สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ร้านเลมอนเฮาส์ lamon house chainat

ร้านเลมอนเฮาส์ lamon house
358 หมู่ 5 ถนนหมายเลข 340 ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.ชัยนาท 17000
โทรศัพท์ 081-2584082 ขายอาหารตามสั่งและอาหารฝรั่ง เวลาเปิด 10.00 - 21.00 น.

ร้านอยู่ตรงข้ามโลตัสชัยนาท เปิด 10 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม (ครัวปิด2ทุ่มครึ่ง) ถ้าไปไม่ถูกก็เบอร์นี้เลย 081-2584082
 

จัดร้านได้อบอุ่นดี มีที่นั่งฟังเพลงสบายๆ อาหารมีหลากหลายอยุ่ รสชาติดี จัดอาหารได้สวยงามมาก  ร้านอยู่ติดถนน มีป้ายสังเกตได้ชัดเจน อยู่ในบริเวณบริษัท อีซูซุชัยนาท ป้ายใหญ่เห็นชัด ไม่ต้องกลัวหาไม่เจอ ในร้านกว้างขวาง ตกแต่งสวยงาม ดูค่อนข้างมีระดับ อาหารหลากหลายเมนู ร้านบรรยากาศธรรมดาๆเหมือนบ้าน เปิดเพลงเก่าๆ hot pepper สุนทราภรณ์ จึงเหมาะกับคนวัยทำงาน หรืองานเลี้ยงฉลอง

 






































































Read More...


‘วุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี’ สูตรโดดเด่นด้วยรูปแบบ

หนึ่งในเมนูขนมไทยที่หารับประทานง่าย รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง และเป็นที่ชื่นชอบของเด็กและผู้ใหญ่ นั่นคือ “วุ้น” ขนมหวานเนื้อนิ่ม ด้วยวิธีทำที่ไม่ยุ่งยาก และใช้เงินลงทุนไม่สูงจนเกินไป ทำให้หลายคนสนใจ และมีการกระตุ้นยอดขายด้วยการดัดแปลง และเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ให้มีรูปลักษณ์มีความโดดเด่น มีความแปลกตา สีสันสวยงามน่ารับประทาน อย่าง “วุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี” สามารถทำเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริมได้สบาย ๆ ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” จึงนำข้อมูลมานำเสนอในวันนี้....“


ผู้ที่จะมาให้ข้อมูลในเรื่องนี้ คือ หนิง-ผกาวดี วงค์เรือง อายุ 38 ปี เจ้าของ “วุ้นกุหลาบแก้ว dy หนิง ผกาวดี” โดยเล่าให้ฟังว่า เธอมีอาชีพรับราชการ วันหยุดยามว่างก็ชอบทำอาหารและขนมทานเล่นแบบง่าย ๆ ให้ลูกและคนในครอบครัวกินกัน อย่างวุ้น ทำแบบไม่มีสูตร ทำหลายต่อหลายครั้งก็ไม่สำเร็จสักที ตัววุ้นที่ได้หากไม่เละก็แข็งเกินไป รสชาติก็ไม่อร่อย พอดีไปเจอรูปวุ้นเย็นในเฟซบุ๊กหน้าตาสวยงามน่ารับประทานมาก จึงเรียนรู้จากสูตรในกลุ่มเพื่อนที่สนใจทำขนม แล้วมาลองฝึกทำจนสำเร็จ“

“แล้วเกิดแรงบันดาลใจ อยากจะทำวุ้นในรูปแบบที่ฉีกและแตกต่างออกไป จังหวะพอดีกับที่มีพิมพ์ซิลิโคนออกมาใหม่ มีหลากหลายแบบ จึงลองทำแล้วพัฒนาสูตรไปในตัว เวลาทำวุ้นเย็นจะใส่ลูกเล่นและใช้จินตนาการไปด้วยว่า ต้องผสมสีอะไร รูปแบบต้องปรับยังไงถึงจะออกมาสวยงาม เห็นเตะตาสนใจ ฯลฯ ฝึกทำมาเรื่อย ๆ จนมือนิ่ง และมั่นใจว่าสูตรที่เราทำมันโอเคแล้ว จึงลงรูปและแชร์ความรู้ที่มีให้กับคนอื่นในเฟซบุ๊กอย่างไม่หวง เสียงตอบรับเข้ามามากมาย แถมมีการสั่งซื้อเข้ามามาก ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้มีรายได้เสริมมาช่วยครอบครัวอีกทาง”“

หนิงบอกว่าแม้จะไม่มีหน้าร้าน แต่อาศัยทำตลาดโดยเริ่มจากการทำแจกให้เพื่อนฝูงคนรู้จักทดลองชิม นอกจากนี้ยังเปิดช่องทางนำเสนอสินค้าผ่านเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อว่า www.facebook.com/หนิง ผกาวดี ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้จัก ซึ่งรูปแบบของวุ้นนั้น เธอบอกว่า แบ่งออกเป็น วุ้นดอกกุหลาบแฟนซี, วุ้นคิตตี้, วุ้นดอกลีลาวดี, วุ้นถ้วย, วุ้นเค้ก, วุ้นดอกกล้วยไม้ และวุ้นกระปุก และผลไม้ ฯลฯ ที่ขายดีมากคือวุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี ลูกค้ามักสั่งเป็นเซต 4 ดอก ทั้งสั่งไปจำหน่ายและสั่งใช้ในงานต่าง ๆ“

