สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

‘ไส้กรอก-ปลาแนม’ ปรับสูตรได้..ทำขายดี!


ถ้าพูดถึงเอกลักษณ์ของอาหารไทย ก็คงไม่แพ้ชาติใดในโลก อาหารว่างก็เช่นเดียว กัน ที่ทั้งกินสบาย ๆ ในมุมสบาย ๆ ตักนู่นจิ้มนี่เข้าปากก็ได้อรรถรสไปอีกแบบ อย่างอาหารว่างไทยที่จะพูดถึงต่อไปนี้ เป็น “ไส้กรอก ปลาแนม” สูตรใหม่ ที่นำเอาวัตถุดิบเหลือใช้แต่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มาพลิกแพลงและแปรรูปเป็นเมนูอาหารว่างของไทยที่สามารถทำขายได้อย่างน่าทึ่ง ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลการทำ “ไส้กรอกปลาแนม กากถั่วเหลือง” มาเสนอคนที่กำลังมองหาอาชีพเสริม

เจ้าของสูตร เบญจา จันทโชติ และ จุรีมาศ พิทักษ์เจริญเขต สองนักศึกษา คณะคหกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ ที่มี ผศ.ดร.สุวรรณี อาจหาญณรงค์ เป็นอาจารย์ผู้ควบคุมดูแลให้คำปรึกษา เล่าว่าทุกเช้าที่นักศึกษาเจ้าของสูตรต้องออกสหกิจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยทำนํ้าเต้าหู้แจกให้กับผู้ป่วยทาน ทำให้มีกากถั่วเหลืองเหลือทิ้งเป็นจำนวนมาก เพราะไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ สองสาวเจ้าของสูตรจึงไม่มองข้าม คิดไอเดีย เมนูที่น่าสนใจ ที่สามารถนำกากถั่วเหลืองมาทดแทนวัตถุดิบบางตัวในสูตรได้ จึงกลายมาเป็น “ไส้กรอกปลาแนม” อาหารว่างยอดนิยมสูตรใหม่ เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิตไส้กรอกปลาแนมและเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการอาหาร ในแง่โปรตีน อีกทั้งยังเป็นแนวทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคที่ห่วงใยสุขภาพ

“ไส้กรอกปลาแนม เป็นของกินโบราณที่หารับประทานยากในยุคปัจจุบัน จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ปัญหาของอาหารประเภทนี้คือขั้นตอนการทำที่จุกจิกมากมาย ซึ่งอาจจะทำให้คนเบื่อหน่ายได้ แต่เมื่อได้รับประทานก็จะรู้ว่าอร่อยคุ้มค่ากับการทำ แถมยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย”
อุปกรณ์ มีหม้อนึ่ง, เตาอบความร้อน, ที่คีบ, มีด, เขียง, ไม้พาย, กรวย, ไม้จิ้ม, ทัพพี, ถาด, กะละมัง, ลังถึง

ส่วนผสมไส้กรอก มีไส้หมูอ่อน 300 กรัม, หมูบด 66 กรัม, ไข่เป็ด 1 ฟอง, กากถั่วเหลือง 84 กรัม, นํ้าพริกแกงคั่ว 25 กรัม, นํ้าตาลปี๊บ 25 กรัม, นํ้าปลา 8 กรัม, หัวกะทิ 60 กรัม, ถั่วลิสง 100 กรัม และผักชีหั่นฝอย

ส่วนผสมปลาแนม มีข้าวคั่ว 44 กรัม, กากถั่วเหลือง 56 กรัม, ปลาช่อน 50 กรัม (นำเนื้อปลาไปนึ่งแล้วบี้ในครกเพื่อให้เนื้อปลาฟู), ข่า 10 กรัม, มะพร้าวคั่ว 25 กรัม, กระเทียมดอง 35 กรัม, หอมแดง 25 กรัม, ถั่วลิสงบด 25 กรัม, หนังหมู 25 กรัม, พริกขี้หนูหั่น 7 กรัม, นํ้าส้มสายชู 5 กรัม, นํ้าตาลปี๊บ 25 กรัม, นํ้าปลา 4 กรัม,นํ้าตาลทราย 25 กรัม, เกลือ 5 กรัม, นํ้ามะนาว 30 กรัม และนํ้าส้มซ่า
ขั้นตอนการทำ “ไส้กรอกปลาแนม กากถั่วเหลือง”

เริ่มจากการล้างไส้หมูก่อนเป็นอันดับแรก หยอดนํ้าลงไปที่ปลายข้างหนึ่ง แล้วจับรูดให้สิ่งที่สกปรกออกทางปลายอีกข้างหนึ่ง ทำซ้ำอีกครั้ง จากนั้นกลับข้างในออก ใส่เกลือลงไปแล้วขยำนาน ๆ จนหมดเมือกและหมดกลิ่นเหม็นคาว ล้างนํ้า 2-3 ครั้งจนหายเค็ม รีดนํ้าออกแล้วนำไปแขวนให้นํ้าตกและแห้ง ทำการกลับไส้เตรียมไว้
นำหัวกะทิกับนํ้าตาลปี๊บใส่ลงไปในกะละมัง คนให้นํ้าตาลละลาย ใส่นํ้าพริกแกงคั่ว หมูบด ไข่ ถั่วลิสงคั่วบด นํ้าปลา กากถั่วเหลือง และผักชีหั่นฝอย จากนั้นคลุกเคล้าไปเรื่อย ๆ จนส่วนผสมเข้ากันดี วางพักไว้ก่อน

การทำเป็นไส้กรอก นำส่วนผสมที่คลุกเตรียมไว้มาบรรจุใส่ลงไปในไส้หมูให้แน่นพอดี ยัดไส้กรอกเสร็จแล้ว ใช้เชือกผูกปลายหัวท้ายให้แน่น ขดให้เป็นวง ใช้ไม้จิ้มไล่ลมออก (เพื่อ  กันไม่ให้ไส้แตกเวลาอบหรือย่าง) นำขึ้นนึ่ง 10 นาที จากนั้นนำไปอบในเตาอบความร้อนต่ออีก 20 นาที (จะย่างก็ได้) ไส้กรอกสุกแล้วจะสีเหลืองสวยน่ารับประทาน

สูตรการทำปลาแนม จะต้องทำนํ้าปรุงรสปลาแนมก่อน โดยนำนํ้าตาลปี๊บ นํ้าตาลทราย เกลือ นํ้ามะนาว นํ้าปลา นํ้าส้มสายชู และนํ้าส้มซ่า ใส่หม้อตั้งไฟเคี่ยวให้เดือด ยกลงตั้งพักไว้ให้เย็น
นำเนื้อปลาช่อนบี้ที่เตรียมไว้ใส่ในกะละมัง ตามด้วยนํ้าข่า หนังหมูต้มหั่นฝอย คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน ค่อย ๆ เทนํ้าปรุงรสลงไปทีละน้อย คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นใส่มะพร้าวคั่ว ข้าวคั่ว กากถั่วเหลือง ถั่วลิสงบด หอมแดง กระเทียมดองหั่น คลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้ง ชิมรสตามชอบก็เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย

เมนูของทานเล่น “ไส้กรอกปลาแนม กากถั่วเหลือง” การรับประทาน หรือการขาย จะจัดเป็นชุดโดยหั่นไส้กรอกแฉลบเป็นท่อน ๆ ละ 2.5 นิ้ว และปลาแนมอีกพอประมาณ พร้อมเครื่องเคียงคือผักกะหล่ำ ผักกาดหอม ใบชะพลู พริกขี้หนู มะนาวชิ้น

ใครสนใจ “ไส้กรอกปลาแนม กากถั่วเหลือง” ก็ลองฝึกฝนทำรับประทานกันในครอบครัว หรือจะทำขายก็น่าสน ต้องการติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ผศ.สุวรรณี อาจหาญณรงค์ อาจารย์ประจำวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ได้ที่ โทร. 08-1432-0147 การประกอบอาชีพใด ๆ หากรู้จักนำวัตถุดิบเหลือใช้หรือสิ่งของใกล้ตัวมาปรับสูตรเพิ่มมูลค่า ก็สามารถใช้เป็นช่องทางสร้างอาชีพได้.

