สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

สวย หุ่นดี ทำง่าย อร่อยได้ด้วย 'กรีนฟู้ด'


เป็นประจำทุกสุดสัปดาห์แบบนี้ พบกับคอลัมน์ Trend can do อีกเช่นเคย สัปดาห์นี้พบกับอาหารเพื่อสุขภาพ หรือกรีนฟู้ด ที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงสำหรับสาวๆ เฮลตี้ เราจะมาทำ "Overnight Oats”...
“อาหารเพื่อสุขภาพ” หรือ “กรีน ฟู้ด” กำลังเป็นเทรนด์บริโภคที่มาแรงสำหรับผู้รักสุขภาพ และโดยเฉพาะสาวๆ ที่ต้องการดูแลรูปร่าง และผิวพรรณให้สวยสดใสอยู่เสมอ แพทย์หญิง ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือคุณหมอผิง มาให้คำแนะนำเมนูอาหารเช้าในแบบกรีนฟู้ดที่สามารถทำได้ง่ายๆ และรับประทานได้ทุกวัน เพื่อให้สาวๆ ได้ลองนำกลับไปทำเองได้ที่บ้าน ภายในงานโอเรียนทอล พริ้นเซส โซไซตี้ “44 กรีน อะเจนดา ปาร์ตี้”
สิ่งที่ต้องเตรียม

สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ข้าวโอ๊ต
2. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (ไขมันต่ำ)
3. นมถั่วเหลืองจืด
4. ผงโกโก้
5. ผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น กีวี่ สตรอเบอร์รี่
6. น้ำผึ้ง
7. อัลมอนด์

เตรียมของให้พร้อม
ขั้นตอนการทำ 
1.ใส่ข้าวโอ๊ต 5 ช้อนโต๊ะ (สำหรับรับประทาน 1 ที่) ลงในถ้วยที่เตรียมไว้ ผสมกับโยเกิร์ตสำเร็จรูป 1 ถ้วย และตามด้วยนมถั่วเหลืองจืด 1 ถ้วย

ใส่ข้าวโอ๊ต

ใส่โยเกิร์ต
2. โรยผงโกโก้ลงไปเล็กน้อย ก่อนผสมน้ำผึ้งนิดหน่อยเพื่อเพิ่มความหวาน

โรยผงโกโก้
3. คลุกเคล้าให้เข้ากัน

คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. ตักใส่ขวดโหล แล้วแช่ตู้เย็นค้างไว้อย่างน้อย 1 คืน เพื่อให้ส่วนผสมได้รสชาติที่พอดี
5. นำผลไม้ตามชอบใส่ลงไป โรยด้วยอัลมอนด์ด้านบน พร้อมรับประทานได้ทันที

นำผลไม้ตามชอบใส่ลงไป

พร้อมรับประทานได้ทันที
credit by : http://www.thairath.co.th/content/455631

Read More...


ข้าวผัดปู


เมนูอาหารยอดฮิตของคนไทยทุกบ้าน น่าจะเป็น ข้าวผัด ซึ่งทุกๆ คนสามารถทำได้ ทำนองเดียวกับทอดไข่นั่นแหละค่ะ แต่จะอร่อยหรือไม่นั้นก็ต้องขึ้นกับฝีมือด้วยค่ะ เพราะการจะผัดข้าวให้อร่อยรสชาติกลมกล่อม ข้าวร่วนสวยไม่อมน้ำมันเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ง่ายๆ ต้องใช้ทักษะและเคล็ดลับในการปรุง ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์คนอร์ จึงได้เลือกเมนูข้าวผัดมาเป็นเมนูท้าพิสูจน์หัวใจของความอร่อยยิ่งขึ้น ในกิจกรรม “ไม่ชัวร์ ไม่ท้า..จานผัดจัดมา..อร่อยชัวร์” โดยเชิญกูรูจานผัด ปยุต กองสุวรรณ เอ็กเซ็คคูทีฟเชฟจากร้านแหลมเจริญซีฟู้ด มาเผยเคล็ดลับการปรุงจานผัดขึ้นชื่อของทางร้าน อย่างข้าวผัดปู เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คุณแม่บ้านหันมาทำอาหารจานผัดให้อร่อยขั้นเทพ

เชฟปอง-ปยุต กองสุวรรณ เชฟหนุ่มนักบริหาร เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของแหลมเจริญซีฟู้ด ร้านอาหารทะเลสไตล์ไทยๆ ภายใต้แนวคิด “สดจริง อร่อยจริง” ได้เล่าถึงเมนูข้าวผัดปู เมนูที่ดูแสนจะธรรมดาแต่ว่าเป็นหนึ่งในจานอาหารยอดนิยมที่ลูกค้ากว่าครึ่ง หนึ่งสั่งมารับประทานควบคู่กับอาหารทะเล จุดเด่นของข้าวผัดปูของแหลมเจริญมีอยู่ 3 อย่าง เริ่มจากนำข้าวหอมมะลิเก่าแช่เย็นค้างคืนไว้ ก่อนนำไปหุง เพื่อให้ได้ข้าวเม็ดร่วนสวย เมื่อหุงสุก ตักข้าวบริเวณส่วนบนของหม้อไปผัดกับไข่ โดยใช้เตาจีนหรือที่เรียกว่าเตาไฟฟู่จะยิ่งดี เพราะสามารถควบคุมไฟให้เหมาะสม ผัดจนได้ข้าวสีเหลืองทอง และมีกลิ่นหอมกระทะและเปลวไฟ จึงใส่เนื้อกรรเชียงปูม้าสดลงไปผัด ลดไฟลง แล้วปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ ซอสหอยนางรมซึ่งเป็นเคล็ดลับเพิ่มความอร่อยกลมกล่อม ปิดท้ายด้วยการใส่ต้นหอมและเนื้อปูส่วนอก ข้าวผัดปูต้นตำรับแหลมเจริญได้ถ่ายทอดมารุ่นต่อรุ่นจากเชฟที่มีประสบการณ์ หลายสิบปี และยังคงรักษามาตรฐานคงที่เหมือนกันหมดทุกสาขา

เชฟปองทิ้งท้ายด้วยว่า “เทคนิคการผัดเป็นหนึ่งในเทคนิคการทำอาหาร ที่มีทั้ง ต้ม นึ่ง ทอด ดังนั้น การผัดจึงเป็นเทคนิคที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากกว่าอันอื่น เพราะต้องทำแข่งกับเวลา ต้องมีจังหวะจะโคนที่ดี อย่างการผัดผัก ถ้าผัดช้า เร่งไฟไม่ถูก น้ำก็ท่วม คือในผักมีน้ำมากไป เราต้องรู้ว่าเมื่อไหร่ควรเร่งไฟ เมื่อไหร่ควรจะได้แล้ว”

ส่วนผสม (สำหรับ 1 ท่าน) : ข้าวสวย 1 ถ้วย/ไข่ไก่ 1 ฟอง/น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ/น้ำตาล ครึ่งช้อนชา/เกลือ ปลายช้อนชา/ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา/ซอสหอยนางรม 1 ช้อนชา/ต้นหอมซอย 1 หยิบมือ/เนื้อปูส่วนอก 5 กรัม/เนื้อกรรเชียงปู 10 กรัม......วิธีทำ 1) ตั้งน้ำมันพืชในกระทะให้ร้อน ควรใช้กระทะเหล็กในการผัดเพื่อกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง 2) ตอกไข่ไก่ลงกระทะ แล้วคนไข่ให้แตกประมาณ 2-3 วินาที 3) ใส่ข้าวสวยลงไปผัด โดยใช้ความร้อนระดับกลาง จากนั้นผัดเพื่อคลุกข้าวกับไข่และน้ำมัน ให้เป็นสีเหลืองทอง ลดไฟให้เบาลง แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม แล้วผัดให้เข้ากัน 4) ใส่ต้นหอมซอย และเนื้อปูส่วนกรรเชียงลงไปผัดกับข้าว เพิ่มไฟแรง สะบัดกระทะเพื่อให้มีกลิ่นหอมของกระทะ และผัดจนกว่าข้าวจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน สุดท้ายตักข้าวผัดใส่จาน ท็อปปิ้งด้วยเนื้อปูส่วนอก.

credit by : http://www.thairath.co.th/content/458584

Read More...


