สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

อย่าได้แคร์ความอ้วน! ครีเอตเมนูกล้วยๆ หวานเย็นเคลือบช็อกโกแลต



ร้อนๆ แบบนี้ อยากสร้างสรรค์เมนูของว่างง่ายๆ เพื่อผ่อนคลายอารมณ์แบบไม่ต้องแคร์ความอ้วน กับเมนูกล้วยๆ และเป็นประจำทุกสุดสัปดาห์แบบนี้ พบกับคอลัมน์ Trend can do อีกเช่นเคย สัปดาห์นี้กลับมาพบกับ เมนูเก๋ๆ ที่สามารถทำได้ง่ายๆ และช่วยคลายร้อนได้บ้างกับ "กล้วยหวานเย็นเคลือบช็อกโกแลต"...

สิ่งที่ต้องเตรียม
1. กล้วยสุก 3 ลูก
2. ช็อกโกแลต นูเทลล่า 1 ถ้วย
3. ถั่วโรยสำหรับตกแต่ง

กล้วย
ถั่ว - นูเทลล่า
ขั้นตอนการทำ
1. ปอกกล้วยตัดที่ขั้วหวีให้สวยงามแล้วเสียบไม้ไอติม

นำกล้วยมาเสียบไม้ไอติม
2. หลังจากนั้นนำกล้วยไปแช่ในช่องแช่แข็งประมาณ 20 นาที
3. เตรียมช็อกโกแลต นูเทลล่าใส่ถ้วยไว้ หรือจะนำช็อกโกแลตมาละลายเองก็ได้
4. เมื่อกล้วยแข็งได้ที่แล้วนำกล้วยมาจุ่มลงในช็อกโกแลตที่เตรียมไว้

โรยถั่วตกแต่งตามใจชอบ
5. โรยถั่วตกแต่งตามใจชอบ แล้วนำไปแช่ในช่องแข็ง 30 นาที เพื่อรอให้ช็อกโกแลตแข็งตัว
6. เสร็จแล้ว สนุกกับการทานกล้วยหวานเย็นเคลือบช็อกโกแลตแสนอร่อยได้เลย

เสร็จแล้ว ฟินเลยยย
ที่มา : kitchenconfidante
credit by :  http://www.thairath.co.th/content/486451

Read More...


หวานประกบเย็น เมนูชื่นใจที่ลงตัว


ตัวคุกกี้อยากให้เป็นแบบซอฟต์ตักใส่ถาดเป็นลูกกลม ๆ ไม่ต้องแบะให้บางเหมือนแบบกรอบ แต่ถ้าใครขี้เกียจทำจริง ๆ สามารถมาลิ้มลองที่ร้านได้ด้วยตัวเอง

เมื่อให้โจทย์ ปุ๊ย-วรัสพร จรูญโรจน์ เจ้าของร้านไอศกรีมทรอปิคอล มังกี้ เลือกเมนูโปรดมานำเสนอสักหนึ่งเมนู โดยมีข้อแม้ถ้าคนอ่านอ่านแล้วตงิดอยากทำ ก็สามารถทำตามได้ง่าย ๆ หลังจากถึงวันนัดส่งการบ้าน วันนี้จึงได้เมนูของหวานเย็นลิ้นอย่าง “ชาร์โคล คุกกี้ ราสพ์เบอรี่ เชอเบท แซนด์วิช” มาตั้งโต๊ะ ซึ่งน่าจะถูกอกถูกใจคนชอบความหวานโดยเฉพาะสาว ๆ ที่ชื่นชอบไอศกรีมเป็นพิเศษ

ระหว่างตระเตรียมวัตถุดิบ คุณปุ๊ยเล่าที่มาของร้าน “ลิงสีเหลือง” ที่ออกมาโลดโผนให้ฟังว่า เพราะนิสัยชอบกินจึงหุ้นกับรุ่นน้องคนสนิทเปิดร้านไอศกรีมขึ้น ประเดิมแห่งแรกที่เรนฮิลล์ ปากซอยสุขุมวิท 47 แต่หลังจากหมดสัญญาเช่าจึงย้ายมามอบความสดชื่นให้ลูกค้าที่ชั้น 4 ศูนย์การค้าเอ็มบาสซีแทน หลังจากเรียนจบด้านอาหารที่ประเทศออสเตรเลีย ระยะแรกที่กลับมาเมืองไทยเลือกทำงานให้กับสายการบินไทย ดูแลเรื่องอาหารของสายการบินต่างประเทศที่ติดต่อซื้ออาหารของครัวการบิน แต่เพราะอิ่มตัวและชอบหยิบจับเครื่องปรุงมากกว่าเอกสาร สาวหวานร่างเล็กตัดสินใจลาออก ตามล่าความฝันเล็ก ๆ เปิดร้านไอศกรีมของตัวเอง โดยชูความโดดเด่นของเนื้อสัมผัสที่ละเอียดนุ่มเหนียวหนึบและมีรสชาติหลากหลาย สามารถสั่งได้ไม่ซ้ำรสถึง 36 ชนิด

“สมัยเราวัยรุ่น จู่ ๆ จะลุกมาทำร้านเองยังไม่เป็นที่แพร่หลายดังเช่นทุกวันนี้ที่สามารถเป็นเจ้าของร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านเบเกอรี่ได้ เพราะมีผู้ปกครองสนับสนุน ผิดกับยุคเราที่ผู้ใหญ่มองว่าเสี่ยง อยากให้ทำงานกับองค์กรใหญ่เน้นความมั่นคงเป็นหลัก เมื่ออิ่มตัวจริง ๆ จึงชวนรุ่นน้องซึ่งมีนิสัยชอบกินไอศกรีมเหมือนกันมาเปิดร้าน โดยตัวเองรับหน้าที่ดูแลเรื่องเมนูและปล่อยให้น้องจัดการงานออกแบบภาย ในร้าน” คุณปุ๊ยเล่า

สำหรับความพิเศษของเมนูวันนี้อยู่ที่การนำ “ชาร์โคล” มาเป็นตัวชูโรง หลังจากที่ไอศกรีมรสชาร์โคลติดอันดับรสชาติขายดีของทางร้าน คุณปุ๊ยเผยว่า “คุกกี้ตัวนี้จะมีสีดำเพราะใส่ชาร์โคลหรือผงถ่านไม้ไผ่จากญี่ปุ่น ซึ่งวัตถุดิบตัวนี้มีคุณสมบัติพิเศษช่วยดูดซับสารพิษในร่างกาย ผ่านกรรมวิธีการอบแล้วทำเป็นผง สามารถสั่งซื้อตามเว็บไซต์ได้ แต่ถ้าใครหายากก็ไม่ต้องกังวล เพราะลำพังสูตรคุกกี้ที่เผยเคล็ดลับวันนี้รับประกันว่าเป็นสูตรที่อร่อยลงตัวอยู่แล้ว”

