แลดูน่ากิน จนใครที่ผ่านมาเห็นแล้วต้องน้ำลายไหลเลยทีเดียว อ่านบทความนี้แล้ว รับรองว่าคุณจะกลายเป็นเซียนการต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูประดับมือโปรอย่างแน่ นอน
 


 

ลักษณะบะหมี่ที่อร่อย

ไม่ ว่าจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อใด รสใดก็ตาม จำไว้ว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อร่อย น่ารับประทานนั้น เมื่อปรุงเสร็จแล้ว จะต้องมีลักษณะดังนี้

- เส้นยังคงหยิกหยัก ไม่ยืด หรือ เหยียด คลายตัวมากเกินไป

- เส้นอ้วนพองพอดี ไม่ลีบ หรืออืดเกินไป

- ปริมาณน้ำต้องพอดี ไม่มาก หรือน้อยเกินไป

- อุณหภูมิต้องพอดี ไม่ร้อนจนเกินไป

ซึ่งวิธีการที่จะทำให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาได้ตรงตามลักษณะที่กล่าวมานั้น มีเคล็ดลับง่ายๆ ดังนี้

แบบต้ม

- ต้มน้ำจนเดือด ในหม้อที่เติมน้ำปริมาณพอดีให้ท่วมบะหมี่ได้มิดพอดี

- ใส่เส้นบะหมี่ลงไป ต้มต่อไป 2 นาที อย่ามากกว่านี้ เพราะเส้นจะยืด และอ่อนเกินไป

- หากต้องการเติมผัก หรืออื่นๆ ไม่ควรใส่ลงไปในหม้อเดียวกันกับเส้นบะหมี่ ให้ต้มหรือลวกแยกหม้อ หรือถ้าคิดว่าไม่สะดวก ให้วางผักลงบนบะหมี่ที่พองเกือบได้ที่แล้ว และไม่ต้องคนผักลงไปในน้ำ ให้เป็นลักษณะเหมือนนึ่งผักเอา จากนั้นเมื่อดูว่าเส้นพองได้ที่แล้ว จึงคนผักลงไปในน้ำได้ สาเหตุที่ไม่ให้ใส่ผักลงไปในน้ำในตอนต้มเส้นเลย เพราะจะทำให้น้ำมีความเข้มข้นสูงขึ้น ทำให้เส้นบะหมี่ดูดน้ำเข้าไปในตัวได้ไม่ดี เส้นบะหมี่จะไม่ค่อยพอง

- ใส่เครื่องปรุงลงในถ้วยเปล่า สาเหตุที่ไม่ให้ใส่เครื่องปรุงลงไปในน้ำในตอนต้มเส้นเลย เพราะจะทำให้น้ำมีความเข้มข้นสูงขึ้น ทำให้เส้นบะหมี่ดูดน้ำเข้าไปในตัวได้ไม่ดี เส้นบะหมี่จะไม่ค่อยพอง และสาเหตุที่ให้ใส่เครื่องปรุงตอนที่อยู่ในถ้วย ไม่ใส่ตอนที่อยู่ในหม้อต้มเลย เพราะตอนต้มมักกะปริมาณน้ำยาก หากเราใส่น้ำมากเกินไป ความเข้มข้นของเครื่องปรุงจะเจือจางไม่ถูกสัดส่วน

- เทบะหมี่ที่ต้มเสร็จแล้ว ลงในถ้วย ซึ่งขั้นตอนนี้ หากตอนต้มเราใส่น้ำมากเกินไป ก็ไม่ต้องเทน้ำลงมาทั้งหมด เอาแค่น้ำพอท่วมเส้นบะหมี่ที่อยู่ในถ้วยก็พอ

- คลุกเคล้าเส้นบะหมี่กับน้ำ และเครื่องปรุง ให้เข้ากัน แต่พยายามอย่าให้เส้นแตกตัวจนมากเกินไป พยายามให้เส้นยังคงรูปร่างเป็นกลุ่มตามเดิมจะดี

- ทิ้งไว้ 1 นาที เพื่อให้เครื่องปรุงละลายตัวในน้ำร้อนอย่างเต็มที่ และเพื่อให้เส้นบะหมี่พองตัวเพิ่มขึ้นอีกนิด พร้อมทั้งเป็นการรอให้ความร้อนลดลงมาพอเหมาะ หากยกมากินเลยตอนที่ต้มเสร็จใหม่ๆ จะร้อนมากเกินไป กินแล้วลวกปาก รู้สึกเหมือนดาดปากจากผงชูรส และความเผ็ดจะเผ็ดมากกว่าปกติ ทำให้ไม่อร่อย

- เสร็จขั้นตอนการปรุงเรียบร้อย รีบกินตอนที่ยังร้อนๆ และเส้นกำลังพองได้ที่พอดี หากทิ้งไว้นานกว่านี้ เส้นจะอืด และ ไม่เหนียวนุ่ม จะไม่อร่อย