หอมรัญจวนจิตกับสองเมนูลูกผสม - สูตรเด็ด...พร้อมเสิร์ฟ

?หอมรัญจวนจิตกับสองเมนูลูกผสม - สูตรเด็ด...พร้อมเสิร์ฟ?
?หอมรัญจวนจิตกับสองเมนูลูกผสม - สูตรเด็ด...พร้อมเสิร์ฟ?

?หอมรัญจวนจิตกับสองเมนูลูกผสม - สูตรเด็ด...พร้อมเสิร์ฟ?

 เห็นว่าอาหารแต่ละชนชาตินำมาประยุกต์ปรุงแต่งข้ามสายพันธุ์ได้ เพียงดึง     เอา “คาแรกเตอร์” หรือลักษณะเฉพาะของวัตถุดิบมาผสมผสาน ก็เกิดเป็นเมนูใหม่รสชาติลงตัวแบบไม่ซ้ำซากจำเจ ยิ่งเมืองไทยมีวัตถุ ดิบโดดเด่นหลายอย่าง เช่น มะพร้าว ทั้งส่วนเนื้อและน้ำนำมาทำขนมไทยและอาหารไทย พริกแกงรสจัดจ้านสมุนไพรก็สร้างชื่อเสียงกระฉ่อน มีคนติดใจรสชาติอย่างแกงมัสมั่น แกงเขียวหวาน เป็นต้น จึงเป็นที่มาสูตรเด็ดนักโฆษณามือล่ารางวัลเจ้าไอเดีย “ป้อ-สอดสร้อย ชมธวัช” ประธานบริษัท อีฟนิ่ง-สตาร์เอนเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ที่หยิบเสน่ห์วัตถุดิบไทย “มะพร้าว” และ “ใบเตย” จับคู่กับตำราฝรั่งรังสรรค์เป็นเมนูลูกผสมรสชาติไม่เหมือนใคร “เฟรช โทสต์” เหมาะสำหรับเติมพลังมื้อเช้า ทำง่ายไม่เปลืองเวลา

ก่อนลงมือทำคุณป้อเล่าว่าบ้านเรานิยมดื่มน้ำมะพร้าวมาชั่วนาตาปี แต่ 5 ปีที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาเพิ่งฮิตดื่ม เพราะค้นพบว่ามีเกลือแร่ทางธรรมชาติสูง ถึงกับผลิตเป็นน้ำมะพร้าวกระป๋องจำหน่ายอย่างเอิกเกริก สำหรับเมนูเฟรช โทสต์ใช้กะทิผสมกับครีมของตะวันตก และใช้กลิ่นใบเตยแทนกลิ่นวานิลลา ส่วนผสมประกอบด้วย กะทิ  ถ้วย, เนื้อมะพร้าวอ่อน  ถ้วย,ครีม  ถ้วย, ใบเตยน้ำเข้มข้น 3 ช้อนโต๊ะ, ไข่แดง 1 ฟอง, ไข่ขาว 2 ฟอง, ขนมปัง 4 แผ่น, เกลือ, เนย, น้ำผึ้งหรือเมเปิ้ล ไซรัป วิธีทำ หั่นขนมปังเป็นชิ้นเตรียมไว้ ตีไข่กับกะทิ, ครีม, น้ำใบเตยและเกลือให้เข้ากัน นำขนมปังชุบไข่ อย่าจุ่มนานเดี๋ยวขนมปังอิ่มน้ำ นำมาทอดกับเนยในกระทะจนไข่สุกเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นเสิร์ฟพร้อมเนื้อมะพร้าวอ่อน ราดด้วยน้ำผึ้ง

เสร็จเมนูอาหารเช้าฝรั่งสไตล์ไทย คุณป้อยังใจดีนำเสนออีกเมนู “เปาะเปี๊ยะทอด” ที่มีกลิ่นอายจีนผสม วัตถุดิบ มีน้ำพริกแกงเขียวหวาน  ช้อนชา, กุ้งสด 1 ถ้วย, ไข่ไก่ 1 ฟอง, วุ้นเส้น 2 ถ้วย, หน่อไม้สดหั่นเต๋า  ถ้วย, เห็ดหอมหั่นเต๋า  ถ้วย,เห็ดหูหนูหั่นเส้น  ถ้วย, กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ, แป้งเปาะเปี๊ยะ 10 แผ่น, ซีอิ๊วขาว , พริกไทยขาวและน้ำมันสำหรับทอด วิธีทำ นำกุ้งสด, น้ำพริกแกงเขียวหวาน และไข่ไก่ปั่นรวมกันพร้อมปรุงรส ตั้งกระทะผัดกระเทียมจนหอม ใส่เห็ดหอม เห็ดหูหนู หน่อไม้ปรุงรสและวุ้นเส้นลงคลุกเคล้า ยกลงจากเตานำแผ่นเปาะเปี๊ยะวางบนจาน ปาดกุ้งบดให้ทั่วโดยเหลือขอบไว้ด้านละนิ้ว ตักวุ้นเส้นผัดใส่แล้วห่อให้มิด นำไปทอดพอสุกเป็นสีเหลืองพักให้สะเด็ดน้ำมันหั่นเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ย

เห็นท่าทางคล่องแคล่วระหว่างทำ คุณป้อบอกว่าได้รับวิชามาจากคุณยาย “สุนทรี ชมธวัช” หลังคุณยายรับเป็นบุตรบุญธรรมได้สอนทำอาหาร แต่มักสอนให้ “ชิม” มากกว่าลงมือ ตอนนั้นคิดว่าเป็นวิธีที่แปลกแต่ผลดีคือทำให้เรารู้รสชาติอาหารเป็นสิ่งสำคัญ อาหารชนิดใดควรมีรสชาติไปทิศทางใด กระทั่งไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกา อาศัยอยู่กับแฟมิลี่ชาวอิตาเลียนถึงได้ลงมือทำด้วยตัวเอง ส่งผลให้ทำอาหารไทยและอาหารยุโรปได้แบบไม่ติดขัด ปัจจุบันยังไม่ละมือจากงานครัวที่ชื่นชอบ จึงรับหน้าที่เป็นพิธีกรรายการอาหารเสน่ห์ไทยแท้ แพร่ภาพในหลายประเทศทั่วโลกอีกด้วย.

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/social/15100/หอมรัญจวนจิตกับสองเมนูลูกผสม+-+สูตรเด็ด...พร้อมเสิร์ฟ

Read More...


ขนมโตเกียวไส้ครีม

ขั้นแรกเตรียมไส้ก่อนนะคะ
•ส่วนผสมไส้ ประกอบด้วย ...

