สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ครีมสโคน (Cream Scones)

สโคนสูตรนี้ สามารถเปลี่ยนเป็นสโคนแบบของคาวก็ได้นะคะ ลองใส่เชดด้าชีสขูดลงไปในส่วนผสมแห้ง หรือจะใส่ chive หรือมะเขือเทศอบแห้งก็ได้ค่ะ ก็จะได้สโคนแบบหม่ำเป็นของทานเล่นแบบคาวๆ อร่อยไปอีกแบบ
   
      สวัสดีค่ะทุกท่านที่ (หลงมา) อ่าน (อีกแล้ว...ฮี่ ฮี่)
     วันนี้ขอนำเสนอ สูตรขนมอบแบบ
     ง้ายยยยยยยย ง่ายยยยยยยยย (แต่ทำไมเค้าขายกันแพงจัง) ทำเสร็จภายในเวลาไม่น่าจะเกินชั่วโมง (รวมเวลาเก็บล้างถ้วยชามด้วยนะคะ... ต้องทำเอง ล้างเอง เก็บเองถึงจะเหมาะค่ะ) ทานร้อนๆ คู่กับแยมรสที่ชอบ จิบกาแฟร้อน หรือชาร้อนไปด้วย อืมมมมมมม...สุขี สุขี
     นั่นก็คือ...ครีมสโคนค่า!!!!!
     มาเริ่มดูกันที่ส่วนผสมกันก่อนนะคะ สูตรนี้ทำออกมาแล้วจะได้สโคนที่ค่อนข้างนุ่ม ชุ่มชื้น ไม่แห้งติดคอค่ะ

 
     
     วิธีทำ
     1. อุ่นเตาอบที่ 1900c ไฟบนล่างเลยนะคะ อุ่นตอนนี้ พอทำสโคนเสร็จ เตาร้อนพอดี
     2. เอาส่วนผสมแห้งทั้งหมดคนให้เข้ากันในอ่างผสม (มี แป้ง/ผงฟู/เกลือ/น้ำตาลทรายแดง)

     
     3. ตอกไข่ผสมลงไปในวิปปิ้งครีม (และวานิลลา ถ้าจะใช้นะคะ) คนให้เข้ากัน พักไว้ในตู้เย็นก็ได้นะคะ ถ้าวันที่ทำอากาศร้อนหน่อย

 
     
     4. ใส่เนยจืดตัดชิ้นเล็กลงในอ่างผสมของแห้ง ใช้ pastry cutter ตัดๆๆๆๆ ให้เนยเป็นชิ้นเล็กๆ รวมกับแป้งค่ะ (ถ้าไม่มี pastry cutter ใช้มีด 2 เล่ม ตัดกากบาทไขว้กันก็ได้ค่ะ) แป้งกับเนยที่ผสมกันดี จะมีลักษณะเป็นคล้ายๆ แป้งขนมปังกรอบชิ้นจิ๋วๆๆๆๆๆ นะคะ พยายามรีบทำรีบตัด ก่อนที่เนยจะละลายค่ะ

     
     5. เทส่วนผสมของครีมกับไข่ไก่ลงในส่วนผสมแป้งกับเนยที่ทำไว้เมื่อกี้ คนให้เข้ากันพอจับตัวเป็นก้อนพอนะคะ ไม่ต้องให้เนียนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน แบบทำเค้ก

     
     6. เทส่วนผสมลงที่ถาดที่จะใช้อบ (ถ้าไม่มีแผ่นซิลิโคน ก็ใช้กระดาษไขรองถาดได้เหมือนกันค่ะ) ใช้มือกอบส่วนผสมทั้งหมดให้รวมกัน กดเบาๆ ให้ได้รูปอย่างที่ต้องการ ความหนาประมาณ Ω นิ้วกำลังสวยค่ะ (หนากว่านั้น อ้าปากงับไม่ไหวนิÖเพราะเดี๋ยวเข้าอบมันจะพองขึ้นมาอีกนิดนึงค่ะ)
     หนนี้ทำเป็นรูปวงกลมธรรมดานะคะ เพราะเสียดายเศษเวลาใช้พิมพ์กลมตัดน่ะค่ะ (ความงกเป็นเหตุ ฮ่าๆ)
     7. ใช้มีด หรืออะไรก็ได้ที่หาได้แถวๆ นั้น ตัดเป็นชิ้นๆ สามเหลี่ยม จะกี่ชิ้นก็แล้วแต่ค่ะ แต่อ้วนๆ อวบๆ หน่อยก็เต็มปากเต็มคำดี
     8. ทานมสดด้านบน (หรือจะไม่ทาก็ได้นะคะ แต่ถ้าทา ผิวด้านบนจะออกน้ำตาลหน่อยๆ ค่ะ)
     9. รีบหันตัวส่งขนมบนถาดเข้าเตาอบทันที อบที่ไฟ 1900c บนล่าง ประมาณ 18 นาทีค่ะ (แต่ถ้าจะให้ดี อย่าไปไหนค่ะ เฝ้าหน้าเตา เพราะเตาอบแต่ละตัวของแต่ละบ้านไม่เหมือนกัน เฝ้าดูไว้จะดีกว่าค่ะ)
     อบจนขนมเหลืองสุก (เหลืองมากเหลืองน้อยแล้วแต่ชอบนะคะ แต่ถ้าเหลืองมากออกไปทางสีน้ำตาล ขนมอาจจะแห้งเกินไปค่ะ)


     10. เอาออกจากเตา ผึ่งให้อุ่นจัดๆ ทานได้เลยค่า ไม่ต้องรอให้เย็น เสร็จแล้วค่า วู้ฮู้ (เห็นมะคะ ง่ายออก)

 
     เห็นมั้ยคะว่าไม่ยากเลย ทำเองง่ายๆ ทานที่บ้าน ไม่ต้องเสียตังค์ชิ้นละแพงๆ ไปซื้อเค้า (แต่จะซื้อก็ได้นะคะ ไม่ว่ากัน ฮี่ ฮี่ ) ถ้าท่านผู้อ่านลองทำแล้วเป็นยังไง ลองส่งรูปมาให้ดูมั่งก็ได้นะคะ ส่งมาที่กองบ.ก. แล้วบอกว่า ìผลงานจากสูตรครัว Indyî หรือมีคำถามอะไร ในเรื่องของสโคน มีปัญหาตรงไหน ถามมาได้ค่ะ จะพยายามตอบให้ได้ (อย่างสุดความสามารถค่า)
     ตอนนี้ขออนุญาตไปหม่ำสโคนในรูปก่อน
     นะคะ...ห้อมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม หอมมมมมมมมมมม

Read More...


ซุปเห็ดข้นร้อนๆ

ลุกขึ้นไปค้นหาวิธีทำซุปเห็ด แบบเห็ดๆๆๆๆๆๆๆๆ มีแต่เห็ดมาลองทำดูค่ะ ออกมาหอมมมมม...กลิ่นเห็ด มีเนื้อเห็ดเต็มปากเต็มคำ หอมๆ เค็มๆ มันๆ ทานกับขนมปังปิ้ง สุดยอดเลยค่ะ

          
          สวัสดีอีกทีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน พักนี้อากาศแปรปรวนนะคะ ดูแลตัวเอง รักษาสุขภาพกันด้วยค่ะ จะว่าไปช่วงปลายปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่มีเห็ดกระดุมขาวออกขายค่อนข้างเยอะ หาซื้อได้ง่ายกว่าช่วงอื่นๆ ของปี งั้นเรามาทำซุปเห็ดข้นร้อนๆ ทานกันดีมั้ยคะ?
          เมื่อก่อนโน้นนนนนนนน ไปร้านอาหารที่มีอาหารพร้อมสลัดบาร์ทีไร ต้องไปวิดซุปเห็ดข้นของเขามาทานทุกครั้งไป ด้วยความที่เป็นคนชอบทานเห็ดทุกประเภท ไม่ว่าจะเห็ดของบ้านเรา หรือเห็ดของบ้านใครเขา (ฮี่ ฮี่) จะดำ หรือขาว หรือเทา ส่งมาได้เลยค่ะ ชอบทานทุกชนิด ระหว่างทานไปนั่งเขี่ยหาเห็ดในถ้วย (- - -) ไป ม่ายเห็นมีเลย ฮืออออออ...มันต้องเป็นซุป (กลิ่น) เห็ดแน่ๆ เลย เลยลุกขึ้นไปค้นหาวิธีทำซุปเห็ด แบบเห็ดๆๆๆๆๆๆๆๆ มีแต่เห็ดมาลองทำดูค่ะ ออกมาหอมมมมม...กลิ่นเห็ด มีเนื้อเห็ดเต็มปากเต็มคำ หอมๆ เค็มๆ มันๆ ทานกับขนมปังปิ้ง สุดยอดเลยค่ะ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาร้านอาหารที่ว่า ไม่ได้ตังค์เราแล้ววววววววววววววววววว เย้! : D
          มาดูส่วนผสมและวิธีทำง้ายง่ายกันดีกว่า