วุ้นเย็นทำขายได้ทั้งปี และจะดีในช่วงใกล้เทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ วาเลนไทน์ นอกจากนี้ ตามงานเลี้ยงหรืองานทำบุญ เลี้ยงพระ และงานสัมมนาต่าง ๆ ก็นิยมหันมาใช้วุ้นแฟนซีแทนขนมอื่น ๆ กันมากขึ้น“

ทั้งนี้หากใครอยากทำวุ้นเย็นสวย ๆ ต้องการสั่งซื้อเซตทำวุ้นเย็นไปฝึกทำ พร้อมสูตรและวิธีทำ สั่งซื้อได้ในราคา 390 บาท จะมีผงวุ้น, สีผสมอาหารแบบน้ำ 4 สี, พิมพ์ซิลิโคน ขนาด 3 ซม.และ 5 ซม.“

อุปกรณ์ หลัก ๆ ประกอบด้วย เตาแก๊ส, หม้อสเตนเลส (สำหรับต้มส่วนผสม), แม่พิมพ์วุ้นซิลิโคน ขนาด 3 ซม.และ 5 ซม, ทัพพี, ถ้วยตวง, ไม้พาย, บรรจุภัณฑ์, ถาด และกล่องพลาสติก หรือกล่องโฟม สำหรับบรรจุวุ้นเพื่อส่งให้ลูกค้า“

ส่วนผสม “วุ้นกะทิ” มี น้ำกะทิ 440 กรัม, น้ำสะอาด 440 กรัม, ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 90 กรัม และเกลือป่น 1 ช้อนชา, สีผสมอาหาร (ตามที่ต้องการ)“

ส่วนผสม “วุ้นใส” ประกอบด้วย ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทรายขาว 180 กรัม, น้ำสะอาด 880 กรัม“

ขั้นตอนการทำ “วุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี” มี 2 ขั้นตอน คือ..การทำวุ้นกะทิด้านใน และ การทำวุ้นใสด้านนอก“

อันดับแรกจะต้องทำวุ้นกะทิด้านในก่อน เริ่มนำพิมพ์ดอกกุหลาบขนาด 3 ซม. มาวางเรียงใส่ถาดเตรียมไว้ให้พร้อม จากนั้นเอาน้ำกะทิคั้น และน้ำสะอาดมาเทรวมกันใส่ลงในหม้อสเตนเลส ใส่ผงวุ้นลงไปแช่นานประมาณ 15 นาที เสร็จแล้วยกขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาล และเกลือป่น ใช้ทัพพีคนให้ส่วนผสมไปในทิศทางเดียวกัน พอส่วนผสมวุ้นเดือด ให้รีบยกลง นำส่วนผสมวุ้นที่ได้มาแยกผสมสีตามที่ต้องการ แล้วตักหยอดใส่พิมพ์ดอกกุหลาบ เสร็จแล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้สักพัก ระหว่างที่รอวุ้นเซตตัว ก็หันมาเตรียมส่วนผสมของวุ้นใสด้านนอก ใส่ผงวุ้นลงแช่น้ำสะอาดในหม้อสเตนเลส แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เมื่อถึงเวลาใส่น้ำตาลตามลงไป ยกขึ้นตั้งไฟ ใช้ทัพพีคนไปในทิศทางเดียวกัน จนน้ำเดือด ยกลงพักไว้“

นำวุ้นกะทิออกจากตู้เย็น มาแกะออกจากพิมพ์ แล้ววางไว้ในพิมพ์ดอกกุหลาบขนาด 5 ซม. (ก่อนวางวุ้นกะทิให้หยอดวุ้นใสลงไปในพิมพ์สักเล็กน้อย) เมื่อวางวุ้นกะทิแล้ว ให้ตักวุ้นใสหยอดลงไปให้เต็มพิมพ์ ตั้งทิ้งไว้สักครู่รอให้วุ้นแข็งตัว แล้วจึงแกะออกจากพิมพ์ เท่านี้ก็จะได้วุ้นเย็นแสนอร่อยไว้ทานเล่นหรือเป็นของฝากได้“

สำหรับสูตรที่ให้มานั้น สามารถทำวุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี ได้ 24-25 ตัว“

ราคาขาย วุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี มีตั้งแต่ชิ้นละ 1.50 บาท จนถึง 5 บาท ส่วนวุ้นเค้ก มีตั้งแต่ 150-300 บาท ขึ้นกับขนาดและชนิดของวุ้นเย็นที่ทำ“

ใครสนใจ “วุ้นกุลาบแก้ว dy หนิง ผกาวดี” อยากจะซื้อหาไปรับประทาน หรือสั่งไปจำหน่ายหน้าร้าน ติดต่อเจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ ได้ที่ โทร. 08-3573-3456และหากใครสนใจอยากจะหัดทำเป็นเรื่องเป็นราวก็สามารถสอบถามข้อมูลแบบเจาะลึกได้โดยตรงที่เจ้าตัวเลย“

คู่มือลงทุน...วุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี ทุนเบื้องต้น 3,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 50% ของราคา
รายได้ มีตั้งแต่ 1.50-300 บาท
แรงงาน 1-2 คน ตลาด
ร้านกาแฟ, เบเกอรี่, ตลาดนัด จุดน่าสนใจ
ลงทุนน้อย ขายกำไรเท่าตัว“

นี่ก็เป็นอีก “ช่องทางทำกิน” จาก “วุ้น” ที่พลิกแพลง “ใส่ลูกเล่น” ได้อย่างน่าสนใจ.

เชาวลี ชุมขำ :เรื่อง“

credit by : http://www.dailynews.co.th/article/329512

Read More...