ไข่ไก่ 2 ฟอง ,น้ำตาลทราย 125 กรัม ,นมสด 150 กรัม ,น้ำ 175 กรัม ,แป้งสาลี 50 กรัม ,เกลือป่น 1/4ช้อนชา ,วานิลา  1/2 ช้อนชา ,เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ

****วิธีทำดูจากที่นี่ค่ะ สังขยาใบเตย...จิ้มขนมปัง

ต่อด้วยการทำแป้งขนมโตเกียว ...

เริ่มด้วยเตรียมส่วนผสม

 

 ส่วนผสมแป้งขนมโตเกียว ประกอบด้วย ...

แป้งสาลี 150 กรัม , ผงฟู 1 ช้อนชา ,เบคกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา ,น้ำตาลทราย 50 กรัม ,เกลือป่น 1/2 ช้อนชา ,ไข่ไก่ 2 ฟอง, นมสด 150 กรัม , น้ำ 50 กรัม,เนยละลาย20 กรัม,วานิลา 1/2 ช้อนชา

วิธีการทำแป้ง ...


ร่อนแป้ง+ผงฟู +เบคกิ้งโซดา เข้าด้วยกัน
เติมน้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป ผสมเข้ากัน
เติมไข่ไก่ นมสด น้ำ วานิลา และ เนยละลาย
ผสมด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน ลักษณะแป้งเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน

พักแป้งไว้ประมาณ 20-30 นาที จึงนำหยอดลงกระทะ ทำที่บ้านใช้กระทะเทปร่อนแทนนะคะ

 

เปิดไฟอ่อนๆ รอจนกระทะร้อนแล้วจึงหยอดแป้งลง 1ช้อนโต๊ะ 
หยอดลงบนกระทะแล้วใช้ช้อนเกลี่ยให้เป็นวงรีๆ รอจนสุก แป้งจะขึ้นฟู ปุดๆ เป็นฟองอากาศเล็กๆ
ใส่ไส้ครีมประมาณ 1ช้อนชา ม้วน พับ ตามถนัดนะคะ

ดูตามภาพค่ะ  ...

 

ได้แล้วนะคะ " ขนมโตเกียวไส้ครีม "  ฝีมือฉันเอง ...ง่ายๆทำเองได้ไม่ยุ่งยาก


 

แม้ " ขนมโตเกียวไส้ครีม "  ของฉันจะไม่สวยงามอย่างมืออาชีพ แต่รสชาติใช้ได้ทีเดียว ;)

credit by :  https://www.gotoknow.org/posts/487128



Read More...


ขนมกล้วย "ใส่ถ้วยนึ่งฟู"

ส่วนผสมและขั้นตอนการทำ
ส่วนที่ 1 แป้งเชื้อ ประกอบด้วย

น้ำ 100 กรัม
ยีสต์แห้ง 1 ช้อนชา
แป้งสาลี(สำหรับทำเค้ก ตราบัวแดง) 100 กรัม

วิธีทำ


ผสมรวมกันแล้วหมักไว้ 1-2 ชั่วโมง

ส่วนที่ 2 ตัวแป้ง
แป้งสาลี(สำหรับทำเค้ก ตราบัวแดง) 250 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
กล้วยน้ำว้าสุกงอม บดหยาบๆหรือหั่นเล็กๆ 200 กรัม
น้ำตาลทราย  150 กรัม
น้ำกะทิ 150 กรัม
ไข่ขาว 1 ฟอง

วิธีทำ


ร่อนแป้งกับผงฟูพักไว้
เติมกล้วยและน้ำตาลทรายลงในแป้งเชื้อ คนให้เข้ากัน
เติมน้ำกะทิ ผสมจนเข้ากัน
เติมแป้งที่ร่อนไว้ลงไป นวดผสมด้วยมือจนเข้ากันดี
สุดท้ายเติมไข่ขาวลงไป ผสมให้เข้าอีกครั้ง


ตักหยอดในถ้วยตะไล
นึ่งในลังถึงที่น้ำเดือดพล่าน ไฟแรง นาน 15  นาที
ยกลง พักให้เย็น


แซะออกจากถ้วย
รับประทานกับเครื่องดื่ม ตามชอบใจค่ะ
ขนมกล้วย "ใส่ถ้วยนึ่งฟู" ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วนะคะ

credit by :  https://www.gotoknow.org/posts/533351

Read More...


ซ่าหริ่ม "ของหวานยามหน้าร้อน"


ขนมซ่าหริ่มถ้วยนี้...
ได้ลองทำเล่นมาหลายวันแล้วตั้งแต่สงกรานต์ที่ผ่านมายังไม่ได้เขียนลงบันทึก 
วันนี้ได้เวลาจึงของบันทึกไว้ช่วยจำนะคะ
ขนมซ่าหริ่ม ของหวานอย่างโบราณที่เป็นที่รู้จักมานานในสังคมไทย
ขนมซ่าหริ่มมาจากไหน ว่ากันว่ามาด้วยกันกับลอดช่อง ประมาณนั้น ขนมเหล่านี้
ผู้ริเริ่มต้นรับผู้สอนให้ชาวสยามทำขนมหวานคือ ท้าวทองกีบม้า
สมัยเป็นนักเรียนอาหาร อาจารย์ท่านบอกว่า
เมื่อก่อนการรับประทานขนมหวานที่ต้องการให้เย็นชื่นใจ ก็จะใช้เกล็ดพิมเสนโรยลงในขนม
"ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำ แทรกใส่น้ำกะทิเจือ วิตกอกแห้งเครือ ได้เสพหริ่มพิมเสนโรย"
จากกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน
นานมากแล้วที่ไม่ได้ทำซ่าหริ่ม สมัยก่อนเคยทำที่โรงเรียน
ใช้พิมพ์กดซ่าหริ่มแบบทองเหลือง มาครานี้ได้ลองทำเหมือนการทบทวนความทรงจำอีกครั้ง
แต่มีพิมพ์สแตนเลสแทน ราคาไม่แพงอย่างทองเหลือง
มาดูส่วนผสมและขั้นตอนการทำกันนะคะ 
• ตัวขนมซ่าหริ่ม ครั้งนี้ทำ 3 สีค่ะ คือ สีเขียว ชมพู และสีฟ้า
แต่ละสี เตรียมแป้ง 1ส่วน ดังนี้  ... แป้งถ้่ว 50 กรัม, น้ำต้มใบเตย (ที่พักไว้จนเย็นสนิท) 400 กรัม

•ส่วนผสมน้ำเชื่อม ... น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง ,น้ำต้มใบเตย 1 ถ้วยตวง 
ตั้งไฟให้เดือดพักไว้ให้เย็น 

•ส่วนผสมกะทิ ... มะพร้าวขูดขาว 500 กรัม เติมน้ำต้มสุก ประมาณ 1 ถ้วยตวง 
คั้นข้น ๆ เติมเกลือป่น เล็กน้อย (ชิมออกเค็มนิดๆ)

วิธีทำ ตัวขนมซ่าหริ่ม
ผสมแป้งกับน้ำต้มใบเตยให้เข้ากัน หยดสีผสมอาหารลงไป 1-2 หยด (จะใช้สีธรรมชาติก็ได้เช่นกัน)
ตั้งไปอ่อน กวนจนข้น 
กดลงพิมพ์ ให้ตัวขนมซ่าหริ่มลงในน้ำเย็น ทันที
ตามภาพค่ะ

รอให้เช็ทตัวดี จึงตักขึ้นใส่กระชอน พักให้สะเด็ดน้ำ


ได้ตัวซ่าหริ่มแล้ว ...