คู่มือลงทุน...ไส้กรอกปลาแนม
ทุนเบื้องต้น 3,000 บาท
หมุนเวียน 50% ของราคาขาย
รายได้ ราคา 35 บาท/ชุด
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ตลาดสด หน้าโรงเรียน ย่านชุมชน
จุดน่าสนใจ ปรับวัตถุดิบเหลือใช้มาเพิ่มมูลค่า
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/246741/‘ไส้กรอก-ปลาแนม’+ปรับสูตรได้..ทำขายดี!

Read More...


“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!


        “โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนาน แต่เตี้ยม บ๊ะกุ๊ดเต๋ ของ อ.หาดใหญ่ คงคุณภาพรสชาติดั่งเดิม มาร่วม 18 ปี แตกกิ่งก้านออกเป็น 3 แห่ง ให้ได้ร่วมลิ้มรสความอร่อย จะทานร้านไหนในหาดใหญ่รสชาติไม่ผิดเพี้ยน กลายเป็นที่โจษจันมาถึงหาดใหญ่ต้องหาความอร่อยใส่ท้องที่ “โชคดี แต่เตี้ยม”

“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น! “โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น! “โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!  
       "โชคดี แต่เตี้ยม"เป็นชื่อที่ติดหูไปแล้ว เมื่อนึกถึงความอร่อย ที่เป็นเอกลักษณ์ต้นตำรับ "บ๊ะกุ๊ดเต๋" "ติ่มซำ" ลิ้มรสความอร่อยกันได้ที่หาดใหญ่ เท่านั้น! แต่เลือกทานได้ถึง 3 ร้าน  "เมนูเด็ดแดนใต้" จึงพาไปแวะชิมกันที่สาขาใหม่ที่ ถ.ธรรมนูญวิถี ใกล้บ้านนายกเคร่ง ลูกค้าอุ่นหนาฝาคั่งไม่แพ้ร้านใหญ่เลยทีเดียว

“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น! “โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!
“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!
“กวิน ศิรประภาธรรม” เจ้าของร้าน “โชคดี แต่เตี้ยม” สาขา ถ.ธรรมนูญวิถี ใกล้บ้านนายกเคร่ง
    
       “กวิน ศิรประภาธรรม” เจ้าของร้าน “โชคดี แต่เตี้ยม” สาขา ถ.ธรรมนูญวิถี เล่าให้เราฟังว่า ตนเองเป็นลูกชายคนที่ 3 ในพี่น้อง 3 คน ของ นายคล่องเจน นางจุฑารัตน์ ศิรประภาธรรม ซึ่งเป็นเจ้าของร้านโชคดี แต่เตี้ยม ที่ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 58/25 ถ.ละม้ายสงเคราะห์(คลองเตย) ใกล้กับโรงแรมไดอิชิ อ.หาดใหญ่ ซึ่งเปิดมาร่วม 18 ปี แล้ว ก่อนที่จะมาเปิดอีกร้านที่นี่ เราก็ขายติ๋มซำอยู่ที่ฟูดคอร์ส ของโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หรือ มอ.หาดใหญ่ ย่างเข้าปีที่ 3 แล้ว ก็ได้รับความตอบรับอย่างดีเช่นกันจะขายช่วงเช้าและช่วงเที่ยง จนมีแนวคิดที่จะมาเปิดที่นี่อีก ก็เพราะว่ามาสำรวจดูแล้วว่า แถวนี้ไม่มีบ๊ะกุ๊ดเต๋ขาย

“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!  

        “กวิน” เล่าต่อว่า ช่วยปะป๊า ขายบ๊ะกุ๊ดเต๋ ติ่มซำ มาตั้งแต่เริ่มเปิดร้าน นี่ก็รวม 18 ปี แล้ว ปะป๊าสอนให้ทำทุกอย่าง ปะป๊าจะเคร่งครัดมาก ถึงแม้เราจะเป็นลูกก็ปฏิบัติเหมือนกันทุกอย่างกับลูกจ้าง สอนให้เราอดทน ด้วยความเป็นวันรุ่นในขณะนั้นก็มีขัดใจปะป๊าบ้าง หนักเข้าจนถึงขั้นถูกไล่ออก ตั้งแต่นั้นมาจึงได้ข้อคิดหลายๆ อย่างจากปะป๊า และถือปฏิบัติตามแนวทางของปะป๊ามาจนถึงปัจจุบัน และที่ได้แยกมาเปิดอีกร้านก็เพราะหลังจากมีครอบครัวแล้ว ด้วยตามวิสัยของคนจีน ต้องออกมาทำเป็นของตัวเอง แต่ในส่วนนี้เราก็ไม่ได้ทิ้งร้านหลัก ทุกวันก็ยังทำติ่มซำเองทุกชิ้นเพื่อส่งขายทั้งร้านแรก ร้านที่ฟูดคอร์ส และร้านที่ ถ.ธรรมนูญวิถี

“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!  

       “ย้อนไปเมื่อ 18 ปี ที่แล้ว คล่องเจน หรือ “ฉี กั้งเจิน” ปะป๊ะ คือผู้ก่อตั้งร้าน “โชคดี แต่เตี้ยม” โดย มี มาม๊า เป็นผู้ช่วย เมื่อปี พ.ศ.2539 หลังจากประกอบอาชีพมาแล้วหลายอย่างแต่ไม่ประสบความสำเร็จ จนได้เดินทางไปประเทศมาเลเซียซึ่งมีเพื่อนเป็นกุ๊กอยู่ที่นั้น และได้ชิมบ๊ะกุ๊ดเต๋ ที่นั้น รู้สึกว่าอร่อย เด็กก็ทานได้ ทั้งๆ ที่ใส่เครื่องยาจีนหลายชนิด จึงได้สูตรมาและแอบไปดูส่วนผสมการทำบ๊ะกุ๊ดเต๋ ด้วยการดูถังขยะที่ร้านดังกล่าว ว่ากุ๊กทิ้งถุงที่ใส่เครื่องปรุง ยี่ห้ออะไร หรือแบบไหนบ้าง จนนำมาลองปรุงรสชาติเองเพื่อความเป็นเอกลักษณ์ โดยการลองผิดลองถูกมาหลายครั้งจนในที่สุดมีความมั่นใจที่จะเปิดร้าน โดยเน้นรสชาติอาหารที่เด็กๆ สามารถทานได้ เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ใหญ่พาเด็กๆ มารับประทาน”

“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!  

      “กวิน” เล่าต่อว่า สิ่งที่ยึดถือมาตลอดในการขายติ่มซำ และบ๊ะกุ๊ดเต๋ คือ คุณภาพของอาหารที่เสิร์ฟลูกค้าในแต่ละวัน เราจะใช้แค่วันเดียว หากวันไหนขายไม่หมดต้องเททิ้ง เพราะมันจะไม่อร่อย เช่นเดียวกับที่มาขายที่นี่ วันแรก ขายไม่หมดต้องเอาเงินหมื่นทิ้งถังขยะ แต่เราก็ต้องยอม เพราะมันคือมาตรฐานของ โชคดี แต่เตี้ยม และเราต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้า

“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!
“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!
“กวิน ศิรประภาธรรม” เจ้าของร้าน “โชคดี แต่เตี้ยม” “ขวัยฤทัย สกุลคงคา” ภรรยา และผู้ช่วยมือหนึ่ง
    
       ติ๋มซำ ของโชคดี มีทั้งหมดกว่า 30 ชนิด ต่อวันทำเป็นพันๆ เข่ง ทุกเข่งคืออาหารคุณภาพ ใหม่สดทุกวัน โดย “กวิน” จะเป็นคนทำเองทุกวันๆ ละ 2 รอบ คือ ช่วงสายและช่วงเย็น โดยที่ร้านใหม่ “ขวัยฤทัย สกุลคงคา” ภรรยาของ “กวิน” จะเป็นผู้ดูแลอยู่ พร้อมด้วยความเป็นกันเอง และเอาใจใสลูกค้าด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลา ปัจจุบันใครเห็นหน้าของ “กวิน” ก็เหมือนเห็นร้าน โชคดี แต่เตี้ยม ถึงแม้จะเปิดขายหลายแห่งแล้วในหาดใหญ่ แต่ทุกร้านก็ไม่ได้มีชื่อต่อท้ายว่าสาขาไหน เนื่องจากลูกค้าจะได้รู้สึกว่าไม่ว่าจะไปทานติ๋มซำ และบ๊ะกุ๊ดเต๋ ร้านไหนของโชคดี รสชาติก็จะเหมือนกันทุกร้าน จน ปัจจุบันเรียกได้ว่า “โชคดี แต่เตี้ยม” กลายเป็นตำนานของ อ.หาดใหญ่ ไปแล้ว และยังคงยืนยันว่าไม่มีสาขาอื่นที่ไหน ไม่เคยเปิดแฟรนไชส์ ของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!!

