สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

อาหารคลีน โจ๊กข้าวโอ๊ต


โจ๊กข้าวโอ้ตอกไก่
          
          มาดูอาหารคลีนมื้อเช้าอย่างโจ๊กกันบ้าง สูตรนี้จะไม่ใช้ข้าวแต่จะใช้ข้าวโอ๊ตแทนได้ประโยชน์กว่าเดิมเยอะเลย ใครที่กำลังมองหาเมนูข้าวโอ๊ตใหม่ ๆ น่าจะชอบ

ส่วนผสม
          
          น้ำซุปกระดูกไก่

          ไก่สับ

          ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนชา

          น้ำมันงา 1-2 หยด

          ข้าวโอ๊ต 50-100 กรัม

          ขิงซอย

          ต้นหอมซอย

          พริกไทยป่น

วิธีทำ

อาหารคลีน 13 อาหารคลีนแบบไทย ๆ เมนูสุขภาพรสชาติคุ้นเคย 
วิธีทำ โจ๊กข้าวโอ๊ต
          
           1. หมักไก่สับกับซีอิ๊วขาว พริกไทย และน้ำมันงา หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง (ไก่สับจะมีรสชาติดี)
          
           2. ต้มน้ำซุปกระดูกไก่ จากนั้นตักใส่ถุง นำไปแช่เย็นจนไขมันจับเป็นก้อน แล้วนำออกมาตักหรือกรองไขมันแข็ง ๆ ออก
          
           3. นำน้ำซุปมาต้มอีกครั้ง ใส่ไก่สับลงต้มจนสุก
          
           4. ใส่ข้าวโอ๊ตลงไป ต้มจนสุก ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยขิงซอย ต้นหอมซอย และพริกไทยป่น



Read More...


อาหารคลีน แกงจืดผักกาดขาวกับปลาหมึกยัดไส้อกไก่

                             อาหารคลีน แกงจืดผักกาดขาวกับปลาหมึกยัดไส้อกไก่
          
          ลองมาดูเมนูต้ม ๆ ไว้ซดร้อน ๆ กันบ้าง ถ้าเป็นเมนูต้มแบบคลีนก็คงหนีไม่พ้น ต้มจืด เมนูนี้ใส่ปลาหมึกยัดไส้ไก่หมักเพิ่มความอร่อย หรือใครไม่อยากกินปลาหมึกจะดัดแปลงไปใช้ใบกระหล่ำปลีห่อไส้ หรือใบผักกาดแก้วแทนปลาหมึก ก็ไม่ว่ากันจ้า

อาหารคลีน 13 อาหารคลีนแบบไทย ๆ เมนูสุขภาพรสชาติคุ้นเคย
วิธีทำแกงจืดผักกาดขาวกับปลาหมึกยัดไส้อกไก่
 
 ส่วนผสม
          
           ปลาหมึก

           เนื้อไก่สับ

           แครอทหั่นเต๋าเล็ก

           เห็ดหอมหั่นเต๋าเล็ก

           ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา

           น้ำซุป

           ผักกาดขาว

           พริกไทยป่น

 วิธีทำ
          
          1. ผสมเนื้อไก่สับกับแครอท และเห็ดหอมเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว (ประมาณไม่ถึง 1/2 ช้อนชา เหลืออีก 1/2 ช้อนชาไว้ปรุงน้ำซุป) แล้วนำไปยัดไส้ในตัวปลาหมึกจนเต็ม
          
          2. ตั้งน้ำซุปให้เดือด ใส่ปลาหมึกลงต้ม อย่าเพิ่งคน ต้มให้เดือดอีกครั้งก่อน จากนั้นใส่ผักกาดขาวลงไป แล้วปิดไฟทันที เติมพริกไทย หลังปรุงเสร็จ

อาหารคลีน 13 อาหารคลีนแบบไทย ๆ เมนูสุขภาพรสชาติคุ้นเคย
แกงจืดใบกระหล่ำปลีห่อไส้ไก่

อาหารคลีน 13 อาหารคลีนแบบไทย ๆ เมนูสุขภาพรสชาติคุ้นเคย
แกงจืดใบผักกาดแก้วห่อไส้ไก่
หมายเหตุ : สามารถดัดแปลงเป็นใบกระหล่ำปลีห่อไส้ หรือใบผักกาดแก้ว เพิ่มบรรยากาศก็ได้ค่ะ
 

Read More...


อาหารคลีน ข้าวผัดธัญพืชกับไข่ดาวในพริกหยวก

 อาหารคลีน ข้าวผัดธัญพืช

          สำหรับใครที่ไม่อยากกินอาหารรสจัด ก็ลองมาทำข้าวผัดธัญพืชจานนี้ดู แถมยังมีไข่ดาวเก๋ ๆ ที่นำไปทอดกับพริกหยวกเสิร์ฟมาพร้อมกัน เลยทำให้ข้าวผัดธัญพืชจานนี้ไม่ธรรมดา ดูน่ากินขึ้นอีกเป็นกองเลยจ้า

 ส่วนผสม
          
           ข้าวกล้อง 1 ถ้วย

           ธัญพืชตามชอบ (ป้าซื้อจากเค้าเตอร์สลัดบาร์ค่ะ)

           น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา

           เนื้อไก่

           ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา

           ไข่ไก่

           พริกหยวก

 วิธีทำ
          
          1. ใส่น้ำมันมะกอกลงในกระทะ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่กระเทียม ลดไฟลงหน่อย ใส่ไก่ลงไปผัด ตามด้วยธัญพืช ปรุงด้วยซีอิ๊วขาว ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน
          
          2. ทอดไข่ดาวในพริกหยวกจนสุก เสิร์ฟคู่กับข้าวผัด 

credit by : http://cooking.kapook.com/view95108.html

Read More...


อาหารคลีนแบบไทย ๆ - ผัดกะเพราอกไก่กับเห็ด เสิร์ฟพร้อมไข่เบเนดิกท์

อาหารคลีน ผัดกะเพราแบบคลีน

ผัดกะเพราอกไก่กับเห็ด เสิร์ฟพร้อมไข่เบเนดิกท์
          
          อาหารคลีนจานนี้จับอาหารตามสั่งที่หนึ่งในใจคนไทยอย่างผัดกะเพรา มาดัดแปลงให้เป็นอาหารคลีน โดยใส่เห็ดเพื่อเพิ่มประโยชน์เข้าไปอีก แถมยังเพิ่มความหรูหราด้วยไข่เบเนดิกท์ แหม น่าลองจริง

 ส่วนผสม
          
           ไข่ไก่

           น้ำสำหรับต้มไข่

           น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ

           น้ำมันมะกอก 1 ช้อนชา

           กระเทียมสับเล็กน้อย

           พริก

           เนื้ออกไก่

           เห็ด

           ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนชา

           ใบกะเพรา

วิธีทำ

อาหารคลีน 13 อาหารคลีนแบบไทย ๆ เมนูสุขภาพรสชาติคุ้นเคย
วิธีทำผัดกะเพราไก่กับเห็ด 
          1. ตอกไข่ใส่ถ้วย ต้มน้ำผสมน้ำส้มสายชู ต้มจนน้ำเดือด เทไข่ลงไปต้มให้เป็นก้อน ๆ รอจนไข่ขาวสุก ตักขึ้น (ลุ้นให้สุกตามที่ชอบจ้า)
          
          2. ใส่น้ำมันมะกอกลงในกระทะ ใส่กระเทียมเล็กน้อยพอหอม ๆ ใส่พริก ไก่ และเห็ด
          
          3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว (เลี่ยงได้ก็อย่าใส่น้ำมันหอยนะจ๊ะ แต่ถ้าติดรสชาติ อนุโลมได้จ้า) ผัดให้เข้ากัน จากนั้นรีบใส่ใบกะเพราลงไปผัดอีก 2 ที ปิดไฟ เสิร์ฟได้เลยจ้า

credit by :  http://cooking.kapook.com/view95108.html

Read More...


