สูตรขนม สูตรอาหาร อาชีพรายได้เสริม ประกาศฟรี โฆษณาฟรี Career Articles Extra Income
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Drop Down MenusCSS Drop Down MenuPure CSS Dropdown Menu

ข้าวหมกปลาเก๋า+สูตรน้ำพั้น แปลกใหม่เป็นจุดขายช่องทางทำเงิน






“ช่องทางทำกิน” ขอเสนอ “ข้าวหมกปลาเก๋า” ที่แปลกใหม่ เกิดขึ้นจากความคิดของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรกระทุ่มราย ซึ่งก็กลายเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่น่าสนใจ...

ไหมสาเหร๊าะ ซากีรี หรือ ครูไหม เป็นหัวหน้ากลุ่มแม่บ้านเกษตรกรชุมชนกระทุ่มราย กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ขายเพื่อสร้างรายได้ให้กับกลุ่มแม่บ้านในชุมชน เช่น แชมพู สบู่ สเปรย์ไล่ยุง ที่สกัดขึ้นจากธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีอาหารการกินที่อร่อย คือ “ข้าวหมกปลาเก๋า” ข้าวหมกไก่ และน้ำพั้นช์ ขายอยู่เป็นประจำอยู่ในชุมชน และรับทำตามสั่งอีกด้วย โดยครูไหมบอกว่า ข้าวหมกนั้นมีวิธีทำที่อาจไม่เหมือนกัน อยู่ที่สูตรของแต่ละคน ส่วนสูตรข้าวหมกปลาเก๋า และไก่ พร้อมทั้งน้ำพั้นช์ นั้น ครูไหมเองก็ไม่หวงสูตร

:::เริ่มต้นอุปกรณ์ที่ใช้หลัก ๆ ที่ต้องมีคือ เตาแก๊ส, หม้อสำหรับหุงข้าว, กระทะ, กะละมัง, ไม้พาย, ถาด, ทัพพี, เครื่องปั่น, ตะแกรง เป็นต้น:::::

วัตถุดิบหลัก ๆ สิ่งที่ต้องเตรียมคือ เนื้อไก่ปีกบน ช่วงอก 150 ชิ้น หรือเนื้อปลาเก๋าทอด 50 ชิ้น ต่อข้าวหอมมะลิ 1/2 ถัง และก็ต้องมีหอมเจียว, นมสด (ช่วยให้ข้าวนุ่ม), เนยเค็ม, แตงกวา

ส่วนผสมของเครื่องเทศ ได้แก่ มะเขือเทศลูกใหญ่ 5 กิโลกรัม, หอมแดง 3 กิโลกรัม, กระเทียม 2 กิโล กรัม, ขิงแก่ซอย 3 ขีด, น้ำมะนาว 500 กรัม, หอมเจียว

สำหรับส่วนผสมของน้ำ จิ้ม ก็ต้องเตรียม พริกสดเขียว 500 กรัม, พริกขี้หนูเขียว 500 กรัม, น้ำกระเทียมดอง 4 กิโลกรัม, หัวกระเทียมดอง 1 กิโลกรัม, หัวกระเทียม 500 กรัม และน้ำส้มสายชู 2 ขวด

::::::วิธีทำ นำส่วนผสมของเครื่องเทศทุกอย่างปั่นรวมกัน แล้วจึงทอดเนื้อปลาเก๋าด้วยไฟปานกลางเพื่อที่เนื้อปลาจะไม่เละ จากนั้นนำเนื้อปลาหรือเนื้อไก่ที่เตรียมไว้ลงต้มพร้อมกับเครื่องเทศ โดยแยกหม้อระหว่างปลากับไก่ เมื่อเห็นว่าสุกดีแล้ว ให้ตักขึ้นมาพักไว้::::::

ขั้นตอนต่อไปคือ ใส่เนยเค็มลงหม้อต้ม ตามด้วยข้าวหอมมะลิ หุงในน้ำของเครื่องเทศจากที่เราต้มเนื้อปลา และเนื้อไก่ เพื่อให้ได้รสชาติ และความหอมหวาน มัน ของเนื้อปลา-ไก่ นอกจากนี้ยังต้องใส่นมสด เพื่อให้ข้าวมีความหอมนุ่มยิ่งขึ้น

ข้าวที่ ได้จะเป็นสีเหลืองทองจากน้ำของเครื่องเทศ รวมทั้งเนื้อปลาและเนื้อไก่ก็จะเป็นสีเหลืองทองเช่นกัน จากนั้นโรยหอมเจียวลงในข้าว เป็นอันว่าเสร็จขั้นตอนของการเตรียมข้าวหมกเนื้อปลา – ไก่ ซึ่งขั้นตอนการขายคือ ตักข้าว ใส่เนื้อปลา หรือไก่ ส่วนผักที่ใช้ คือ ผักกาดหอม และแตงกวา
ขั้นตอนการทำน้ำจิ้ม ก็นำน้ำกระเทียมดอง หัวกระเทียมดอง น้ำส้ม หัวกระเทียม พริกสดเขียว พริกขี้หนูเขียว มาปั่นรวมกัน โดยสัดส่วนของวัตถุดิบก็ลดหรือเพิ่มตามสูตรข้างต้น

ถ้าปริมาณวัตถุดิบตามที่ว่ามาข้างต้น จะตักข้าวขายได้ประมาณ 300 กล่อง ขายกล่องละ 25 บาท

จุด เด่นข้าวหมกของครูไหมคือ ไม่ได้ใช้เนื้อไก่เพียงอย่างเดียว ยังมีเนื้อปลาเก๋า และข้าวหมกนั้นจะมีความหอม นุ่ม รสชาติกลมกล่อม และสะอาด

นอก จากนี้ ครูไหมยังให้สูตรน้ำพั้นช์และน้ำดอก อัญชัน ซึ่งขายควบกับข้าวหมกปลา-ไก่ก็เข้ากันได้ดี และเหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ใส่ใจสุขภาพ หรือจะทำขายเฉพาะน้ำพั้นช์และน้ำดอกอัญชัน ก็ได้เช่นกัน

อุปกรณ์การทำก็มี กระ บวยตักน้ำ โถใส่น้ำใบใหญ่ ผ้าขาวบาง และแก้วน้ำ

ส่วน ผสมของ “น้ำ พั้นช์” ก็ใช้ น้ำส้มคั้น 200 ซีซี, น้ำสับปะรด 800 ซีซี, น้ำขิงแก่ 800 ซีซี, น้ำแดง (เฮลซ์บลูบอย) 800 ซีซี, น้ำแครอท 800 ซีซี, น้ำมะนาว 400 ซีซี, และเกลือ 3 ช้อนชา

วิธีทำ ก็เทส่วนผสมทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วคนให้ทั่ว ใส่น้ำแข็งขายเป็นแก้ว ๆ โดยอาจมีการประดับตกแต่งให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้นด้วยดอกกล้วยไม้บนปากแก้ว หรือด้วยมะนาวฝาน

ส่วนผสมของ “น้ำดอกอัญชัน” น้ำเปล่า 6 กิโลกรัม, ใบเตย, น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม, น้ำมะนาว 8 ช้อนโต๊ะ, เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธี ทำ ต้มน้ำ ใส่ดอกอัญชัน และใส่ใบเตยเพื่อความหอม รอจนน้ำเดือด สีของดอกอัญชันออกเต็มที่ จากนั้นกรองกากออก ใส่น้ำตาลทรายแดง น้ำมะนาว และเกลือ เพื่อเพิ่มรสชาติ คนให้เข้ากัน ก็เสร็จเรียบร้อย ตักขายในราคาแก้วละ 20 บาท

น้ำพั้นช์ และน้ำดอกอัญชัน มีวิธีการทำที่ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก วัสดุอุปกรณ์ ส่วนผสม หาได้ทั่วไป จึงเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ “ทำได้ง่าย ขายได้คล่อง” และต้นทุน ไม่สูง

:::::ใคร สนใจ “ข้าวหมกปลาเก๋า” หรือข้าวหมกไก่ และ “น้ำพั้นช์-น้ำดอกอัญชัน” ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรกระทุ่มราย กลุ่มนี้อยู่ที่หมู่บ้านเลียบวารี แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพฯ โทร.0-2989-5183, 08-9129-5183 ไปช่วยกันอุดหนุนอาหารของคนไทย หรือจะลองฝึกฝนทำขายที่อื่นบ้างก็ดี.

*****ขนิษฐา ผุดผาด
ภัทราภรณ์ พลายเถื่อน

ขอบคุณ นสพ เดลินิวส์

Read More...


มื้อเช้า : แกงต้มส้มต้มกะปิใส่ดอกอโศก ไข่เจียวดอกไม้และข้าวหุงดอกอัญชัน ไข่เจียวดอกไม้

แกงต้มส้มต้มกะปิใส่ดอกอโศก ไข่เจียวดอกไม้และข้าวหุงดอกอัญชัน


 มื้อ เช้านี้ลองปรุงแกงโบราณอย่าง แกงต้มส้มต้มกะปิใส่ดอกอโศก ไว้จัดการกับเสมหะส่วนเกินสักหน่อยก็ไม่เลว เติมความอร่อยในสำรับคู่กับไข่เจียวดอกไม้หลากสี และข้าวสวยหุงกับน้ำดอกอัญชันสีน้ำเงิน



ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เวลาเตรียม 30 นาที เวลาปรุง 15 นาที
  • กุ้งนาง 4 ตัว
  • แตงโมอ่อนผ่า 8 ส่วน 3 ผล
  • ดอกอโศกน้ำ 1 กำมือ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนชา
  • น้ำมะขามเปียก 5 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 4 ถ้วย
  • ไข่เป็ด 1 ฟอง
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสมน้ำพริกแกง
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่กรีดเอาเมล็ดออกแช่น้ำจนนิ่ม 7 เม็ด
  • พริกขี้หนูแห้งกรีดเอาเมล็ดออกแช่น้ำจนนิ่ม 5 เม็ด
  • หอมเล็กปอกเปลือก 7 หัว
  • กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 7 กลีบ
  • ปลาช่อนแห้งนึ่งจนนิ่ม หรือปลาช่อนแดดเดียวย่าง แกะเอาแต่เนื้อ 1/4 ถ้วย
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ช้อนช
วิธีทำ
  1. แกะเปลือกกุ้งโดยเว้นหัวและหางไว้ ตัดกรีและหนวดทิ้ง ผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก ล้างให้สะอาดพักไว้
  2. เด็ดดอกอโศกออกจากก้านดอก ล้างน้ำอย่างเบามือ พักใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
  3. โขลก ส่วนผสมน้ำพริกแกงรวมกัน โดยเริ่มจาก โขลกพริกทั้งสองชนิดกับเกลือจนละเอียด จึงใส่หอมลงโขลก ตามด้วยกระเทียม กะปิ เนื้อปลา โขลกจนส่วนผสมละเอียดเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้
  4. ต้มน้ำ ให้เดือด ใส่น้ำพริกแกง คนให้ละลาย ใส่แตงโมอ่อนลงต้มเมื่อใกล้สุก จึงใส่กุ้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะขามเปียก ต้มต่อสักครู่
  5. ตอกไข่ ใส่ชามตีให้เข้ากัน โรยลงในหม้อแกง ไม่ต้องคน แล้วใส่ดอกอโศกลงไป ปิดฝาทันที ทิ้งให้เดือดสักครู่ ปิดไฟ เปิดฝา บีบมะนาว คนเบา ๆ พอเข้ากัน ตัก
ไข่เจียวดอกไม้

ส่วนผสม
  • ไข่เป็ด หรือไข่ไก่ 3 ฟอง
  • ดอกไม้รับประทานได้ตามชอบ เช่น อัญชัน พวงชมพู โสน ดอกเข็ม ดอกคูน คละกัน 2 ถ้วย
  • น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันสำหรับเจียวไข่ 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
  1. ตีไข่ให้เข้ากัน ใส่ดอกไม้ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา คนพอเข้ากันพักไว้
  2. ใส่ น้ำมันลงกระทะ ตั้งไฟจนร้อน เทส่วนผสมในข้อหนึ่งลงไป ใช้ตะหลิวเกลี่ยดอกไม้ให้กระจายทั่วแผ่นไข่ รอจนด้านล่างสุกดี จึงพลิกไข่เจียว จากนั้นค่อย ๆ ยกกระทะรินน้ำมันออกจนหมด โดยให้ไข่ยังอยู่ในกระทะ ลดไฟให้อ่อนลง เพื่อให้ผิวไข่กรอบ กลับไข่อีกครั้ง เพื่อให้ผิวไข่เจียวกรอบทั้งสองด้าน ตักขึ้นแล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม จัดใส่จาน
Credit : 
นิตยสาร Health & Cuisine ปีที่ : 11 ฉบับที่ : 121 เดือน : กุมภาพันธ์ 2554

Read More...


