สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

‘เปิดร้านกาแฟ’ ต้องอย่างไร?..ถึง‘ยั่งยืน’

 ช่องทางทำกิน” วันนี้ยังคงเก็บตกกิจกรรมครั้งที่ 6 ตามโครงการ “เดลินิวส์ฝึกอาชีพ” ฟรี!! ซึ่งคณะผู้บริหารเดลินิวส์จัดขึ้นเพื่อช่วยเหลือประชาชนทางด้านอาชีพ โดยกิจกรรมครั้งที่ 6 นี้ทางเดลินิวส์จัดฝึกอบรมการทำ “ธุรกิจร้านกาแฟ” โดยร่วมกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด อีกครั้ง...
                             
การฝึกอบรมครั้งนี้ ดร.พิสิฐ เหตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายขายและจัดจำหน่ายหนังสือพิมพ์เดลินิวส์, คุณนนท์ รุจิรวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาดหนังสือพิมพ์เดลินิวส์, คุณบัญญัติ คำนูณวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ซีพี ออลล์, คุณนริศ ธรรมเกื้อกูล รองกรรมการผู้จัดการ ซีพี รีเทลลิงค์ และทีมงานของทุกฝ่าย คอยให้การต้อนรับดูแลผู้เข้าอบรม 50 คนอย่างใกล้ชิด โดยคุณนริศซึ่งสันทัดกรณีธุรกิจกาแฟให้เกียรติเป็นวิทยากรให้ความรู้ผู้เข้า อบรมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ

“ทำร้านกาแฟอย่างไรให้ยั่งยืน?” นี่เป็นประเด็นสำคัญ โดยคุณนริศระบุว่า ธุรกิจกาแฟขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกวัน ด้วยตลาดที่ใหญ่ก็ทำให้คนหันมาสนใจธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยากเปิดร้านกาแฟเพราะมองว่ากำไรดี, คิดว่ามีอิสระ เปิด-ปิดเมื่อไหร่ก็ได้ตามใจ, อยากเป็นเจ้าของกิจการ, มีสถานที่อยู่แล้ว หรือเปิดเพราะอยากมีที่รับรองเพื่อนก็ยังมี

“อยากให้ข้อมูลว่าจากการสำรวจพบว่าร้านกาแฟท้องถิ่นมีอัตรารอด 20% มักพบปัญหาการลาออกบ่อยของพนักงาน หลายคนเริ่มต้นโดยขาดความรู้ ไม่มีระบบ ทำให้ตกอยู่ในสภาพรอดก็ไม่ได้-ตายก็ลำบาก” นี่เป็นคำเตือนจากกูรูผู้เชี่ยวชาญธุรกิจร้านกาแฟ ทว่า...การจะสร้างตัวจากธุรกิจร้านกาแฟนั้นก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

การทำธุรกิจร้านกาแฟสดนั้น หลัก ๆ ที่จะต้องคำนึงถึง ประกอบด้วย... การตลาด ผู้เปิดร้านกาแฟต้องวิเคราะห์ว่า ตลาดอยู่ไหน ใครคือลูกค้า มีขนาดเท่าไร นอกจากนี้ต้องทราบ พฤติกรรมลูกค้า อุปนิสัย ความชื่นชอบ วิถีชีวิต เพื่อจะทราบว่าสินค้าและบริการแบบใดตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย และต้องพิจารณา ราคาที่คุ้มค่าและความเหมาะสม ด้วยว่าสำหรับลูกค้าแล้ว ควรอยู่ที่อัตราเท่าไร และรู้ว่า ทำอย่างไรลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำ ขณะที่ ช่องทางที่สะดวกในการเข้าถึงสินค้าและบริการ ก็ต้องคิดว่าจะเป็นอย่างไร จะต้องใช้กลยุทธ์และยุทธวิธีอะไรบ้าง??

“การเลือกทำเลก็สำคัญมาก ขณะที่กลยุทธ์เรื่องการโฆษณาและส่งเสริมการขาย ก็ควรใช้ให้พอดี เหมาะสม ไม่พร่ำเพรื่อ ทำเท่าที่จำเป็น และต้องมีเหตุผลสนับสนุนทุกครั้งที่จะทำ” เป็นสิ่งที่วิทยากรเน้นย้ำ

สำหรับเกณฑ์การพิจารณาเลือกทำเล มีดังนี้... ทำเลที่เลือกต้องสอดคล้องกับแนวคิดธุรกิจ, เลือกพื้นที่ค้าขายดี, เลือกจุดที่ต้องการ, รวบรวมข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และตัดสินใจเลือกทำเลร้านให้เหมาะกับสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน

อาจฟังดูยาก แต่ย่อยให้เข้าใจง่ายขึ้น ก็คือ... ต้องเป็นทำเลที่คนเห็นร้านได้ง่าย, ภาพลักษณ์ร้านดึงดูดน่าสนใจ, เป็นย่านที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหนาแน่นเพียงพอ, ที่ตั้งร้านอยู่ในบริเวณที่เป็นศูนย์กลางกิจกรรมต่าง ๆ, ลักษณะกายภาพร้านและทำเลต้องส่งเสริมกันทางบวก เช่น มีที่จอดรถ สะดวกในการเข้าร้าน เป็นต้น