วันนี้แบ่งวัตถุดิบเป็น 2 ส่วน ราสพ์เบอรี่เชอเบท ประกอบด้วย ราสพ์เบอรี่แช่แข็ง 300 กรัม, น้ำตาล 100 กรัม, น้ำ 250 กรัม, น้ำมะนาวปรุงรสตามชอบ วิธีทำ ผสมน้ำและน้ำตาลลงในหม้อ ตั้งไฟคนส่วนผสมจนน้ำตาลละลาย ค่อยใส่ราสพ์เบอรี่คนให้เข้ากัน ตั้งไฟไว้สักพักจนเดือด ยกลงจากเตารอส่วนผสมเย็นและเซตตัว ปรุงรสด้วยมะนาวแล้วนำไปปั่นให้ละเอียด เทใส่กล่องที่มีฝาปิดแช่เย็น แล้วค่อยมาปั่นในเครื่องทำไอศกรีม ขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละเครื่อง ถ้าไม่มีเครื่องทำไอศกรีมลองเอาส่วนผสมใส่กล่องที่มีฝาปิดไปแช่แข็ง จากนั้นปั่นจนเนื้อเนียนละเอียด แล้วตักใส่กล่องแช่แข็งสักพัก

ส่วนผสมของ คุกกี้ ประกอบด้วย แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วย, เบกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา, ผงถ่าน 1 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 1/4 ช้อนชา, น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย, น้ำตาลทรายขาว 1/4 ถ้วย, เนย 120 กรัม, ไข่ 1 ฟอง, ช็อกโกแลตสับหรือเม็ด 1 ถ้วย, กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำ ร่อนแป้งอเนกประสงค์และเบกิ้งโซดารวมกัน ตีเนยให้ฟูจนสีอ่อนลง ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลทรายแดง ตามด้วยไข่และกลิ่นวานิลลา แบ่งแป้งและเบกิ้งโซดาที่ผสมไว้ 3 ส่วน ค่อย ๆ ตะล่อมให้เข้ากันจนครบ 3 ครั้ง แล้วใส่ผงถ่านผสมให้เข้ากันจึงใส่ช็อกโกแลตสับ

หลังจากนั้นแช่เย็นให้เซตตัวประมาณ 10 นาที ตักแบ่งเป็นก้อนตามชอบ เปิดเตาอบไฟบนล่างที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส อบประมาณ 8-9 นาที เวลาเสิร์ฟตักไอศกรีมประกบด้วยคุกกี้สองชิ้น ตกแต่งด้วยผลไม้หรือซอสต่าง ๆ ตามชอบ เคล็ดลับความอร่อยนี้คุณปุ๊ยเผยว่า ตัวคุกกี้อยากให้เป็นแบบซอฟต์ตักใส่ถาดเป็นลูกกลม ๆ ไม่ต้องแบะให้บางเหมือนแบบกรอบ แต่ถ้าใครขี้เกียจทำจริง ๆ สามารถมาลิ้มลองที่ร้านได้ด้วยตัวเอง เพราะเตรียมบรรจุเป็นเมนูใหม่ประจำเดือนแห่งความรักที่กำลังจะมาถึงนี้.

‘ช้องมาศ’

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/297697/หวานประกบเย็น+เมนูชื่นใจที่ลงตัว

Read More...


‘ปุยฝ้ายนมสด’ จุดต่างสร้างยอดขาย




“เทคนิคใช้วัสดุผสม” เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่ไปกันได้ดี   กับชิ้นงานแฮนด์เมด ขึ้นอยู่กับเจ้าของชิ้นงานว่า จะมีไอเดียในการสร้างสรรค์ชิ้นงานแค่ไหน ถ้าใช้ได้ถูกที่กับทำให้มีความแปลกแตกต่าง ก็สามารถนำมาเป็นจุดขายได้เช่นกัน อย่างเช่น “นาฬิกาไม้ผสมเรซิ่น” ของ “ธีรพล ธนมณฑล-เปลี่ยนกาล ไตรคุ้มพันธุ์” ซึ่งวันนี้ทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอ

หนุ่มสาวรุ่นใหม่ เจ้าของชิ้นงานดังกล่าว ที่ใช้ชื่อร้านว่า “Nympheart” (นิ้มฮาร์ท) เล่าว่า เรียนเกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์และเครื่องประดับ จึงคิดนำความถนัดกับความรู้ที่ร่ำเรียนมาต่อยอด ด้วยการผสมวัสดุ 2 ชนิด เพื่อทำเป็นชิ้นงานขึ้น ทั้งนี้ เกี่ยวกับชิ้นงานนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากงานของต่างประเทศ ที่มีการใช้อะลูมิเนียมมาผสมกับวัสดุอีกชนิด ทั้งคู่จึงอยากทดลองทำเป็นเครื่องประดับขึ้นมา โดยออกแบบและพัฒนาให้เป็น จี้สร้อยคอ แหวน และตุ้มหูก่อน จากนั้นจึงต่อยอดไปเป็น “นาฬิกาตั้งโต๊ะ” ที่ใช้วัสดุเรซิ่นนำมาผสมผสานกับวัสดุไม้ อาทิ ไม้สัก ไม้เมเปิ้ล ไม้วอลนัท ซึ่งหลังจากลองผิดลองถูกทดลองทำอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ จึงออกมาเป็นชิ้นงานสำเร็จรูปในที่สุด และทดลองนำออกจำหน่าย โดยผลตอบรับจากลูกค้าที่ผ่านมาถือว่าดีมาก ๆ เนื่องจากชิ้นงานแต่ละชิ้นที่ทำนั้น มีพื้นผิวและลวดลายจากวัสดุไม่เหมือนกัน

“ไม้ที่ใช้ทำเป็นวัสดุธรรมชาติ ซึ่งมีพื้นผิวและลักษณะลวดลายไม่เหมือนกัน จึงนำวัสดุอย่างเรซิ่นมาใช้เพื่อปิดช่องว่างของไม้ที่มีลักษณะเป็นรูพรุน และด้วยความใสของเรซิ่นทำให้สามารถมองเห็นพื้นผิวและรายละเอียดของไม้ ซึ่งลูกค้าที่เห็นชิ้นงานก็บอกว่าสวยและแปลกตาดี” ...เป็นการระบุจากเจ้าของชิ้นงานดังกล่าว ที่ได้นำเอาวัสดุ 2 ชนิด ที่แตกต่างกันมาผสมผสานจนเกิดเป็นชิ้นงานที่ว่านี้ และสามารถใช้เป็น “จุดขาย” เพิ่มความน่าสนใจให้กับชิ้นงานได้อย่างดี

‘ปุยฝ้ายนมสด’
จุดต่างสร้างยอดขาย

‘ปุยฝ้ายนมสด’ จุดต่างสร้างยอดขาย
วันอาทิตย์ 8 มีนาคม 2558 เวลา 06:00 น.