แบบชง

- ต้มน้ำให้เดือด ต้องแน่ใจว่าเดือดจริงๆ

- ฉีกเส้นบะหมี่ลงในถ้วยขนาดพอเหมาะ ลึกพอดี กว้างพอดี ไม่ใหญ่กว่าก้อนบะหมี่มากจนเกินไป

- เติมน้ำร้อนลงไป จนท่วมเส้นขึ้นมาเล็กน้อย แล้วหาฝา หรือจานมาปิดครอบถ้วยไว้

- ทิ้งไว้ 2 นาที อย่าใจร้อน เพราะระยะเวลาเท่านี้ คือระยะที่เส้นจะพองตัวได้พอเหมาะพอดี

- เปิดฝา แล้วใส่เครื่องปรุงลงไป คลุกเคล้าเส้นบะหมี่กับน้ำ และเครื่องปรุง ให้เข้ากัน สาเหตุที่ไม่ให้ใส่เครื่องปรุงลงไปในน้ำในตอนชงเลย เพราะจะทำให้น้ำมีความเข้มข้นสูงขึ้น ทำให้เส้นบะหมี่ดูดน้ำเข้าไปในตัวได้ไม่ดี เส้นบะหมี่จะไม่ค่อยพอง

- ปิดฝา ทิ้งไว้ต่อไปอีก 1 นาที เพื่อให้เครื่องปรุงละลายตัวในน้ำร้อนอย่างเต็มที่ และเพื่อให้เส้นบะหมี่พองตัวเพิ่มขึ้นอีกนิด

- เสร็จขั้นตอนการปรุงเรียบร้อย รีบกินตอนที่ยังร้อนๆ และเส้นกำลังพองได้ที่พอดี หากทิ้งไว้นานกว่านี้ เส้นจะอืด และ ไม่เหนียวนุ่ม จะไม่อร่อย
สำหรับการปรุงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปด้วย วิธีการชง ไม่ควรใส่ส่วนประกอบอื่นลงไป นอกจากเส้นบะหมี่ เช่น ผัก ฯลฯ เพราะจะทำให้ไปแย่งอุณหภูมิของน้ำร้อน
อย่าลืมว่า การกินบะหมี่สำเร็จรูป ถ้าจะให้ดี ควรเติม ผัก หรืออื่นๆ บ้าง เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการ แต่อย่าเติมมากเกินไป เพราะมันจะทำให้รสชาติที่ผู้ผลิตออกแบบมาผิดเพี้ยนไป แล้วก็จะไม่อร่อย

เดอะป้า


การกินบะหมี่ให้อร่อย แนะนำให้กินด้วยตะเกียบไม้ไผ่ เพราะจะคีบง่ายไม่ลื่น และตะเกียบเขาออกแบบมาเข้ากับอาหารแบบเส้นได้พอดิบพอดี สามารถกะปริมาณต่อคำได้ง่าย , เส้นไม่ขาด และการคีบเส้นขึ้นมารอระหว่างเคี้ยวคำก่อนหน้า จะช่วยให้เส้นมีอุณหภูมิลดลงไม่ร้อนเกินไป

Read More...


กรอบ หวาน ฉ่ำ! สตรอเบ้อเร่อ ฉันล่ะเผลอกินเธอหมดคำ


สตรอเบอร์รี่ ฉันล่ะยี้เธอจริงๆ! ใครจะยี้ เราไม่ยี้ ใครไม่ชอบกินสตรอเบอร์รี่ ขอบอกไว้ก่อนว่าคุณพลาดแล้ว กลับมาพบกับ Trend can do ไทยรัฐออนไลน์ทุกวันศุกร์แบบนี้เช่นเคย สัปดาห์นี้เราขอนำสตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่ๆ ผลไม้หน้าหนาวที่ใครๆ ก็โปรดปราน มาทำขนมสุดอร่อยที่ไม่ค่อยได้ทานบ่อยนัก กับขั้นตอนการทำง้ายง่ายที่คุณก็ลงมือทเองำได้กับ สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก ทอดกรอบ...

สิ่งที่ต้องเตรียม
1. แป้งตอร์ตียา (Tortilla) คือ แป้งแผ่นรูปวงกลมที่ทำมาจากแป้งข้าวโพดหรือข้าวสาลี
2. ครีมชีส 8 ออนซ์
3. ซาวครีม 2 ช้อนโต๊ะ
4. สารวานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
5. น้ำมันพืช
6. น้ำตาล
7. สตรอเบอร์รี่ 1 ถ้วย
8. ผงชินนาม่อน (ผงอบเชย)



สตรอเบอร์รี่เต็มคำ
ขั้นตอนการทำ
1. ผสมครีมชีส ซาวครีม น้ำตาล และใส่สารสกัดจากวานิลลาตีให้เข้ากัน



ตีครีม
2. หั่นสตรอเบอร์รี่บางๆ และนำไปใส่ในครีมที่เราผสมไว้ในข้อ 1



ใส่สตรอเบอร์รี่ลงไปในครีม
3. ห่อสตรอเบอร์รี่ชีสเค้กด้วยแป้งตอร์ตียา พับให้สวยงามดังภาพ



