สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

วุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี สูตรโดดเด่นด้วยรูปแบบ



หนึ่งในเมนูขนมไทยที่หารับประทานง่าย รสชาติอร่อย ราคาไม่แพง และเป็นที่ชื่นชอบของเด็กและผู้ใหญ่ นั่นคือ “วุ้น” ขนมหวานเนื้อนิ่ม ด้วยวิธีทำที่ไม่ยุ่งยาก และใช้เงินลงทุนไม่สูงจนเกินไป ทำให้หลายคนสนใจ และมีการกระตุ้นยอดขายด้วยการดัดแปลง และเพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ให้มีรูปลักษณ์มีความโดดเด่น มีความแปลกตา สีสันสวยงามน่ารับประทาน อย่าง “วุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี” สามารถทำเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริมได้สบาย ๆ ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” จึงนำข้อมูลมานำเสนอในวันนี้....

ผู้ที่จะมาให้ข้อมูลในเรื่องนี้ คือ หนิง-ผกาวดี วงค์เรือง อายุ 38 ปี เจ้าของ “วุ้นกุหลาบแก้ว dy หนิง ผกาวดี” โดยเล่าให้ฟังว่า เธอมีอาชีพรับราชการ วันหยุดยามว่างก็ชอบทำอาหารและขนมทานเล่นแบบง่าย ๆ ให้ลูกและคนในครอบครัวกินกัน อย่างวุ้น ทำแบบไม่มีสูตร ทำหลายต่อหลายครั้งก็ไม่สำเร็จสักที ตัววุ้นที่ได้หากไม่เละก็แข็งเกินไป รสชาติก็ไม่อร่อย พอดีไปเจอรูปวุ้นเย็นในเฟซบุ๊กหน้าตาสวยงามน่ารับประทานมาก จึงเรียนรู้จากสูตรในกลุ่มเพื่อนที่สนใจทำขนม แล้วมาลองฝึกทำจนสำเร็จ

“แล้วเกิดแรงบันดาลใจ อยากจะทำวุ้นในรูปแบบที่ฉีกและแตกต่างออกไป จังหวะพอดีกับที่มีพิมพ์ซิลิโคนออกมาใหม่ มีหลากหลายแบบ จึงลองทำแล้วพัฒนาสูตรไปในตัว เวลาทำวุ้นเย็นจะใส่ลูกเล่นและใช้จินตนาการไปด้วยว่า ต้องผสมสีอะไร รูปแบบต้องปรับยังไงถึงจะออกมาสวยงาม เห็นเตะตาสนใจ ฯลฯ ฝึกทำมาเรื่อย ๆ จนมือนิ่ง และมั่นใจว่าสูตรที่เราทำมันโอเคแล้ว จึงลงรูปและแชร์ความรู้ที่มีให้กับคนอื่นในเฟซบุ๊กอย่างไม่หวง เสียงตอบรับเข้ามามากมาย แถมมีการสั่งซื้อเข้ามามาก ๆ อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้มีรายได้เสริมมาช่วยครอบครัวอีกทาง”

หนิงบอกว่าแม้จะไม่มีหน้าร้าน แต่อาศัยทำตลาดโดยเริ่มจากการทำแจกให้เพื่อนฝูงคนรู้จักทดลองชิม นอกจากนี้ยังเปิดช่องทางนำเสนอสินค้าผ่านเฟซบุ๊กโดยใช้ชื่อว่า www.facebook.com/หนิง ผกาวดี ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ารู้จัก ซึ่งรูปแบบของวุ้นนั้น เธอบอกว่า แบ่งออกเป็น วุ้นดอกกุหลาบแฟนซี, วุ้นคิตตี้, วุ้นดอกลีลาวดี, วุ้นถ้วย, วุ้นเค้ก, วุ้นดอกกล้วยไม้ และวุ้นกระปุก และผลไม้ ฯลฯ ที่ขายดีมากคือวุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี ลูกค้ามักสั่งเป็นเซต 4 ดอก ทั้งสั่งไปจำหน่ายและสั่งใช้ในงานต่าง ๆ

วุ้นเย็นทำขายได้ทั้งปี และจะดีในช่วงใกล้เทศกาลสำคัญ เช่น ปีใหม่ วาเลนไทน์ นอกจากนี้ ตามงานเลี้ยงหรืองานทำบุญ เลี้ยงพระ และงานสัมมนาต่าง ๆ ก็นิยมหันมาใช้วุ้นแฟนซีแทนขนมอื่น ๆ กันมากขึ้น

ทั้งนี้หากใครอยากทำวุ้นเย็นสวย ๆ ต้องการสั่งซื้อเซตทำวุ้นเย็นไปฝึกทำ พร้อมสูตรและวิธีทำ สั่งซื้อได้ในราคา 390 บาท จะมีผงวุ้น, สีผสมอาหารแบบน้ำ 4 สี, พิมพ์ซิลิโคน ขนาด 3 ซม.และ 5 ซม.