ในส่วนของตัวสินค้า คือ “กาแฟ” การสร้างสินค้าให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย มีข้อพิจารณาคือ... รสชาติและความสม่ำเสมอของรสชาติ มีการรับประกันคุณภาพ เช่น ความสดของเมล็ดกาแฟและวัตถุดิบอื่น ๆ โดยร้านที่จะประสบความสำเร็จจะต้องมีสินค้าขายดี และรวมถึงมีความหลากหลายด้วย
เรื่อง การบริการ ที่ก็สำคัญ มีข้อพิจารณาคือ... บริการที่ลูกค้าคาดหวัง เช่น วิธีรับออร์เดอร์, เวลาในการเตรียมสินค้า, เวลารอคอยสินค้า, ลักษณะการเสิร์ฟ, น้ำดื่มและน้ำแข็งสะอาด ตลอดจนองค์ประกอบอื่น ๆ เช่น เวลาทำการ, เมนูแนะนำ, ป้ายแสดงราคา, ห้องน้ำ, บริการเสริมต่าง ๆ เช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ไวไฟอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ขณะที่ การจัดร้าน บรรยากาศภายในและภายนอกร้าน ก็เป็นสิ่งที่ผู้ทำธุรกิจร้านกาแฟจะต้องให้ความสำคัญเช่นกัน

วัสดุอุปกรณ์ ประกอบการขายสำหรับร้านกาแฟ โดยทั่วไปก็จะประกอบด้วย เครื่องชงกาแฟ, เครื่องบด, อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ, ตู้แช่, เมล็ดกาแฟ, แก้ว, ช้อน, ถุง, น้ำตาล, ไซรัป, ผงช็อกโกแลต, นม, หัวเชื้อ ฯลฯ และลงลึกอีกนิดกับอุปกรณ์ร้านกาแฟ ที่จำเป็นก็เช่น แก้วชอท, แก้วตวง 8 ออนซ์, ช้อนตักฟองนม, ช้อนคนส่วนผสม, เทอร์โมมิเตอร์, นาฬิกาจับเวลา, แก้ว 16 ออนซ์, แก้วร้อนคาปูชิโน, กระบะเคาะกาก, เหยือกตีฟองนม, แปรงปัดผงกาแฟขนาดเล็กและขนาดใหญ่, ขวดโรยผงโกโก้, แทมเปอร์ส, ขวดบีบซอส, หลอดกาแฟ

ผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจกาแฟใหม่ ๆ หากเป็นร้านขนาดที่คาดว่าจะมีอัตราการชงกาแฟต่อวัน 50-150 แก้ว อาจใช้เครื่องชงกาแฟพร้อมเครื่องบดขนาด 1 หัวชงก็ได้ แต่ถ้าหากเป็นร้านขนาดใหญ่ที่มีอัตราการชงกาแฟต่อวันประมาณ 250-500 แก้ว ควรจะเลือกใช้เครื่องชงกาแฟพร้อมเครื่องบดขนาด 2 หัวชง จึงจะมีความเหมาะสม ขณะที่ในส่วนของสูตรกาแฟ ณ ที่นี้ก็มีมาบอกกันบางส่วน แต่กับสูตรกาแฟ-การชงกาแฟนั้น ควรต้องหาแหล่งเรียนรู้ ต้องฝึกฝน จึงจะชงกาแฟได้รสชาติดี

อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจร้านกาแฟนั้น ยังสามารถสร้างรายได้จากสินค้าเสริมต่าง ๆ ได้ด้วย เช่น ชา นม น้ำผลไม้ เบเกอรี่ สแนค ของหวาน บัตรเติมเงินมือถือ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาดในการเปิดร้านคือ ใบอนุญาต ข้อกำหนดข้อปฏิบัติของภาครัฐและชุมชนที่ตั้งร้าน เช่น การกำจัดขยะ และของเสียต่าง ๆ เป็นต้น

…ก็เป็นโดยสรุป โดยสังเขป เกี่ยวกับการทำ “ธุรกิจร้านกาแฟ” ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” เก็บตกจากกิจกรรม “Coffee Rich รวยรินกลิ่นกาแฟ รับทรัพย์แน่ แค่อบรม” กิจกรรมครั้งที่ 6 ของโครงการ “เดลินิวส์ฝึกอาชีพ” มานำเสนอ

ผู้ที่สนใจธุรกิจนี้ก็ลองพิจารณากันดู.
ทีมช่องทางทำกิน : รายงาน
สันติ มฤธนนท์-ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ

...........................................................................................
ส่วนผสมกาแฟ "6 สูตร"
กาแฟ “แมคเคียโต้เย็น” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 2 ออนซ์, นมสดเย็น 1 ออนซ์, ซอสกาแฟ 2 ออนซ์ กาแฟ “ลาเต้เย็น” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 2 ออนซ์, นมสดเย็น 1 ออนซ์, ซอสกาแฟ 2 ออนซ์, นมสดเย็นสำหรับราด 1 ออนซ์
กาแฟ “ลาเต้ร้อน” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 1 ออนซ์, นมสดร้อน 4 ออนซ์ และฟองนมสด
กาแฟ “คาปูชิโน่เย็น” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 2 ออนซ์, นมสดเย็น 1 ออนซ์, ซอสกาแฟ 2 ออนซ์ และฟองนม กับผงโกโก้
กาแฟ “คาปูชิโน่ร้อน” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 1 ออนซ์, นมสดร้อน 2 ออนซ์, ฟองนมสดร้อน 2 ออนซ์
กาแฟ “เอสเปรสโซ่ร้อน” มีส่วนผสมคือ... เอสเปรสโซ่ชอท 1 ออนซ์.



แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


เต้าหู้..เมนูที่ไม่ควรพลาด!