“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!  
 “โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!  
        บ๊ะกุ๊ดเต๋ ร้อนๆ กลมกล่อมด้วยเครื่องตุ่นยาจีนหลากหลายชนิด ตุ๋นจนซี่โครงเปื่อยกำลังดี พร้อมเต้าหู้แผ่นกับเห็ดเข็มทอง เสิร์ฟมาอย่างรวดเร็วขณะน้ำซุปกำลังเดือดพล่าน ความกลมกล่อมทำให้สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ ทานกันได้ทั้งครอบครัว

“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!  
“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!  

       “โชคดี แต่เตี้ยม” สาขาใหม่ ถ.ธรรมนูญวิถี ใกล้บ้านนายกเคร่ง เปิดบริการให้ลูกค้าได้เลือกอร่อยกันได้ทั้งเช้าเย็น โดยเช้าเปิด ตั้งแต่เวลา 07.00 - 11.00 น. และเย็น ตั้งแต่เวลา 17.00 - 22.00 น. ทุกวัน


“โชคดี แต่เตี้ยม” ตำนานความอร่อยของแท้ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น!  

       ** ร้านแรกดั่งเดิมตั้งอยู่ที่ เลขที่ 58/25 ถ.ละม้ายสงเคราะห์(คลองเตย) ใกล้กับโรงแรมไดอิชิ
       ** ร้านที่สองอยู่ในฟู้ดคอร์ส โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ หรือ มอ.หาดใหญ่
       ** ร้านที่สาม ถ.ธรรมนูญวิถี ใกล้บ้านนายกเคร่ง


Read More...


มังคุดกวน เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้

“ผลไม้กวน” เป็นการแปรรูปผลไม้ที่ช่วยแก้ปัญหาผลผลิตที่มีมากจนล้นตลาด และยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลไม้อีกด้วย ที่สำคัญยังผลิตเพื่อทำขายได้ตลอดทั้งปี จึงเป็นวิธีถนอมอาหารที่น่าสนใจ และเป็น “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ...ทั้งนี้ ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ไปจัดกิจกรรมช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ และพาไปเยี่ยมชม “กลุ่มแปรรูปผลไม้ บ้านหนองละลอก” อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่นำ      ผลไม้ในท้องถิ่นหลากหลายชนิดมาแปรรูปทำเป็นผลไม้กวนจนสร้างรายได้เป็นกอบ เป็นกำ ซึ่ง “มังคุดกวน” ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ทำเงินของกลุ่มแปรรูปแห่งนี้ ที่วันนี้ คอลัมน์นี้ก็มีข้อมูลมานำเสนอให้พิจารณากัน...


ละออ สุวรรณสว่าง ประธานกลุ่มแปรรูปผลไม้ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำผลไม้กวนมานานกว่า 30 ปี เล่าว่า...เริ่มต้นจากทำสับปะรดกวนมาก่อน เนื่องจากขณะนั้นพื้นที่บริเวณนี้ นิยมทำไร่สับปะรดกันมาก เมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็เกิดปัญหาผลผลิตล้นตลาด สับปะรดออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ขายไม่ได้ราคา จึงเกิดความคิดขึ้นว่าน่าจะนำมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม จากนั้นก็จึงต่อยอดมา    เรื่อย ๆ โดยปัจจุบันมีผลไม้หลากหลายชนิดที่นำมาแปรรูป ได้แก่ กล้วย ทุเรียน มังคุด ฯลฯ โดยผลไม้ที่นำมาแปรูปนั้น เป็นผลไม้ที่รับซื้อจากชาวบ้านในท้องถิ่น...

’สูตรกวนผลไม้คิดขึ้นเอง ศึกษาจากหนังสือและหัดทำเอง ต่อมาพยายามคิดสูตรของตัวเอง เพื่อให้มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ตอนนั้นเริ่มจากนำไปขายตามตลาดนัด ยังทำเป็นอาชีพเสริม เริ่มจากทำน้อย ๆ ก่อนจะขยับขยายทำจำนวนที่มากขึ้น และขยายมาเรื่อย ๆ จนมีคนในชุมชนสนใจจึงมารวมตัวกันเป็นกลุ่มแปรรูปผลไม้นี้ขึ้น“...ละออกล่าว

ทุนเบื้องต้น กับการทำการแปรรูปผลไม้ขายนั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของกิจการ เพราะการแปรรูปผลไม้ด้วยการนำมากวน ถ้าเริ่มทำจากกิจการเล็ก ๆ โดยใช้แรงงานคนในการกวนด้วยกระทะทองเหลือง ก็มีต้นทุนอุปกรณ์อยู่ที่ประมาณ 10,000 บาท แต่ถ้าใช้เครื่องจักรกวน ก็ต้องลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะค่าเครื่องกวนที่มีราคาประมาณ 70,000 บาท ทุนวัสดุ อยู่ที่ 80% จากราคา ซึ่งราคาขาย “มังคุดกวน” อยู่ที่ กิโลกรัมละ 300 บาท...

อุปกรณ์ ส่วนใหญ่เป็นเครื่องครัวทั่วไป ประกอบด้วย เตาแก๊ส, กระทะทองเหลือง, ไม้พาย, มีด, เขียง, ถาด, กะละมัง

การทำ “มังคุดกวน” นั้น มีวัตถุดิบ ดังนี้... มังคุด 10 กิโลกรัม, นํ้าตาลทราย 1 กิโลกรัม, แบะแซ 1 กิโลกรัม, เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ... โดยมังคุดที่นำมากวนนั้น จะเป็นมังคุดที่ไม่ผ่านเกรด ผิวไม่สวย มีราคาถูก และขายสดไม่ได้ราคา ซึ่งเมื่อนำมาแปรรูปแล้ว จะทำให้ขายได้ราคามากขึ้น...นี่ก็เป็นกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ

ขั้นตอนการทำ เริ่มจากนำมังคุดมาทำการปอกเปลือกให้เหลือแต่เนื้อมังคุด และนำเนื้อมังคุดใส่ลงไปในกะละมังที่เตรียมไว้ ซึ่งมังคุด 10 กิโลกรัม เมื่อแกะเปลือกแล้วจะได้เนื้อมังคุดประมาณ 3 กิโลกรัม นำเนื้อมังคุดไปทำการล้างด้วยนํ้าสะอาด เพื่อล้างเอาเศษสิ่งสกปรกและเศษฝุ่นผงที่ติดเนื้อมังคุดออกให้สะอาด

หลังจากนั้นทำการตั้งกระทะทองเหลืองให้ร้อน นำเนื้อมังคุดไปใส่ลงไปในกระทะทองเหลือง ใส่นํ้าตาลทราย 1 กิโลกรัม แบะแซ 1 กิโลกรัม เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมลงไปทำการกวนไปเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ไหม้ โดยใช้เวลาในการกวนประมาณ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งถ้าใช้เครื่องกวน จะใช้เวลากวนประมาณ 2 ชั่วโมง
ขณะทำการกวน ให้สังเกตดูว่า เนื้อมังคุดและส่วนผสมอื่น ๆ เข้าเป็นเนื้อเดียวกันหรือยัง สังเกตดูว่าเนื้อมังคุดที่กวนเป็นก้อน

เหนียวไม่ติดมือก็ถือ   ว่าใช้ได้ ให้ทำการตักขึ้นมาใส่ลงบนถาด เพื่อผึ่งให้มังคุดกวนเย็นตัวลง เมื่อมังคุดกวนเย็นตัวลงแล้ว จากนั้นทำการแบ่งมังคุดกวนออกเป็นก้อน ๆ ให้มีขนาดพอดีคำสำหรับรับประทาน และบรรจุหีบห่อ เพื่อรอจำหน่ายต่อไป...

