สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ข้าวยำสมุนไพร อาหารเพื่อสุขภาพ

ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ มีข้าวยำสมุนไพร เป็นเมนูเด่น ใช้ข้าวกล้องหอมมะลิ และข้าวกล้องมันปู ทำเป็นข้าวยำ กลิ่นหอมของสมุนไพรและน้ำบูดู ผักจะเน้นผักพื้นบ้านปลอดสารพิษ


ด้วยภาระหน้าที่ให้คำ ปรึกษา คำแนะนำแก่ผู้ป่วย ประชาชนทั่วไปให้หันมาสนใจเรื่องสุขภาพ เป็นเหตุผลให้ การะเกด สรพิทักษ์ อดีตพยาบาล อ.ห้วยยอด เปิด ร้านทางเลือก ยึดทำเลย่านเพลินพิทักษ์ เทศบาลนครตรัง ขายอาหารเพื่อสุขภาพชูเมนูเด็ดข้าวยำปักษ์ใต้แท้ ลูกค้าอุดหนุนแน่น เพราะนอกจากรสชาติอร่อยแล้ว ทุกเมนูยังให้คุณประโยชน์ด้านโภชนาการเต็มร้อย ล่าสุด เพื่อคนกรุงเทพฯ เปิดให้บริการความอร่อยแล้ว 3 สาขา

การะเกด อดีตพยาบาลที่อำเภอห้วยยอด เล่าว่า นายแพทย์จำรัส สรพิพัฒน์ สามี เป็นคนที่สนใจเรื่องสุขภาพมาก ถึงกับปลูกผักปลอดสารพิษกินเองที่บ้าน เมื่อปลูกมากๆเข้าก็เหลือ กินไม่ทัน แจกก็ไม่หมด เลยมีความคิดน่าจะทำร้านอาหารเพื่อสุขภาพขึ้นมา เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนทั่วไป

มีผู้ป่วยและชาวบ้านหลายคน ถามว่าจะหากินอาหารสุขภาพได้ที่ไหน เมื่อถามมากขึ้นพี่และสามีจึงมานั่งพูดกันถึงความเป็นไปได้ ที่สุดก็เป็นที่มาของการเปิดร้านอาหารเพื่อสุขภาพชื่อ ร้านทางเลือก ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ 71/1 ถนนเพลินพิทักษ์ ใกล้สามแยกวัดกุฎิยาราม เขตเทศบาลนครตรัง การะเกด เล่าถึงที่มาของร้านนี้ ซึ่งเปิดบริการมาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว


ขณะนั้นเมื่อคิดจะเปิดร้านขายอาหารสุขภาพ การระเกด บอกอย่างแรกที่ตั้งใจคือ ข้าวยำสมุนไพร เพราะครอบครัวนิยมทานเป็นทุนเดิม แต่ข้าวยำทั่วไปเป็นอาหารพื้นๆจึงคิดจุดเด่นขึ้นมา ให้เป็นข้าวยำทางเลือกปักษ์ใต้ขนานแท้ เริ่มจากข้าวกล้องที่หุงด้วยน้ำใบยอ กับใบผักสมุนไพรหั่นฝอย ที่มีทั้งใบยอ ชะพลู ขมิ้น กระพังโหม มะกรูดอ่อน เปราะ หมุย ตะไคร้ และถั่วฝักยาว แล้วนำมาปรุงรสด้วยมะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งป่น งาดำคั่วป่น และพริกป่น ซึ่งล้วนแต่เป็นวัตถุดิบที่ทางร้านทำขึ้นเองทั้งหมด เช่นเดียวกับน้ำบูดูส่วนผสมทุกอย่างต้องขึ้นตาชั่งเพื่อให้ได้สูตรที่ลงตัว


เพิ่มรสเปรี้ยวของข้าวยำให้ทานแล้วรู้สึกชุ่มคอ ด้วยส้มโอ หรือตะลิงปลิง มะม่วงเปรี้ยว มะนาว แล้วราดด้วยน้ำบูดู ซึ่งเวลาตักเข้าปาก จะได้กลิ่นหอมของสมุนไพรและน้ำบูดู ยิ่งเคี้ยวยิ่งมัน เพราะนอกจากมีผักผสมอยู่ในข้าวยำแล้ว เรายังแถมผักสดด้วย คุ้มค่ามาก เพราะเราขายที่ร้าน หรือใส่กล่องกลับบ้านชุดละ 40 บาทเท่านั้น

การะเกด บอกว่า ข้าวยำปักษ์ใต้เป็นเมนูสุดฮิตของชาวใต้ ดังนั้นเธอจึงประยุกต์ให้เป็นอาหารสุขภาพที่ไม่ให้เค็มหรือหวานเกินไป ที่สำคัญคือใช้ข้าวกล้องหอม-มะลิ และข้าวกล้องมันปู ทำเป็นข้าวยำ เพราะมีเส้นใยอาหารสูง ส่วนผักต่างๆเน้นผักพื้นบ้านปลอดสารฯ อีกส่วนผลิตจากสวนผักที่ปลูกเอง


ที่ร้านยังมีอาหารจานเดียว อาหารตามสั่ง ที่ล้วนชูเมนูสุขภาพ เช่น ขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้-น้ำยาป่า แกงไตปลา น้ำพริกปลาทู สลัดผักปลอดสารพิษ ก๋วยเตี๋ยวผัด-ข้าวผัดเพื่อสุขภาพ หรือจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ก็มีให้เลือกอีกกว่า 10 อย่าง แถมด้วยน้ำสมุนไพร เช่น น้ำตะไคร้ กระเจี๊ยบ อันชัน ฯลฯ และไอศกรีมสมุนไพร

การะเกด แจงพร้อมระบุว่า ความอร่อยของทุกเมนูที่ร้าน อย่างยิ่งข้าวยำปักษ์ใต้แท้นี้ ผ่านการรับประกันความอร่อยเมื่อปี 2009 ให้เป็นสินค้าโอทอป 5 ดาวของจังหวัด และได้รับการรับรองจาก อย.เรื่องความสะอาดและความอร่อย โดยสาขาที่ตรังเปิดบริการ 11.00-13.30 น.ในวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนวันอังคาร-ศุกร์ เปิดให้บริการ 06.00-16.00 น. ติดต่อที่โทร. 075-214-185,089-157-8115

สำหรับชาวกรุงเทพฯ อยากชิมเมนูเหล่านี้ การะเกดบอกว่ามีร้านให้เลือกชิมถึง 3 สาขา คือที่ศูนย์อาหารตลาดลุงเพิ่ม หลังการบินไทย ศูนย์อาหารตลาดนัดสีลม ซอย 10 และศูนย์อาหาร ชั้น G เดอะมอลล์ บางแค สนใจแวะไปเยี่ยมเยือนกันได้

ที่มา : คมชัดลึก

Read More...


สูตรหมูสะเต๊ะ

หมูสะเต๊ะ อาหารที่รู้จักทั่วไป ที่ยอดนิยม กินง่าย กินได้ทุกเพศทุกวัย ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี เป็นเมนูที่ทำง่าย สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบอาชีพนี้เป็นอย่างดี

หมูสะเต๊ะ เสียบไม้ย่างบนเตาร้อน ๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารว่างยอดนิยม กินได้ทุกเพศทุกวัย และก็เป็นอีกหนึ่งสินค้าอาหารที่สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบอาชีพทำขายได้ เป็นอย่างดี ถ้ามีฝีมือทำได้อร่อย ซึ่งวันนี้ทีม ช่องทางทำกิน ก็มีสูตรหมูสะเต๊ะมาให้ลองพิจารณากันอีกหนึ่งสูตร


อรวรรณ กนกวิบูลย์ศิริ เจ้าของร้านหมูสะเต๊ะ สูตรดั้งเดิม โอ๋ หมูสะเต๊ะ เล่าให้ฟังถึงที่มาของอาชีพนี้ว่า ขายหมูสะเต๊ะมานานประมาณ 6 ปีแล้ว ส่วนตัวชอบทำอาหารทุกชนิด ซึ่งสมัยก่อนถ้าว่างก็จะหาข้อมูลแล้วทดลองทำดู และปรับปรุงพัฒนาตามรสชาติที่ชอบ จนวันหนึ่งก็คิดอยากจะมีอาชีพเป็นธุรกิจเล็ก ๆ เป็นของตัวเอง แล้วความคิดก็มาลงที่ หมูสะเต๊ะ เพราะเป็นอาหารที่รู้จักทั่วไป กินง่าย และคนจะหาเจ้าที่อร่อย ๆ


ก่อนหน้านั้นเวลาที่เพื่อน ๆ ของแฟนมาเที่ยวที่บ้าน ก็จะทำหมูสะเต๊ะเลี้ยง แล้วให้ช่วยกันติชม แทบทุกคนพอได้กินจะพูดคล้าย ๆ กันว่าหมูนุ่มมาก กลิ่นหอมชวนกิน จึงเชียร์ให้ทำขาย จากนั้นก็ทดลองทำอีกหลายสิบครั้งจนทุกอย่างลงตัว จึงทำขายที่หน้าบ้าน ปรากฏว่าขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่นาน จึงได้ทำขายเรื่อยมา


ที่ร้านเน้นหมูไม้ใหญ่ เพื่อความสะใจ ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี สั่งหมูจากตลาดแล้วมาใส่เครื่องหั่นอีกที เราใช้เนื้อหมูบริเวณใต้ชายโครง หรือหมูสันนอก ล้างเนื้อหมูให้สะอาดแล้วนำไปคลุกเคล้าสมุนไพรกับเครื่องปรุง ตรงนี้ต้องให้ความสำคัญ หมูสะเต๊ะจะอร่อยหรือไม่อร่อย อยู่ที่ขั้นตอนนี้ ฉะนั้นเมื่อจะให้ความสำคัญกับรสชาติก็เป็นธรรมดาที่จะต้องเพิ่มในส่วนของปริมาณเครื่องปรุงมากหน่อย รวมทั้งต้องพิถีพิถันขั้นตอนผสมคลุกเคล้ากับเนื้อหมู หรือแม้แต่น้ำจิ้มก็ต้องให้ความสำคัญกับเครื่องแกงและเครื่องเทศมากหน่อย ต้องพร้อมที่จะเพิ่มต้นทุนการผลิตในส่วนนี้ เพื่อให้รสชาติของหมูสะเต๊ะอร่อย กลมกล่อม นุ่มนวลลิ้นผู้ทานมากที่สุด อรวรรณกล่าว

สำหรับการทำหมูสะเต๊ะขาย อุปกรณ์หลัก ๆ ที่ใช้ก็มี เตาถ่านและตะแกรงย่าง, เตาแก๊ส, หม้อสเตนเลส, กะละมัง, ถาด, ใบตอง, ถ่าน, กระชอน, เขียง, เครื่องปั่นหรือครก, ทัพพี, คีมคีบถ่าน, ไม้เสียบ, กล่องพลาสติก, ถุงพลาสติก, มีด ตลอดจนเครื่องไม้เครื่องมือเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ


ส่วนผสมในการทำหมูสะเต๊ะ เนื้อหมูสันนอก, เกลือ, น้ำตาลทราย, ผงกะหรี่, กะทิ, นมสด, สีผสมอาหารสีเหลือง, ข่าหั่นฝอย, ตะไคร้หั่นฝอย, ลูกผักชีคั่ว, ยี่หร่าคั่ว, พริกไทยป่น และผงขมิ้น


ขั้นตอนการทำหมูสะเต๊ะ

สูตรของเจ้านี้ เริ่มจากนำเนื้อหมูที่ล้างสะอาดแล้ว มาทำการแล่เป็นชิ้นบาง ๆ พอประมาณ กว้าง 1 นิ้ว ยาว 3 นิ้ว พักไว้ จากนั้นโขลกหรือปั่นเครื่องหมัก เช่น ข่าหั่นฝอย, ตะไคร้หั่นฝอย, ลูกผักชีคั่ว, ยี่หร่าคั่ว, พริกไทยป่น, ผงกะหรี่ ใส่สีผสมอาหารนิดหน่อย โขลกรวมกันให้ละเอียด