 
          
          วิธีทำ
          1. หั่นเห็ดให้เป็นชิ้นไม่ต้องเล็กมากก็ได้ค่ะ เพราะเดี๋ยวเราจะปั่นอยู่ดี
          2. สับหอมหัวใหญ่ และเอาลงผัดกับเนยในหม้อให้หอมหัวใหญ่สุก ใส (อย่าให้มีสีเข้มนะคะ พอให้ใสๆ พอ)

 
          
          3. ใส่เห็ดที่หั่นไว้แล้ว เติมเกลือเล็กน้อย ผัดให้สุกนิ่ม (เห็ดจะคายน้ำออกมาค่อนข้างเยอะนะคะ เพราะเกลือจะเป็นตัวเร่งให้เห็ดคายน้ำ แต่น้ำที่ว่าแหละค่ะ ที่หอมมมมมม มากๆ) ปล่อยให้เดือดประมาณ 4-5 นาที โรยแป้งอเนกประสงค์ลงผัดให้สุก คนให้ทั่วเพื่อไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน เติมน้ำลงไป ตั้งให้เดือดอีกครั้ง

         
          4. ยกลงจากเตา เติมนมสดและวิปปิ้งครีมทันทีตอนที่ยังร้อน

          
          5. เทส่วนผสมที่ผัดแล้วเพื่อปั่น (ที่บ้านมีที่ปั่นแบบมือถือค่ะ แบบที่จุ่มลงไปในหม้อแล้วปั่นได้เลย) เนื้อซุปจะข้นจากทั้งตัวเห็ดเอง และแป้งที่เราผัดไว้ค่ะ
          6. ปั่นให้ส่วนผสมทั้งหมดละเอียดเข้ากันดี ชิมรส เติมเกลือและพริกไทยเพื่อให้ได้รสที่ชอบ (ถ้าใช้น้ำซุปให้ระวังเรื่องเกลือนิดนะคะ เพราะในน้ำซุปเองก็มีรสชาติของตัวเองอยู่แล้วค่ะ)

         
          7. ตักใส่ชามเสิร์ฟ โรยด้วยวิปปิ้งครีมได้อีกเล็กน้อยค่ะหากชอบ
          เรียบร้อยค่ะ ซุปเห็ดข้นทำเอง ง่ายใช่มั้ยคะ อร่อยด้วยค่ะ หอมมมมมมม...เห็ด เนื้อซุปเนียนๆ ทานกับขนมปังปิ้งร้อนๆ 1 แผ่น และพอทานซุปเกือบหมด ก็ฉีกขนมปังที่เหลือเช็ดถ้วยได้เลยค่ะ อิ่มมมมมมมมม อุ่นนนนนน อร่อยยยย ค่า : D เจอกันใหม่ฉบับหน้านะคะ ขอบพระคุณค่า


Read More...


‘เชอร์เบทลูกหว้า’ ทำกินง่าย...ทำขายก็ดี!


 ท่ามกลางอุณหภูมิที่กำลังเพิ่มองศาขึ้นทุกขณะ หลายคนอาจมีรูปแบบคลายร้อนต่างกัน บ้างก็นึกถึงทะเล หรือไม่ก็เครื่องปรับอากาศเย็น ๆ เพื่อนอนแช่ให้ชุ่มฉ่ำปอด และหนึ่งในวิธีฮิตติดท็อปที่ช่วยดับกระหายคลายร้อนได้เป็นอย่างดี นั่นคือ การหาของกินเย็น ๆ ใส่ท้องเติมความสดชื่นให้กับร่างกาย วันนี้ทีมงาน “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลวิธีคลายร้อนมานำเสนอ กับเมนูแปรรูปผลไม้หน้าร้อนอย่างเช่น “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า” อีกสูตรพิเศษของ คณะคหกรรมศาสตร์ สาขาวิชาอาหารและโภชนาการมาให้พิจารณากัน...

ผู้ถ่ายทอดสูตร “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า” เป็นนักศึกษาสาวจากสาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี รุ่ง กัทรา ชาวแพรกน้อย, วิไลลักษณ์ ศิริรุ่ง เรืองกุล และ อาภาวรรณ จันทาบ ควบคุมดูแลโดย ผศ.มาริน สาลี อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ คณะคหกรรมศาสตร์ฯ อธิบายถึงที่มาของสูตรดังกล่าวว่า “เชอร์เบท” เป็นไอศกรีมอีกแบบหนึ่ง ที่มีส่วนผสมหลัก ๆ คือ นํ้าตาล นํ้าผลไม้ และเนื้อผลไม้ สาว ๆ ยุคใหม่จะชอบกินไอศกรีมชนิดนี้ เพราะมีส่วนผสมของนมเพียงเล็กน้อย หรืออาจไม่มีเลย ทำให้ไม่อ้วน จึงคิดใส่ไอเดียความ    เป็นไทยลงไปในไอศกรีมเชอร์เบท ด้วยการนำเอาผลไม้ไทยอย่าง “ลูกหว้า” มาแปรรูป เพื่อทดแทนการนำเข้าผลไม้จาก  ต่างประเทศ...

“ปกติลูกหว้าจะนำไปทานกันสด ๆ หรือไม่ก็นำไปแปรรูปเป็นไวน์ จึงคิดเอาลูกหว้าไปแปรรูปทำเป็นไอศกรีมเชอร์เบท เนื่องจากลูกหว้าเป็นผลไม้ไทยที่หาได้ง่าย ราคาถูก และยังมีคุณประโยชน์กับสรรพคุณทางยา ช่วยแก้โรคเบาหวาน แก้บิด แก้ท้องร่วง รวมถึงลดการจับตัวของลิ่มเลือด ที่สำคัญคือ ยังไม่มีการแปรรูปเป็นไอศกรีม จึงคิดที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลไม้ชนิดนี้ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ชื่นชอบไอศกรีมรสชาติอมเปรี้ยวอมหวานฝาดนิด ๆ ตามธรรมชาติด้วย”

อุปกรณ์ มีเครื่องปั่นผลไม้, เครื่องทำไอศกรีม, กะละมัง และเครื่องไม้เครื่องมืออื่น ๆ จากในครัว
ส่วนผสม มีเนื้อลูกหว้า 375 กรัม, เจลาตินแผ่น 2 แผ่น, นํ้าตาลทรายขาว 250 กรัม, นมผง 15 กรัม, นํ้าสะอาด125 กรัม, นํ้ามะนาว 44 กรัม หรือ 4 ช้อนโต๊ะ และนํ้าแข็ง 100 กรัม
ขั้นตอนการทำ “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า”

เริ่มจากนำเนื้อลูกหว้าสดที่เตรียมไว้ใส่หม้อสเตนเลส เติมนํ้าตาลทราย นมผง และนํ้าสะอาดลงในหม้อ จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อน ๆ ทำการคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ตีประมาณ 5 นาที ไม่ต้องรอให้เดือด เพราะจะทำให้สีของลูกหว้าเปลี่ยน พอนมผงและนํ้าตาลทรายละลายดีแล้วยกลงจากเตา นำเจลาตินแผ่นที่เตรียมไว้ใส่ลงไปคนให้ละลาย ปล่อยทิ้งให้ส่วนผสมเย็น

เมื่อส่วนผสมเย็นดีแล้ว ใส่นํ้ามะนาวที่เตรียมไว้ลงไปเพื่อเพิ่มวิตามินซี และทำให้เกิดความเปรี้ยว จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่นให้เนื้อเนียน โดยใช้ความเร็วปานกลาง ประมาณ 10 วินาที แล้วเทใส่ภาชนะพักไว้สักครู่