เมื่อพูดถึงเต้าหู้ อาหารที่แสนจะคุ้นเคย เพราะราคาไม่แพงและหาทานง่าย แล้วคุณผู้อ่านทราบกันไหมค่ะว่า เต้าหู้ยังเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณค่าและประโยชน์คับตัวเลยล่ะค่ะ
สำหรับเต้าหู้นั้น ทำมาจากถั่วเหลือง การทานเต้าหู้จะทำให้ได้โปรตีนที่มากกว่าเนื้อสัตว์บางชนิดถึงสองเท่าใน ปริมาณที่เท่ากัน แถมมีสารเลซิติน ซึ่งมีผลในการลดไขมัน ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบประสาทที่เกี่ยวกับความทรงจำ ป้องกันเกล็ดเลือดแข็งตัว และฮอร์โมนจากพืช คือ ไฟโตเอสโทรเจน ที่มีการวิจัยพบว่า ช่วยป้องกันมะเร็งและดีต่อผู้หญิงวัยทอ ช่วยชะลอภาวะหมดประจำเดือน และลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม

หากดูข้อมูลด้านโภชนาการจะพบว่า เต้าหู้ประกอบด้วยโปรตีนร้อยละ 7.4 ไขมันร้อยละ 3.1 น้ำตาลร้อยละ 2.7 โดยเต้าหู้ทุก 100 กรัม จะมีแคลเซียม 277 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 57 มิลลิกรัม เหล็ก 2.1 มิลลิกรัม นอกจากนี้ยังมีวิตามิน บี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 และเลซิติน อยู่เป็นจำนวนมาก

แต่ที่น่าสนใจคือ โปรตีนในเต้าหู้ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จำเป็น 8 ชนิด ซึ่งร่ายกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ ต้องได้รับจากอาหารภายนอก และเนื่องจากสารอาหารต่างๆ ในเต้าหู้ ร่างกายสามารถย่อยสลายได้สูงถึงร้อยละ 92-96 เต้าหู้จึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันและระบบการย่อยไม่ดี รวมทั้งเด็กเล็กที่ฟันยังงอกไม่สมบูรณ์

นอกจากนี้ เต้าหู้ ที่มีน้ำตาลต่ำ จึงถือเป็นอาหารที่ดีอย่าง หนึ่งสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ส่วนผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแข็งตัว และโรคโลหิตจางจากสาเหตุขาดธาตุเหล็กก็จะได้ประโยชน์อย่างมาก เพราะ เต้าหู้ มีแร่ธาตุต่างๆ มากมาย อาทิ เหล็ก แมกนีเซียม โมลิบเดนนัม แมงกานีส ทองแดง สังกะสี และธาตุซิลีเนียม เป็นต้น โดยเฉพาะธาตุเหล็ก พบว่าในถั่วเหลือง 500 กรัม จะมีสูงถึง 30 มิลลิกรัม และร่างกายสามารถดูดรับได้ง่ายด้วย จึงเป็นผลดีในการใช้บำบัดรักษาโรคโลหิตจางชนิดขาดธาตุเหล็ก อย่างไรก็ตาม แร่ธาตุต่างๆ เหล่านี้ยังช่วยเร่งสารเอนไซม์ การขับหลั่งฮอร์โมนในระบบร่างกายให้ทำงานอย่างสมดุล รวมทั้งยังช่วยให้ภูมิคุ้มกันกลับสู่ภาวะปกติได้
 


โดยมีรายงานการศึกษาพบว่า ผู้ที่มีปัญหาโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กจะเจ็บป่วยบ่อย เป็นหวัดได้ง่าย เมื่อให้รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเสริม นอกจากระดับสภาวะเหล็กในเลือดจะดีขึ้นแล้ว ยังพบว่า การทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิดเซลล์ที (T-lymphocyteหรือ T-cell) มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
ได้ทราบคุณประโยชน์มากมายของเต้าหู้แล้ว เชื่อว่าผู้อ่านคงอยากทำเมนูอาหารที่มีเต้าหู้เป็นส่วนผสม ดังนั้น ต้องรู้วิธีการเลือกซื้อ สำหรับ แบบที่ทำขายทั่วไปในตลาดสด เช่น เต้าหู้อ่อน เต้าหู้แข็ง เต้าหู้เหลือง ที่เป็นแผ่นห่อด้วยใบตองกับที่บรรจุภาชนะอย่างดี ควรเลือกซื้อที่ทำมาใหม่ๆ สีขาวนวลเป็นปกติ มีกลิ่นหอม ไม่มีเมือก ไม่มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว และภาชนะที่บรรจุต้องสะอาด ส่วนเต้าหู้แบบบรรจุภาชนะที่มักขายทั่วไปตามซูเปอร์มาร์เก็ต ควรดูวันที่ผลิตและวันหมดอายุ มีสีสันรูปร่างเป็นปกติ

เต้าหู้เป็นอาหารที่บูดเสียได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าเต้าหู้นั้นไม่ใส่สารกันบูด จะสังเกตเห็นว่า บางครั้งที่เราซื้อเต้าหู้มาเก็บไว้ในตู้เย็นเพียงแค่วันสองวัน เต้าหู้ก็จะเริ่มเป็นเมือก มีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ยกเว้นเต้าหู้หลอดที่บรรจุในถุงพลาสติกสุญญากาศอย่างมิดชิด จะเก็บไว้ได้หลายวันมากกว่า
เคล็ดลับในการเก็บเต้าหู้ให้ได้นานยิ่งขึ้น มีกูรูด้านอาหารแนะนำให้ใช้น้ำต้มสุกที่เย็นแล้วใส่ชาม นำเต้าหู้ลงแช่ โดยนำจะต้องท่วมเต้าหู้ด้วย จากนั้นเอาเข้าตู้เย็น จะยืดอายุการเก็บได้นาน 7-15 วัน แล้วแต่ชนิดของเต้าหู้ ถ้าเป็นเต้าหู้อ่อน จะเก็บได้ไม่นานเท่าเต้าหู้แข็ง ในกรณีเต้าหู้หลอด ให้เก็บในตู้เย็นช่องแช่เย็นธรรมดา ก็เก็บได้นานหลายวัน อย่านำไปแช่ช่องแข็ง เพราะลักษณะของเนื้อเต้าหู้จะเปลี่ยนไปไม่คงรูปเหมือนเดิม ส่วนเต้าหู้ทอด แม้จะเก็บในตู้เย็น หากไม่ใช้ช่องแช่แข็ง ไม่นานก็จะขึ้นรา ดังนั้น การทำอาหารจากเต้าหู้ จึงไม่ควรซื้อเต้าหู้มาในปริมาณมาก เพราะกลิ่นรสของเต้าหู้จะเปลี่ยนไปเมื่อเก็บไว้เป็นเวลาหลายวัน ได้ทราบสาระดีๆ จากอาหารเพื่อสุขภาพอย่างเต้าหู้กันเช่นนี้ อยากรับประทานเต้าหู้กันเลยใช่ไหมค่ะ.