“ขนมปุยฝ้าย” เป็นขนมที่ไม่ต้องใช้วัสดุอุปกรณ์ที่วิจิตรพิสดารอะไร ทำไม่ยาก รวมถึงส่วนผสมก็หาง่าย ในปัจจุบันก็มีการพลิกแพลงกันมาก เพื่อสร้างจุดต่าง และเพิ่มมูลค่าให้กับขนม อาทิ ปุยฝ้ายสมุนไพร รวมไปถึง“ปุยฝ้ายนมสด” ซึ่งทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้...

ทัชชา ปรีดาวิจิตรกุล หรือ หนิง เจ้าของ “ทัชชา-ปุยฝ้ายนมสด” จาก จ.นครราชสีมา กล่าวว่า เดิมทำงานเป็นพนักงานบัญชีของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และมักจะใช้เวลาในวันเสาร์-อาทิตย์เรียนทำขนมปุยฝ้ายซึ่งเป็นขนมที่ตัวเองชื่นชอบ และอยากจะทำให้เป็น ซึ่งก็ใช้เวลาระยะหนึ่งในการหัด และฝึกฝนจนกระทั่งชำนาญ

“เมื่อก่อนที่บ้านจะทำขนมเปี๊ยะ และถั่วกวนขาย แต่เนื่องจากมีรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องหารายได้เพิ่มตามไปด้วย” ทัชชา กล่าว

ทัชชา กล่าวว่า ได้หัดทำขนมตามสูตรของตัวเองอยู่นาน โดยปรับเปลี่ยนสูตรไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งลงตัว และเริ่มทำแจกจ่ายให้เพื่อน ๆ, คนรู้จัก รวมไปถึงลูกค้าที่มาซื้อขนมเปี๊ยะได้ลองทาน กว่าจะมั่นใจในฝีมือก็ใช้เวลาเป็นปี แต่คิดว่าไม่ได้เสียเวลาไปเปล่า ๆ เพราะว่าหลังจากนั้นขนมปุยฝ้ายนมสดก็ขายดี มียอดสั่งซื้อจำนวนมากเข้ามาทุกสัปดาห์ จนกระทั่งต้องลาออกจากงานประจำ เพื่อมาเป็นแม่ค้าแบบเต็มตัว

“เหตุที่ใช้ นมสด เพราะนมสดช่วยให้ขนมนิ่ม แต่เนื้อแน่น มีกลิ่นหอม ชวนรับประทาน และทำให้ขนมปุยฝ้ายที่ทำไม่เหมือนใคร” ทัชชา กล่าว

ทัชชา กล่าวย้ำว่า ปุยฝ้ายนมสด ที่ดี เนื้อขนมจะต้องแน่น และเวลาที่นึ่งเสร็จแล้ว หน้าขนมจะฟู และแตกออกเป็น 3 แฉกอย่างสวยงาม

สำหรับอุปกรณ์หลัก ๆ ที่ใช้ในการทำ “ปุยฝ้ายนมสด” มี หม้อนึ่ง หรือลังถึง, เครื่องตีไข่, กะละมังพลาสติก, ถาด, ถ้วยตวง, ตาชั่ง, ถ้วยกระดาษ, ถ้วยอะลูมิเนียม, ไม้พายพลาสติกบาง, ตะแกรงร่อนแป้ง ฯลฯ

ในขณะที่ วัตถุดิบ หลัก ๆ มี แป้งสาลี 30%, นมสด 30%, น้ำตาลทราย 20%, ไข่ไก่อีก 20% นอกจากนี้ ยังมีสารเสริมเอสพี, น้ำเปล่า รวมทั้งกลิ่นต่าง ๆ อย่างกลิ่นวานิลลา, ใบเตย, สตรอเบอรี่, ส้ม และกาแฟ จำนวนอย่างละเล็กน้อย

ขั้นตอนการทำ “ปุยฝ้ายนมสด” เริ่มจากนำแป้งสาลีร่อนสัก 2-3 ครั้ง เพื่อให้เนื้อแป้งละเอียด ไม่มีเม็ดแป้งก้อนเล็ก ๆ ปนอยู่ จากนั้น ตีไข่ไก่ กับน้ำตาลทรายให้เข้ากันด้วยความเร็วสูงจนกระทั่งส่วนผสมขึ้นฟู มีสีขาวสวยงาม ระหว่างที่ตีไข่ไก่กับน้ำตาลทรายอยู่นั้น ให้ละลายแป้ง น้ำเปล่า และสารเสริมเอสพีให้เข้ากัน แล้วแบ่งส่วนผสมส่วนนี้ออกเป็น 3 ส่วน เตรียมไว้ และแบ่งนมสดออกเป็น 2 ส่วนเตรียมไว้เช่นกัน

เมื่อตีส่วนผสมของไข่ไก่ และน้ำตาลทรายขึ้นฟูแล้ว ลดความเร็วของเครื่องตีไข่ลง ค่อย ๆ เทส่วนผสมของแป้ง 1 ส่วนลงไปตีผสม ตามด้วยนมสดอีก 1 ส่วน แล้วสลับใส่ และตีส่วนผสมต่าง ๆ ไปจนกระทั่งครบจำนวน

ใส่กลิ่นตามที่ต้องการลงไปตีผสมเป็นขั้นตอนสุดท้าย ใช้เวลาตีส่วนผสมปุยฝ้ายนมสดไม่เกิน 10 นาที โดยแป้งที่ใช้ได้จะมีลักษณะแน่นและเนียน

ตักแป้งใส่ถุงพลาสติกพอประมาณ แล้วม้วนถุงให้เป็นเกลียว เจาะส่วนปลายของถุงออกเล็กน้อย แล้วติดหัวบีบแป้งให้แน่น

ตั้งลังถึง ใช้ไฟร้อนปานกลาง ใส่น้ำที่หม้อชั้นล่างประมาณครึ่งหม้อ แล้วต้มน้ำให้เดือด เตรียมไว้

วางถ้วยกระดาษลงบนพิมพ์ถ้วยขนมอะลูมิเนียมแบบกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ซม. สูง 3 ซม. แล้วเรียงลงบนชั้นลังถึงให้ทั่ว ระวังอย่าให้ถ้วยขนมปิดรูลังถึง ไม่เช่นนั้นหน้าปุยฝ้ายจะไม่แตก เสร็จแล้วบีบส่วนผสมใส่ถ้วยพอเต็ม ใส่ลูกเกดจำนวน 2-3 ชิ้น ลงบนบริเวณที่คาดว่าหน้าขนมจะแตกออกมา แล้วปิดฝาลังถึงให้สนิท เวลานึ่งลดไฟลงค่อนข้างอ่อน ใช้เวลานึ่งนาน 10-15 นาที สังเกตว่าเมื่อขนมสุกหน้าจะแตกออกเป็น 3 แฉกสวยงามน่ารับประทาน นึ่งเสร็จแล้วถอดถ้วยอะลูมิเนียมออกวางขนมทิ้งไว้บนตะแกรงให้เย็น แล้วบรรจุใส่กล่องพลาสติกแบบกลม จำนวน 4 ชิ้น ขายในราคากล่องละ 35 บาท