นำนํ้าแข็งที่เตรียมไว้มาปั่นให้ละเอียด เสร็จแล้วนำส่วนผสมลูกหว้าที่ปั่นไว้เมื่อครู่เทลงในเครื่องปั่น ปั่นรวมกันอีกรอบเพื่อให้นํ้าแข็งกับส่วนผสมเข้ากันดี ปั่นให้เนื้อละเอียดเนียนเหมือนนํ้าแข็งปั่น ลักษณะสีสม่ำเสมอนวลสวย (ทั้งนี้ หากนำส่วนผสมที่ทำไว้ไปแช่แข็ง ประมาณ 1-2 คืนจะทำให้เนื้อลูกหว้ามีความเป็นไอศกรีมเพิ่มมากขึ้น)

จากนั้นเทส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องทำไอศกรีม      ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็สามารถจัดเสิร์ฟได้ทันที หรือนำมาบรรจุใส่ถ้วยกระดาษ เพื่อแช่แข็งยืดอายุในการเก็บรักษาให้ยาวนาน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ไอศกรีมรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ รสชาติไทยแท้ ๆ อร่อยไม่เลี่ยนแบบใส่นมใส่ครีมด้วย

เคล็ดลับการเก็บรักษา ให้เนื้อไอศกรีมไม่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสีและด้านเนื้อสัมผัส ด้วยถ้วยกระดาษ ขนาด 4 ออนซ์ หรือถ้วยกระดาษที่มีนํ้าหนักเบา ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า มีราคาอยู่ที่ถ้วยละ 25 บาท ต้นทุน 10 บาท

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ทานได้ทุกเพศทุกวัย กินคลายร้อนก็ได้ นำไปประกอบอาชีพทำขายก็ดูดี หากสนใจอยากจะลองฝึกทำ “ไอศกรีมเชอร์เบทลูกหว้า” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ผศ.มาริน สาลี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ที่ภาควิชาอาหารและโภชนาการ โทร.0-2549-3160-61 หรือ 08-4094-8222 ซึ่งทางอาจารย์ก็ยังมีสูตรอาหารเพื่อสุขภาพที่น่าสนใจอีกหลายชนิด.

เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ
คู่มือลงทุน...เชอร์เบทลูกหว้า
ทุนเบื้องต้น 3,000 บาท
หมุนเวียน 40% ของราคา
รายได้ ราคา 25 บาท/ชุด
แรงงาน 1 คนขึ้นไป
ตลาด ร้านเครื่องดื่ม-ไอศกรีม, ตลาด
จุดน่าสนใจ ดีต่อสุขภาพเป็นจุดขาย

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/233062/‘เชอร์เบทลูกหว้า’+ทำกินง่าย...ทำขายก็ดี!

Read More...


‘เมนูอบวุ้นเส้น’ สูตรเด็ดระดับ ‘เหลา’


 “อบวุ้นเส้น” เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย มีการทำขายตามร้านอาหารทั่วไป ไม่ว่าจะร้านอาหารไทย อาหารจีน อาหารซีฟู้ด หรือแม้แต่ทำขายเป็นเมนูเดี่ยวตามตลาดนัดก็ขายได้ขายดี ซึ่งวันนี้ทีม ’ช่องทางทำกิน“ ก็มีข้อมูล ’เมนูอบวุ้นเส้น“ สูตรของอีกหนึ่ง “เหลา” คือ “ภัตตาคาร โกลด์ เซี่ยงไฮ้” ซอยสุขุมวิท 39 กรุงเทพฯ มานำเสนอ...
   
“ภัตตาคาร โกลด์ เซี่ยงไฮ้” เป็นเหลาหรือร้านอาหารจีนแนวเซี่ยงไฮ้และซีฟู้ด มีผู้บริหาร กุ๊ก พนักงาน ที่มีประสบการณ์ในการบริหารร้านอาหาร ทำอาหาร ให้บริการลูกค้า ในร้านอาหารดังย่านสุขุมวิทมาถึง 30 ปี ก่อนที่จะมาเปิดภัตตาคารแห่งนี้ โดย สมใจ เกิดแก้ว เจ้าของ-ผู้บริหารภัตตาคาร เปิดเผยว่า ทางภัตตาคารมีเมนู เป็ดปักกิ่ง เป็นเมนูชูโรง ขณะที่เมนูอื่น ๆ ที่ลูกค้าติดใจก็มีมากมาย อาทิ ขาหมูหมั่นโถว, เนื้อเส้นผัดพริก รับประทานคู่กับโรตี ฯลฯ

ส่วน ’เมนูอบวุ้นเส้น“ ที่นี่ก็ขึ้นชื่อ ทั้ง ’กุ้ง-ปู“ ลูกค้าให้การตอบรับสูง 
“เรามีประสบการณ์ด้านร้านอาหารมากพอสมควร และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็อยากมีร้านเป็นของตัวเองบ้าง เมื่อมีโอกาสจึงตัดสินใจเปิดร้าน ซึ่งลูกค้าก็ให้การตอบรับดี เพราะเรามีประสบ การณ์ในการทำร้านอาหารและทำอาหารจีนมานาน กุ๊ก พ่อครัว ลูกทีม ที่มาร่วมกันทำ ก็ล้วนแล้วแต่เคยทำงานด้วยกัน และมีประสบการณ์มากพอ ๆ กัน” สมใจ บอก

พร้อมทั้งมอบหมายให้ทางกุ๊กเป็นผู้ให้ข้อมูล “เมนูอบวุ้นเส้น” โดยยกตัวอย่าง “กุ้งอบวุ้นเส้น”
ทั้งนี้ อุปกรณ์ที่ใช้ทำเมนูอบวุ้นเส้นนั้น หลัก ๆ ก็เป็นอุปกรณ์ครัวทั่ว ๆ ไป อาทิ...เตาแก๊ส, มีด, เขียง ฯลฯ

แต่ที่ขาดไม่ได้คือ หม้ออบ
สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ทำเมนูอบวุ้นเส้น กรณีเป็น “กุ้งอบวุ้นเส้น” ตามสูตรของกุ๊ก “โกลด์ เซี่ยงไฮ้” นั้น หลัก ๆ มีดังนี้คือ...กุ้งลายเสือ 5 ตัว, วุ้นเส้น ประมาณ 1 กำมือเล็ก ๆ, รากผักชี 2 ราก, ต้นหอม 3 ต้น, มันหมู 3 ชิ้น กระเทียมใหญ่ 3 กลีบ ส่วนเครื่องปรุง หลัก ๆ ก็มี...ซีอิ๊วดำ (สูตร 1) 3 ช้อนโต๊ะ, ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ, นํ้ามันหอย 3 ช้อนโต๊ะ, เหล้าจีน 3 ช้อนโต๊ะ, พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา, นํ้าซุป 1 ถ้วย นอกจากนั้นก็มีเครื่องเทศ อย่างพวกโป๊ยกั๊ก และอบเชย

กุ้งพันธุ์ต่าง ๆ สามารถนำมาใช้ทำ “กุ้งอบวุ้นเส้น” ได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ทำว่าจะเลือกใช้กุ้งอะไร แต่สำหรับภัตตาคารอาหารจีนแนวเซี่ยงไฮ้และซีฟู้ดแห่งนี้ เลือกใช้ “กุ้งลายเสือ” กุ้งที่เนื้อมี “คุณภาพดี” มีรสชาติหวานอร่อย

เหมาะที่จะใช้ทำเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นมาก
ขั้นตอนการทำ “กุ้งอบวุ้นเส้น” เริ่มจาก... นำวุ้นเส้นมาแช่นํ้าสะอาดทิ้งไว้สักพัก พอวุ้นเส้นนิ่มก็นำขึ้นสะเด็ดนํ้า พักเตรียมไว้ จากนั้นก็นำกุ้งมาล้างทำความสะอาด ตัดหนวดตัดส่วนแหลมที่อยู่บนหัวกุ้งออก แต่ไม่ต้องปอกเปลือก ใช้วิธีผ่าหลังดึงเส้นดำออก หลังจากล้างกุ้งเสร็จแล้วก็พักไว้ เตรียมวัตถุดิบอื่น ๆ อย่างพวกกระเทียม รากผักชี ต้นหอม โดยปอกเปลือกกระเทียม ทุบให้พอแตก รากผักชีก็นำมาทุบพอแตก หั่นต้นหอมพอหยาบ ๆ พักเตรียมไว้

เตรียมวัตถุดิบเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือการนำวัตถุดิบใส่ลงหม้ออบ โดยใส่มันหมูลงไปวางเรียงไว้ที่ก้นหม้อก่อน ตามด้วยใส่กระเทียม รากผักชี ต้นหอม โป๊ยกั๊ก อบเชย พริกไทยเม็ด จากนั้นใส่วุ้นเส้น แล้ววางกุ้งทับอยู่ด้านบนสุด ถัดมาก็ใส่เครื่องปรุง ซีอิ๊วดำ ซีอิ๊วขาว นํ้ามันหอย เหล้าจีน ลงไปในหม้ออบ นำนํ้าซุปเทใส่ ปิดฝาหม้ออบ ตั้งไฟ

การตั้งไฟอบนั้น จะใช้ไฟแรงกลาง ๆ ในการทำ “กุ้งอบวุ้นเส้น” ใช้เวลาอบประมาณ 5 นาทีก็จะสุกหอมหวนชวนรับประทาน ทางกุ๊กจะไม่ใช้ไฟแรงมาก เพราะจะไหม้ และไม่ใช้ไฟอ่อนซึ่งต้องอบนาน เพราะจะทำให้กุ้งหดเล็ก เนื้อแข็ง

นี่คือส่วนหนึ่งของเคล็ดลับความอร่อย
กุ้งอบวุ้นเส้นนี้ ต้นทุนจะเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบที่นำมาทำ โดยเฉพาะกุ้ง
อย่างไรก็ดี สำหรับ “เมนูอบวุ้นเส้น” นอกจากจะใช้กุ้งทำแล้ว ยังสามารถใช้วัตถุดิบอื่น ๆ ทำได้อีก โดยเฉพาะ “ปู” ทำเป็น “ปูอบวุ้นเส้น” ซึ่งที่ “โกลด์ เซี่ยงไฮ้” ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้ามาก เพราะใช้ปูสด ถ้าไม่สดไม่ทำขายลูกค้า

สำหรับการทำ “ปูอบวุ้นเส้น” ก็ใช้วิธีและขั้นตอนการทำที่เหมือนกับกุ้ง แต่ที่สำคัญนั้นปูที่นำมาอบจะต้องแกะตัดแบ่งให้เป็นชิ้น วางเรียงแล้วใช้กระดองปูวางคลุมให้ดูสวยงาม ซึ่งที่ต้องแกะปูเป็นชิ้น ๆ ก็เพื่อที่จะให้รสชาติของเครื่องปรุงนั้นแทรกซึมเข้าไปในเนื้อปู

’เมนูอบวุ้นเส้น“ นับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบ ’ช่องทางทำกิน“ ที่น่าพิจารณา ซึ่งจากสูตรและแง่มุมระดับ “เหลา” ดังที่ว่ามา ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจเมนูนี้อยู่ ส่วน “ภัตตาคาร โกลด์ เซี่ยงไฮ้” นั้น ตั้งอยู่ที่เลขที่ 36/5-7 ซอยสุขุมวิท 39 กรุงเทพฯ เปิดบริการช่วงเช้า เวลา 11.00-14.00 น. และช่วงเย็น เวลา 18.00-22.30 น. เบอร์โทรศัพท์คือ 0-2662-7498, 08-1296-6578, 09-3341-5885 ซึ่งก็มีเมนูอาหารจีนแนวเซี่ยงไฮ้และซีฟู้ดเด็ด ๆ มากมาย.
บดินทร์ ศักดาเยี่ยงยงค์ :รายงาน

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/231150/‘‘เมนูอบวุ้นเส้น’+สูตรเด็ดระดับ+‘เหลา’

Read More...


‘พิซซ่าสไตล์ไทย’ จุดขายเล็ก ๆ ราคาเบา



ยุคนี้ “พิซซ่า” กลายเป็นอีกหนึ่งอาหารต่างชาติที่คนไทยก็ให้ความนิยม ซึ่งในบ้านเรานอกจากร้านขายพิซซ่าที่เป็นแบรนด์ใหญ่ ๆ แล้ว กับการทำขายทั่ว ๆ ไปก็มี และก็ใช่ว่าไม่น่าสนใจ อย่าง “พิซซ่าสไตล์ไทย” พิซซ่าไทยขนาดเล็ก ราคาเบา ที่ทีม “ช่องทางทำกิน” จะนำเสนอในวันนี้ นี่ก็เป็นกรณีศึกษาการค้าขายอาหารต่างชาติในไทยที่น่าพิจารณา...

บรรทม บุญคง และ นพรัตน์ สุขรัตน์วีระ สองพี่น้อง เป็นเจ้าของธุรกิจพิซซ่า แบรนด์ “มิสเตอร์พิซซ่า เฟรซ” โดยใช้ความรู้ที่มีจากการที่เคยทำงานในโรงงานทำพิซซ่า ผสมกับความชอบ ในการปรับและพัฒนารสชาติพิซซ่าให้ใกล้เคียงกับต้นตำรับสไตล์อิตาเลียน แต่อร่อยถูกปากคนไทย มีความสดใหม่ ราคาไม่สูง จึงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคทุกระดับเป็นอย่างดี ซึ่ง นพรัตน์ อายุ 36 ปี เล่าให้ฟังว่า เธอกับพี่ชายได้ร่วมกันทำธุรกิจพิซซ่าขนาดเล็กนี้มานาน 8 ปีแล้ว

เริ่มต้นนั้นก็ต้องเตรียมตัว หาแหล่งวัตถุดิบ รวมถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ และได้มองการขายที่ตลาดล่างที่ได้เงินสดทุกวัน โดยคำนึงถึงหลักความเป็นจริงที่ว่า ในตลาดล่าง ผู้บริโภคจะซื้อหาของกินอย่างระมัดระวัง บางคนอยู่คนเดียวหรือสองคน ซื้อพิซซ่าถาดใหญ่คงกินไม่หมด จึงชูจุดขายพิซซ่าขนาดเล็ก ราคาเบา หน้าแน่นไปด้วยคุณภาพและความอร่อย

แป้งพิซซ่าเป็นสูตรพิเศษ เมื่ออบแล้วจะกรอบนอกนุ่มใน มีหน้าให้เลือกหลากหลายหน้า ทั้งซีฟู้ด ฮาวายเอี้ยน แฮมชีส ไส้กรอกไก่ ปูอัด รวมมิตร ที่เป็นวัตถุดิบคุณภาพดีของไทย ซึ่งเมื่อทุกอย่างลงตัวก็ทำออกขายที่ตลาดนัดเป็นสาขาแรก ผลตอบรับดีมาก ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชอบกันมาก เตรียมของไปเป็นร้อยชิ้น ขายหมดในเวลาไม่นาน จากนั้นก็ขยายขึ้นเป็น 3 สาขา มีลูกค้าขาประจำและขาจรมาซื้อกันมากมาย คนละ 2-3 ถาด และมีหลายคนสนใจขอซื้อแฟรนไชส์ด้วย

นพรัตน์ บอกอีกว่า พิซซ่าที่ขาย ที่น่าสนใจไม่เหมือนเจ้าอื่น คือ “พิซซ่าหน้าเจ” เป็นสูตรที่คิดค้นโดยใส่สารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อทำขายในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีทุกครั้งที่ไปออกงานแฟร์หรืองานแสดงสินค้าต่าง ๆ

อุปกรณ์ในการทำพิซซ่า หลัก ๆ ก็มี หม้ออบความร้อน ไม้พาย แปรงทาเนย มีด เขียง ที่ตักพิซซ่า ที่ขูดชีส ถาดพิซซ่า หรือภาชนะใส่อาหารสำหรับใช้อบ

ส่วนการเตรียมวัตถุดิบในการทำ หลัก ๆ ก็มี แป้งพิซซ่าสำเร็จรูปที่ทำจากแป้งสาลี, ผงออริกาโน่, ซอสมะเขือเทศ, มายองเนส, หอยแมลงภู่ลวก (แกะเอาแต่เนื้อ), ปลาหมึกหลอดหั่น, กุ้งขาว (แกะเปลือก-ลวก), ปูอัดหั่น, ไส้กรอกไก่หั่น, แฮมหั่น, สับปะรดหั่น, หอมใหญ่, มะเขือเทศสด, พริกหวานเขียวและแดง, ชีส หรือเนยแข็งมอสซาเรลล่า

