สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ข้าวเหนียวดำ - สังขยา



วันนี้ ตาตื่นแต่เช้า เพื่อ ทำข้าวเหนียวดำ- สังขยา ไปช่วยพี่คนไทย เค้าขึ้นบ้านใหม่ เลยทำข้าวเหนียวดำ - สังขยา ไปช่วยพี่เค้าทำบูญ

ก่อนไปทำงานเลยแวะเอาไปให้พี่เค้าที่บ้าน เพราะเค้าเลี้ยงพระกลางวัน ตาไม่ว่างต้องไปทำงาน เลยทำขนมไปช่วยทำบุญด้วย

สูตร ข้าวเหนียวดำ
8 ขีด ข้าวเหนียวข้าว
2 ขีด ข้าวเหนียวดำ

- ควรแช่ข้าวค้างคืน เพราะ สีของข้าวเหนียวดำ จะทำให้ข้าวเหนียวขาวดำ ไม่ควรใส่ข้าวเหนียวดำมากเกินไป เพราะจะทำให้เวลานึ่ง ข้าวจะไม่ติดกัน และแข็งคะ
- ไม่ควรล้างด้วยสารส้ม เหมือนทำข้าวเหนียวมูน เพราะจะทำให้ข้าวยิ่งแข็งคะ



พอ รุ่งเช้า ก็ซาวข้าวใส่ หวด ค่อยๆ ใส่ลงไปในหวดนะคะ อย่ากระแทก และเมื่อใส่ข้าวจนหมดแล้ว อย่างเอาน้ำราดข้าวในหวดเด็ดขาด เพราะจะทำให้ข้าวเหนียวแน่นคะ

เห็นไหมคะ ข้าวเหนียวขาวที่แช่รวมกัน กับข้าวเหนียวดำ กลายเป็นสีดำ หรือ ม่วงแก่



นำไปนึ่ง จนสุก ระหว่างนึ่ง ก็มาเตรียมน้ำกะทิสำหรับข้าวเหนียวกัน

1 1/2 ถ. ห้วกะทิ
4 ขึด น้ำตาลทราย
1 ช.ต. เกลือป่น

- ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน คนจนน้ำตาลทรายละลาย ถ้าเป็นซื้อมะพร้าวจากตลาด ควรนำไปตั้งไป ให้ร้อนจัด ต้องคนนะคะ อย่างให้เดือด พอน้ำตาลทรายละลาย ก็ยกลง เพราะมะพร้าวที่ตลาด จะบูดง่าย กว่า มะพร้าวที่เราขูดเอง หรือ มะพร้าวสำเร็จรูป ไม่ต้องตั้งไฟคะ เพราะเค้าล้างที่เครื่องขูดไม่ค่อยสะอาด ถ้าเพื่อนคนไหนมีที่ขูดเอง ก่อนใช้ควรต้มน้ำร้อนลวกเครื่องเสียนะคะ เพื่อป้องกันกะทิบูดได้คะ

- การคั้นมะพร้าว ควรใช้น้ำอุ่น หรือน้ำเดือด ผสมน้ำเย็น เพราะจะคั้นมะพร้าวได้เยอะและมันด้วยคะ



- พอข้าวเหนียวสุกแล้ว รีบเทใส่ภาชนะ และเทน้ำกะทิลงคนเร็วๆ อย่าให้ข้าวเป็นก้อนนะคะ

- แรกๆ ข้าวจะดูแฉะๆ ไม่ต้องตกใจคะ เอาผ้าปิดไว้ แล้วเอาฝาหม้อ ปิดอีกครั้ง รอให้มันระอุ เดี่ยวข้าวเหนียวจะดูดน้ากะทิเองคะ สักประมาณ 7- 10 นาที

- หลังจากนั้น ก็หาถุงพาสติก ใส่มือ ตล่อมข้าวเหนียวเบาๆ คนให้กลับด้านล่าง ขึ้นบน

- พักสัก 5 นาที่ หลังจากนั้น ก็เสริฟได้คะ







หน้าสังขยา ไมโครเวฟ
3 ฟอง ไข่ไก่
75 กรัม น้ำตาลปี๊ป
1-2 ช.ต. น้ำตาลทราย
1/2 ถ. ห้วกะทิ

*** ถ้าเพื่อนๆ ไม่มีใบเตย ก็เอา กลิ่นวนิลลา สัก 1/4 ช.ช. ผสมลงไปนะคะ เพื่อดับกลิ่นคาวไข่คะ

- ขย้ำทั้งหมดรวมกัน ด้วยใบเตย ตาไม่มีคะ เลยใช้ถุงที่ใส่แซนวิสแทน ขย้ำจนไข่แตกและรวมกับน้ำกะทิ

- แล้วกรองด้วยผ้าข้าวบาง

- นำชามใบโต ที่ทนความร้อน และสามารถใส่ในเตาไมโครเวฟของเพื่อนๆ ได้นะคะ แล้วหาถ้วย หรือชามใบเล็ก ใส่ลงไปในชามใหญ่อีกที แล้วเติมน้ำร้อน หรือ น้ำอุ่นๆ ก็ได้คะ

- หลังจากนั้น ก็เทสังขยา ใส่ในชามเล็ก แล้วใช้ Warp ปิดปากชาม อย่าให้ตึงจนเกินไปนะคะ แล้วเอา ไม้จิ้มลูกชิ้น จิ้มสัก 1 รู เพื่อไล่ออกอากาศ ไม่ให้พาสติกมันพองเวลา เวฟ นะคะ

- แล้วเอาเข้าไมโครเวฟ ตอนแรก 4 นาที และ 2 นาที ก็สุกแล้วคะ แต่ก็แล้วแต่กำลังวัตต์ของเครื่องไมโครเวฟ ของเพื่อนๆ ด้วยนะคะ ของตามัน 800 W คะ

- หลังจากสุกแล้ว ก็ตักใส่ข้าวเหนียวสังขยาเสริฟคะ

สูตรนี้ แค่ 1 ส่วน ถ้าเพื่อนๆ ทำเยอะก็เพิ่มส่วนเอานะคะ หวานมาก หวานน้อย ก็เพื่อเติมเอานะคะ






credit : http://wistakitchen.bloggang.com

Read More...