ละออ ยังแนะเคล็ดลับว่า...“ผลไม้กวน นั้น การใส่นํ้าตาลควรคำนึงถึงรสชาติความหวานของผลไม้ที่นำมากวนด้วย ถ้าผลไม้ที่นำมากวนนั้น มีความหวานมากอยู่แล้ว ก็ควรลดนํ้าตาลลง เพื่อไม่ให้ผลไม้กวนที่ทำมีรสชาติหวานมากจนเกินไป”

ทั้งนี้ มังคุด 10 กิโลกรัม จะสามารถนำมาทำเป็น มังคุดกวนได้ 4 กิโลกรัม โดยราคามังคุดกวนนั้น อยู่ที่กิโลกรัมละ 300 บาท พร้อมทั้งยังบอกอีกว่า การนำผลไม้มาทำการแปรรูปจำหน่ายนั้น เป็นการเพิ่มมูลค่าให้ผลไม้ขึ้นได้เป็นเท่าตัว ทั้งยังสามารถทำขายได้ตลอดทั้งปี


แวะไปชิม ’มังคุดกวน“ และผลไม้กวนชนิดอื่นของ กลุ่มแปรรูป ผลไม้บ้านหนองละลอก ได้ที่ เลขที่ 7/1 หมู่ที่ 4 ต.หนองละลอก อ.บ้าน ค่าย จ.ระยอง โทร. 0-3864-1046 และ 08-7124-9422 และนี่ก็เป็น “ช่องทางทำกิน” เกี่ยวกับการแปรรูปผลไม้เพื่อเพิ่มมูลค่าที่น่าสนใจ...

บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ : รายงาน
คู่มือลงทุน...มังคุดกวน
ทุนเบื้องต้น ขึ้นกับขนาดกิจการ
ทุนวัตถุดิบ 80% จากราคา
รายได้ 300 บาทต่อกิโลกรัม
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด ร้านของฝาก
จุดน่าสนใจ เพิ่มมูลค่า ทำขายได้ทั้งปี

credit by :  https://www.google.co.th/#q=มังคุดกวน+เพิ่มมูลค่า+สร้างรายได้

Read More...


‘ขนม-ของเล่น’ วันวาน สร้างรอยยิ้มแต่ครั้งเยาว์วัย


“ลูกค้าคนไหนที่อายุ 40 ปีขึ้นไปมักจะหยิบขึ้นมาดูทั้งของเล่นและขนม โดยส่วนมากจะซื้อกลับไปเพราะราคาไม่แพงแถมมีคุณค่าทางจิตใจ บางคนซื้อแล้วแกะกินพากันรำลึกว่ารสชาติเหมือนเดิมไหม ขนาดเท่าเดิมไหม กินไปวิจารณ์ความหลังกันไปอย่างสนุกสนาน”


เชื่อว่าขนมและของเล่นเป็นความทรงจำที่ดีเมื่อครั้งเยาว์วัยของทุกคน จนกระทั่งเติบโตขึ้นกลายเป็นผู้ใหญ่แล้วการที่ได้กลับมาเห็นขนมและของเล่นใน อดีตอีกครั้งเชื่อว่า หลายคนคงอดที่จะอมยิ้มไม่ได้ แต่ว่าขนมและของเล่นบางอย่างก็ยากที่จะหาเจอแล้วในปัจจุบัน ใครที่อยากเก็บความทรงจำดี ๆ เอาไว้คงต้องออกตระเวนหากันหน่อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตามตลาดน้ำหรือย่านขายของเก่า

โดย สุพัฒน์ จันทร์แจ่ม วัย 50 ปี เจ้าของร้าน ’แฟนฉัน“ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชั้น 6 เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ที่ใช้เวลาสืบเสาะหาขนมและของเล่นในอดีตมาสร้างรอยยิ้มให้ลูกค้าที่เดินผ่าน ไปผ่านมาให้แวะเวียนเข้ามาร่วมกันรำลึกนึกถึงอดีตที่แสนจะมีความสุข เล่าว่า เคยขายของเล่นตามยุคสมัยแต่ไม่รุ่งเท่าไหร่ จึงเริ่มเสาะหาของใหม่ ๆ แปลก ๆ จนกระทั่งไปเจอ “ขนมแมวดำ” และ “ขนมนกแก้ว”  ซึ่งเป็นขนมในสมัยที่ตนยังเด็ก ๆ จึงสงสัยว่าทำไมยังมีขนมพวกนี้วางขายอยู่ และเริ่มสืบหาว่าโรงงานที่ผลิตอยู่ที่ไหนและยังผลิตอยู่ตลอดหรือไม่

จนกระทั่งพบว่าโรงงานที่ผลิตชื่อ เทสตี้ ยังผลิตขนมในอดีตอยู่หลายชนิด แต่ส่วนมากตลาดส่งออกจะเป็นต่างประเทศ เพราะในประเทศไทยค่อนข้างไม่นิยมแล้ว ซึ่งสินค้าพวกนี้จะบูมมากในประเทศกัมพูชาและพม่า สำหรับในประเทศ ไทยเราต้องพยายามเอากลับมารื้อฟื้นใหม่ ด้วยการรับมาวางจำหน่ายตามสถานที่ต่าง ๆ เมื่อคนเดินผ่านไปผ่านมาเห็นเข้าก็จะสนใจว่าสิ่งที่เราหลงลืมไปแล้วทำไมยัง กลับมามีให้เห็นอีก

ปกติถ้ารับเอามาขายแบบดิบ ๆ เช่น วางขายแบบแพ็กใหญ่ ๆ หรือวางขายเป็นกิโลกรัมก็จะเหมือนตามท้องตลาดที่เอามาขายกันอยู่ทั่วไปไม่มี จุดเด่นดึงดูดใจลูกค้า เริ่มแรกจึงนำมาใส่แพ็กเกจให้ดูดีน่าซื้อ แต่ปัจจุบันเริ่มมีผู้นำมาประยุกต์ใส่แพ็กเกจเหมือนกันแล้วจึงคิดว่าควรมีแบ รนด์เป็นของตัวเองเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้กับสินค้าของเราที่ใช้เวลาสะสมมา ยาวนานเป็นปี ประกอบกับปิ๊งไอเดียจากการได้ยินลูกค้าพูดว่า ’นี่มันขนมสมัยเราเลยนะ สมัยแฟนฉัน“ ซึ่งคำว่า “แฟนฉัน” สามารถสื่อความหมายได้หมดไม่ต้องมาใช้คำตรงตัวว่าขนมย้อนยุคหรือขนมในอดีต มันเป็นคำที่ต่างคนต่างจินตนาการได้ในชื่อของมัน

การรวบรวมขนมและของเล่นต่าง ๆ นั้นต้องใช้เวลายาวนานหลายปี เพราะต้องเจาะเข้าไปในตลาดขายของเก่าบ้าง ต้องไปเดินดูเองทุกอย่าง พอเห็นก็นึกออกว่าเป็นของในอดีตสมัยเราเด็ก ๆ ซึ่งใช้มาตรฐานตัวเองวัดอาจจะแสดงถึงความมีอายุของตัวเองด้วยที่ชอบรำลึก ความหลัง และกลายมาเป็นความชอบเหมือนเป็นสายเลือดไปแล้ว ปัจจุบันสินค้าต่าง ๆ เมื่อรู้แหล่งแล้วจะให้เขามาส่งก็ได้ แต่เราไม่เอาแบบนั้นเพราะอยากไปดูเองเผื่อเจอขนมอะไรใหม่ ๆ ที่ยังไม่มี

บางครั้งออกไปเสาะหาก็จะสะดุดตาเจอของเก่า ๆ ที่ยังไม่มีในร้าน เพราะสินค้าบางตัวโรงงานจะผลิตแค่เดือนละครั้ง หากจำหน่ายหมดก็จะไม่เห็น แต่ถ้าไปไม่เจอครั้งนี้ครั้งหน้ามาถ้าเจอก็ซื้อกลับมาเลย จึงทำให้เดินทางไปหลายที่ไม่ว่าจะเป็นตลาดขายของเก่า โรงงานต่าง ๆ เช่น ขนมไข่จิ้งจก ไข่นก ไข่ไดโนเสาร์ ลักษณะเหมือนไข่สีขาว ๆ แล้วแต่คนจะเรียกกัน เวลาไปรับมาขายจะรับมาประมาณ 5-10 กิโลกรัมและนำมาแพ็กเองให้ดูสวยงาม