ทัชชา ได้บอกเทคนิคในการทำขนมปุยฝ้ายทิ้งท้ายไว้ว่า “เวลาตีแป้งจะต้องตีไปทางเดียวกัน อย่าตีย้อนไปย้อนมา เพราะส่วนผสมจะละเอียดไม่เท่ากัน และต้องตีด้วยจังหวะที่สม่ำเสมอกัน ในขณะที่เวลานึ่งต้องรอให้น้ำเดือดจัดก่อน และการนึ่งครั้งต่อไปต้องเช็ดไอน้ำที่เกาะอยู่ในฝาลังถึงก่อนปิดฝาทุกครั้ง ไม่อย่างนั้นไอน้ำจะหยดลงใส่ขนม ทำให้ขนมช้ำ ไม่สวย และเป็นก้อนแป้งแข็ง ๆ”

ใครสนใจ “ปุยฝ้ายนมสด” ของทัชชา เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ติดต่อได้ที่ โทร. 08-4479-9567 ซึ่งนี่ก็เป็นตัวอย่างการสร้างจุดต่างจนสร้างช่องทางทำกินที่ดีได้.

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : รายงาน

ภาณุพงศ์ พนาวัน : ภาพ

..........................................................................................

คู่มือลงทุน…ปุยฝ้ายนมสด

ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60% ของราคาขาย

รายได้ ราคา 35 บาท/ 4 ชิ้น

แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป

ตลาด ชุมชน/ออกร้าน/ย่านท่องเที่ยว

จุดที่น่าสนใจ ใช้นมสดเพิ่มมูลค่าให้กับขนม

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/305870/‘ปุยฝ้ายนมสด’+จุดต่างสร้างยอดขาย

Read More...


กะหรี่ปั๊บงาดำ




การทำอาหาร ขนม หรือของว่างต่าง ๆ ในปัจจุบันนอกจากจะต้องคำนึงถึงความอร่อย รสชาติที่กลมกล่อมถูกปากคนทานแล้ว ความแตกต่าง หรือความแปลกใหม่เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องนึกถึง เพราะหากสินค้าที่จะขายไม่ได้มีอะไรพิเศษไปจากร้านค้าอื่น ๆ สินค้านั้นคงจะขายได้ยาก หรือไม่มีใครจำได้ เพราะคิดถึงเรื่องนี้ เจ้าของกรณีศึกษารายนี้จึงคิดถึงผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างขึ้นมา อย่าง “กะหรี่ปั๊บงาดำ” ซึ่งทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้...

ทิพย์วัลย์ อภิวรรณ์ หรือพี่หน่อย เจ้าของ “กะหรี่ปั๊บงาดำ” จาก จ.อุทัยธานี กล่าวว่า ได้ทำกะหรี่ปั๊บงาดำขายมา 6 ปีแล้ว จากเดิมที่เคยทำงานฝีมือขายมาก่อน แต่ระยะหลังเริ่มขายยากมาก จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนสินค้าที่จะขาย แต่ขณะนั้นยังไม่รู้จะทำอะไรขายดี

“จึงได้ไปอบรมวิชาชีพการทำกะหรี่ปั๊บในหมู่บ้านที่อยู่ แต่คิดว่าหากเป็นกะหรี่ปั๊บแบบทั่ว ๆ ไปคงจะขายยาก จึงคิดหาสิ่งแปลกใหม่ใส่ลงไป อย่างเมล็ดทานตะวัน, เมล็ดฟักทอง แต่สุดท้ายก็มาลงตัวที่งาดำ เพราะนอกจากจะเข้ากับแป้งกะหรี่ปั๊บได้แล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย จึงทำกะหรี่ปั๊บงาดำตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา” ทิพย์วัลย์ กล่าว

กะหรี่ปั๊บงาดำ ของทิพย์วัลย์มีทั้งหมด 4 ไส้ ได้แก่ ไส้ไก่, ไส้ถั่วเหลือง, ไส้เผือก และไส้ถั่วดำ โดยไส้ไก่เป็นไส้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

อุปกรณ์ในการทำ กะหรี่ปั๊บงาดำ หลัก ๆ มี เครื่องนวดแป้ง, ไม้รีดแป้ง, ที่ตัดแป้ง, เตาแก๊ส, กระทะ และภาชนะต่าง ๆ ที่ใช้ในครัว

ส่วนผสมของ กะหรี่ปั๊บงาดำ หลัก ๆ มีแป้งชั้นนอก, แป้งชั้นใน และไส้กะหรี่ปั๊บ

ส่วนผสมของ แป้งชั้นนอก มี แป้งสาลี 60%, งาดำ 5%, น้ำเปล่า และน้ำมันพืช 25%, เกลือป่น 5%, และน้ำตาลทรายอีก 5%

ในขณะที่ แป้งชั้นใน มีส่วนผสมของ แป้งสาลี 80% และน้ำเปล่าอีก 20%

วิธีทำ แยกนวดแป้งชั้นนอก และแป้งชั้นในออกจากกัน ส่วนวิธีนวดเหมือนกัน คือ เทส่วนผสมทั้งหมดในกะละมัง แล้วใช้มือนวด หรือใช้เครื่องนวดแป้งนวด นวดให้แป้งและส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน

เมื่อนวดแป้งเข้ากันดีแล้ว ให้ตัดแป้งแต่ละชนิดออกเป็นชิ้น ๆ โดย แป้งชั้นนอก แบ่งออกเป็นชิ้น ชิ้นละ 20 กรัม ในขณะที่ แป้งชั้นใน แบ่งออกเป็นชิ้น ชิ้นละ 1.4 กรัม

รีดแป้งแต่ละชิ้นให้บาง แล้ววางส่วนแป้งชั้นในลงบนแป้งชั้นนอก พับครึ่งแล้วใช้ที่รีดแป้งรีดให้เข้ากัน แล้วพับแป้งอีกครั้ง แล้วรีดให้เข้ากัน ทำแบบนี้ประมาณ 8-9 ชั้น แป้งจะกลายเป็นชั้น ๆ ในส่วนของ ไส้กะหรี่ปั๊บ ข้อมูลมีดังนี้ คือ....