การทำ “พิซซ่าสไตล์ไทย” เริ่มที่เตรียมวัตถุดิบหน้าพิซซ่าก่อน หอยแมลงภู่ นำมาลวก แกะเอาแต่เนื้อ ปลาหมึกหลอดหั่นพอดีคำ กุ้งขาว แกะเปลือกแล้วลวก ปูอัด ไส้กรอกไก่ แฮม หั่นตามขนาดที่ต้องการ สับปะรดปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ หอมใหญ่ปอกเปลือกหั่นเป็นแว่นบาง ๆ มะเขือเทศล้างแล้วหั่นเป็นชิ้นลูกเต๋า พริกหวานหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ

เตรียมวัตถุดิบหน้าพิซซ่าแล้ว เมื่อจะทำพิซซ่า ขั้นตอนแรกก็นำแป้งพิซซ่าสำเร็จรูปมาวางบนถาด ใช้แปรงป้ายเนยมาการีนมาทาบริเวณขอบแป้งให้ เหลือง เพื่อเพิ่มรสชาติ และไม่ให้แห้ง เสร็จแล้วใช้ช้อนตักซอสมะเขือเทศละเลงทาลงบนตัวแป้งให้ทั่วแผ่น เพื่อให้ได้รสชาติของซอสที่กลมกล่อมทั่วแผ่นแป้ง

จากนั้นจัดเรียงหน้าพิซซ่า เริ่มจากหน้าซีฟู้ด ใส่ปลาหมึกหลอดหั่น ตามด้วยหอยแมลงภู่ ปูอัด กุ้งขาว ที่เตรียมไว้ จัดวางตามต้องการ เสร็จแล้วใส่สับปะรดหั่น หอมใหญ่หั่น มะเขือเทศหั่น และพริกหวานหั่น ลงบนตัวแป้ง แล้วราดด้วยมายองเนสทั่วหน้าพิซซ่า เพื่อไม่ให้เกิดความเลี่ยน จากนั้นนำชีสมาขูดให้ทั่วหน้าพิซซ่าเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อเพิ่มความอร่อยและนุ่มเหนียวยิ่งขึ้น ก่อนจะนำไปอบในหม้ออบความร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศาฯ ประมาณ 3-5 นาที ให้แป้งเหลืองกรอบพอประมาณ จากนั้นนำพิซซ่าออกจากหม้ออบ โรยผงออริกาโน่ให้หอม เป็นอันเสร็จสิ้นการทำพิซซ่าหน้าซีฟู้ด

สำหรับการทำหน้าอื่น ๆ ขั้นตอนแรกที่เอาเนยมาการีนทาแป้ง และซอสมะเขือเทศ ก็เหมือนกัน แต่การแต่งหน้าพิซซ่าจะต่างกันนิดหน่อย เช่น หน้าฮาวายเอี้ยน ใส่แฮมหั่น สับปะรดหั่น ราดมายองเนส ขูดชีสโรยให้ทั่วหน้าพิซซ่าแล้วนำเข้าหม้ออบ แล้วตบท้ายด้วยการโรยออริกาโน่ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สำหรับพิซซ่าหน้าไส้กรอกไก่ แฮมชีส ปูอัด ขั้นตอนแรกทำเหมือนกับหน้าฮาวายเอี้ยน แต่ไม่ใส่สับปะรด ใครชอบผักก็ใส่ตามชอบ ไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่

หน้ารวมมิตร จะพิเศษกว่าหน้าอื่น ใช้วัตถุดิบหลักมาใส่รวมกัน ทั้งแฮม ไส้กรอกไก่ ปูอัด ปลาหมึกหลอด กุ้งขาว และผักรวม ราดมายองเนส ขูดชีสโรยให้ทั่วแผ่นแป้ง นำเข้าอบ เสร็จแล้วโรยออริกาโน่ เพื่อเพิ่มความหอมและอร่อยยิ่งขึ้น

พิซซ่าเจ้านี้ ถาดเล็ก ขนาด 5 นิ้ว ขายราคา 49 บาท ถาดกลาง 7 นิ้ว ราคา 59 บาท ทำสดใหม่ อบร้อน ๆ หอม ๆ ซึ่งด้วยสูตรแต่งหน้าพิซซ่าที่เป็นเอกลักษณ์ และใช้แป้งพิซซ่าที่กรอบนอกนุ่มใน ทำให้น่ารับประทาน อร่อยติดใจ
 
“พิซซ่าสไตล์ไทย” อย่างแบรนด์ “มิสเตอร์พิซซ่า เฟรซ” นี้ เป็นอีกกรณีศึกษา “ช่องทางทำกิน” ที่น่าสนใจ ซึ่งทางเจ้าของแบรนด์ยังเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้เป็นเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ ด้วยทุนเริ่มต้น 25,000-30,000 บาท ใครสนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดจาก บรรทม บุญคง และ นพรัตน์ สุขรัตน์วีระ ได้ที่ โทร. 08-1906-4703, 08-7667-4714 ทั้งนี้ อาหารต่างชาตินั้นหลายอย่างสามารถทำได้ง่าย

ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก และอาจจะสร้างอาชีพสำหรับคนไทยได้.
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / ภานุพงศ์ พนาวัน : ภาพ
คู่มือลงทุน…พิซซ่าสไตล์ไทย
ทุนเบื้องต้น ประมาณ 25,000-30,000 บาท
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 50% ของราคาขาย
รายได้ ราคาขายถาดละ 49-59 บาท
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ตลาดนัด ชุมชน งานออกร้าน
จุดน่าสนใจ รสชาติไทย ราคาเบา คือจุดขาย

credit by : http://www.dailynews.co.th/Content/Article/226459/‘พิซซ่าสไตล์ไทย’+จุดขายเล็ก+ๆ+ราคาเบา 

Read More...


ขนมเบื้องญวน

Pic_398196

ขนมเบื้องญวนที่นำมาขึ้นสำรับในวันนี้ เป็นอีกเมนูหนึ่งที่จะหาทานได้ยากขึ้น  นอกเสียจากต้องไปทานตามร้านอาหารเวียดนาม โดยมีการเล่าต่อๆกันมาถึงที่มาของเมนูนี้ว่า เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3 เมื่อครั้งที่ทรงยกทัพไปตีเมืองญวน ได้จับเชลยญวนมาเป็นจำนวนมาก และพวกเขาได้ทำขนมขายอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือขนมเบื้องญวน

คุณ เก๋–วีรวรรณ  พงศ์สงวนไทย  ลูกสาวเจ้าของร้านอาหารเวียดนาม “หง่อนหลำ” ซึ่งหมายถึง  “อร่อย”  ตั้งอยู่ย่านสะพานเหลือง ริม ถ.พระราม 4 ร้านนี้เปิดมากว่า 10 ปีแล้ว โดยคุณแม่ที่เป็นคนอุบลฯ และมีฝีมือในการทำอาหาร แต่ที่เลือกเปิดร้านอาหารเวียดนาม เพราะสมัยนั้นยังไม่ค่อยมีใครเปิดกัน จากร้านแรกที่สยามสแควร์ และเปลี่ยนทำเลมาเรื่อยๆจนมาปักหลักที่สะพานเหลืองในขณะนี้ โดยมีลูกๆเข้ามาช่วยพัฒนาร้านและเมนูอาหาร สำหรับคุณเก๋จะเข้ามาช่วยดูแลงานในครัวด้วย และวันนี้ได้เลือกเมนูยอดฮิตของที่ร้านมาฝากผู้ที่มีเวลาเข้าครัวได้ทดสอบ ฝีมือกัน มีทั้งขนมเบื้องญวน และสัปดาห์หน้าก็เป็นข้าวเกรียบปากหม้อ


ส่วน ผสมของขนมเบื้องญวน : แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย/แป้งกรอบ 3 ถ้วย/ น้ำกะทิสด 1 ถ้วย/ถั่วเขียวซีกนึ่งสุก 1 ถ้วย/ผงขมิ้น 1 ช้อนชา/เกลือ 1 ช้อนชา/หมูบด 1 กก./เห็ดหูหนูดำสับ 1 ถ้วย/หอมใหญ่สับ 1/2 ถ้วย/ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วย/ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ/ซอสภูเขาทอง 2 ช้อนโต๊ะ/น้ำมันหอย 1/2 ถ้วย/ พริกไทย 1 ช้อนชา/น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ/กุ้งสดผ่าครึ่ง 3 ขีด/ถั่วงอกลวก 1 ถ้วย