มื้อกลางวัน : ยำทวายเก้าเกสร หมี่กะทิดอกบัว


เมนู นี้นำดอกไม้รับประทานได้หลากสีเก้าชนิด มาปรุงเป็นยำทวายแบบไทย ๆ ใช้ทั้งดอกสดและลวกในน้ำกะทิธัญพืชพอสุก รับประทานคู่กับน้ำยำรสเปรี้ยว เค็ม หวาน มัน นอกจากจะอร่อยเข้ากันแล้ว สีสันต่าง ๆ ในดอกไม้ยังช่วยเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายได้อีกด้วย

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 30 นาที ปรุง 45 นาที
  • ดอกไม้ รับประทานได้ 9 ชนิด ชนิดละ 1/2 ถ้วย (พวงชมพู กลีบในของดอกบัวฉัตร ดอกเข็ม ดอกอัญชัน ดอกโสน ดอกแคขาวดึงเกสรออก ดอกผักกวางตุ้ง ดอกเล็บมือนาง หัวปลีซอยเป็นเส้นแช่น้ำมะขามเปียกไว้)
  • อกไก่ต้มสุกฉีกเป็นเส้น 1 ถ้วย
  • ถั่วงอก 1 ถ้วย
  • พริกหวานสามสี เขียว เหลือง แดง ซอยเป็นเส้นบาง ชนิดละ 1/4 ถ้วย
  • กะทิธัญพืช 1 ½ ถ้วย
  • น้ำเปล่า 4 ถ้วย
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • งาคั่วตามชอบ
  • กะทิธัญพืชเคี่ยวผสมกับแป้งข้าวเจ้าเล็กน้อยจนข้น สำหรับราดหน้ายำ ตามชอบ
ส่วนผสมน้ำยำ
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่กรีดเอาเมล็ดออก นำไปแช่น้ำจนนิ่ม 7 เม็ด
  • หอมเล็กปอกเปลือกซอยบางตามขวาง 7 หัว
  • กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 7 กลีบ
  • ข่า 3 แว่น
  • ตะไคร้ซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ปลาย่าง (ปลาเนื้ออ่อนหรือปลาสลาดก็ได้) แกะเอาแต่เนื้อโขลกละเอียด 1/4 ถ้วย
  • น้ำมะขามเปียก 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • กะทิธัญพืช 1 ถ้วย
  • วิธีทำ
    1. ทำ น้ำยำ โดย โขลก พริกกับเกลือให้ละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ลงโขลกจนเนียนจึงใส่หอมและกระเทียม เมื่อเครื่องแกงละเอียดดีแล้วจึงใส่ปลาย่างลงไป โขลกต่อสักพักจนเข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้
    2. ใส่ กะทิธัญพืช (ส่วนเครื่องปรุงน้ำยำ) ลงในกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาล ปิดไฟ ตักใส่ถ้วยเตรียมเสิร์ฟ
    3. ผสม กะทิธัญพืช กับน้ำในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟจนเดือด ใส่เกลือคนให้ละลาย แล้วจึงนำถั่วงอก พริกหวาน และดอกไม้ลงลวก โดยเรียงลำดับจากสีอ่อนไปจนถึงสีเข้ม (ดอกอัญชันและพวงชมพูไม่ต้องลวกก็ได้ เพราะสามารถรับประทานสด ๆ )
    4. จัดดอกไม้ลวกและผักใส่จาน เคียงด้วยเนื้อไก่ฉีกฝอย ราดน้ำยำ และน้ำกะทิธัญพืชสำหรับราดที่เตรียมไว้ โรยงาตามชอบ รับประทานทันที
    Tip
    • การลวกดอกพวงชมพูจะทำให้สีของดอกไม้จางลงเป็นสีชมพูอ่อนจนถึงสีขาว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการลวก
    • ก่อนนำหัวปลีไปลวก ควรล้างน้ำมะขามเปียกออกก่อน เพื่อป้องกันรสเปรี้ยวจากน้ำมะขามทำให้รสยำเสีย
    • สามารถปรับเปลี่ยนดอกไม้ได้ตามชอบ
หมี่กะทิดอกบัว
หมี่ กะทิจานนี้จึงเติมความพิเศษโดยนำกลีบดอกบัวหลวงซอยเป็นเส้นยาว พร้อมเกสรดอกบัวสด มาผัดกับเส้นหมี่ข้าวกล้องและกะทิธัญพืชจนหอมชวนรับประทาน ก่อนราดด้วยเครื่องเคลารสเปรี้ยว เค็ม หวาน กำลังดี เสริมให้อาหารจานนี้หอมอร่อยมากยิ่งขึ้น 

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 30 นาที ปรุง 30 นาที
  • เส้นหมี่ข้าวกล้องแห้ง 100 กรัม
  • เกสรดอกบัวสดและกลีบบัวหลวงหรือบัวฉัตรสีชมพูซอยเป็นเส้นยาวชนิดละ 1 ถ้วย
  • ถั่วงอกเด็ดหาง 1 ถ้วย
  • กุยช่ายหั่นเป็นท่อนสั้น 1 ถ้วย
  • กะทิธัญพืช 1 ถ้วย
  • ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • น้ำตาลทราย 1/4 ช้อนชา
  • น้ำเปล่าสำหรับแช่และลวกเส้นหมี่
  • ใบกุยช่ายสด และถั่วงอกสด สำหรับเป็นผักเคียง
  • มะนาวผ่าซีกและพริกป่นตามชอบ
ส่วนผสมเครื่องราดหมี่
  • เนื้อกุ้งสับหยาบ (ใช้กุ้งได้ทุกชนิด) 1/2 ถ้วย
  • เต้าหู้เหลืองชนิดแข็งหั่นเป็นท่อนสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็ก ๆ 1/4 ถ้วย
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่กรีดนำเมล็ดออก คั่วจนกรอบ ตำละเอียด 3-5 เม็ด
  • หอมเล็กซอย 1 ถ้วย
  • กะทิธัญพืช 1 ½ ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
  • เนื้อเต้าเจี้ยวขาวตำละเอียด 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • น้ำตาลปี๊บ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
  1. นำเส้นหมี่แช่น้ำจนนิ่ม พักให้สะเด็ดน้ำ
  2. ต้มน้ำให้เดือด ใส่เส้นหมี่ลงลวกอย่างรวดเร็ว ตักขึ้นใส่กระชอน พักให้สะเด็ดน้ำเตรียมไว้ (ขั้นตอนนี้เส้นหมี่จะยังไม่สุก)
  3. ใส่ กะทิธัญพืชลงในกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟให้ร้อน ปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ เกลือ น้ำตาล คนจนละลาย เร่งไฟขึ้น ใส่เส้นหมี่ลงผัดจนสุกดี ใส่ถั่วงอก และใบกุยช่าย ผัดต่อสักพัก ปิดไฟ ใส่เกสรและกลีบดอกบัว ลงคลุกเคล้าให้ทั่วเส้นหมี่ตักใส่ภาชนะ ปิดฝาพักไว้
  4. ทำ เครื่องราดหมี่กะทิ โดย เคี่ยวกะทิธัญพืชพอเดือด ใส่เต้าเจี้ยวและพริกลงไปคนให้เข้ากัน ใส่เนื้อกุ้ง ผัดจนใกล้สุก จึงใส่เต้าหู้ และหอมลงไป เติมน้ำเปล่า ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก เกลือ และน้ำตาล รอเดือดสักครู่ ปิดไฟ
  5. จัดเส้นหมี่ที่ผัดไว้ใส่จาน ตักเครื่องราดลงบนเส้นหมี่ เคียงด้วยถั่วงอกสด ใบกุยช่าย มะนาวหนึ่งซีก และพริกป่น ตามชอบ
Tip
  • บัว หลวงจะมีกลิ่นหอมกว่า มีสรรพคุณในการบำรุงหัวใจอย่างชัดเจน ทว่า โคนกลีบดอกส่วนสีขาวมักมีรสขม และเกสรมีรสเฝื่อน ขณะที่บัวฉัตร (มีกลีบซ้อนกันหลายชั้น) กลิ่นจะหอมอ่อน ๆ สรรพคุณทางยาไม่เท่าบัวหลวง แต่เกสรและกลีบ ไม่เฝื่อนขม การเลือกใช้จึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้รับประทาน
Credit : นิตยสาร Health & Cuisine ปีที่ : 11 ฉบับที่ : 121 เดือน : กุมภาพันธ์ 2554

Read More...


มื้อเย็น : ทอดมันกุ้งดอกเฟื่องฟ้า ฉู่ฉี่ดอกฟักทองมันกุ้ง แกงจืดลูกรอกดอกไม้จีน

ทอดมันกุ้งดอกเฟื่องฟ้า




มื้อ เย็นนี้จึงขอเปิดสำรับด้วย ทอดมันเฟื่องฟ้า สีสวย รสเข้มข้น เนื้อทอดมันหนึบหอมกลิ่นน้ำพริกแกงที่ตำเองกับมือ รับรองว่าใครได้เห็นและได้ชิม ต้องหลงรักอาหารเรียกน้ำย่อยจานนี้ เป็นลางดีว่าภายภาคหน้าชีวิตรักคงเฟื่องฟูอย่างแน่นอน

ส่วนผสมสำหรับทอดมัน 20-25 ชิ้น
เวลาเตรียม 45 นาที เวลาปรุง 20 นาที
  • กุ้งแชบ๊วยแกะเอาแต่เนื้อ ผ่าหลังดึงเส้นดำทิ้ง 150 กรัม
  • ดอกเฟื่องฟ้าสีตามชอบ 20-25 ดอก
  • น้ำปลา 1/4 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  • ใบมะกรูดซอยละเอียด 2 ใบ
  • ถั่วฝักยาวซอยบางตามขวาง 1/4 ถ้วย
  • น้ำมันสำหรับทอด
  • ส่วนผสมน้ำพริกแกง
    • พริกแห้งเม็ดใหญ่กรีดนำเมล็ดออกแช่น้ำจนนิ่ม 1 เม็ด
    • พริกขี้หนูแห้งกรีดนำเมล็ดออกแช่น้ำจนนิ่ม 2 เม็ด
    • หอมเล็กซอยบางตามขวาง 1 ช้อนโต๊ะ
    • กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 8 กลีบ
    • ข่าสับหยาบ 1/2 ช้อนโต๊ะ
    • ตะไคร้ซอยบาง 1 ช้อนโต๊ะ
    • ผิวมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนชา
    • รากผักชีสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
    • ลูกผักชีคั่วไฟอ่อนจนหอม 1/4 ช้อนชา
    • ยี่หร่าคั่วไฟอ่อนจนหอม 1/4 ช้อนชา
    • เกลือ 1 ช้อนชา
    • กะปิ
    ส่วนผสมอาจาด
    • น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
    • น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
    • น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
    • เกลือ 1 ช้อนชา
    • แตงกวาซอยบาง 1/4 ถ้วย
    • หอมเล็กหรือหอมแขกซอยบางตามขวาง 1/4 ถ้วย
    • พริกชี้ฟ้าสีเหลือง และสีแดง ซอยบางตามขวาง 1/4 ถ้วย
    วิธีทำ
    1. ทำอาจาด โดยผสมน้ำตาล น้ำเปล่า น้ำส้มสายชูลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟปรุงรสด้วยเกลือ เคี่ยวต่อจนเหนียวดี ปิดไฟ พักให้เย็น เทใส่ถ้วย ใส่แตงกวา หอม และพริกชี้ฟ้า ลงไป คนเล็กน้อย พักไว้
    2. ทำทอดมันโดยเริ่ม จาก ตำพริกกับเกลือจนละเอียด ใส่ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี ลูกผักชี ยี่หร่า โขลกจนละเอียด แล้วจึงใส่หอม กระเทียม และกะปิ ตำจนเนียนเข้ากัน ตักใส่ถ้วยพักไว้
    3. ล้างกุ้งให้สะอาด ซับด้วยกระดาษทิชชู หรือผ้าให้แห้ง ใส่ลงครกแล้วตำกุ้งจนละเอียดและเหนียว ใส่น้ำพริกแกงในข้อหนึ่งลงตำให้เข้ากันดี ตักส่วนผสมออกจากครก ใส่ลงในชามนวดต่ออีกสักพักจนส่วนผสมเหนียว ใส่ใบมะกรูดซอยและถั่วฝักยาว น้ำปลาและพริกไทยป่น นวดจนเข้ากัน พักไว้
    4. ล้างดอกเฟื่องฟ้าให้สะอาด ซับให้แห้ง นำส่วนผสมทอดมันปั้นเป็นก้อนแล้วยัดใส่ตรงกลางดอกเฟื่องฟ้า ทำอย่างนี้จนส่วนผสมและดอกไม้หมด
    5. ตั้งน้ำมันให้ร้อน ใส่ดอกเฟื่องฟ้าที่ยัดไส้แล้วลงทอดจนสุก ตักขึ้นซับน้ำมัน เสิร์ฟทันทีคู่กับอาจาด
ฉู่ฉี่ดอกฟักทองมันกุ้ง

ฉู่ ฉี่จานนี้นำเนื้อกุ้งโขลกจนเหนียวมาเคล้ากับเนื้อปูต้ม นำไปหุ้มกับดอกฟักทองอ่อนแล้วชุบแป้งทอด ก่อนนำไปปรุงเป็นฉู่ฉี่รสเผ็ดร้อนแบบไทย เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยหุงสุกใหม่ ๆ นอกจากจะอร่อยจนชวนเจริญอาหารแล้ว ดอกฟักทองยังมีสรรพคุณ ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ขับลมในกระเพาะอาหาร และหากใช้ดอกบานก็สามารถช่วยแก้โรคตาบอดกลางคืนได้ดี