อุปกรณ์ หลัก ๆ ประกอบด้วย เตาแก๊ส, หม้อสเตนเลส (สำหรับต้มส่วนผสม), แม่พิมพ์วุ้นซิลิโคน ขนาด 3 ซม.และ 5 ซม, ทัพพี, ถ้วยตวง, ไม้พาย, บรรจุภัณฑ์, ถาด และกล่องพลาสติก หรือกล่องโฟม สำหรับบรรจุวุ้นเพื่อส่งให้ลูกค้า

ส่วนผสม “วุ้นกะทิ” มี น้ำกะทิ 440 กรัม, น้ำสะอาด 440 กรัม, ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทราย 90 กรัม และเกลือป่น 1 ช้อนชา, สีผสมอาหาร (ตามที่ต้องการ)

ส่วนผสม “วุ้นใส” ประกอบด้วย ผงวุ้น 1 ช้อนโต๊ะ, น้ำตาลทรายขาว 180 กรัม, น้ำสะอาด 880 กรัม

ขั้นตอนการทำ “วุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี” มี 2 ขั้นตอน คือ..การทำวุ้นกะทิด้านใน และ การทำวุ้นใสด้านนอก

อันดับแรกจะต้องทำวุ้นกะทิด้านในก่อน เริ่มนำพิมพ์ดอกกุหลาบขนาด 3 ซม. มาวางเรียงใส่ถาดเตรียมไว้ให้พร้อม

จากนั้นเอาน้ำกะทิคั้น และน้ำสะอาดมาเทรวมกันใส่ลงในหม้อสเตนเลส ใส่ผงวุ้นลงไปแช่นานประมาณ 15 นาที เสร็จแล้วยกขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาล และเกลือป่น ใช้ทัพพีคนให้ส่วนผสมไปในทิศทางเดียวกัน พอส่วนผสมวุ้นเดือด ให้รีบยกลง นำส่วนผสมวุ้นที่ได้มาแยกผสมสีตามที่ต้องการ แล้วตักหยอดใส่พิมพ์ดอกกุหลาบ เสร็จแล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้สักพัก ระหว่างที่รอวุ้นเซตตัว ก็หันมาเตรียมส่วนผสมของวุ้นใสด้านนอก ใส่ผงวุ้นลงแช่น้ำสะอาดในหม้อสเตนเลส แช่ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เมื่อถึงเวลาใส่น้ำตาลตามลงไป ยกขึ้นตั้งไฟ ใช้ทัพพีคนไปในทิศทางเดียวกัน จนน้ำเดือด ยกลงพักไว้

นำวุ้นกะทิออกจากตู้เย็น มาแกะออกจากพิมพ์ แล้ววางไว้ในพิมพ์ดอกกุหลาบขนาด 5 ซม. (ก่อนวางวุ้นกะทิให้หยอดวุ้นใสลงไปในพิมพ์สักเล็กน้อย) เมื่อวางวุ้นกะทิแล้ว ให้ตักวุ้นใสหยอดลงไปให้เต็มพิมพ์ ตั้งทิ้งไว้สักครู่รอให้วุ้นแข็งตัว แล้วจึงแกะออกจากพิมพ์ เท่านี้ก็จะได้วุ้นเย็นแสนอร่อยไว้ทานเล่นหรือเป็นของฝากได้

สำหรับสูตรที่ให้มานั้น สามารถทำวุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี ได้ 24-25 ตัว

ราคาขาย วุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี มีตั้งแต่ชิ้นละ 1.50 บาท จนถึง 5 บาท ส่วนวุ้นเค้ก มีตั้งแต่ 150-300 บาท ขึ้นกับขนาดและชนิดของวุ้นเย็นที่ทำ

ใครสนใจ “วุ้นกุลาบแก้ว dy หนิง ผกาวดี” อยากจะซื้อหาไปรับประทาน หรือสั่งไปจำหน่ายหน้าร้าน ติดต่อเจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ ได้ที่ โทร. 08-3573-3456และหากใครสนใจอยากจะหัดทำเป็นเรื่องเป็นราวก็สามารถสอบถามข้อมูลแบบเจาะลึกได้โดยตรงที่เจ้าตัวเลย

นี่ก็เป็นอีก “ช่องทางทำกิน” จาก “วุ้น” ที่พลิกแพลง “ใส่ลูกเล่น” ได้อย่างน่าสนใจ.