"PrincessFangy"
twitter.com/PrincessFangy

Credit by.. http://www.dailynews.co.th/article/822/201721
แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


แคบหมูงานพลิกชีวิต “หน่อย”



ถ้าพูดถึงคำพังเพยที่ว่า ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นกันไป คงจะใช้ได้ดีกับ อารีวัฒน์ กล่อมบาง หรือ “หน่อย” อดีตสาวโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ช่วงชีวิตที่ผ่านมาจากเดิมที่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ แต่วันนี้โชคชะตาได้สอนให้รู้ว่าการมีโอกาสเป็นเจ้าของกิจการตัวเองนั้นยิ่ง ใหญ่เพียงใด เพราะถ้าวันนั้นเธอไม่เลือกเดินออกอาชีพสาวโรงงาน วันนี้ก็คงไม่ได้มาเป็นนายของตัวเอง

หน่อย เล่าว่าก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นพนักงานประจำโรงงานผลิตชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ ในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร แต่เกิดเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ เมื่อปี 2554 ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง และได้ย้ายพนักงานทั้งหมดไปทำงานประจำที่สาขาจังหวัดชลบุรี

ช่วงเวลานั้นเองทำให้เธอต้องตัดสินใจเลือกระหว่างหน้าที่การงานกับครอบครัว ที่สุดแล้วคำตอบอยู่ที่ครอบครัวต้องมาก่อน จึงได้ตัด สินใจลาออกพร้อมรับเงินค่าชดเชยจากบริษัท หลังจากที่ต้องกลายเป็นคนว่างงานไม่มีรายได้ ได้กลายเป็นแรงผลักดันให้เธอมองหาอาชีพอิสระทำแคบหมูสูตรเฉพาะตัว เนื่องจากแถวบ้านย่านอำเภอคลองหลวง มีร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือเยอะ และสิ่งที่จะขายควบคู่กับก๋วยเตี๋ยวเรือ คือ แคบหมู

“โชคดีที่หน่อยมีเพื่อนเป็นสาวเหนือ เลยขอให้ช่วยสอนวิธีการทำแคบหมูให้ ประกอบกับได้รับความช่วยเหลือจากคุณเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ แรงงานจังหวัดปทุมธานี นำโครงการดี ๆ วิธีการทำแคบหมูไร้มันเข้ามาสอนถึงพื้นที่ ทำให้มีการรวบรวมกลุ่มชาวบ้าน ประมาณ 20 คน เพื่อฝึกอบรมการทำแคบหมู โดยสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยการทำเป็นแคบหมูสมุน ไพรเพื่อสร้างจุดขายที่แตกต่าง ดีใจที่วันนี้ญาติพี่น้องในหมู่บ้าน รวมกลุ่มกันตั้งเป็นกลุ่มแคบหมูไร้มันสมุนไพร สร้างรายได้จุนเจือครอบครัวอย่างมั่นคงค่ะ”

ก่อนจบท้ายนี้ “หน่อย” ยังได้แนะนำวิธีการทำแคบหมูสมุนไพร เพื่อให้หลายท่านที่สนใจได้ลองทำทานเองคร่าว ๆ ประมาณนี้ เริ่มจากการเตรียมวัสดุ ได้แก่ หนังสันล้วน รสดี เกลือ ซีอิ๊วดำ ใบมะกรูด

จากนั้นเป็นขั้นตอนการทำแคบหมู ลำดับแรกให้นำหนังหมู (สันล้วน) ล้างทำความสะอาด โดยแล่ส่วนที่เป็นไขมันออกให้หมด ด้านหลังของหนังต้องขูดขนหมูออกให้เกลี้ยง หลังจากนั้น นำมาหมักกับเครื่องปรุงตามอัตราส่วน หมู 22 กิโลกรัม เกลือ 4 ถุง รสดี 15 ช้อนแกงเคล้าให้ทั่วทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นนำหนังหมูไปตากแดด 5-6 ชั่วโมง แล้วนำมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสร็จแล้วนำไปทอดรอบแรก เพื่อให้หนังหมูสุกพอประมาณ ต่อจากนั้นจะทอดรอบสองอีกครั้งเมื่อมีใบสั่งซื้อเข้ามา เพื่อให้แคบหมูคงความกรอบมากขึ้น โดยใส่ใบมะกรูดเพิ่มความหอม ทั้งนี้การทอดแคบหมูต้องพยายามใช้ตะหลิวกดหนังหมู เพื่อให้น้ำมันเข้าถึง หนังหมูจะพองสวยงาม กรอบอร่อย แล้วจึงจัดแพ็กใส่ถุงพร้อมขายได้ทันที

ท่านที่สนใจสามารถติดต่อได้ ตามที่อยู่นี้ หมู่ 8 บ้านคลองหก ตำบลคลองหก อำเภอคลองหลวง จ.ปทุมธานี หรือสำนักงานแรงงานจังหวัดปทุมธานี โทร.08-9200-3177.
จ๊อบแมน
job_man28@yahoo.co.th


Read More...