‘หอยทอดกระทะร้อน’ อุปกรณ์ขาย..ดึงลูกค้า


เมนูอาหารจานเดียวที่ขายทั่วไปมีหลากหลายมากมาย และมีเจ้าของร้านจำนวนไม่น้อยที่มุ่งขายอาหารจานเดียวแบบประเภทเดียวจนกลาย เป็นร้านดัง และเป็นร้านประจำของลูกค้าหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเป็นราดหน้า-ผัดซีอิ๊ว, ข้าวหมูแดง, ข้าวผัดปู-กระเพาะปลา, ข้าวมันไก่, ก๋วยเตี๋ยว รวมไปถึง “หอยทอดกระทะร้อน” เมนูยอดฮิตอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้...“

 
„ปิยมาศ นิรัติศัยสกุล หรือแหม่ม เจ้าของร้าน “แม่อ้วน-หอยทอดกระทะร้อนย่านตลาดวังหลัง ท่าน้ำศิริราช เล่าว่า หอยทอดกระทะร้อนของ แม่อ้วน-วันดี เสนสกุล นี้ขายมาเกือบ 20 ปี โดยมีจุดเด่น คือจะทอดขายบนกระทะเหล็กแบนแบบกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9 นิ้ว เมื่อทอดเสร็จแล้วจะเสิร์ฟบนกระทะเหล็กที่ทอดเลยซึ่งจะทำให้หอยทอดร้อนตลอด เวลาที่ทาน ซึ่งการขายหอยทอดกระทะร้อนลักษณะนี้เป็นร้านแรก ๆ ในย่านนี้เมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว
แต่เดิมจะขายเฉพาะหอยทอดหอยแมลงภู่เพียงอย่างเดียว ปัจจุบันเพิ่มเมนูขึ้นมาอีกหลายอย่าง อาทิ หอยทอดทะเล, หอยทอดหอยเชลล์, หอยทอดหอยนางรม, ออส่วนหอยนางรม, ผัดไทยกุ้งสด และผัดไทยทะเล ซึ่งได้รับความนิยมทุกเมนูปิยมาศ กล่าว
อุปกรณ์ที่ใช้ทำ “หอยทอดกระทะร้อนหลัก ๆ ก็มี เตาแก๊สแบบกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 8.5 นิ้ว, กระทะเหล็กแบนแบบกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 9 นิ้ว, มีด-เขียง, ถาดอะลูมิเนียม และอุปกรณ์เครื่องครัวเบ็ดเตล็ดทั่วไป
สำหรับส่วนประกอบในการทำ “หอยทอดกระทะร้อนหลัก ๆ มี หอยแมลงภู่, หอยนางรม, หอยเชลล์, ปลาหมึก, ปูอัด, กุ้งสด, แป้งหอยทอด, กระเทียมเจียว, ถั่วงอกดิบ, ต้นหอม-ผักชี ฯลฯ
หัวใจหลักของการทำหอยทอดให้อร่อย คือ น้ำซุปปรุงหอยทอด ที่จะปรุงขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งน้ำซุปปรุงหอยทอดนี้มีส่วนประกอบของน้ำเปล่า, แป้งมัน, ซีอิ๊วขาว, น้ำตาลทราย และพริกไทย
วิธีทำ น้ำซุปปรุงหอยทอด ตั้งหม้อสเตนเลส ใช้ไฟร้อนปานกลาง เคี่ยวแป้งมันกับน้ำสะอาดให้เข้ากัน ในสัดส่วนแป้งมัน 3 ส่วน, น้ำเปล่า 1 ส่วน (โดยประมาณ) ระหว่างที่แป้งมันกับน้ำสะอาดกำลังจะเข้ากันให้ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว, พริกไทย และน้ำตาลทรายลงไปกวนผสม ชิมรสให้อร่อยกลมกล่อม โดยจะเน้นให้มีรสเค็มนำ ในขณะที่ส่วนผสมของ แป้งหอยทอด จะใช้แป้งหอยทอดสำเร็จรูปผสมกับน้ำเปล่า ในสัดส่วน 50 : 50 แล้วค่อย ๆ กวนให้แป้งกับน้ำเปล่าเข้ากัน (โดยไม่ต้องนำขึ้นตั้งไฟ)
วิธีทำ หอยทอดหอยแมลงภู่ ตั้งกระทะหอยทอด รอให้กระทะร้อน เสร็จแล้วใส่น้ำมันพืชลงไปพอประมาณ ละเลงน้ำมันให้ทั่วกระทะ ในขณะเดียวกัน ให้ตักหอยแมลงภู่ที่ต้มสุก 10-12 ตัว ใส่ลงถ้วยพลาสติกขนาดเล็ก (เหตุที่ใช้หอยแมลงภู่ที่ต้มสุก เพราะเหตุผลในเรื่องความสะอาด, ถูกสุขลักษณะ และปลอดภัยต่อผู้บริโภค แม้ว่าหอยแมลงภู่ที่ต้มสุกจะยุบลงไปหลังจากต้มแต่เมื่อปล่อยไปสักพักหอยแมลง ภู่จะคืนตัวเหมือนเดิม) ตามด้วยน้ำซุปปรุงหอยทอดลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ, แป้งหอยทอด4 ช้อนโต๊ะ และไข่ไก่อีก 1 ฟอง ใช้ส้อมตีให้ส่วนผสมเข้ากัน
เมื่อกระทะ และน้ำมันร้อนแล้ว เทส่วนผสมทั้งหมดลงไป ใช้ตะหลิวค่อย ๆ เกลี่ยให้ส่วนผสมแผ่ทั่วกระทะ เมื่อทอดหอยด้านล่างสุกแล้ว กลับหอยอีกด้านลงไปทอดให้สุกเช่นกัน ระหว่างที่ทอด ใช้ไฟร้อนพอดี ๆ อย่าให้ร้อนมากเกินไป เพราะหอยทอดจะไหม้ ไม่น่าทาน
เมื่อทอดหอยสุกทั้งสองด้านแล้ว พักกระทะให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วโรยหน้าหอยทอดด้วยถั่วงอกดิบ, กระเทียมเจียว, ต้นหอม-ผักชีซอย และพริกป่น เสร็จแล้วยกไปวางบนแผ่นไม้รองกระทะ เสิร์ฟพร้อมซอสพริก ขายในราคาถาดละ 40 บาท ส่วน ออส่วนหอยนางรม ที่เป็นอีกเมนูเด็ดของร้านที่ทำเงินดี
วิธีทำ คือ ตั้งกระทะหอยทอด รอให้กระทะร้อน เสร็จ แล้วใส่น้ำมันพืชลงไปพอประมาณ ละเลงน้ำมันให้ทั่วกระทะ ในขณะเดียวกัน ให้ตักหอยนางรมประมาณ 8-10 ตัว ใส่ลงถ้วยพลาสติกขนาดเล็ก ใส่น้ำซุปปรุงหอยทอดลงไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ และแป้งหอยทอด 4 ช้อนโต๊ะ แล้วใช้ส้อมตีให้ส่วนผสมเข้ากัน เมื่อกระทะ และน้ำมันร้อนแล้ว เทส่วนผสมทั้งหมดลงไป ใช้ตะหลิวค่อย ๆ เกลี่ยให้ส่วนผสมแผ่ทั่วกระทะ ใช้ตะหลิวทอด และพลิกให้หอยกับแป้งเข้ากัน
ระหว่างที่แป้งหอยทอดกำลังจะสุก ตีไข่ไก่ลงไป 1 ฟอง แล้วใช้ตะหลิวเกลี่ยให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน แล้วค่อย ๆ ทอดไปจนกระทั่งส่วนผสมทุกอย่างสุกหมด ระหว่างที่ทอด พยายามรักษาไฟให้ร้อนปานกลาง อย่าให้ร้อนมากเกินไป เพราะหอยทอดจะไหม้ ไม่น่าทาน เมื่อทอดหอยสุกแล้ว พักกระทะให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วโรยหน้าหอยทอดด้วยถั่วงอกดิบ, กระเทียมเจียว, ต้นหอม-ผักชีซอย และพริกป่น เสร็จแล้วยกไปวางบนแผ่นไม้รองกระทะ เสิร์ฟพร้อมซอสพริก ขายในราคาถาดละ 50 บาท ใครสนใจ หอยทอดกระทะร้อนต้องการติดต่อ ปิยมาศ เจ้าของกรณีศึกษาช่องทางทำกินรายนี้ 
ติดต่อได้ที่ตลาดวังหลัง (ซอยข้างร้านขายยาเพชรรัตน์) ท่าน้ำศิริราช ทุกวัน เวลา 17.30 น. เป็นต้นไป หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-0202-2303 และ 08-5428-0538 และที่ www.facebook.com/HoiYai สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : รายงาน สุนิสา ธนพันธสกุล : ภาพ