คู่มือลงทุน...วุ้นกุหลาบแก้วแฟนซี

ทุนเบื้องต้น 3,000 บาทขึ้นไป

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 50% ของราคา

รายได้ มีตั้งแต่ 1.50-300 บาท

แรงงาน 1-2 คน

ตลาด ร้านกาแฟ, เบเกอรี่, ตลาดนัด

จุดน่าสนใจ ลงทุนน้อย ขายกำไรเท่าตัว

เชาวลี ชุมขำ :เรื่อง

credit by : http://www.dailynews.co.th/article/329512

Read More...


ขนมเปี๊ยะผลไม้ แปลกใหม่-กำไรดี




ในปัจจุบันการคิดทำผลิตภัณฑ์ให้มีรูปลักษณ์ที่แปลกออกไปนั้นมีความจำเป็นมากในการค้าขาย ดังนั้น เราจึงเห็นสินค้าที่มีหน้าตาแปลก ๆ เกิดขึ้นใหม่ในท้องตลาดมากมาย อาทิ ขนมปัง, เบเกอรี่ต่าง ๆ รวมไปถึง “ขนมเปี๊ยะผลไม้” ขนมเปี๊ยะที่มีหน้าตาแบบใหม่ ซึ่งทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้

กาญจนา อามาตย์ หรือ ฝน เจ้าของขนมเปี๊ยะผลไม้ “นายช่างเบเกอรี่” เล่าว่า ตนเป็นแม่บ้าน แต่อยากหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว เพราะปัจจุบันค่าครองชีพค่อนข้างสูง รายได้จากสามีเพียงทางเดียวคงจะไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ประกอบกับต้องเลี้ยงลูกเอง จึงคิดทำอาชีพแบบที่ไม่ต้องเดินทาง และสามารถดูแลลูกที่ยังเล็กได้

“ส่วนตัวทำอาหารและขนมเป็นทุกอย่าง เพราะเป็นคนชอบทาน เมื่อไปหัดเรียนรู้ทำอะไรใหม่ ๆ จึงไม่ใช่เรื่องยาก”

กาญจนา กล่าวอีกว่า เหตุที่เลือกทำขนมเปี๊ยะเพราะเป็นขนมที่คนทั่วไปนิยมรับประทาน แต่ที่เลือกทำ “ขนมเปี๊ยะผลไม้” เพราะต้องการให้ขนมมีความแปลก แตกต่าง เป็นที่สังเกต และดึงดูดสายตาให้คนมาซื้อ ซึ่งใช้เวลาหัดไม่นานก็ทำขายได้ อุปกรณ์ในการทำ “ขนม เปี๊ยะผลไม้” หลัก ๆ ก็มี เตาอบ, เครื่องนวดแป้ง, กะละมังสเตนเลส, โต๊ะตัวใหญ่, ไม้นวดแป้ง, เตาแก๊ส, มีด, ผ้าขาวบาง และอุปกรณ์เบเกอรี่ต่าง ๆ วิธีทำ “ขนมเปี๊ยะผลไม้” ให้เริ่มที่ทำ “ไส้ขนม” ก่อน โดยส่วนประกอบของไส้ขนมหลักๆ มี ถั่วเขียวกะเทาะเปลือก 200 กรัม, น้ำมันพืช 125 กรัม, น้ำตาลทราย 240 กรัม และเกลือป่นพอประมาณ วิธีทำไส้ขนม ล้างถั่วด้วยน้ำสะอาด 3-4 ครั้ง แล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 2 ชม.-1 คืน หลังจากแช่น้ำทิ้งไว้แล้ว ให้นำถั่วมาล้างให้สะอาดอีกรอบ เสร็จแล้วนำไปต้ม ระหว่างต้มให้คอยช้อนฟองออกให้หมด ต้มด้วยไฟกลางจนกระทั่งสุก แล้วกรองด้วยกระชอนพักถั่วไว้ให้เย็น ใส่น้ำมันพืช, น้ำตาลทราย และเกลือลงไปผสมกับถั่วที่เย็นตัวลงแล้ว คนให้เข้ากัน แล้วนำไปปั่นให้ละเอียด นำถั่วที่ปั่นแล้วใส่กระทะทองเหลืองหรือกระทะเทฟล่อน ยกขึ้นตั้งไฟ กวนด้วยไฟอ่อน กวนจนกระทั่งถั่วแห้ง และร่อนจากกระทะ เสร็จแล้วพักให้เย็น แล้วนำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ขนาดก้อนละ16 กรัม ส่วนผสมของตัวแป้ง ตัวแป้งนอก ประกอบด้วย แป้งสาลี (ตราบัวแดง) 125 กรัม, แป้งสาลีอเนกประสงค์ 85 กรัม, น้ำตาลทรายพอประมาณ, น้ำเปล่า 90 กรัม, น้ำมันพืช 75 กรัม และหัวนมผงเล็กน้อย ส่วน แป้งใน ประกอบด้วย แป้งสาลี (ตราบัวแดง) 75 กรัม, แป้งสาลีอเนกประสงค์ 65 กรัม และน้ำมันอีก 50 กรัม