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 30 นาที ปรุง 20 นาที
  • ดอกฟักทองอ่อน 18 ดอก
  • กุ้งแชบ๊วยแกะเอาแต่เนื้อผ่าหลัง 200 กรัม
  • เนื้อปูนึ่งสุก 1 ถ้วย
  • มันกุ้ง 1 ถ้วย
  • รากผักชีสับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 10 กลีบ
  • พริกไทย 1 ช้อนชา
  • กะทิธัญพืช 1 ถ้วย
  • น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา (1) 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา (2) 3 ช้อนโต๊ะ
  • แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วย
  • น้ำเปล่า ¾ ถ้วย
  • ไข่เป็ด(เฉพาะไข่แดง) 1 ฟอง
  • พริกชี้ฟ้าสีเหลือง สีแดง หั่นแฉลบ 1/4 ถ้วย
  • ใบมะกรูดหั่นฝอยสำหรับโรยหน้า
  • กะทิธัญพืชผสมกับแป้งข้าวเจ้าเล็กน้อย นำไปเคี่ยวจนข้นสำหรับราดบนฉู่ฉี่
  • น้ำมันพืชสำหรับผัดเล็กน้อย
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด
ส่วนผสมพริกแกง
  • พริกแห้งเม็ดใหญ่กรีดเมล็ดออกไปแช่น้ำจนนิ่ม 7 เม็ด
  • ข่า 7 แว่น
  • ตะไคร้ซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมเล็กซอยบางตามขวาง 5 หัว
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • พริกไทย 20 เม็ด
  • ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา
  • กะปิ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
  1. โขลกส่วนผสมพริกแกงรวมกันให้ละเอียดพักไว้
  2. ตำรากผักชีกระเทียมพริกไทยรวมกันพักไว้ในครก ล้างกุ้งให้สะอาด ซับด้วยกระดาษทิชชูหรือผ้าให้แห้ง ใส่ลงในครกใบเดิม ตำจนกุ้งละเอียด เหนียว และเข้าเนื้อกับเครื่องเทศดี ตักออกจากครกใส่ลงภาชนะ เติมน้ำปลา (1) นวดให้เข้ากัน ใส่เนื้อปูลงไป ใช้มือนวดเคล้าพอเข้ากันอย่าให้เนื้อปูแตก
  3. ตัดก้านดอกฟักทองให้ห่างจากฐานดอกประมาณ 3 นิ้ว แล้วจับดอกฟักทองสามดอกรวบเข้าด้วยกัน นำส่วนผสมในข้อสองปั้นหุ้มก้านฟักทองให้ชิดฐานรองดอก เว้นก้านส่วนปลายไว้เล็กน้อย ทำอย่างนี้จนส่วนผสมและดอกฟักทองหมดพักไว้
  4. ผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำและไข่แดงคนให้เข้ากันพักไว้
  5. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ยกขึ้นตั้งไฟให้ร้อน ลดไฟลงเป็นไฟกลาง นำดอกฟักทองที่เตรียมไว้ ชุบส่วนผสมแป้ง แล้วทอดจนสุกเป็นสีทองสวย ตักขึ้นซับน้ำมันพักไว้
  6. ตั้งกระทะอีกใบ ผัดน้ำพริกแกงกับน้ำมันพืชเล็กน้อยจนขึ้นสีสวย ใส่กะทิธัญพืชลงไปผัดจนเข้ากันดี เมื่อกะทิเดือดจัด ปรุงรสด้วยน้ำปลา (2) น้ำตาล แล้วใส่ดอกฟักทองทอดลงไปเคล้า โรยพริกชี้ฟ้า ผัดให้เข้ากัน ตักใส่จาน โรยกะทิ ใบมะกรูดซอย ตามชอบ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวย
แกงจืดลูกรอกดอกไม้จีน

ปิดสำรับด้วยแกงจืดแบบไทย ”อย่างแกงจืดลูกรอก” ที่ต้องใช้เวลาปรุงนานสักหน่อยแต่รับรองอร่อยไม่ผิดหวัง
สูตรนี้เพิ่มดอกไม้จีนลงไป เพื่อให้ได้สรรพคุณ ช่วยผ่อนคลาย เป็นยาบำรุงประสาท ทำให้นอนหลับสบาย ส่งคุณให้หลับฝันหวานในค่ำคืนของเดือนแห่งความรักนี้ อย่างสุขใจ

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่ )
เตรียม 45 นาที ปรุง 2 ชั่วโมง 30 นาที
ส่วนผสมลูกรอก
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • ไข่เป็ด(เฉพาะไข่แดง) 3 ฟอง
  • ไส้อ่อนหมูตัดพังพืดสีขาวทิ้ง แล้วตัดส่วนไส้ให้ได้ความยาวประมาณ 40 เซนติเมตร
  • น้ำปูนใส 1 ถ้วย
  • เกลือ 4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำสำหรับต้มลูกรอก
  • เชือกสำหรับมัดปลายลูกรอก
ส่วนผสมสำหรับแกง
  • กุ้งกุลาดำตัดหัวทิ้ง แกะเปลือก เว้นหาง ผ่าหลัง ดึงเส้นดำทิ้ง ล้างสะอาด 6 ตัว
  • ดอกไม้จีนแช่น้ำจนนิ่ม 20 ดอก
  • รากผักชีสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมกลีบเล็กปอกเปลือก 7 กลีบ
  • พริกไทยดำเม็ดคั่วจนหอม 1/4 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย ½ ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันกระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 4 ถ้วย
  • ผักชีซอยหยาบสำหรับโรยหน้า
วิธีทำ
  1. ใช้มือรีดไส้หมูให้เมือกด้านในไส้หลุด ออก แล้วใส่ไส้ลงในชามใบโต โรยเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ ขยำให้ทั่วแล้วล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาด จากนั้น ใช้ตะเกียบกลับไส้ด้านในออกมา โรยเกลือ1 ช้อนโต๊ะ ขยำจนทั่ว ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งใส่น้ำปูนใสลงไปแช่ไว้ประมาณ 1-2 นาที จากนั้นใช้มือคนแล้วเทน้ำทิ้ง โรยเกลือ 1 ช้อนโต๊ะและขยำไส้อีกครั้ง ล้างออก จากนั้นใช้ตะเกียบกลับไส้ให้เหมือนเดิมใส่เกลือ1 ช้อนโต๊ะ ขยำให้ทั่ว ล้างให้สะอาด พักใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
  2. ตอกไข่ใส่ชามตีให้เข้ากันดี ปรุงรสด้วยน้ำปลา พักไว้
  3. ใช้เชือกมัดด้านปลายด้านหนึ่งของไส้ แล้วกรอกไข่ใส่ลงไปในไส้จนหมด ใช้เชือกมัดปลายอีกข้างหนึ่งให้แน่น พักไว้
  4. นำหม้อใบโตใส่น้ำยกขึ้นตั้งไฟ นำชามอะลูมิเนียมวางบนปากหม้อให้พอดี ใส่น้ำลงในชาม แล้วใส่ลูกรอกลงต้ม
    ขั้นตอนนี้เมื่อน้ำในอ่างร้อนต้องคอยตักออกแล้วเติมน้ำลงไป เพื่อคุมอุณหภูมิน้ำให้ร้อนแต่ไม่เดือดเพื่อไม่ให้ลูกรอกแตก ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนเส้นลูกรอกสุก โดยสังเกตจากสีของไข่ในลูกรอกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองขุ่นและเส้นลูกรอกจะลอย เมื่อจับดูเนื้อจะแข็งแน่นดี ถือว่าใช้ได้ (ขั้นตอนนี้ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง)
  5. นำลูกรอกที่สุกแล้วขึ้นจากน้ำ หั่นเป็นท่อนความยาวประมาณครึ่งนิ้ว แล้วใช้มีดกรีดบนผิวหน้าตัดของลูกรอกเบา ๆ เป็นกากบาท เตรียมไว้
  6. ใช้หม้ออีกใบต้มน้ำด้วยไฟกลางเพื่อเตรียมทำแกงจืด ระหว่างรอน้ำเดือด ตำรากผักชี กระเทียม พริกไทย รวมกันให้ละเอียด เมื่อน้ำเดือดจึงใส่เครื่องเทศดังกล่าวลงไปคนให้ละลายดี ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำมันหอย ใส่กุ้ง แล้วมัดดอกไม้จีนใส่ลงไป ตามด้วยลูกรอก ต้มจนน้ำแกงเดือด และไส้รัดตัวลูกรอกจนมีลักษณะคล้าย รอกจริง ๆ และรอยกรีดบนหน้าตัดบานเป็นลักษณะคล้ายดอกไม้ ปิดไฟ โรยผักชี ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟขณะร้อน
Credit :นิตยสาร Health & Cuisine ปีที่ : 11 ฉบับที่ : 121 เดือน : กุมภาพันธ์ 2554

Read More...


“ขาหมูยัดไส้” หรือ “ขาหมูเวียดนาม”เมนูแปลกใหม่ดึงดูดลูกค้า

ธุรกิจ ร้านอาหารถือเป็น “ช่องทางทำกิน” ยอดฮิตของใครหลาย ๆ คน ตั้งแต่ร้านก๋วยเตี๋ยว  ร้านข้าวแกง  ร้านขนม  ร้านกาแฟ  ไปจนถึงร้านหรู ๆ ซึ่งการทำธุรกิจร้านอาหารไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกิน  โดยผู้ที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจด้านนี้ต้องมีปัจจัยและองค์ประกอบหลาย อย่างเป็นตัวช่วย อาทิ เมนูหลากหลาย อาหารต้องอร่อย บริการเยี่ยม ราคาถูก บรรยากาศดี ทำเลตั้งร้านสะดวก เหล่านี้สามารถทำให้ธุรกิจร้านอาหารอยู่รอดปลอดภัย และบางร้านก็ใช้เมนูแปลกใหม่ดึงดูดลูกค้า อย่างเช่น “ขาหมูยัดไส้” หรือ “ขาหมูเวียดนาม”

กัญ จนรัตน์ หิรัญพริษฐ์ หรือ เกต เจ้าของร้าน “นานา ไก่ย่าง” เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของการทำร้านอาหารว่า ที่บ้านทำธุรกิจด้านอาหารกันอยู่แล้ว และด้วยความที่ครอบครัวเป็นคนอีสานดั้งเดิมจาก จ.หนองคาย บวกกับคุณแม่เป็นคนชอบทำอาหารและทำอาหารเก่ง ทั้งเธอและน้องสาวได้รับการถ่ายทอดวิชาการทำอาหารสารพัดชนิดมาตั้งแต่เล็กจน โต และคิดว่าถ้าจะขยายธุรกิจเพื่อต่อยอดธุรกิจของครอบครัว เปิดร้านอาหารสไตล์อีสาน น่าจะทำได้ดี  เพราะคุ้นเคยและมีฝีมือในการทำอาหารอีสานอยู่แล้ว
“การ ทำธุรกิจร้านอาหาร ที่สำคัญเจ้าของร้านควรทำอาหารเป็นเองด้วย จะดีมากค่ะ เพราะพนักงานจะหาเรื่องหยุดได้ตลอดช่วงเทศกาลต่าง ๆ ช่วงเทศกาลคุณจะยิ่งขายดี ถ้าเราทำโดยต้องอาศัยคนอื่นตลอดจะลำบาก เราต้องสามารถกำหนดสูตร กำหนดรสชาติให้พ่อครัว เพราะถ้าเกิดเปลี่ยนพ่อครัวด้วยกรณีใด ๆ สูตรและรสชาติเดิมก็จะยังคงอยู่กับร้านตลอด จะไม่กระทบกับลูกค้า ส่วนเคล็ดในการครองใจคออาหารอีสานน่าจะเป็นรสชาติของอาหารที่จัดจ้านแต่กลม กล่อม ทางร้านจะเน้นให้เป็นรสชาติแบบอีสานแท้ ๆ รสแซบถึงใจ มีเมนูอาหารหลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกสรร วัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหารของที่ร้านเน้นสดและใหม่จริง ๆ เพราะร้านอยู่ตรงข้ามกับตลาดสะพานใหม่ สามารถซื้อของสดใหม่ได้ตลอดเวลา” เกตแจกแจง
  
พร้อมทั้งบอกว่า นอกจากฝีมือในการปรุงอาหารแล้ว หัวใจสำคัญที่ต้องเน้นเป็นพิเศษสำหรับอาหารคือเรื่อง “ความสะอาด” ซึ่งไม่ใช่แค่จัดใส่จานให้ดูสะอาดน่ารับประทานเท่านั้น อย่างผักสดก็ต้องล้างน้ำหลายครั้งจนมั่นใจว่าสะอาดจริง เวลาประกอบอาหารก็ต้องระวัง ที่สำคัญอีกอย่างคือการทำอาหารขายต้องรู้จัก “พลิกแพลงสูตร” ตามความชอบของลูกค้า ซึ่งที่ร้านจะอยู่ใกล้กับกองทัพอากาศ ก็จะมีทหารเป็นลูกค้าประจำเยอะ
  