ส่วนขนมอื่น ๆ ต้องออกไปย้อนอดีตเดินหาเอง ยิ่งถ้าได้ยินว่าที่ไหนมีก็จะเดินทางไปดูเอง บางครั้งพบว่าสินค้าบางตัวไม่ผลิตแล้ว เพราะโรงงานสู้ต้นทุนไม่ไหว เช่น ขนมหมากหอมรุ่นเก่า ๆ ที่กล่องเป็นสังกะสี ปัจจุบันเลิกทำไปแล้ว จึงมีแต่กล่องที่เป็นพลาสติก ซึ่งเราได้เก็บสะสมไว้แล้วแต่เก็บได้เฉพาะกล่องเท่านั้น ส่วนขนมข้างในแน่นอนว่าระยะเวลาผ่านมาเป็น 10 ปีแล้วต้องบูดต้องเสียไปตามกาลเวลา จึงพยายามแนะนำให้คนที่ชอบเก็บสะสมของพวกนี้ว่าชิ้นนี้เลิกผลิตแล้ว ชิ้นนี้เปลี่ยนแพ็กเกจแล้ว
ส่วนขนมอื่น ๆ จะพยายามรับมาครั้งละน้อย ๆ เพราะขนมมันมีวันหมดอายุ ลูกค้าสามารถซื้อไปรับประทานได้ รสชาติเหมือนเดิมเพราะโรงงานยังทำอยู่ จึงมั่นใจว่าทำมาใหม่ ๆ ปลอดภัยแน่นอน นอกจากบางโรงงานจะมีการลดขนาดหรือเปลี่ยนแพ็กเกจ เช่น ขนมยี่ห้อมาวิน แพ็กเกจเก่าเลิกทำแล้ว ส่วนแพ็กเกจใหม่รสชาติก็ยังเหมือนเดิม เราจะคอยให้ความรู้ลูกค้าตลอดเพราะออกไปสืบเสาะหาเองจะได้ความรู้เยอะ

คนที่เดินผ่านไปผ่านมาถ้าเห็นต้องแวะเข้ามาอย่างน้อยไม่ซื้อก็เข้ามาดู บางทีมากันเป็นกลุ่ม 10 กว่าคน มายืนเกาะกลุ่มพูดคุยรำลึกความหลังกันว่าอันนี้เคยเห็น อันนี้เคยกิน อันนี้เคยเล่น สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจนลั่นร้านแล้วทั้งหมดก็เดินจากไปเฉย ๆ โดยไม่ซื้อ แต่ถึงแม้ไม่ซื้อเราก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดี ตรงกันข้ามกลับรู้สึกมีความสุขที่ได้มีส่วนช่วยสร้างความสุขความสบายใจให้คน อื่น

สิ่งหนึ่งที่ทำให้มีความสุขคงเริ่มจากตัวเราเองที่เวลาไปค้นเจออะไรใน อดีตจะรู้สึกมีความสุข โดยเฉพาะขนมเพราะจำได้เมื่อสมัยเด็ก ๆ เคยกิน และเรื่องราวต่าง ๆ ก็วิ่งเข้ามาในหัวทำให้รำลึกถึงแล้วมันมีความสุข คิดว่าคนอื่นก็คงเป็นเหมือนกันหมด ที่สำคัญในวัยเด็กของทุกคนมีแต่ความสุขไม่ต้องคิดอะไร มีแต่ความทรงจำดี ๆ คือกินกับเล่นอยู่ในสมอง สิ่งของพวกนี้จึงเป็นสิ่งที่สร้างความสุขได้มากเมื่อใครมาพบเห็น และเชื่อว่าไม่มีใครที่มีความทรงจำที่ไม่ดีกับขนมและของเล่นในวัยเด็กแน่นอน จึงไม่มีใครที่เข้ามาดูแล้วหน้าเสียออกไป ตรงกันข้ามกลับมีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ถือเป็นกำลังใจให้เราอยากออกไปเสาะหาของพวกนี้มาไว้ในร้านหลาย ๆ แบบ

ส่วนของเล่นมีหลายยุคตั้งแต่ยุคเก่าเมื่อ 40-50 ปี จนมาถึงยุคเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว บางตัวเก่าจนคนที่เข้ามาดูไม่รู้จักจึงต้องคอยบอกหรืออธิบาย ส่วนมากคนที่เดินเข้ามาก็จะสนใจของเล่น ม้าบีบแล้วกระโดด คอปเตอร์ไม้ไผ่ หรือเก่าหน่อยก็ตัวเป่าแล้วลูกบอลลอยขึ้น หรือบางครั้งลูกค้าเป็นคุณพ่อเดินเข้ามาหยิบของเล่นโชว์และเล่าให้ลูกฟังว่า เป็นของเล่นในสมัยพ่อและเล่นยังไง จากนั้นก็ระบายความรู้สึกให้ลูกฟังเป็นภาพที่ดูแล้วมีความสุขมาก

สำหรับขนมยอดฮิตคงเป็น ลูกอมโกโก้ ขนมแมวดำ ขนมมะนาว บ๊วยแผ่น ลูกค้าคนไหนที่อายุ 40 ปีขึ้นไปมักจะหยิบมาดูหรือบางคนเดินเข้ามายืนมองจนตาลายหาว่าขนมในสมัยตัว เองอันไหน เราจึงต้องคอยแนะนำและหยิบให้ลูกค้าดูจะดีใจมาก และเด็กนักเรียนที่เข้ามาเป็นกลุ่ม ๆ มาดูทั้งของเล่นและขนม ส่วนมากจะซื้อกลับไปเพราะราคาไม่แพงแถมมีคุณค่าทางจิตใจด้วย บางคนซื้อแล้วแกะกินพากันรำลึกว่ารสชาติเหมือนเดิมไหม ขนาดเท่าเดิมไหม กินไปวิจารณ์ความหลังกันไปอย่างสนุกสนาน

ในอนาคตอยู่ที่โรงงานผู้ผลิตขนมและของเล่นเหล่านี้ว่าจะผลิตไปถึงไหน ถ้าเลิกผลิตทั้งหมดก็ต้องจบกันแล้วยอมเลิกขายไป แต่ตอนนี้เราอยู่ตรงนี้มีความสุขดียังได้ออกตระเวนไปหาของเก่า ๆ มาเสนอลูกค้า ใครที่เคร่งเครียดจากการทำงาน การเดินเข้ามาในร้าน “แฟนฉัน” เพื่อรำลึกหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ เมื่อครั้งเยาว์วัยก็ถือเป็นการชาร์จแบตที่ดีให้กับชีวิตบ้าง เพราะคนเราไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ใหญ่เสมอไป แอบกลับไปเป็นเด็กบ้างก็ถือเป็นอีกเสี้ยวความสุขของชีวิต.
ทีมวาไรตี้

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/242418/‘ขนม-ของเล่น’+วันวาน+สร้างรอยยิ้มแต่ครั้งเยาว์วัย

Read More...


'บัวลอยทรงเครื่อง' ปั้นแป้ง..มาทำเงิน!!