นำเครื่องหมักที่ได้มาผสมกับน้ำกะทิ นมสด น้ำตาลทราย เกลือ ตีให้เข้ากัน แล้วนำไปราดลงบนเนื้อหมูที่แล่เตรียมไว้ คลุกเคล้าให้ทั่ว หมักแช่ไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดา 2 ชั่วโมง จึงนำเนื้อหมูออกมาเสียบไม้ เรียงในถาด นำเข้าช่องแช่แข็งแช่ต่ออีก 24 ชั่วโมง จึงจะใช้ได้ ทั้งนี้ เคล็ดลับการทำหมูสะเต๊ะให้อร่อย เนื้อหมูที่ทำต้องสด สะอาด ไม่มีกลิ่น ที่สำคัญเมื่อนำเนื้อหมูที่หมักออกจากช่องแช่แข็งควรปล่อยให้ละลายเอง

ในส่วนของน้ำกะทิที่ใช้พรมหมูสะเต๊ะ ใช้หัวกะทิ เกลือ และน้ำตาลทราย อย่างละนิดหน่อย ใส่หม้อคนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟให้เดือด แล้วยกลงตั้งพักไว้ เมื่อจะย่างหมูสะเต๊ะขาย ก็นำหมูที่เสียบไม้ออกจากช่องแช่แข็งมาปล่อยให้ละลาย จากนั้นนำมาชุบในน้ำกะทิที่ใช้พรม ก่อนจะนำขึ้นย่างไฟ ใช้ไฟปานกลางถึงไฟแรง ห้ามใช้ไฟอ่อน เพราะจะทำให้หมูแข็งไม่อร่อย ระหว่างย่างคอยพรมน้ำกะทิเป็นระยะหากหมูตรงไหนไหม้ก็ใช้กรรไกรตัดทิ้ง เพื่อให้ดูน่ารับประทาน
การทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ ใช้กะทิ 5 กก. (แยกหัวแยกหาง) ต่อถั่วลิสงป่น (คั่วเอง) 1 กก., น้ำพริกหมูสะเต๊ะ 1/2 กก. (ใช้น้ำพริกแกงเผ็ด 3 ขีด ผสมน้ำพริกแกงมัสมั่น 2 ขีด), น้ำตาลปี๊บ 1 1/2 กก., น้ำปลา 120 ซีซี และน้ำส้มสายชู วิธีทำ เคี่ยวหัวกะทิจนแตกมัน ใส่น้ำพริกแกงเผ็ดและน้ำพริกแกงมัสมั่นลงไปผัดให้หอม ใช้ไฟปานกลาง ใส่ถั่วลิสงป่น ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำส้มสายชู เคี่ยวจนแตกมันมีสีแดง ก็เป็นอันใช้ได้

ส่วนผสมของอาจาด ใช้น้ำตาลทราย 2 กก. ต่อน้ำส้มสายชู 1 ขวด, เกลือป่น 1 ขีด และแตงกวา พริกชี้ฟ้า หัวหอมแขก หั่นชิ้นเล็ก ๆ ตามขวาง วิธีทำ นำน้ำตาลทราย น้ำส้มสายชู เกลือ ใส่หม้อตั้งไฟ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน เคี่ยวไปจนเข้มข้น จึงยกลงตั้งไว้ให้เย็น รอใช้งาน

หมูสะเต๊ะที่ร้านนี้เน้นไม้ใหญ่ ขายไม้ละ 6 บาท หรือชุดเล็ก 60 บาท มีหมูสะเต๊ะ 10 ไม้ พร้อมน้ำจิ้มรสเข้มข้น อาจาด แตงกวากรอบอร่อย และขายขนมปังปิ้งแผ่นละ 5 บาท

ร้านหมูสะเต๊ะของอรวรรณอยู่ในซอยอรุณอมรินทร์ 30 (วัดบางยี่ขัน) เข้าซอยไปประมาณ 100 เมตร ร้านอยู่ขวามือติดกับร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ เปิดขายบ่าย 4 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม ใครจะลองไปชิมก็เชิญได้ ซึ่งนอกจากทำขายที่ร้านแล้วอรวรรณยังสามารถทำรายได้จากการรับไปออกร้านจัด งานนอกสถานที่ด้วย ใครสนใจติดต่อกับอรวรรณก็ โทร. 08-7337-8383, 08-6888-0513, 08-7337-8383, 08-9027-1151 ทั้งนี้ เรื่องการทำมาหากินนั้น หากขยัน ไม่ท้อเสียอย่าง โอกาสหรือช่องทางก็มีเสมอ

ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


เครปญี่ปุ่น หลายไส้ รายได้ดี

การสร้างจุดดึงดูดลูกค้า อย่างการขายเครปญี่ปุ่น คือขายในราคาเดียว 20 บาท จะใส่ไส้กี่อย่างก็ได้ไม่จำกัด ไม่คิดราคาเพิ่ม กิจการก็ไปได้ด้วยดี มีรายได้ที่น่าสนใจ


ย่านสยามสแควร์มีร้านขาย เครป ริมทางร้านหนึ่ง มีลูกค้าต่อแถวซื้อไม่ขาดสายจนทำขายแทบไม่ทัน มองไปมองมาก็เห็นจุดดึงดูดลูกค้า คือเขาขายราคาเดียว 20 บาท จะใส่ไส้กี่อย่างก็ได้ไม่จำกัด ไม่คิดราคาเพิ่ม โดยทางร้านเขาบอกว่าถ้าขายของได้ยังไงก็ไม่ขาดทุน ซึ่งก็เป็นรูปแบบ ช่องทางทำกิน


คำนวณ สิงห์นอก ชาวจังหวัดอำนาจเจริญ วัย 43 ปี ปัจจุบันยึดอาชีพขายเครป หรือเครปญี่ปุ่น ที่ย่านสยามสแควร์กลางกรุงเทพฯ ขายมานาน 6-7 ปีแล้ว โดยเจ้าตัวเล่าว่า เคยผ่านงานมาหลากหลายแบบ ทั้งใช้แรงงาน ค้าขายหลายอย่าง จนมาลงตัวที่ขนมเครปนี้ ซึ่งไปซื้อสูตรมาในราคาหลายพันบาท แต่เอาเข้าจริงเมื่อนำสูตรมาทำขายแล้วยังไม่ค่อยดี จึงต้องมีการดัดแปลงสูตรเองใหม่ จนได้เป็นสูตรแป้งที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

การลงทุนร้านเครปครั้งแรก คำนวณบอกว่าในเงินประมาณ 20,000 บาท ซึ่งกับรายได้ถ้าลงทุนค่าวัตถุดิบต่าง ๆ ประมาณ 1,700-1,800 บาท และขายได้หมด จะมีรายได้ก่อนหักทุนวันละประมาณ 3,000 บาท


วัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ทำไส้เครปนั้นจะมี 10 กว่าอย่างขึ้นไป ในส่วนที่เป็นของคาว ก็เช่น หมูหยอง, น้ำพริกเผา, ปูอัด, แฮม, ไส้กรอก, ไข่ไก่ ในส่วนไส้หวาน และผลไม้ เช่น ลูกเกด, แยมสตรอเบอรี่, แยมบลูเบอรี่, ครีมวานิลลา, กล้วยหอม และส่วนที่แต่งหน้าเครปก็จะมี ซอสมายองเนส, ซอสช็อกโกแลต, ซอสพริก, ซอสมะเขือเทศ, เนย, ซอสถั่วเหลือง ซึ่งคำนวณจะซื้อสัปดาห์ละครั้งที่ย่านสำเพ็ง ซึ่งจะได้ของครบทุกอย่าง

สำหรับแป้งเครปนั้น สูตรของคำนวณจะมีส่วนผสมประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้า 1 กก., แป้งข้าวโพด 2 ช้อนชา, น้ำเปล่า 4 กระป๋อง, นมสด 1-2 ช้อนโต๊ะ, ไข่ไก่ 1-2 ฟอง, หัวนมผง และผงแป้งกรอบ อย่างละพอประมาณ นำส่วนผสมมาทำการผสม-คนทุกอย่างให้เข้ากัน โดย ต้องระวังอย่าให้ส่วนผสมแป้งเป็นเม็ด

การทำเครปขาย

เริ่มจากเตรียมอุ่นเตาให้ร้อน สังเกตจากการสะบัดน้ำลงไปทดสอบดูว่าน้ำเดือดหรือไม่ ถ้าน้ำเดือดก็แสดงว่าเตาร้อนแล้ว จากนั้นก็ตักส่วนผสมแป้งประมาณ 1 ทัพพี หยอดลงบนเตา เกลี่ยด้วยไม้เครปให้เป็นรูปวงกลม โดยการหมุนไม้เครปไปรอบ ๆ รัศมีเตา ปลายข้างหนึ่งอยู่จุดศูนย์กลางเตา จะทำให้ได้เครปที่กลมสวย และยังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมเล็กน้อยคือ ทาเนยเล็กน้อย จะทำให้แป้งไม่ติดกระทะ

เกลี่ยแป้งแล้วก็รอสักพัก พอแป้งใกล้สุกให้ทาเนยให้ทั่วแผ่นแป้ง แล้วจึงค่อยเติมไส้ที่ลูกค้าต้องการ โดยทาหรือเกลี่ยไส้ทั่วแป้งเครป หรือถ้าไส้เป็นชิ้นหนา เช่น ไส้กรอก แฮม ทูน่า ควรวางเพียงครึ่งเดียวของแผ่นแป้ง จะพับแป้งได้สะดวกกว่า ซึ่งที่ร้านของคำนวณนั้นลูกค้าสามารถใส่ไส้กี่อย่างก็ได้ในราคาเดียวคือ 20 บาท

คำนวณบอกว่า จากประสบการณ์การขายนั้น สามารถแบ่งประเภทของไส้ที่ลูกค้ามักจะใส่ประจำได้ 2 ประเภท ได้แก่ ไส้คาว คือ หมูหยอง, น้ำพริกเผา, ปูอัด, แฮม, ไส้กรอก, ไข่ไก่ ซึ่งไส้คาวนี้จะโรยหน้าด้วยซอสพริก ซอสมะเขือเทศ มายองเนส และไส้หวาน-ผลไม้ จะเป็นจำพวก กล้วยหอม, ลูกเกด, แยมสตรอเบอรี่, แยมบลูเบอรี่, ครีมวานิลลา และแต่งหน้าด้วยซอสมายองเนส, ซอสช็อกโกแลต นอกจากนี้ยังมีไส้คาวที่คล้ายไส้ขนมโตเกียว เช่น ตอกไข่ไก่ใส่ ละเลงให้ทั่ว รอให้สุก แล้วราดซอสถั่วเหลือง ซึ่งลูกค้าก็นิยมสั่งกินจำนวนไม่น้อย

เมื่อใส่ไส้เครปลงบนแป้งเรียบร้อยแล้ว ก็ใช้ที่แซะขนม หรือเกรียง ทำการแซะขอบแป้ง จากนั้นพับครึ่งแป้งก่อน แล้วจึงพับประกบด้านซ้าย ขวา แล้วใส่ซองเครปที่ทำจากกระดาษที่เตรียมไว้ ก็พร้อมขาย

ทั้งนี้ นอกจากกรณีร้านเครปของคำนวณแล้ว สำหรับบ้านเราเรื่องการใส่ไส้เครป และการตกแต่งเครป อาจถือได้ว่าเป็นศิลปะอย่างหนึ่งเลยทีเดียว ไส้เครปที่คนไทยนิยมรับประทาน และร้านเครปส่วนใหญ่จะทำขาย ก็มีอาทิ ไส้ครีมกล้วยหอม และเนยถั่ว, ไส้ช็อกโก แลตเหลว, ไส้ครีม สังขยาใบเตย, ไส้แฮมไก่ ทูน่า หรือไส้กรอก ใส่ซอสมะเขือเทศ และมายองเนส, ไส้หมูหยอง น้ำพริกเผา, ไส้แยมต่าง ๆ เช่น แยมสตรอเบอรี่ แยมส้ม, ไส้ผลไม้ต่าง ๆ เช่น ลูกเกด กล้วยหอม และไส้มะพร้าว โรยน้ำตาล ซึ่งการขายเครปก็ต้องพิจารณาสิ่งที่ลูกค้าชอบให้ดี

สำหรับร้านเครปของคำนวณ เมื่อมีการเลือกใช้ไส้ที่ลูกค้าในย่านที่ทำขายถูกใจ และมีจุดดึงดูดที่การขายราคาเดียว คือ 20 บาท กิจการก็ไปได้ด้วยดี มีรายได้ที่น่าสนใจ และเป็นอีกกรณีศึกษาที่น่าพิจารณา

ร้านเครป 20 บาท ของคำนวณที่ย่านสยามสแควร์กลางกรุง เป็นร้านรถเข็น ขายอยู่ริมถนน ฝั่งตรงข้ามห้างสยามเซ็นเตอร์ ใกล้ ๆ กับสะพานลอยคนข้าม ขายวันอังคารถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป โดยจะหยุดทุกวันจันทร์ ใครสนใจชิมเครปเจ้านี้ หรือสนใจเรื่องการขายเครปแบบของคำนวณ ก็ลองไปดูกัน

ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


สูตรขนมโตเกียว ขายง่าย รายได้ดี

ขนมโตเกียวสูตรโบราณ มีจุดเด่นอยู่ที่ตัวแป้งและไส้ขนม เนื้อแป้งละเอียด รสชาติดี กลมกล่อม มีกลิ่นหอม สามารถนำไปทำขนมแพนเค้กก็ได้ ไส้ขนมก็มี สังขยา ครีม เผือก และไส้กรอก


ขนมที่มีวางขายมาเนิ่นนานแล้วอย่าง ขนมโตเกียว ลักษณะเป็นแผ่นกลมรี ๆ นำมาม้วน เนื้อแป้งนิ่มอร่อย รับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งความอร่อยของขนมชนิดนี้หัวใจสำคัญอยู่ที่ไส้ที่จะต้องมีการพลิกแพลงให้ โดนใจลูกค้า และรสชาติของตัวแป้งที่ต้องกลมกล่อมลงตัวกันพอดีกับไส้ และวันนี้ทีม ช่องทางทำกิน ก็นำข้อมูลการทำ-การขายขนมโตเกียว ที่ขายได้-ขายดีมาตลอด มาให้ลองพิจารณากัน

ฉัตรชัย อินทรประสิทธิ์ หรือ ติ๊ก เจ้าของสูตรขนมโตเกียวโบราณ เล่าให้ฟังว่า ก่อนมายึดอาชีพพ่อค้า เดิมเคยทำงานมาหลายอาชีพ เคยทำงานประจำตามบริษัท แต่เพราะอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง ภายหลังเลยเลือกอาชีพขายของ โดยเริ่มต้นจากขายเสื้อผ้า กิฟต์ช็อป ของเล่น ซึ่งแม้จะขายดี แต่ต้องใช้ต้นทุนสูง และถ้าวันไหนขายไม่ดีก็ต้องกินทุน สินค้าประเภทนี้ลูกค้าไม่ได้ซื้อกันทุกวันเหมือนกับของกิน บางครั้งก็ทำให้รู้สึกเบื่อ ๆ ท้อ ๆ เพราะรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่ายในครอบครัว ที่สุดก็ตัดสินใจมองหาอาชีพใหม่

เปลี่ยนมายึดอาชีพขายขนมโตเกียวได้ประมาณ 5 ปีกว่า ๆ ได้สูตรมาจากพี่สาว และแฟนเราก็มีพื้นฐานในการทำขนมอยู่บ้าง ก็ไปฝึกทำขนมโตเกียวจากพี่สาว แล้วมาปรับเพื่อให้เป็นสูตรเฉพาะ ขนมโตเกียวสูตรของเรามีจุดเด่นอยู่ที่ตัวแป้งและไส้ขนม เนื้อแป้งละเอียด รสชาติดี กลมกล่อม มีกลิ่นหอม สามารถนำไปทำขนมแพนเค้กก็ได้ ส่วนไส้ขนมเราก็จะชูความเป็นไทยประยุกต์ เช่น สังขยา ครีม เผือก และไส้กรอก ใช้ยี่ห้อดีซึ่งไม่ค่อยเหมือนร้านอื่น เลยทำให้ได้ลูกค้าประจำหลายกลุ่มทั้งเด็กและผู้ใหญ่

ติ๊กบอกว่า ขนมโตเกียวเป็นขนมที่รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ไม่จุกจิก สามารถทำเองคนเดียวได้ ใช้เงินลงทุนไม่สูง ที่สำคัญกำไรดี เพียงแต่ใส่ใจในกระบวนการผสมแป้ง และพลิกแพลงไส้ขนม รับรองขายได้ตลอด



วัสดุ/อุปกรณ์
ในการทำอาชีพนี้ หลัก ๆ ก็มี เตาแก๊ส, กระทะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า, กะละมัง, เกรียงแซะขนม, ภาชนะสเตนเลสสำหรับใส่ไส้ขนม, ช้อน, ตะกร้อตีไข่, ทัพพีด้ามสั้น, ตะแกรง, ถาด, หม้อ, ถังใส่แป้ง และเครื่องไม้เครื่องมือเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่สามารถหยิบฉวยเอาจากในครัวมาใช้ได้


ส่วนผสมตัวแป้ง
แป้งสาลีตราว่าว 1 กิโลกรัม, นมสดคาร์เนชั่น 1 กระป๋อง, น้ำตาลทราย 6 ขีด, ไข่ไก่ (เบอร์ 3) 10 ฟอง, ผงฟู 30 กรัม, เกลือป่น 10 กรัม, วานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ, เนยละลาย 1 ขีด, น้ำเปล่า 1 กิโลกรัม

ขั้นตอนการทำขนมโตเกียว

เริ่มจากนำแป้งสาลีมาร่อนผสมรวมกับผงฟู ร่อน 2 ครั้ง เสร็จแล้วตั้งพักไว้ ตอกไข่ใส่ภาชนะ ตีไข่ให้ขึ้น ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไปทีละน้อยจนหมด ตีไข่ต่อไปเรื่อย ๆ ให้ขึ้นฟูเป็นสีขาวนวล ใส่เกลือผสมลงไป จากนั้นให้นำแป้งที่ร่อนเตรียมไว้มาค่อย ๆ ใส่ทีละนิด คนส่วนผสมสลับไปเรื่อย ๆ จนหมด จึงใส่เนยละลายและน้ำลงไป คนนวดให้ส่วนผสมเนียนเข้ากัน ตั้งพักไว้ประมาณ 20 นาที

การเตรียมไส้ขนม

ขนมโตเกียวไส้ครีม จะใช้ นมข้นจืด, แป้งสาลี, แป้งข้าวโพด, ไข่ไก่, น้ำตาลทราย, เนยสด และวานิลลา ผสมแป้งสาลีกับแป้งข้าวโพดให้เข้ากัน เทนมสดใส่ลงไป คนให้แป้งละลาย ตอกไข่ใส่ชาม แล้วตีพอเข้ากัน เทไข่ผ่านกระชอนลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย คนให้ละลาย นำส่วนผสมใส่หม้อตุ๋นยกตั้งไฟ คนตลอดเวลาจนส่วนผสมสุกเป็นครีมข้น เหยาะ วานิลลาใส่ไปนิดพอให้มีกลิ่น ยกลงจากเตาตั้งพักไว้ให้เย็น

ขนมโตเกียวไส้สังขยา ใช้ นมข้นจืด, แป้งข้าวโพด, กะทิ, ไข่ไก่, น้ำตาลทราย, น้ำใบเตยคั้นข้น และเกลือ ตีไข่แดงกับน้ำตาลทราย แล้วทยอยใส่แป้งข้าวโพด คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากันดี จึงใส่นมข้นจืด น้ำใบเตย กะทิ เกลือ คนให้เข้ากันอีกครั้ง ก่อนนำไปกรองเอาเศษออก แล้วนำไปใส่หม้อตุ๋นยกขึ้นตั้งไฟ คนไปเรื่อย ๆ ตลอดเวลา พอรู้สึกว่าส่วนผสมหนืด ๆ เป็นอันใช้ได้ ยกลงตั้งทิ้งไว้ให้เย็น

ขนมโตเกียวไส้เผือก ใช้ เผือกนึ่งสุกบดละเอียด, กะทิ, นมข้นจืด, น้ำตาลทราย, เกลือ นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปกวนในกระทะ ใช้ไฟปานกลาง กวนไปเรื่อย ๆ อย่าหยุด จนไส้เผือกแห้ง ก็เสร็จเรียบร้อย ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น

ขนมโตเกียวไส้กรอก ใช้ไส้กรอกขนาด 2 นิ้ว ไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงแค่แกะพลาสติกที่หุ้มออก นำไปวางบนกระทะกลับไปมาให้สุก ก็นำไปใส่เป็นไส้ขนมโตเกียวได้เลย


ขั้นตอนในการทำเป็นขนมโตเกียวที่พร้อมขาย นำกระทะตั้งไฟให้ร้อน พอกระทะร้อนได้ที่แล้วก็ให้ลดไฟลงให้ไฟอยู่ปานกลาง ไม่แรงไปไม่อ่อนไป เอาเนยทากระทะให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าเช็ดออก ทำให้กระทะแค่พอมัน ๆ ใช้ทัพพีกลมตักแป้งสำเร็จหยอดลงในกระทะ ใช้ก้นทัพพีละเลงแป้งเป็นรูปวงรีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว พอแป้งเริ่มสุกใช้ช้อนตักไส้ที่ต้องการใส่ลงไป ใช้เกรียงแซะแผ่นแป้งทางด้านล่าง พร้อมกับม้วนให้ปิดไส้ (ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคและลูกเล่นของแต่ละคน) ก็จะได้ขนมโตเกียวตามที่ลูกค้าต้องการ

ขนมโตเกียวนั้นต้องรับประทานร้อน ๆ ถึงจะอร่อย จึงต้องทำไปขายไป โดยราคาขายนั้น กล่องละ 20 บาท มีขนมโตเกียว 6 ชิ้น มีต้นทุนประมาณ 50% ของราคา

ติ๊ก-ฉัตรชัยทำ ขนมโตเกียว ขาย โดยวันจันทร์และวันพุธขายที่ตึกซัน ข้างธนาคารทหารไทยสำนักงานใหญ่ วันอังคารขายที่ สวทช. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิต และวันศุกร์ขายที่กระทรวงพาณิชย์ และยังรับออกร้าน-ออกงานทั่วไป ทั้งงานมงคล งานปีใหม่ งานวันเด็ก งานเทศกาลต่าง ๆ โดยมีเบอร์ติดต่อคือ โทร. 08-6782-8078 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ไม่ตกยุค แถมยังมี ช่องทางทำกิน ที่น่าสนใจ สามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ เช่นกัน

ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


ถุงทองทอด

ถุงทองทอด เป็นอาหารว่าง ชื่อมงคลของคนไทย ที่ปัจจุบันหาทานยาก มีสูตรการทำถุงทองทอดมาลองทำดู เป็นช่องทางสร้างรายได้ อีกทางหนึ่ง

อาหารเรียกน้ำย่อยยอดนิยมของคนไทยของทานเล่นมีอยู่มากมายหลายอย่างเช่น เปาะเปี๊ยะสด-ทอดปั้นขลิบไส้ปลา,ข้าวเกรียบปากหม้อ,สาคูไส้หมู,ขนมเบื้อง ญวน,ช่อม่วงฯลฯแต่ถ้าเอ่ยถึง ถุงทองทอด บางคนอาจทำหน้างงๆสงสัยว่าคืออะไร หน้าตาเป็นอย่างไรวันนี้ทีม ช่องทางทำกิน จึงนำข้อมูลอาชีพการทำ การขายถุงทองทอดซึ่งเป็น อาหารว่าง ชื่อมงคลของคนไทยมานำเสนอให้ลองพิจารณากัน

สะคราญผ่องนราหรือเจ๊ต่ายทำ ถุงทองทอด ขายอยู่ย่านบ้านพักรถไฟกม.11เจ้าตัว เล่าให้ฟังถึงที่มาของอาชีพนี้ว่าที่บ้านมีอาชีพขายของชำมานานหลายสิบปีแล้ว พอดีลูกสาวเรียนจบมาแล้วยังไม่มีงานทำผู้เป็นป้าได้สูตรถุงทองทอดมาจากเพื่อนจึงเอาสูตรมาให้หลานสาวลองทำดูเผื่อจะทำขายระหว่างรองานโดยคุณยาย(แม่ ของเจ๊ต่าย)ก็มีฝีมือในการทำอาหารจึงนำสูตรดังกล่าวมาลองฝึกทำให้หลานสาวดู แต่สูตรถุงทองที่ได้มารสชาติยังไม่ถูกใจจึงมีการดัดแปลงสูตรตามแบบที่ชอบ เมื่อทุกอย่างลงตัวก็เริ่มทำขายปรากฏว่ากระแสตอบรับดีมากอาจเพราะหาทานยากดู แปลกใครเห็นก็สนใจจึงซื้อไปชิมกัน