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำอาหารอีสานนั้น ต้องเตรียมให้ครบครัน ที่ขาดไม่ได้คือครกกับสากไม้สำหรับตำส้มตำ รวมถึงเขียง, มีด, ช้อน, ส้อม, ทัพพี, หม้อมีด้ามสำหรับใช้ปรุง, กระปุกหรือโหลสำหรับใส่วัตถุดิบ, กะละมัง, กระทะ, เตาแก๊ส, เตาถ่าน, ซึ้งนึ่งข้าวเหนียว, ลังถึงนึ่งปลา, ตะแกรง, หม้อต้มน้ำซุป, ถาด,
คีมคีบฯลฯ
  
วัตถุดิบที่ใช้ในครัว ต้องใหม่สดทุกวัน พระเอกต้องยกให้มะละกอดิบที่ต้องสดกรอบ ที่เหลือก็เป็นพวกถั่วลิสงคั่ว, กุ้งแห้ง, น้ำตาลปี๊บ, น้ำปลาอย่างดี, น้ำมะนาว, น้ำมะขามเปียก, พริกขี้หนูสด, พริกขี้หนูแห้ง, พริกป่น, ข้าวคั่ว, ปูเค็ม, ปลาร้า, ซอสปรุงรส, เกลือ, น้ำตาลทราย, เนื้อหมู, เนื้อไก่, เนื้อปลา, ชูรส, ผักชี, ฝรั่ง, แครอท, ต้นหอม, ใบสะระแหน่, ถั่วฝักยาว, มะเขือเทศ,  ผักสดนานาชนิด เช่น กะหล่ำปลี, ผักบุ้งนา, แตงกวา, ผักแว่น, ผักแผ้ว, ผักกาดหอม ฯลฯ ตามแต่ผักชนิดใดจะเหมาะกับอาหารชนิดใด เหล่านี้เป็นต้น

สำหรับ เมนูของร้านนี้ อาทิ ไก่ย่างนานา, ปากเป็ดทอด, ต้มแซบกระดูกอ่อน, แกงอ่อมหมู, ปลาร้าทรงเครื่อง, ยำเอ็นแก้ว, ปลาเก๋าลวกจิ้ม, เนื้อลายลวก, ไส้ตันทอด, ไก่บ้านต้มใบมะขาม, จิ้มจุ่มอีสาน, ปลาช่อนเผาเกลือ, ปลาทับทิมเผาเกลือ, ปลาดุกย่าง, ปลานึ่ง, ปลาทับทิมราดพริก, ปลามะนาว, เนื้อย่าง, คอหมูย่าง, หอยเผา, ต้มยำต่าง ๆ, ตำลาว,  ตำป่า, ตำหอยดอง, ตำปูม้า, ตำไข่เค็ม, ตำซั่ว, น้ำตก, ลาบ ฯลฯ
       
รวมถึง “ขาหมูยัดไส้” หรือ “ขาหมูเวียดนาม” เมนูนี้เป็นอีกจานเด็ดที่ลูกค้าเกือบทุกโต๊ะต้องสั่ง โดย “ขาหมูยัดไส้” หรือ “ขาหมูเวียดนาม” นี้ วัตถุดิบที่ใช้ทำก็มี ขาหมู, หมูเนื้อสันติดมัน, หนังหมู, เห็ดหอม, เห็ดหูหนู, เครื่องเทศ, น้ำตาล, น้ำปลา, ซอสปรุงรส
     
ขั้นตอนการทำ “ขาหมูยัดไส้” หรือ “ขาหมูเวียดนาม” เริ่มจากเลือกขาหมูคุณภาพดีมาใช้  เมื่อได้มาแล้วก็เอาขาหมูมาขูดหนังและล้างให้สะอาด ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ใช้มีดปลายแหลมคว้านเนื้อและเลาะเอากระดูกออกให้เหลือแต่หนังและส่วนของปลาย เท้าเพื่อให้คงรูปเดิม ตั้งพักไว้
  
ระหว่างนั้นให้นำหนังหมูมาขูดล้างสะอาด แล้วนำไปต้มให้สุก ตักขึ้นผึ่งให้สะเด็ดน้ำ หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ นำเห็ดหอมไปแช่น้ำทิ้งไว้สักครู่ พอนิ่มให้หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เช่นเดียวกับเห็ดหูหนูก็หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เตรียมไว้ จากนั้นนำหมูเนื้อสันติดมันมาบดหรือสับให้ละเอียด แล้วผสมกับเครื่องเทศ เห็ดหอมหั่น เห็ดหูหนูหั่น หนังหมูหั่น ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ซอสปรุงรส ทำการคลุกเคล้าให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
     
เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ก็นำไปยัดใส่ลงในขาหมูที่เตรียมไว้ ใช้ด้ายเย็บหนังให้ปิดสนิท ก่อนจะนำไปนึ่งนานประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อสุกแล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนจะนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น เมื่อจะเสิร์ฟให้ลูกค้ารับประทานก็นำขาหมูออกมาหั่นสไลด์ตามขวางเป็นชิ้นบาง ๆ รับประทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด และ
ผักสด
     
อาหารของร้านนี้มีราคาตั้งแต่ 40 จนถึง 180 บาท ขึ้นอยู่กับเมนู ส่วน “ขาหมูยัดไส้” ขายจานละ 60 บาท โดยทุนเฉพาะวัตถุดิบของอาหารต่าง ๆ แต่ละจาน (ไม่รวมทุนเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ) ไม่เกิน 50%
                                  
ร้านของเกตตั้งอยู่ปากซอยพหลโยธิน 54 ต้องการติดต่อเกต ก็โทร. 08-6407-5909, 08-6608-2829 ต้องการจองโต๊ะ โทร. 08-1864-6532 ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่  17.00-24.00 น. ทุกวัน นอกจากจะขายที่ร้านแล้วยังมีบริการส่งฟรีในละแวกร้าน เมื่อสั่งอาหารตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป และรับจัดเลี้ยงตามงาน
ต่าง ๆ ด้วย

โดยมี “ขาหมูยัดไส้” เป็นหนึ่งในเมนูเด่น!!.

เชาวลี ชุมขำ : เรื่อง-ภาพ  
http://www.dailynews.co.th

Read More...


ก๋วยเตี๋ยวน้ำปลาหมึก' น้ำซุปเด่น...สร้างจุดขาย

อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้ชื่อว่าเป็นอีกแหล่งอาหารขึ้นชื่อ และก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวที่น่าสนใจร้านหนึ่ง ซึ่งมีขาประจำแวะเวียนอุดหนุนกันแบบไม่ขาดสาย นั่นคือร้านก๋วยเตี๋ยวหมู ซอย 12 สาขา 1 ที่มี “ก๋วยเตี๋ยวน้ำปลาหมึก” เป็นตัวชูโรง วันนี้ลองมาดูข้อมูล “ช่องทางทำกิน” ของร้านขายก๋วยเตี๋ยวร้านนี้... 
     
คุณ หนุ่ย-ณรงค์ศักดิ์ ถนอมชาติ และ คุณหลิม-พรทิพย์ ไทยธีระเสถียร สองสามีภรรยา เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้มากว่า 15 ปี โดยได้สูตรมาจากร้านก๋วยเตี๋ยวหมูซอย 12 อ.เมือง ชลบุรี เป็นที่มาของคำว่า ก๋วยเตี๋ยวหมู ซอย 12 ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลายสาขาในจังหวัดชลบุรีและใกล้เคียง คุณหนุ่ยเล่าว่า เมื่อก่อนทำงานธนาคาร ส่วนคุณหลิมเปิดกิจการห่านพะโล้กับคุณพ่อในตลาดบ้านบึง หลังจากแต่งงานกันแล้วก็เลยแยกครอบครัวมาค้าขายเอง โดยมาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว โดยเริ่มจากภรรยาขายคนเดียวก่อน ต่อมาลูกค้าเยอะ คุณหนุ่ยต้องลาออกจากงานมาช่วยขายอีกแรงจนกระทั่งปัจจุบัน


“ที่ เลือกอาชีพนี้เพราะว่าง่ายต่อการประกอบกิจการ และลงทุนไม่สูงมาก ผู้คนทั่วไปนิยมรับประทานเนื่องจากเป็นอาหารจานด่วน สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน ที่สำคัญได้คุณค่าอาหารครบด้วย” คุณหนุ่ยเล่าก๋วยเตี๋ยวน้ำปลาหมึก ดังกล่าว มีความแปลกและแตกต่างจากก๋วยเตี๋ยวทั่ว ๆ ไปตรงที่มีส่วนของ น้ำต้มปลาหมึกแห้ง เป็นส่วนผสมเพิ่มเติมด้วย วิธีทำตามสูตรคือ ใช้ปลาหมึกแห้งหั่นฝอยต้ม (ปลาหมึกไซซ์เล็ก) 7 กก. (ราคา กก.ละประมาณ 360 บาท) และ กุ้งแห้งตัวเล็ก 3 กก. ตุ๋นกับน้ำเปล่า 10 ลิตร ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลทรายตามใจชอบ และที่สำคัญให้ใช้เตาถ่านต้มเคี่ยว เพื่อเพิ่มความหอม 
    
ส่วนน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว ใช้น้ำเปล่า 30 ลิตร ต้มกับกระดูกหมู กระดูกคาตั๊ง และกระดูกข้อต่อ ทั้งหมดรวมกัน 2 กก. รวมทั้งเครื่องเทศ รากผักชีทุบ 1 กำมือ กระเทียมทุบ 1 กำมือ พริกไทย 3 ช้อนโต๊ะ ต้มผสมกัน 
    
สำหรับ อุปกรณ์ในการขาย คุณหนุ่ยบอกว่าก็ใช้อุปกรณ์สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวทั่ว ๆ ไป อาทิ เตาแก๊ส หม้อก๋วยเตี๋ยว ตู้ก๋วยเตี๋ยว ชาม-ตะเกียบ- ช้อน ฯลฯ ลงทุนก็ประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป แล้วแต่คุณภาพ 
    
วัตถุดิบ ที่ใช้ ก็มีเส้นก๋วยเตี๋ยวต่าง ๆ อาทิ เส้นเล็ก–ใหญ่ บะหมี่ เส้นหมี่ และเกี้ยมอี๋ เกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวปลา เส้นปลา โดยร้านนี้ขายทั้งก๋วยเตี๋ยวหมู ก๋วยเตี๋ยวทะเล เย็นตาโฟ นอกจากนี้ วัตถุดิบอื่น ๆ ก็มี ถั่วงอก ผักบุ้ง ลูกชิ้นปลา ฮื่อก้วย หมูสับ ต้นหอมซอย ปลาหมึกแห้ง กุ้งแห้ง เครื่องเย็นตาโฟ ของทะเล ฯลฯ
    
วิธีขาย ถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวหมู ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ถั่วงอก ใส่น้ำมันเจียวพร้อมกากหมู ฮื่อก้วย หมูสับ หัวไชโป๊หั่น ต้นหอมซอย ที่สำคัญใส่ปลาหมึกฝอย กุ้งแห้ง และราดน้ำซุปลงไป 
    
ส่วน ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟทะเล ลวกผักบุ้ง ลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ใส่น้ำมันเจียวกากหมู น้ำเย็นตาโฟ เต้าหู้แผ่นทอด (หั่นเป็นชิ้น) ปลาหมึกกรอบ ปลาหมึกสด ลูกชิ้นปลา ปลาหมึกฝอย กุ้งแห้ง เลือดหมู และแผ่นเกี๊ยวทอด ราดน้ำซุปให้เรียบร้อย 



ก๋วยเตี๋ยว ร้านนี้ขายในราคาชามละ 25-35 บาท ซึ่งคุณหนุ่ยบอกว่า ลูกค้าสามารถปรุงรสชาติให้เด็ดด้วยน้ำปลาแท้ พร้อมด้วยพริกน้ำส้ม และพริกป่นแท้ 
    
แต่เทคนิคในการขายที่ สำคัญคือ น้ำซุปที่ใส่ก๋วยเตี๋ยวนั้น จะใช้น้ำซุปทั้งสองอย่าง คือน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว และน้ำปลาหมึก เพื่อให้ก๋วยเตี๋ยวมีรสชาติดียิ่งขึ้น หอมกลิ่นพริกไทย และกลิ่นปลาหมึก

ในการขาย เมื่อน้ำปลาหมึกที่เตรียมไว้พร่องลง ให้ตักน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเติมลงไป ซึ่งจะต้องมีหม้อน้ำซุปสำรองไว้อีกหม้อหนึ่งเพื่อคอยเติม คุณหนุ่ยบอกว่า การหมุนเวียนน้ำก๋วยเตี๋ยวแบบนี้จะทำให้การขายก๋วยเตี๋ยวมีชีวิตชีวา และน้ำก๋วยเตี๋ยวมีรสชาติอร่อย ที่สำคัญต้องคอยอุ่นให้น้ำซุปทั้งสองอย่างร้อนตลอดเวลา
     

คุณหนุ่ย บอกว่า การลงทุนขายก๋วยเตี๋ยวของทางร้านนั้น ถ้าใช้เงินลงทุนประมาณ 4,000 บาท และขายหมด จะมีรายได้ก่อนหักทุนประมาณ 6,000 บาท 
     
ร้าน ก๋วยเตี๋ยวของคุณหนุ่ยและคุณหลิม เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่ 07.00-16.00 น. ตั้งอยู่ถนนสายบ้านบึง–แกลง ขาไป อ.แกลง ข้ามสะพานลอยสี่แยกเอ็ม 16 (สี่แยกบ้านบึงพัฒนา) ประมาณ 1 กม. อยู่ซ้ายมือ เลขที่ 76 หมู่ 1 ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี หมายเลขโทรศัพท์  08-4137-7319 ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง “ช่องทางทำกิน” จาก “ก๋วยเตี๋ยวน้ำปลาหมึก”.