ข้าวเหนียวดำปิ้งไส้เผือก ของคนไกลบ้าน






จะ ว่าไป ข้าวเหนียวดำ เหลือคะ เลยเอามาทำ ข้าวเหนียวปิ้งไส้เผือกซะเลย สูตรข้าวเหนียวดำ อยู่ด้านล่างนะคะ แต่วันนี้ตาจะทำเผือกกวน สำหรับเป็นไส้ ข้าวเหนียวดำปิ้งคะ

สูตรก็ไม่มีอะไรมาก ตาก็ย่อส่วนจากที่เคยทำขาย หน้าบ้าน ตอนยังเป็นสาวรุ่นๆ นะคะ ถ้าจะให้หอมอร่อย ควรใช้เผือกหอม ที่ลูกมันเล็กๆ และเวลากวน จะเหนียวน่าทานมากคะ แต่อาจจะเสียเวลาหน่อย เพราะเผือกลูกมันเล็ก

การทำเผือกกวน ตานำไปนึ่งนะคะ ถ้าต้มแล้ว เผือกจะไม่สุ่ย และ แฉะคะ เพราะมันดูดน้ำเยอะ ควรใช้นึ่งจะดีกว่า และการนึ่งเผือกของตา ก็ไม่ต้องปลอกเปลือกให้มันคันมือ นึ่งไปทั้งเปลือกนะคะ แต่ควรล้างเผือกให้สะอาดเสียก่อน ก่อนนำไปนึ่ง ถ้าลูกมันใหญ่มาก ก็ผ่าครึ่งนะคะ มันถึงจะสุกเร็ว แต่ก็คงเปลือกไว้ เพราะเปลือกจะช่วยอุ้มความชื้น ไม่ทำให้เผือกแห้งเวลานึ่งคะ เวลานึ่งเผือกสุกแล้ว จะลอกเปลือกง้าย ง่าย คะ




สูตร
300 กรัม เผีอกนึ่งสุกแล้ว
3/4 ถ. หัวกะทิ
1/2 ถ. น้ำตาลทราย
1 ช.ช. เกลือ

- เมื่อนึ่งเผือกสุกแล้ว ควรนำมาบดในขณะที่ร้อนอยู่ จะทำให้บดได้ง่ายกว่าเผือกที่เย็นแล้ว สมัยก่อน ตาใช้ครกตำเอาคะ แต่เดี่ยวนี้ใช้เครื่องบดคะ

- นำเผือกสุก แล้ว หัวกะทิ ใส่เครื่อง บด

- นำไปใส่หม้อ ใส่น้ำตาลทราย และ เกลือ ไปตั้งๆไฟอ่อน ต้องคนตลอดเวลา ไม่งั้นก้นจะไหม้ กวนไปเรื่อยๆ จนเผือกเริ่มเหนียว และจับกันเป็นก้อน และไม่ติดหม้อ ก็ยกลง พักไว้ให้เย็น

- แล้วนำไปเป็นไส้ห่อข้าวเหนียวปิ้งต่อไปคะ





การห่อข้าวเหนียวปิ้ง ใบตองคะ มีคะ แต่แพง มันแช่แข็งในตู้เย็น หาเอาของใช้ในบ้านดีกว่า ประหยัดดีด้วยคะ ถึงรสชาด จะไม่หอมกลิ่นใบตอง แต่ก็พอกล่อมแก้ม ไปได้เนาะ ตาใช้ Foil คะ ห่อ

ควรหมุนเตาอบไปที่ Boil เลยนะคะ มันก็คือ ไฟบนนั้นแหละคะ ความร้อนก็จนสุดเลยคะ เปิดไว้สักประมาณ 10 นาที ก่อนนำข้าวเหนียวไปปิ้งนะคะ ใช้เวลาอบประมาณ 5- 7 นาที แล้วกลับด้าน นำออกมาพักๆไว้ให้อุ่น ค่อยแกะคะ เพราะถ้าร้อนอยู่ มันจะติด Foil คะ




credit : http://wistakitchen.bloggang.com

Read More...


บัวลอย 4 สี







มา ชวนกันอ้วนอีกแล้วคะ ของดองไว้หลายวันแล้วคะ บัวลอย 4 สี ทำง่ายๆ คะ แต่ทานบ่อยๆ ไม่ค่อยดี เพราะมีแต่แป้ง น้ำตาล และไขมัน จากกระทิ นานๆ ทำทานให้หายอยาก

วิธีทำ บัวลอยสีเขียว

1 ถ. แป้งข้าวเหนียว
1/3- 1/2 ถ. น้ำใบเตย ไม่มีคะ ตาใช้กลิ่นใบเตยแทนคะ

ผสมค่อยๆ นวดให้เข้ากัน นวดจนแป้งนิ่ม พักไว้ 15 นาที

บัวสีเผือก
1 ถ. แป้งข้าวเหนียว
1/2 ถ. เผือกนึ่งสุกยีให้ละเอียด
3- 4 ช.ต. น้ำเปล่า

ค่อยผสมแป้ง กับเผือกนวดให้เข้ากัน ถ้าแป้งแห้งไป ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละช้อน อยากให้เหลวนะคะ นวดจนแป้งนิ่ม พักไว้ 15 นาที