Read More...


ซุนดะ โมจิ กลิ่นหอมหวานจากถั่วแระญี่ปุ่น


„ปกติเรามักกิน “ถั่วแระญี่ปุ่น” โดยนำมานึ่งโรยเกลือน้อย ๆ เป็นอาหารว่างหรือแกล้มกับเครื่องดื่ม มากกว่านำมาเป็นส่วนผสมของขนมหวานทั้งที่จริงเจ้าฝักเขียวเคี้ยวมันนี้ สามารถต่อยอดมาเป็นขนมหวานแสนอร่อยได้ ซึ่งคนที่ให้คำตอบได้เป็นอย่างดี ในวันนี้ก็คือ ผึ้ง-เบญจมาศ ต้องประสิทธิ์ กรรมการ บริษัท ซูรูฮะ (ประเทศไทย) จำกัด

ในวันธรรมดาคุณผึ้งยอมเล่าว่าตารางการทำงานแน่นเอี้ยด ช่วงเช้าเข้าออฟฟิศตกเย็นต้องนัดลูกค้าพบปะสังสรรค์ เพราะตอนนี้กุมบังเหียนงานสองส่วน ทั้งบริหารร้านขายสินค้าและสุขภาพความงาม หรือ “ซุปเปอร์ดักสโตร์” เจ้าแรกในบ้านเราที่มีชื่อว่า “ซูรูฮะ” อีกส่วนเป็นการพัฒนาธุรกิจ ดึงธุรกิจที่น่าสนใจจากญี่ปุ่นมาร่วมทุนกับบริษัท สหพัฒนพิบูลย์ จำกัด (มหาชน) เช่น ร้านลอว์สัน 108 เมื่อมีวันหยุดจริง ๆ มักขลุกตัวอยู่บ้านอ่านหนังสือ ชอปปิง และทำขนม