คู่มือลงทุน...ก๋วยเตี๋ยวน้ำปลาหมึก

ทุนอุปกรณ์    ประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป 

ทุนวัตถุดิบ    ประมาณ 60% ของราคาขาย 

รายได้    ราคาชามละ 25-35 บาท 

แรงงาน    1-2 คนขึ้นไป

ตลาด     แหล่งชุมชน, ย่านขายอาหาร   

จุดน่าสนใจ    มีจุดเด่นที่ความหอมของน้ำซุป



ขอบคุณ พิเศษ นสพ เดลินิวส์
http://www.dailynews.co.th

Read More...


ใบเหลียงผัดไข่...ปรุงง่ายสูตรเตชินท์

หลัง จากนัดกันกับหนุ่ม เตชินท์ ชยุติ เอาไว้ว่า ถ้าพี่ชายเปิดร้านอาหารเมื่อไหร่ เขาขออาสาทำเมนู ใบเหลียงผัดไข่ สูตรเด็ดของทางบ้านให้ชิม

หลังจากนัดกันกับหนุ่ม เตชินท์ ชยุติ เอา ไว้ว่า ถ้าพี่ชายเปิดร้านอาหารเมื่อไหร่  เขาขออาสาทำเมนู ใบเหลียงผัดไข่ สูตรเด็ดของทางบ้านให้หมูหวานชิม และแล้ววันนั้นก็มาถึง หลังจากพี่ชายเปิดร้านได้เดือนเศษ หนุ่มเตบอกว่าพร้อมแล้ว ลุยได้เลย
 “พี่ ชายชอบทำกับข้าว เขาทำเก่งมา ก็เลยชวนว่าเราเปิดร้านอาหารกันดีไหม และญาติ ๆ อย่างอาอี๊ อาม่า ก็ชอบทำกับข้าว พี่ชายก็ชอบไปช่วยทำตั้งแต่เด็ก ๆ พอพี่โตขึ้นมาแม่ก็ไม่ทำกับข้าวแล้ว พี่ชายเป็นคนทำ เรื่องเปิดร้านอาหารเราคิดมานานเป็นครึ่งปีแล้ว ผมเองไม่เคยทำร้านอาหาร แต่พี่ชายเขาเคยเปิดร้านอาหารที่อังกฤษด้วย ตอนนี้ก็ยังมีร้านอยู่ที่อังกฤษ  แต่ว่าให้ลูกน้องดูแลแทน แล้วเขาก็มาลุยตรงนี้” หนุ่มเตชินท์ เล่า

ส่วน ผลงานของหนุ่มเต ตอนนี้มีเพลงประกอบละครเรื่อง 'วิวาห์ว้าวุ่น' ชื่อเพลง ‘คนไม่รู้ตัว’ ล่าสุดเลยก็ไปร้องเพลงให้ละครตอนเย็น เรื่อง 'หัวใจรักข้ามภพ' ชื่อเพลง ‘เก็บเอาไว้คำว่ารักกัน’ ใครเป็นแฟนคลับหนุ่มเต หรือนิยมฟังเพลงจากละคร สามารถโหลดฟังกันได้ที่ *1230036  นอกจากนี้ เขาก็มีอัลบั้มชุดใหม่ใกล้จะคลอดแล้ว และยังมีงานอื่น ๆ อาทิ เป็นพิธีกรรายการทีวีของแกรมมี่อีกด้วย

"ล่า สุดผมเพิ่งไปเที่ยวเมืองจีนมานะครับ ไปที่มณฑลซินเจียง เมืองคาสือ ที่เหมือนไม่ใช่เมืองจีน สนุกดีครับ มองไปรอบด้านไม่มีคนจีนเลย อาหารการกินก็แปลกมาก เขาจะเอาเนื้อแพะมาสับคลุกกับเครื่องเทศ แล้วเห่อด้วยแป้งคล้ายซาลาเปาแต่หนากว่า แล้วเอาไปปิ้งย่างที่เตาถ่าน ไม่มีไขมันเลย พอปิ้งย่างสุกมาชิมแล้วอร่อยมาก ความจริงผมไม่กินเนื้อแพะ เพราะว่าคาวและสาบ แต่พอชิมแล้วก็ยังสาบนิด ๆ แต่ว่ามันสดอร่อย เพราะว่าอากาศเย็นมาก 8 โมงเช้า อุณหภูมิประมาณ -32 องศา พอเที่ยง ๆ บ่าย ๆ เหลือ -25  เหมือนทำงานอยู่ในช่องแช่แข็ง อากาศแห้ง คอจะแห้ง ตัวแห้งมาก บางคนอายุเท่าผมแต่หน้าไปแล้ว แก่ไว ตอนแรกนึกว่าอายุมากแล้ว พอถามแล้วอายุ 22 เท่าผมเลย ที่นี่เขาพูดภาษาเติร์กกับภาษาจีนกัน"
หนุ่ม เต เสริมว่า ภูมิภาคแถบนี้นับว่าเป็นเส้นทางสายไหมในอดีต ไม่มีความทันสมัยมาก แต่มีเสน่ห์น่าไปเยือน พอไปเมือง 'อูรูฉี'  มีเทือกเขาเทียนซานล้อมรอบ มีหิมะตกด้วยทั้ง ๆ ที่อุณหภูมิอุ่นกว่าเมืองคาสือ 
 
"ผม ได้ไปจุดศูนย์กลางของทวีปเอเชียด้วยนะครับ เขาทำค่อนข้างดี ทำทางเข้ามีป้ายธงชาติแต่ละเประเทศ ให้รู้ว่าทวีปเอเชียมีประเทศอะไรบ้าง มีประเทศไทยด้วย ตรงจุดศูนย์กลางจะทำเหล็กโครงสร้างเป็นรูปตัวเอแล้วตรงกลางจะมีลูกตุ้มเล็ก นิดเดียว ตรงจุดนี้ก็คือจุดศูนย์กลางของทวีปเอเชีย ไปช่วงเดือน 6-7-8 จะดีมาก" 


เมือง นี้เป็นเมืองมุสลิม ดังนั้นอาหารส่วนใหญ่เป็นเนื้อแพะ เนื้อแกะ แต่ก็มีอาหารจีนให้รับประทานด้วย โดยเฉพาะไก่ทอดอร่อยมาก เพราะเขาทอดจนแห้งคลุกกับน้ำพริกเผา คล้ายกับผัดกะเพราไก่บ้านเราแต่ไม่มีใบกะเพราเท่านั้นเอง สำหรับวันนี้หมูหวานนึกว่าหนุ่มเต จะเปลี่ยนใจทำซาลาเปาไส้แพะ หรือไก่ทอดเมืองอูรูฉี แต่หาเป็นดังนั้นไม่ หนุ่มเตยังคงยืนยันว่าจะทำใบเหลียงผัดไข่สูตรระนอง (จากที่บ้าน) ให้หมูหวานชิม ดังนั้นไม่รอช้าเข้าครัวพิสูจน์ฝีมือให้รู้กันไปว่า....ผ่านหรือไม่ผ่าน


ใบเหลียงผัดไข่
ส่วนผสม :1. ยอดใบเหลียง
2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
3. น้ำมันพืช
4. ซีอิ๊วขาว
5. น้ำมันหอย
6. กระเทียม
7. หอมแดงซอย
8. หอมแดงเจียว
9. วุ้นเส้น
10. พริกไทย
11. น้ำตาลทราย (เล็กน้อย)
12. น้ำซุปกระดูกหมู
วิธีทำ :
1. ตีไข่สองฟองให้แตก ปรุงรสด้วยพริกไทย ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทรายเล็กน้อย
2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไป เจียวกระเทียมให้หอม แล้วใส่ไข่ไก่ลงไป 
3. ตามด้วยวุ้นเส้น และฉีกใบเหลียงลงไป ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ใส่หอมซอยลงไป 
4. จากนั้นตักใส่จาน โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว เสิร์ฟร้อน ๆ กับข้าวสวย


Read More...


คลิป การทำขนมต่าง ๆ

สอนการทำน้ำผลไม้ปั่น Juice blended Berry

อาชีพอิสระเสริมรายได้ลงทุนน้อยแถมยังช่วยสร้างสุขภาพที่ดีกับผู้ดื่ม น่าสนใจดูวิธีทำแล้วใช่ไหมล่ะ งั้นเรามาหาโอกาสใหม่ให้กับตัวเองกันดีกว่า




คุ้กกี้เนยสด Butter Cookie
ดูสูตรและวิธีทำขนมฝรั่งแสนกรอบอร่อยหวานหอมมันเก็บไว้กินได้หลายวัน แถมแจกเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆได้อีกด้วย




ทำคัฟเค้ก
ทำคัฟเค้กโดยใส่ถ้วยไอครีมโคนเป็นการดัดแปลงให้แปลกไปอีกแบบหนึ่งต้องถูกใจ เด็กๆแน่เลยเพราะสามารถถือเดินกินไปตามที่ต่างๆได้แต่ต้องระวังน้ำหนักตัว หน่อยกแล้วกัน




ทำแพนเค้ก
ทำง่าย อีกทั้งยังสามารถควบคุมรชาดตามใจเราได้ด้วย ส่วนผสมและวิธีทำได้แสดงให้ชมในคลิบวีดีโอนี้แล้ว ถึงแม้ว่าแขกจะเป็นคนทำถ้าเราเรียนภาษาอังกฤษมาขนาดงูๆปลาๆก็พอเดาออกค่ะ




คาราเมลคัสตาร์ด Caramel Custard
ดูวิดีโอคลิปวิธีทำคาราเมลัสตาร์ด คราวนี้แขกมาโชว์เลยนะจ้ะนายจ๋าดูว่าไม่ยากเท่าไรเลยใครอยากเป็นเชฟมือหนึ่ง โปรดศึกษาไว้ไม่สูญเปล่า เป็นของว่างที่อร่อยยั่วน้ำลายอีกด้วย




สอนทำขนมไทย Banana in Coconut milk
วิธีทำกล้วยบวชชี นิยมใช้ กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่และกล้วยหอม การใช้กะทิสดจะอร่อยสุด แต่ถ้าหาไม่ได้เราใช้กะทิสำเร็จรูปแทนก็ได้ รสชาติของขนมต้องกลมกล่อม หวานมันเค็มนิดๆ





สูตรน้ำจิ้มบาบีคิว สูตรบาบีคิวซอส
ดูคลิปวิดีโอ วิธีทำซอสและส่วนผสมที่สมบูรณ์แบบ อย่างละเอียดได้ ส่วนใหญ่ก็หาได้ในบ้านเราเช่น มัสตาร์ด ซอสมะเขือเทส น้ำตาลทรายแดง กระเทียม พริกไทย เป็นต้น






วิธีทำเครื่องดื่ม มากาเรตต้า
ดูวิธีทำเครื่องดื่มที่อร่อยรสชาติจี้ดจ้าด อุดมไปด้วยวิตามินซีจากมะนาว อ้อถ้าต้องการตัดความแซ่ปของเครื่องดืมปากถ้วยที่เสริฟควรนำไปคว่ำบนเกลือ ป่นเพื่อให้เกลือจับที่ปากแก้วเมื่อดื่มจะได้รสชาติของเกลือรวมกับความ เปรี้ยวของเครื่องดื่มรสชาติสุดยอดจริงๆขอบอก




credit : http://www.kunthip.com/

Read More...


คลิป การทำกะทิแตงไทย

  กะทิแตงไทยเป็นของหวานชนิดหนึ่งที่น่าทำหม่ำๆ วันนี้เลยนำวิธีการทำกะทิแตงไทยมาใช้ชมครับ เผื่อสมาชิกท่านใดปลูกแตงไทยไว้แล้วอยากทำรับประทานมั่งครับ
 

ส่วนประกอบตามชอบ
หัวกะทิ
หางกะทิ
แตงไทยหั่นตามชอบ
น้ำตาลปี๊บ






วิธีทำ
1.ปอกเปือกแตงไทยที่สุกออกแล้วหั่นตามชอบ
2.คั้นมะพร้าวใส่เกลือสักหยิบมือนิดๆ เอาเป็นหัวกะทิแยกไว้ต่างหาก
   แล้วคั้นเอาหางกะทิมาต้มกับน้ำตาล(ตามชอบ)ให้เดือดจนน้ำตาลละลาย 
   แล้วตั้งไว้ให้เย็น
3.เทน้ำกะทิและแตงไทยที่หั่นๆลงในน้ำต้มตามข้อที่สอง

หมายเหตุ: บางสูตรทำกะทิแตงไทยกินแบบง่ายๆ โดยการน้ำหวานเฮลูบอย
              มาละลายกับน้ำแล้วนำนมสดลงคนๆ แล้วนำแตงไทยที่หั่นๆ และน้ำแข็งลง 


credit : http://www.kaset4you.com/ 

Read More...