จัดเรียงไว้เป็นสีๆ
เมื่อจะรับประทาน ก็เติมน้ำเชื่อม และกะทิสดลงไป
ใส่น้ำแข็งทุบ
รับประทานได้ ...


credit by : https://www.gotoknow.org/posts/534292

Read More...


ขนมสอดไส้

ขนมสอดไส้เป็นขนมไทยอีกอย่างหนึ่ง ที่ปัจจุบันมีขายน้อยนัก เหตุจากหลายปัจจัย 
เช่น ต้นทุนวัตถุดิบหลักมะพร้าวแพงขึ้น และใบตองในเมืองก็หายากขึ้น
จึงมีการดัดแปลงรูปทรงของขนมสอดไส้กันใหม่ใส่ถ้วยพลาสติกแทนห่อด้วยใบตอง 
แบบที่เรียกว่า ขนมไทยใส่ไอเดีย ทำนองนั้

มาดูขั้นตอนการทำกันนะคะ
  • 1. เตรียมมะพร้าวสำหรับทำไส้ขนม  

     


•ประกอบด้วย :
มะพร้าวทึนทึกขูด 250 กรัม , น้ำตาลโตนด(น้ำตาลแว่น) 200 กรัม , น้ำเปล่า ประมาณ 100 กรัม 

•วิธีทำ :
  • ผสมทุกอย่างลงในกระทะทอง > เปิดไฟอ่อนปานกลาง >กวนจนส่วนผสมแห้งเหนียว >
  • ตักขึ้น > พักไว้ให้เย็น  > เมื่อเย็นแล้ว ปั้นเป็นก้อน  ส่วนนี้ได้ประมาณ 40 - 45  ก้อน
  • 2. พักไส้ไว้ก่อน มาเริ่มทำใบตองสำหรับห่อ"ขนมสอดไส้" กันค่ะ ...

     
•ใบตองที่ผึ่งไว้แห้งหมาดๆ ฉีกใบตองแล้วเช็ดให้สะอาด เตรียมสำหรับห่อ 2 ขนาด

และ ส่วนสำหรับคาด เราใช้ใบมะพร้าว หรือใบเตยแทนก็ได้หากหาใบมะพร้าวไม่ได้ 

1.ใบตองชั้นนอก  ฉีกกว้างประมาณ 5¼ นิ้ว เจียนใบตองชั้นนอก ขนาด  5× 9 นิ้ว 

2.ใบตองชั้นใน ฉีกเล็กกว่า กว้างประมาณ 4 ¼ นิ้ว  ,เจียนใบตองชั้นในขนาด  4 × 6 นิ้ว

3.วันนี้ใช้เป็นใบเตยไว้สำหรับคาด (แม่ฉันเรียกว่า เตี่ยว) ขนาดกว้าง ½ นิ้ว ยาว 12 นิ้ว 

4.ไม้กลัด ใช้ไม้เสียบลูกชิ้นมาผ่าตัดเล็กๆ หรือ ใช้ไม้จิ้มฟันแทนก็ได้ค่ะ 
  • 3. เมื่อทำใบตองเสร็จแล้ว เราก็มาเตรียม นวดแป้งชั้นใน


•ประกอบด้วย :

แป้งข้าวเหนียวดำ 100 กรัม ,แป้งข้าวเหนียวขาว 200 กรัม
และน้ำสะอาด 220 กรัม

•วิธีทำ :

1.ผสมรวมกัน แล้วนวดกับน้ำสะอาด  จนนิ่มมือ 

2.แบ่งเป็นก้อนแล้วแผ่ออกบางๆ > วางไส้ที่ปั้นไว้ > ห่อให้มิด 


3.ทำจนหมดแป้งเรียงไว้ ห่างๆไม่ให้ติดกัน นะคะ พักไว้ 
  • 4. เตรียมส่วนผสมของแป้งชั้นนอก 

     
•ประกอบด้วย :
กะทิ 1125 กรัม หรือ 5 ถ้วยตวง (คั้นจากมะพร้าว 500 กรัม) ,

แป้งข้าวเจ้าแห้ง 125 กรัม , น้ำตาลทราย 45 กรัม ,

และเกลือป่น 2 ½ ช้อนชา

•วิธีทำ 
1.คั้นกะทิ กรองเอากากออก ใส่ลงในกระทะ

2.เติมแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทรายและเกลือป่นลงไป

3.เปิดไฟอ่อนปานกลาง กวนจนส่วนผสมข้น (ตามภาพ)

4.ตักออกจากกระทะใส่ชามไว้นะคะ

(** ข้อควรระวัง ขั้นตอนนี้หากใส่ไว้ในกระทะแป้งจะแข็งเร็วก่อนเราจะห่อหมด )
  • 5.เตรียมห่อขนมสอดไส้ 

     
1.เรียงใบตองซ้อนกัน ใบชั้นนอกกับใบชั้นใน เอาด้านเงาออกด้านนอกนะคะ 

2.หยิบแป้งที่ห่อไส้ไว้ใส่ลงในส่วนผสมที่กวนได้ที่แล้ว 
ตัก 1 ก้อนคลุกให้ทั่ว จึงตักขึ้นวางบนใบตอง

3.วางเรียงๆไว้นะคะ วางไว้สักครู่แป้งจะอุ่นลง จะห่อง่ายกว่า แป้งขณะที่ยังร้อนๆ


4.ห่อแบบทรงสูง > ใช้ใบเตยคาด  > กลัดด้วยไม้กลัด


5.วางเรียงในรังถึง ห่อจนหมด > นึ่งให้สุก >
โดยตั้งน้ำให้เดือดก่อนแล้วจึงวางขนมขึ้นบนรังถึง > จับเวลานึ่ง 10 -15 นาที 

6.เช็คดูก่อนนะคะ ว่า สุกทั่วหรือไม่ ก่อนจะยกลงค่ะ 
หากแป้งชั้นในยังแข็งแสดงว่ายังไม่สุก ก็ให้นึ่งต่อ ค่ะ 

7.ได้แล้วนะคะ "ขนมสอดไส้" ขนมไทยแสนอร่อย ห๊อม หอม 

การจัดเสริฟขนมสอดไส้นั้นจะต้องรอให้เย็นสนิทก่อนนะคะเพื่อให้แป้งเช็ทตัวไม่นิ่มเกินไป 
•ขอขอบคุณสูตรดีๆ จากต้นตำรา อาหาร-ขนม โดย 
อาจารย์เสริมพร สาตรพันธุ์ วิทยาลัยสารพัดช่างพระนคร 

credit by :  https://www.gotoknow.org/posts/497545

Read More...


ขนมชั้นใบเตย "ขนมไทยถาดเล็ก"

ขนมชั้นใบเตย "ขนมไทยถาดเล็ก" 

•ภาพ : ขนมชั้นใบเตยถาดเล็ก  ขนาดถาด 12×12×2.5 ซม

มาดูส่วนผสมและขั้นตอนการทำกันนะคะ

ส่วนผสม สูตร 8 ถาด (ขนาดถาด12×12×2.5 ซม.)