ไส้ไก่ มีส่วนประกอบของ เนื้อไก่สับ 10%, มันฝรั่งหั่นชิ้นเล็ก ๆ 80% นอกจากนี้ ในส่วนของเครื่องปรุงมีผงกะหรี่, พริกไทย, น้ำตาลทราย, เกลือป่น และนมสด รวม10%

นำเนื้อไก่ไปผัดกับมันฝรั่งบดให้สุก ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสต่าง ๆ โดยเน้นรสชาติให้หวาน ๆ เค็ม ๆ และมีกลิ่นของผงกะหรี่ และกลิ่นพริกไทยด้วย

ส่วนของไส้ถั่วเหลือง, ไส้ถั่วดำ และไส้เผือกนั้น จะต้องนำถั่วเหลือง, ถั่วดำ และเผือก ไปต้มให้สุกเสียก่อน แล้วนำมาบดให้ละเอียด วิธีกวนไส้ ตั้งกระทะทองเหลือง ใส่ถั่วเหลืองบด หรือถั่วดำบด หรือเผือกบดลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย และนมสด ในสัดส่วน 80 : 20 กวนด้วยไฟอ่อน ๆ ให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน ใช้เวลา 20-30 นาที ดูว่าส่วนผสมเข้ากันดี ชิมรสตามที่ต้องการ พักให้เย็น เตรียมไว้

วิธีปั้นกะหรี่ปั๊บ นำแป้งกะหรี่ปั๊บแต่ละชิ้นที่ปั้นเสร็จแล้ว มารีดให้บาง กะให้ขนาดยาว 10 ซม. กว้าง 8 ซม. จากนั้นตักไส้กะหรี่ปั๊บลงไปบนแป้งพอประมาณ แล้วพับครึ่ง ใช้นิ้วหัวแม่โป้งและนิ้วชี้จับจีบให้เป็นเกลียวที่ขอบแป้งเพื่อปิดขอบแป้งให้สนิท และดูสวยงาม ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้จำนวนกะหรี่ปั๊บตามที่ต้องการ บรรจุใส่ภาชนะ คลุมด้วยเพื่อผ้าขาวบางกันไม่ให้ลมและฝุ่นเข้า

วิธีทอดกะหรี่ปั๊บ ตั้งกระทะ ใช้ไฟแรงปานกลาง ใส่น้ำมันพืชท่วม รอจนกระทั่งน้ำมันเดือด ค่อย ๆ ใส่กะหรี่ปั๊บทีละชิ้นลงไปทอด รอจนกระทั่งกะหรี่ปั๊บลอยขึ้นมา แล้วค่อย ๆ หรี่ไฟลงเล็กน้อย และคอยหมั่นใช้ตะหลิวคอยพลิกไป-มา ระวังอย่าให้กะหรี่ปั๊บไหม้ เมื่อกะหรี่ปั๊บเริ่มสุก สังเกตว่ามีสีเหลืองทอง เท่านี้ก็ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน บรรจุใส่กล่อง กล่องละ 7 ชิ้น ขายในราคา 50 บาท

ใครสนใจ “กะหรี่ปั๊บงาดำ” ของ ทิพย์วัลย์ เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ติดต่อได้ที่กลุ่มหัตถศิลป์ถิ่นบ้านไร่ 103/6 หมู่ 1 ต.บ้านบึง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี หรือ โทร. 08-9568-2553.

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : รายงาน

ภาณุพงศ์ พนาวัน : ภาพ

.....................................................................................................

คู่มือลงทุน…กะหรี่ปั๊บงาดำ

ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60% ของราคาขาย

รายได้ ราคา 50 บาท/ 7 ชิ้น

ตลาด ชุมชน/งานออกร้าน/ร้านของฝาก

จุดที่น่าสนใจ ใช้งาดำเพิ่มมูลค่า

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/302701/‘กะหรี่ปั๊บงาดำ’+ชูสุขภาพสร้างเงิน

Read More...


‘น้ำปลาเห็ดไข่ต้ม’ เมนูเด็ดของครอบครัว


ได้ยินรายการอาหารที่ ตาล-ปัญจรัตน์ เดชกุญชร หลานตาของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตนายตำรวจราชสำนักประจำและอดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ร่ายยาวเป็นหางว่าวว่า “ทำเป็น” ทั้งคาวและหวาน
วันเสาร์ 7 มีนาคม 2558 เวลา 04:00 น.

ได้ยินรายการอาหารที่ ตาล-ปัญจรัตน์ เดชกุญชร หลานตาของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร อดีตนายตำรวจราชสำนักประจำและอดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ร่ายยาวเป็นหางว่าวว่า “ทำเป็น” ทั้งคาวและหวาน ยังอดทึ่งในความเป็นแม่ศรีเรือนไม่ได้ ทว่าเทียบกับฝีมือกับสมาชิกทุกคนภายในบ้านแล้ว คุณตาลยังถ่อมตัวหากที่บ้านจัดงานขอหลบหลังฉาก รับหน้าที่แค่ “หั่นผัก” และ “รอกิน” เป็นพอ

“คุณยายของตาลมีพี่น้องหลายคน ซึ่งทุกคนทำอาหารเก่งหมดไม่เว้นแม้กระทั่งคุณแม่ จึงค่อนข้างคุ้นชินและคลุกคลีกับอาหารมาตั้งแต่เด็ก จำคร่าว ๆ ช่วงวัย 12-13 ปี ก็วิ่งเข้าครัวช่วยเป็นลูกมือและพยายามถามคุณแม่บ้าง คุณยายบ้างว่าทำอย่างไรบ้างคะ จุดนี้ทำให้ได้เรียนรู้ขั้นตอนและวิธีการทำอาหารไทยอร่อย ๆ ระยะหลังหากว่างจะทำอาหารเอาใจสมาชิกในครอบครัว” สาวอารมณ์ดีเล่า

การทำอาหารสำหรับคุณตาลถือเป็นงานอดิเรกที่สร้างสุขนอกเหนือจากงานประจำ ซึ่งปัจจุบันสาวคนนี้ขยันขันแข็งทำสารพัดสิ่งร่ายยาวไม่แพ้เมนูอาหาร ตั้งแต่งานประจำอย่างเจ้าหน้าที่ธุรการ ประจำแผนกหูคอจมูก โรงพยาบาลตำรวจ, เป็นหมอดูพยากรณ์ คนรู้จักแพร่หลายในศาสตร์ที่เรียกกว่า “หมุนแหวนพยากรณ์”, เป็นนักแต่งเพลงโดยใช้นามปากกาว่า “ขยับพุง” ไม่เว้นแม้แต่เล่นดนตรีกับเพื่อน ๆ โดยมีชื่อวงว่า “เอนเทอร์นอล เลเจ้นท์” และรับทำหนังสือถ่ายรูป เป็นต้น