คลิป การทำกุ้งอบวุ้นเส้น

การ ทำกุ้งอบวุ้นเส้นก็เป็นการแปรรูปกุ้ง ซึ่งเป็นผลผลิตการเกษตรชนิดหนึ่ง ทำกินก็ได้ ทำขายก็ดี เคยเห็นเขาทำขายแบบอบใส่ถ้วยดินเผาชนิดที่มีหูจับ ก็ขายได้ดี วันนี้ว่างมากเลยนำวีดีโอวิธีการทำกุ้งอบวุ้นเส้นมาให้ชมครับ เผื่อสมาชิกท่านใดเบื่ออาหารประจำและอยากทำรับประทานบ้าง

ส่วนผสมโดยประมาณ
วุ้นเส้นสองถุงเล็กแซ่น้ำให้นิ่ม (ถุงละสิบกว่าบาท) 2 ถุง
กุ้งสดประมาณ 15-20 ตัว หรือตามชอบ
น้ำตาลทรายประมาณครึ่งซ้อนโต๊ะ
ซอสปรุงปรุงรสประมาณหนึ่งซ้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ซ้อนโต๊ะ
กระเทียม 1 หัว ปลอกแล้วทุบพอแตก
ซีอิ้วดำประมาณ 3 หยด
คื่นช่าย 2 ต้น หั่น ๆ ๆ
คนอร์ผง(รสไหนก็ได้ตามชอบ) 1 ซ้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ดตำพอแตกประมาณ 7 เม็ด
ขิงแก่หั่นบาง ๆ ประมาณ 3-4 ชิ้น
เห็ดหอมสดตามชอบ
น้ำผึ้งแท้ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้) 1 ซ้อนโต๊ะ






วิธีทำ
นำส่วนผสมข้างต้นคลุกเคล้าให้เข้ากันในหม้อ ปิดฝาแล้วนำขึ้นตั้งไฟปานกลาง คอยดูว่าเมื่อข้างล่างสุกแล้วจึงกลับข้างบนลงข้างล่าง เมื่อสุกแล้วจึงนำมารับประทานได้
การทำน้ำจิ้มกุ้งอบวุ้นเส้นตำพริกเผ็ดตามต้องการพร้อมขิงแก่ประมาณปลายนิ้ว ก้อยแล้วใส่น้ำปลา,น้ำตาลทราย,มะนาว,ผงชูรส,และผักชีไทยหั่นฝอย ตามชอบ

หมายเหตุ : สามารถทำใสหม้อหุงข้าวได้ โดยนำส่วนผสมลงแล้วปิดฝาก็กดเปิด
สูตรสามารถปรับทำได้ตามความชอบของรสชาติแต่ละบุคคล และใส่ปูแทนกุ้งก็ได้

credit : http://www.kaset4you.com/

Read More...


คลิปการทำขนมไข่หงส์

   ใน ภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ การทำขนมไข่หงส์ขายก็เป็นอาชีพหนึ่งที่น่าสนใจ จะทำขายเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมก็ดี วันนี้ผมมีโอกาสเจอแม่ค้าทำขนมไข่หงส์ เลยถ่ายรูปทำเป็นวีดีโอการทำขนมไข่หงส์มาให้ชมครับ เผื่อเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจทำกินทำขายหรือมีมันเทศเยอะ ๆ จะได้แปรรูปได้ ตามสูตรของคุณยายที่ทำขนมนี้การทำขนมไข่หงส์ที่ว่าไม่มีสูตรตายตัวครับ ตามสูตรที่เห็นมีส่วนประกอบโดยประมาณดังนี้ครับ

1.มันเทศสีเหลืองหรือมันเทศสีส้มหนึ่งกิโลสามขีด (บางสูตรใช้ฟักทองหรือกล้วยสุกแทน)
2.แป้งข้าวเหนียวหนึ่งกิโลครึ่ง (ทำให้เหนียว)
3.แป้งข้าวจ้าวครึ่งกิโล (ทำให้แข็ง)
4.นำตาลหนึ่งกิโลครึ่ง
5.ถั่วเหลืองหนึ่งกิโล
6.น้ำมันพืชลิตรกว่า ๆ
7.นมสดหนึ่งกระป๋อง
8.กระเทียม,พริกไทย,และเกลือ






การทำขนมไข่หงส์ผมขอแบ่งวิธีการทำเป็น 3 ขั้นตอนนะครับ
ขั้นตอนที่ 1
การต้มมันและนวดเพื่อทำไส้
ปลอกเปือกมันเทศออกสับเป็นชิ้นๆ นำไปต้มจนในน้ำเดือดจนสุก เทน้ำต้มทิ้งปล่อยให้มันเทศเย็นแล้วนำมานวดกับแป้งข้าวเหนียว,แป้งข้าว จ้าว,นมสด,น้ำตาลครึ่งกิโล,และน้ำโดยค่อย ๆ เติมลงไป จนปั้นเป็นก้อนได้

ขั้นตอนที่ 2
การทำไส้ขนมและปั้นเป็นก้อน
ตำพริกไทยแล้วใส่กระเทียมลงไปและตำๆ รวมกันแล้ว นำถั่วเหลืองต้มจนสุกแล้วนำมาผึ่งให้แห้ง เสร็จแล้วนำกระเทียมพริกไทยที่ตำลงผัดในน้ำมันประมาณห้าช้อนโต๊ะพร้อมถั่ว เหลืองที่ได้ ใส่เกลือประมาณหนึ่งช้อนโต๊ะและน้ำตาลประมาณครึ่งกิโล ผัดและชิมดูจะมีรสชาติหวาน ๆ เค็ม ๆ มัน ๆ เสร็จแล้วนำไปทำไส้และนำแป้งที่นวดตามขั้นตอนที่หนึ่งมาห่อ

ขั้นตอนที่ 3
การทอดและคลุกกับน้ำตาลเชื่อม
นำขนมที่ปั้นตามขั้นตอนที่สองมาทอดในน้ำมัน และคอยคน ๆ ไม่ให้ขนมติดกัน เมื่อทอดหมดแล้วปล่อยให้เย็น นำน้ำใส่กระทะอีกใบสองถ้วย และน้ำตาลประมาณถ้วยกว่า ๆ เคี่ยวจนน้ำเหนียวหนืด แล้วนำขนมที่ทอดลงคลุกกับน้ำเชื่อมก็จะได้ขนมไข่หงส์ไส้เค็ม

credit  :  http://www.kaset4you.com/

Read More...


9 สุดยอด ตลาดนัดทำเลทองกลางกรุง

สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการค้าขายก็คือ การเลือกทำเลสถานที่ตั้ง ผู้ประกอบการที่ประสบความความสำเร็จค้าขายจนร่ำรวยขึ้นมาได้นั้น มีปัจจัยเกื้อหนุนมาจากการเลือกทำเลทองยอดนิยมในตัวเมือง
Photo By digitalsadhu with Creative Common 2.0

ทำเลที่ดีจะช่วยเกื้อหนุนให้ธุรกิจประสบ ความสำเร็จและเติบโตได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่คิดจะเริ่มลงมือทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับการค้าขายสินค้ายิ่ง ต้องใส่ใจในรายละเอียดตรงนี้ให้มากเป็นพิเศษ จึงเป็นโอกาสดีที่ Incquity จะขอนำเสนอ 9 สุดยอดตลาดนัดในกรุงเทพมหานครที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงและเหมาะจะเป็น ทำเลทองในการค้าขายสินค้าของผู้ประกอบการ โดยมีสถานที่ที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

1. ตลาดนัดสวนจตุจักร

ตลาดนัดสวนจตุจักรเป็นตลาดนัดที่ได้รับความนิยมและมียอดเงินสะพัดสูงที่ สุดในเมืองไทยจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของประเทศ โดยจะเปิดทำการเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์มีจุดเด่นตรงที่มีสินค้าเครื่องใช้ แทบจะทุกประเภทมาวางจำหน่าย ซึ่งในแต่ละวันที่เปิดทำการจะมีประชาชนมากกว่าแสนคนมาเดินเลือกซื้อสินค้า เป็นจำนวนมาก จึงกลายเป็นแหล่งสร้างรายได้ชั้นดีให้กับผู้ประกอบการค้าขายสินค้า ซึ่งถึงแม้จะเปิดเพียงแค่สองวันในหนึ่งสัปดาห์แต่ก็มีกำไรมากกว่าร้านค้าที่ เปิดทำการตลอดทั้งเดือน โดยตลาดนัดสวนจตุจักรจะมีการแบ่งพื้นที่ขายออกเป็นโซนๆและมีราคาค่าเช่าที่ สูงมาก แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรายได้ที่เข้ามา จึงกลายเป็นตลาดนัดอันดับหนึ่งในใจผู้ค้าจำนวนมาก

2. ตลาดนัดสะพานพุทธ

เป็นตลาดนัดที่เปิดค้าขายในช่วงเวลารัตติกาลบริเวณสะพานพุทธตัวเมืองชั้น ในของกรุงเทพมหานคร เริ่มวางขายสินค้ากันตั้งแต่เวลาสองทุ่มจนอาจจะเลยไปถึงตีสอง จุดเด่นที่น่าสนใจของสะพานพุทธคือผู้ประกอบการสามารถนำสินค้าที่เป็นมือสอง ไปวางขายได้เพราะเป็นแหล่งรวมตัวของผู้บริโภคที่ชื่นชอบลักษะสินค้าที่ผ่าน การใช้งานมาแล้วเพราะมีราคาถูก ซึ่งบางทำเลในตลาดสะพานพุทธไม่มีการเก็บค่าเช่าแผง โดยจะเปิดขาย 6 วันและหยุดในวันจันทร์ จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจหากผู้ประกอบการคิดจะขายสินค้ามือสอง

3. ตลาดนัดลุงเพิ่มหลังการบินไทย

มีทำเลที่ตั้งอยู่หลังการบินไทยสำนักงานใหญ่บนพื่นที่กว่า 2 ไร่ มีจุดเด่นที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการตรงที่ค่าเช่าแผงค่อนข้างถูก โดยเริ่มต้นประมาณเดือนละ 3,000 บาท และเปิดขายทุกวัน โดยสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นพวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า อาหาร เป็นต้น ซึ่งช่วงเวลาที่พีคที่สุดอยู่ในเวลา 11.00-13.00 น. เพราะมีลูกค้าที่เป็นพนักงานมาซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากจึงเหมาะกับผู้ประกอบ การที่ไม่ได้มีเวลาขายสินค้าทั้งวัน นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนประชาสัมพันธ์ด้วยวิธีการบอกเล่าแบบปากต่อปาก จากพนักงานการบินไทยด้วย

4. ตลาดนัดกลางคืนสยามสแควร์

จุดเด่นอยู่ตรงที่กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่แทบจะเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เป็นวัย รุ่นที่พอมีกำลังซื้ออยู่บ้าง เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่คิดจะขายสินค้าจำพวกเสื้อผ้า รองเท้า และกระเป๋าตามสมัยและเทรนด์แฟชั่นที่ราคาไม่แพงมาก เพราะเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มาเดินตลาดแห่งนี้ โดยสามารถวางขายได้บนทางเท้าและเปิดตั้งแต่เวลา 3 ทุ่มจนถึง 5 ทุ่ม จึงเหมาะกับผู้ประกอบการที่อาจจะมีธุรกิจหลักและหน้าที่การงานในตอนกลางวัน และต้องการหารายได้เพิ่มในตอนกลางคืน

5. ตลาดนัดคลองถม

ตลาดนัดคลองถมจะเปิดบริการตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาประมาณสองถึงสามทุ่ม ผู้ประกอบการสามารถขายสินค้าได้แทบจะทุกอย่างโดยเฉพาะสินค้าที่เป็นเกรดสอง มีลูกค้าหมุนเวียนเป็นจำนวนมากและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายจึงไม่จำ เป็นต้องทำประชาสัมพันธ์ โดยสามารถขายสินค้าได้เรื่อยๆตลอดทั้งวันเพราะมีผู้คนจำนวนมากเลือกมาเดิน ตลาดแห่งนี้ แต่ผู้ประกอบการคิดที่จะขายสินค้าที่มีราคาแพงขอแนะนำว่าตลาดแห่งนี้คงไม่ เหมาะเท่าไหร่นัก

6. ตลาดโบ๊เบ๊

ตลาดแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้ง แบบขายส่งและขายปลีก เพราะเป็นแหล่งที่มีชื่อเสียงมากประชาชนรู้จักกันเป็นอย่างดี นอกจากนี้โบ๊เบ๊ยังเป็นแหล่งพักและกระจายสินค้าประเภทเสื้อผ้าที่สำคัญ จึงทำให้มีลูกค้าขาประจำแวะเวียนมาดูและสั่งซื้อสินค้าจำนวนมากเพื่อไปขาย ต่อ ผู้ประกอบการที่ต้องการจะกระจายและขายเสื้อผ้าในคราวเดียวกันให้ได้จำนวน มากๆ ตลาดโบ๊เบ๊คือทางเลืกอันดับหนึ่งของวัตถุประสงค์ดังกล่าว