บัวลอยฟักทอง

1 ถ. แป้งข้าวเหนียว
1/2 ถ. ฟักทองต้มสุก ยีให้ละเอียด ตาใช้ ฟักทองที่ทำ Canning ไว้คะ
ฟักทองใส่ขวด

ผสม แป้งข้าวเหนียวกับฟักทองนวดให้เข้ากัน ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำ เพระฟักทองมีน้ำอยู่แล้วคะ แต่ถ้าแห้งเกินไป เติมน้ำทีละ 1 ชัอนโต๊ะ นวดจนแป้งนิ่ม พักไว้ 15 นาที

บัวลอยแครอท

1 ถ. แป้งข้าวเหนียว.
1/2 ถ. แครอทต้มสุกจนเปื่อย ยีให้ละเอียด
2- 3 ช.ต. น้ำเปล่า

ผสมแป้งกับแครอทที่ยีละเอียดแล้ว ถ้าแห้งเกินไป ค่อยๆ ผสมน้ำเปล่าทีละข้อนโต๊ะ นวดจนแป้งนิ่ม พักไว้15 นาที

บัวลอยสีเขียว - ได้จากใบเตย
บัวลอยสีม่วงอ่อน - ได้จากเผือก
บัวลอยสีเหลือง - ได้จากฝักทอง
บัวลอยสีส้ม - ได้จาก แครอท

วิธีทำ

1 กระป๋อง กระทำสำเร็จรูป
1 ช.ช. เกลือป่น
1/3 ถ. น้ำตาลทราย ชอบหวานมาก หวานน้อยเพิ่มเอานะคะ

เมื่อแป้งที่ผสมพักได้ที่แล้ว นำมาปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ให้หมด
หลังจากนั้น นำน้ำเปล่าใส่หม้อ พอประมาณ กะว่าให้ท่วมบัวลอยที่เราจะนำไปต้ม
พอ น้ำเดือด ค่อยๆ ใ่ส่แป้งบัวลอยที่เราปั้นไว้ ลงไปทีละน้อย รอจนกระทั่ง แป้งลอยขั้นมา จากก้นหม้อ ตัก แล้วนำไปแช้น้ำเย็นจัดทันที เพื่อหยุดการสุก แป้งจะได้ไม่เละ

หลังจากทำแป้งหมดแล้ว พักไว้ในน้ำเย็นก่อน อย่าเพิ่งตักขี้นมา เดี๋ยวมันจะติดกันคะ

นำกระทิใส่หม้อตั้งไฟ เติมน้ำตาลทราย เกลือ ชิมรสดู หวานตามชอบ

พอกระทะเริ่มจะเดือดปุดๆ ให้รีบตักบัวลอยแข่น้ำเย็นลงทันที รอให้เดือดปุดๆ แีกทียกลง ตักใส่ถ้วยเสิรฟ

ถ้า ต้องการจะทำไข่หวานลงไปด้วย ให้แยกต้มน้ำใส่หม้ออีกใบ เติมขิงแก่ทุบลงไป พอน้ำเดือด ค่อยๆ ต่อยไข่ไก่ลงไป อย่าคนนะคะ เดี๋ยวไข่คาว

พอไขุ่สุก แล้ว นำ บัวลอยที่เราตักใส่ถ้วยไว้แล้ว แล้วตักไข่ใส่ถ้วยบัวลอยเสริฟคะ











 

credit : http://wistakitchen.bloggang.com


Read More...


ข้่า่วนางเล็ด







ขนม ข้าวนางเล็ด ตอนเด็กๆ ตาชอบกินมาก เพราะเป็นขนมที่ยายจะซื้อให้กินประจำเวลายายไปตลาด การทำข้างนางเล็ดที่ดี ต้องใช้ข้าวเหนียวทำคะ เวลาทอดข้าวจะพองสวย และกรอบน่าทาน กว่าการใช้ข้าวจ้าวทำคะ

พอมาอยู่กับแม่ ข้าวจ้าวเหลือ ข้าวเหนียวเหลือ แม่จะให้เอาใส่กระดง ไปตากแดด ให้แห้ง แล้วเก็บใส่ถุงไว้ พอได้เยอะแล้ว แม่ก็จะเอามาทอด แล้ว เคี่ยวน้ำตาลปี๊บ แล้วเอาไปคลุกกับข้าวที่ทอดแล้ว ไว้กินเล่นๆ กันในครอบครัว เวลาดูละครตอนค่ำ แต่ตอนนี้นั้นเราไม่ได้ทำให้เป็นแผ่น หรือ ใช้พิมพ์กดให้เป็นรูปร่าง คือมันเป็นเมล็ดข้าวธรรมดานี่แหล่ะคะ น้ำตาลปี๊บยี้ห้อที่ตาซื้อ มันเป็นแบบ ผาขนาดเท่า ขนมครก สีไม่ค่อยเข้มเท่าไร แต่ก็ made in Thailand คะ

วิธีทำข้าวเหนียวตากแห้ง ตาทำไว้นานแล้วคะ ยังหารูปไม่เจอ เดี๋ยวถ้าเจอแล้วจะเอามาลงได้ดูนะคะว่า ตาทำอย่างไง

สูตรข้าวเหนียวแห้ง

ข้าวเหนียวที่นึ่งไว้ ทิ้งไว้ค้างคืนก่อนนะคะ
น้ำเปล่าพอประมาณ
เครื่องอบ หรือจะได้เตาอบก็ได้คะ

วิธีทำ

ตานำข้าวเหนียวมาบี้ออกจากกัน แล้วค่อยๆ พรมน้ำให้เปียก แต่ไม่แฉะนะคะ พอให้ข้าวมันไม่เกาะกัน