 





สุดยอดขนมหวานไทยที่มีหน้าตาและสีสันสวยงาม ต้องยกให้ “บัวลอย” รสชาติยังหวานมัน ถูกปากถูก ใจใคร ๆ หลายคน มีขายอยู่ทั่วทุกภาคหากินง่าย สูตรหรือรสชาติจะแปรเปลี่ยนไปตามความคิดสร้างสรรค์ของผู้ทำขายแต่ละร้าน ว่าจะพลิกแพลงเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า “ขนมบัวลอยเบญจรงค์ทรงเครื่อง” ที่ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” นำมาเสนอในวันนี้ก็น่าสนใจ เพราะมีเครื่องทรงหลากหลายอย่างที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้ขนมชนิดนี้กลมกล่อม อร่อยยิ่งขึ้น 

เจ้าของสูตรที่มาให้ข้อมูลเป็นสองศรีพี่น้องจากร้านแตน ขนมหวาน ตลาดรามอินทรา แตน-ศศิธร สุนทโรทก และ ตู่-ศราธร บุตรดาพงษ์ เล่าให้ฟังว่า ทั้งสองเป็นพี่น้องที่สนิทกันมาก มีอะไรก็มักจะช่วยเหลือเกื้อกูลช่วยกันคิดช่วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโต ประกอบอาชีพก็เช่นกันเริ่มจากขายข้าวและแกงถุง พอแต่งงานมีครอบครัวก็ยังทำธุรกิจร่วมกันแต่เปลี่ยนมาทำขนมหวานและขนมไทยขาย เพราะที่ตลาดมีแม่ค้าแกงถุงขายเยอะแต่มีคนขายขนมหวานเจ้าเดียว โดยอาศัยครูพักลักจำ ทดลองทำแล้วช่วยกันชิมช่วยกันติปรับจนลงตัว

“สมัยก่อนขนมบัวลอยไม่ได้มีสีสันมากมายเช่นปัจจุบัน มีเพียงสีขาวและสีแดงที่ใช้ในพิธีมงคล แต่ทุกวันนี้ความต้องการผู้บริโภคมากขึ้น จึงมีแป้งสีสันต่าง ๆ ของที่ร้านแป้งจะมี 5 สีจากนํ้าและเนื้อจากพืชผักผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ จุดเด่นนอกจากตัวแป้งที่เหนียวนุ่มแล้ว นํ้ากะทิต้องสดและใหม่เช่นเดียวกับไข่ที่นำมาทำเป็นไข่หวานไข่เค็ม เวลาทำขายไม่ควรปรุงรสชาติหวานจัดเพราะปัจจุบันคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น” เครื่องทรงที่ใช้ใส่ในบัวลอยอาจใช้มะพร้าวอ่อน ข้าวโพด แห้ว เผือกต้ม ฟักทองต้ม หั่นเป็นลูกเต๋าก็แล้วแต่ชอบ

อุปกรณ์ มีเตาแก๊ส, ลังถึง, หม้อ, ทัพพีกลม, กะละมังสเตนเลส หลายขนาด, กระทะทองเหลือง, ไม้พาย, ถาด, ถุงพลาสติก และอุปกรณ์เบ็ดเตล็ดอื่น ๆ
วัตถุดิบ มีแป้งข้าวเหนียวอย่างดี, หัวกะทิ, นํ้าตาลทราย, เกลือ, สีธรรมชาติได้จากพืชผักผลไม้ เช่น สีเขียวจากใบเตย, สีม่วงจากดอกอัญชัน, สีขาวนวลจากเผือก, สีเหลืองจากฟักทอง และสีแดงจากบีทรูท
วิธีการทำ “บัวลอยเบญจรงค์ทรงเครื่อง” 

การทำแป้งบัวลอย 5 สี โดยเอาส่วนผสมจากสีธรรมชาติที่เอา    นํ้าและเนื้อจากพืชผักเตรียมเอาไว้ เช่น สีเขียว สีม่วง ให้นำใบเตยและ    ดอกอัญชันนำไปปั่นแล้วต้ม กรองเอาแต่นํ้าก็จะได้นํ้าสมุนไพรเข้มข้น ส่วนเผือก ฟักทอง บีทรูทนำมาปอกเปลือก ล้าง หั่นเป็นท่อนนำไปนึ่งให้สุกแล้วบดให้ละเอียด
เทแป้งข้าวเหนียวใส่กะละมัง ใส่นํ้าร้อนลงไปเล็กน้อย ค่อย ๆ ใส่นํ้าสีจากธรรมชาติและเนื้อพืชผักที่นึ่ง ใช้มือนวดไปเรื่อย ๆ ถ้าแป้งแห้งไปให้เติมนํ้าเล็กน้อย นวดจนส่วนผสมเข้ากันและเนียนดีแล้วปั้นเป็นเม็ดเล็ก ๆ ทำการคลุกเคล้าทุกสีให้เข้ากันโดยโรยแป้งนวลเล็กน้อย 

นํ้ากะทิสด เอาหัวกะทิคั้นใหม่ ๆ ผสมนํ้าตาล เกลือ และมัดใบเตยสดใส่ลงไป ทำการต้มให้เดือดก็เป็นอันใช้ได้ ส่วนการทำไข่หวาน-ไข่เค็ม เพียงตอกไข่ลงไปต้มในนํ้าเชื่อม โดยเจ้านี้จะทำแบบให้ไข่แดงเป็นยางมะตูม เตรียมไว้สำหรับลูกค้าที่ชอบรับประทานใส่ไข่หวานด้วย

การต้มเม็ดบัวลอย ตั้งนํ้าให้เดือดแล้วนำเม็ดบัวลอยใส่ลงไป ถ้าแป้งสุกจะเห็นเม็ดบัวลอยลอยขึ้นมา รอสักพักตักขึ้นมาแช่นํ้าไว้ เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้วก็เตรียมขายได้เลย โดยแต่ละชุดจะตักแป้งบัวลอย 1 ตะบวยเล็ก ตักเครื่องทรงใส่ที่เตรียมไว้คือ เนื้อมะพร้าวอ่อนหั่น ฟักทองต้มหั่น และเผือกนึ่งหั่น ตามด้วยไข่ (จะเป็นไข่หวานหรือไข่เค็มก็แล้วแต่) ราดด้วยนํ้ากะทิเป็นอันดับสุดท้าย 
สำหรับเทคนิคการขาย พี่แตนกับตู่ บอกว่าให้นำแป้งบัวลอยจำนวนหนึ่งไปต้มสุกแล้วแช่นํ้าไว้ จะไม่ต้มทั้งหมดเพราะถ้าขายไม่ทันแป้งจะแข็งเป็นไต และจะไม่ปั้นไปขายไปเพราะเสียเวลา 

ราคาขายบัวลอยทรงเครื่องเจ้านี้ แบบธรรมดาไม่ใส่ไข่ ชุดละ 20 บาท, บัวลอยไข่หวาน ชุดละ 27 บาท และบัวลอยไข่เค็ม ชุดละ 32 บาท!!!

ใครสนใจ “บัวลอยเบญจรงค์ทรงเครื่อง” จะซื้อไปชิม สั่งทำ หรือสั่งไปใช้ในงานต่าง ๆ ติดต่อสอบถามพี่แตนและพี่ตู่ได้ที่ โทร. 08-4722-5658 และ 08-8212-4549 ขายทุกวันที่หน้าร้านรถจักรยาน ตลาด กม.2 รามอินทรา กรุงเทพฯ ตั้งแต่ 17.00-20.00 น. ทั้งนี้ช่วงเช้า-กลางวัน ยังขายขนมหวานและขนมไทยนานาชนิด และนี่ก็เป็นอีก “ช่องทางทำกิน” ที่น่าพิจารณา!!.

คู่มือลงทุน…บัวลอยทรงเครื่อง
ทุนเบื้องต้น ประมาณ10,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 50% ของราคาขาย
รายได้ ราคา 20-27-32 บาท/ชุด
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านอาหาร, ตลาดนัด, ชุมชน
จุดน่าสนใจ ลงทุนต่ำทำไม่ยากรายได้ดี
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง /สันติ มฤธนนท์ : ภาพ 

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/243172/_บัวลอยทรงเครื่อง_+ปั้นแป้ง..มาทำเงิน!!

Read More...


สร้างความสำเร็จธุรกิจของคุณ กับคนทำงานใน ThaiMicroWorker

ทางเลือกใหม่สำหรับการทำงานออนไลน์ ด้วยระบบการจ้างงานแบบ ไมโครเวิร์ค พบผู้ว่าจ้างและงานออนไลน์มากมายใน ThaiMicroWorker โพสงานและจ้างงานให้ผู้ทำงานของเราได้มีส่วนในความสำเร็จของคุณได้ทันที ! 



สมัครด่วน เป็นต้นสายก่อนได้ที่... 
http://www.thaimicroworker.com/?ref=1497250864

Read More...