แกงปูใบชะพลู

Pic_336634

นานๆจะมีอาหารไทยมาขึ้นสำรับสักที โดยเฉพาะเมนูวันนี้ จัดเป็นอาหารไทยที่ได้รับการประดิดประดอยจนดูเลิศหรูน่ารับประทาน ตามสไตล์ของการปรุงอาหารแนวใหม่ ที่ต้องมีการพรีเซนต์เข้าช่วยด้วย และเมนูนี้ถึงจะเป็นอาหารไทยพื้นบ้าน แต่ คุณอ๋อย–พรสวรรค์ พานิชชีวะ ผู้ช่วยอธิการบดีคนสวยของมหาวิทยาลัยสยาม และยังพ่วงตำแหน่งรองประธานบริหารของมหาวิทยาลัยด้วย ได้รังสรรค์จนทำให้เมนูธรรมดาๆนี้ดูดีจนผิดรูปเดิมไปเลย


คุณ อ๋อยเล่าว่า ถึงแม้เธอจะมีงานด้านบริหารที่ต้องรับผิดชอบอยู่เต็มมือก็ตาม แต่ด้วยหน้าที่ของภริยาแล้ว เธอจะไม่ยอมให้บกพร่องเด็ดขาด และยิ่งคุณสามี-นที พานิชชีวะ ติดอาหารไทยเอามากๆ เพราะได้รับการเลี้ยงดูจากคุณแม่ที่ทำอาหารไทยเก่งมาก เธอจึงได้อาศัยคุณแม่สามี เป็นครูสอนเทคนิคแปลกๆ ที่เป็นเคล็ดลับการปรุงอาหารให้อร่อย แต่เมนูแกงปูใบชะพลูนี้ คุณอ๋อยไปได้เทคนิคมาจากเชียงใหม่ ไปทานแกงคั่วเห็ดถ่อบ เขาใส่เบคอนด้วย ทำให้กลิ่นหอมมาก เธอเลยลองมาใช้กับแกงปูใบชะพลูบ้าง โดยเอาเบคอนมาพันใบชะพลูที่ห่อเนื้อปูอีกทีหนึ่ง


และ โชคดีที่สมาชิกทุกคนในครอบครัวรสนิยมเดียวกัน คือชอบทานและชอบทำอาหาร พอวันว่างที่ทุกคนอยู่บ้านพร้อมหน้า ก็มักจะมีกิจกรรมทำอาหารร่วมกันในครอบครัวอย่างมีความสุข ยิ่งเด็กสมัยนี้มักจะมองว่าการทำอาหารไทย เป็นเรื่องยุ่งยาก จึงหันไปหาอาหารจั๊งก์ฟู้ดกันหมด พ่อแม่จึงควรช่วยกันหัดให้ลูกรู้จักทานอาหารไทยให้มากขึ้น เพราะถึงอย่างไรแล้ว อาหารไทยก็มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าเป็นไหนๆ โดยเฉพาะเครื่องปรุงอาหารไทย ถือเป็นภูมิปัญญาของคนไทยอย่างแท้จริงเลย ที่ให้คุณค่าทางอาหารอย่างสมดุลกันจริงๆ

ส่วนผสมเครื่องแกงคั่ว : พริกชี้ฟ้าแห้ง/ข่า/ตะไคร้/ผิวมะกรูด/กระชายหัว/กระเทียม/หอมแดง/กะปิ


เครื่อง ปรุงแกงปูใบชะพลู : เนื้อปู (ใช้ส่วนเนื้อของกรรเชียงปู)/เครื่องแกงคั่ว 80 กรัม/กะทิ 120 กรัม/เบคอน 20 กรัม/ใบชะพลู/น้ำตาลปี๊บ 10 กรัม/ น้ำปลา 10 กรัม...วิธีทำ 1) นำใบชะพลูมาห่อเนื้อปู แล้วพันด้วยเบคอน 2) นำไปทอดเพื่อให้มีกลิ่นหอมของเบคอน จนเบคอนเหลือง จึงนำขึ้นแล้วพักไว้ 3) ผัดเครื่องแกงกับกะทิ โดยแยกหัวกะทิไว้ต่างหาก จนส่งกลิ่นหอม และกะทิใกล้แตกมัน จึงใส่เบคอนพันใบชะพลูที่ทอดลงไป พอเดือดจึงเติมหัวกะทิ 4) ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บและน้ำปลาให้ได้รสกลมกล่อม และรอจนเดือด จึงค่อยปิดไฟ พร้อมเสิร์ฟได้เลย.

Credit by..


แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


'คุกกี้ข้าวหมาก' ขนมหวานฟิวชั่นรักสุขภาพ

Pic_308966

จะเกิดอะไรขึ้นหากนำ 'คุกกี้' ขนมสัญชาติฝรั่งและ 'ข้าวหมาก' ขนมไทยแลนด์ทำเอง จับทั้งคู่รสชาติ 2 ขั้วมาผสมผสานผนวกเป็นเมนูของหวานแสนอร่อย!!