7. ซอยละลายทรัพย์ ถนนสีลม

หากคิดจะขายสินค้าในตลาดนัดให้กับผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูง ซอยละลายทรัพย์คือทางเลือกอันดับแรกของผู้ประกอบการ เพราะด้วยภูมิศาสตร์ที่ถูกแวดล้อมด้วยตึกและอาคารสูงหลายแห่งบนถนนสาย เศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดในเมืองไทย ลูกค้าส่วนใหญ่จึงเป็นพนักงานออฟฟิศที่อยู่ในระดับชนชั้นกลางและมีกำลังซื้อ โดยสินค้าที่ที่ได้รับความนิยมคือ อาหาร เสื้อผ้า เครื่องหนัง สินค้านำเข้า และของใช้จุกจิก มีลูกค้าเดินจับจ่ายซื้อของเป็นจำนวนมากแบบหนาแน่นตลอดทั้งวันและจะเพิ่ม เป็นสองเท่าเมื่อเข้าสู่เวลาสิบเอ็ดโมงถึงบ่ายโมง สมกับชื่อซอยละลายทรัพย์จริงๆ

8. ตลาดนัดเมเจอร์รัชโยธิน

เป็นอีกหนึ่งที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากของวัยรุ่นสำหรับตลาดนัด รัชโยธิน โดยสินค้าที่เหมาะจะวางขายก็ยังคงเป็นสินค้าสำหรับวัยรุ่น เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า น้ำหอม เป็นต้น จุดเด่นของตลาดนัดแห่งนี้คือมีศิลปินดารานักร้องเป็นจำนวนมากมาขายสินค้า ณ ที่แห่งนี้ จึงเป็นจุดสนใจและสามารถดึงดูดผู้คนให้มาเดินที่นี่มากขึ้นอยู่ตลอดเวลา โดยตลาดนัดเมเจอร์รัชโยธินจะเปิดขายทุกวันอังคารถึงวันอาทิตย์ตั้งแต่สี่โมง เย็นถึงห้าทุ่ม

9. ตลาดนัดปัฐวิกรณ์

เป็นตลาดนัดที่อยู่แถบชานเมืองกรุงเทพฯ บนถนนนวมินทร์ ผู้ประกอบการที่ต้องการนำสินค้าเครื่องใช้ของตนเองออกมาขายสามารถมาที่นี่ ได้ เพราะเกือบจะแปดสิบเปอร์เซ็นสินค้าที่วางขายที่นี่เป็นสินค้ามือสอง และได้รับความนิยมเป็นจำนวนมากจากผู้มีรายได้น้อย ซึ่งสินค้าที่ควรจะนำมาวางขายคงหนีไม่พ้นพวกเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และของกินของใช้ เปิดทุกวันตั้งแต่บ่ายโมงถึงสองทุ่ม             
สิ่งที่ทำให้ผู้ประกอบการควรที่จะเลือกนำสินค้ามาวางขายที่ตลาดนัดทั้ง 9 แห่ง ก็คือ จำนวนผู้คนที่มาเดินจับจ่ายใช้สอยภายในตลาดที่มีเป็นจำนวนมากและยังคงความ แน่นอนมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยยิ่งถ้ามีคนมาเดินเยอะมากเท่าไหร่นั่นหมายความว่าโอกาสในการขายของได้สูง ขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะดีที่สุดหากสินค้าของผู้ประกอบการจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สวยงามและ น่าสนใจสองสิ่งนี้จะช่วยให้สินค้าสามารถขายออกและทำกำไรกลับคืนมาให้รวดเร็ว ยิ่งขึ้น เพราะต้องไม่ลืมว่าถึงแม้ตลาดนัดจะเป็นขุมทองของการทำเงินแต่ก็มีคู่แข่ง เป็นจำนวนมากเช่นเดียวกัน

credit : http://incquity.com/

Read More...


8 แฟรนไชส์อาหารว่างน่าลงทุน

แฟรนไชส์อาหารว่างถือเป็นธุรกิจที่เติบโตและคืน กำไรให้กับเจ้าของได้อย่างรวดเร็ว อันมีที่มาจากพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยที่มีกำลังซื้อและความต้องการค่อน ข้างสูงตลอดเวลา

อาหารว่างขายง่ายๆ ลงทุนเองได้ไม่ยาก
ถ้าเอ่ยถึงประเทศไทยชื่อเสียงอันดับต้นๆที่ ได้รับการพูดถึงมากที่สุดคงจะต้องยกให้กับเรื่องของอาหารการกินอย่างแน่นอน เพราะประเทศเรามีจุดแข็งอยู่ที่ความเป็นชาติกสิกรรมจึงมีความหลากหลายใน เรื่องอาหารอย่างมาก โดยเฉพาะหนึ่งในจุดเด่นที่สุดก็คงเป็นเ รื่องของอาหารว่างที่มีให้เลือกมากมายและมีกลุ่มตลาดผู้บริโภคที่กว้างอีก ทั้งมีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง อาหารว่างจึงเป็นมากกว่าปัจจัยแต่ได้พัฒนากลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการ รับประทานของคนไทยไปแล้ว

สังเกตได้จากในแต่ละวันผู้คนมักจะจ่ายเงินในส่วนของค่าอาหารไปมากกว่า ครึ่งของจำนวนเงินที่ใช้ในแต่ละวัน โดยจำนวนเงินส่วนหนึ่งก็ถูกกันออกมาและแบ่งไปใช้จ่ายให้กับค่าอาหารว่างแทบ ทั้งสิ้น ธุรกิจแฟรนไชส์อาหารว่างจึงมีความน่าสนใจและเหมาะกับการลงทุนเป็นอย่างมาก

โอกาสนี้้ Incquity ได้ออกไปสำรวจและรวบรวม 8 ธุรกิจแฟรนไชส์อาหารว่างที่น่าลงทุนมาให้ผู้ประกอบการใช้เป็นทางเลือกในการ ทำธุรกิจ โดยมีธุรกิจที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

1. มันฝรั่งทอดเกลียวเสียบไม้

ayo chips

อาหารประเภทนี้เพิ่งจะเข้าเปิดตัวมาในเมืองไทยได้ไม่นาน และถือได้ว่าประสบความสำเร็จอยู่ในระดับพอสมควรเมื่อวัดจากกระแสการตอบรับ จากทุกกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งคุณนันทิยา วรประทีปผู้นำการบุกเบิกตลาดเจ้าเดียวและเจ้าแรกของประเทศไทยในนามแฟรนไชส์ 'อะโย่ชิปส์' ได้กล่าวอย่างสั้นๆถึงกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จว่า “ตัวแฟรนไชส์อะโย่ชิปส์ถึงแม้เราจะเป็นมือใหม่ในการทำธุรกิจ แต่ว่าเรามีการบริหารงานและดูแลสมาชิกแฟรนไชส์อย่างมือโปร และเรายังใส่ใจในทุกรายละเอียดตั้งแต่การคัดเลือกเกรดของมันฝรั่งที่จะได้ รับการคัดสรรมาเป็นอย่างดีจากแหล่งเพาะปลูกผ่านกรรมวิธีและสูตรลับที่ทางเรา ได้คิดค้นขึ้นเอง เพื่อให้รสชาติเป็นที่ถูกปากคนไทยมากที่สุด”

ปัจจุบันตัวมันฝรั่งทอดของอะโย่ชิปส์มีให้เลือกมากถึง 7 รสชาติ นอกจากนี้เธอยังได้บอกถึงปัญหาที่สมาชิกแฟรนไชส์อาจจะเจอก็คงหนีไม่พ้นใน เรื่องของราคาขายที่มักจะถูกบอกว่าค่อนข้างแพงแต่ส่วนตัวเธอเองก็คิดว่าคุ้ม มากกับรสชาติที่ได้มาขนาดนี้ ซึ่งผู้ที่สนใจสมัครแฟรนไชส์จะได้เข้ารับการอบรมฝึกสอนจากทางบริษัทจนสามารถ เปิดร้านได้ทันที

หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจสามารถติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ที่คุณนันทิยา วรประทีป หมายเลขโทรศัพท์ 08-6559-3335
  • จุดเด่น อะโย่ชิปส์มีแนวทางการบริหารและการทำตลาดอย่างเป็นระบบธุรกิจมืออาชีพ มีการพัฒนาและสร้างสรรค์ตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญผู้ซื้อธุรกิจแฟรนไชส์จะได้รับการสนับสนุนในทุกๆเรื่องรวมทั้ง การโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ที่บางธุรกิจมักมีการแข่งขันจน หันมากินเนื้อพวกเดียวกันเองอยู่ตลอดเวลา 
  • จุดด้อย เนื่องจากค่าแฟรนไชส์่ค่อนข้างสูงจึงส่งผลให้ราคาขายต้องขยับตัวเองขึ้นตาม ไปด้วย ทำให้ผู้ที่ต้องการลงทุนในธุรกิจตัวนี้จะต้องมีพื้นที่จำหน่ายที่อยู่ท่าม กลางผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมากเพียงพอ เช่น ตามห้างสรรพสินค้า หรือตามแหล่งธุรกิจขนาดใหญ่ๆ เป็นต้น
ค่าแฟรนไชส์ 60,000 - 90,000 บาท
ราคาขายส่งต่อหน่วย 13.50 บาท
ราคาขายปลีกต่อหน่วย 45 บาท
ระยะเวลาในการคืนทุน 3-6 เดือน

2. เฉาก๊วยเฮฮา

grass jelly

เฉาก๊วยถือเป็นของหวานที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรานับตั้งแต่อดีต จวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน แต่เชื่อหรือไม่ว่ากลับไม่มีธุรกิจรายใดเลยที่จะหันมาจับขนมเฉาก๊วยลงมาทำ ธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์อย่างจริงจัง แฟรนไชส์เฉาก๊วยเฮฮาจึงถือกำเนิดขึ้นจากจุดนั้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์อาหารว่างที่ขายดีเป็นอย่างมาก(โดยเฉพาะในช่วงหน้า ร้อน)

คุณอุ้ย หนึ่งในผู้ซื้อแฟรนไชส์ และเป็นผู้ลงมือขายด้วยตนเองได้ให้คำตอบถึงที่มาที่ทำให้เฉาก๊วยเฮฮาอร่อย ว่า “ตัวของเนื้อเฉาก๊วยมีความเหนียวนุ่มมากบวกกับน้ำเชื่อมที่เจ้าของเค้าคิด ค้นของเค้าเองแล้วมาโรยหน้าด้วยเครื่องตามแต่ที่ลูกค้าจะต้องการ คิดว่าจุดเด่นความอร่อยของมันคงจะอยู่ที่จุดนี้” นอกจากนี้ คุณอุ้ยยังได้ให้โจทย์ปัญหาข้อใหญ่สำหรับผู้ที่คิดจะซื้อแฟรนไชส์ตัวนี้มา ขายว่า ผู้ประกอบการจะต้องติดต่อกับผู้ส่งน้ำแข็งมาขายกับทางร้านให้ดีเนื่องจากเธอ ประสบปัญหาในเรื่องนี้ค่อนข้างมากเพราะน้ำแข็งไม่ได้ขนาดเพราะมีลักษณะที่ ใหญ่เกินไปบางครั้งยังมีกลิ่นตามมาอีกด้วย หลายครั้งถึงกับต้องเททิ้งทั้งหมด

นอกจากนี้ผู้ประกอบการจะต้องดูแลธุรกิจด้วยตัวเองเพราะเจ้าของแฟรนไชส์จะ ไม่เข้ามาดูแลให้ในส่วนนั้น โดยผู้สนใจสมัครแฟรนไชส์จะได้รับการสอนวิธีการขายและอุปกรณ์การดำเนินธุรกิจ ครบชุด ติดต่อได้ที่ คุณ วงศ์สถิตย์ อนันตกฤตยาธร โทรศัพท์ 08-7501-7766 หรือ www.heyhaa.com
  • จุดเด่น เป็นธุรกิจที่ลงทุนถือว่าค่อนข้างน้อยมากเมื่อเปรียบเทียบกับแฟรนไชส์ชนิด อื่นๆ อีกทั้งยังมีข้อได้เปรียบตรงที่ชื่อเสียงที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมาก ในระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่ต้องลงทุนโปรโมทกิจการมากมายนัก อีกทั้งยังมีรสชาติที่เป็นจุดเด่นเฉพาะตัว
  •  
  • จุดด้อย มีคู่แข่งทางธุรกิจค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะพวกร้านประเภทรถเข็นที่มักชอบแย่ง ลูกค้าด้วยการเสนอขายเฉาก๊วยที่มีราคาถูกกว่ามากเพียงถ้วยละ 10 บาทเท่านั้น บวกกับข้อจำกัดในเรื่องสถานที่ขายต้องเป็นพื้นที่ที่ไม่เสียค่าเช่าจนแพง เกินไปนักเพราะจะทำให้ธุรกิจขายสินค้าได้ลำบากอันเนื่องมาจากต้องปรับราคา สินค้าขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง (โดยมากถ้าราคาขายสูงมากกว่า 30 บาทสำหรับเฉาก๊วยก็ถือว่าขายได้ค่อนข้างลำบากแล้ว) นอกจากนี้ยังต้องติดต่อกับทางบริษัทผู้ส่งน้ำแข็งในแต่ละพื้นที่ให้ดีเพราะ ธุรกิจนี้ขึ้นอยู่กับความตรงต่อเวลาและคุณภาพความสะอาดของนำแข็งเป็นสำคัญ จึงเหมาะสมที่จะเป็นอาชีพเสริมที่ต้องจ้างพนักงานมาขายมากกว่าที่จะเป็น อาชีพหลัก
ค่าแฟรนไชส์ 15,000 บาท
ราคาขายส่งต่อหน่วย แล้วแต่ตกลงกับทางเจ้าของแฟรนไชส์
ราคาขายปลีกต่อหน่วย ตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป
ระยะเวลาในการคืนทุน 1-3 เดือน