วิธีผสมแป้ง ตัวแป้งใน ตวงแป้งใส่ชาม ทำแป้งให้เป็นหลุมตรงกลาง จากนั้นใส่น้ำมันพืชลงไปในหลุม คนให้เข้ากันแล้วนวดให้ส่วนผสมเข้ากัน แล้วพักไว้ ส่วน ตัวแป้งนอก ตวงแป้งใส่ชาม ทำแป้งให้เป็นหลุมตรงกลาง จากนั้นใส่ส่วนผสมที่เหลือลงไปในหลุม คนให้เข้ากัน นวดให้ส่วนผสมเข้ากันจนกระทั่งส่วนผสมไม่ติดมือ เสร็จแล้วพักไว้ประมาณ 30-40 นาที โดยมีภาชนะปิดไว้ไม่ให้ลมและฝุ่นเข้า

วิธีขึ้นรูปเป็นขนมเปี๊ยะผลไม้ นำ แป้งใน มาแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 หนักประมาณ 54 กรัม ส่วนที่ 2 หนักประมาณ 136 กรัม ในขณะที่ส่วนของ แป้งนอก นั้นให้แบ่งออกมาเป็นก้อนๆ จำนวน 8 ก้อน ขนาดก้อนละเท่า ๆ กัน ผสมสีผสมอาหารสีเขียวที่ แป้งในส่วนที่ 1 เพื่อทำเป็นส่วนของใบ และกลีบเลี้ยง และผสมสีอาหารที่ แป้งในส่วนที่ 2 ตามสีของผลไม้ที่จะปั้น เช่น ผลสตรอเบอรี่ให้ใช้สีผสมอาหารสีแดง ระหว่างผสมสีให้ใส่งาดำลงไปด้วยเพื่อความสมจริงของผลสตรอเบอรี่

วิธีปั้นขนมเปี๊ยะผลไม้ นำแป้งนอกมาหุ้มแป้งในที่ผสมสีไว้แล้วให้มิด แล้วรีดแป้งให้แบนและยาว จากนั้นจับแป้งให้มาทับกันไปมาประมาณ 2-3 ชั้น แล้วรีดให้แบนและม้วนแป้งให้เป็นก้อนกลม ๆ

ตัดแป้งที่ม้วนเป็น 5 ส่วน ส่วนละเท่า ๆ กัน แล้วนำแป้งแต่ละส่วนมารีดให้แบน

นำไส้ขนมที่เตรียมไว้มาจัดทรงให้เป็นรูปผลไม้ตามที่ต้องการ แล้วนำแป้งที่รีดมาหุ้ม และจัดทรงให้สวยงาม เสร็จแล้วนำแป้งในส่วนที่ 1 (แป้งสีเขียว) มาปั้นเป็นก้านใบและกลีบเลี้ยง วางตกแต่งบนขนมเปี๊ยะตามรูปแบบของผลไม้นั้น ๆ

ขั้นตอนสุดท้าย นำขนมเปี๊ยะเข้าเตาอบ ปรับไฟบน-ล่าง 170-180 องศาเซลเซียส นาน 17-20 นาที จากนั้นอบด้วยไฟล่างเพียงอย่างเดียวอีก 3-5 นาที เท่านี้ก็ใช้ได้

ใครสนใจ “ขนมเปี๊ยะผลไม้” ต้องการติดต่อ กาญจนา เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1887-6359 และที่ www.facebook.com/Naichangbakery

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : รายงาน / สุนิสา ธนพันธสกุล : ภาพ

................................................

คู่มือลงทุน...ขนมเปี๊ยะผลไม้

ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60-70% ของราคาขาย

รายได้ ราคา 10 บาท/ 1 ชิ้น

แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป

ตลาด ชุมชน, ร้านเบเกอรี่, ฝากขาย

จุดน่าสนใจ เป็นลักษณะขนมที่แปลก-ใหม่

credit by : http://www.dailynews.co.th/article/327980

Read More...