อาหารคลีนแบบไทย ๆ เมนูสุขภาพรสชาติคุ้นเคย - ซูชิข้าวกล้อง

          กระแสการกินอาหารคลีนเพื่อสุขภาพในตอนนี้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้างแล้ว หลาย ๆ คนหันมาใส่ใจการทำอาหารคลีนกินเอง แต่ส่วนมากสูตรอาหารคลีนหน้าตาดี ๆ ที่เราเห็น ก็มักจะเป็นเมนูอาหารคลีนของต่างประเทศ พอคิดอยากจะลองทำกินเองดู วัตถุดิบบางอย่างก็หาซื้อยาก แถมบางเมนูรสชาติก็ไม่ถูกปากเลยสักนิด 

อาหารคลีน ซูชิข้าวกล้อง

          ถึงแม้ซูชิข้าวกล้องจานนี้จะไม่ใช่อาหารไทย 100% เต็ม แต่ก็ยังดัดแปลงมาใช้วัตถุดิบแบบไทย ๆ มาเป็นส่วนผสมอยู่ดี กินคู่กับน้ำจิ้มโชยุและวาซาบิ น่าจะคุ้นปากคนไทยที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่นไม่น้อยเลยทีเดียว

ส่วนผสม

           ข้าวกล้องหุงสุก

           น้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์  1 ช้อนชา

           น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา

           แครอท

           หน่อไม้ฝรั่ง

           ข้าวโพดอ่อน

           อกไก่ต้ม หรือปลาทูน่ากระป๋อง

           สาหร่ายแผ่น สำหรับห่อ 

วิธีทำ

อาหารคลีน 13 อาหารคลีนแบบไทย ๆ เมนูสุขภาพรสชาติคุ้นเคย
วิธีทำซูชิข้าวกล้อง 
 
          1. อุ่นข้าวกล้องพอร้อน
          
          2. ผสมน้ำส้มสายชูแอปเปิลไซเดอร์กับน้ำผึ้ง คนผสมให้ละลายเข้ากัน แล้วเทใส่ลงในข้าวกล้อง คลุกผสมให้เข้ากัน เตรียมไว้
          
          3. ต้มแครอท หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดอ่อนจนสุก (หรือนำไปต้มในไมโครเวฟก็ได้) เตรียมไว้
          
          4. วางสาหร่ายบนเสื่อญี่ปุ่น ตักข้าวกล้องลงบนสาหร่ายเกลี่ยบาง ๆ ให้ทั่ว วางทับด้วยผักต้มต่าง ๆ และอกไก่ต้ม จากนั้นม้วนเป็นแท่ง ตัดเป็นชิ้น ๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มโชยุ และวาซาบิตามชอบ
          
          5. ทำน้ำจิ้มโดย ผสมโชยุกับน้ำเข้าด้วยกัน
 

Read More...


เค้กวานิลลา เสริม สตอรอเบอรี่ เงินงาม


การสร้างอาชีพจากความชอบ ผนวกกับความพยายาม จนกระทั่งประสบความสำเร็จ  เป็นตัวอย่างที่เกิดขึ้นมามากต่อมาก ไม่ว่าจะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอาหาร, เครื่องดื่ม หรืองานศิลปะต่าง ๆ  รวมไปถึง “เค้กวานิลลาสตรอเบอรี่” ซึ่งเป็นหนึ่งในเค้กโฮมเมดที่สามารถสร้างรายได้ ซึ่งทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้...  

 จิดาภา เหล็งเจริญ หรือ ปุ้ม  เจ้าของร้าน “พุทธิดาเค้ก” เล่าว่า สนใจทำเค้กโฮมเมดมาตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะชอบดูรายการประเภททำอาหาร และขนมมาก และในขณะนั้นคิดว่าการทำเค้กไม่น่าจะยากเกินไป หากจะทดลอง

“เมื่อเริ่มทำงาน ก็เริ่มเก็บเงินซื้ออุปกรณ์ และวัตถุดิบในการทำเค้ก และเริ่มลงมือฝึกฝนอย่างจริงจัง โดยใช้เวลาหาข้อมูลเกี่ยวกับสูตรทำเค้กจากแหล่งต่าง ๆ และมาประยุกต์ใช้ในการทำเค้กของตน โดยลองผิดลองถูกเป็นเวลา 6 เดือน เมื่อทำเค้กออกมาก็เริ่มแจกให้คนในครอบครัว และเพื่อน ๆ ลองชิม ซึ่งทุกคนบอกว่าอร่อย น่าจะขายได้ จึงเป็นสิ่งที่จุดประกายให้ทำเค้กขายมาจนปัจจุบัน”

จิดาภา กล่าวอีกว่า เค้กหลายชนิดที่ทำมา อาทิ คัพเค้กแฟนตาซี, เค้กช็อกโกแลต, เค้กใบเตยฝอยทอง, เค้กชาเขียวหน้านิ่ม ฯลฯ จะมีรสชาติกลมกล่อม ไม่หวานเกินไป โดยคำนึงถึงวัตถุดิบที่ใช้ เป็นสิ่งที่ทำให้เค้กขายได้มาจนถึงทุกวันนี้

อุปกรณ์ในการทำ “เค้กวานิลลาสตรอเบอรี่” หลัก ๆ ก็มีเครื่องตีแป้ง, หัวตีตะกร้อ, พิมพ์วงกลม, เตาอบ, ชามผสม, พายยาง ฯลฯ  อุปกรณ์ เบเกอรี่ต่าง ๆ เหล่านี้ถ้าลงทุนใหม่หมดก็อยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป

ส่วนผสมของ เค้กวานิลลาสตรอเบอรี่ ส่วนของ ตัวเค้ก มี ไข่ไก่ 3 ฟอง, น้ำตาลทราย 80 กรัม, เกลือ 1/4 ช้อนชา, น้ำ 35 กรัม, นมข้นจืด 40 กรัม, สารเสริม SP 15 กรัม, แป้งเค้ก 100 กรัม, ผงฟู 1 ช้อนชา, เนยสดจืด (ละลายน้ำ) 80 กรัม และกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา

วิธีทำ “ตัวเค้กวานิลลาสตรอเบอรี่” เริ่มที่ตีไข่ไก่, น้ำตาลทราย, น้ำ, นมข้นจืด และสารเสริม SP ให้เข้ากัน โดยตีไล่จากความเร็วต่ำไปถึงความเร็วสูงจนส่วนผสมขึ้นฟูสูงสุด จากนั้นใส่แป้งเค้ก และผงฟูลงไปตีผสมให้เข้ากัน ตีไปประมาณ 5 นาที แล้วค่อยใส่กลิ่นวานิลลาลงไป แล้วตีต่ออีก 1 นาทีด้วยความเร็วต่ำค่อย ๆ ใส่เนยที่ละลายน้ำไว้แล้วลงไปตีผสม แล้วตีด้วยความเร็วต่ำไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี

เทส่วนผสมลงในพิมพ์แป้งเค้กที่เตรียมไว้ แล้วนำเข้าเตาอบที่วอร์มความร้อนไว้ที่ 180 องศาเซลเซียส อบเค้กนานประมาณ 25-30 นาที โดยเช็กความสุกของเค้กโดยการใช้นิ้วมือสัมผัสเบา ๆ ที่ผิวหน้าเค้ก หากผิวหน้าเค้กสปริงตัวกับนิ้วมือดี ไม่ทิ้งรอยบุ๋มก็ใช้ได้ หรือใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มตรงกลางเนื้อเค้กก็ได้

เมื่อเค้กสุกให้นำออกจากเตา คว่ำพิมพ์เค้กลงกับตะแกรง แล้วพักเค้กให้เย็น เตรียมไว้

ส่วนผสมของ หน้าเค้ก  คือ บัตเตอร์ครีม มีส่วนผสม 2 ส่วน ส่วนแรก คือ น้ำเชื่อม ประกอบไปด้วย น้ำตาลทราย 600 กรัม, เกลือ 10 กรัม, น้ำ 180 กรัม และนมข้นจืด 150 กรัม วิธีทำ คือ  ผสมน้ำตาลทรายกับเกลือ, น้ำ และนมข้นจืด แล้วไปต้มด้วยไฟอ่อน ๆ คนให้เข้ากันเพื่อให้ละลายจนกลายเป็นน้ำเชื่อม แล้วพักไว้ให้เย็น เตรียมไว้