วิธี ทำ
1) นำแป้งข้าวเจ้า แป้งกรอบ ผงขมิ้น น้ำกะทิ และเกลือ ผสมกันในโถ คนให้เข้ากันแล้วพักไว้
2) นำหมูสับลงกระทะ ผัดพอสุกใส่เห็ดหูหนูดำ หอมใหญ่สับ กุ้งสด และเครื่องปรุงทั้งหมดลงผัด  คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วพักไว้
3) ตั้งกระทะเทฟล่อนให้ร้อนจนทั่ว แล้วตักแป้งลงกระทะ 1 ทัพพี เอียงกระทะให้แป้งไหลไปทั่วทั้งกระทะ โดยใช้ไฟอ่อนๆ
4) โรยถั่วเขียวซีกนึ่งไปบนแป้ง
5) พอแป้งกรอบ เอาออกจากกระทะใส่จาน ตักเครื่องที่เตรียมไว้ใส่บนแผ่นแป้ง โรยถั่วงอกลวกและต้นหอมซอยแล้วค่อยพับครึ่ง  ก่อนเสิร์ฟ แต่งขอบจานให้สวยงามด้วยผักกาดหอมและแตงกวาหั่นแว่น


ส่วน ผสม น้ำจิ้ม : น้ำตาลทราย/ขิงแก่ก้อน/ กระเทียมหัว/น้ำปลา/น้ำส้มสายชู/พริกแดงบด/ แตงกวา/ถั่วลิสงป่น......

วิธีทำ
1) เอาน้ำตาลทราย ขิงแก่ก้อน กระเทียมหัวใส่หม้อต้มให้เดือด เคี่ยวให้มีกลิ่นขิงกระเทียมจึงใส่น้ำปลาและน้ำส้มต้มต่อ
2) เมื่อส่วนผสมเข้ากันดี จึงปิดไฟปล่อยให้เย็น แล้วนำมากรองเอาผงออก
3) ใส่พริกแดงบดลงไปละลาย เป็นที่เรียบร้อยของส่วนน้ำเชื่อม
4) หั่นแตงกวาเป็นแว่นเล็กๆโรยหน้าด้วยถั่วป่น แล้ว เทน้ำเชื่อมใส่ลงไป.

credit by : http://www.thairath.co.th/content/life/398196

Read More...


ข้าวเกรียบปากหม้อญวน

Pic_399731

ขณะที่เมืองไทยเราก็มี “ข้าวเกรียบปากหม้อ” เป็นอาหารว่างที่แสนอร่อย เวียดนามก็มีข้าวเกรียบปากหม้อที่อร่อยไม่ต่างกัน แต่ในความเหมือนก็มีความแตกต่างอยู่ด้วย คือ ข้าวเกรียบปากหม้อญวน จะทานกับน้ำจิ้มแครอตและหัวไช้เท้าขูด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกตัวตนที่ชัดเจน

คุณ เก๋-วีรวรรณ พงศ์สงวนไทย เจ้าของรุ่นลูกร้านอาหารเวียดนาม“หง่อนหลำ” ย่านสะพานเหลือง ซึ่งได้ลงมือโชว์การทำขนมเบื้องญวน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ฝากไว้อีกหนึ่งเมนูให้ลองทำกันดู เผื่ออยากทานขึ้นมาเมื่อไร ก็สามารถเข้าครัวปรุงเองได้เลย หรืออาจจะเป็นของฝากญาติสนิทมิตรสหาย สร้างความภาคภูมิใจอีกด้วย

ส่วน ผสม : 
แป้งสาลี 1 ถ้วย/ แป้งมัน 2 ถ้วย/น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วย/น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ/หมูสับ 1 กก./เห็ดหูหนูซอย 1 ถ้วย/หอมใหญ่หั่นละเอียด 1/2 ถ้วย/ต้นหอมซอย 1/2 ถ้วย/ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ/ซอสภูเขา 2 ช้อนโต๊ะ/น้ำมันหอย 1/2 ถ้วย/พริกไทย 1 ช้อนชา/น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ/เกลือ 1/2 ช้อนชา/กุ้งสดลวกผ่าครึ่ง 3 ขีด......
วิธีทำ 
1) นำแป้งสาลี แป้งมัน น้ำมันพืช ใส่โถเทน้ำเปล่าคนให้เข้ากันพักไว้ 
2) นำหมูสับผัดให้สุกใส่เห็ดหูหนูดำ หอมใหญ่ ต้นหอมซอย และปรุงรสด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด ผัดให้เข้ากันพักไว้ 
3) นำกระทะเทฟล่อนตั้งไฟให้ร้อน เทแป้งที่ผสมลงกระทะ 1 ทัพพี เอียงกระทะให้แป้งกระจายไปทั่ว พอแป้งสุกให้คว่ำกระทะลงบนถาดที่ทาน้ำมันพืช เพื่อให้แป้งหลุดออกจากกระทะ 
4) เรียงกุ้งลวกผ่าครึ่ง 3 ชิ้นตามด้วยเครื่องที่ผัดไว้ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วพับแป้งปิดไส้ให้มิดชิดเป็นทรงยาว นำใส่จานโรยด้วยหอมเจียว แต่งข้างจานด้วยหมูยอหั่นเป็นแว่นแล้วเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม และผักเครื่องเคียง อาทิ ผักกาดหอม ใบโหระพา ผักชีฝรั่ง สะระแหน่ เป็นต้น

ส่วน ผสม น้ำจิ้ม : 
น้ำตาลทราย/ขิงแก่ก้อน/กระเทียมหัว/น้ำปลา/น้ำส้มสายชู/พริกแดงบด/แครอตและ ไช้เท้าขูดเป็นเส้น......
วิธีทำ 
1) เอาน้ำตาลทราย ขิงแก่ก้อน กระเทียมหัวใส่หม้อต้มให้เดือด เคี่ยวให้มีกลิ่นขิงกระเทียมจึงใส่น้ำปลาและน้ำส้ม ต้มต่ออีกพักให้ส่วนผสมเข้ากัน ปิดไฟปล่อยให้เย็นแล้วนำมากรองผงออก 
2) ใส่พริกแดงบดลงไปละลาย เป็นที่เรียบร้อยของส่วนน้ำเชื่อม 
3) นำแครอตกับไช้เท้าขูดใส่ถ้วยน้ำจิ้ม แล้วเติมน้ำเชื่อมที่ทำไว้


Read More...


Dark Chocolate Choux

Pic_404705

ไม่เพียงแต่ขนมไทยโบราณอย่าง  “ทองเอก” กับ “จ่ามงกุฎ” เท่านั้น ที่มีทองคำเปลวติด ดูเก๋ไก๋เป็นเอกลักษณ์ แต่ขนมฝรั่งเศสอย่าง “Choux” ของ  คุณป้อ–อัจฉราพร พันธ์พาณิชย์ ก็สามารถติดทองคำเปลว บอกสัญชาติ (คนทำ) ได้เหมือนกัน ฮะฮ่า!!