ประกอบด้วย 


  • แป้งข้าวเจ้า 90 กรัม
  • แป้งมัน 416 กรัม
  • น้ำตาลทราย 874 กรัม
  • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
  • กะทิ 1320 กรัม (คั้นจากมะพร้าวขูด 500 กรัม)

  • ** การคั้นด้วย ถ้าต้องการให้ขนมหอมขึ้น ก็คั้นมะพร้าวด้วยน้ำใบเตยต้ม พักไว้จนอุ่นๆ


    วิธีทำ 

    • 1 ) คั้นกะทิ ตามสูตรกำหนด กรองด้วยกระชอน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้ง
    • 2 ) นวดแป้งทั้งสองชนิด กับกะทิ ให้พอนวดได้ ข้นๆ นวดไปเรื่อยๆ นาน 5 นาที
    • *** การนวดเพื่อให้แป้งเหนียวนุ่ม การนวดทำให้แป้งเกิดโครงสร้างทำให้ที่ได้ขนมนั้นเหนียวนุ่ม หากเราไม่นวด ทำการคนผสมเลย จะได้ขนมที่แฉะนิ่มไม่เหนียวนุ่ม แต่หากนวดนานเกินไปขนมก็จะกระด้างไป จึงต้องนวดแต่พอดี ก็จะได้ขนมอร่อยๆ 
    • 3 ) เมื่อครบเวลา เติมน้ำตาลทรายลงนวดต่อ ค่อยๆคลายด้วยกะทิ ที่เหลือ จนหมด
    • *** กรณี ที่ต้องการใช้สีธรรมชาติคือน้ำคั้นใบเตย ให้แบ่งกะทิ เอาไว้ด้วย (แบ่งออกจาก 1320 กรัม นะคะ เป็น สามส่วน คือไว้ผสมในสีขาว 200 กรัม และ นำไปคั้นกับใบเตย 200 กรัมค่ะ และส่วนที่นวดกับแป้ง 920 กรัม )
    • 4 ) เมื่อเรานวดในขั้นตอนที่ 3)เสร็จ ก็แบ่ง น้ำแป้งออกเป็น 2 ส่วน เท่าๆกันค่ะ (เราก็จะได้น้ำแป้งส่วนละ 1150 กรัม)  ส่วนที่ 1. เติมน้ำกะทิ ทำสีขาว และส่วนที่ 2 เติมน้ำกะทิสีใบเตย ทำสีเขียว 
    • 5 ) ตั้งน้ำในลังถึง 3/4 ของก้นลังถึง ต้มจนเดือนพล่านๆไฟแรง ๆ
    • 6) เรียงถาดเล็กๆ 8 ถาดในลึงถึง (หากไม่มี ลังถึงใหญ่ ก็แบ่งนึ่งหลายรอบ)
    • 7) หยอดแป้งให้แป้งหนา พอประมาณ ถาดนี้นึ่งได้ 6ชั้น น้ำหนักหลังนึ่ง ประมาณ 350 กรัมต่อถาด
    • 8 ) นึ่งชั้นละ 4-5 นาที 
    • 9) เมื่อชั้นที่ 1 สุก ก็เปิดฝาลังถึงหยอดชั้นต่อไป เรื่อยๆ จนหมด แป้ง หรือเต็มถาด 
    • 10 ) ยกลง วางพักบนตะแกรง รอจนเย็นสนิท ตัดเป็นชิ้น ตามต้องการ 
     

    • 11 )หุ้มด้วยพลาสติกใส นำออกจำหน่าย จ่ายแจก ได้ 
    credit by :https://www.gotoknow.org/posts/517812



    Read More...


    หมั่นโถวมันเทศผสมงาดำ

    หมั่นโถวมันเทศผสมงาดำ


    หมั่นโถว นั่นก็คือ ซาลาเปาไม่มีไส้

    หมั่นโถวเป็นอาหารจีนที่มักจะรับประทานควบคู่กับ เป็ดปักกิ่ง ขาหมูตุ๋น  "ขาหมูหมั่นโถว" ชื่อเมนูจากภัตตคารจีนที่คุ้นหูนักชิมทั้งหลาย

    ในการทำครั้งนี้เติมมันเทศนึ่งและงาดำคั่วบดลงไปด้วย ช่วยเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางอาหารลงไปด้วย มันเทศ มีประโยชน์คุณค่ามากมาย 

    เมล็ดงา ธัญพืชเมล็ดจิ๋ว ที่ มากคุณค่า ถ้าจะให้รับประทานเพื่อให้ได้คุณค่าเต็มๆร่างกายย่อยได้ นั่นคือต้องเป็นงาบดละเอียด เพราะว่า งาทั้งเมล็ด ที่ร่างกายไม่สามารถย่อยและดูดฃึมสารอาหารจากเมล็ดงานั้นได้

    สำหรับบันทึกนี้ 
    มีส่วนผสมและขั้นตอนการทำ "หมั่นโถวมันเทศผสมงาดำ" มาฝากนะคะ  จากสูตรที่ได้ทดลองทำเมื่อหลายวันก่อน 

    มาดูกันค่ะ 
    ส่วนผสมประกอบด้วย


    • แป้งสาลี 500 กรัม
    • มันเทศนึ่งบด 500 กรัม
    • ยีสต์ 1 ช้อนโต๊ะ
    • น้ำตาลทราย 120 กรัม
    • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
    • งาดำป่น 3 ช้อนโต๊ะ 
    • น้ำมันรำข้าว 30 กรัม
    • น้ำอุ่น 120 กรัม

    วิธีทำ
    • ผสมส่วนผสมทั้งหมดผสมให้เข้าด้วยกัน ยกเว้น น้ำมันรำข้าว
    • นวดด้วยเครื่องหรือนวดด้วยมือจนแป้งเข้ากันดี 
    • เติมน้ำมันรำข้าวลงไปนวดผสมจนแป้งเนียนนุ่มไม่ติดมือ
    • พักแป้งไว้ประมาณ 15 นาที ก่อนขึ้นรูป
    • ...

    การขึ้นรูป (ส่วนนี้ได้ 24 ชื้น)
    • ตัดแป้งเป็นก้อน น้ำหนัก 50 กรัมต่อก้อน หรือแบ่งเท่ากันตามต้องการ
    • คลึงแต่ก้อนให้เรียบเนียน เรียงๆไว้ตามลำดับก่อนหลัง
    • จากนั้นก็เริ่มจากก้อนที่1 นำมารีดให้แผ่ออก
    • แล้วม้วนหรือขึ้นรูปแบบต่างๆตามต้องการ
    • วางบนกระดาษซาลาเปา หรือ ถ้วยคัพเค้ก
    • ทำจนหมดแป้ง 
    • พักไว้ให้ขึ้นเป็นสองเท่า เวลาพักประมาณ 40-50 นาที ก่อนนึ่ง
    • ...

    การนึ่ง
    • เมื่อขึ้นฟูแล้ว
    • นำไปนึ่งในลังถึงที่น้ำเดือดพล่าน
    • นึ่งนาน 15 นาที
    • เมื่อสุก จัดเสริฟร้อนๆ
    • ...
    • หรือหากต้องทำเก็บไว้ ให้วางพักบนตะแกรงจนเย็น


    เมื่อเย็นสนิท จัดเก็บใส่กล่อง 
    เข้าตู้เย็นไว้ได้นาน ประมาณ 7-10 วันในตู้เย็น ช่องธรรมดา
    ...



    เมื่อจะรับประทานก็นำมาอุ่นร้อนๆ 

    credit by : https://www.gotoknow.org/posts/525678

    Read More...