คุณผึ้งเปิดโลกความหวานส่วนตัว ตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรีด้านวิศวกรรมศาสตร์ที่ประเทศญี่ปุ่น “ตามประสาคนอยู่ต่างประเทศชอบทำอะไรสะเปะสะปะอยู่ตรงนั้น ประกอบกับขนมหลาย ๆ ชนิดที่นั่นอร่อยมาก เค้กก็นุ่มมาก เสน่ห์ของขนมญี่ปุ่นอยู่ที่รายละเอียด นอกจากตัวขนมด้านวัฒนธรรมหรือห่อบรรจุภัณฑ์ยังมีความละเอียดอ่อน เรียกความสนใจและสร้างความประทับใจให้กับใครหลายคน จึงมีคำพูดที่ว่า “กินด้วยสายตา” คือ นอกจากรสชาติแล้วลำพังแค่มองยังน่าอร่อย”

เมนูความหวานที่เลือกมาทำวันนี้ เรียกว่า “ซุนดะ โมจิ” คุณผึ้งเล่าเกร็ดความรู้ว่า “ซุนดะ โมจิ เป็นขนมประจำท้องถิ่นเซนได จังหวัดหนึ่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ชาวบ้านในเมืองนี้ทำการเกษตรเป็นหลัก หนึ่งในนั้นคือ “ถั่วแระ” เมื่อผลผลิตล้นเหลือชาวบ้านจึงนำมาเป็นวัตถุดิบทำขนมหวาน อยากให้ทุกคนลองทำมาก แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าหากนำถั่วแระมาทำขนมแล้ว จะให้กลิ่นหอมหวานได้ขนาดนี้”

คนญี่ปุ่นนิยมกินในพิธีมงคล ตามความเชื่อความเหนียวของแป้งจะนำพาโชคลาภ มีอายุยืน ล้วนเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี ส่วนวิธีการทำมีทั้งแบบย่าง นึ่ง และต้ม เป็นต้น ด้านวัตถุดิบและส่วนผสมยังสามารถหาซื้อได้ง่ายในเมืองไทย และรสชาติยังไม่ผิดเพี้ยนจากสูตรต้นตำรับ ดังนั้นวัตถุดิบที่ต้องเตรียมแบ่งเป็น 2 ส่วนดังนี้ “โมจิ” ประกอบด้วย แป้งข้าวเหนียว 145 กรัม, น้ำเปล่า 145 กรัม ส่วน “ซุนดะ” ใช้ถั่วแระ 100 กรัม, น้ำตาล 45 กรัม และเกลือเล็กน้อย

วิธีทำ นำถั่วแระมาต้มให้สุก แต่ถ้าซื้อแบบแช่แข็งเพียงฉีกถุงแกะเอาเม็ดออกมา จากนั้นปั่นให้ละเอียดเพียงขั้นตอนนี้ถั่วแระเริ่มส่งกลิ่นหอมหวานแล้ว จากนั้นผสมกับน้ำตาลและเกลือจนเข้ากัน นำพลาสติกมาปิดฝาภาชนะแช่ไว้ในตู้เย็น ระหว่างนั้นทำแป้งโมจิ ด้วยการนำแป้งข้าวเหนียวมาผสมกับน้ำ ขั้นตอนนี้ค่อย ๆ เทน้ำพยายามปั้นให้เข้าเนื้อ เมื่อผสมจนสัมผัสเนื้อแป้งได้ว่านุ่มเหมือนติ่งหูแล้วเป็นอันใช้ได้ อย่างไรก็ตามคุณผึ้งไม่แนะนำให้เทน้ำพรวดลงไปทีเดียว เพราะถ้าแป้งเหลวไปจะแก้ไขได้ยาก

จากนั้นนวดแป้งโมจิเรื่อย ๆ จนเป็นก้อนเดียวกัน ค่อยปั้นเป็นก้อนเหมือนทำขนมบัวลอย กะขนาดให้พอดีคำจะอร่อยกว่ากินหลาย ๆ ลูกดีกว่าลูกใหญ่ เสร็จแล้วลงต้มในน้ำเดือด พอลูกโมจิลอยตัวขึ้นมาค่อยช้อนขึ้น จัดเสิร์ฟที่ละ 4 ชิ้น ตักซุนดะราดหน้า เพียงแค่กัดคำแรกได้สัมผัสกลิ่นหอมหวานเตะจมูก ถ้าอยากคล่อง ๆ คอก็ชงชาเขียวร้อน ๆ ไว้จิบสักแก้ว. 'ช้องมาศ'“

credit by :  http://www.dailynews.co.th/article/323043

Read More...


ลาซานญ่าลาบ พื้นบ้านล้านนา ตามประสาอิตาเลียน


„ลุคภายนอกเป็นสาวเปรี้ยว พอเลี้ยวมาคุยเรื่องอาหาร ตู๋-เนาวรัตน์ สิปปภาค ก็มีพรสวรรค์ “เปรี้ยวแซ่บ” ไม่แพ้ใคร เจ้าของร้านอาหารพอท มินิสทรี ชั้น 8 ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ เล่าว่า ไม่เคยเรียนทำอาหารจริงจัง แต่เป็นคนชอบกินบวกกับมีอาจารย์ดีอย่าง เป้า-นุชนันท์ โอสถานนท์ มาเป็นที่ปรึกษา จึงพัฒนาฝีมือมาเรื่อย ๆ นอกจากทำกินในหมู่เพื่อนฝูงแล้ว ยังสนุกที่จะเผื่อแผ่ความอร่อยให้หลาย ๆ คนลิ้มลอง“