ส่วนที่สอง คือ ตัวครีม ประกอบไปด้วยเนยสด 250 กรัม และเนยขาว 300 กรัม วิธีทำ คือ นำเนยสด และเนยขาวมาตีให้เข้ากันจนกลายเป็นครีมที่ขึ้นฟูขาว ค่อย ๆ เทส่วนผสมของน้ำเชื่อมที่เตรียมไว้ก่อนหน้าลงไปในส่วนผสมของตัวครีม แล้วตีรวมให้ส่วนผสมทั้งสองส่วนเข้ากันจนกลายเป็นเนื้อครีมที่ขาวนวล ๆ ระหว่างที่ตีส่วนผสมทั้งสองนั้นให้ค่อย ๆ เทกลิ่นวานิลลาลงไปพอประมาณ

ขั้นตอนสุดท้าย คือ การแต่งหน้าเค้ก อุปกรณ์ที่ใช้ มี แป้นหมุน, ขดลวดสไลซ์เค้ก, หัวบีบ, พายยาง, ที่แบ่งหน้าเค้ก  และผลสตรอเบอรี่สด ประมาณ 10-20 ลูก

วิธีทำ เริ่มจากใช้ขดลวดสไลซ์เค้กตัดเค้กตามแนวนอน ออกเป็น 2 ชิ้น แล้วนำเค้กชิ้นใดชิ้นหนึ่งมาวางบนแป้นหมุน ใช้พายยางปาดครีมด้านข้าง และด้านบนตัวเค้กตามใจชอบ แล้วค่อย ๆ เกลี่ยให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำเค้กอีกชิ้นหนึ่งมาประกบ แล้วใช้พายยางปาดครีมกับตัวเค้กอีกครั้ง และค่อย ๆ เกลี่ยครีมให้เรียบทั่วตัวเค้กจากนั้นใช้ที่แบ่งหน้าเค้ก แบ่งหน้าเค้กออกเป็น 10 ชิ้น เสร็จแล้วตกแต่งเค้กด้านบน ด้วยหัวบีบที่ใส่บัตเตอร์ครีมลงไป ตกแต่งขอบเค้กด้านบนจนรอบ สุดท้ายวางผลสตรอเบอรี่สดลงบนหน้าเค้กแต่ละชิ้น

ใช้มีดตัดเค้กทำการตัดเค้กออกเป็นชิ้น ๆ แล้วนำเค้กแต่ละชิ้นบรรจุใส่กล่องพลาสติกแบบสามเหลี่ยม ปิดด้านข้างเค้กด้วยแผ่นพลาสติก เสร็จแล้วปิดฝากล่องให้เรียบร้อย ขายในราคาชิ้นละ 35 บาท หรือ 3 ชิ้น 100 บาท หรือหากขายเป็นปอนด์ จะขายราคาปอนด์ละ 250 บาท

                               

ใครสนใจ “เค้กวานิลลาสตรอเบอรี่” ต้องการติดต่อ จิดาภา เหล็งเจริญ เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-9992-6051 และที่ www.facebook.com/Putitdacake.

คู่มือลงทุน...เค้กวานิลลาสตรอเบอรี่

ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไป

ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 70% ของราคาขาย

รายได้ ราคา 35 บาท/ 1 ชิ้น

แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป

ตลาด ชุมชน, ร้านเบเกอรี่, ฝากขาย

จุดน่าสนใจ เป็นเค้กโฮมเมดที่ได้รับความนิยม

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล/สุรางค์รัตน์ เจนการ : รายงาน

วรัญญู เหมือนเดช : ภาพ

credit by :  http://dailynews.co.th/Content/Article/274772/‘เค้กวานิลลา’+เสริม+‘สตรอเบอรี่’+เงินงาม


Read More...


กระเพราไก่คลีนฟู้ด ” ถูกปากสุขภาพดี - สูตรเด็ด...พร้อมเสิร์ฟ


หยิบกระแสอาหาร “คลีน ฟู้ด” ติดมือไม้ติดมือกลับมาเมืองไทย พร้อมสำเร็จการศึกษาปริญญาโทด้าน Entrepreneurship มหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย ประเทศอังกฤษ “ฮู-นโรตม์ พิริยะรังสรรค์” หนุ่มกำยำวัย 24 ปี บุตรชาย ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ รองประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กับ ดร.กรรณชฎา พิริยะรังสรรค์ ผอ.มูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากจน ซี.ซี.เอฟฯ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปิ๊งไอเดียบุกเบิกไฟน์ ไดน์นิ่ง เดลิเวอรี่ ด้วยการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แก่อาหารคลีน ฟู้ด ลบคำสบประมาทว่าอาหารจานสุขภาพ ดีต่อร่างกายแต่ไม่อร่อยลิ้น ภายใต้ชื่อบริษัท เอชบีมิลเดิ้ล กรุ๊ป จำกัด ส่งความอร่อยทั่วไทย เป็นที่รู้จักในแบรนด์ “ไดมอนด์ เชฟ”ฉีกแนวจากการเรียนกฎหมายปริญญาใบแรกของชีวิต

“เคยทำงานด้านพัฒนาธุรกิจ บริษัท ล็อกเล่ย์ จำกัด (มหาชน) ช่วงนั้นสนุกกับความท้าทายของงาน จึงเบนเข็มไปเรียนบริหารธุรกิจ เพิ่งกลับมาหมาดๆ ได้ 1 เดือน มีโอกาสได้คุยกับเพื่อนสนิทลงทุนทำธุรกิจด้วยกัน ตอนอยู่ที่อังกฤษอาหารคลีน ฟู้ด แบบเดลิเวอรี่ กำลังฮิต จึงชวนเพื่อนว่ามาลองทำตรงนี้ดีไหม โชคดีที่คุณลุงทำงานธุรกิจโต๊ะจีนสั่งสมประสบการณ์มา 30-40 ปีแล้ว จึงนำต้นทุนชีวิตมาต่อยอดทำอาหารระดับพรีเมี่ยม ไฟน์ไ ดน์นิ่ง เดลิเวอรี่ โดยเริ่มจากอาหารจีนก่อน เช่น หูฉลาม, เนื้อวากิว และ รังนก เน้นคุณภาพแต่ราคาเอื้อมถึง นอกจากนี้ยังมีบริการเครื่องดื่มอีกด้วย” หนุ่มไฟแรงกล่าว  

สำหรับความสนใจด้านอาหาร หนุ่มที่มีชื่อเล่นเป็นภาษาเยอรมัน ซึ่งแปลว่า “ผู้มีสติปัญญา” เล่าว่า เริ่มต้นจากการชอบกินบางครั้งกินข้าวนอกบ้านความอร่อยโดนใจ คิดว่าถ้าทำด้วยตัวเองต้องให้อร่อยไปเลย จึงไปเสริมทักษะฝึกเรียนทำอาหาร คอร์สสั้นๆ ที่ประเทศอังกฤษจนคว้าประกาศนียบัตรมาการันตีความสามารถ พอทำได้และชิมได้ แต่หลักๆ ธุรกิจนี้มีพ่อครัวช่วยควบคุม ส่วนใหญ่ตัวเองคิดค้นเมนูใหม่ เพิ่มรสชาติใหม่ ตอบโจทย์ให้อาหารคลีนรสชาติดีหนีจากความเชื่อเดิมที่ฝังใจว่าไม่อร่อย”

ก่อนลงมือทำ คุณฮู ให้ความรู้ว่า “อาหารคลีน ฟู้ด คือ อาหารที่ผ่านกรรมวิธีการผลิตน้อยที่สุด เช่น เนื้อสัตว์ต่างๆ ไข่ ข้าวกล้อง ธัญพืช ผัก ผลไม้สดๆ กรดไขมันแบบดี มีวิธีการปรุงที่ไม่ต้องเสริมแต่งรสมาก ไม่ทอดน้ำมันท่วม เวลาผัดก็ใช้น้ำมันพวกน้ำมันมะกอกนิดหน่อย อาหารรสจัดๆ เช่น ยำ ส้มตำ ใช้น้ำปลา เกลือ โซเดียมเยอะๆ ส่งผลให้บวมน้ำ ไม่ควรมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบหลัก อาหารคลีนทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ที่สุด เพราะกระเพาะอาหารจะใช้เวลาแยกสารอาหารไม่นาน ทำให้ดูดซึมวิตามินและสารอาหารได้เต็มที่และเป็นมิตรต่อลำไส้อีกด้วย”