ต่อมาลูกสาวได้งานเป็นเลขาฯอยู่บริษัทปูนซิเมนต์ก็เสียดายเพราะลูกค้าติดมาก ทำถุงทองทอดขายวันละ1,000-1,200ถุงขายแต่เช้าไม่เกิน10.00น.ก็หมดจึงรับช่วง ทำขายต่อจากลูกสาวและยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าโดยเพิ่มเปาะเปี๊ยะทอด ด้วยซึ่งใช้วัตถุดิบตัวเดียวกันกับการทำถุงทองทอดและยังทำทอดมันปลากรายขายด้วยก็ขายดีจนต้องซื้อเครื่องตีปลามาตีเองเรียกว่าสินค้าที่ร้านขายดีทุกตัว พอเห็นเงินมันก็สนุกจึงขยับขยายที่ขายเพิ่มมาตรงหลังปตท.สำนักงานใหญ่ขาย จันทร์-ศุกร์เวลา06.00–12.00น

สำหรับการทำ ถุงทองทอด อุปกรณ์หลักๆที่ต้องใช้ก็มี เตาแก๊ส,กระทะ,ทัพพี, ตะแกรง,กระชอน,กะละมัง,ถาดสเตนเลส,เขียง,ครกและเครื่องมืออื่นๆที่สามารถ หยิบยืมเอาได้จากในครัว

วัตถุดิบ/ส่วนผสมประกอบด้วย แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะ(ขนาด4นิ้ว),หมูสับติด มัน,มันแกวสับละเอียด,แครอทต้ม(หั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ),พริกไทย,รากผักชี, กระเทียม,ซีอิ๊วขาว,น้ำตาลทราย,ต้นหอมหั่นเส้นตามยาว(สำหรับมัดปากถุง)และ น้ำมันสำหรับใช้ทอด


ขั้นตอนการทำถุงทองทอด

เริ่มจากการทำไส้ถุงทองก่อนเป็นอันดับแรก โดยการเอารากผักชีกระเทียมพริกไทยเกลือป่นมาใส่รวมกันในครกแล้วโขลกให้ละเอียดเสร็จ แล้วนำไปผสมกับหมูสับติดมันที่เตรียมไว้เคล้าพอให้ส่วนผสมเข้ากันทั่ว จากนั้นนำมันแกวสับละเอียดและแครอทต้มสุกที่เตรียมไว้ใส่ตามลงไปคลุกเคล้าส่วนผสมให้ทั่วอีกครั้งปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลทรายนิดหน่อย ใช้มือนวดส่วนผสมให้เข้ากันจนเหนียวจากนั้นใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆคลุมพักเอาไว้

นำต้นหอม(หรือขึ้นฉ่ายก็ได้)ที่หั่นตามยาวโดยยาวประมาณ5นิ้วมาแช่น้ำ ร้อน5นาที(เพื่อให้เกิดความอ่อนตัวจะง่ายต่อการใช้มัดปากถุงทอง)แล้วนำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำ

พอไส้เสร็จแผ่นแป้งพร้อมก็เตรียมห่อถุงทองได้เลยโดยตักไส้ที่ทำเตรียมไว้ใส่ ลงบนแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะไม่ต้องมากประมาณ1ช้อนชาครึ่งใช้มือจับริมแป้งขึ้นมา จีบค่อยๆจับจีบไปรอบๆให้มีลักษณะคล้ายถุงเสร็จแล้วเอาต้นหอมมาจับผูกสัก2ที ไม่ต้องแน่นมากเอาแค่ไม่หลุดก็พอทำเช่นนี้ไปจนหมด

ตั้งกระทะน้ำมันร้อนจัดด้วยไฟปานกลางก่อนจะหรี่ไฟลงเหลือครึ่งหนึ่งจากนั้น จึงนำถุงทองที่เตรียมไว้ใส่ลงไปทอดเวลาทอดกดให้ถุงทองจมน้ำมันมิฉะนั้นปาก ถุงจะบานเป็นดอกไม้ใกล้โรยดูไม่สวยทอดจนถุงทองสุกมีสีเหลืองทองก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันเพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ


เจ๊ต่ายเผยเคล็ดลับการทอดถุงทองเพิ่มเติมว่าจะให้ถุงทองสวยต้องทอดน้ำมันท่วมกลีบถุงจะได้บานเต็มที่มีสีสม่ำเสมอหากใครมือใหม่ควรทอดทีละน้อยไม่งั้น จะกลับไม่ทันถุงทองจะไหม้เสียก่อน

ถุงทองทอด นี้ทานกับน้ำจิ้มเปาะเปี๊ยะหรือน้ำจิ้มบ๊วยหรือจะเป็นซอสศรีราชา ก็อร่อยไปอีกแบบและต้องมีผักสดเช่นแตงกวา,ใบโหระพา,ผักกาดหอมทานแกล้มด้วยจะ ยิ่งอร่อยครบเครื่อง
ราคาขายถุงทองทอดคือ 6 ชิ้นหรือ 6 ถุงราคา 20 บาทส่วนปอเปี๊ยะทอดที่เจ๊ต่ายทำขายด้วยราคาคือ 5 ตัว 20 และทอดมันปลากรายขาย 8 ชิ้น 20 บาท

ถุงทองทอด นี้ยังเหมาะสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆซึ่งเจ๊ต่ายก็รับสั่งทำ ไปออกงานนอกสถานที่ด้วยโดยติดต่อได้ที่โทร.08-0202-6349และ0-2936-2076ซึ่ง ตรงนี้ก็เป็นช่องทางสร้างรายได้เพิ่มเติมอีกส่วนจากการทำ-การขายถุงทองทอด ใครสนใจอาชีพนี้ก็ลองฝึกฝนทำกันดูตามข้อมูลที่ว่ามา

ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


ห่อหมกพุดดิ้ง

การปรับเปลี่ยนภาชนะใส่อาหารขายให้ดูทันสมัยนั้น ก็เป็นจุดขายได้เป็นอย่างดี อย่าง ห่อหมก จากที่ใส่ใบตองมาเป็นถ้วยฟอยล์ ห่อหมกจึงคล้ายขนมฝรั่ง น่ารับประทานยิ่งขึ้น


ห่อหมก เป็นอาหารไทยโบราณที่มีการทำขายในหลายแหล่ง ทั้งริมทางข้างถนน ตลาดนัด ร้านอาหาร ภัตตาคาร ราคาก็มีแพงบ้างถูกบ้างตามวัตถุดิบ ฝีมือ และทำเล และยุคนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนภาพของห่อหมกให้ดูทันสมัย ขายได้ในทุก ๆ ทำเล แม้แต่ตามโรงแรมหรู หรือห้างสรรพสินค้า มีการปรับเปลี่ยนภาชนะให้ดูทันสมัย ซึ่งวันนี้ทีม ช่องทางทำกิน ก็มีข้อมูลการทำการขายห่อหมกในรูปแบบใหม่มานำเสนอ

ต้น-ชวินบุตร ทรัพย์ภิญโญชัย เป็นเจ้าของร้านขาย ห่อหมกพุดดิ้ง เจ้าตัวบอกว่า ที่บ้านทำกิจการขายข้าวแกงมานานกว่า 20 ปี ซึ่งเป็นร้านเล็ก ๆ ที่ถนนทรงวาด ย่านเยาวราช ขายข้าวราดแกงธรรมดา แต่สิ่งที่แปลกไปคือ ห่อหมกเนื้อปู ที่เป็นสูตรคุณพ่อทำเอง มีรสชาติกลมกล่อม ซึ่งมีลูกค้าประจำมากมาย การทำห่อหมกขายจึงเป็นส่วนหนึ่งของกิจการครอบครัวที่ตนและพี่สาวได้ทำต่อ ๆ มา



จุดที่เปลี่ยนมาเป็นห่อหมกพุดดิ้งคือการใช้ใบตองนั้นทำยาก ข้อเสียเยอะ เย็บไม่ดีใบตองก็แตก ใช้ไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องการหาวัสดุใหม่ที่หาง่าย และแทนใบตองได้ดี หาไปหามาก็มาลงตัวที่ถ้วยฟอยล์สำหรับใส่ขนม ซึ่งเมื่อเปลี่ยนวัสดุแล้ว ห่อหมกจึงคล้ายขนมฝรั่ง ส่วนคำว่าห่อหมกพุดดิ้งมาจากเนื้อห่อหมกที่จะเหนียว นุ่ม และเด้งเหมือนขนมพุดดิ้ง จึงเป็นสโลแกนที่ว่า อร่อยแบบไทย สไตล์ยุโรป


ห่อหมกที่ทำขายนั้น จะมี 4 แบบคือ ห่อหมกปู ห่อหมกปลา ห่อหมกกุ้ง ห่อหมกหอยเชลล์ จุดเด่นคือจะใช้ของทะเลแบบสด ๆ คุณภาพดี และก็มีสูตรในการทำพริกแกงเองด้วย

วิธีทำห่อหมก

อุปกรณ์ทำห่อหมกนั้น เป็นอุปกรณ์ทำครัวทั่วไป อาทิ เขียง มีด กระทะ เตาแก๊ส และเครื่องครัวเบ็ดเตล็ดต่าง ๆ ที่ต้องมีพิเศษคือเครื่องปั่นสำหรับปั่นพริก และลังถึงสำหรับนึ่งห่อหมก

วัตถุดิบที่ใช้ ก็มีผักต่าง ๆ อาทิ กะหล่ำปลี และใบโหระพาสด เป็นใบผักรองพื้น ส่วนของสด มีกุ้งสด ปูม้าก้อน หอยเชลล์ และปลาช่อน ซึ่งกุ้งสดนั้นจะใช้กุ้งทะเลราคา กก.ละ 200 บาท, ปูม้าใช้เนื้อปูม้าก้อนไซซ์จัมโบ้ ราคา กก.ละ 350 บาท, หอยเชลล์ใช้หอยเชลล์แกะเปลือกอย่างดี ราคา กก.ละ 230 บาทและปลาช่อนใช้เนื้อปลาช่อนล้วน ราคา กก.ละ 200 บาท ซึ่งของสดนี้หาซื้อได้ที่ตลาดสะพานปลา ส่วนผักสดหาซื้อในตลาดสดทั่วไป

สำหรับเครื่องแกง ชวินบุตรบอกว่า ถ้าใช้กะทิสด 1 กก. ประกอบกับเครื่องอื่น ๆ ตามสูตร จะทำห่อหมกพุดดิ้งได้ประมาณ 10 ถ้วย ซึ่งสูตรเครื่องแกงที่จะว่ากันต่อไปนี้ก็ใช้ตะไคร้ ข่าสด ขิงแก่ พริกขี้หนู และผิวมะกรูด อย่างละ 20 กรัม โดยส่วนประกอบในส่วนของตะไคร้และข่าจะให้ความหอม ขิง และพริก จะให้ความเผ็ด ส่วนผิวมะกรูดให้รสชาติความเป็นแกง และดับกลิ่นคาวของสดด้วย ส่วนประกอบต่าง ๆ ถ้าทำในปริมาณมากก็ใช้เครื่องปั่นให้ละเอียด โดยหั่นให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ก่อน ถ้าทำไม่มากใช้วิธีโขลกก็ได้

ขั้นตอนการผัดพริกแกง ใช้กะทิสด 1 กก. ใช้กะทิจากมะพร้าวห้าว ได้ความมัน ข้น และหวาน เทกะทิลงในกระทะ ใช้ไฟแรงปานกลาง เมื่อกะทิเริ่มร้อนค่อย ๆ ใส่เครื่องแกงลงไป ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล ตามใจชอบ โดยเนื้อแกงกะทินี้ ชวิน บุตรย้ำว่า เนื้อแกงจะต้องข้นพอดี ๆ ไม่เหนียวไปและไม่ใสไป
เตรียมผักสด คือ กะหล่ำปลีซอย ใบโหระพา ใส่ภาชนะ เทเนื้อพริกแกงลงคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วตักแบ่งใส่ถ้วยฟอยล์ที่เตรียมไว้ ซึ่งถ้วยฟอยล์นี้ ชวินบุตรบอกว่า ใช้ขนาด 3321 ซึ่งเป็นขนาดเรียกของถ้วยขนม

ถ้าเป็นห่อหมกกุ้ง จะใส่กุ้งสด 2 ตัว ห่อหมกหอยเชลล์ ใส่หอยเชลล์ 2 ตัว ห่อหมกปู ใส่เนื้อปูม้าก้อนใหญ่ 2 ก้อน และก้อนเล็กอีก 2-3 ก้อน ห่อหมกปลา ใส่เนื้อปลา 2 ชิ้น จากนั้นนำไปนึ่ง ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก่อน ห่อหมกจะเริ่มพองตัว จึงราดกะทิสดลงบนหน้าห่อหมกเพื่อเป็นการแต่งหน้า