‘ไอศกรีมโยเกิร์ต’ ทำเงินได้ทุกฤดูกาล


ไอศกรีมเป็นของหวาน-ของทานเล่นที่เหมาะกับทุกเพศ-ทุกวัย และขายได้แทบทุกฤดูกาล ดังนั้น โดยทั่วไปจะเห็นได้ว่ามีร้านไอศกรีมในทุก ๆ รูปแบบ ตั้งแต่ร้านค้าริมทางไปจนถึงในห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ร้านอาหารใหญ่ ๆ และมีไอศกรีมหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นไอศกรีมผลไม้, ไอศกรีมโฮมเมด, ไอศกรีมเพื่อสุขภาพ ฯลฯ ตามแต่เจ้าของร้านที่จะนำเสนอออกมาเพื่อให้ถูกใจลูกค้า
รวมไปถึง “ไอศกรีมโยเกิร์ต”  ไอศกรีมเพื่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง โดยทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้...
                       
จำลอง กล่อมจิตร์ เจ้าของร้าน ไอศกรีมโยเกิร์ต Green Snow Frozen Yogurt ย่านลำลูกกา คลอง 2  เล่าว่า เป็นคนที่ชอบทานไอศกรีมโยเกิร์ตมาก เพราะว่าทานแล้วไม่อ้วน และดีต่อสุขภาพ แต่ที่เมืองไทยไม่ค่อยมีคนทำขาย ส่วนมากคนจะทำกินกันเองมากกว่า
       
หลังจากที่ลาออกจากบริษัทเอกชนที่ทำงานมานาน และไปใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกามาระยะหนึ่ง จำลอง บอกว่า ได้เห็นวิถีชีวิตแบบคนอเมริกันว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไร เมื่อกลับมาเมืองไทยจึงคิดมาทำธุรกิจที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ โดยมาลงตัวที่การเปิดร้าน ไอศกรีมโยเกิร์ตแบบซอฟท์เสิร์ฟ โดยให้ลูกค้าบริการตัวเอง เพื่อให้เกิดความตื่นเต้น และแปลกใหม่ “ทำไอศกรีมโยเกิร์ตไม่เป็นเลย เริ่มต้นจากศูนย์ คิดค้น และหาสูตรการทำทุกอย่างด้วยตนเอง จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ แล้วดัดแปลง-ประยุกต์ให้ได้รสชาติ และเนื้อไอศกรีมที่คิดว่าใช่” จำลอง กล่าว

อุปกรณ์ในการทำไอศกรีมโยเกิร์ต หลัก ๆ มี ถังปั่นไอศกรีม, ตะกร้อตีโยเกิร์ต และอุปกรณ์สำหรับชั่งตวง อย่างเครื่องชั่งน้ำหนัก ถ้วยตวงน้ำ และตู้แช่ไอศกรีม หรือตู้เย็นก็ได้

วิธีการทำไอศกรีมโยเกิร์ต จำลอง บอกว่า จะต้องทำ โยเกิร์ต ขึ้นมาก่อน ซึ่ง การทำโยเกิร์ต มี 2 วิธี  โดยวิธีแรก จะมีส่วนผสมดังนี้ นมสดพาสเจอไรส์ หรือนมยูเอชที ทั้งแบบธรรมดาหรือแบบพร่องไขมัน จำนวน 4 ถ้วยตวง, นมผงแบบธรรมดาหรือแบบขาดมันเนย 2 ช้อนโต๊ะ และโยเกิร์ตถ้วยรสธรรมชาติ จำนวน 1 ถ้วย
    
วิธีทำ เริ่มที่ตุ๋นนมในหม้อตุ๋น หรือใช้หม้อสองใบซ้อนกัน โดยหม้อใบนอกใส่น้ำเดือด หม้อใบในใส่นม พอน้ำนมเริ่มอุ่น ให้ละลายนมผงลงในน้ำนม แล้ววัดอุณหภูมิน้ำนม ที่ 96 องศาเซลเซียส ใช้เวลาต้มประมาณ 5-7 นาที เสร็จแล้วยกหม้อที่ต้มนมลง แล้วลดความร้อนของน้ำนมลง ด้วยวิธีต่าง ๆ อาทิ นำแช่ในน้ำเย็น จนอุณหภูมิของนมอยู่ที่ 40-45 องศาเซลเซียส  หรือลองทดสอบด้วยการหยดน้ำนมลงบนหลังมือ
  
จากนั้น ค่อย ๆ เติมโยเกิร์ตลงไปในน้ำนม แล้วใช้ตะกร้อคนเบา ๆ ให้เข้ากัน เสร็จแล้วปิดฝาหม้อให้สนิท บ่มทิ้งไว้ที่อุณหภูมิ 43-45 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4.5-6 ชั่วโมง
นำไปแช่เย็นที่อุณหภูมิ 13.3 องศาเซลเซียส นาน 4-6 ชั่วโมง แล้วนำ เครื่องปั่นไอศกรีมแบบซอฟท์เสิร์ฟ ปั่นออกมาเป็นไอศกรีมโยเกิร์ตตามที่ต้องการ           
ส่วนวิธีที่สอง ให้นำ ผงโยเกิร์ตสำเร็จรูป จำนวน 1.5 กก. ผสมกับน้ำสะอาด 3 ลิตร ใช้ตะกร้อตีให้เข้ากัน นำไปแช่เย็นที่อุณหภูมิ 13.3 องศาเซลเซียส นาน 4-6 ชั่วโมง แล้วนำเข้า เครื่องปั่นไอศกรีมแบบซอฟท์เสิร์ฟ ใช้ปั่นประมาณ 5 นาที ก็พร้อมขาย

นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างสีสันของไอศกรีมให้หลากหลาย ด้วยการใส่ ผงผลไม้ รสต่าง ๆ ลงไปในไอศกรีมก่อนที่จะนำเข้าเครื่องปั่น อาทิ ผงลิ้นจี่, แคนตาลูป, บลูเบอรี่, กล้วย และชาเขียว  “ไอศกรีมโยเกิร์ตที่ดี จะมีรสชาติหวานกลมกล่อมแบบไอศกรีม และเปรี้ยวเล็กน้อยแบบโยเกิร์ต”

จำลอง เล่าว่า สำหรับ ผงโยเกิร์ตสำเร็จรูปที่ร้านใช้นั้น สั่งซื้อผ่านบริษัทเอกชนที่นำเข้าจากต่างประเทศ มีหลากหลายยี่ห้อทั้งของอเมริกา, ออสเตรเลีย, เกาหลี, ญี่ปุ่น ฯลฯ
 
นอกจากนี้ หัวใจสำคัญ ของการขายไอศกรีมแบบซอฟท์เสิร์ฟนี้ ผู้ขายจะต้องมี เครื่องปั่นไอศกรีมแบบซอฟท์เสิร์ฟ ซึ่งมีหลากหลายชนิดให้เลือก มีราคาตั้งแต่ 7,000–500,000 บาท ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากจีน หากผู้ขายไม่พร้อม สามารถใช้วิธีเช่าเครื่องแทนก็ได้ จะประหยัดเงินลงทุนมากกว่า
“เครื่องปั่นไอศกรีมแบบซอฟท์เสิร์ฟ ที่ร้านใช้นั้น จะใช้ แบบที่มีหัวจ่ายแบบกดไอศกรีมในตัว เพื่อให้ลูกค้ากดเลือกเอง ว่าต้องการรสชาติอะไร? ปริมาณเท่าไหร่? เสร็จแล้วนำไปชั่งน้ำหนัก โดยคิดราคาที่ 49 บาท ต่อไอศกรีม 100 กรัม โดยรวมน้ำหนักของท็อปปิ้งด้วย”
           
โดย ท็อปปิ้ง ที่ใช้ มี เชอรี่, สตรอเบอรี่, แก้วมังกร, กีวี, เยลลี่รสชาติต่าง ๆ, วุ้นมะพร้าว, ส้ม, เยลลี่มะม่วง, ลูกเกด, คอนเฟล็กซ์, คุ้กกี้, ซอสสตรอเบอรี่, ซอสช็อกโกแลต ฯลฯ
ใครสนใจ “ไอศกรีมโยเกิร์ต” ติดต่อ จำลอง กล่อมจิตร์ เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ ได้ที่ เอ็ม.ที.อารีน่า  (MT Arena) เลขที่ 222  หมู่ 3 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี  หมายเลขโทรศัพท์ 09-1865-6159 และที่ www.facebook.com/greensnowfrozenyogurt
........................................................................................
คู่มือลงทุน...ไอศกรีมโยเกิร์ต
ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 40% ของราคาขาย
รายได้ ราคาขาย 49 บาทต่อ100 กรัม
แรงงาน 1-2 คน
ตลาด ชุมชน, หน้าโรงเรียน, ในห้างสรรพสินค้า
จุดน่าสนใจ เป็นไอศกรีม และวิธีการขายแบบใหม่
สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : รายงาน/สุนิสา ธนพันธสกุล : ภาพ

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/241591/‘ไอศกรีมโยเกิร์ต’+ทำเงินได้ทุกฤดูกาล

Read More...