ปัจจุบันนี้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายสนใจด้านสุขภาพมากขึ้น จริงๆ เรื่องการกินมีความสำคัญ ร้อยละ 60-70 ออกกำลังกายมีความสำคัญ ร้อยละ 30-40 ต่อการลดน้ำหนัก เมนูวันนี้จึงเลือกทำจานเบสิกแต่รับรองว่าอร่อยแน่นอนอย่าง “กะเพราะไก่คลีนฟู้ด” วัตถุดิบและส่วนผสม ประกอบด้วย ไก่ส่วนอก 350 กรัม, ใบกระเพราตามชอบ, พริก 3-4 เม็ด, กระเทียม 3-4 กลีบ, ซีอิ๊วขาว 5 ช้อนชา, ซอสปรุงรส 5 ช้อนชา, น้ำตาล 2 หยิบมือ, น้ำมันมะพร้าว และพริกสำหรับโรยหน้าเอาเม็ดออก วันนี้เลือกใช้ไก่ออร์แกนิก ซึ่งผ่านระบบการเลี้ยงแบบธรรมชาติและไม่มีความมัน วิธีทำ โขลกพริกกระเทียมให้ละเอียด นำกระทะตั้งไฟฉีดน้ำมันมะพร้าวให้ทั่วกระทะ พอร้อนให้นำพริกกระเทียมลงผัด ใส่เนื้อไก่ที่สับละเอียด ผัดคลุกเคล้าจนกระทั่งสุก ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรสและน้ำตาลทราย เมื่อเข้าที่แล้วใส่ใบกระเพราตามลงใบเพื่อให้กินหอม เสร็จแล้วตักใส่จาน โรยหน้าด้วยพริกตกแต่งให้สวยงาม    แต่ถ้าใครเปรี้ยวปากอยากกินแต่คร้านที่จะทำ คุณฮูแนะนำให้สั่งเมนูนี้ได้ที่ คุณศศิพงศ์ โทร.08-5509-8448 หรือ Line ID: beermiddle1 ในกรุงเทพฯ หากติดต่อรับที่ร้านอาหารบ้านหญิง สาขาสยามกิจ (สยามสแควร์ ซอย 5) โปรโมชั่นฟรีเค้กหรือข้าวไข่ข้น.

‘ช้องมาศ ’

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/274704/_กะเพราไก่คลีนฟู้ด_+ถูกปากสุขภาพดี

Read More...


แกงคั่วเนื้อปู ใบชะพลู


แกงคั่วใบชะพลูเป็นเมนูแกงคั่วดั้งเดิมของไทย ที่สำคัญช่วงนี้ยังเป็นช่วงฤดูฝน ใบชะพลูเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยในเรื่องหวัดได้ดี การทำแกงคั่วให้อร่อยควรใช้ครกในการตำน้ำพริกแกง เพราะทำให้น้ำมันหอมระเหยของสมุนไพรต่างๆ ออกมาได้มากกว่าการปั่น และแกงคั่วที่อร่อยต้องมีรสชาติ เผ็ด เค็ม มัน หวานนิดๆรวมกัน
จากกิจกรรมเวิร์กช็อปที่ค่ายเดอะมอลล์จัดขึ้นให้กับสมาชิก M Card ได้เรียนรู้การทำอาหารไทยกับ เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ซึ่งเป็นครั้งแรกของสมาชิกบางคนที่ได้มาเรียนรู้การทำอาหารไทย ต่างบอกถึงความรู้สึกว่าอาหารไทยไม่ได้ยากอย่างที่คิด แม้จะมีส่วนผสมหลายอย่างที่ทำให้คิดไปเองว่า อาหารไทยค่อนข้างยาก เมื่อได้มาเรียนรู้ในกิจกรรมที่ M Card จัดให้ ทำให้ได้รู้ทั้งเคล็ดลับและประสบการณ์ใหม่ๆมากมาย สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกเมนูคาวหวาน

รวมทั้งความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่นำมาใช้เป็นเครื่องปรุงในเมนูต่างๆ เชฟชุมพล ยังบอกด้วยว่า เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการทำอาหารไทยให้อร่อย อยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพด้วย และยังแนะนำการสังเกตความสดของเนื้อปู เพียงลองดมดู ถ้าเนื้อปูมีกลิ่นแอมโมเนีย แสดงว่าไม่มีความสด หรือแม้แต่เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ใบมะกรูดที่จะใส่ลงไปในแกง ก็ไม่ควรที่จะฉีกหรือหันทิ้งไว้ เพราะจะทำให้กลิ่นหอมของใบมะกรูดหายไป และต้องคำนึงถึงรสชาติของส่วนผสมก่อนการปรุงรส อย่างตัวใบชะพลูซึ่งจะให้รสหวานอยู่แล้ว ก็ไม่ควรใส่น้ำตาลให้มากเกินไป จะทำให้เสียรสชาติ

เครื่องแกงคั่ว : น้ำพริกแกงเขียวหวาน 55 กรัม/หอมแดง 25 กรัม/กระเทียม 20 กรัม/ข่า 10 กรัม/กะปิ 5 กรัม/ตะไคร้ 18 กรัม/ขมิ้น 15 กรัม/ผิวมะกรูด 5 กรัม/พริกขี้หนูสวน 15 กรัม/รากผักชี 7 กรัม

เครื่องปรุงแกงคั่วเนื้อปูใบชะพลู : หัวกะทิ 300 กรัม/น้ำพริกแกงคั่ว 150 กรัม/ปลาเนื้ออ่อนป่น 30 กรัม/น้ำตาลปี๊บ 15 กรัม/ น้ำปลา 45 กรัม/หางกะทิ 150 กรัม/เนื้อปู 240 กรัม/ใบชะพลู 45 กรัม/ใบมะกรูดฉีก 6 ใบ/เกลือสมุทร ปริมาณตามชอบ .......วิธีทำ 1). ปั่นส่วนผสมของเครื่องแกงคั่วทั้งหมดในเครื่องปั่น อาหารให้ละเอียดก่อนนำไปโขลกต่อ เพื่อให้น้ำพริกแกงเนื้อเนียน 2).ตั้งหม้อบนเตาใช้ไฟกลาง ใส่หัวกะทิประมาณ 50 กรัมลงในหม้อ พอเดือด (แต่อย่าให้แตกมัน) จึงใส่พริกแกงคั่วลงผัดให้ละลาย เมื่อกะทิเริ่มข้นและพริกแกงมีกลิ่นหอม ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไป 3).ใส่ปลาเนื้ออ่อนป่น ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ เกลือ และน้ำปลาจนได้รสที่ต้องการ เคี่ยวให้เดือด หมั่นคนเป็นระยะๆ หากน้ำแกงข้นไปให้เติมหางกะทิ 4).ชิมรสได้ที่แล้วใส่เนื้อปู ใบชะพลู และใบมะกรูด คนให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟได้เลย.

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/455459

Read More...