นอกจากนี้ก็ตกแต่งหน้ากะทิด้วยพริกสีต่าง ๆ เพื่อสร้างสัญลักษณ์ให้กับห่อหมก เช่น พริกชี้ฟ้าเหลืองสำหรับห่อหมกหอยเชลล์ ห่อหมกปูใช้พริกชี้ฟ้าแดง ห่อหมกกุ้งใช้พริกชี้ฟ้าเขียวธรรมดา และห่อหมกปลาใช้ใบผักชีโรย จากนั้นนำไปนึ่งอีกครั้งให้สุกดี ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เป็นอันเสร็จ

ราคาขาย ห่อหมกพุดดิ้ง นั้น อยู่ที่ถ้วยละ 29-35 บาท ซึ่งต่อ 10 ถ้วย ขายหมดก็จะได้ 290-350 บาท มีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ 250 บาทขึ้นไป ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลกินเจ ห่อหมกพุดดิ้งนี้ก็สามารถทำแบบเจได้ด้วย
โดยใช้เห็ดต่าง ๆ แทนเนื้อสัตว์ อาทิ เห็ดฟาง เห็ดเข็มทอง และเห็ดหอม

ชวินบุตรเปิดร้านห่อหมกพุดดิ้ง ข้าวแกงทวิตเตอร์ อยู่ที่ถนนเจริญนคร 28 แขวงบางลำพูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพฯ เบอร์โทรศัพท์คือ 0-2860-1842 และ 08-6300-0613 ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-14.00 น. ใครสนใจชิมรสชาติก็แวะเวียนไปได้ ซึ่งการทำห่อหมกขายในรูปแบบนี้ ในพื้นที่อื่น ๆ ยังมีช่องว่างให้ลองดู

ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


ไอศกรีมไทยไท ขายกลางคืน รายได้งาม

ไอศกรีมไทย-ไท เน้นรสชาติแบบไทยๆ กลมกล่อม หวาน มัน มีกะทิเป็นส่วนผสมหลัก และผสมด้วยผลไม้ไทยๆ ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ และยึดผลิตวันต่อวัน ไม่ใส่สารกันเสีย



ด้วยยึดคติการทำธุรกิจกว่าจะสำเร็จได้นั้น แน่นอนนอกจากความเชื่อมั่นในฝีมือ จิตใจมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ พร้อมที่จะฟันฝ่าอุปสรรคแล้ว การคิดขายความต่างของสินค้าเป็นอีกโจทย์ที่ท้าทาย อันเป็นแรงผลักให้ อักษิพร พลายเวช ใช้เป็นจุดดึงดูดลูกค้า หลังตกลงปลงใจเปิด ร้านไอศกรีมไทยไท แห่งเมืองหาดใหญ่ จ.สงขลา ยึดเป็นอาชีพสร้างรายได้ กระทั่งปัจจุบันกิจการดำเนินไปด้วยดีอย่างน่าชื่นชม

อักษิพร หรือจอย ในวัย 30 ปีเศษ เจ้าของร้านไอศกรีมไทยไท ที่ยึดทำเลบริเวณหน้าประตูโรงเรียนแสงทองหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ย้อนอดีตให้ฟังว่า เป็นชาวหาดใหญ่โดยกำเนิด ตั้งแต่เด็กมีความสนใจเรื่องอาหารการกิน เพราะชอบที่จะตามไปชิม หากรู้ว่าอะไรร้านไหนอร่อยก็จะไม่พลาด

หลังเรียนจบปริญญาก็เข้าทำงานที่สถาบันกวดวิชาแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ ซึ่งงานที่ทำจะมีเวลาว่างช่วงเย็นถึงกลางคืน ส่วนใหญ่ของเวลาที่ว่างก็จะไปกินไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆ โดยสถานที่เที่ยวเมื่อก่อน ส่วนใหญ่เป็นร้านขายน้ำชาซึ่งบูมมากเป็นที่นิยมของวัยรุ่นหนุ่มสาว เมื่อไปบ่อยนั่งนานๆ เข้าก็รู้สึกเบื่อ แต่ไม่รู้จะไปไหน เพราะไม่มีร้านแบบอื่นแล้ว” จอยเล่าถึงที่มาของเหตุจูงใจที่ทำให้เปิดร้านไอศกรีม

เมื่อเกิดความรู้สึกเบื่อ จอยบอกได้จุดประกายความคิดให้เธอ อยากเปิดธุรกิจเล็กๆ ทำช่วงเย็นหลังเลิกงาน โดยปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงที่จะเปิดร้านน้ำชา พร้อมๆ กับอาศัยประสบการณ์ของตนเองในการตัดสินใจเลือกธุรกิจ โดยคิดหาสิ่งที่แปลกใหม่ที่ไม่เหมือนใคร

คิดได้ตอนนั้นคือขายไอศกรีมและขนมหวานตอนกลางคืน เพราะยังไม่มีใครขาย โดยเน้นกลุ่มวัยรุ่นวัยทำงาน ที่เลือกขายช่วงนี้ก็เพื่อต่อยอดร้านไอศกรีมอื่น ที่ขณะนั้นจะขายช่วงเช้าถึงเย็น พอค่ำก็ปิดร้านอีกอย่างคือตอบสนองคนเลิกงานตอนค่ำ และอยากกินอะไรเย็นๆ หวานๆ ก็จะได้มีร้านนั่ง จอย แจงเหตุผล
ในที่สุดตัดสินใจเปิดร้านชื่อ ไอศกรีมไทยไท ตั้งอยู่ที่ 24 ถนนหอมหวน ซึ่งเปิดขายกลางคืนเป็นเจ้าแรกของหาดใหญ่ โดยเน้นรสชาติแบบไทยๆ กลมกล่อม หวาน มัน มีกะทิเป็นส่วนผสมหลัก และผสมด้วยผลไม้ไทยๆ ที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ และยึดผลิตวันต่อวัน ไม่ใส่สารกันเสีย


เริ่มแรกไม่มีความรู้เรื่องทำไอศกรีมเลย โชคดีที่มีครูนันโท อ่อนเจริญ เป็นผู้สอนให้ ซึ่งระยะแรกเปิดร้านเป็นหุ้นส่วนกัน แต่ครูได้แยกไปเปิดสาขา ไอติมครูนันโท ตั้งอยู่ที่หาดใหญ่ใน เขต 8 ตรงข้ามองค์การโทรศัพท์ สะดวกที่ไหนไปที่นั่นได้เลย จอย อธิบาย พร้อมเสริมอีกว่า

จอย กล่าวเสริมอีกว่า หลังเปิดขายไม่นาน ไอศกรีมของร้านเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่สนใจของลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่าง ประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีลูกค้าขาประจำมาก จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำมาขายไอศกรีมเป็นหลัก โดยเปิดขายตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.ทุกวัน ไม่มีวันหยุด ปัจจุบันขยายร้านใหญ่ขึ้น มีลูกจ้างหลายคนช่วยทำ ช่วยขายหน้าร้านและรับทำออเดอร์ไอศกรีมถังส่งลูกค้า ราคาถังละ 900-2,000 บาท และรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ขั้นต่ำ 200 ถ้วยขึ้นไป

ที่ร้านจะเป็นไอศกรีมกะทิสด ใส่ไข่ ใส่เครื่อง ตอนนี้มีมากว่า 30 ชนิด เช่น พุทราเชื่อม ฟักเชื่อม กล้วยเชื่อม ฯลฯ ราคาอยู่ที่ถ้วยละ 20-30 บาท

ถึงวันนี้ กว่า 12 ปี ที่จอยได้เปิดร้าน ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 10 คน มาช่วยดูแลร้าน โดยมีตนเองบริหารจัดการ โดยเฉพาะกระบวนการผลิตที่เน้นความอร่อยลงตัว สด สะอาด วัตถุดิบทุกอย่างต้องดีมีคุณภาพ รวมทั้งเน้นการบริการที่ดีให้ลูกค้าประทับใจควบคู่ จึงทำให้มีลูกค้าอุดหนุนต่อเนื่องถึงวันละเกือบ 1,000 คนเลยทีเดียว

ที่มา : คมชัดลึก

Read More...


สูตร โยเกิร์ตสด เต้าหู้นมสด

โยเกิร์ตสด และ เต้าหู้นมสด ปัจจุบันเป็นของกินเล่นเพื่อสุขภาพ สำหรับวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ คนทุก ๆ วัยซึ่ง มีประโยชน์ต่อร่างกายช่วยในการลดน้ำหนัก 


โยเกิร์ตสด ปัจจุบันเป็นของกินเล่นของเด็กวัยรุ่นคนรุ่นใหม่คนทุกๆวัยซึ่ง มีประโยชน์ต่อร่างกายในการลดน้ำหนักและยังมีรสชาติอร่อยการทำขายจึงกลายเป็น อาชีพใหม่ในยุคนี้ซึ่งวันนี้ทีม ช่องทางทำกิน ก็มีข้อมูลอาชีพนี้มานำเสนอ เผื่อใครที่อยากทำอาชีพขายสินค้าแนวเพื่อสุขภาพอาจจะสนใจ

อิ๊บ-วิไลรัตน์สกุลเจริญพรเจ้าของร้านมอแอนด์มอร์วัย26ปีขายโยเกิร์ตสดและ เต้าหู้นมสดย่านตลาดท่าน้ำนนทบุรีซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเพิ่งมาทำขายจริงจัง ได้ 3 เดือน เหตุที่มาทำขายเพราะส่วนตัวก็เป็นคนขอบกินโยเกิร์ตและผลไม้มากๆและ ได้หัดทำกินเองมานานแล้วจนพอจะมั่นใจฝีมือจึงได้ทำขายด้วย

เมื่อก่อนทำงานเป็นพนักงานโรงแรมและก็ออกมาทำร้านกาแฟซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัว แต่ทำเลไม่ดีและคู่แข่งมากจนสู้ไม่ไหวต่อมาจึงเปลี่ยนมาขายโยเกิร์ตสดตามที่ตนเองชอบ เจ้าของร้านนี้กล่าว

อาชีพนี้การลงทุนอุปกรณ์ครั้งแรกอิ๊บบอกว่าประมาณ15,000-20,000บาทโดยที่ร้านใช้ลังไม้สำหรับใส่ผลไม้สดซึ่งมีราคาค่อนข้างแพงเพราะทำมาจากไม้สัก นอกจากนี้ที่ต้องมีเพิ่มเติมอีกคือ ตู้ฟรีซผลไม้ สำหรับเก็บผลไม้สดที่ใช้ซึ่ง บางอย่างเป็นของที่ต้องสั่งนำเข้าผ่านบริษัทเอกชน โดยจะมีช่วงที่ผลไม้ของเมืองนอกที่ต้องใช้ในการทำขาดดังนั้นต้องสั่งซื้อมาตุนไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งต้องใช้ตู้แช่ซึ่งเป็นตู้ฟรีซ ซึ่งมีราคาแพงเอาไว้ใช้ขณะที่ในส่วนของอุปกรณ์ อื่นๆก็มี อาทิหม้อต้มนมหม้อโยเกิร์ตโดยใช้ในเรตราคาทั่วๆไปไม่ได้แพงมาก
นัก

วิธีทำโยเกิร์ตสด

เริ่มต้นในขนาดเล็กๆใช้นมสดประมาณ 200 ซีซี ต้มในอุณหภูมิที่ 93 องศาฯ นาน 5 นาที จากนั้นทิ้งไว้ให้อุ่นวัดอุณหภูมิที่ 45 องศาฯ หรือลองหยดนมที่หลังมือถ้าไม่ร้อนแสดงว่าใช้ได้จากนั้นใส่หัวเชื้อโยเกิร์ตรสธรรมชาติลงผสมประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ ตั้งทิ้งไว้ 8-12 ชั่วโมง ห้ามเปิดฝานอก จากนี้อิ๊บยังบอกอีกว่าอุปกรณ์ทุกอย่างต้องล้างให้สะอาดหมดจด ต้องสะอาดจริงๆจะได้ไม่ติดเชื้อซึ่งเวลาขายนั้นต้องทำให้โยเกิร์ตเย็นเสมอ ด้วยการเตรียมน้ำแข็งไว้รอบๆหม้อโยเกิร์ต