หลัง จากนั้น นำพาสติกแลป มาปู แล้วแผ่ข้าวเหนียวออกให้ทั่ว แล้วเอาพาสติกแลปทับอีกครั้ง แล้วใช้ไม่คลึงแป้งค่อยๆ โรลข้าวให้เรียบ อย่าให้หนามากนะคะ เวลาทอดข้าวจะไม่ค่อยพอง และจะแข็งด้วย

หลังจาก นั้นลอกแผ่นแลปด้านบนออก แล้วใช้ พิมพ์คุกกี้ หรือ พิมพ์อื่นๆ ที่เราชอบก็ได้คะ แต่อย่าให้ใหญ่เกินไป นะคะ เพราะเวลาเราตากแห้งแล้ว นำไปทอด ข้าวมันจะพองออกอีก 1 เท่า ถ้าเราใช้พิมพ์ใหญ่ ข้าวที่ทอดมันก็จะบานออก และใหญ่ไม่สวย ขนาดคุกกี้กดที่ตาแนะนำ ควรเป็น ไซต์กลางๆ นะคะ

แล้วนำไปตากแห้ง หรือ อบด้วยเครื่อง หรือ เตาอบก็ได้คะ ( เตาอบเปิดที่อุณภูมิ วอร์มหรือ สัก 100 F อบจนข้าวแห้งสนิท แล้วเก็บใส่ถุง หรือ ขวดโหลปิดฝาให้สนิท)


วิธีทำข้าวนางเล็ด

12 - 15 แผ่น ข้าวแห้ง
1 ขวด น้ำมันพืชสำหรับทอด
1/2 - 1 ก.ก. น้ำตาลปี๊ป
3- 5 ช.ต. น้ำเปล่า ( หรือ ใช้น้ำแตงโม)

นำกระทะตั้งไฟ เปิดไฟปานกลาง เติมน้ำมันพืชลงไป น้ำมันต้องเยอะหน่อยนะคะ เวลาทอดข้าวจะได้พองสวย

พอน้ำมันร้อน นำข้าวแห้งที่เราทำไว้ลงไปทอด ถ้ากระทะเล็กไม่ควรใส่ข้าวเกิน 3 แผ่นนะคะ เดี๋ยวจะทำให้ข้าวที่ทอดมันจะไม่พองเท่าที่ควร

อย่างให้เหลืองมาก พอข้าวพองทั่วแผ่นแล้ว รีบตักขี้น วางบนกระดาษซับน้ำมัน พักไว้จนหมด

นำ กระทะอีกใบ หรือหม้อก็ได้คะ นำน้ำตาลปี๊บเคี่ยวกับน้ำเปล่า อย่างใส่น้ำเปล่าเยอะนะคะ ค่อยๆ ใส่ที่ละช้อน พอไม่ให้ก้นกระทะ หรือ ก้นหม้อไหม้ เคี่ยวพอเหนียว ปิดไฟ พักไว้สักพักหนึ่งก่อนนะคะ อย่างเพิ่งนำไปราดหน้าข้่าวที่เราทอด เพราะน้ำตาลมันยังร้อนอยู่ เวลาราดแล้ว มันจะไหล หรือ ซึมลงก้นข้่าวหมด

พักไว้ให้น้ำตาลมันหาย เดือด เสียก่อน สักประมาณ 3- 5 นาที แล้วค่อยนำมาราดหน้าข้าวที่เราทอดไว้ แล้วพักไว้ให้น้ำตาลเย็น แล้วค่อยเสริฟ หรือ เก็บไว้ขวดโหล หรือ ถุง ปิดให้สนิท อย่าให้อากาศเข้าได้ เดี๋ยวข้าวที่เราทอดมันจะไม่กรอบคะ เสร็จแล้วคะ เพื่อนๆ พอมีเวลา ลองทำดูนะคะ ไม่ยากจริงๆ คะ ทำง่ายเพีียงแต่ต้องใช้เวลาในการทำข้าวให้แห้ง ถ้ามีเวลา ลองทำไว้เยอะๆ ก็ดีคะ จะเอาไปทอดทำเป็นข้าวตังหน้าตังก็ได้คะ เหมือนที่ตาทำ ข้าวตังหน้าตั้ง











credit :
http://wistakitchen.bloggang.com

Read More...


ขนม​จ้าง” สมัย​ก่อน​จะ​ได้​ทาน​กัน​แค่​ปี​ละ​ครั้ง บะ​จ่า​ง


Read More...


น้ำชุบแห้ง(น้ำพริกแห้ง)-สะตอเผา อีกเมนูอาหารใต้ขายคล่อง

‘อาหารปักษ์ใต้” ปัจจุบันก็แพร่หลายเหมือนอาหารอีสาน เป็นอีกกลุ่มอาหารยอดนิยม ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้ว อาหารปักษ์ใต้ก็ยังมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างจากอาหารภาคอื่น

ด้วย รสชาติจัดจ้าน เผ็ดร้อน ถูกปากคนไทย ซึ่ง วันนี้ทีม “ช่องทางทำกิน” ก็มีสูตรอาหารปักษ์ใต้ การขายอาหารปักษ์ใต้ มานำเสนอให้ได้ลองพิจารณากัน...