สวย หุ่นดี ทำง่าย อร่อยได้ด้วย 'กรีนฟู้ด'


เป็นประจำทุกสุดสัปดาห์แบบนี้ พบกับคอลัมน์ Trend can do อีกเช่นเคย สัปดาห์นี้พบกับอาหารเพื่อสุขภาพ หรือกรีนฟู้ด ที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงสำหรับสาวๆ เฮลตี้ เราจะมาทำ "Overnight Oats”...
“อาหารเพื่อสุขภาพ” หรือ “กรีน ฟู้ด” กำลังเป็นเทรนด์บริโภคที่มาแรงสำหรับผู้รักสุขภาพ และโดยเฉพาะสาวๆ ที่ต้องการดูแลรูปร่าง และผิวพรรณให้สวยสดใสอยู่เสมอ แพทย์หญิง ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือคุณหมอผิง มาให้คำแนะนำเมนูอาหารเช้าในแบบกรีนฟู้ดที่สามารถทำได้ง่ายๆ และรับประทานได้ทุกวัน เพื่อให้สาวๆ ได้ลองนำกลับไปทำเองได้ที่บ้าน ภายในงานโอเรียนทอล พริ้นเซส โซไซตี้ “44 กรีน อะเจนดา ปาร์ตี้”
สิ่งที่ต้องเตรียม



สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ข้าวโอ๊ต
2. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (ไขมันต่ำ)
3. นมถั่วเหลืองจืด
4. ผงโกโก้
5. ผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ เช่น กีวี่ สตรอเบอร์รี่
6. น้ำผึ้ง
7. อัลมอนด์



เตรียมของให้พร้อม
ขั้นตอนการทำ 
1.ใส่ข้าวโอ๊ต 5 ช้อนโต๊ะ (สำหรับรับประทาน 1 ที่) ลงในถ้วยที่เตรียมไว้ ผสมกับโยเกิร์ตสำเร็จรูป 1 ถ้วย และตามด้วยนมถั่วเหลืองจืด 1 ถ้วย



ใส่ข้าวโอ๊ต
ใส่โยเกิร์ต
2. โรยผงโกโก้ลงไปเล็กน้อย ก่อนผสมน้ำผึ้งนิดหน่อยเพื่อเพิ่มความหวาน



โรยผงโกโก้
3. คลุกเคล้าให้เข้ากัน



คลุกเคล้าให้เข้ากัน
4. ตักใส่ขวดโหล แล้วแช่ตู้เย็นค้างไว้อย่างน้อย 1 คืน เพื่อให้ส่วนผสมได้รสชาติที่พอดี
5. นำผลไม้ตามชอบใส่ลงไป โรยด้วยอัลมอนด์ด้านบน พร้อมรับประทานได้ทันที



นำผลไม้ตามชอบใส่ลงไป




พร้อมรับประทานได้ทันที
credit by :  http://www.thairath.co.th/content/455631

Read More...


ไก่อบสมุนไพร ซื้อง่าย ขายคล่องทุกยุค


ไก่ย่าง ไก่อบหนังกรอบ ๆ กลิ่นหอม ๆ กับข้าวเหนียวร้อน ๆ พร้อมน้ำจิ้มรสแซบ ยังคงเป็นคู่หูเมนูอาหารแบบบ้าน ๆ ที่ซื้อข่าย-ขายคล่อง ซึ่งวันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” จะพาไปรู้จักกับสูตรไก่อบสูตรหนึ่งที่ขึ้นชื่ออยู่แถบ จ.ชลบุรี มานานกว่า 20 ปี และเรียกขานกันในชื่อเมนู “ไก่อบสมุนไพร”

วิทยา ตันวรกุล หรือ ลุงแดง วัย 52 ปี เป็นเจ้าของสูตรเด็ด “ไก่อบสมุนไพร” ที่ทำขายมานานกว่า 20 ปีแล้ว โดยเจ้าตัวเล่าว่า อดีตทำงานเป็นพนักงานธนาคาร ส่วนภรรยาขายไก่อบ ซึ่งเป็นสูตรที่ได้มาจากญาติอีกทีแต่นำมาปรับปรุงจนกระทั่งลงตัวเป็นสูตรของตนเอง และเมื่อ 12 ปีก่อนได้ออกจากงานมาขายไก่อบเต็มตัว

“ที่ยืนหยัดขายได้มาจนทุกวันนี้ ทั้ง ๆ ที่มีอุปสรรคมากมากมาย ก็เพราะเราเอาใจใส่ต่อคุณภาพ รสชาติ
ดังนั้นลูกค้าจึงไว้ใจ ไม่ว่าใกล้-ไกลแค่ไหนก็มาซื้อกันประจำ”


ดูจากภายนอก แม้ร้านที่ขายเป็นเพียงแค่ร้านริมทางธรรมดา แต่อุปกรณ์ที่ทำไก่อบให้อร่อยนั้นไม่ธรรมดาเลย เริ่มที่ “เตาอบแก๊ส” ที่ทำจากสแตนเลส อบไก่ได้คราวละ 14 ตัว สั่งทำมาเฉพาะด้วยราคา 50,000 บาท
(เตาอบสามารถดัดแปลงลดต้นทุนโดยเปลี่ยนเป็นใช้ถังน้ำมันขนาด 200 ลิตรได้), “เตาย่าง” ก็สั่งทำ
ใช้ตะแกรงย่างสแตนเลส ราคาไม่เกิน 10,000 บาท, “ตู้โชว์ไก่+ราวแขวน” ราคาราว 20,000 บาท

เครื่องเทศไก่อบนั้น ลุงแดงบอกว่า จะต้องหมักด้วยขมิ้นผง ประมาณ 1 ทัพพี, เกลือ 3-4 ช้อนโต๊ะ,
รากผักชีทุบ 10 กว่าราก, กระเทียมสับละเอียดประมาณ 1/2 กิโลกรัม, พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
และน้ำผึ้ง ประมาณ 1/4 ของขวด สัดส่วนนี้ต่อไก่ตัวขนาด 1.1-1.3 กก. จำนวน 20 ตัว
ซึ่งไก่สดนั้นก่อนที่จะนำมาหมักจะต้องตัดปีก ตัดขาและผ่าครึ่งตัวก่อน แล้วจึงนำมาหมักเครื่องเทศทิ้งไว้ 1 คืน

นอกจากไก่ ยังสามารถทำเป็น “คอหมูอบ-ซี่โครงหมูอบสมุนไพร” ซึ่งถ้าใช้วัตถุดิบประมาณ 20 กก.
จะใช้เครื่องเทศหมักเท่ากับไก่ดังที่ว่ามา แต่จะเพิ่มปริมาณน้ำผึ้งให้มากขึ้นหน่อย หมักทิ้งไว้ข้ามคืนเช่นกัน

หมักไก่ข้ามคืนจนได้ที่แล้ว ก็นำมาเข้าสู่กระบวนการอบ โดยจะอบไก่คราวละ 14 ตัว
เตาอบนั้น นอกจากจะใช้แก๊สแล้วยังใช้ไฟฟ้าด้วย นำไก่ชุดแรกเข้าไปอบด้วยอุณหภูมิกว่า 100 องศาฯ
โดยใช้เวลาอบ 90 นาที แล้วนำออกจากตู้ นำไก่หมักอีกชุดเข้าตู้อบต่อทันที ซึ่งชุดถัด ๆ ไปนั้นจะใช้เวลาอบเพียง 1 ชั่งโมงเท่านั้น เนื่องจากอุณหภูมิความร้อนของตู้อบได้ที่แล้ว เมื่ออบไก่ได้ที่แล้วก็นำไปแขวนโชว์ได้ทันที

เมื่อมีลูกค้ามาสั่งไก่ ลุงแดงจะต้อง “นำไก่อบไปย่างด้วยเตาถ่านให้ร้อนอีกครั้งหนึ่งเสียก่อน”
โดยที่จะต้องทำ “น้ำหมักไก่” อีกชุดต่างหาก ระหว่างที่ย่างไก่ก็ทาน้ำหมักลงไปด้วยเป็นระยะ
เพื่อให้น้ำหมักซึมเข้าไปในเนื้อไก่ โดยที่ไก่ 1 ตัวจะขายได้ในราคา 120-160 บาท ตามแต่ขนาดเล็ก-ใหญ่

ส่วนถ้าเป็นคอหมูอบ (ใช้คอหมูแท้หรือคอหมูชั้นหนึ่ง) และซี่โครงหมูอบสมุนไพร เมื่อหมักข้ามคืนแล้ว
ก็นำไปอบเช่นเดียวกับไก่ แต่จะอบประมาณ 30 นาทีเท่านั้น และเวลาขายนั้นจะต้องหั่นเป็นชิ้น ๆ ก่อนที่จะนำไปย่างอีกครั้ง เพื่อที่น้ำหมักจะได้ซึมเข้าหมูแบบถึงน้ำถึงเนื้อ ราคาขายของคอหมูอบ และซี่โครงหมูอบ คือ กก.ละ 350 บาท หรือขีดละ 35 บาท