“ใจจริงอยากทำ งานเป็นนักข่าวนะคะ ตาลเรียนจบจากคณะมนุษยศาสตร์ ภาควิชานิเทศ ศาสตร์ เอกวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มีโอกาสฝึก งานด้านสังคมไลฟ์สไตล์รู้สึกว่ามันใช่ตัวตนของเรา แต่พอเริ่มทำเป็นอาชีพโดนดึงตัวไปอยู่สายข่าวเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นคนไม่ชอบตัวเลขเลย จึงตัดสินใจลาออกและทำงานตามสไตล์ที่เราชอบ ก็คือทำอะไรก็ได้ให้คนอื่น ๆ มีความสุข เช่น แต่งเพลงหรือหากใครมาดูดวงก็ยังได้รับเสียงหัวเราะกลับไป ทุกวันนี้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมาก็ไม่เสียเปล่า ยังใช้ทักษะด้านงานเขียนสื่อสารผ่านงานในรับผิดชอบ” สาวสารพัดอาชีพกล่าว

เวลาที่หลงเหลือจากที่กล่าวมานี้ จึงเข้าครัวทำเมนูที่ชื่นชอบ ส่วนใหญ่หนีไม่พ้นอาหารไทย อาหารไทยนานาชาติจำพวกพาสต้าไวท์ซอสทั้งหลายแหล่ ตลอดจนเบเกอรี่ที่ได้ยินชื่อแล้วต้องร้องว้าว! ทั้งชินามอนโรล, คุกกี้เนยและ คุกกี้ข้าวโอ๊ต ส่วนขนมไทยที่ถนัด เช่น กลีบลำดวนและครองแครง สำหรับเมนูวันนี้สาวตาลเลือกทำ “น้ำปลาเห็ดไข่ต้ม” เมนูง่ายแต่อร่อยเด็ด ซึ่งเป็นเมนูประจำบ้านที่กินได้ทั้งครอบครัว

แต่สูตรลับประจำบ้านเดชกุญชรนี้ คุณตาลสาธยายว่า “สูตรของเราแตกต่างจากที่อื่น เพราะว่าไม่ใส่หัวหอมแดง ทำกินกันมาตั้งแต่สมัยคุณทวด รสชาติจะกลมกล่อมกินกับปลาดุกฟูหรือไข่ต้มจะเข้ากันอย่างลงตัว”

วัตถุดิบและส่วนผสม ประกอบด้วย เห็ดชิเมจิ 250 กรัม, กระเทียม 1/2 ถ้วย, น้ำตาลปี๊บ 5-7 ช้อนโต๊ะ, น้ำปลา 100 มิลลิลิตร, มะนาว 2 ลูก, พริก 2 ช้อนชา

วิธีทำ ล้างเห็ดให้สะอาดและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ จากนั้นซอยกระเทียม พริก และฝานมะนาวรอไว้ เสร็จแล้วนำหม้อตั้งไฟกลางใส่น้ำตาลปี๊บรอจนละลายแล้วใส่น้ำปลา ระหว่างนั้นคอยชิมให้รสหวานและรสเค็มสมดุลกัน พอได้ที่แล้วใส่เห็ดลงไปต้ม พอเห็ดเริ่มสลดค่อยปิดเตา สังเกตว่าน้ำจะข้นไม่เหลวใส ตักเสิร์ฟขณะที่กำลังร้อน โรยกระเทียม พริก และบีบมะนาวลงไปตามชอบ กินแล้วได้รสกรุบกรอบกำลังดี

สำหรับชนิดของเห็ดนั้นคุณตาลไม่แนะนำให้ใช้เห็ดนางฟ้าเพราะเวลาต้มน้ำจะมีกลิ่น ส่วนเห็ดโคนต้องระวังความแข็งเกินไป เมนูนี้ยังเหมาะกับคนกินมังสวิรัติแค่ปรับจากน้ำปลาเป็นซีอิ๊วขาวแทน.

‘ช้องมาศ’

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/305679/‘น้ำปลาเห็ดไข่ต้ม’+เมนูเด็ดของครอบครัว

Read More...


รักนะ จุ๊บ จุ๊บ! บีฟอร์วาเลนไทน์ เซอร์ไพรส์ของแทนใจ 'สตรอเบอร์รี่อินมายฮาร์ต'


อีกแค่วันเดียวเท่านั้นก็จะถึงวันที่ 14 กุมภาฯ "วันวาเลนไทน์" วันที่หนุ่มสาว คู่รักคู่เลิฟ หรือแม้กระทั่งคู่ที่กำลังแอบชอบกันอยู่ ถือโอกาสในวันแห่งความรักนี้บอกความในใจให้เขารู้ไปแบบชัดๆ ไปเลย...

และไม่ว่าจะเทศกาลไหนๆ ก็กลับมาพบกับ Trend can do ไทยรัฐออนไลน์ทุกวันศุกร์แบบนี้เช่นเคย สัปดาห์นี้เราขออินกับวันวาเลนไทน์พาคุณไปครีเอทเมนูสุดน่ารัก ไว้มอบเซอร์ไพร์สคนรักกับ 'สตรอเบอร์รี่เคลือบช็อกโกแลตรูปหัวใจ' ขอบอกว่าง่ายมาก อย่าช้า ไปลงมือกันได้เลย!

Chocolate Covered Strawberry Hearts
สิ่งที่ต้องเตรียม
1.สตรอเบอร์รี่
2.ช็อกโกแลต
3.เจลสีแดง
4.มีด
5.ไม้จิ้มฟัน

เตรียมของ
ขั้นตอนการทำ
1.ล้างสตรอเบอร์รี่ที่เตรียมไว้ให้สะอาดและตัดขั้วออก

ตัดขั่วออกกเลย ชั๊บ ชับ
2.หั่นสตรอเบอร์รี่ออกเป็นครึ่งหนึ่ง

หั่นครึ่ง
3.ถ้าคุณต้องการใส่ไส้ช็อกโกแลต ต้องหั่นเนื้อสตรอเบอร์รี่ออกนิดนึงตามภาพ

หั่นเนื้อในออกนิดนึง
4.ใช้ไม้จิ้มฟันกลัดสตรอเบอร์รี่ที่หั่นครึ่งไว้ให้เป็นรูปหัวใจ

กลัดสตรอเบอร์รี่เป็นรูปหัวใจ
5.นำสตรอเบอร์รี่ที่กลัดไว้เป็นรูปหัวใจทั้งหมดมาวางเรียงกันบนถาด เพื่อเตรียมสู่ขั้นตอนเคลือบช็อกโกแลต สตอเบอร์รี่ต้องแห้งสนิท ไม่อย่างนั้นจะชุบช็อกโกแลตไม่ติดดี

นำหัวใจสตรอเบอรี่มาวางเรียงกันบนถาด
6.เพิ่มความอร่อยด้วยการทาช็อกโกแลตลงไปด้านในเนื้อสตรอเบอร์รี่

ทาช็อกโกแลต
7.นำช็อกโกแลตมาละลายให้ร้อนจนเป็นเนื้อเดียวกัน และนำไปราดเคลือบสตรอเบอร์รี่รูปหัวใจที่เตรียมไว้

เคลือบช็อกโกแลตเยิ้มๆเลย
8.รอให้ช็อกโกแลตแข็งตัวสักนิด จึงนำเจลสีแดงมาทำให้หัวใจของคุณมีสีสัน น่ารัก น่าทานมากกว่าเดิม

เจลสีแดง
นำเจลสีแดงมาตกแต่ง
9.จากนั้นนำสตรอเบอร์รี่ไปแช่เย็นจนช็อกโกแลตแข็ง พร้อมรับประทาน คราวนี้เราก็จะมีของขวัญน่ารักๆ ไปให้คนที่คุณรักในวันวาเลนไทน์นี้กันแล้ว

พร้อมมอบให้คนที่คุณรักแล้วหรือยัง
ที่มา : onelittleproject

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/480782

Read More...