ศุภ มน วงศ์ศิริ หรือ ขนุน เจ้าของร้านอาหารทะเล-อาหารปักษ์ใต้ “ครัวทะเล” เล่าให้ฟังว่า เดิมทีตั้งร้านอยู่แถวถนนประชาชื่น แต่เพราะพิษวิกฤติเศรษฐกิจทำให้ต้องปิดกิจการไป ซึ่งครอบครัวก็ลำบากกัน แต่ก็ช่วยกันคิดและช่วยกันทำมาหากิน โดยคุณแม่เอาเงินก้อนสุดท้ายที่เหลือมาลงทุนทำไก่กะทิทรงเครื่องปักษ์ใต้ขาย โดยให้ลูก ๆ แยกย้ายนำไปขายตลาดต่าง ๆ หลังเลิกเรียนทุกวัน ซึ่งผลตอบรับดีมาก จนได้รางวัลโอทอป 4 ดาว และรางวัลการันตีความอร่อยอีกมากมาย

จุดนี้ก็สะท้อนว่าอาหารปักษ์ใต้เป็นช่องทางทำกินที่ไม่ควรมองข้าม

“เพราะ ความคุ้นเคยกับการทำอาหารและการขายของมาตั้งแต่เด็ก และเพื่อทำตามความฝันของพ่อที่อยากจะเปิดร้านอาหารเหมือนในอดีต ขนุนกับแฟนก็อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วย พอดีเพื่อนพ่อมีที่ว่างอยู่ จึงให้เช่าในราคาที่ถูก สำหรับเปิดร้านอาหารใหม่ พอเปิดแล้วก็มีลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรให้การตอบรับดี โดยอาหารทะเลทางร้านจะสั่งของทะเลจากมหาชัยทุกวันเพื่อให้ได้ความสด

และ อาหารปักษ์ใต้ พวกเครื่องปรุงและวัตถุดิบ ส่วนใหญ่ก็จะสั่งตรงจากทางใต้ เช่น กะปิ เครื่องแกง เพื่อให้ได้รสชาติของใต้แท้ ๆ มากที่สุด” ขนุนบอก
อาหาร ปักษ์ใต้ของร้านนี้ ที่เด่น ๆ ก็มีมาก ที่ลูกค้าสั่งประจำก็เช่น สะตอผัดกุ้ง, ใบเหลียงผัดไข่, ไก่กะทิทรงเครื่องปักษ์ใต้, แกงเหลือง (แกงส้ม) ยอดมะพร้าวอ่อน หรืออ้อดิบ หรือหน่อไม้ดอง กับปลาเก๋า หรือปลากระบอก หรือกุ้ง หรือปู, คั่วกลิ้งหมู-เนื้อ, ปลากระบอกทอดขมิ้น , แกงไตปลา, ต้มส้มปลากระบอก, ปลากะพงโบราณ, แกงคั่วหอยแครง ฯลฯ

ทั้งนี้ การเปิดร้านอาหาร อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้ในการทำ-การขายอาหาร ก็ต้องเตรียมให้ครบครัน

ไม่ว่าจะเป็น ครกหิน, จาน, เขียง, มีด, ช้อน, ส้อม, ทัพพี, หม้อหลาย ๆ ขนาด, กะละมัง, กระทะ, เตาแก๊ส-เตาถ่าน, ตะแกรง, หม้อต้มน้ำซุป, ถาด ฯลฯ ซึ่งจะใช้อุปกรณ์อะไรมากน้อยแค่ไหน ขนาดอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับขนาดร้าน-รูปแบบการขาย

ต่อไปมาดูตัวอย่างสูตรอาหาร ปักษ์ใต้ ซึ่งนอกจากที่ว่ามาข้างต้นแล้ว ขนุนบอกว่า “น้ำชุบแห้ง-สะตอเผา” ซึ่งเป็นน้ำพริกรูปแบบหนึ่ง เป็นหนึ่งในเมนูอาหารปักษ์ใต้ยอดนิยมที่อยู่คู่ครัวมานาน นี่ก็ได้รับความนิยมจากลูกค้ามาก

วัตถุดิบในการทำ หลัก ๆ ก็มี... ปลาทูสด, พริกขี้หนูสวน, กะปิกุ้งอย่างดี, น้ำตาลปี๊บ, หอมแดง, สะตอ


ขั้น ตอนการทำก็ไม่ยุ่งยากมาก เริ่มจากนำปลาทูสดมาควักไส้ ล้างให้สะอาด แล้วนำไปย่างบนเตาไฟให้สุก จากนั้นแกะเอาแต่เนื้อ พักไว้ ขั้นต่อไปนำกะปิกุ้งมาห่อใบตอง แล้วนำไปย่างไฟให้มีกลิ่นหอม พักไว้

นำ พริกขี้หนู หอมแดง ใส่ครกโขลกพอบุบ จากนั้นก็ใส่น้ำตาลปี๊บ กะปิกุ้งย่าง เนื้อปลาทูย่าง ลงไปโขลกรวมกัน โขลกให้ส่วนผสมต่าง ๆ เข้ากันดี ก็เป็นอันใช้ได้ พร้อมรับประทาน พร้อมเสิร์ฟ โดยมีสะตอสดย่างไฟให้พอสุกหอม เสิร์ฟคู่ไปด้วย

นอกจาก “น้ำชุบแห้ง-สะตอเผา” แล้ว ขนุนยังให้สูตรการทำ “กุ้งทอดราดซอสมะขาม” ด้วย โดยวัตถุดิบก็มี... กุ้งแม่น้ำ, น้ำตาลปี๊บ, มะขามเปียก, น้ำมันหอย, ซีอิ๊วขาว, หอมเจียว, ผักชี, พริกชี้ฟ้า, แป้งมัน, เส้นหมี่ขาวแช่น้ำ และน้ำมันพืช

วิธีทำ นำกุ้งมาล้าง แล้วปอกเปลือก ผ่าหลังดึงไส้ออก แล้วนำไปคลุกกับแป้งมันบาง ๆ นำไปทอดให้สุก พักให้สะเด็ดน้ำมัน นำเส้นหมี่ลงทอดจนฟู พักไว้