วิธีขายก็เตรียมผลไม้สดและซอสผลไม้อย่างผลไม้ที่ร้านนี้เตรียมไว้ขายก็มี อาทิบลูเบอรี่,สตรอเบอรี่,ส้ม,กีวี,แอปเปิ้ล,กล้วยหอม,ลูกเกด,คอนเฟลกส่วน ซอสผลไม้จะจับคู่กับผลไม้แต่ละชนิดซึ่งก็มีซอสบลูเบอรี่,ซอสสตรอเบอรี่,ซอส ส้ม,ซอสกีวี,ซอสแอปเปิ้ลส่วนกล้วยหอม,ลูกเกด,คอนเฟลกจะใช้น้ำผึ้งแทน

ในการขายนั้นก็เตรียมถ้วยพลาสติกซึ่งใส่โยเกิร์ตสดได้ในปริมาณ160กรัม เริ่มด้วยราดซอสผลไม้ลงไปก่อนพอประมาณจากนั้นค่อยๆตักโยเกิร์ตสดลงไปประมาณค่อนถ้วยแล้วใส่ผลไม้สดพอประมาณจากนั้นราดด้วยซอสผลไม้อีกทีเป็นอันเรียบร้อยขาย ในราคาถ้วยละ25บาท

นอกจากนี้อิ๊บยังให้สูตร เต้าหู้นมสด เพิ่มเติมโดยเป็นสูตรการทำเต้าหู้นมสด ประมาณ10 ถ้วย มีส่วนผสมดังนี้ คือ นมสด1,200กรัม,น้ำตาล30กรัม,ผงวุ้น3กรัม(อาจ มากกว่านี้หน่อยก็ได้)และ นมสดพาสเจอไรซ์ 1 กระป๋อง นอกจากนี้อาจจะใส่กลิ่นวานิลลาเพิ่มเติมด้วยก็ได้


วิธีทำน้ำนมสด

ตั้งไฟอ่อน ๆ หมั่นคนพออุ่น ๆ แล้วจึงค่อยนำผงวุ้นใส่ลงไปแล้วหมั่นคนเหมือนเดิมตั้งไฟอีกประมาณ 15 นาที สังเกตว่าน้ำนมจะใสไม่มีเกล็ดผงวุ้นลอยอยู่ จากนั้นก็ใส่น้ำตาลลงไปคนจนน้ำตาลละลายหมดแล้วปิดไฟรอให้เย็นสักครู่ แล้วจึงตักใส่พิมพ์สี่เหลี่ยมและรอจนกว่าจะแข็งตัวหรือจะนำใส่ตู้เย็นก็ได้ เพื่อให้แข็งเร็วขึ้นเมื่อเต้าหู้นมสดแข็งตัวแล้วจะเป็นสี่เหลี่ยมชิ้นเล็กๆ จากนั้นอาจจะนำผลไม้สดหรือแช่อิ่มราดบนเต้าหู้นมสดแล้วก็น้ำนมสดตราหมีราดหน้าอีกทีก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย แบ่งขายเป็นถ้วย ๆ น้ำหนัก ถ้วยละ120-150 กรัม ขายในราคาถ้วยละ20บาท

ร้านขายโยเกิร์ตสด และเต้าหู้นมสด ของอิ๊บ-วิไลรัตน์เปิดขายวันจันทร์-ศุกร์(หยุดเสาร์-อาทิตย์) เวลา16.00-20.00น.โดยร้านอยู่ที่ตลาดท่าน้ำนนท์ ใกล้หอนาฬิกาตรงข้ามกับวุฒิ ศักดิ์คลินิก หมายเลขโทรศัพท์ คือ 08-6892-9310 และ 08-7072-4290 หรือ ดูข้อมูลที่เฟซบุ๊ก MOOMORE ก็ได้

ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน-แปะก๊วยรากบัว

อาหารหวาน แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน แปะก๊วยรากบัว กินแล้วทำให้ สดชื่น เย็นกาย เย็นใจ มีคุณค่าทางอาหารที่น่าสนใจ



นมหวานเย็นหรืออาหารหวานก็เป็นสินค้าที่อยู่ในความต้องการของผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยตามตรอกซอกซอย มีให้เห็นเกลื่อนตาหรือแม้กระทั่งร้านขายเมนูอาหารคาว อาทิ ข้าวราดแกงก๋วยเตี๋ยว ยังต้องมี เมนูหวาน ติดร้านไว้เอาอกเอาใจ ลูกค้ายิ่งเป็นของที่ดี ต่อสุขภาพ ก็จะเป็นการเรียกลูกค้าให้เข้าร้านอีกทางหนึ่งด้วยและ แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน-แปะก๊วยรากบัว ก็เป็นหนึ่งใน ช่องทางทำกิน ได้

แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน-แปะก๊วยรากบัว นี้นอกจากกินแล้วทำให้ สดชื่น เย็นกาย เย็นใจ ยังมีคุณค่าทางอาหารที่น่าสนใจ เม็ดแปะก๊วย นั้นมีสรรพคุณ บำรุงสมอง บำรุงไต ช่วยให้ เลือดลมหมุนเวียน ได้สะดวกและ รากบัว ก็ช่วย แก้ไข้ แก้พิษร้อน ในกระหายน้ำ เป็นยาเย็น แก้พิษอักเสบ แก้พิษฝีต่างๆ
หนุ่ม-วริทธิ์นันท์ มานะโรจน์ ทำแปะก๊วยมะพร้าวอ่อน-แปะก๊วยรากบัวสูตรโบราณขาย เจ้าตัว เล่าถึงจุดเริ่มต้นของอาชีพนี้ให้ฟัง ว่าจากเดิมที่ไม่รู้ว่าจะทำอาชีพอะไรก็ได้ลองมองจากสิ่งของใกล้ตัวหลายๆอย่างบางอย่างมองแล้วก็คิดว่าถ้านำมาทำเป็นอาชีพก็คงจะเข้ารอยเดิมอีก คือ ไม่ประสบความสำเร็จจึงเปลี่ยนความคิดว่าน่าจะ ลองเอาของกินที่ตัวเองชอบมาเป็น จุดสร้างอาชีพในที่สุดก็มาลงที่ แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน และรากบัวซึ่งเคยซื้อกินแล้วไม่ถูกใจ จึงเอาสูตรที่ได้จากญาติผู้ใหญ่มาทำกินเอง อร่อยกว่าเยอะจึงลองทำออกขายโดยการลองที่ตลาดตอนเย็นและตลาดเช้า คนซื้อไปชิม ปรากฏว่าได้รับคำชมจึงเป็นการเพิ่มความมั่นใจและตัดสินใจทำออกขายจริงจังในที่สุดจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ทำมาประมาณ 3 ปีแล้ว

เจ้าของอาชีพนี้บอกว่าแหล่งของดีมีคุณภาพที่นำมาใช้ทำขายคือ เยาวราชซึ่งการทำขายต้องให้ผู้ซื้อได้รับโภชนาการที่ดีเพื่อเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญต้องเตรียมของแบบสดใหม่ทุกวันไม่มีค้างคืน เมื่อลูกค้าถูกใจก็จะกลายเป็นลูกค้าประจำ โดยสำหรับราคาขาย แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน-แปะก๊วยรากบัว คือถุงละ 20 บาท

การขาย แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน-แปะก๊วยรากบัว สิ่งที่ต้องเตรียมวัตถุดิบหลักๆก็มี เม็ดแปะก๊วย, น้ำตาลทราย, มะพร้าวน้ำหอม, รากบัวสดและน้ำสะอาด
ส่วนอุปกรณ์ก็เป็นพวกหม้อสเตนเลส, เตาแก๊ส, สากหิน, ทัพพี, ผ้าขาวบาง, ถาด, มีด, กะละมังและเครื่องมืออื่นๆที่สามารถหยิบยืมเอาได้จากในครัว

ขั้นตอนการทำแปะก๊วยมะพร้าวอ่อน-แปะก๊วยรากบัว

ก่อนอื่นเม็ดแปะก๊วยต้องนำ ไปคั่วกับไฟอ่อนสักครู่แล้วนำมากะเทาะเปลือกแข็งออกให้หมดด้วยสากหิน เม็ดแปะก๊วยจะมีเปลือกสีน้ำตาลบาง ๆ ติดอยู่ให้นำไปแช่น้ำทิ้งไว้สักครู่เสร็จแล้วรูดเอาเปลือกสีน้ำตาลบาง ๆ ออกล้างให้สะอาดจากนั้นเอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งแยงเอาไส้ขมๆออก(แกนไส้คล้าย กับแกนเม็ดบัว)ล้างให้สะอาดอีกครั้งก่อนจะนำไปต้มน้ำทิ้งประมาณ 3 ครั้งเพื่อให้แปะก๊วยสุกและนิ่มพอดี
นำน้ำสะอาดและน้ำตาลทรายใส่หม้อตั้งไฟปานกลางเพื่อทำน้ำเชื่อมเสร็จแล้ว นำมากรองด้วยผ้าขาวบางทิ้งให้เย็นก่อนจะนำตั้งไฟอีกครั้งนำเม็ดแปะก๊วยที่เตรียมไว้ใส่ลงไปต้มให้เดือดชิมดูให้ออกรสหวานอ่อนๆเสร็จแล้วยกลงตั้งพักไว้

ต่อไปเป็นการทำรากบัวนำรากบัวสดมาล้างให้สะอาดปอกเปลือกให้หมดก่อนจะนำมา หั่นเฉียงๆให้ยาวไม่เกิน 21/2 นิ้วหนาประมาณ 1/4 นิ้วเสร็จแล้วนำรากบัวใส่หม้อเติมน้ำให้ท่วมรากบัวต้มให้เดือด ขั้นตอนนี้ใช้เวลานานพอสมควรพอน้ำงวดลงรากบัวจะนิ่มลงใส่น้ำตาลทรายเคี้ยวต่อไปประมาณ 1 ชม. รากบัวที่ได้จะมีความนุ่มเหนียวหนึบอร่อย

ระหว่างเคี่ยวรากบัวให้นำมะพร้าวน้ำหอมมาเฉาะเอานำออกใส่ภาชนะสะอาดที่มีผ้า ขาวบางปิดปากมัดพอให้แน่นเพื่อกรองเศษต่าง ๆ ออกเติมน้ำตาลทรายลงไปนิดให้พอออกรสหวานคนให้ละลายดีผ่ามะพร้าวออกเป็นสองส่วนใช้ช้อนหรือภาชนะถนัดมือตักเนื้อมะพร้าวใส่ภาชนะที่เตรียมไว้เท่านี้ก็เป็นอันพร้อมขาย


ขั้นตอนการขาย

ตักเม็ดแปะก๊วยพร้อมน้ำเชื่อมใส่ถุงกรณีเป็นแปะก๊วยมะพร้าวอ่อนก็ใส่ตามด้วยน้ำและเนื้อมะพร้าวส่วนแปะก๊วยรากบัวก็ทำวิธีเดียวกัน แต่ใส่รากบัวผูกปากถุงให้แน่นแช่ในลังโฟมใส่น้ำแข็งนำออกขายได้เลย โดยจุดเด่นของแปะก๊วยมะพร้าวอ่อนและแปะก๊วยรากบัวของคุณหนุ่มนั้นจะอร่อยกลมกล่อมไม่หวานมากกำลังพอดีๆแปะก๊วยมะพร้าวอ่อนก็มีกลิ่นหอมของมะพร้าวอ่อนหอมชื่นใจดี และไม่ขม


แปะก๊วยมะพร้าวอ่อน-แปะก๊วยรากบัว เจ้านี้วันจันทร์ขายที่การไฟฟ้าบางกรวย ,วันอังคารขายที่กระทรวงการคลัง,วันพุธขายที่กระทรวงสาธารณสุข,วันพฤหัสฯขาย ที่โรงงานยาสูบ,วันศุกร์ขายที่กระทรวงพาณิชย์ส่วนวันหยุดราชการขายที่กรมชลฯ และตลาดใหม่นอกจากนี้ยังทำเงินเพิ่มจากการรับจัดเลี้ยงงานสัมมนาต่างๆด้วย ซึ่งหากใครสนใจไปหาร้านไม่เจอสอบถามได้ที่โทร.08-6057-3982,08-0900-4874
ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


สูตรเค้กมะพร้าว ทำขาย รายได้ดี

ร้านสคอมาส์เบเกอรี่แอนด์คิท เช่น ย่านสุขุมวิท 26 เค้กมะพร้าว เค้กช็อกโกแลต จำหน่ายมีสูตรมาลองทำกันดู