ก่อนอื่นขอแนะนำ ข้าวหมากกันก่อนว่าคืออะไร เด็กสมัยนี้อาจจะไม่รู้จัก หรือรู้จักแต่ไม่เคยรับประทาน  ข้าวหมากเป็นอาหารหมักพื้นบ้านของไทย ทำจากข้าวเหนียว โดยการทำข้าวหมากถือเป็นการถนอมอาหารวิธีหนึ่งเนื่องจากยีสต์จะทำหน้าที่ เปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นเอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับจุลินทรีย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในอาหาร ทำให้จุลินทรีย์ไม่สามารถเพิ่มจำนวน จึงช่วยชะลอการเน่าเสียของอาหาร


อย่า เพิ่งตกใจหากรู้ว่าข้าวหมากเกิดจากการหมักของข้าวแล้วจะเป็นผลเสียต่อร่าง กาย เพราะแท้จริงแล้ว ข้าวหมากมีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างเชื้อธรรมชาติในกระเพาะและลำไส้ที่ ช่วยให้การย่อยดีขึ้น สร้างวิตามินเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ อีกทั้งยังเป็นตัวต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันต่างๆ แก่ร่างกาย ทั้งยังช่วยป้องกันมะเร็งอีกด้วย เมื่อนำมาผนึกกำลังกับคุกกี้สูตรใหม่นี้ จึงดีต่อสุขภาพ เนื่องจากข้าวหมากมีรสชาติหวานในตัว ช่วยให้ไม่ต้องใส่น้ำตาลลงในขนม แถมยังไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์นมอีกด้วย

คุกกี้ข้าวหมาก


ส่วนผสม (สำหรับ 20 ชิ้น)
เตรียม 5 นาที ปรุง 10 นาที (ไม่รวมเวลาอบและพักแป้ง)



แป้งสาลีอเนกประสงค์                80       กรัม
ผงอัลมอนด์                              20       กรัม
เบกกิ้งพาวเดอร์                   2/3       ช้อนชา
น้ำมันมะพร้าว                             2        ช้อนโต๊ะ
ข้าวหมากปั่นละเอียด                 2        ช้อนโต๊ะ
ผลไม้แห้งหรืออัลมอนด์สำหรับตกแต่งตามชอบ

วิธีทำ

1. ร่อนแป้ง ผงอัลมอนด์ และเบกกิ้งพาวเดอร์
2. ใส่น้ำมันมะพร้าวและข้าวหมากลงผสมให้เข้ากันโดยใช้มือนวดเบาๆ
3. นำส่วนผสมที่ได้ใส่ถุงซิปล็อก พักไว้ประมาณ 10 นาที
4.  เมื่อครบเวลานำแป้งออกมาคลึงบนกระดาษไข ความหนาตามชอบ จากนั้นจะปั้นหรือ ใช้คุกกี้คัตเตอร์กดเป็นรูปต่างๆ แล้วตกแต่งด้วยผลไม้แห้งหรืออัลมอนด์


5. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียสประมาณ 27 นาที เมื่อครบเวลาปิดเตาอบแล้วทิ้งคุกกี้ไว้ในเตาจนขนมเย็นสนิท
6. เสิร์ฟคุกกี้พร้อมน้ำนมถั่วเหลืองหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ตามชอบ


Tips
•    หากต้องการคุกกี้รสช็อกโกแลต ให้เติมผงโกโก้ 1 ช้อนชาลงในขั้นตอนที่ 1
•    สามารถแบ่งส่วนผสมอย่างละครึ่งเพื่อทำแป้งแบบธรรมดาและแป้งผสมโกโก้ในครั้งเดียวกันได้โดยใช้ผงโกโก้ ½ ช้อนชา

ใครบอกว่าขนมหวานกินแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ ลองคุกกี้ข้าวหมากดูก่อน แล้วจะรู้ว่าขนมที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ...มีอยู่จริงๆ


ภาพ/ข้อมูล : Health & Cuisine

Credit by.. http://www.thairath.co.th/content/life/308966

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


แกงแคไก่บ้าน

Pic_342171

อาหารขึ้นสำรับวันนี้เป็นอาหารเหนือยอดนิยม จากตำรับเจ้าผู้ครองนครแพร่ ที่ได้มาจากคุณนายผู้ว่าฯเมืองแพร่ คุณเก–รชตภร โตดิลกเวชช์ ซึ่งสูตรของเมืองแพร่จะต่างจากของเชียงใหม่ ตรงที่ใส่ปลาร้าแทนกะปิ กลิ่นเลยหอมเย้ายวนดีนักแล “ของกิ๋นลำ อยู่ตี้คนมัก” (อาหารจะกินอร่อย อยู่ที่ความชอบของคนด้วย)


เมือง แพร่มีผู้ว่าราชการมาหลายยุคหลายสมัย เพิ่งจะได้คนเมืองแพร่โดยกำเนิดมาเป็นพ่อเมือง ก็ยุคนายกฯปู-ยิ่งลักษณ์ นี่เอง คุณเก–รชตภร เป็นสะใภ้เมืองแพร่แต้ๆ แต่โดยส่วนตัวเธอเป็นลูกอีสาน คุณเก เล่าว่า ตอนเด็กๆต้องช่วยแม่ทำกับข้าวเป็นประจำ ก็เลยพอจะทำเป็นบ้าง แต่สำหรับอาหารเมืองเหนือนั้น ถึงคุณเกจะรู้จักไม่แพ้อาหารอีสานก็ตาม แต่คงจะสู้เจ้าถิ่นโดยตรงไม่ได้ คุณเกก็เลยขอแรงผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่นแพร่ 2 ท่านมาช่วยกันนำเสนอของดีเมืองแพร่ด้วยกันเลย คือ คุณแม่ประไพ กันทาธรรม นายกสมาคมวัฒนธรรมหญิง จ.แพร่ ที่มีหน้าที่อนุรักษ์วัฒนธรรม และสืบสานศิลป์ถิ่นแพร่ล้านนา กับ คุณแม่วรรณี วงศ์บุรี เจ้าของบ้านวงศ์บุรี ที่ได้ชื่อว่างดงามทางสถาปัตยกรรม จนได้รับเลือกเป็นบ้านที่มีสถาปัตยกรรมดีเด่นของสมาคมสถาปนิกสยามมาแล้ว และบรรดาแฟนละครทีวีคงจะคุ้นๆกับบ้านนี้กันดี เพราะถูกใช้เป็นโลเกชั่นในการถ่ายทำละครเรื่องรอยไหมนั่นเอง