“ไอศกรีมโฮมเมด จับผลไม้มาเปิดธุรกิจ


ประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ส่งผลให้การทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องดื่ม ชา กาแฟ และไอศกรีม ได้รับการตอบรับอย่างดีและต่อเนื่อง โดยเฉพาะไอศกรีมโฮมเมด กำลังได้รับความนิยมและเป็นที่จับตามอง ทำให้ธุรกิจนี้มีการแข่งขันทางการตลาดค่อนข้างสูง เจ้าของร้านหรือเจ้าของธุรกิจจึงต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความแปลกใหม่ให้ ลูกค้าได้ลิ้มลองอยู่เสมอ ซึ่งทีม “ช่องทางทำกิน” ก็เคยนำเสนอไปบ้างแล้ว และวันนี้ก็มีข้อมูล “ไอศกรีมโฮมเมด” มานำเสนออีกรูปแบบ ผู้ที่จะมาให้ข้อมูลในเรื่องนี้ คือ ออนนี่-วรนิติ์ วรเนติโพธิ์ เจ้าของร้าน “ไอซ์ อัพ โฮมเมดไอศกรีม” ซึ่ง เล่าให้ฟังถึงที่มาของธุรกิจว่า เพราะเป็นคนชอบทานไอศกรีมมาตั้งแต่เด็ก เรียกว่าชอบมากชนิดที่ว่ารับประทานแทนข้าว 3 มื้อเลยก็ได้ หลังเรียนจบก็ได้ทำงานหลายอย่าง แต่สุดท้ายก็อยากทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพื่อที่จะมีความสุขในการทำงานแต่ละวัน จึงคุยกับเพื่อนที่ชอบไอศ กรีมเหมือนกัน ซึ่งก็คือ โบว์-คุณอาทิตยา ภู่ระหงษ์ ที่มีทัศนคติที่คล้ายคลึงกัน จากนั้นทั้งสองก็เริ่มหาที่เรียนเพื่อตามความฝันในการลงทุนเปิดร้านร่วมกัน

“เมื่อ เริ่มลงทุนเพื่อเปิดร้าน ก็นำเงินเก็บมาลงทุนซื้ออุปกรณ์ และวัตถุดิบในการทำไอศกรีม และเริ่มลงมือฝึกฝนอย่างจริงจัง โดยใช้เวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับสูตรไอศกรีมเพิ่มเติมจากแหล่งต่าง ๆ และตระเวนชิมไอศกรีมเจ้าดัง ๆ ที่ขายดี เพื่อนำมาปรับพัฒนาและประยุกต์ใช้ในการทำไอศกรีมของตัวเองให้มีความแตกต่าง และเน้นเพื่อสุขภาพ เพราะรู้ดีว่าคนยุคนี้จะให้ความสำคัญกับสุขภาพมากเป็นพิเศษ ลองผิดลองถูกอยู่นานเป็นเวลา 4-5 เดือน ทำไอศกรีมออกมาก็แจกให้คนในครอบครัว และเพื่อน ๆ ลองชิม ซึ่งทุกคนบอกว่าอร่อย น่าจะขายได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นในการทำไอศกรีมโฮมเมดขายมาจนถึงเดี๋ยวนี้”

ออ นนี่ กล่าวอีกว่า ไอศกรีมโฮมเมดของร้านเธอมีหลายรสชาติ อาทิ ไอศกรีมวานิลลา, ไอศกรีมชาเขียว, ไอศกรีมบลูเบอร์รี่โยเกิร์ต, ไอศกรีมสตรอเบอรี่เชอร์เบท ฯลฯ จะมีรสชาติกลมกล่อม ไม่หวานเกินไป ไอศกรีมโฮมเมดในความหมายของที่นี่คือการทำไอศกรีมให้มีรสชาติเข้มข้น อร่อยถูกใจคนในครอบครัว วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตจึงต้องเป็นของดีมีคุณภาพจากธรรมชาติ สดใหม่ ไม่ใช้สารสังเคราะห์ที่เป็นอันตราย ขั้นตอนการผลิตต้องสะอาด ถูกหลักอนามัย

อุปกรณ์ในการทำ “ไอศกรีมโฮมเมด” หลัก ๆ ก็มี อ่างผสม, หัวตีปากตะกร้อ, พายยาง, เครื่องปั่นไอศกรีม, ไม้พายพลาสติก, ภาชนะใส่ไอศกรีม/ถ้วยไอศกรีม อุปกรณ์อื่น ๆ สามารถหยิบยืมได้จากในครัว ส่วนผสม “ไอศกรีม สตรอเบอรี่เชอร์เบท” มี สตรอเบอรี่สด 400 กรัม, น้ำตาลทราย 100 กรัม, เกลือ 1/4 ช้อนชา, น้ำ 400 กรัม, กรดซิตริก, สารคงตัว (สารเสริม SE) 2 กรัม

ขั้นตอนการทำ “ไอศกรีมสตรอเบอรี่เชอร์เบท”