„“เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตู๋เรียนต่อด้านบริหารที่ประเทศอังกฤษ ระหว่างนั้นซื้อหาวัตถุดิบมาทำเอง ยิ่งเพื่อนชมว่าอร่อยก็ยิ่งทำ วันหนึ่งมาเจอป้าเป้า เพื่อนของคุณแม่มาช่วยสอน ป้าเป้าชมว่าเป็นคนรสมือดีนะ และยังเป็นคนจุดประกายในการทำอาหารว่ามันง่าย ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น บวกกับเป็นคนชอบไปตลาด ถือเป็น “เจ้าแม่ตลาด” คนหนึ่ง ไม่ว่าอยู่เมืองนอกหรือเมืองไทย ต้องตื่นตี 4 ตี 5 มาเดินตลาด ถ้าอยู่เมืองไทยทุกเช้าเวลาตู๋เดินตลาดจะมีทีมคอยขับรถตู้เย็นตามหลังเป็นประจำ เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าอาหารอร่อย แม่ครัวมีฝีมือดีส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งต้องรู้จักใช้วัตถุดิบที่ดีด้วย” คุณตู๋เล่า“

„จากความสนุกหันมาลุยธุรกิจเต็มตัวนั้น คุณตู๋เผยว่าบังเอิญมาก หลังเพื่อนสนิท อีน-นราวดี บัวเลิศ ดัดแปลงเซลล์ออฟฟิศ บ้านจัดสรร “บ้านยิ่งรวยนิเวศน์” แถวประชาชื่นมาชวนเปิดร้านอาหาร ภายใต้ชื่อ “รักเอย” แม้ตอนแรกไม่คิดจริงจังทำตามด้วยความสนุก ปรากฏว่ารู้ตัวอีกทีก็มีลูกค้าแน่นร้านแล้ว หลังจากนั้นมีโอกาสมาเปิดร้านคาเฟ่ ชิลลี่ ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน และเปิดแบรนด์อื่น ๆ เช่น อีท พอท และล่าเปิดร้านล่าสุดอย่างพอท มินิสทรี ชูโรงด้วยเกาเหลาหม้อไฟสูตรดั้งเดิมที่มีน้ำซุปสี่ภาค สูตรคิดค้นเองเป็นจุดขาย“

„นอกจากนี้ยังมีเมนูที่น่าสนใจอย่าง “ลาซานญ่า 4 ภาค” ที่จับเมนูดังจากอิตาเลียนมาพบกับอาหารเด่นดังประจำแต่ละภาคของไทย ได้แก่ ภาคเหนือเป็นลาซานญ่าน้ำพริกอ่อง, ภาคกลางลาซานญ่าเป็นมัสมั่น, ภาคใต้เป็นลาซานญ่าคั่วกลิ้ง และภาคอีสานเป็นลาซานญ่าลาบ ซึ่งในวันนี้คุณตู๋เลือกเมนูแซ่บลิ้นทำกินเองง่าย ๆ อย่าง “ลาซานญ่าลาบ” มาสอนวิธีการทำแบบหมดเปลือก “ตู๋อยากได้อารมณ์เป็นอาหารฟิวชั่นแต่คงรสชาติความเป็นไทยอยู่ แม้ไม่ได้เผ็ดจัดจ้านแต่ยังได้รสลาบและยังสนุกเวลากิน”“

„วัตถุดิบและส่วนผสม หมูบด (สันคอ 2 กรัม, หอมแดง 20 กรัม, ใบมะกรูด 5 กรัม, ผักชีลาบ 10 กรัม, ต้นหอม 10 กรัม, ใบสะระแหน่ 2-3 ยอด, ใบโหระพา 2-3 ยอด, ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ, พริกป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ, น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ, มะเขือเทศสีดา 3-4 ลูก, ซอสมะเขือเทศหรือน้ำจิ้มแจ่ว 2 ช้อนโต๊ะ, มอสซาเรลล่าชีส 50 กรัม และแผ่นพาสต้า 3 แผ่น“

„วิธีทำ นำเนื้อหมูบดมาผัดเคล้าน้ำมันหมูดำและเนยเพื่อความหอม จากนั้นใส่มะเขือเทศสีดา, หอมแดง และน้ำสต๊อกหมู 2 ทัพพี คลุกเคล้าจนเข้ากันแล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา, มะนาว, พริกป่น และข้าวคั่ว อย่าให้แห้งเกินไปพอให้เหลือน้ำขลุกขลิก เพื่อที่เวลาอบเสร็จเนื้อจะได้ไม่กระด้างเกินไป“

„จากนั้นใส่มะกรูดซอย ผักชีลาบ ต้นหอม และมอสซาเรลล่าชีส ชิมรสชาติจนถูกใจแล้วนำเอาลาบที่ทำเสร็จมาจัดวางลงในภาชนะสลับกับแผ่นพาสต้าให้ได้สามชั้น แล้ววางลาบและใบสะระแหน่ ใบโหระพาสลับกัน โรยหน้ามอสซาเรลล่าชีส, ต้นหอม, มะเขือเทศ และมะกรูดซอย แล้วปิดปากด้วยฟอยด์ นำไปอบจนได้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ในเวลา 20 นาที เสร็จแล้วจัดเสิร์ฟกินตอนร้อนกรุ่นยิ่งอร่อยจัดจ้าน.

‘ช้องมาศ’“

credit by : http://www.dailynews.co.th/article/321453

Read More...