แป้งปั้น ฟูตอง


เมนูแป้งปั้นนี้เป็นของว่างกลายพันธุ์ที่ดัดแปลงมาจากแป้งสิบทอด ซึ่งได้มาจากคุณ “โอ๋ ฟูตอง” หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ สาวมัณฑนศิลป์จากรั้วศิลปากร ผู้มีสไตล์โดดเด่นเป็นที่รู้จักกันดีในการวาดภาพ ประกอบ และมีผลงานนิทรรศการในต่างประเทศ โดยออกแบบผลงานมากมายสารพัด และยังเป็นนักเขียนอีกด้วย สาวเก๋ “โอ๋ ฟูตอง” ยังเล่าถึงที่มาของคำว่า “ฟูตอง” เป็นของแถมด้วยว่า เป็นชื่อวงดนตรีที่เธอเป็นสมาชิก มีความหมายว่า ฟูก หรือ ที่นอน เป็นคำภาษาญี่ปุ่น เนื่องจากมีสมาชิกของวงเป็นคนญี่ปุ่นร่วมอยู่ด้วย และดนตรีก็ได้พาเธอออกไปท่องโลกกว้างมากมายในหลายประเทศ

เตรียมเครื่อง
ร่อนแป้ง
นวดแป้ง
มาถึงเมนูแป้งปั้นบ้าง คุณโอ๋เล่าว่า เป็นสูตรที่คุณแม่คิดดัดแปลงขึ้นสำหรับลูกตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ดังนั้น แป้งต้องทำง่าย และไส้ต้องไม่ใส่เครื่องเทศ เพราะคุณแม่ต้องดูแลลูกสาวถึง 4 คน คืออุ๋ม, แอน, เอ๋ และโอ๋ ฟูตอง ซึ่งเป็นน้องเล็กสุดของบ้าน จึงต้องหากิจกรรมให้ลูกๆ ได้นั่งล้อมวงปั้นแป้ง ใส่ไส้ จะได้ไม่ไปเล่นซุกซน หรือหาเรื่องทะเลาะกันในหมู่พี่น้อง นับเป็นกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว “เจริญชัยชนะ” แม้ความสวยงามอาจจะไม่เป๊ะเต็มร้อย หากแต่เสียงหยอกล้อในการล้อมวงปั้นแป้งระหว่างพี่น้องแต่ละครั้งต่างหาก ที่เป็นการสร้างสายใยรักในครอบครัวให้รักใคร่สนิทสนมกันยิ่งขึ้น นอกจากนี้เมนูนี้ยังเน้นส่วนผสมที่ดีต่อสุขภาพของลูกๆอีกด้วย เช่น ใช้น้ำกะทิแทนน้ำมันในการทำแป้ง ใช้น้ำมันมะพร้าวในการทอด และใช้ยอดมะพร้าวแทนหน่อไม้ เป็นต้น

ใส่ไส้
วิธีปั้น
ปั้นเสร็จแล้ว
ส่วนผสมของตัวแป้งสิบ : แป้งอเนกประสงค์ 1 กก./ไข่เป็ด 1 ฟอง/หัวกะทิ ½ กก./เกลือเล็กน้อย/ไข่ขาว สำหรับทาประกบแผ่นแป้ง
ส่วนผสมของไส้ : หมูสับ 1 กก./เห็ดหูหนูดำ ½ กก./ยอดมะพร้าวหั่นเต๋าเล็ก ½ กก./ กระเทียมสับ/น้ำมัน 3 ชต./ซีอิ๊วขาว เกลือ พริกไทยตามชอบ
ส่วนผสมน้ำจิ้ม : น้ำตาล 1 ถต./น้ำปลา ½ ถต./มะนาว 3 ลูก/พริกชี้ฟ้า, ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ และกระเทียมสับ 3 อย่างนี้แล้วแต่ความชอบ/น้ำ 2 ถต.

ภาพวาด
วิธีทำ 1) เริ่มด้วยการนวดแป้ง ร่อนแป้ง ใส่เกลือ ไข่ คลุกไปมา ค่อยเติมกะทิ นวดจนเนื้อเนียน หมักไว้ 1 ชม. 2) จากนั้นมาผัดไส้ โดยเจียวกระเทียมให้เหลืองและหอม จึงค่อยใส่หมูสับ ลงผัดพอสุก พอหมูร่วนดี จึงเติมเห็ดหูหนูซอยเป็นเส้นเล็กๆบางๆ ยอดมะพร้าว และปรุงรสตามชอบ แล้วพักไว้ 3) แบ่งแป้งเป็นก้อน คลึงด้วยไม้หรือขวดแก้ว ตักไส้ใส่ พับครึ่ง ทาไข่ขาว ปิดขอบ จับจีบสวยงาม แล้วนำลงทอดด้วยไฟปานกลาง จนกรอบเหลืองค่อยช้อนขึ้น 4) ทำน้ำจิ้มโดยผสมทุกอย่างใส่หม้อ เคี่ยวไฟอ่อนๆ โรยถั่วบด ตอนเสิร์ฟ.

credit by ;  http://www.thairath.co.th/content/480521

Read More...