การ ทำน้ำซอสมะขาม ติดไฟ ตั้งกระทะ ใส่น้ำซุป พอน้ำซุปเดือดใส่น้ำตาลปี๊บลงไปเคี่ยว ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว เคี่ยวให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ชิมให้ได้รสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เค็มนิด ๆ (เหมือนกับน้ำไข่ลูกเขย) ก็เป็นอันใช้ได้ เมื่อจะเสิร์ฟก็จัดกุ้งที่ทอดลงในจาน นำเส้นหมี่ทอดวางข้างตัวกุ้ง ราดด้วยน้ำซอสมะขามที่ตัวกุ้งให้พอขลุกขลิก โรยหน้าด้วยหอมเจียว เด็ดผักชีและพริกชี้ฟ้าแดงแต่งหน้าให้สวยงาม

ราคาอาหารที่ร้านของขนุนนั้น มีตั้งแต่จานละ 60 บาทขึ้นไป ซึ่งสำหรับ “น้ำชุบแห้ง-สะตอเผา” นั้น ก็ราคาชุดละ 60 บาท

ร้าน ครัวทะเลตั้งอยู่ที่ถนนร่มเกล้า ระหว่างซอย 3–4 เยื้องมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เลยไปประมาณป้ายรถเมล์ สังเกตตึกสีฟ้า ร้านเปิดบริการช่วงเวลา 16.00-23.00 น. ทุกวัน เบอร์ติดต่อ ขนุน คือ โทร.08-1407-2289, 08-6307-7170 ซึ่งร้านนี้นอกจากขายอาหารที่ร้านแล้ว ยังมีรายได้จากการรับจัดงานเลี้ยงทั้งในและนอกสถานที่ด้วย.



****
Credit : เชาวลี ชุมขำ  : http://www.dailynews.co.th/

Read More...


อร่อยหมูแดงหมูกรอบสูตรโบราณ หอมข้าวมันไก่หลากนํ้าจิ้ม


สัปดาห์ นี้ผมจะพาเพื่อน ๆไปกินอาหารที่จังหวัดนครสวรรค์ครับ เพราะว่าหลานของผมกลับมาจากเมืองนอก จึงถือโอกาสกลับไปเยี่ยมคุณพ่อ คุณแม่ ของหลาน ผมก็เลยได้ขึ้นไปที่จังหวัดนครสวรรค์กันเพื่อพบปะสังสรรค์และหาอะไรอร่อย ๆ กิน
    
ปรากฏว่า เฮียฮ้อ พ่อของหลานผมพาไปกินอะไรอร่อย ๆ มากมายเลยครับ ผมก็เลยจะเอามาเขียนให้เพื่อน ๆ ตามไปกินกัน เพราะแต่ละร้านที่เราได้ไปกินมานั้นเป็นร้านที่อร่อยทั้งนั้นเลย เริ่มตั้งแต่ตอนเช้าผมได้ไปกินอาหารมาตั้ง 5-6 ร้านนะครับ แต่สำหรับอาทิตย์นี้ผมจะเขียนถึง 2 ร้านก่อน
    
ร้านแรกเป็นร้านอาหารโบราณดั้งเดิมเปิดมาหลายสิบปีได้แล้วครับ ชื่อว่า ร้านโกตา หมูแดงหมูกรอบ ร้านนี้มีอาหารที่น่ากินมาก ๆ คือ มีหมูแดง หมูกรอบ ดูจากขนาดตู้ที่ห้อยหมูกรอบและหมูแดงยังเป็นไม้และมีกระจกกั้น นับว่ายังเป็นร้านที่อนุรักษ์ของเก่าไว้ได้เป็นอย่างดี
   
ส่วนบรรยากาศก็เดิม ๆ ครับ มีโต๊ะตั้งอยู่ในร้านเต็มไปหมด แต่ก็ไม่ได้ตกแต่งอะไรให้สวยงาม พวกผมมากินกันและก็มีความสุขในการกินอาหารร้านนี้มากครับ ที่ร้านเขาทำหมูแดง หมูกรอบแบบโบราณครับ เวลาสั่งจะได้หมูแดงกับหมูกรอบที่อร่อย เพราะหมูแดงจะใช้ส่วนของหมูที่ยังมีมันติดอยู่นิด ๆ แต่ไม่มันจนเกินไปนัก แล้วเขาก็ย่างไม่แห้งจนเกินไปด้วยครับ เมื่อมีคนสั่งเขาก็จะสไลด์ใส่จานมาให้พร้อมกับหมูกรอบที่ทางร้านทำเองเหมือน กัน ลักษณะเกือบจะเหมือนที่ฮ่องกงเลยนะครับ แต่หมูกรอบของบ้านเรานั้น เขาจะสับมาเป็นชิ้นบาง ๆ แต่ที่ฮ่องกงจะชิ้นใหญ่กว่าครับ ผมก็ได้สั่งทั้ง หมูแดง และ หมูกรอบ เลยครับ
   
จากนั้น มี เครื่องเคียง ซึ่งก็คือ ต้นหอม แตงกวา และมีมะนาวให้ด้วยนะครับ ไม่นานนักทุกคนก็ได้อีกจานหนึ่งเป็นข้าวสวย ส่วนเนื้อหมูแดงและหมูกรอบจะแยกใส่จานมาต่างหาก แล้วยังมีซอสที่เขาทำเองมาให้อีกด้วย โดยซอสเขาก็ไม่เหมือนที่เรากินในกรุงเทพฯ และที่ร้านหมูแดงอื่น ๆ นะครับ เพราะว่าโดยมากแล้วจะมีรสหวาน ๆ มัน ๆ เข้มข้นมาก ๆ แต่ซอสของที่นี่จะเบาบางกว่า ไม่เข้มข้น แต่ยังมีรสชาติที่กลมกล่อมและมีกลิ่นหอมชวนกิน แต่ดูจากลักษณะภายนอกแล้วไม่เข้มข้นเท่าที่ควรครับ เพราะไม่เหมือนที่ผมเคยเห็นมา
   