แกงเผ็ดไก่ยอดมะพร้าวอ่อน ชามร้อนของพีอาร์อารมณ์ดี


„“แกงเผ็ดไก่ยอดมะพร้าวอ่อน” เคยทำที่ต่างแดน แน่นอนว่าส่วนผสมและวัตถุดิบแตกต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นแบบกระป๋องและสำเร็จรูปเพราะหาง่ายกว่า แต่เมืองไทยนับว่าอุดมสมบูรณ์ มีวัตถุดิบให้เลือกหลากหลาย“

„อยู่ในสังคมคนติดเพื่อน จิ๊บ-กนกรัตน์ วีรานุวัตติ์ เจ้าของบริษัทพีอาร์ กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด จึงใช้เสน่ห์เย้ายวนของอาหารดึงดูดคนถูกคอมาปาร์ตี้เสมอ นอกจากเสียงหัวเราะก็มีอาหารเป็นตัว “ชูโรง” สร้างความประทับใจให้การพบปะกันทุกครั้งยิ่งน่าจดจำ คุณจิ๊บเล่าว่า จุดเริ่มต้นทำอาหารของเธอแตกต่างจากคนอื่น และชุลมุนวุ่นวายพอสมควร“

„“จำได้ว่าทำอาหารเป็นตอนไปใช้ชีวิตนักศึกษาที่สหรัฐอเมริกา แรกเริ่มทำอาหารไม่เป็นเลย โชคดีช่วงนั้นเครื่องแกงสำเร็จรูปมีวางจำหน่ายบ้างแล้ว เช่น แกงเขียวหวาน แกงแดง ต้มข่าไก่ ต้มยำกุ้ง ก็เหมาซื้อหมดขนจากเมืองไทยแพ็กใส่กระเป๋าตุนไว้เพราะกลัวอด อาศัยเปิดตำราอาหาร อ่านแล้วเราก็ทำตามทุกขั้นตอน ผัดเครื่องแกงกระทะหนึ่ง เคี่ยวน้ำกะทิอีกกระทะหนึ่ง ผัดเนื้อกับไก่กับเครื่องแกงอีกกระทะหนึ่ง ปรากฏกว่าจะเสร็จ หม้อไหกองพะเนิน ซึ่งมื้อแรกยอมรับว่ารสชาติลำบากลิ้นนิดหนึ่ง” สาวอารมณ์ดีกล่าว“

„ถือคติ “กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว” คุณจิ๊บค่อยฝึกปรือฝีมือเรื่อยมา ยิ่งแถวที่พักมีร้านขายของชำ จำพวกข่า ตะไคร้ ไว้รองรับยิ่งสะดวกสบาย “พอเริ่มสนิทกับเพื่อนบ้านชาวฝรั่ง ก็เอ่ยปากชวนเขามากิน ต่างยกนิ้วชมเปาะว่าอร่อยมาก เรารู้สึกสนุกดีเหมือนกัน ดังนั้นพยายามพัฒนาฝีมือขึ้นจากหม้อไหกระทะกองสูงท่วม เราก็ อ๋อ...จริง ๆ แล้วสามารถใช้หม้อใช้กระทะอันเดียวกันได้” คุณจิ๊บเล่าพลางหัวเราะ“


„พอชำนิชำนาญเมนูขึ้นโต๊ะมีทั้งขนมจีนน้ำยา, ขนมจีนน้ำพริก โดยประยุกต์ใช้เส้นของญี่ปุ่นมาจับเป็นก้อน ส่วนน้ำยาทำตามสูตรซึ่งมีคนไทยช่วยสอน ระยะหลังทำข้าวขาหมู ข้าวมันไก่บ้าง แต่ว่าเป็นสูตรของคนต่างแดน อร่อยเท่าที่หาวัตถุดิบได้ พีอาร์สาวเล่าว่า “ที่นี้เราชวนเพื่อนนักเรียนไทยมากินกัน พอคนมาแล้วสนุกยิ่งกินอร่อย บ้านเราจึงกลายเป็นแหล่งชุมนุมนักเรียนไทยไปโดยปริยาย สมัยเด็กคุณพ่อคุณแม่ชอบให้ทำอาหาร คงอยากฝึกให้ลูกมีงานอดิเรก อยากทำอะไรทำไปเลย กินได้บ้างไม่ได้บ้างพ่อแม่ก็ไม่ซีเรียส พอกลับมาทำงานเมืองไทยก็ปล่อยหน้าที่นี้ให้แม่บ้านทำ”“

„สำหรับเมนูวันนี้ “แกงเผ็ดไก่ยอดมะพร้าวอ่อน” เคยทำที่ต่างแดน แน่นอนว่าส่วนผสมและวัตถุดิบแตกต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นแบบกระป๋องและสำเร็จรูปเพราะหาง่ายกว่า แต่เมืองไทยนับว่าอุดมสมบูรณ์ มีวัตถุดิบให้เลือกหลากหลาย คุณจิ๊บคิดว่าอาหารไทยมีความละเมียดละไม ซึ่งสิ่งเหล่านี้บ่งบอกรากเหง้าอันละเอียดอ่อนของวัฒนธรรมการกินของคนไทย“

„ด้านวัตถุดิบและส่วนผสมมีดังนี้ ตะโพกไก่ 1/2 กิโลกรัม, ยอดมะพร้าว 1 กิโลกรัม, น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา, กะปิ 1 ช้อนชา, น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา, น้ำปลา 3 ช้อนชา, พริกแห้งตามชอบ, เครื่องแกงเผ็ด 2 ขีด และกะทิ 1 กิโลกรัม ส่วนผสมเครื่องแกง สำหรับตำเองใช้ ข่า 1/2 แง่ง, ตะไคร้ 2 ต้น, ผิวมะกรูด 1 ลูก, กระเทียม 6 กลีบ, พริกแห้ง 10-15 เม็ด, พริกชี้ฟ้า 2 เม็ด และใบโหระพา 1 กรัม