เริ่ม จากเทส่วนผสมน้ำตาลทราย น้ำ และสารคงตัว (สารเสริม SE) ไว้ในอ่างผสมที่ 1 ตั้งพักเตรียมไว้ก่อนนำสตรอเบอรี่ที่เตรียมไว้ มาใส่ในโถปั่น ตามด้วยน้ำ และเกลือ แล้วปั่นให้ละเอียด ประมาณ1-2 นาที เสร็จแล้วเทส่วนผสมของสตรอเบอรี่ปั่นพักไว้ในอ่างผสมที่ 2

นำ น้ำร้อนเทลงในชามผสมที่ 1 คนให้น้ำตาลและสารคงตัว ละลายและเข้ากัน เสร็จแล้วก็นำส่วนผสมในชามที่ 2 มาเทใส่ชามที่ 1 คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วทำการปรุงรสชาติเล็กน้อยด้วยกรดซิตริก (เนื่องจากรสชาติของสตรอเบอรี่นั้นไม่คงที่ จึงต้องปรับรสชาติตามใจชอบ)

จาก นั้น นำส่วนผสมทั้งหมดเทใส่เครื่องปั่นไอศกรีม แล้วรอจนกระทั่งเนื้อไอศกรีมได้ที่จึงหยุด ขั้นตอนสุดท้ายคือ การตักไอศกรีมใส่ภาชนะ จัดแต่งไอศกรีมแล้วนำไปแช่ตู้แช่แข็ง เป็นเวลา 1-2 ชั่วโมง ก่อนนำมาบรรจุใส่ถ้วย หรือหากจะขายเป็นทัพก็สามารถแต่งหน้าไอศกรีมได้ตามต้องการ ขายในราคาถ้วยละ 35 บาท หรือหากต้องการขายเป็นกิโลฯ ก็สามารถขายได้ที่กิโลฯ ละ 200-220 บาท

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทานได้ทุกเพศทุกวัย ช่วยคลายร้อนก็ได้ นำไปประกอบอาชีพ ทำขายก็ดูดี สนใจก็ลองฝึกทำดู หากสนใจ “ไอศกรีมโฮมเมด ไอซ์อัพ” ไป ใช้ในงานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ อาทิ งานบุญ งานปีใหม่ ติดต่อสอบถามรายละเอียดจาก ออนนี่-วรนิติ์ วรเนติโพธิ์ หรือ โบว์-อาทิตยา ภู่ระหงษ์ เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้โดยติดต่อได้ที่ โทร. 08-8490-4449 หรือ 08-5663-5411 และที่ www.facebook.com /iceupgelato


คู่มือลงทุน...ไอศกรีมโฮมเมด

ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 60,000 บาทขึ้นไป

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60-70% ของราคาขาย

รายได้ ราคา 35 บาท/1 ถ้วย

แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป

ตลาด ชุมชน, ร้านอาหาร, ฝากขาย

จุดน่าสนใจ เป็นไอศกรีมที่กำลังได้รับความนิยม

เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง

credit by :  http://www.dailynews.co.th/article/326377


Read More...


ซูชิ เมนูยอดฮิตของญี่ปุ่น ถูกนำมาปรับวัตถุดิบโดยใช้ ข้าวกล้อง


“ซูชิ” เมนูยอดฮิตของญี่ปุ่น ถูกนำมาปรับวัตถุดิบโดยใช้ “ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” แทนข้าวญี่ปุ่น ปรุงแต่งโดยเชฟลูกอีสานผู้สั่งสมประสบการณ์ในการทำอาหารญี่ปุ่นมายาวนานนับ 10 ปี กลายเป็นเมนูเด่นที่นอกจากจะอร่อยตามแบบต้นตำรับแล้ว แถมยังดีต่อสุขภาพด้วย ในราคาสบายกระเป๋าเพียงชิ้นละ 10 บาท

“ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” 10 บาท อร่อยแถมสุขภาพดี
ศุภชัย ไชยกาล เจ้าของไอเดีย

ศุภชัย ไชยกาล หนุ่มเมืองอุบลราชธานี ที่เคยทำงานเป็นพ่อครัวอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นนานนับสิบปี ตั้งแต่เป็นลูกมือ กระทั่งก้าวมาเป็นเชฟประจำร้าน รวมถึง เคยเดินทางไปทำงานเป็นเชฟในร้านอาหารญี่ปุ่นยังต่างประเทศ เช่น คูเวต และอิสราเอล เป็นต้น จึงมีประสบการณ์ในการทำอาหารญี่ปุ่นอย่างสูง สามารถปรุงประกอบได้ทุกเมนู ทั้งแบบต้นตำรับ และฟิวชัน