คุณป้อ สาวร่างเล็ก แต่เป็นเล็กพริกขี้หนูทีเดียว เพราะต้องช่วยดูแลธุรกิจใหญ่ๆของครอบครัวถึง 3 แห่งด้วยกัน คือโชว์รูมรถยนต์โตโยต้าของบริษัท โตโยต้า ทีบีเอ็น จำกัด และยังต้องดูแลคอมมิวนิตี้มอลล์อีก 2 แห่ง คือ The Paseo Mall ที่อ่อนนุช และ The Paseo Town ที่ ถ.รามคำแหง เยื้องๆหมู่บ้าน สัมมากร นอกจากนี้ ส่วนตัวยังทำรายการชิมอาหารทางทีวีอินเตอร์เน็ต ที่ website : www.iheretv.asia โดยรายการ “แอบอร่อยกับป้อ มู นู” เป็น 1 ใน 12 รายการที่มีอยู่ในเว็บดังกล่าว


คุณ ป้อ เล่าว่า เธอได้อิทธิพลของการชอบเข้าครัวมาจากคุณพ่อก็ว่าได้ เพราะเห็นคุณพ่อซึ่งเป็นคนชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ก็สนใจไปด้วย และจะตามคุณพ่อบ้าง พี่เลี้ยงบ้าง เข้าครัวด้วยตลอด จนกระทั่งมีโครงการจะเขียนหนังสือและทำรายการเกี่ยวกับเรื่องอาหาร ก็เลยคิดว่า ตัวเองควรจะต้องหาความรู้ด้านนี้อย่างจริงจัง  เพื่อที่จะได้อธิบายได้ถูกต้อง จึงไปเข้าเรียนที่สถาบันกอร์ ดอง เบลอ ดุสิตธานี และวันนี้ก็ได้แนะนำ Chocolate Choux Pastry ซึ่งคล้ายๆกับ เอแคลร์ (Eclair) แต่มีถึง 3 ชั้น โดยมี ส่วนผสมของแป้ง Dough ชั้นนอกสุดดังนี้ : แป้ง 170 กรัม/ผงโกโก้ 15 กรัม/ไข่ 285 กรัม/เกลือ 3 กรัม/น้ำตาล 6 กรัม/เนย 135 กรัม/นม 150 กรัม/น้ำ 150 กรัม

วิธี ทำ
1) นำน้ำเปล่า นมสด เนย น้ำตาล และเกลือ ขึ้นตั้งเตา ต้มจนเดือด
2) ยกออกจากเตา เติมแป้งและผงโกโก้ ผสมให้เข้ากัน
3) นำขึ้นตั้งเตาอีกครั้ง คนจนส่วนผสมเริ่มแห้ง (ประมาณ 1 นาที)
4) เทลงโถผสม ตีจนส่วนผสมเย็นลง
5) ค่อยๆเติมไข่ลงไปทีละน้อย
6) เมื่อส่วนผสมเข้ากันดี บีบส่วนผสมลงบนถาดอบ ที่ปูกระดาษไขไว้แล้ว
7) ทาไข่บนตัวแป้งที่บีบไว้
8) นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 160 องศา เป็นเวลา 30 นาที

ส่วนผสมชั้นที่สอง หรือ Choco-late Craquelin : เนย 150 กรัม/น้ำตาลทรายแดง 185 กรัม/ แป้ง 170 กรัม/ ผงโกโก้ 20 กรัม......

วิธีทำ Chocolate Craquelin 1) ผสมเนย น้ำตาลทรายแดง แป้ง และผงโกโก้ให้ เข้ากัน 2) รีดแป้ง ให้บาง 3 มิลลิเมตร นำไป แช่เย็นจนแข็ง 3) ตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ 4) วางลงบนแป้ง choux 

credit by : http://www.thairath.co.th/content/life/404705

Read More...


ข้าวยำสมุนไพร จุดขายคือคุณประโยชน์

อาหารที่เรียกว่า “ข้าวยำ” ถ้าเป็นคนทางภาคใต้ หรือคนรักสุขภาพ เมื่อพบอาหารชนิดนี้เข้าก็จะต้องรีบสั่งมาชิมทันที นอกจากรสชาติของข้าวยำจะอร่อย กลมกล่อม ยิ่งกินก็ยิ่งเพลิน เพราะมีผักสดต่าง ๆ แล้ว ยังเป็นอาหารที่มีสมุนไพรบำรุงร่างกาย ทั้งที่ผสมอยู่ในข้าวยำ และที่กินแกล้ม ถึงขนาดกรมอนามัยยกให้เป็นเมนูสุขภาพอันดับแรก แต่ก็ไม่ใช่ว่าใคร ๆ จะทำข้าวยำได้รสชาติอร่อยเหมือนกันทุกคน เพราะมีเทคนิคเคล็ดลับหลายอย่าง อย่างไรก็ดี วันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” มีข้อมูลการทำ “ข้าวยำสมุนไพร” อาหารเพื่อสุขภาพ มาให้พิจารณา เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่สนใจอยากทำขาย...


ผู้ที่จะให้ข้อมูล ถ่ายทอดสูตร “ข้าวยำสมุนไพร” แบบไม่มีหมกเม็ด คือ ผศ.พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.) โดยสูตรนี้จะเน้นสุขภาพและความอร่อยควบคู่กันไป ซึ่ง ผศ.พงษ์ศักดิ์ บอกว่า ข้าวยำเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ และจัดเป็นอาหารที่มีคุณลักษณะพิเศษ เป็นอาหารจานเดียวของไทยที่มีสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ แถมยังเป็นอาหารธรรมชาติที่มีวิตามิน และเกลือแร่ โดยเฉพาะในผักสดและสมุนไพรนานาชนิดนั้นมีเส้นใยสูง เหมาะสมกับคนที่ต้องการลดนํ้าหนัก หรือควบคุมนํ้าหนัก ทั้งยังช่วยให้ระบบขับถ่ายดีอีกด้วย 

“ดังนั้น ข้าวยำจึงจัดเป็นอาหารสุขภาพอันแสนวิเศษ ทำก็ง่าย แถมต้นทุนต่ำอีกต่างหาก ความที่เอกลักษณ์ของข้าวยำคือ นํ้าบูดู ดังนั้นข้าวยำของใครจะอร่อยหรือไม่ขึ้นอยู่กับนํ้าบูดูเป็นสำคัญ และวัตถุดิบ พืชสมุนไพรที่ใส่ในข้าวยำล้วนแต่มีคุณประโยชน์กับร่างกายทั้งสิ้น เช่น ข้าวมันปู รักษาอาการมือเท้าบวม ป้องกันโรคนอนไม่หลับ ถั่วงอก ช่วยชะลอความชราได้ มะพร้าว บำรุงกำลัง พริก ช่วยกระตุ้นให้เจริญอาหาร ตะไคร้ แก้ปวดท้อง ขับลม มะนาว ขับเสมหะ ฟอกโลหิต ปัสสาวะ ใบมะกรูด แก้โรคลักปิดลักเปิด แก้ลมจุกเสียด มะม่วง ขับเสมหะ และนํ้าบูดู ก็มีคุณค่าทางอาหารประกอบไปด้วย โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามิน ซึ่งแม้ส่วนประกอบจะมากชนิด แต่ละชนิดก็หาไม่ยาก”

อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ หลัก ๆ คือเครื่องมือทั่วไปที่ใช้กันในครัวเรือน อาทิเตาแก๊ส มีด เขียง ถาด ฯลฯ

ส่วนผสมในการทำนํ้าบูดู ก็มี...
-นํ้าบูดูขวดที่หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ใช้ปริมาณ1 ถ้วย,
-เนื้อปลาอินทรีเค็ม 1 ชิ้น,
-ข่า 1 แง่ง,
-ตะไคร้ 3 ต้น,
-หอมแดง 4 หัว,
-ใบมะกรูด 4 ใบ,
-นํ้าตาลปี๊บ 3/4 ถ้วย,
-นํ้าเปล่า 1 ถ้วย และกะปิ

ส่วนผสม
เครื่องเคียงข้าวยำ มีข้าวมันปู 1/4 ถ้วย หรือข้าวขาว (ข้าวซ้อมมือ) อัตราส่วนข้าว 1 ถ้วย ต่อนํ้า 1 1/4 ถ้วย, กุ้งแห้ง 1/4 ถ้วย, มะพร้าวคั่วเหลืองกรอบ 1/2 ถ้วย, ถั่วงอกเด็ดหาง 1 ถ้วย, ตะไคร้หั่นฝอย 4 ต้น, ใบชะพลู 5 ใบ, ใบมะกรูดหั่นฝอย 1/4 ถ้วย, มะม่วงดิบสับละเอียด 1 ถ้วย, ถั่วฝักยาวหั่นฝอย 1 ถ้วย, พริกป่น 2 ช้อนชา, มะนาว 2 ลูก 

ขั้นตอนในการทำ “ข้าวยำ” แบ่ง 2 ขั้นตอนคือ การต้มนํ้าบูดู และการเตรียมเครื่องเคียงใส่ในข้าวยำ