จะเห็น ได้ว่าเครื่องปรุงอาหารเหนือส่วนใหญ่หนักสมุนไพรและผักพื้นบ้าน อย่างแกงแคไก่บ้านนี้ ก็จะมีแต่ผักพื้นบ้านนานาชนิด เพราะวิถีชีวิตของคนชนบทแทบทุกบ้านจะมีแปลงปลูกพืชผักสวนครัว เพื่อไว้ปรุงอาหารรับประทาน เช่นเดียวกับที่จวนผู้ว่าฯแพร่ คุณเกบอกว่า เราจะปลูกผักพื้นบ้านนานาชนิดซึ่งปลอดสารไว้ ตามนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง ทั้งช่วยประหยัดและปลอดภัยด้วยค่ะ บ้านไหนขาดอะไรก็สามารถมาเด็ดไปปรุงอาหารได้เลย


เครื่อง ปรุง : ไก่บ้านสับเป็นชิ้นๆพอคำ / น้ำพริกแกง (พริกชี้ฟ้าแห้ง-กระเทียม-ข่า-ตะไคร้-หอมแดง-ปลาร้าสับ-มะแข่น หรือมะแขว่น สมุนไพรพื้นบ้านมีเฉพาะภาคเหนือ ปลูกที่ จ.น่านจะคุณภาพดี มีกลิ่นหอม และรสชาติเผ็ดซ่า) นำทั้งหมดมาโขลกรวมกันให้ละเอียด / ผักพื้นบ้านหลายๆชนิดที่มีอยู่ตามท้องถิ่นหรือตามฤดูกาล (ผักเผ็ดหรือผักคราด-ใบอ่อนพริกขี้หนูหรือพริกชี้ฟ้า-ยอดตำลึง-ผักชะอม-ถั่ว ฝักยาว-ใบชะพลู-ผักชีฝรั่ง (ผักชีหนามหรือหอมน้อยกูลัว)-หอมแย้-หน่อข่า-มะเขืออ่อน-มะเขือพวง-ก้านตูน (ก้านบอน)-เห็ดลมหรือเห็ดฟาง ฯลฯ)


วิธี ทำ 1) ตีกระเทียมสับกับน้ำมันที่ตั้งไฟจนร้อน แล้วใส่น้ำพริกแกงที่โขลกละเอียดลงไปคั่วด้วยจนหอม 2) ใส่ไก่ตามลงไปคั่วกับน้ำพริกจนเข้ากัน 3) เติมน้ำ หรือน้ำสต๊อกไก่พอสมควร รอจนน้ำแกงเดือด 4) ใส่มะเขืออ่อน มะเขือพวง และผักที่สุกช้าก่อน เคี่ยวไปสักพักจึงค่อยใส่ผักที่สุกง่ายที่เหลืออยู่ตามลงไป 5) ปรุงได้รสชาติตามชอบแล้ว จึงใส่ผักหอมแย้สุดท้าย คนให้เข้ากัน และยกลงจากเตาทันที.


แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


'ชัยพัฒนา' ต่อยอดผลผลิตข้าวภัทรพัฒน์ทำเป็นข้าวปรุงสำเร็จ บรรจุกระป๋อง

มูลนิธิชัยพัฒนาร่วมกับบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ต่อยอดโครงการส่งเสริมสุขภาพของผู้บริโภคและสนับสนุนเกษตรกรไทย เปิดตัว “ข้าวภัทรพัฒน์ ปรุงสำเร็จ” ข้าวกล้องหุงสุกบรรจุกระป๋อง ทั้งข้าวเปล่าและข้าวพร้อมปลาซาร์ดีน 4 รส ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่รักสุขภาพ และต้องการประหยัดเวลาในการหุงหาอาหารบริโภค
Pic_342385


ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ชิมอาหารจานเด็ดจากข้าวภัทรพัฒน์.
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ชิมอาหารจานเด็ดจากข้าวภัทรพัฒน์.

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เผยถึงข้าวปรุงสำเร็จภายใต้แบรนด์ “ภัทรพัฒน์” ว่า ที่ผ่านมามูลนิธิชัยพัฒนาได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนทุกด้าน แต่การจะดึงชาวบ้านให้หลุดพ้นจากความทุกข์ ประกอบกับปัญหาที่พบคือ เมื่อชาวบ้านผลิตสินค้าแล้วไม่มีช่องทางการจำหน่าย มูลนิธิชัยพัฒนาจึงได้สร้างแบรนด์ “ภัทรพัฒน์” ให้ชาวบ้านนำสินค้ามาวางจำหน่าย ในจำนวนนี้มีข้าวหอมที่มูลนิธิส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวปลอดสารเคมี ตามมาตรฐานการเพาะปลูกที่ดี และมาตรฐานการผลิตที่ดี เป็นข้าวหอมคุณภาพสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ประกอบกับการที่มูลนิธิได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ และพบว่าข้าวที่นำไปแจกจ่ายชาวบ้านบางครั้งบูดเร็ว ทำให้เกิดแนวความคิดว่าน่าจะมีกระบวนการอำนวยความสะดวก จึงได้ประสานงานกับ “นายสุรินทร์ โตทับเที่ยง” เจ้าของอาหารกระป๋องปุ้มปุ้ย ในการผลิตข้าวสำเร็จรูปภายใต้แบรนด์ “ภัทรพัฒน์” เพื่ออำนวยความสะดวกเวลาเกิดเหตุต่างๆ จะได้ช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันท่วงที ไม่ต้องกลัวเรื่องอาหารบูด อีกทั้งอาหารกระป๋องยังสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันที่ต้องเร่งรีบ