    ขนมแป้งจี่ผสมข้าวกล้องงอก

    ขนมแป้งจี่เป็นขนมที่มีส่วนผสมเหมือนกับขนมบ้าบิ่น ต่างกันที่การทำให้สุก คือขนมบ้าบิ่นจะนำส่วนผสมไปกวนก่อนจากนั้นก็นำไปอบให้ด้านนอกกรอบด้านในนุ่ม ส่วนขนมแป้งจี่จะทำให้สุกโดยการจี่ในกระทะ ส่วนประกอบหลักของขนมแป้งจี่ ประกอบด้วย แป้งข้าวเหนียว ขาวหรือดำก็ได้ หากเป็นข้าวเหนียวดำจะมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าข้าวเหนียวขาว และอื่นๆก็มี แป้งข้าวเจ้า มะพร้าว ไข่ไก่ ปรุงรสด้วย น้ำตาล เติมเกลือป่นเล็กน้อย

    วันนี้ ทำการปรับเปลี่ยนส่วนผสมเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับขนม  นำข้าวสวยจากข้าวกล้องงอก งาขาวงาดำคั่วหอมเติมลงไป จากการทดลองพบว่าได้ลักษณะของขนมที่นุ่มด้านใน มีรสชาติดี หวานน้อย กลมกล่อม 

    จึงนำมาบันทึกช่วยจำไว้
    มาดูส่วนผสมกันค่ะ

    ส่วนผสมประกอบด้วย
    • แป้งข้าวเหนียวดำ 120 กรัม
    • แป้งข้าวเจ้า 25 กรัม
    • มะพร้าวทึนทึกขูด 250 กรัม
    • น้ำตาลทรายแดง 100 กรัม
    • น้ำเปล่า 125 กรัม
    • ไข่ไก่ 1 ฟอง
    • งาขาวและงาดำ อย่างละ 10 กรัม (1ช้อนโต๊ะ)
    • เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
    • ข้าวสวย (ที่หุงจากข้าวกล้องงอก) 60 กรัม

    วิธีทำ
    • ผสมส่วนของแห้งกับมะพร้าว นวดให้เข้ากัน
    • เติมน้ำเปล่า และไข่ไก่ผสมจนเข้ากัน
    • พักส่วนผสมแป้งไว้ ประมาณ 30 นาที ก่อนทำให้สุกโดยการจี่ในกระทะ 
    การจี่ขนม
    • ตั้งกระทะให้ร้อนใช้ไฟอ่อน 
    • หยอดแป้งลงประมาณ 1ช้อนชา
    • เมื่อแป้งเริ่มแข็งตัวและเปลี่ยนสี
    • พลิกกลับด้าน จี่จนขนมสุกทั่วทั้งชิ้น ตักขึ้น เสริฟร้อนๆ 

    หรือจะจี่แบบในพิมพ์ไข่ดาวก็ได้นะคะ แบบนี้ชิ้นจะใหญ่ขึ้นมาหน่อย 
    เสร็จแล้วตัดเป็นชิ้น

    ขนม แป้งจี่ ที่ปรุงจากแป้งข้าวเหนียวดำผสมด้วยข้าวสวยจากข้าวกล้องงอกและเติมงาขาวงาดำ ลงไป ช่วยเพิ่มคุณค่าทางอาหารให้กับขนมไทย พร้อมเสริฟแล้ว ...

    ยามนี้ อาหารสุขภาพ มาแรง ให้ทันกระแสสักเล็กน้อย

    ขนมไทย หวานน้อย มากด้วยคุณค่า  ปรุงเองได้ ง่ายๆ 



    สาระดี ๆ เกี่ยวกับข้าวเหนียวดำ มีมาฝาก

    ข้าว เหนียวมี 2 สี คือ สีขาวและสีดำ แต่ข้าวเหนียวดำจะมีสารอาหาร  ที่เป็นประโยชน์มากกว่าข้าวเหนียวขาว สารอาหารที่ว่า คือ “โอพีซี”  มีสรรพคุณช่วยชะลอการแก่ก่อนวัย และความเสื่อม ถอยของร่างกาย
    โดยสาร โอพีซีที่พบในข้าวเหนียวดำ เป็นสารชนิดเดียวกับสารสกัดที่ได้  จากองุ่นดำองุ่นแดง เปลือกสน ทั้งนี้สาร โอพีซียังพบใน แอป เปิ้ลแดง แอปเปิ้ลฟูจิ มะเขือม่วง หอมแดง ถั่วแดง ถั่วดำ มันสีม่วง ชมพู่มะเหมี่ยว ลูกหว้า
    ด้วยข้อดีของข้าวเหนียว คือ เป็นอาหารร่าเริง ทำให้สมองสงบ คลายเครียด กินแล้วจะรู้สึกผ่อนคลาย ทำให้อิ่มท้องนาน เข้ากับยุควิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบัน

    สารสำคัญในข้าวเหนียว คือ ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก มีสรรพคุณในการสร้างเม็ดเลือด ทำให้เม็ดเลือดสมบูรณ์ นอกจากนี้ข้าวเหนียวยังอุดมไปด้วยวิตามินอี มีสรรพคุณ ช่วยป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ ป้องกันปัญหาวุ้นนัยน์ตาเสื่อม

    การ นำข้าวเหนียวดำไปทำข้าวหมาก จะทำให้ได้วิตามินบี 12 ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และการนำข้าวเหนียวไปทำเป็นของหวาน โดยเอาไปมูลกับน้ำกะทิ น้ำกะทิจะช่วยสกัดวิตามินอีออกมา แต่ไม่ควรรับประทานมาก เพราะอาจทำให้อ้วน และได้รับน้ำตาลมากจนเกินไป

    ข้อเสียของข้าวเหนียวก็มีเช่นกัน คือ ข้าวเหนียวให้พลังงานเยอะ ก็จะให้อนุมูลอิสระเยอะตามไปด้วย เมื่อกินเข้าไปมาก ๆ จะทำให้ง่วงนอน นอกจากนี้ในข้าวเหนียว โดยเฉพาะข้าวเหนียวขาวยังมีสารกลูเต็น ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดความเหนียวหนืด อาจทำให้บางคนเกิดอาการแพ้ได้

    ใน กรณีผู้สูงอายุ และเด็ก อาจจะทำให้ติดคอ อุดตันลำไส้ หรือทำให้อึดอัดท้อง ระบบทางเดินอาหารไม่ปกติได้ ดังนั้นในผู้ที่มีปัญหาระบบการย่อยอาหารไม่ดี เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว ไม่ควรกินข้าวเหนียวในปริมาณมาก และควรเน้นไปที่ข้าวเหนียวดำจะดีกว่า

    สิ่งสำคัญ คือ กินข้าวเหนียวทุกครั้งควรเคี้ยวให้ละเอียด เพื่อจะได้ย่อยง่าย ๆ และควรกินในตอนเช้าจะเหมาะสมกว่าในตอนเย็น
    ที่มา :  เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 22 ก.พ. 2552
    บทความเพิ่มเติม คัดลอก จากที่นี่ > http://lib.ku.ac.th/blog/?p=946 ขอบคุณค่ะ

    Read More...