หลังอิ่มตัวจากการเป็นลูกจ้าง ศุภชัยตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิด จ.อุบลราชธานีเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นของตัวเอง

“ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” 10 บาท อร่อยแถมสุขภาพดี

ศุภชัยเล่าว่า ช่วงแรกร้านได้รับการตอบรับอย่างดี เนื่องจากในเวลานั้นทำเลใกล้เคียงไม่มีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดอยู่เลย แต่แล้วเกิดจุดพลิกผันเมื่อร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์เนมต่างๆ เริ่มทยอยมาเปิดในเมืองอุบลมากขึ้นเรื่อยๆ ดึงลูกค้าไปจากร้านจนยอดขายตกลงกว่า 50%

“ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” 10 บาท อร่อยแถมสุขภาพดี
ข้าวกล่องที่ใช้ปั้นเป็นซูช

วิกฤตดังกล่าวกลายเป็นแรงผลักดันให้ศุภชัยต้องคิดหาเมนูแปลกใหม่ เพื่อจะสร้างจุดขายแตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งอื่น

“ตอนที่คิดจะหาเมนูใหม่ให้แก่อาหารญี่ปุ่น ผมก็ได้ไอเดียจากลูกค้า กับเพื่อนๆ แนะนำว่าควรจะปรับให้เป็นเมนูเพื่อสุขภาพตามความนิยมของคนยุคนี้ ทำให้ผมคิดถึงการนำ “ข้าวกล้อง” ของไทยมาทำซูชิแทนข้าวญี่ปุ่น เพราะข้าวกล้องมีคุณค่าสารอาหารสูง” ศุภชัยเผย

“ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” 10 บาท อร่อยแถมสุขภาพดี
มีให้เลือกกว่า 30 หน้า

อย่างไรก็ตาม ความยากในการใช้ข้าวกล้องแทนข้าวญี่ปุ่นคือ เนื้อข้าวกล้องส่วนใหญ่ค่อนข้างแข็ง ทำเป็นซูชิแล้วไม่อร่อยนัก จำเป็นทดลองใช้ข้าวกล้องหลายชนิด หาที่ได้คุณลักษณะเหมาะจะทำซูชิได้ จนในที่สุดมาลงตัวที่ “ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าเป็นข้าวกล้องเกรดดีที่สุด และมีคุณประโยชน์ทางอาหารสูงด้วย

“ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” 10 บาท อร่อยแถมสุขภาพดี
เน้นออกขายตามงานแสดงสินค้าต่างๆ

ศุภชัยเสริมว่า ข้าวกล้องไรซ์เบอร์รีที่ใช้นั้นปลูกใน จ.อุบลราชธานี ภายใต้กระบวนการเกษตรอินทรีย์ ราคาขายสูงถึงกิโลกรัมละ 120-150 บาท โดยกระบวนการหุงใช้วิธีชั่งตวงวัดให้ได้ข้าวที่มีความเหนียวและนุ่มเหมาะกำลังดีที่จะทำซูซิ เมื่อสุกแล้วปรุงรสด้วยน้ำส้มญี่ปุ่น

ส่วนหน้าซูชินั้น มีให้เลือกหลากหลายกว่า 30 หน้า ทั้งแบบต้นตำรับและประยุกต์ เช่น กุ้ง ไข่ม้วน สาหร่าย 


 ไข่กุ้ง ฯลฯ ทุกหน้าขายชิ้นละ 10 บาทเท่ากันทั้งหมด

“ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” 10 บาท อร่อยแถมสุขภาพดี

เชฟหนุ่มยอมรับว่า การทำซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รีต้นทุนจะสูงกว่าใช้ข้าวญี่ปุ่นถึง 30% แต่ก็ยอมจะได้กำไรลดลงเพื่อสร้างจุดขายเฉพาะตัว โดยตั้ง 10 บาทให้ซื้อง่ายขายคล่อง จูงใจลูกค้า

อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญประการต่อมาคือ ข้อสงสัยจากลูกค้า ทุกคนจะตั้งคำถามแรกเหมือนๆ กันว่า “รสชาติเหมือนข้าวญี่ปุ่นเหรอ?” ดังนั้น ต้องให้ลูกค้าลองชิม พิสูจน์ด้วยตัวเองว่าความอร่อยแทบไม่แตกต่างกันเลย แถมยังมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่า

“ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” 10 บาท อร่อยแถมสุขภาพดี

“ช่วงแรกลูกค้าจะไม่นิยมนัก เพราะเขาจะกังวลว่าข้าวกล้องไม่ค่อยอร่อย ผมก็ต้องให้ทดลองชิม ซึ่งทุกคนพอได้ชิมแล้วจะพูดเหมือนกันว่าอร่อยเหมือนข้าวญี่ปุ่นเลย แถมบางคนยังชอบมากกว่าข้าวญี่ปุ่นด้วยซ้ำเพราะข้าวกล้องไรซ์เบอร์รีมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว หลังจากให้ลองชิมในครั้งแรกก็เริ่มมีลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ โดยเฉพาะกลุ่มสุภาพสตรีจะนิยมมากเป็นพิเศษ” ศุภชัยระบุ