การทำนํ้าข้าวยำหรือนํ้าบูดู นำปลาเค็มมาต้มให้เปื่อย แกะเอาแต่เนื้อใส่หม้อ เติมนํ้าบูดู กะปินิดหน่อย และนํ้าสะอาด ลงไปต้มทิ้งไว้สักครู่ นำหอมแดงทุบ ข่าหั่นเป็นแว่น ตะไคร้ทุบหั่นเป็นท่อน ใบมะกรูดฉีก และนํ้าตาลปี๊บ ใส่ตามลงไป เพื่อให้ได้กลิ่นหอมของสมุนไพรและดับกลิ่นคาวของนํ้าบูดู ต้มให้เดือดสักครู่ แล้วลดไฟเคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ จนเนื้อปลาแตกและนํ้าบูดูกับสมุนไพรเข้าเนื้อกันดี สังเกตนํ้าบูดูมีลักษณะเหลวข้น และมีกลิ่นหอม แสดงว่าใช้ได้แล้ว ชิมรสปรุงรสให้ออกรสหวานเค็มหรือตามที่ชอบ ยกลงตั้งไว้ให้เย็น แล้วจึงกรองเอาแต่นํ้าใส่ถ้วยหรือภาชนะที่ได้จัดเตรียมไว้

ต่อไปเป็นการเตรียมเครื่องเคียงหรือสิ่งที่เพิ่มรสชาติให้ข้าวยำ โดยนำมะพร้าวที่ขูดเตรียมไว้มาคั่วด้วยไฟอ่อน จนขึ้นเงา สีเหลืองทอง และมีกลิ่นหอม ก็เป็นอันใช้ได้ กุ้งแห้งนำมาป่นให้ฟูหรือโขลกให้ฟู พืชผักสมุนไพรที่เตรียมไว้ เช่น ใบมะกรูด ใบชะพลู ตะไคร้ ถั่วฝักยาว (หรือผักอะไรก็ได้ที่มี ที่ชอบ นำมาใส่ได้ เช่น แครอท กะหล่ำม่วง แตงกวา ใบบัวบก ส้มโอ ฯลฯ) นำมาล้างให้สะอาดแล้วหั่นฝอย ถั่วงอก ล้างสะอาดแล้วเด็ดหาง มะม่วงดิบ (มีรสเปรี้ยว) ล้างสะอาดปอกเปลือกแล้วสับเป็นเส้น ๆ มะนาว ล้างแล้วผ่าซีก พริกแห้ง นำมาคั่วให้หอมแล้วป่นให้ละเอียด
ปกติข้าวที่ใช้ทำข้าวยำใช้เป็นข้าวสวยธรรมดา แต่ปัจจุบันผู้ประกอบการได้เพิ่มสีสันให้กับข้าวยำ ด้วยการนำสีของพืชมาช่วยสร้างสีสันให้สวยงามน่ารับประทาน เช่น ดอกอัญชัน (ม่วง) ขมิ้นสด (เหลือง) ใบเตย (สีเขียว) คั้นเอาแต่นํ้ามาหุงข้าว รวมถึงมีการเพิ่มคุณค่าโภชนาการด้วยการนำข้าวกล้องขัดสีมาหุง เช่น ข้าวหอมนิล (ออกสีดำ) ข้าวกล้อง หรือข้าวมันปู (สีนํ้าตาลออกแดง)
เทคนิคการจัดเสิร์ฟ จัดลงบนภาชนะที่เตรียมไว้ โดยแยกเครื่องเคียงต่าง ๆ ไว้รอบข้าวให้มีสีสันน่ารับประทาน จากนั้นใส่ถั่วงอก, มะม่วงเปรี้ยว, ใบชะพลู, ถั่วฝักยาว, ตะไคร้ (บีบมะนาวลงบนตะไคร้เพื่อไม่ให้สีตะไคร้ดำ), ใบมะกรูด, มะพร้าวคั่ว, กุ้งแห้งป่น, พริกป่น, มะนาว แล้วจัดวางคู่กับนํ้าบูดู ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกับเมนูอาหารจานเดียวเมนูนี้
      
ใครสนใจใช้ “ข้าวยำสมุนไพร” เป็น “ช่องทางทำกิน” ก็ลองฝึกฝนฝีมือกัน หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ผศ.พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม อาจารย์ประจำสาขาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ก็ติดต่อได้ที่ โทร. 08-9600-0993 ทั้งนี้ การประกอบอาชีพต่าง ๆ นั้น หากรู้จักนำสิ่งใกล้ ๆ ตัวมาปรับหรือประยุกต์ให้ดูดี ก็อาจจะเพิ่มมูลค่า และอาจจะสามารถใช้เป็นช่องทางสร้างอาชีพได้อย่างน่าทึ่ง!!.

คู่มือลงทุน...ข้าวยำสมุนไพร
ทุนเบื้องต้น ประมาณ 5,000 บาท
ทุนวัตถุดิบ ประมาณ 50% ของราคา
รายได้ ราคาขาย 30 บาท/ชุด
แรงงาน 1-2 คนขึ้นไป
ตลาด ย่านอาหาร, ตลาด,ชุมชน
จุดน่าสนใจ คุณประโยชน์เป็นจุดขายที่ดี
เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง / สุนิสา ธนพันธสกุล : ภาพ

credit by :  http://www.dailynews.co.th/Content/Article/223091/index.html

Read More...


เมนูคลายร้อน...'เครปข้าวเหนียวมะม่วง


เป็นประจำทุกสุดสัปดาห์แบบนี้ คอลัมน์ Trend can do ขอเสนอเมนูคลายร้อน ทำง่ายๆ ด้วยตัวเอง เป็นเมนูจากข้าวสังข์หยด "ไทยรัฐออนไลน์" เข้าครัวของปุ๊-วันทนีย์ จิราธิวัฒน์เผยสูตรเด็ดให้ได้ลงมือทำจะมีขั้นตอนอย่างไร ไปชมกันเลย... ขึ้นชื่อว่าเป็นเมนูจากร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่นที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและ ชาวต่างชาติ อย่าง 'เดอะ เทอเรส' แน่นอนว่าเมนูอาหารคงจะเก๋ไม่เช่นเล่น วันนี้ใครที่อยากลองทำทานเองดู พลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะเราจะเผยสูตรและขั้นตอนการทำเมนูสุดเก๋ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนอย่างแน่นอนกับเมนู "เครปข้าวเหนียวมะม่วง" อาหารว่างสไตล์ฟิวชั่น มีส่วนประกอบทําจากข้าวสังข์หยด ที่มีคุณค่าทางใยอาหารสูงกว่าข้าวพันธุ์อื่นๆ ซึ่งมีประโยชน์ในการบํารุงโลหิต และบํารุงร่างกายให้แข็งแรง

ส่วนผสม

1.แผ่นเครป  (น้ำข้าวสังข์หยด, แป้งสาลี, นม, น้ำ, น้ำตาล, ไข่ไก่, กลิ่นบัตเตอร์, เนย)
2.ข้าวเหนียวมูลสีเขียว
3.ข้าวสังข์หยดทอด  (ข้างสังข์หยด, แป้งเทมปุระ, น้ำมัน)
4.ไอศกรีมกะทิสด
5.ซอสมะม่วง
6.กะทิเค็ม
7.ใบสะระแหน่

วิธีปรุง
1. การทำแผ่นเครป ด้วยการน้ำข้าวสังข์หยดที่หุงสุกแล้วมาปั่นให้ละเอียดกรองเอาน้ำข้าว มาผสมกับส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากัน แล้วตั้งไฟให้ร้อนนำน้ำแป้งที่เทใส่กระทะให้เป็นแผ่น ทำให้สุกจะได้แผ่นเครปหอมนุ่ม
2. เตรียมข้าวสังข์หยดที่สุกแล้วนำมาคลุกกะแป้งเทปุระแล้วน้ำไปทอดน้ำมันร้อน นำขึ้นพักไว้

3.นำข้าวเหนียวมูลมาวางบนแผ่นเครป ใส่ซอสมะม่วงที่มีความอร่อยเป็นเลิศ แล้วม้วน ให้เหมือนข้าวปั้น
4.ม้วน ให้เหมือนข้าวปั้น
5.นำมาตัดเป็นชิ้น เรียงใส่จานให้สวยงาม
6.ราดด้วยกะทิเค็มและตามซอสมะม่วงลงบนเครป แล้วโรยด้วยข้าวสังข์หยดทอด
6.เสิร์ฟพร้อมตักไอศกรีมกะทิแต่งหน้าด้วยใบสะระแหน่

credit by :  http://www.thairath.co.th/content/life/409622

 

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.