เค้กมะพร้าว-เค้กช็อกโกแลตนับว่าเป็นเค้กดึงดูดของแต่ละร้านเบเกอรี่ซึ่งก็ มีสูตร-รสชาติและราคาที่แตกต่างกันไปเค้กดังกล่าวนี้แม้จะดูไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำ แต่จริงๆแล้วก็ไม่ยากเกินฝึกฝนรวมถึงสำหรับการทำขายเป็นอาชีพซึ่งวันนี้ ทีม ช่องทางทำกิน ก็มีข้อมูลมานำเสนอให้ลองพิจารณากัน

ศันสนีย์ลาภาโรจน์กิจ หรือนี๋ เป็นเจ้าของร้านสคอมาส์เบเกอรี่แอนด์คิทเช่น ย่านสุขุมวิท26 ซึ่งก็ทำ เค้กมะพร้าว-เค้กช็อกโกแลต จำหน่ายด้วยโดยเจ้าตัว บอกว่า เค้กมะพร้าวอ่อน อุปกรณ์ที่ใช้ทำก็เป็นอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วๆ ไปอาทิ เครื่องตีแป้ง เตาอบ รวมถึงอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดอื่นๆที่ใช้ในร้านเบเกอรี่

ส่วนผสมในการทำก็มีแป้งเค้ก 150 กรัม,น้ำตาลทราย 140 กรัม,ไข่ไก่ 185 กรัม,น้ำมัน รำข้าวอย่างดี 40 กรัม,น้ำเปล่า 40 กรัม,เนยสดอย่างดี 50 กรัม,นม 40 กรัม ,วานิลลา 2.5 กรัมและผงฟู 2.5 กรัม ซึ่งส่วนผสมทั้งหมดหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านค้า ที่จำหน่ายวัตถุดิบของเบเกอรี่



 วิธีทำเค้กมะพร้าวอ่อน

เริ่มด้วย ร่อนแป้งเค้ก,ผงฟู,วานิลลา พร้อมกันและ นำน้ำตาลมาผสมลงในแป้ง จากนั้นใส่ไข่ไก่และนำเข้าเครื่องตีแป้งโดยการตีแป้งนั้นคุณนี๋บอกว่าให้ เริ่มจากความเร็วต่ำจนส่วนผสมเข้ากันจากนั้นปรับเป็นความเร็วสูง จนส่วนผสม เริ่มขึ้นฟูและหนืดข้นจากนั้นให้ใส่น้ำและตีต่อด้วยความเร็วเดิมจนส่วนผสมเข้ากันดีจนเนื้อเนียนแววปรับความเร็วลงต่ำตีจนเข้ากัน ตามด้วยใส่เนยที่ละลาย,น้ำมันพืชตามลงไปตีจนส่วนผสมเข้ากันดีเสร็จแล้วปิดเครื่อง จากนั้นตักแป้งใส่พิมพ์ขนาด 2 ปอนด์ จำนวน 1 พิมพ์ นำเข้าอบที่ความร้อน 170 องศาเป็นเวลา นาน 25 นาทีหรือจนกระทั่งขนมสุก
ส่วนผสมไส้มะพร้าวมีเนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ลูก,น้ำเชื่อม 1 ถ้วยและแป้งข้าวโพด ละลายน้ำ 1 ถ้วย

วิธีทำไส้มะพร้าว

คือนำส่วนผสมทั้งหมดต้มด้วยกัน(ยกเว้นแป้งข้าวโพด)จน กระทั่งเดือดจากนั้นใส่แป้งข้าวโพดผสมจนข้นปิดไฟและพักไว้จนเย็นส่วนผสมครีม สดมีครีมสด1กล่องวิธีทำคือตีครีมสดด้วยเครื่องตีแป้งจนขึ้นฟูปิดเครื่องและ พักไว้ในตู้เย็น
วิธีการประกอบและขึ้นรูปเค้กมะพร้าวอ่อนให้นำเค้กมาแบ่งครึ่งเป็น 2 ส่วนตามแนวนอน นำครีมสดและไส้มะพร้าวมาผสมกันและใส่ลงบนเนื้อแป้งด้านล่าง จากนั้นนำเค้กอีกส่วนซึ่งเป็นแป้งเค้กด้านบนมาประกบปิดทับไว้นำครีมสดมาปาดทับทั่ว ทั้งก้อนเค้กและโรยทับด้วยเนื้อมะพร้าวซึ่งการปาดครีมสดนี้เป็นทักษะอย่างหนึ่งต้องทำด้วยความระมัดระวังเพื่อให้เค้กมีความสวยงามและสมส่วน
ต้นทุนต่อเค้กมะพร้าวขนาด 2 ปอนด์ คือ 450 บาท(ไม่รวมค่าแรงค่าไฟและค่าบรรจุ ภัณฑ์)ซึ่งเค้ก 1 ชุดสามารถตัดแบ่งได้ 10 ชิ้นขายในราคาชิ้นละ 60-70 บาท
ต่อด้วยเค้กช็อกโกแลต ช็อกโกแลตฟองดองส์



วิธีทำเค้กช็อกโกแลต

เริ่มที่ฟองดองส์เซทซึ่งมี ส่วนผสมของเนย 240 กรัม,ช็อกโกแลตเข้มข้น 320 กรัม,น้ำตาลทราย 180 กรัม,ไข่ ไก่ 320 กรัม,ไข่แดง 125 กรัมและแป้งเค้ก 50 กรัม

วิธีทำละลายเนื้อช็อกโกแลตกับเนยคนผสมให้เข้ากัน พักไว้ตีไข่ไข่แดงและน้ำตาลจนละลายพักไว้ จากนั้นนำส่วนผสมช็อกโกแลตละลายเทลงผสมกับส่วนผสมของไข่ คนให้เข้ากันพักทิ้งไว้จากนั้นร่อนแป้งใส่ภาชนะอีกใบแล้วนำส่วนผสมช็อกโกแลตกับไข่เทลงส่วนผสมของแป้งคนให้เข้ากันดี นำพักเก็บในตู้เย็นประมาณ 3 ชั่วโมง เตรียมพิมพ์ขนมทาเนยเคาะแป้งนำแป้งขนมใส่พิมพ์ซึ่งเป็นทรงถ้วยขนาดประมาณ เส้นผ่าศูนย์กลาง 5 ซม.และสูง 4 ซม.อบไฟ 170 องศาประมาณ 10 นาที

ส่วนผสมวานิลลาซอสมีนมสด 200 มิลลิกรัม,ครีม 250 มิลลิกรัม,น้ำตาล 150 กรัม, ไข่ 100 กรัมและฝักวานิลลา 1 ฝัก วิธีทำคือ ต้มนมครีมน้ำตาลและวานิลลาด้วยกันจน เดือดเทนมร้อนลงในไข่จากนั้นนำไปต้มจนข้นปิดไฟยกลง

ส่วนสตรอเบอรี่ซอสมีส่วนผสมของสตรอเบอรี่สด 500 กรัมน้ำตาลทราย 80 กรัมและแป้ง ข้าวโพดผสมน้ำพอประมาณวิธีทำนำสตรอเบอรี่สดไปปั่นน้ำจากนั้นนำไปต้มตามด้วยน้ำตาลทราย จนเดือดใส่แป้งข้าวโพดคนให้พอข้นและยกลง

การขึ้นรูปขนมให้นำขนมฟองดองท์ใส่จานตกแต่งด้วยผลไม้สดตามต้องการ อาทิ สตรอเบอรี่กีวีองุ่นแอปเปิ้ลเขียวตามด้วยตักวานิลลาซอสและสตรอเบอรี่ซอสใส่ตาม ต้องการแต่งด้วยซอสช็อกโกแลตตามใจชอบราคาต้นทุนต่อชุด 120 บาท(ยังไม่หักค่า ใช้จ่าย)

ร้านสคอมาส์เบเกอรี่ฯของคุณนี๋-ศันสนีย์อยู่ที่ชั้น 2 อาคาร B เควิลเลจล็อกที่ บี 204-205 ถนนสุขุมวิท 26 (ใกล้ฝั่งถนนพระราม4) เปิดทุกวันเวลา 11.00-22.00 น.หมายเลขโทรศัพท์ 0-2675-6686,08-3333-9889 ขายทั้งเบเกอรี่ต่างๆและอาหารอิ ตาเลี่ยนหลากหลายซึ่งนี่ก็เป็นอีกรูปแบบ ช่องทางทำกิน ที่นำมาเล่าสู่ให้ลอง พิจารณากัน
ที่มา : เดลินิวส์

Read More...


เสื้อยืดวินเทจ เสื้อวง เสื้อแนวสตรีท

09nine.shop
กระเป๋าสาน หมวกสาน 👒👜
🌼กระเป๋าสาน หมวกสาน เสื้อยืด
📩ลทบ30 ems50 ตัดรอบ8โมง📍
📦ส่งของ(จัน-ส)❌พร้อมโอนค่อยสั่งค่า❌
📱สั่งซื้อ ID📲: katai_non หรือกดตรงนี้เลย ⬇️
bit.ly/2OcmCdz
// PRODUCT LINK UPDATE : https://www.instagram.com/09nine.shop/





Read More...


กระเพาะปลาน้ำแดง



กระเพาะปลาน้ำแดง

# เชฟกะทะหลุด #
ส่วนผสมและวิธีทำ
1.กระเพาะปลาแห้ง 200 กรัม
2.เนื้ออกไก่ต้ม ฉีกเป็นเส้น
3.ปีกบนไก่ 6 ชิ้น
4.ตีนไก่ 6 ชิ้น (ใช้ต้มน้ำซุป)
5.เห็ดหอมแห้ง 6 ดอก
6.โครงไก่ 1 ชิ้น กระดูกหมูเอี่ยวเล้ง3 ขีด
7.ขิงแก่
8.รากผักชี 5 ราก
9.กระเทียมกลีบใหญ่ 8 กลีบ
10.พริกไทยเม็ด 2 ช้อนชา
11.ซอสหอยนางรม 4 ช้อนโต๊ะ
12.ซอสเห็ดหอม 3 ช้อนโต๊ะ
13.ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
14.ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
15.น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
16.ซีอิ้วดำ (หวาน) 2 ช้อนโต๊ะ
17.เกลือ 1 ช้อนชา
18.เนื้อปูนึงสุก 1 ขีด(ไม่ใส่ก็ได้)
19.ไข่นกกะทาต้ม 6 ฟอง ถ้าไม่มีใช้ไข่ไก่ต้มก็ได้ หรือไม่ใส่ก็ได้
20.แป้งมันฮ่องกงละลายน้ำ 1/2ถ้วย
ถ้าไม่มีใช้แป้งมันก็ได้
21.เครื่องยาจีน (ปักคี่ 2 ชิ้น ฮ่วยซัว 5 ชิ้น เก๋ากี้ 2 ช้อนชา เง็กเต็ก 8 ชิ้น ตังเซียม 1 ชิ้น) ถ้าไม่มีก็ใช้ใช้เครื่องตุ๋นไก่แทน ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่ก็ได้
22.หน่อไม้เส้น หรือว่าหน่อไม้สดหั่นเส้นก็ได้ หรือจะไม่ใส่ก็ได้แล้วแต่ชอบ
23.เหล้าจีน 1 ฝา

วิธีทำ
1.ต้มน้ำซุปโดยใช้น้ำ12ถ้วยตวงใส่กระดูกหมู+ซี่โครงไก่+ ตีนไก่+เครื่องยาจีน+รากผักชี+กระเทียม+พริกไทยเม็ดทุบบุบ+เกลือ ลงไปต้มนานอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
เอาปีกไก่บน+อกไก่ลงไปต้มต่อ นาน 45 นาที แล้วตักตีนไก่+ปีกไก่+อกไก่ขึ้นแล้วตุ๋นต่ออีก 1 ชม.พักไว้ให้เย็นแล้วกรองเอาแต่น้ำซุป

2.แช่เห็ดหอมในน้ำเปล่าพอนิ่มเอามาหั่นเป็นเส้นหรือว่าจะใช้ทั้งดอกเลยก็ได้

3.แช่กระเพาะปลาในน้ำผสมน้ำส้ม3 ช้อนโต๊ะ นาน1/2 ชม.แล้วบีบน้ำออกแล้วล้างน้ำเปล่า 2 ครั้ง ต้มน้ำร้อนพอเดือดใส่ขิงหั่นแว่นทุบบุบๆลงไป และใส่น้ำส้มสายชู 2ช้อนโต๊ะ ใส่กระเพาะปลาลงไปต้มนาน 10 นาที ตักกระเพาะปลาขึ้นใส่น้ำเปล่าแล้วบีบน้ำออก ต้มน้ำอีกครั้งใส่ขิง+น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะพอเดือดใส่กระเพาะปลาลงไป ต้มนาน 5 นาที แล้วตักกระเพาะปลาขึ้นใส่น้ำเปล่าแล้วค่อยๆบีบน้ำออกอย่าแรงเดี๋ยวกระเพาะปลาจะเละ ล้างน้ำเปล่าอีกครั้งบีบน้ำออกให้แห้งพักไว้(ทำแบบนี้เพื่อล้างน้ำมันและล้างความคาวของกระเพาะปลา) แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้น