“น้ำหมักนั้นต้องถึงเครื่องแบบพอดี ๆ ไม่มากไป ไม่น้อยไป และใช้ของดี มีคุณภาพ
จะได้รสชาติที่อร่อยแบบรสชาติสมุนไพรจริง ๆ” ลุงแดงบอกเคล็ดลับ


อย่างไรก็ตาม ไก่อบสมุนไพร หรือคอหมูอบ-ซี่โครงหมูอบสมุนไพร จะขาดตัวชูโรงคือน้ำจิ้มไม่ได้
มิฉะนั้นจะไม่ครบเครื่อง โดยน้ำจิ้มของร้านนี้จะมีทั้ง “น้ำจิ้มแจ่วซีฟู้ด” และ “น้ำจิ้มหวาน”
โดยที่น้ำจิ้มแจ่วซีฟู้ดนั้นลุงแดงบอกว่าสามารถผสมรวมกันได้ เพราะรสชาติไม่ต่างกันมาก
และนำไปใช้จิ้มอาหารทะเลได้

น้ำจิ้มแจ่วซีฟู้ดส่วนผสมตามสูตรก็มี น้ำปลาอย่างดี 1 ขวด, มะนาว 20-25 ผล, น้ำตาลทราย 1 กก., พริกป่น และพริกขี้หนูสวนปั่นละเอียด (ปริมาณพริกนี้ขึ้นอยู่กับการชิมรสว่าต้องการเผ็ดมากหรือเผ็ดน้อย) และเพิ่มสีสันด้วย ต้นหอม และหอมแดงซอย

สำหรับน้ำจิ้มหวาน ใช้พริกขี้หนูแดงปั่น 1 กก., น้ำส้มสายชู 6 ขวด, น้ำตาลทราย 1 กก.
ตั้งไฟเคี่ยวให้เข้ากัน เท่านี้ก็ใช้ได้

นอกจากอบ-ย่างขายสำเร็จรูปแล้ว ร้านลุงแดงยังมีไก่หมักแช่แข็งแพ็คไว้ขายผู้ที่ต้องการซื้อกลับไปแช่ไว้เพื่อทำกินเองที่บ้านในภายหลังด้วย ราคาอยู่ที่ตัวละ 90 บาท ซึ่งก็มีลูกค้าสนใจซื้อกันมากทีเดียว

ก็เป็นอีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่นำมาฝากกัน ใครในพื้นที่อื่นสนใจอาชีพนี้ก็ลองนำสูตรไปฝึกฝนกันดู
หรือใครอยากลองชิมฝีมือ “ไก่อบสมุนไพร” ลุงแดงก็แวะเวียนไปได้ที่ร้านที่อยู่ริมถนนพระยาสัจจา ต.เสม็ด อ.เมือง จ. ชลบุรี โดยถามทางได้ที่ โทร.08-9669–6909 ร้านนี้เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.

คู่มือลงทุน...ไก่อบสมุนไพร
ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 80,000 บาท
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 70-90 บาท/ตัว
รายได้ ราคา 120-160 บาท/ตัว
แรงงาน 2 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านอาหาร-ชุมชน-ริมถนน
จุดน่าสนใจ เป็นเมนูที่ซื้อง่าย-ขายคล่อง

ที่มา เดลินิวส์

credit by : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=05-2009&date=30&group=16&gblog=97

Read More...


ไก่หมุน ปลาเผา ขายคู่ทำเงินไม่สะดุด


อาหารย่างที่ใช้วิธี “ย่างเตาถ่าน” นั้นปัจจุบันกลับมาได้รับความนิยม เพราะนอกจากจะเป็นวิธีที่คลาสสิกแล้ว ยังได้รสชาติที่ได้อร่อยแบบเข้าถึงเนื้ออีกด้วย ซึ่ง “ไก่หมุน–ปลาเผา” ก็เข้าข่าย และวันนี้ “ช่องทางทำกิน” มีสูตรของ “คุณนุ้ย-ทองเริ่ม จันทร์มี” และ “สมจิตร จันทร์มี” ซึ่งยึดอาชีพนี้มา 7 ปี มานำเสนอ...

คุณนุ้ยเล่าว่า เคยเป็นเซลส์ขายเสื้อผ้าเด็กมาก่อน เมื่อเวลาผ่านไปคิดว่าถ้าขายของเองน่าจะได้กำไรดีกว่า จึงได้หันมาขาย “ไก่หมุน” ส่วนสูตรนั้นได้มาจากคนรู้จักแถวบ้าน เพราะบ้านตนเองถูกไฟไหม้
เขาเห็นก็เลยให้สูตรมา เพื่อที่จะใช้ทำกินฟื้นตัว ก็นำมาทดลองทำ พลิกแพลงจนกลายเป็นสูตรเฉพาะของตัวเองมาจนถึงทุกวันนี้

ในตอนเริ่มแรกที่ทำธุรกิจนี้ใหม่ ๆ นั้น จะขายไก่ได้ประมาณวันละ 150 ตัว
แต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้มีข่าวไข้หวัดนกระบาด ทำให้ความนิยมลดลง แต่ก็ยังพออยู่ได้
โดยปัจจุบันขายได้วันละ 40-50 ตัว และได้เพิ่มเติมเมนู “ปลาเผา” โดยใช้ปลานิลเป็นปลาหลัก
และมีปลาทับทิม ปลาซาบะ เสริมให้ดูหลากหลายด้วย

นอกจากนี้ ยังเพิ่มเติมกลยุทธ์เรียกลูกค้าแบบถึงอกถึงใจ ด้วย “เดลิเวอรี่ บริการส่งอาหารถึงบ้าน”
โดยคิดค่าบริการเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเท่านั้น !!

ขั้นตอนการทำไก่หมุน คุณนุ้ยบอกว่าไม่มีอะไรยุ่งยาก เริ่มต้นที่การใช้ “ไก่สด” ที่ทำสำเร็จแล้ว
โดยใช้ขนาดน้ำหนักตัว 1.1-1.2 กก. เมื่อทำเป็นไก่หมุนเรียบร้อย แล้วน้ำหนักจะเหลือประมาณ 1 กก.
แต่ปัจจุบันใช้ไก่จากฟาร์มเลี้ยงระบบปิด ทำให้เลือกไก่ไม่ได้มาก ซึ่งเมื่อก่อนจะใช้ไก่ที่ชาวบ้านเลี้ยงกัน สามารถเลือกขนาดได้ง่ายกว่า

เมื่อได้ไก่มาแล้วจะนำมาตัดตั้งแต่ส่วนคอและข้อหัวเข่าไก่ออกก่อน
ตัดเสร็จเรียบร้อยก็จะทำความสะอาดด้วยน้ำ โดยจะเน้นทำความสะอาดที่ “ปอด” กับ “ก้นไก่” ให้มากกว่าจุดอื่น เพราะทั้ง 2 ส่วนนี้จะมีเศษมัน เศษเมือกอยู่มาก ขั้นตอนการล้างทำความสะอาดนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที /ตัว แล้วพักให้สะเด็ดน้ำอีกประมาณ 10 นาที

เพื่อไม่ให้เสียเวลา ระหว่างที่รอไก่สะเด็ดน้ำ ก็จะเตรียมส่วนผสมสำหรับ “หมักไก่” โดยจากสูตรต่อไปจะใช้หมักไก่ได้ 100 กก. ใช้ตะไคร้ 2 มัดใหญ่ ตัดใบออก, ใบมะกรูด 2 กำใหญ่, กระเทียมสด 1 กก., กระเทียมดองแท้, พริกไทยดำ (เม็ด) เมล็ดผักชี อย่างละ 500 กรัม, ขมิ้นชัน 1 กก. และเกลือป่นอีก 25 ถุง นำส่วนผสมทั้งหมดรวมกันใส่เครื่องปั่นให้ละเอียด แล้วนำไปใช้หมักไก่ โดยหมักในถุงพลาสติกใบใหญ่ ก่อนที่จะปิดถุงแช่น้ำแข็ง