พับแป้งสอดไส้สตรอเบอร์รี่
ห่อให้สวยงาม
4. ผสมน้ำตาลกับผงชินนาม่อนไว้ให้เข้ากัน เตรียมพร้อมสู่ขั้นตอนสุดท้าย
5. ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะตั้งไว้ให้ร้อน
6. นำสตรอเบอร์รี่ชีสเค้กที่ห่อไว้มาใส่ลงในกระทะทอดไว้ประมาณ 2-3 นาที (ระหว่างนั้นก็พลิกกลับด้านตามความเหมาะสม) ทอดให้กรอบและเป็นสีน้ำตาลทอง น่ารับประทาน



7. นำสตรอเบอร์รี่ชีสเค้กที่ทอดเสร็จแล้วขึ้นมาจากกระทะ และนำไปวางไว้ในจานที่มีกระดาษรองซับน้ำมัน
8. ขั้นตอนสุดท้าย นำสตรอเบอร์รี่ชีสเค้กที่ทอดเสร็จแล้วมาคลุกกับผงชินนาม่อนที่เตรียมไว้ในข้อ 4



คลุกผงชินนาม่อน
9. เสิร์ฟพร้อมสตรอเบอร์รี่สด ตกแต่งให้น่ากิน อ้ำๆ ฟินจังเลยยยยย



เสร็จแล้ว น่ากินสุดๆ
ที่มา : justataste.com

credit by : http://www.thairath.co.th/content/477909

Read More...


“ไข่ลูกรอก” อาหารหน้าตาดี..รสชาติดี-พร้อมสูตรและส่วนผสมน้ำจิ้มรสเด็ด!!


ไข่ลูกรอก
อาหารไทยโบราณ…ที่กำลังจะหายไปกับกาลเวลา "ลูกรอก" เมนูจากไข่ เมื่อปรุงสุกจะมีรูปร่างเหมือนลูกรอก สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายอย่าง เช่น แกงจืด ผัดกะเพรา ผัดใส่วุ้นเส้น หรือแบบง่ายๆ เอามาลวกจิ้มน้ำจิ้ม แบบวันนี้ก็อร่อยคะ
————————–——————-
ส่วนผสมลูกรอก
1.ไข่ไก่ 3ฟอง
2.ไข่เป็ด 3ฟอง
3.ไส้หมูอ่อน ตัดเป็นเส้นยาว 15นิ้ว 3เส้น
4.ซีอิ้วขาว
5.เกลือ
6.คื่นช่าย
7.ต้นหอม
8.กระเทียมเจียว
9.น้ำส้มสายชูหมัก
10.ใบมะกรูด 4ใบ


ส่วนผสมน้ำจิ้ม
1.พริกสดเม็ดเล็ก
2.กระเทียม
3.น้ำปลา
4.น้ำมะนาว
5.น้ำตาลทราย



11701023_912516745463030_1334181127993730323_n

วิธีทำ
1.ล้างไส้อ่อนให้สะอาด กลับด้านในออกมา โดยใช้ไม้ตะเกียบดันออกมา แล้วขยำกับน้ำส้มสายชูหมัก เพื่อให้หมดเมือกเหนียว และช่วยดับกลิ่นคาว ล้างน้ำออกให้สะอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ


2.นำไข่มาผสมกับ เกลือ ซีอิ้วขาว และน้ำเปล่า1/2 ถ้วย คนให้เข้ากัน นำไปกรองด้วยกระชอนถี่ๆ 2ครั้ง (เพื่อไม่ให้มีฟองอากาศ จะทำให้ไข่เนื้อเนียนเวลาสุกคะ) แล้วกรอกไข่ใส่ลงในไส้ อย่าใส่แน่นมาก
*มัดปมหัวท้ายให้แน่น


3.ตั้งกระทะใส่น้ำ กะประมาณให้ท่วมไส้ลูกรอก พอน้ำเดือด ลดไฟลงอ่อนๆ ใส่ไส้ลงต้ม (อย่าใช้ไฟแรงเพราะจะทำให้ไส้แตก) คอยกลับให้สุกทั่ว แล้วตักขึ้นมาพักไว้
*ข้อสังเกตุเวลาสุกไส้จะลอยขึ้นมา หรือใช้เข็มแทงที่ไส้ จะไม่มีไข่ไหลออกมา


4.ตัดเป็นชิ้นตามขวางขนาด 1นิ้ว นำไปลวกในน้ำเดือด ใส่ใบมะกรูดลงไปด้วย ต้มนาน 2-3นาที ก็จะได้ไข่ลูกรอก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำ จัดใส่จานทานกับคื่นช่าย โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว และต้นหอมซอย


5.ทำน้ำจิ้ม โดยโขลกพริก กระเทียม พอหยาบๆ ใส่น้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว คนส่วนผสมให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย



credit by : http://www.thaijobsgov.com/jobs=24594

 

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.