    ‘บ้าบิ่นธัญพืช’ ชูจุดขาย ‘เพื่อสุขภาพ’



    การทำขนมไทย ในอดีต ต้องใช้เวลามาก ทุกขั้นตอน มีการประดิดประดอยปั้นแต่งด้วยมือ
    อาศัยกรรมวิธีธรรมชาติ ช่วยเพิ่มสีสัน และความหอม ให้ขนมไทยสวยงาม น่ารับประทานยิ่งขึ้น
    แต่มีขนมไทยบางชนิด ต้องอาศัยการผ่านความร้อนจากเตา เพื่อช่วยให้ขนมสุก มีรสชาติหอมหวาน
    และเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือ “ขนมบ้าบิ่น” ที่ผิวด้านบน และก้นจะเกรียมเหลือง แต่ข้างในจะนุ่มเหนียวอร่อยและเป็นอีกหนึ่ง “ช่องทาง ทำกิน”

    “ขนมบ้าบิ่น” มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงปัจจุบันได้มีการพัฒนาเพิ่มคุณค่า และประโยชน์ ให้กับผู้ที่ชอบรับประทานขนมบ้าบิ่น อย่างที่ เอ๋-พิกุล วัยยาว นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภาควิชาอาหารและโภชนาการ
    คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี คิดทำ “ขนมบ้าบิ่นธัญพืช”

    เอ๋บอกว่า ขนมบ้าบิ่นเป็นขนมไทยโบราณที่นิยมรับประทานกันทุกเทศกาล ซึ่งแนวคิดทำบ้าบิ่นธัญพืช มาจากการที่เล็งเห็นว่า ขนมไทย โดยเฉพาะ ขนมบ้าบิ่น จะมีส่วนผสมของแป้ง และมะพร้าว เป็นหลัก โดยจะได้คุณค่าทางโภชนาการไม่ครบถ้วน จึงได้คิดที่จะเพิ่มคุณค่าทางอาหาร ด้วยการเพิ่ม “ธัญพืช” ลงไป

    ได้แก่ งาดำ, งาขาว, ลูกเดือย โดยในงาดำ และงาขาว มีกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวสูง
    กรดนี้จะช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอ รอล ไม่ให้มีมากเกินไป ป้องกันไม่ให้หลอดเลือดแข็ง ป้องกันโรคหัวใจอุดมไปด้วยวิตามินบี, บี 1, บี 2 ช่วยบำรุงประสาท มีวิตามินอี ทำให้ร่างกายสดชื่น
    ถ้าบริโภคเป็นประจำ จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา บำรุงกระดูก ป้องกันท้องผูก ขณะที่ลูกเดือยนั้นเป็นอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายสูง จึงมีสรรพคุณในการบำรุงกำลัง และยังมีโปรตีนสูงเทียบเท่าโปรตีนที่ได้จาก ข้าวโอ๊ต

    ขนมบ้าบิ่นธัญพืช

    การทำ “ขนมบ้าบิ่นธัญพืช” ส่วนผสมหลัก ๆ ตามสูตรจะ ประกอบด้วย
    แป้งข้าวเจ้า 50 กรัม
    แป้งข้าวเหนียว 240 กรัม
    น้ำตาลทรายขาว 350 กรัม
    กะทิ 250 กรัม
    มะพร้าวทึนทึกขูดเป็นเส้น 500 กรัม
    ไข่ไก่ (เบอร์1) 1 ฟอง
    ลูกเดือย 50 กรัม
    งาขาว 50 กรัม
    งาดำ 50 กรัม
    เกลือนิดหน่อย

    สำหรับ วัสดุอุปกรณ์ ที่ต้องใช้ก็มี
    เตาแก๊ส, ถาด, ไม้พาย, กระต่ายขูดมะพร้าว, หม้อสเตนเลส, กระทะทรงแบน, กระทะทำอาหาร, ตะหลิว,เกรียงสำหรับกลับขนม, กะละมังหลายขนาด, พิมพ์วงกลม และอุปกรณ์เครื่องครัวเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ

    ขนมบ้าบิ่นธัญพืช

    ขั้นตอนการทำ “ขนมบ้าบิ่นธัญพืช”
    เริ่มจากนำแป้งข้าวเหนียว และแป้งข้าวเจ้าที่เตรียมไว้มาทำการร่อน แล้วตั้งพักไว้สักครู่
    นำมะพร้าวทึนทึกมาขูดให้เป็นเส้น เสร็จแล้วจึงนำเอาแป้งทั้งสองชนิดที่ร่อนเรียบร้อยแล้ว
    มาผสมกับมะพร้าวขูดเส้นในภาชนะปากกว้าง
    ทำการคลุกเคล้าแล้วนวดให้ส่วนผสมเข้ากันจนมีน้ำกะทิออกมา พักไว้
    ผสมน้ำตาลทรายขาว กะทิ เกลือ ไข่ไก่ แล้วคนให้น้ำตาลทราย และเกลือละลายเข้ากันดี
    จากนั้นให้นำส่วนผสมที่ได้ไปเทใส่ส่วนผสมมะพร้าวกับแป้งที่เตรียมไว้ ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน

    ในส่วนของลูกเดือย แช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก่อนจะนำไปต้มให้สุก กรองให้สะเด็ดน้ำ
    ส่วนงาดำ-งาขาว นำมาคั่วด้วยไฟอ่อนให้มีกลิ่นหอม ก่อนจะใส่ธัญพืชเหล่านี้ตามลงไปในส่วนผสมบ้าบิ่นทำการคนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ตั้งพักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที

    พอพักทิ้งไว้จนได้เวลาแล้ว ให้ตั้งกระทะแบนบนเตาพอร้อน
    นำพิมพ์ทรงกลมที่แช่น้ำมันมาวางบนกระทะทรงแบน
    ตักส่วนผสมบ้าบิ่นใส่ลงในพิมพ์ ใช้ไฟอ่อน (เรียกว่าการจี่ด้วยกระทะ) เกลี่ยให้สวยงาม

    เมื่อขนมด้านหนึ่งสุกก็กลับด้าน กลับไปกลับมาจนทั้งสองด้านของขนมเกรียม
    และมีสีเหลืองน้ำตาลน่ารับประทาน ให้ตักใส่ภาชนะ เท่านี้ก็จะได้ “ขนมบ้าบิ่นธัญพืช” ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

    ขนมบ้าบิ่นธัญพืช

    หากเป็นการทำขาย ก็ตั้งราคาขายให้มีกำไรประมาณ 40% ต้นทุนเฉพาะวัตถุดิบประมาณ 60%

    “ขนมบ้าบิ่นธัญพืช” สูตรนี้ ทางเจ้าของไอเดียไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์
    ท่านใดสนใจนำไปทดลอง-พลิกแพลงทำขายเป็นอาชีพก็ตามสะดวก
    หรือถ้าต้องการติดต่อ สอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมจาก เอ๋-พิกุล ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-7114-3087.

    เชาวลี ชุมขำ รายงาน
    ที่มา เดลินิวส์

    credit by :  http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=06-2009&date=13&group=12&gblog=60

    Read More...


    ‘ขนมบ้าบินสด’ชูภูมิปัญญาสร้างเงิน!!