การหมักให้ราด “น้ำมันหอย” ลงไปด้วยพอประมาณ เพื่อให้ไก่ได้รสชาติที่หอมยิ่งขึ้น

หมักน้ำแข็งทิ้งไว้ 1 คืน เมื่อถึงเวลาขายก็จะเสียบเหล็กยาวย่าง และใช้ไม้ลูกชิ้นเสียบไก่ให้แน่น ไม่ให้หลุดจากเหล็ก ซึ่งขั้นตอนการเสียบเหล็กย่างนี่คุณนุ้ย เรียกว่า “นั่งเก้าอี้” เมื่อเรียงไก่จนเต็มเหล็กยาวแล้ว ก็จะนำไก่ไปหมุนย่างกับเตาถ่านที่ไฟร้อนกรุ่น ๆ อยู่ด้านล่าง โดยอุปกรณ์สำหรับย่างนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ต้องสั่งทำพิเศษ ใช้มอเตอร์เป็นตัวขับเคลื่อน และใช้ไฟฟ้าเป็นแหล่งให้พลังงาน ซึ่งอุปกรณ์นี้ราคาสั่งทำประมาณ 20,000 บาท

เคล็ดลับที่จะทำให้ไก่หมุนออกมาอร่อยนั้น จะต้อง ใช้ไก่ที่สดใหม่ บวกกับการหมุนไก่ให้ได้ที่
ให้ไก่ออกสีน้ำตาล อ่อน ๆ ดูแล้วชวนกิน ซึ่งจะใช้เวลาหมุนย่างประมาณ 40-50 นาที
ส่วนน้ำจิ้มก็ต้องทำให้รสชาติออกมาหวาน กลมกล่อม สามารถเข้ากับเนื้อไก่หมุนได้อย่างลงตัว

สูตรน้ำจิ้มรสเด็ด
จะมีส่วนผสมของ มะขามเปียก, กระเทียมดอง, กระเทียมกลีบ, พริกขี้หนูอย่างละ 1 กก.,
น้ำตาลทรายแดง 2 กก., น้ำตาลปี๊บ 2 กก. และน้ำสะอาดอีก 5 ลิตร นำมาปั่นรวมกันให้ละเอียด
แล้วอาจจะเติมหรือไม่เติมผงชูรสและผงปรุงรสก็ได้ จากนั้นนำส่วนผสมที่ปั่นเรียบร้อยแล้วไปเคี่ยวกับไฟอ่อน ๆ สักพัก ก็ใช้ได้


นอกจากไก่หมุนแล้ว อีกเมนูหนึ่งของร้านคุณนุ้ยที่เพิ่มเติมขึ้นมาสู้กับไข้หวัดนกก็คือ
“ปลานิลเผา-ปลาทับทิมเผาคลุกเกลือ” ขั้นตอนการทำคุณนุ้ยบอกว่า เหมือนกับการทำปลาทั่ว ๆ ไป

นำปลาตัวขนาดประมาณ 700 กรัม มาผ่าท้องเอาไส้ออก และล้างด้วยการใช้แปรงสีฟันขูดเอาเมือกดำ ๆ ออกให้หมด แล้วก็เอาใบมะกรูด 2-3 ใบยัดเข้าไปในท้องปลา นำไปคลุกเกลือ 1 รอบ จากนั้นก็เอาลงเตาเผาได้

ส่วนปลาอีกอย่างคือ “ปลาซาบะย่าง” ช่วงนี้ใช้ “ปลาโอวบะ” แทน การทำก็เอาเหงือกออก และบั้งตามตัวปลา ใช้ซีอิ๊วหวานราดให้ทั่ว ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ เท่านี้ก็เอาลงเตาย่างได้แล้วเช่นกัน ซึ่งปลาเผานี้ใช้เวลาเผาหรือย่างไม่เกิน 20 นาทีก็ใช้ได้แล้ว โดยจุดเน้นคือต้องหมั่นคอยดูถ่านให้ร้อนสม่ำเสมอ ไม่ร้อนมาก-น้อยเกินไป

สำหรับน้ำจิ้มปลาเผานั้นมี 2 แบบ คือ

“น้ำจิ้มซีฟู้ด”
ก็ปั่นกระเทียมกลีบ 1 กก. ต่อพริกขี้หนู 1 กก. ให้ละเอียด จากนั้นผสมด้วยน้ำมะนาว 1 ขวด, น้ำปลา 2 ขวด, น้ำเปล่า 1 ขวด, น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม, ผงชูรสเล็กน้อย คนให้เข้ากัน เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย

และ “น้ำจิ้มแจ่ว”
ใช้พริกขี้หนูคั่ว และกระเทียมคั่วอย่างละ 1 กก. ปั่นให้ละเอียด ผสมด้วยน้ำตาลปี๊บ 500 กรัม,
น้ำมะนาว 1 ขวด, น้ำปลา 2 ขวด, น้ำเปล่า 2 ขวด และปรุงรสด้วยชูรสนิดหน่อย

“การที่จะทำน้ำจิ้มทุกอย่างให้อร่อย มีรสหวาน หอม ให้เพิ่มรากผักชีสัก 200-300 กรัม ลงไปปั่นด้วย
ก็จะได้น้ำจิ้มอร่อย ๆ ตามที่ต้องการ” คุณนุ้ยเผยเคล็ดลับอีกส่วน


ไก่หมุนร้านนี้จะขายตัวละ 100-110 บาท ส่วนปลาเผาขายตัวละ 50-80 บาท

ร้านขาย “ไก่หมุน-ปลาเผา” ของคุณนุ้ย อยู่ที่ปากซอยปลูกจิต ถนนพระรามที่ 4 ขายตั้งแต่เวลา 15.00-21.00 น. และสามารถสั่งไปใช้ในงานเลี้ยงต่าง ๆ พร้อมเมนูส้มตำ ลาบ น้ำตก ได้ด้วย โดยติดต่อที่ โทร. 08-9881-1671

นี่คืออีกหนึ่ง “ช่องทางทำกิน” ที่แม้บางครั้งอาจจะมีอุปสรรคมากระทบบ้าง
แต่ถ้ารู้จักพลิกแพลง การทำกิน อาหารย่างรูปแบบนี้ก็สามารถทำเงินต่อไปได้แบบไม่มีสะดุด !!

สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล/โสภนา กิตติรัตน์ชัชวาล
ที่มา เดลินิวส์

credit by :  http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=06-2009&date=02&group=16&gblog=98

Read More...


‘ฮ่อยจ๊อ กุ้ง ปู’ ‘ถึงเครื่อง’รายได้จึงถึงขั้น


ถ้าเอ่ยถึง จ.เพชรบุรีแล้ว ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึง ขนมหม้อแกง เป็นอันดับแรก เพราะเป็นขนมที่ขึ้นชื่อที่ อร่อยจนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำ จังหวัด แต่อาหารการกินอย่างอื่นที่นี่ก็ขึ้นชื่อ มีความโดดเด่นไม่แพ้กันอาทิ ข้าวแช่เมืองเพชร ขนมจีน ทอดมัน เป็นต้น และวันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลอีกหนึ่ง ผลิตภัณฑ์สินค้ายอดนิยม OTOP ห้าดาวระดับประเทศ ซึ่งเป็นของ จ.เพชรบุรี มานำเสนอ นั่นคือ“ฮ่อยจ๊อ” หรือ “หอยจ๊อ”

“จินดา วัฒนพงศ์พรชัย” หรือ “ป้าเจ็ง” ปัจจุบัน อายุ 66 ปี เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ “ฮ่อยจ๊อ แม่จินดา”
ตั้งอยู่ที่ 25 หมู่ 2 ต.บางตะบูน อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ได้เล่าให้ฟังถึง ที่มาของสินค้าว่า...
เริ่มทำฮ่อยจ๊อมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2540 ก่อนที่จะมาทำอาชีพนี้ เคยทำโพงพางดักจับสัตว์น้ำมาก่อน
และทำเลแถวที่ ทำอาชีพอยู่นั้น เป็นพื้นที่ติดปากอ่าว เป็นแหล่งวัตถุดิบ มีของสดจากทะเลมาก และราคาถูก