ยำทวาย


อาหารไทยโบราณหลายเมนู ไม่นิยมนำมารื้อฟื้นทำขาย เพราะบางเมนูมีวิธีการทำที่ยากลำบาก บางเมนูก็มากเรื่อง อย่างเช่นยำทวาย ทั้งที่วิธีการทำนั้น ไม่สลับซับซ้อนแต่อย่างใด แต่เครื่องเครา องค์ประกอบนั้นมากโขอยู่ทีเดียว เมนูนี้จะเน้นเรื่องผักหลากหลายที่ต้องนำมาหั่น มาซอย โดยต้นตำรับ มาจากวังสวนสุนันทา ที่แม้แต่ในรั้วในวังเองก็จะทำกันเฉพาะในงานใหญ่เท่านั้น

คุณใหญ่–องอาจ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ข้าราชการตุลาการ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้พิพากษา รองหัวหน้าศาลจังหวัดพระโขนง ยังคงประทับใจภาพในอดีต ที่คุณปู่-พระยาวิทยาปรีชามาตย์ เจ้าของที่ดินในซอยนานา ซึ่งใกล้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในปัจจุบัน เมื่อถึงเวลาลูกๆ ออกเรือน คุณปู่ก็เห็นควรจัดสรรที่ดินให้แต่ละครอบครัวเป็นสัดส่วน อยู่เรียงกันเป็นแถว และถึงแม้แต่ละบ้านจะมีครัวของตนเอง แต่โรงครัวบ้านคุณปู่ที่ลูกๆเคยฝาก ท้องไว้ก็ไม่ได้สั่งยุบ ยังคงไว้เช่นเดิม พร้อมสั่งการ ให้แม่ครัวเก่าแก่ทำอาหารในวันเสาร์-อาทิตย์ เดินแจกจ่ายไปแต่ละบ้านให้บรรดาลูกหลานได้อิ่มอร่อย โดยเมนูยำทวายนี้ เป็นหนึ่งในเมนูที่ท่านผู้พิพากษาองอาจ ถูกปาก ประทับใจ จวบจนทุกวันนี้


 เครื่องปรุง
: ผักบุ้งไทย, ถั่วฝักยาว, ถั่วแขก, หัวปลี, ถั่วงอก กะปริมาณ ชนิดละ 1 กำมือ, มะเขือยาว 1 ลูก และ พริกหยวก 3 เม็ด/เนื้ออกไก่ 1 ถต.


เครื่องปรุงน้ำยำ : หัวกะทิ 1 ½ ถต./ปลาสลิดทอดแกะเนื้อนำมาโขลกละเอียด 1 ถต./น้ำพริกแกงแดง ½ ถต./มะขามเปียก 3 ชต./ถั่วลิสงคั่วบดหยาบ 2 ชต./น้ำตาลปี๊บ 2 ชต./น้ำปลา 2 ชต./งาขาวคั่วบุบ ½ ถต. ใช้โรยเวลารับประทาน


 วิธีการเตรียมผัก 1) ตั้งน้ำเดือด ลวกผักที่หั่นไว้แล้วทีละชนิด (ยกเว้นมะเขือยาว และพริกหยวก) ลวกผักเพียงแค่พอสุก จากนั้นรีบจุ่มลงน้ำเย็นเพื่อคงความกรอบและสีสัน นำขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ 2) มะเขือยาว และพริกหยวก ย่างไฟ พอสุกลอกเปลือกทิ้ง หั่นพอดีคำ 3) ตั้งหม้อต้มน้ำ พอเดือดใส่ไก่ลงต้ม พอสุก ตักขึ้นพักพอหายร้อน นำมาฉีกฝอย


 วิธีทำน้ำยำ 1) ตั้งกระทะไฟกลาง ใส่หัวกะทิเคี่ยวให้แตกมัน 2) เติมพริกแกง ลงผัดให้เข้ากัน พอแตกมันสีแดงสวย น้ำมันลอย ใส่ถั่วลิสงโขลกหยาบๆลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก ให้มีรสเปรี้ยวนำเล็กน้อย และตามด้วยรสหวาน เค็ม ปะแล่ม

เคล็ดลับ : รสชาติของน้ำยำห้ามหวานนำ เพราะไม่ใช่น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะที่มีรสหวานนำเป็นเอกลักษณ์ ส่วนหัวปลีหั่นแล้วรีบแช่น้ำมะนาวเพื่อไม่ให้ดำ ผักชนิดต่างๆ หั่นแฉลบ หั่นเฉียง ให้ดูสวยงามตามฉบับอาหารไทยโบราณ เวลารับประทาน จัดผักใส่จานให้สลับสีสันกัน ชวนให้รับประทานยิ่งขึ้น ตามด้วยเนื้อไก่ ราดน้ำยำ แล้วโรยงาคั่วบนสุด.

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/482037

Read More...


เด็ด! ไม่ต้องง้อร้าน เข้าครัวทำวิงส์ไก่ อร่อยง่ายจนไม่อยากหยุดกิน!


อยากกินวิงส์ไก่แซ่บ แต่ไม่อยากไปซื้อกิน จะทำยังไงดีล่ะ ? เป็นประจำทุกสุดสัปดาห์แบบนี้ พบกับคอลัมน์ Trend can do อีกเช่นเคย สัปดาห์นี้พบกับวิธีการทำวิงส์ไก่ ทำเองได้ง่ายๆ เพียงแค่ 6 ขั้นตอน รับรองฟิน ไม่ต้องไปไกลถึงร้านดังหลายๆ ร้านอีกด้วย...

วิงส์ไก่สุดแซ่บ
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ปีกไก่ 20 ชิ้น
2. เกลือ 1/2 ช้อนชา
3. พริกไทย 1/2 ช้อนชา
4. ซอสพริก 3/4 ถ้วย + 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
6. แป้งอเนกประสงค์ 3/4 ถ้วย
7. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
8. ผงกระเทียม 1/2 ช้อนชา
9. เนยละลาย 1/2 ถ้วย

ขั้นตอนการทำ
1. ใส่เกลือ พริกไทย ซอสพริก และน้ำมันพืชในถุงพลาสติกซิปล็อกที่สามารถผนึกได้ เขย่าเพื่อผสมให้เครื่องปรุงเข้ากัน หลังจากนั้นใส่ปีกไก่เข้าไป และขยำให้ส่วนผสมเข้าเนื้อไก่เพื่อความกลมกล่อม

ผสมเกลือ พริกไทย ซอสพริก ปีกไก่ ในถุง
2. นำถุงพลาสติกซิปล็อกอีกใบมาใส่แป้งพริกป่นและกระเทียมผง เขย่าเพื่อผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นเทปีกไก่จากถุงแรกลงในถุงแป้งและขยำให้แป้งติดปีกไก่

นำถุงพลาสติกซิปล็อกอีกใบมาใส่แป้ง
3. นำปีกไก่มาวางเรียงไว้บนถาดที่เตรียมไว้

4. ละลายเนยและใส่ซอสพริกลงไปในถ้วยคนให้เข้ากัน

ละลายเนยและผสมซอสพริก
5. จุ่มปีกลงไปในถ้วยที่ผสมเนยและซอสพริกไว้ชั่วขณะหนึ่ง หลังจากนั้นก็เอาขึ้นมาวางบนถาดเหมือนเดิม

จุ่มปีกไก่ลงในถ้วยเนยที่ผสมซอสพริก
เตรียมนำเข้าเตาอบ
6. นำเข้าเตาอบประมาณ 30 นาที หรือใครจะนำไปทอดน้ำมันร้อนๆไฟกลางๆ สัก 10 นาทีก็ไม่ว่ากัน เสร็จแล้วพร้อมทานได้เลย

เสร็จแล้ว อร่อยลืมโลก
ที่มา : goldmedalflour

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/482326

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.