 วิธีทำ โขลกส่วนผสมของเครื่องแกงให้ละเอียด นำกระทะตั้งเตาเคี่ยวหัวกะทิพอเดือดตักเครื่องแกงลงผัด พอส่งกลิ่นหอมแล้วใส่ไก่ตามลงไป เร่งไฟเล็กน้อยปล่อยให้ไก่สุกโดยไม่ต้องคน ป้องกันเหม็นคาว เมื่อได้ที่ค่อยใส่ยอดมะพร้าว เทหางกะทิที่เหลือปิดฝาไว้ เคี่ยวจนเข้าเนื้อค่อยปรุงรส ใส่พริก ใบมะกรูด โหระพา และหัวกะทิอีก 3 ทัพพี เป็นอันเสร็จขั้นตอน พร้อมเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ “เคล็ดลับง่าย ๆ เตรียมยอดมะพร้าวไม่ให้ดำ แลดูไม่น่ากิน เมื่อ หั่นยอดมะพร้าวเป็นชิ้นแล้ว ควรแช่ในน้ำเกลือ ลวกกับน้ำร้อนแล้วค่อยนำมาแกง” คุณจิ๊บเผยเทคนิคทิ้งท้าย.

‘ช้องมาศ’“

credit by : http://www.dailynews.co.th/article/319871

Read More...


“ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม” แค่บีบมะนาว กินแนมกับพริก แค่นี้ก็ฟินฝุดๆแร้น


ขอบคุณ TheUrk Akarapone ที่ส่งปลาเค็มเนื้อคุณภาพดีมาให้แม่ครัวชิ้งลองชิมนะคะ ปรกติไปซื้อตามตลาด เนื้อมันจะร่วนๆ แต่ของเจ้านี้เนื้อปลายังนุ่มๆเลย ทอดแล้วหอมไป 8 บ้าน 555 ซึ่งรสชาติเค้าไม่เค็มมาก คือเค็มแต่ไม่ปี๋ หอมแบบไม่เหม็น เข้าใจชิป่ะ 555 ที่ชอบมากคือซีลมาอย่างดี แลดูสะอาด เลิศอีกอย่างที่ไม่ชุบฟอร์มาลีนเพื่อไล่ยุงเหมือนเจ้าอื่นๆ ใช้วิถีพื้นบ้าน เลยเป็นเสน่ย์อีกอย่างนึงค่ะ


พอติดใจก็เลยขอสัมภาษณ์ ได้ความว่าเจ้านี้เค้าจะจับปลาอินทรีย์บั้งมาจากบริเวณน่านน้ำตราด-กัมพูชา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติอยู่ ไม่ค่อยมีสารเคมีปนเปื้อนเหมือนฝั่งไทย แล้วทำการหมักตั้งแต่บนเรือเลย ซึ่งใช้เวลาหมักประมาณ 4-7 วัน สรุปก็คือส่งมาให้แม่ครัวอีกนะคะ 555
…………………………………………………………………

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม
1 ปลาอินทรีย์เค็ม
2 กระเทียมสับละเอียด
3 ก้านคะน้าและแครอทหั่นเต๋าลวกสุกและน็อคน้ำเย็นมาแล้ว
4 ไข่ไก่
5 ข้าวสวย
6 น้ำมันหอย
7 น้ำปลา
8 น้ำตาลทราย
9 ผงปรุงรส
10 พริกไทยป่น
11 มะนาวหั่นซีก พริกซอย หอมแดงซอย และต้นหอมสำหรับแต่งจาน

วิธีทำ


1 เริ่มจากทอดปลาเค็ม แกะเอาเฉพาะเนื้อ ไม่เอาก้าง แล้วยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ จากนั้นนำลงไปทอดอีกครั้งจนกรอบ พักไว้


2 ลวกก้านคะน้าและแครอทในน้ำเดือดจนเริ่มนิ่มแล้วรีบน็อคในน้ำเย็น พักไว้


3 ใช้น้ำมันที่ทอดปลา เจียวกระเทียมสับจนหอม ตอกไข่ลงไปค่ะพอไข่สุกก็ยีๆๆ จากนั้นเติมข้าวสวยลงไปตามด้วยเนื้อปลาเค็ม ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำปลา น้ำตาลทราย ผงปรุงรส พริกไทยป่น ชิมจนได้รสที่ชอบ สุดท้ายใส่ก้านคะน้าและแครอทหั่นเต๋าลวกสุกลงไปคลุกเคล้า


4 เสิร์ฟพร้อมมะนาวหั่นซีก พริก หอมแดงซอย และต้นหอม

หวังว่าจะชอบเมนูนี้กันนะคะ …

ก่อนจะลาจากกันไปในวันนี้ ชิ้งขอฝากหนังสือ cookbook เล่มแรกในชีวิตของชิ้งไว้ในอ้อมใจเพื่อนๆด้วยนะคะ ในเล่มมีถึง 50 เมนู ทั้งอาหารไทย จีน ฝรั่ง ญี่ปุ่นเลยจ้า หาซื้อได้แล้ววันนี้ที่ร้านนายอินทร์  Kinokuniya ซีเอ็ด B2S และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หน้าปกเป็นข้าวผัดปลาทู ด้านหลังปกจะมีชิ้งยืนยิ้มให้อยู่จร้า ^ ^”

credit by :  http://women.sanook.com/blog/37811/ข้าวผัดคะน้าปลาเค็ม-fried-rice-with-chinese-ka/

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.