“ออกเรือครั้งหนึ่งจะได้ทั้ง ปู ปลา กุ้ง ส่วนหนึ่งนำไปขาย และส่วนหนึ่งเก็บไว้กินในครอบครัว
เพราะมีลูก 7 คน ลูกยิ่งโต รายจ่ายก็เพิ่มขึ้น จึงคิดหารายได้เสริม นำของสดที่ได้มาแปรรูป
นึกถึง ฮ่อยจ๊อ เป็นอันดับแรก เพราะทุกเทศกาล งานบุญมักจะมีการนำฮ่อยจ๊อไปไหว้
ที่สำคัญคือ ได้สูตรการทำมาจากคุณแม่ ถ่ายทอดกันรุ่นต่อรุ่น ลองผิดลองถูกมาเรื่อย แล้วนำไปขายที่ ตลาดนัดทำการตลาด จากการสอบถามลูกค้า เพื่อให้ติชม นำมาปรับปรุงสูตร จนรสชาติอร่อยลงตัวอย่างทุกวันนี้”

ป้าเจ็งบอกว่า จุดเปลี่ยน ที่สำคัญเกิดขึ้นหลังมีถนนตัดผ่านเข้ามาในชุมชน เกิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว
มีแขกต่างถิ่นแวะเวียนกันเข้ามา หลายคนมีโอกาสได้ชิมแล้วติดใจ จึงซื้อฮ่อยจ๊อของป้าไปเป็นของฝากเพื่อนฝูงและญาติพี่น้อง จนเกิดกระแสบอกต่อปากต่อปาก ทำให้มีลูกค้าทั่วสารทิศเดินทางมาซื้อมากขึ้นเรื่อย ๆจนมีชื่อเสียง ต้องทำเพิ่มมากขึ้น กลายเป็น อุตสาหกรรมครอบครัว

ฮ่อยจ๊อ กุ้ง ปู ถึงเครื่อง รายได้จึงถึงขั้น

ทั้งนี้ ป้าเจ็งมีการพัฒนา ดัดแปลงผลิตภัณฑ์ให้มีคุณภาพขึ้นเรื่อย ๆ ปัจจุบันกระแสคนรักสุขภาพกันมากขึ้นมากแรง ก็เพิ่ม ปรับส่วนผสม จากเมื่อก่อนจะใช้ หมูมัน แต่เดี๋ยวนี้ใช้หมูสันคอผสมหมูสามชั้น ตามด้วยเนื้อกุ้งสด เนื้อปูม้า และแห้ว เพื่อเพิ่มรสชาติให้มีความกรอบอร่อยยิ่งขึ้น

“จุดขาย เคล็ดลับความอร่อย คือ ฮ่อยจ๊อ ที่นี่จะอัดแน่นไปด้วยเนื้อปูมากเป็นพิเศษ เคล้าเครื่องเทศพอหอมปรุงรสชาติกลมกล่อม เมื่อกัดฮ่อยจ๊อลงไปสามารถสัมผัสเนื้อปูได้ทันที”

ส่วนผสม/วัตถุดิบ
เนื้อสันคอ กับหมูสามชั้น 10 กก.
กุ้งสดแกะเปลือก 3 กก.
ปูม้าแกะ 5 กก.
แป้งสาลี2.4 กก.
ไข่ไก่ 15 ฟอง
พริกไทย,กระเทียม, แห้ว, เครื่องปรุงรส, ต้นหอม, แผ่นฟองเต้าหู้

ฮ่อยจ๊อ กุ้ง ปู ถึงเครื่อง รายได้จึงถึงขั้น

อุปกรณ์.... เครื่องผสม
บล็อกพิมพ์ฮ่อยจ๊อ (สั่งทำ), กาละมังสแตนเลสหลายขนาด, เขียงขนาดใหญ่, ถาดสแตนเลส,
รังถึงขนาดใหญ่, ถุงมือ, ผ้าขาวบาง, กรรไกร และอุปกรณ์เครื่องครัวเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ

ขั้นตอนการทำ
เริ่มแรกนำเนื้อสันคอหมู กับหมูสามชั้น เนื้อกุ้งสดแกะ คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน เติมเครื่องปรุงรสลงไป
แล้วนำไปปั่นในเครื่องผสม จนส่วนผสมละเอียดและเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
แล้วค่อย ๆ โรยแป้งสาลีทีละน้อย โรยไปเรื่อย ๆจนหมด พักทิ้งไว้สักครู่

ระหว่างนั้น นำแผ่นฟองเต้าหู้มาตัดเตรียมไว้เป็นรูปสามเหลี่ยม 10 x 10 x10 นิ้ว
เสร็จแล้วนำผ้าขาวบางชุบน้ำสะอาดบิดพอหมาด ๆ มาห่อแผ่นฟองเต้าหู้ทิ้งไว้สักครู่ เพื่อให้นิ่ม

ต่อไป เป็นขั้นตอน การห่อ “ฮ่อยจ๊อ” นำแผ่นฟองเต้าหู้แผ่วางบนเขียง โดยนำด้านป้านหันมาทางคนห่อ
จากนั้น นำเนื้อปูม้าโรยลงในส่วนผสมมากพอสมควร แล้วคลุกเคล้าให้ทั่ว
แต่อย่าคลุกทีเดียวหมด โดยแบ่งคลุกเคล้าเป็นส่วน ๆ ทีละน้อย
จากนั้น นำส่วนผสมที่ได้มาวางเลยจากขอบแผ่นฟองเต้าหู้ 2 นิ้ว (ชั่งก่อน โดย 1 เส้น หนัก 150 กรัม)
พับหัวพับท้าย แล้วพับส่วนขอบม้วนให้แน่นไปเรื่อย ๆ

พอม้วนใกล้ถึงปลายแผ่น ฟองเต้าหู้ นำส่วนผสมทานิดหน่อยแล้วบีบให้แน่น เพื่อให้ฮ่อยจ๊ออยู่ตัว
เสร็จแล้ววางเรียงลงในบล็อกพิมพ์ที่เตรียมไว้ เรียงลงรังถึง 3 แถว นำไปนึ่ง โดยใช้ไฟปานกลางประมาณ 20 นาที
สุกแล้วนำมาเป่าพัดลมให้เย็นสนิท ก่อนแพ็คใส่ถุง เพื่อจำหน่าย โดยจะอยู่ได้เป็นเดือน ถ้าใส่ไว้ในช่องแช่แข็ง

ราคาขายคือ กก.ละ 220 บาท สูตรที่ให้มาทำฮ่อยจ๊อได้ 20 กก. (ฮ่อยจ๊อ 4 เส้น หนัก 1/2 กก. มี 28 ลูก)

ฮ่อยจ๊อ แม่จินดา มีเอสเอ็มอีแบงก์, พัฒนาชุมชนบ้านแหลม และ จ.เพชรบุรี สนับสนุน
ปัจจุบันมี 3 สาขา ใครสนใจเป็นตัวแทนจำหน่ายก็ได้ โดยติดต่อป้าเจ็งได้ที่ จ.เพชรบุรี โทร.0-3258-1050
มือถือ 08-4944-4728, จ.สมุทรปราการ โทร.08-1854-9271 และ จ.ระยอง โทร.08-5392-4555
ทั้งนี้ นี่ก็เป็นอีกบทพิสูจน์ว่า อาหารการกิน ที่บางคนอาจมองว่าพื้น ๆ
แต่หากทำให้เด็ด ก็ขายดีจนเป็นธุรกิจที่เติบโตได้

เชาวลี ชุมขำ / ขนิษฐา ผุดผาด :รายงาน
จเร รัตนราตรี :ภาพ

คู่มือลงทุน...ฮ่อยจ๊อกุ้ง-ปู
ทุนเบื้องต้น ขึ้นอยู่กับรูปแบบ-ขนาดกิจการ
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 70% จากราคาขาย
รายได้ ราคาขาย กก.ละ 220 บาท
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านขายอาหาร, ติดต่อขายส่ง
จุดน่าสนใจ มีลูกค้านิยมทานจำนวนมาก

ที่มา เดลินิวส์

credit b y : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=anotherside&month=06-2009&date=14&group=16&gblog=101

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.