ากนั้น สิ่งที่เขาเอามาให้ คือ น้ำปลาพริกพร้อมกับมะนาว ครับ      เราก็ตักเนื้อหมูแดงและหมูกรอบ ราดด้วยซอสและเอาน้ำปลาพริกราดและมะนาวบีบลงไปกินกับข้าวรสชาติกลมกล่อมดี ครับ แต่ว่าต้องใส่น้ำปลาพริกนะครับ มิฉะนั้นผมว่าจะไม่ค่อยอร่อย และไม่กลมกล่อมเท่าที่ควร ตรงนี้คงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย แต่ถ้ากินอย่างผม รับรองอร่อยจริง ๆ ครับ
   
แล้วก็ตามด้วยแตงกวา ซึ่งคุณแม่ของเจ้าของร้านนั่งหั่นแตงกวาเป็น กองอยู่ตรงนั้นเลยครับ ร้านนี้อร่อยและโบราณมาก ราคาไม่แพงเลยครับ ผมชอบมากเลยเมื่อเข้าไปในร้านนี้ เพราะทำให้รู้สึกว่าผมเป็นเด็กอยู่ครับ เนื่องจากบรรยากาศในร้านเขาทำแบบโบราณ ๆ ทำให้นึกถึงสมัยก่อน
   
หลังจากกินเสร็จเรียบร้อยแล้วเฮียฮ้อก็พาผมไปที่ถนนสายหนึ่ง ซึ่งมีร้านที่เป็นรถเข็นขายข้าวมันไก่ ที่นี่เป็นร้าน ข้าวมันไก่รถเข็น ที่อยู่ในซอยติดกับถนนใหญ่เลยนะครับ รถเข็นคันนี้ มีสุภาพสตรีเป็นเจ้าของร้าน โดยตั้งเป็นรถเข็นขวางทางอยู่ข้างหนึ่งของซอยแล้วก็มีโต๊ะและร่มตั้งเรียง กันอยู่ 
   
สำหรับข้าวมันของเขาหอม ทำได้ไม่มันจนเกินไปนัก ส่วนไก่ต้ม สำหรับผมอาจจะแห้งไปหน่อย ส่วนราคาไม่แพงครับ ที่ร้านนี้ยังมีไก่ทอดด้วยนะครับ  เมื่อจะเข้ามากินที่ร้านนี้ทุกคนรู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะชาวบ้านแถวนั้น แต่ชาวบ้านแถวนั้นจะไม่ค่อยนิยมกินที่ร้านกัน ส่วนมากจะซื้อห่อกลับไปกินที่บ้าน เพราะอยู่ใกล้
   
เมื่อมาถึงร้านแล้วก็ต้องจับจองหาที่นั่งกัน เมื่อได้ที่นั่งแล้วก็สั่งอาหาร พวกเราสั่ง ข้าวมัน สั่ง ไก่ต้ม แล้วก็สั่ง ไก่ทอด มากิน ส่วน น้ำซุป ของที่ร้านนี้ต้องไปตักเอาเองนะครับ ซึ่งเขาจะจัดมุมเอาไว้ให้ เมื่อตักน้ำซุปเสร็จแล้วก็นำมาวางไว้ที่โต๊ะ พออาหารมาเสิร์ฟ เขาจะมีน้ำจิ้มมาให้ทั้งสองอย่าง คือทั้งน้ำจิ้มสำหรับข้าวมันไก่ทอด และน้ำจิ้มสำหรับข้าวมันไก่ต้ม
   
น้ำจิ้มทั้งสองชนิด เป็นน้ำจิ้มที่แตกต่างกันโดยปริยาย แต่อร่อยทั้งสองอย่างเลยครับ โดยส่วนตัวของผมชอบกินเป็นน้ำจิ้มของข้าวมันไก่ต้ม โดยผมจะกินกับข้าวมันไก่ต้มและก็กินกับข้าวมันไก่ทอดด้วยเลย เพราะว่ามีความเปรี้ยว ความเผ็ดและเข้มข้นมากกว่า ผมคิดว่าน้ำจิ้มข้าวมันไก่ทอดหวานไปหน่อยนะครับ
   
สำหรับคนที่ชอบกินหวาน ยังมีซีอิ๊วหวานใส่ขวดไว้ให้ รวมทั้ง น้ำปลาและซอสอื่น ๆ อีกด้วยนะครับ มีหลายอย่างมาก ร้านนี้อร่อยครับ ถ้าใครอยากจะไปกินต้องไปแต่เช้าเลยนะครับ แล้วไปนั่งกินที่นั่น เพราะสาย ๆ อาจจะอดกินได้เพราะหมดเร็วพอสมควรครับ
   
ผมมีความสุขที่ได้กินอาหารอย่างนี้ เพราะเป็นอะไรที่ง่าย ๆ ดีไม่แพง อร่อยสมราคา สมคุณภาพใครไปที่จังหวัดนครสวรรค์ อย่าคิดว่าไม่มีอะไรกินนะครับ อาหารเช้านครสวรรค์มีให้เลือกกินมากมายเลยล่ะครับ.