4.ตำกระเทียม+พริกไทยเม็ด+รากผักชีให้ละเอียด แล้วตั้งกะทะใส่น้ำมันพืชลงไป เอาเครื่องที่ตำไว้ลงไปผัดพอหอมใส่กระเพาปลา+เห็ดหอมลงไปผัดพอหอมแล้วปิดแก๊สพักไว้

5.ต้มน้ำซุปที่กรองแล้ว พอเดือดใส่กระเพาะปลากับเห็ดหอมที่ผัดแล้วลงไป พอเดือดแล้วใส่เครื่องปรุงรสทั้งหมด(ยกเว้นเหล้าจีน) ชิมรสปรับแต่งตามใจชอบนะครับ พอชิมรสได้ที่แล้ว ตุ๋นต่อไปจนกระเพาะปลาสุก(เนื่อจะใส) ใส่ไข่นกกะทา+เนื้อไก่ฉีก+ปีกไก่ พอเดือด ใส่แป้งมันฮ่องกงละลายน้ำลงไป พอเหนียวได้ที่ใส่เหล้าจีนลงไปคนๆแล้วปิดไฟ ตักใส่ชามโรยหน้าด้วยเนื้อปู ผักชี พริกไทยป่น ทานคุ่กับจิ๊กโฉ่ว น้ำส้มดอง แค่นี้ก็อร่อยแล้วครับ

ขอบคุณภาพและสูตร โดย Prasert Somta‎

#clubคนรักสุขภาพ💞
-----------------------------------------------------------
ร่วมมีสุขภาพที่ดีกับ 💞healthyclub ได้ที่ลิ้งด้านล่างนะจ๊ะ😁😁😁
จิ้มเบาๆนะจ๊ะ >>👉👉👉 http://line.me/ti/p/%40healthyclub

Read More...


ราดหน้าเส้นใหญ่



ราดหน้าเส้นใหญ่

ส่วนผสม
*******
1.เส้นก๋วยเตี๋ยว
2.กุ้ง/ลูกชิ้นปลา
3.คะน้าหั่นท่อน/กระเทียมสับ
4.เห็ดหอมหั่นเป็นชิ้น
5.เต้าเจี้ยว/ซีอิ๊วดำ/แป้งมันหรือแป้งข้าวโพดผสมกับน้ำให้เข้ากัน
6.ซีอิ๊วขาว/น้ำปลา/น้ำตาล
7.น้ำมัน/ น้ำซุปหรือน้ำเปล่า

วิธีทำ
****
1.ตั้งกระทะใส่น้ำมัน เริ่มร้อนใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวลงไปผัด เหยาะซีอิ๊วดำลงไปผัดให้เข้ากันจนหอมพักไว้
2.เจียวกระเทียมให้หอมใส่เห็ดหอมและเต้าเจี้ยวลงไปผัดให้หอมเติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่าลงไปปรุงรสตามชอบ
3.เมื่อน้ำเดือดใส่ลูกชิ้นปลาลงไปทิ้งไว้ประมาณ2นาที ใส่ผักคะน้าและกุ้งลงไป
4.เมื่อเดือดอีกครั้งใส่แป้งมันลงไปคนจนน้ำข้น
5.ตักราดลงบนก๋วยเตี๋ยว เหยาะพริกไทย พริกน้ำส้ม อร่อยเลยจ้าาาา

ขอบคุณภาพและสูตร โดย Kwansri Rattanaphithan‎‎

#clubคนรักสุขภาพ💞
-----------------------------------------------------------
ร่วมมีสุขภาพที่ดีกับ 💞healthyclub ได้ที่ลิ้งด้านล่างนะจ๊ะ😁😁😁
จิ้มเบาๆนะจ๊ะ >>👉👉👉 http://line.me/ti/p/%40healthyclub

Read More...


เตี๋ยวต้มยำโบราณ



#ส่วนผสมและวิธีทำ
น้ำซุปประกอบด้วย
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลกรวด 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยขาวเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมดอง 3 หัว + น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมกลีบใหญ่ทุบบุบ 10 กลีบ
รากผักชีทุบบุบ 5-8 ราก
หอมใหญ่ 1 หัว (ไม่ต้องหั่น)
กระดูกหมู (เอี่ยวเล้ง) หรือคาตั้ง 1กก.
โครงไก่ 1 ตัว
หัวไชเท้า 1 หัว
เครื่องยาจีน(เก๋ากี้ ฮ่วยซัว เง็กเต๊ก ปัคคี่ ลูกกระวาน)ถ้าไม่มีให้ใช้เครื่องต้มก๋วยเตี๋ยวน้ำใส 1 ชุด
ใบเตย 3-5 ใบ
ซีอิ้วขาว
ซอสปรุงรส

#วิธีทำ นำส่วนผสมทั้งหมดลงในหม้อแล้วนำไปต้มใช้ไฟอ่อนนานอย่างน้อย 2 ชม.ขึ้นไป(ยิ่งต้มนานยิ่งดี) ค่อยๆช้อนฟองออก สักพักน้ำซุปจะใส พอต้มได้ที่แล้วปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวกับซอสปรุงรส แล้วกรองเอาแต่น้ำ (ส่วนกระดูกหมูก็เอาไว้แทะเองเพราะชอบมากเปื่อยกำลังดี)

ตัวเครื่อง
ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย(ปลาเส้น) หมูสับละเอียด ไส้อ่อน ตับหมูต้ม (แล้วแต่ชอบ)
เครื่องปรุง ประกอบด้วย
ถั่วลิสงคั่วบด(คั่วเองปลอดภัยไร้สารอัลฟ่าท๊อกซิน)
พริกป่น น้ำปลา น้ำตาลทราย พริกไทยป่น น้ำส้มสายชูดองด้วยพริกขี้หนู ตังฉ่าย น้ำมะนาว ต้มหอมผักชีซอย
กระเทียมเจียว(ใช้มันหมูหั่นมาเจียวจะหอมอร่อยมาก)

วิธีปรุงน้ำต้มยำต่อ 1 ชาม (ชอบรสไหนก็เพิ่มเติมตามใจชอบนะครับ)
น้ำตาลทราย 1 ช้อน น้ำปลา 1.5 ช้อน น้ำส้มดอง 1 ช้อน น้ำมะนาว 1/2 ช้อน พริกป่น 1/2 ช้อน ตังฉ่าย 1/4 ช้อน กระเทียมเจียว 1 ช้อน ต้นหอมผักชีหั่น และเครื่องลูกชิ้น เอาใส่ชามไว้ แล้วเอาหมูสับใส่อีกชามตักน้ำซุปที่เดือดใส่คลุกๆหมูกับน้ำเพื่อให้หมูสุก รินน้ำออกใสลงหม้อน้ำซุปแล้วตักน้ำซุปใส่ชามหมูอีก ใช้ทัพพีคนจนหมูสุกแล้วเทใส่ชามที่มีเครื่องปรุง ตักน้ำซุปใส่แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากันแล้วเทใส่ลงในชามเส้นก๋วยเตี๋ยวที่ลวกไว้แล้ว โรยด้วยพริกไทย เป็นอันเสร็จ ชอบรสชาติแบบไหนก็ปรุงเอาตามใจชอบเลยครับ หรือว่าจะใส่พริกต้มยำไปด้วยก็ได้(ถ้าชอบ)

ขอบคุณภาพและสูตร โดย Prasert Somta

#clubคนรักสุขภาพ💞
-----------------------------------------------------------
ร่วมมีสุขภาพที่ดีกับ 💞healthyclub ได้ที่ลิ้งด้านล่างนะจ๊ะ😁😁😁
จิ้มเบาๆนะจ๊ะ >>👉👉👉 http://line.me/ti/p/%40healthyclub

Read More...


หมึกกุ้งผัดผงกะหรี่



#หมึกกุ้งผัดผงกะหรี่

...แกะกุ้ง หั่นหมึก ล้างสะอาด เตรียมกะทะตั้งไฟใส่น้ำมันถั่วเหลืองทุบกระเทียม หั่นหอมใหญ่ใส่ผัดแป๊ป เอาหมึกกุ้งลงผัดแป๊ป ตอกใข่ใส่กี่ใบก็ได้แล้วแต่ชอบ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำตาลทราย ซีอิ้วขาว หรือปรุงยังไงก็ได้ให้อร่อยค่ะ แล้วใส่พริกแดงหั่นเฉียง พร้อมผงกะหรี่ลงไปผัดคลุกๆ พอใกล้จะสุกใส่มะเขือเทศลงไป ผัดอีกแป๊ปใส่ใบคึ่นช่าย ปิดไฟตักใส่จานได้เลยค่ะ ที่ทำนี้คือ #สูตรตามใจฉัน ค่ะ😁

ขอบคุณภาพและสูตร โดย Mo Del‎

#clubคนรักสุขภาพ💞
-----------------------------------------------------------
ร่วมมีสุขภาพที่ดีกับ 💞healthyclub ได้ที่ลิ้งด้านล่างนะจ๊ะ😁😁😁
จิ้มเบาๆนะจ๊ะ >>👉👉👉 http://line.me/ti/p/%40healthyclub

Read More...


ผัดบวบใส่ไข่..กินไม่รู้เบื่อ


ผัดบวบใส่ไข่..กินไม่รู้เบื่อ
ส่วนผสม
********
1.บวบหั่นเป็นชิ้น
2.ไข่
3.กระเทียมสับ
4.ซีอิ๊วขาว /น้ำตาล/ น้ำปลา/ น้ำมัน

วิธีทำ
*****
1.ตั้งน้ำมันให้ร้อนใส่กระเทียมลงไปเจียวให้หอมตามด้วยบวบลงไปผัดให้เริ่มนุ่ม
2. เกลี่ยบวบไว้ข้างๆกระทะ ใส่ไข่ลงไป เบาไฟลง ตักบวบกลบลงไป ปรุงรสตามชอบ ผัดให้เข้ากันจนไข่สุก กินกับแกง ส้มหรือน้ำพริกกะปิก็อร่อย

ขอบคุณภาพและสูตร โดย Kwansri Rattanaphithan

#clubคนรักสุขภาพ💞
-----------------------------------------------------------
ร่วมมีสุขภาพที่ดีกับ 💞healthyclub ได้ที่ลิ้งด้านล่างนะจ๊ะ😁😁😁
จิ้มเบาๆนะจ๊ะ >>👉👉👉 http://line.me/ti/p/%40healthyclub

Read More...


ยำผักกูด..จะยำออกแนวของชาวมุสลิมชายแดนใต้ หรือที่เรียกว่า "การ์บู"


ส่วนผสม
********
1.ผักกูด
2.ปลาทู
3. มะพร้าวคั่ว
4.หัวกะทิ
5.หอมแดงซอย/พริกซอย/มะนาว
6.กะปิ/น้ำตาลปี๊บ/เกลือ

วิธีทำ
*****
1.ลวกผักกูดในน้ำเดือด แช่ในน้ำเย็นจัด พักให้สะเด็ดน้ำ หั่นเป็นท่อนพอคำ
2.ปลาทูนำมาย่างแล้วแกะเป็นชิ้นๆ
3.นำหัวกะทิ กะปิ มาต้มให้พอเดือดยกลง ปรุงรสด้วย น้ำมะนาว น้ำตาล น้ำปลาตามชอบ
4.ใส่ปลาย่าง ผักกูด มะพร้าวคั่ว หอมแดง พริก ลงไปในชาม เทน้ำกะทิที่ปรุงรสแล้วลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรสอีกครั้ง
5.ตักใส่จานกินแกล้มกับไข่ต้มก็ได้..แค่นี้ก็อร่อยเพลินแล้วจ้าาา

ขอบคุณภาพและสูตร โดย Kwansri rattanaphithan

#clubคนรักสุขภาพ💞
-----------------------------------------------------------
ร่วมมีสุขภาพที่ดีกับ 💞healthyclub ได้ที่ลิ้งด้านล่างนะจ๊ะ😁😁😁
จิ้มเบาๆนะจ๊ะ >>👉👉👉 http://line.me/ti/p/%40healthyclub


Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.