    หากจะเอ่ยถึงขนมไทยนานาชนิดแล้ว หลายคนคงจะนึกถึงบัวลอย ฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ขนมชั้น ฯลฯ แต่สำหรับเจ้าขนมชนิดนี้ ชื่อออกจะแปลก ๆ ไม่น่าฟัง และไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นชื่อขนมได้ แต่ถ้าพูดถึงความอร่อย หากลองทานจะติดใจจนไม่ลืมเลย คือ “ขนมบ้าบิ่น” นั่นเอง ซึ่งวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยาก ใช้เงินลงทุนน้อย แถมสร้างกำไรได้ดีพอสมควร ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” จึงนำข้อมูลมาเสนอ ซึ่งนอกจากจะใช้ในการประกอบอาชีพแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์สูตรขนมไทยโบราณไว้ให้คนรุ่นหลังอีกด้วย

    ณรงค์ ปันสังข์ หรือ “ลุงเหน่ง” เจ้าของร้านขนมบ้าบิ่นสด คลองลัดมะยม เล่าให้ฟังว่า ทำขนมบ้าบิ่นสดขายมานานประมาณ 7 ปีแล้ว ซึ่งเดิมนั้นตนและแฟนขายผลไม้ดองตามตลาดนัดและตลาดนํ้า ช่วงที่กำลังมองหารายได้เสริมและหาอาชีพสำรองเตรียมไว้ให้ลูก ๆ จังหวะพอดีกับที่เพื่อนมาเยี่ยมและรู้ว่าตนชอบกินขนมไทยโบราณ จึงเอาสูตรการทำขนมบ้าบิ่นแบบคร่าว ๆ มาให้ ตนก็เอาสูตรเดิมมาปรับทำใหม่ ให้มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนกับเจ้าอื่น และทำโชว์กันเห็น ๆ

    “ขนมบ้าบิ่นของผม เป็นสูตรบ้าบิ่นแป้งสด รสชาติจะหอมหวานไม่เหมือนใคร มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับเฉพาะตัว ผมใช้มะพร้าวนํ้าหอมเป็นส่วนผสมหลัก เพราะเนื้อไม่แข็งหรือนิ่มมากเกินไป เมื่อทำการย่างหรือจี่ขนมบนเตาสุกแล้ว ขนมจะมีรสชาติที่หอมหวานด้วยกลิ่นมะพร้าว มีลักษณะดีคือ กรอบนอก นุ่มใน สามารถนำมาเป็นของขวัญของฝากสำหรับใครหลาย ๆ คนได้ ใครที่เคยรับประทานขนมบ้าบิ่นมาบ้างแล้ว จะรู้ได้เลยว่า ขนมบ้าบิ่นที่ตลาดนํ้าคลองลัดมะยมแห่งนี้ มีรสชาติที่แตกต่างจากเจ้าอื่น รับประทานแล้วจะติดใจ ต้องหาขนมบ้าบิ่นมารับประทานอีกแน่นอน”

    ลุงเหน่ง บอกอีกว่า วัตถุดิบหรือส่วนผสมที่ใช้ในการทำขนมจะเน้นความเป็นธรรมชาติ ทั้งสี กลิ่น และรสชาติ ขนมบ้าบิ่นของที่ร้านจะมี 2 สีจากแป้งข้าวเหนียวดำและแป้งข้าวเหนียวขาว และไม่ใส่นํ้านมแมวมาปรุงแต่งกลิ่น

    อุปกรณ์ ที่ใช้มี…กระทะทรงแบน, เตาแก๊ส, เกียงสำหรับแซะ (กลับ)ขนม, หม้อสเตนเลส, ทัพพี, ถาด, กะละมัง, เล็บแมวขูดมะพร้าว และเครื่องใช้อื่น ๆ สามารถหยิบฉวยเอาได้จากในครัว

    วัตถุดิบ หลัก ๆ มี...มะพร้าวนํ้าหอมทึนทึกขูดเป็นเส้น 1 กิโลกรัม, แป้งข้าวเหนียว (ดำหรือขาวก็ได้) 5 ขีด, นํ้าตาลโตนด 2 ขีด, นํ้าตาลทราย 2 ขีด, ไข่เป็ด 1 ฟอง, นํ้ากะทิ 1 ขีด, นํ้าลอยดอกมะลิ 2 แก้ว, เกลือป่น และนํ้ามันพืช

    ขั้นตอนการทำ “ขนมบ้าบิ่นสด”

    เริ่มจากนำมะพร้าวเฉาะเอานํ้าออกและผ่าซีก ก่อนจะนำเล็บแมวมาขูดมะพร้าวให้เป็นเส้น เตรียมไว้ในภาชนะ

    นำแป้งข้าวเหนียว นํ้าตาลโตนด และมะพร้าวขูดเส้นที่เตรียมไว้ใส่อ่างผสม ใช้มือนวดให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วทำการขยำ ๆ ให้ความมันในมะพร้าวออกมาจนเป็นนํ้ากะทิ

    เสร็จแล้วต่อยไข่ใส่ลงไป ตามด้วยนํ้ากะทิ นํ้าตาลทราย เกลือ และนํ้าลอยดอกมะลิที่เตรียมไว้ คนส่วนผสมให้เข้ากันดี ยกขึ้นตั้งไฟปานกลางสักครู่ คนเบา ๆ สังเกตให้ส่วนผสมของแป้งมะพร้าวมีลักษณะข้นและพอสุกเล็กน้อย ให้ยกลงตั้งพักไว้ให้เย็น

    ต่อไปเป็นขั้นตอนการทำให้สุกด้วยการปิ้ง ย่าง หรือจี่ โดยนำกระทะทรงแบน ตั้งบนเตาใช้ไฟอ่อน ๆ พอกระทะร้อน ใช้ผ้าชุบนํ้ามันทาบนกระทะพอหมาด ๆ ให้ทั่ว ใช้ช้อนตักส่วนผสมขนมบ้าบิ่นหยอดลงบนกระทะ ทำการเกลี่ยให้สวยงาม

    เมื่อขนมด้านหนึ่งสุกก็กลับด้าน กลับไปกลับมาจนทั้งสองด้านของขนมเกรียม และมีสีเหลืองนํ้าตาลน่ารับประทาน ให้ตักใส่ภาชนะ เท่านี้ก็จะได้ “ขนมบ้าบิ่นสด” มารับประทาน

    เคล็ดลับความอร่อยของขนมบ้าบิ่นสด ลุงเหน่ง บอกว่า นอกจากมะพร้าวนํ้าหอมที่มีขนาดกำลังดี ไม่แก่หรือไม่อ่อนเกินไป การผสมแป้งข้าวเหนียวต้องไม่แข็งและไม่เหลวจนเกินไปด้วย

    สำหรับราคาขาย ขนมบ้าบิ่นสดร้านนี้ ขาย 8 ชิ้น 20 บาท!!

    ใครสนใจ “ขนมบ้าบิ่นสด” ร้านนี้ ก็แวะเวียนไปลองชิมกันดูได้ ร้านอยู่ที่ตลาดนํ้าคลองลัดมะยม โซน 2 ขายทุกเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ต้องการสั่งไปใช้ในงานบุญ การเลี้ยง หรืองานเทศกาลต่าง ๆ ติดต่อสอบถามที่ลุงเหน่ง 08-9244-1685 และนี่ก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจและน่าอนุรักษ์.

    เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง /พิชญวัฒน์ ปรุงศักดิ์ : ภาพ

    คู่มือลงทุน...ขนมบ้าบิ่นสด

    ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป

    ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60% ของราคา

    รายได้ ราคาขาย 20 บาท / 8 ชิ้น

    แรงงาน ตั้งแต่ 1-2 คนขึ้นไป

    ตลาด ตลาดน้ำ, ชุมชน, ตลาดนัดทั่วไป

    จุดน่าสนใจ ปรับสูตรทำขายได้ทุกเทศกาล

    credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/276398/‘ขนมบ้าบินสด’ชูภูมิปัญญาสร้างเงิน!!




    Read More...




    ----------------

    ปรับปรุง
    รายการบทความทั้งหมด



    การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



    ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



    รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



    รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



    ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





    MASK รุ่นสายคล้องคอ







    MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
    ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
    3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
    เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
    บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
    ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
    มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
    หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
    มีเรทราคาส่งค่ะ

    -> id line : noeyhorm_06
    #มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


    ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
    ● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
    ● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
    ● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
    ● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































    เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
    ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

    --------------------------------------------------------------------------------------------
    แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
    อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
     
    Option

    รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.