การชิมหมูแดง หมูกรอบและซอส

   
อาทิตย์นี้จะขอพูดเรื่องการ ชิมหมูแดง หมูกรอบและซอส ครับ การที่เราจะชิมหมูแดงหรือหมูกรอบให้เป็นนั้น เราควรจะรู้จักลักษณะหมูแดงว่าเป็น
อย่างไร เพราะวิธีการทำหมูแดงของแต่ละร้านไม่เหมือนกันนะครับ แต่ร้านนี้ที่ผมไปชิมนั้น ทำได้ดีมากครับ
   
ที่เป็นเช่นนี้อาจจะเป็นเพราะเป็นร้านเก่าแก่มีประสบ การณ์ในการทำ เนื่องจากทำมานานจนเกิดความชำนาญ และรู้หลักการทำหมูแดงอย่างถูกต้อง ถึงทำให้เนื้อหมูแดงข้างนอกยังมีสีแดง ๆ อยู่ แต่ก็มีความแห้งและสุกแล้วนะครับ แต่ว่าข้างในยังมีความชุ่มชื้นอยู่ ตรงนี้ต้องยอมรับว่ากรรมวิธีในการทำดีมาก รู้ว่าเนื้อหมูแดงที่ดี ที่อร่อยจะต้องทำอย่างไร
   
เมื่อกัดหมูแดงเข้าไปแล้วจะได้กลิ่นเครื่องหมักที่หมักไว้ และยังได้ความนุ่มนวล รวมทั้งความชุ่มชื้นของชิ้นเนื้อหมูแดง ไม่แห้งผาดเหมือนกินกระดาษทิซชูนะครับ
   
ส่วนหมูกรอบของที่ร้านนี้นั้น จะชิมให้เป็นจะต้องดูที่ชั้นของมันหมูที่เป็นหมูสามชั้นและสังเกตความกรอบ ด้วยครับ นั่นหมายความว่า ต้องดูบนหนังของหมูกรอบที่เขาทำว่ากรอบและยังมีไขมันอยู่ในนั้นด้วยหรือไม่ ซึ่งไขมันที่ผมว่านั้นจะต้องเป็นไขมันที่ไม่มากจนเกินไปนัก คือ มีไขมันติดอยู่เล็กน้อยเท่านั้น
   
ซึ่งร้านนี้เขาทำแบบโบราณครับ ไม่มีพิธีรีตองอะไรเลย แต่ว่าอร่อยมาก เพราะฉะนั้น ต้องไปชิมกันดูนะครับและก็ลิ้มรสดูว่ารสชาติเป็นอย่างไร แต่อย่ากินแบบเร็วเกินไปนักนะครับ ต้องเคี้ยวและดูถึงลักษณะเวลาที่หมูกรอบเข้าไปในปากได้รสชาติอะไรบ้างแล้วจะ รู้ว่าอร่อยจริง ๆ ครับ.


เปาะเปี๊ยะหอยนางรม

เครื่องปรุงไส้เปาะเปี๊ยะ
-    น้ำมันพืช    1    ช้อนโต๊ะ
-    เบคอนหั่นเป็นเส้น ๆ    50    กรัม
-    กระเทียมสับ    1    ช้อนโต๊ะ
-    กะหล่ำปลีซอย    2    ถ้วยตวง
-    แครอทขูดเป็นเส้น    1    ถ้วยตวง
-    เกลือป่น    1    ช้อนชา
-    พริกไทย    1/2    ช้อนชา
วิธีทำ
    1. นำกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปตั้งให้ร้อน
    2. ใส่เบคอนลงไปผัดพอหอม ใส่กระเทียมสับ กะหล่ำปลีซอย แครอทขูดเป็นเส้น ผัดพอสลด
    3. ปรุงรสด้วย เกลือป่น พริกไทย ผัดให้เข้ากัน (ไม่ต้องสุก แค่พอผักสลด) ยกออกพักไว้ให้เย็น
เครื่องปรุงหมักหอย
-    รากผักชี    1    ช้อนโต๊ะ
-    กระเทียม    1    ช้อนโต๊ะ
-    พริกไทย    1/2    ช้อนชา
-    เกลือป่น    1/2    ช้อนชา
-    หอยนางรมสะเด็ดน้ำซับให้แห้ง    200    กรัม
วิธีทำ
    1. ในครก นำรากผักชี กระเทียม พริกไทย เกลือ มาโขลกรวมกัน
    2. ในชามผสม ใส่หอยนางรม และเครื่องที่โขลกไว้ ลงไปหมักไว้ ประมาณ 10 นาที   
    3. พักไว้เป็นไส้เปาะเปี๊ยะ
เครื่องปรุงเปาะเปี๊ยะทอด
-    แป้งเปาะเปี๊ยะ    10    แผ่น
-    ไส้เปาะเปี๊ยะที่ผัดแล้ว    ตามต้องการ
-    หอยนางรมที่หมักแล้ว    200    กรัม
-    ไข่ไก่    1    ฟอง
-    น้ำมันพืช    สำหรับทอด
-    น้ำจิ้มบ๊วย    พอประมาณ
-    น้ำจิ้มซีฟู้ด    พอประมาณ
 วิธีทำ
    1. นำแผ่นเปาะเปี๊ยะมาวาง ตักไส้ที่ผัดไว้ลงขอบสามเหลี่ยมของแผ่นแป้ง วางหอยนางรมลงไปทับ และพับขอบเข้าหากัน
    2. นำไข่ไก่ใส่ถ้วยตีให้เข้ากัน นำไปทาส่วนปลาย ของแป้ง แล้วม้วนให้ปลายติดกับตัวแป้ง
    3. นำกระทะใส่น้ำมันตั้งเตาให้ร้อน นำเปาะเปี๊ยะลงทอด พอแป้งสุกเหลือง ตักออกสะเด็ดน้ำมัน
    4. จัดเปาะเปี๊ยะที่ทอดแล้วใส่จาน เสิร์ฟกับน้ำจิ้มบ๊วย หรือน้ำจิ้มซีฟู้ด
ความรู้คู่ครัว
    ทำไมการทอดแผ่นเปาะเปี๊ยะจะต้องใช้ไฟแรงในการทอดเพราะอะไร?
    เพราะไม่ต้องการให้หอยสุกเกิน
หมึกแดง
www.mcdangguide.com

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.