'กุนเชียงปลาสลิด' อาหารสุขภาพสร้างเงิน


รวมทั้ง “กุนเชียงปลาสลิด” ของกลุ่มสหกรณ์วัดลาดปลาเค้า อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี โดยทีมคอลัมน์ “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลมานำเสนอในวันนี้...

สมพงษ์-รุ่งทิพย์ ศรีศักดา ประธานกลุ่มสหกรณ์วัดลาดปลาเค้า จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ได้ตั้งกลุ่มทำการแปรรูปปลาจากธรรมชาติมาตั้งแต่ พ.ศ. 2547 โดยมีทั้งปลาร้าสับสมุนไพร, ปลาย่างอบแห้ง และนํ้าพริกจากปลาต่าง ๆ ซึ่งอาหารแต่ละชนิดก็ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะ ปลาร้าสับสมุนไพร ที่ได้รับการคัดสรรเป็นสินค้าโอทอป 5 ดาว เป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน    
  
สำหรับ กุนเชียงปลาสลิด นั้น รุ่งทิพย์ กล่าวว่า ต้องการผลิตออกมาเป็นทางเลือกให้กับคนที่รักสุขภาพ เพราะโดยทั่วไปเนื้อปลาเป็นอาหารที่ไม่มีสารเคมีตกค้าง มีความปลอดภัยสูง และต้องการจะเป็นทางเลือกให้กับคนที่นับถือศาสนาอิสลามก็สามารถทานกุนเชียง ได้เช่นกัน        
           
สำหรับการทำกุนเชียงปลาสลิดนั้น อุปกรณ์ที่ใช้ หลัก ๆ ก็มี เครื่องปั่นเนื้อปลา, เครื่องนวดผสม, ตู้อบกุน เชียง, กรวยกรอกสเตนเลส, ถาด มีด, กะละมัง, เชือกฟาง, เขียงกระทะ, ทัพพี และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด อื่น ๆ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 100,000 บาทขึ้นไป

ส่วนผสมในการทำกุน เชียงปลาสลิด จำนวน 1 กก. มีส่วนผสมของเนื้อปลา 70% แบ่งเป็นเนื้อปลาสลิด 40%  เนื้อปลาอื่น ๆ อาทิ ปลาช่อน, ปลานิล อีก 30% และยังมี ส่วนผสมของเครื่องปรุงรส ต่าง ๆ อาทิ เกลือป่น 2.1%, แป้งมัน 2.1%, นํ้ามันพืช 2.1%, นํ้าตาลทราย 1.75%, ซีอิ๊วขาว 0.7%, พริกไทยป่น 7%, นํ้าเปล่า 10.5% ไส้เทียม 1.75% และผงพะโล้ 2%

วิธีทำ ในส่วนของ ปลา ให้แยกประเภทของปลาแต่ละชนิดออกจากกันอย่างชัดเจน เพื่อไม่สับสนเวลาผสมเนื้อปลา

เมื่อแยกประเภทของปลาแล้ว ให้ตัดหัว-ครีบ, ขอดเกล็ด, เอาไส้ของปลาแต่ละตัวออกให้หมด แล้วนำเนื้อปลาแต่ละชนิดไปแยกปั่นให้ละเอียด โดยปั่นรวมกระดูกและก้างปลาไปด้วย

วิธีนวดผสม นำ ส่วนผสมของเนื้อปลา ที่ปั่นละเอียดตามสัดส่วนที่กล่าวไว้ข้างต้น ใส่ลงไปในหม้อผสม แล้วค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมอื่น ๆ ตามลงไป (ยกเว้นไส้เทียม) โดยเริ่มที่นํ้าเปล่า, แป้งมัน, นํ้ามันพืช ค่อย ๆ ตีให้ส่วนผสมนี้กับเนื้อปลาให้เข้ากันดีก่อน จากนั้น ใส่นํ้าตาลทราย, ซีอิ๊วขาว, พริกไทยป่น และผงพะโล้ตามลงไป แล้วค่อย ๆ นวดผสมให้เครื่องปรุงรสส่วนนี้ให้เข้ากับส่วนผสมทั้งหมดที่อยู่ในหม้อ แล้วลองชิมรสดู

โดยรสชาติของ เนื้อกุนเชียงปลาสลิด นี้ รุ่งทิพย์ บอกว่าต้องออกเค็มนิด ๆ และมีรสหวานหน่อย ๆ    
เมื่อนวดจนส่วนผสมของเนื้อปลา และเครื่องปรุงรสทุกอย่างเข้ากันได้ดีแล้ว ให้หมักเนื้อกุนเชียงทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที เพื่อให้ส่วนของเครื่องปรุงรสซึมเข้าไปในส่วนผสมของเนื้อปลาให้หมด เสร็จแล้วนำเข้าเครื่องกรอกไส้

นำไส้เทียมมาล้างให้สะอาด และแช่ในนํ้าสักพัก เพื่อให้ไส้เทียมขยายออก แล้วนำเข้าเครื่องมือหมุนเพื่อกรอกเนื้อปลาที่ผสมแล้วลงไปในไส้ สำหรับ การกรอกไส้กุนเชียงนั้น รุ่งทิพย์ บอก  ว่า ให้กรอกกุนเชียงแต่ละเส้น มีความยาวเส้นละ 9.5-10 นิ้ว โดยกุนเชียงปลาแต่ละเส้นจะมีนํ้าหนักประมาณ 250 กรัม

รุ่งทิพย์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการกรอก กุน เชียงปลาสลิด นี้ ต้องใช้ไส้เทียมกรอกเท่านั้นใช้ไส้หมูไม่ได้ เพราะถ้าใช้ไส้หมู คนที่เป็นมุสลิมจะทานไม่ได้

ขั้นตอนสุดท้าย นำกุนเชียงที่มัดไว้แล้วเข้าตู้อบ (ตู้อบที่ใช้ความร้อนจากถ่าน) ใช้ความร้อนประมาณ 100 องศาเซลเซียส ใช้เวลาอบนาน1-2 วัน (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในเวลานั้น) หมายความว่า หากวันไหนอากาศร้อนจัด จะอบกุนเชียง 1 วัน เสร็จแล้วนำกุนเชียงไปตากแดดอีกครึ่งวัน หากวันไหนฝนตก จะอบกุนเชียง 2 วัน แต่จะไม่นำกุนเชียงไปตากแดดอีกแล้ว

บรรจุ กุนเชียงปลาสลิด ใส่ถุงพลาสติก ถุงละ 500 กรัม ขายใน   ราคา 125 บาท และถุงละ 1 กก. ขายในราคา 250 บาท โดยมีต้นทุน กก. ละ 160-170 บาท

ใครสนใจ “กุนเชียงปลาสลิด” ติดต่อ สมพงษ์-รุ่งทิพย์ ศรีศักดา เจ้าของกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” รายนี้ได้ที่ วัดลาดปลาเค้า 127 หมู่ 5 ต.ศรีประจันต์ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี หมายเลขโทรศัพท์ 08-6761-1601, 08-9915-2566 และที่ www.facebook.com/lungponglongpung
สุภารัตน์ ยอดศิริวิชัยกุล : รายงาน / สุนิสา ธนพันธสกุล : ภาพ
..........................................................
คู่มือลงทุน...กุนเชียงปลาสลิด
ทุนอุปกรณ์ ประมาณ 100,000 บาทขึ้นไป
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 60% ของราคาขาย
รายได้ ราคาขาย 250 บาท/1ก.ก.
แรงงาน 3-4 คนขึ้นไป
ตลาด ชุมชน, ร้านอาหาร, ออกร้าน
จุดน่าสนใจ เป็นอีกทางเลือกอาหารแปรรูป

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/238042/_กุนเชียงปลาสลิด_+อาหารสุขภาพสร้างเงิน

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.