รำภา คำหอมรื่น และ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ร่วมกันเปิดตัว
รำภา คำหอมรื่น และ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ร่วมกันเปิดตัว "ข้าวภัทรพัฒน์ ปรุงสำเร็จ"

โอกาสนี้ น.ส.รำภา คำหอมรื่น ผู้บริหารจากบิ๊กซี ที่ให้การสนับสนุนได้กล่าวถึงจุดเด่นของ “ข้าวภัทรพัฒน์ ปรุงสำเร็จ” ว่า ผลิตจากข้าวหอมที่สะอาด ปลอดสารพิษ อุดมด้วยคุณประโยชน์ด้านสุขภาพ ภายใต้โครงการแปลงสาธิตการทำนาในที่ดินของมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งเป็นข้าวกล้องหุงสุกบรรจุกระป๋องพร้อมรับประทาน มีทั้งข้าวเปล่า และข้าวพร้อมปลาซาร์ดีนผัดหน้าต่างๆรวม 4 รส ได้แก่ ข้าวราดหน้าปลาซาร์ดีนผัดกระเทียม พริกไทย ข้าวราดหน้าผัดกะเพราปลาซาร์ดีนทอด ข้าวราดหน้าหนำเลี้ยบปลาซาร์ดีนทอด ข้าวราดหน้าผัดเผ็ดปลาซาร์ดีน เพื่อตอบสนองวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่ที่ต้องการอาหารที่อร่อย ดีต่อสุขภาพ และประหยัดเวลาในการหุงหา โดยวางจำหน่ายที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และร้านภัทรพัฒน์ทุกสาขา.


Credit by.. http://www.thairath.co.th/content/life/342385

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...


หมูสะเต๊ะ เจ้าแรกของประเทศไทย (เจริญพร)

เฮ้ย!!! ชาติเรานี่เกิดอะไรขึ้น เพื่อนบ้านเราต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น ฝ่ายซ้ายจะลุยเอา 4.6 ตร.กม. ส่วนข้างล่างก็จะเอาตั้ง 3 จังหวัด เวรแท้ๆ เราคนไทยต้องลุกขึ้นมาปกป้องชาติเรา เราไม่สามารถแบ่งแผ่นดินนี้แม้แต่เซนติเมตรเดียวให้ใครได้ คำเรียกร้องใดๆ ก็ไม่สำคัญ ประชาชนไทยไม่ใช่เพียงหน้าที่ แต่ต้องรักษาไว้ หากต้องสู้เราต้องสู้ ดังคำว่า "ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด" จำไว้ในใจเสมอ

Pic_341564


วันนี้ จะพาไปกิน "หมูสะเต๊ะ" ของกินที่เราท่านคุ้นเคย แต่วันนี้จะพาไปกินหมูสะเต๊ะเจ้าแรกของประเทศไทย ที่มาของสะเต๊ะมาจากเกาะชวา ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งรับอิทธิพลจากคาบับ ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองของอินเดียภาคเหนือ เจ้าที่จะพาไปกินชื่อร้านเจริญพร (จึงอังลัก) เมื่อก่อนเจ้านี้อยู่ที่เฉลิมบุรี ผมไม่เคยไปที่ร้านเก่า แต่มากินเจ้านี้เป็นครั้งแรก มีผู้ใหญ่แนะนำว่าน่าจะมาลองดูว่า รสชาติที่เป็นดั้งเดิมเป็นอย่างไร เมื่อมาถึงรู้เลยว่า ความเก่าที่แท้ ความเก๋านี่แน่นอนมากเลยครับ งั้นคงอยู่มาไม่ถึงวันนี้


เอ้า สั่งกันให้รู้ดีกันไปเลยว่าแน่นอนอย่างที่พูดไว้ไหม เข้ามาในร้านเห็นพระรามลงสรง อาหารที่หากินยากมาก เป็นข้าวที่ราดด้วยน้ำราดหมูสะเต๊ะ มีหมูต้มและผักบุ้งลวกและราดด้วยน้ำพริกสูตรพิเศษ และผมสั่งหมูสะเต๊ะ เนื้อหมูที่นี่แตกต่างกับหมูที่อื่นๆ ที่มาทั้งชิ้นใหญ่ เนื้อล้วนๆ ไม่มีมัน สำหรับผู้ที่ต้องการแบบนุ่มนวลไม่ใช่ร้านนี้ แต่ของที่ร้านจะเป็นเนื้อหมูที่ผสมเครื่องเทศที่ไม่รุนแรงแต่กลมกล่อม ส่วนน้ำจิ้มต้องบอกได้คำเดียวว่าสุดทีนจริงๆ ไม่มีที่ไหนสู้ได้เลย อาจาดของที่ร้านกลมกล่อมมากๆ ไม่สร้างความผิดหวังให้ผมจริงๆ


ร้านนี้อยู่ที่ 1921/46 ถ.พระราม 4 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.
ก็พูดง่ายๆ ว่า สวนหลวง หรือเราจะเรียกว่าเชียงกง โทรไปก่อนก็ได้ 02-252-9390

Rating : ชาตินี้ต้องกิน

เรื่องและภาพโดย
ดร.ธนา ทุมมานนท์ (เบย์พาเลส)

www.facebook.com/baypalace
credit  by : http://www.thairath.co.th/content/life/341564

แนะนำเวบรวมบทความงานฝีมือ

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.