นอกจากเมนูซูชิข้าวกล้องแล้ว ยังมีเมนูอื่นๆ อีก เช่น ซูชิข้าวหอมมะลิ แฮนด์โรลข้าวกล้อง และเกี๊ยวซ่าสูตรแป้งทำเอง เป็นต้น

สำหรับช่องทางขายหลักในปัจจุบัน เน้นออกขายตามงานแสดงสินค้า โดยเฉพาะงานชุมชนต่างๆ ในฐานะสินค้าโอทอประดับ 4 ดาวของ จ.อุบลราชธานี รวมถึงรับผลิตตามออเดอร์ และงานจัดเลี้ยงต่างๆ ซึ่งลูกค้าขาประจำจะคุ้นเคยกันดีภายใต้ชื่อว่า “ซูชิข้าวกล้องอุบล”

“ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” 10 บาท อร่อยแถมสุขภาพดี

สนใจอยากทดลองชิม ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี ติดต่อได้ที่ 08-5631-9789

ทำความรู้จักข้าวไรซ์เบอร์ร
ข้าวไรซ์เบอร์รีได้มาจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 จากการพัฒนาพันธุ์ข้าวพิเศษ โดยศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าวฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อให้ได้เมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดี และให้ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภค เมล็ดพันธุ์ที่ได้จะถูกแจกจ่ายแก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเป็นผู้ปลูกและดูแลรักษา ซึ่งต้องอยู่ในพื้นที่ภูมิประเทศและภูมิอากาศที่เหมาะสม โดยส่วนมากจะอยู่ในเขตภาคเหนือของประเทศไทยเพื่อให้ได้ข้าวที่มีคุณสมบัติดี ครบถ้วนตามลักษณะพันธุ์ ทำให้ได้ข้าวไรซ์เบอร์รีเมล็ดเรียวยาว สีม่วงเข้ม มีกลิ่นหอมมะลิ น่ากิน

คุณสมบัติเด่นทางด้านโภชนาการของข้าวไรซ์เบอร์รีคือมีสารต้าน อนุมูลอิสระสูง ได้แก่ เบตาแคโรทีน แกมมาโอไรซานอล วิตามินอี แทนนิน สังกะสี โฟเลตสูง มีดัชนีน้ำตาลต่ำ-ปานกลาง ซึ่งจากคุณสมบัติข้อนี้ นอกจากจะใช้กินเพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็ง ทางการแพทย์ยังนำไปใช้ทำผลิตภัณฑ์อาหารโภชนบำบัดอีกด้ว

“ซูชิข้าวกล้องไรซ์เบอร์รี” 10 บาท อร่อยแถมสุขภาพดี
เครดิต : manager

credit by :  https://www.facebook.com/media/set/?set=a.609793562430374.1073741855.138977779511957&type=3

Read More...


ร้านเลมอนเฮาส์ lamon house chainat

ร้านเลมอนเฮาส์ lamon house
358 หมู่ 5 ถนนหมายเลข 340 ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.ชัยนาท 17000
โทรศัพท์ 081-2584082 ขายอาหารตามสั่งและอาหารฝรั่ง เวลาเปิด 10.00 - 21.00 น.

ร้านอยู่ตรงข้ามโลตัสชัยนาท เปิด 10 โมงเช้า ถึง 3 ทุ่ม (ครัวปิด2ทุ่มครึ่ง) ถ้าไปไม่ถูกก็เบอร์นี้เลย 081-2584082
 

จัดร้านได้อบอุ่นดี มีที่นั่งฟังเพลงสบายๆ อาหารมีหลากหลายอยุ่ รสชาติดี จัดอาหารได้สวยงามมาก  ร้านอยู่ติดถนน มีป้ายสังเกตได้ชัดเจน อยู่ในบริเวณบริษัท อีซูซุชัยนาท ป้ายใหญ่เห็นชัด ไม่ต้องกลัวหาไม่เจอ ในร้านกว้างขวาง ตกแต่งสวยงาม ดูค่อนข้างมีระดับ อาหารหลากหลายเมนู ร้านบรรยากาศธรรมดาๆเหมือนบ้าน เปิดเพลงเก่าๆ hot pepper สุนทราภรณ์ จึงเหมาะกับคนวัยทำงาน หรืองานเลี้ยงฉลอง

 






































































Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.