3. แจ็คลูกชิ้นปลาระเบิด

Jack fish ball

หนึ่งในของว่างที่ได้รับความนิยมมากอีกหนึ่งอย่างคือลูกชิ้นทอด และเมื่อพูดถึงลูกชิ้นทอดแล้วต้ัองยกให้กับแจ็คลูกชิ้นปลาระเบิดเท่านั้น ซึ่งนายกีรติ ยวงใย หรือคุณแจ็คได้ให้สัมภาษณ์ในตอนหนึ่งถึงสิ่งที่ทำธุรกิจของเขามีความโดดเด่น และน่าสนใจว่า “จุดเด่นของผมมาจากความที่ลูกชิ้นมีลักษณะที่ใหญ่โตมากกว่าเจ้าอื่นๆแถมยัง เด่นตรงที่กรอบนอกและนุ่มในขณะที่เจ้าอื่นๆไม่มี และน้ำจิ้มของผมก็อร่อยมากด้วย ซึ่งถ้าคิดกับเงิน 39,000 ผมว่ามันคุ้มมากนะ”

สำหรับผู้สนใจสมัครแฟรนไชส์ทุกคนจะได้รับอุปกรณ์ขายครบชุดอีกทั้งยังได้ รับการเทรนด์นิ่งในวิธีการทอดและเคล็ดลับการขายเป็นอย่างดี พร้อมทั้งดูแลในเรื่องของสถานที่จำหน่ายให้อีกด้วยจากคุณแจ็คเจ้าของ แฟรนไชส์โดยตรง (ต้องตั้งร้านห่างกันอย่างน้อย 3 กิโลเมตร) แต่ในทางกลับกันสมาชิก
แฟรนไชส์ลูกชิ้นปลาระเบิดบางท่านได้กล่าวกับเราว่า “ลูกชิ้นปลาระเบิดของคุณแจ็คน่ะดีจริง แต่มีลูกชิ้นปลาทอดของคู่แข่งเยอะแยะเต็มไปหมด ถ้าจะขายก็ต้องดูที่ดูทางให้ดีด้วย” จึงเป็นแง่คิดที่สะท้อนออกมาจากหนึ่งในสมาชิกแฟรนไชส์โดยตรง ซึ่งหากผู้ประกอบการท่านใดสนใจจะต้องขบคิดและหาทางแก้ไขตรงจุดนี้ให้ได้เสีย ก่อน

ท่านใดที่สนใจสมัครสมาชิกแฟรนไชส์ร้านแจ็คลูกชิ้นปลาระเบิดสามารถติดต่อ ได้ที่ คุณ กีรติ ยวงใย หมายเลขโทรศัพท์ 08-9106-2102 ได้โดยตรง
  • จุดเด่น มีลักษณะผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นมากในเรื่องของขนาดที่ใหญ่โตกว่าลูกชิ้นปลาทอด ของร้านอื่นๆ จึงสามารถเรียกลูกค้าให้เข้ามาซื้อได้เป็นจำนวนมากและคืนทุนได้ในระยะเวลา ที่รวดเร็ว 
  • จุดด้อย ลูกชิ้นปลาทอดถือว่าเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งในตลาดเป็นจำนวนมากทั้งที่เป็น แฟรนไชส์และไม่ใช่แฟรนไชส์ การเลือกทำเลสถานที่ขายจึงมีความจำที่จะต้องเอาใจใส่ในเรื่องนี้ให้มากเป็น พิเศษ ซึ่งบางสถานที่ อย่างเช่น ห้างสรรพสินค้าก็ยังมีกฎห้ามใช้แก๊สในการทอดอาหารภายในตัวอาคารอีกด้วย จึงเป็นอุปสรรคพอสมควร
ค่าแฟรนไชส์ 39,000 บาท
ราคาขายส่งต่อหน่วย 80 บาท ต่อ 5 กิโลกรัม
ราคาขายปลีกต่อหน่วย 20 บาท ต่อ 10 ลูก
ระยะเวลาในการคืนทุน 1-2 เดือน

4. ตำนานฝรั่งแช่บ๊วย 50 ปี

Farang

ฝรั่งแช่บ๊วยเป็นอีกหนึ่งผลไม้แปรรูปที่ขายดีมาก เพราะมีรสชาติที่ผ่านการปรุงแต่งด้วยวิธีการเฉพาะที่เป็นความลับทางธุรกิจ มากว่า 50 ปี โดยคุณวรรณงาม จารุขจรจินดา เจ้าของธุรกิจตัวนี้ได้กล่าวว่า “คุณสมบัติเฉพาะของสูตรเราคือฝรั่งจะมีรสชาติดีหอมหวานและมีความกรอบกำลังพอ ดีจึงเป็นที่ถูกใจของลูกค้าจำนวนมาก มีลูกค้าประจำเยอะ ส่วนในเรื่องค่าแฟรนไชส์ก็ไม่คิดเงิน ถ้่าคุยกันรู้เรื่องและจะมารับสินค้าจากทางเราเป็นประจำก็เอาป้ายจากที่นี่ แล้วไปตั้งร้านขายได้เลย”

นอกจากนี้แล้วทางร้านยังมีสินค้าเสริมอีกหลายรายการเพื่อเพิ่มความหลาก หลายเพราะนอกจากฝรั่งแล้วยังมีมะม่วงและผลไม้แช่อิ่มให้เลือกมากมายหลากหลาย ชนิด แต่จากการสอบถามสมาชิกของทางร้านฝรั่งแช่บ๊วยบางท่านได้บอกเล่าปัญหาที่น่า สนใจเกี่ยวกับธุรกิจนี้ก็คือ หากผู้ประกอบการท่านใดที่คิดจะขายฝรั่งแช่บ๊วยจะต้องไปติดต่อในเรื่องของตู้ ขายสินค้าและอุปกรณ์เองทั้งหมดพร้อมทั้งดูแลสถานที่เอาเองด้วย ซึ่งเจ้าของไม่ได้มีบริการให้ในส่วนตรงนี้ และบางครั้งถ้าฤดูกาลไหนมีตัวผลไม้น้อยราคาต้นทุนก็จะสูงขึ้นแถมยังได้ฝรั่ง ที่มีขนาดปานกลางเสียเป็นส่วนใหญ่

ผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ คุณวรรณงาม จารุขจรจินดา โทรศัพท์ 08-9228-9977
  • จุดเด่น ความมีชื่อเสียงและสูตรลับในการปรุงฝรั่งถือเป็นจุดขายที่สร้างชื่อเสียงและ การยอมรับมาอย่างยาวนานสำหรับผู้บริโภค จึงทำให้มียอดขายต่อวันที่สูงมาก นอกจากนี้คือราคาขายส่งฝรั่งแช่บ๊วยต่อหน่วยอยู่ที่ราคาประมาณ 18 บาท ต่อ 1 ลูกเท่ากันทั้งหมด ซึ่งฝรั่งที่ได้มากลับมีขนาดที่แตกต่างกันทำให้สามารถตั้งราคาขายปลีกเองได้ ตั้งแต่ 25-40 บาท จึงค่อนข้างจะได้กำไรมาก นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของสินค้าตัวอื่นๆเข้ามาเสริม เช่น มะม่วง และกระท้อนแช่อิ่ม 
  •  
  • จุดด้อย ผลไม้จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตามฤดูกาลดังนั้นราคาขายส่งจึงมักมีการ เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ยังมักถูกตีตลาดจากพวกรถเข็นขายฝรั่งแช่บ๊วยราคาถูกที่มีราคาต่ำ กว่า ส่วนการขนส่งยังเป็นอุปสรรคที่สำคัญเพราะต้องใช้ความระมัดระวังให้มากเป็น พิเศษเพื่อไม่ให้ผลไม้มีอาการช้ำหรือยุบอีกด้วย
ค่าแฟรนไชส์ ไม่เสีย
ราคาขายส่งต่อหน่วย 18 บาท
ราคาขายปลีกต่อหน่วย 25-40 บาท
ระยะเวลาในการคืนทุน 2 เดือน

5. หมูย่างเฉพาะกิจ

pork sticks

แฟรนไชส์หมูย่างเฉพาะกิจถือเป็นแฟรนไชส์แห่งแรกที่จับเอาธุรกิจหมูปิ้ง พร้อมข้าวเหนียวที่จำหน่ายทั่วๆไปในตอนเช้านำมาพัฒนาต่อยอดออกมาเป็นธุรกิจ แบบบอกรับสมาชิก โดยทางบริษัทมีการคัดสรรเลือกวัตถุดิบอย่างดีทั้งเนื้อหมูและเครื่องเทศบวก กับสูตรลับเฉพาะในการหมักหมูที่ใช้เวลานานร่วม 16 ชั่วโมงจึงได้รสชาติที่เข้มข้นมากเป็นพิเศษ โดยมีรสชาติให้เลือก 6 ชนิด

คุณเค หนึ่งในสมาชิกที่ซื้อแฟรนไชส์ตัวนี้และมีร้านตั้งอยู่แถวแถบชานเมืองบอกเล่า เกี่ยวกับธุรกิจของตนว่า “ผมคิดว่าธุรกิจตัวนี้สำหรับผมถือว่าดีมากๆ เนื้อหมูมีรสชาติอร่อย ขายได้ง่ายและขายได้ตลอดเวลาถ้าเทียบกับพวกรถเข็นที่คุณจะขายได้เฉพาะตอน เช้าๆเท่านั้น แต่ถ้าถามถึงปัญหาก็มีอยู่ข้อเดียวคือคุณต้องเลือกทำเลที่ตั้งร้านให้ดีก็ เท่านั้นเอง”

หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจจะสมัครเป็นสมาชิกแฟรนไชส์ของหมูย่างเฉพาะกิจ สามารถติดต่อขอสมัครเข้าร่วมแฟรนไชส์ได้ที่ บริษัท หมูย่างเฉพาะกิจ

โดยตรงที่หมายเลขโทรศัพท์ 08-1340-2482,08-6303-0789

โดยจะได้อุปกรณ์การขายครบชุด พร้อมการเทรนนิ่งจากบริษัทเจ้าของแฟรนไชส์
  • จุดเด่น มีรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์ และที่สำคัญคือการสนับสนุนที่ดีจากเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์
  • จุดด้อย ต้องเลือกสถานที่ขายสินค้าให้ดีเป็นพิเศษ มิเช่นนั้นอาจถูกหมูย่างไม้ละ 3 บาท ตามรถเข็นทั่วไปแย่งลูกค้าไปจนหมด เพราะมีราคาที่ถูกกว่าถึงแม้จะมีรสชาติที่สู้หมูย่างเฉพาะกิจไม่ได้ก็ตาม
ค่าแฟรนไชส์ 29,000 บาท
ราคาขายส่งต่อหน่วย 7 บาท
ราคาขายปลีกต่อหน่วย 10 บาท
ระยะเวลาในการคืนทุน 3 เดือน

6. มหาชัยไอศครีม

mahachai ice cream

มหาชัยไอศครีมเป็นต้นตำรับของไอศครีมกะทิของไทยแท้ๆที่ขึ้นชื่อในเรื่อง ของความอร่อยมาอย่างยาวนาน จุดเด่นอยู่ที่รสชาติความอร่อยของไอศครีมกะทิต้นตำหรับผสมเข้ากับเครื่องโรย หน้าที่มีให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น ลูกบัว พุทราจีน ถั่วลิสงคั่ว มะยม ข้าวโพด แห้ว วุ้นมะพร้าว ลูกชิด ฟักทอง ข้าวเหนียว ฯลฯ ซึ่งเป็นจุดเด่นและจุดขายหลักของไอศครีมสัญชาติไทย

พี่ไก่หนึ่งในสมาชิกแฟรนไชส์ของมหาชัยไอศครีมได้กล่าวอย่างสั้นๆถึง แฟรนไชส์ตัวนี้ว่า “คิดว่ามันขายง่ายมาก วิธีการทำก็ไม่ยุ่งยาก แค่ตักใส่ถ้วยแล้วโรยหน้าตามที่คนซื้อต้องการเท่านั้นเอง” นอกจากนี้พี่ไก่ยังได้กล่าวแบบติดตลกและอารมณ์ดีเมื่อถามเกี่ยวกับปัญหาที่ เจอก็คือ “แฟรนไชส์ร้านมหาชัยไอศครีมมันค่อนข้างจะเยอะนะ เรียกได้ว่าหันไปไหนก็เจอบางครั้งจึงต้องช่วยกันอุดหนุนพวกเดียวกันเองบ้าง ก็มี” ด้วยความที่ขายง่ายและวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากหากผู้ประกอบการท่านใดสนใจ สามารถสั่งซื้ออุปกรณ์และตู้แช่ได้จากทางร้านแฟรนไชส์ของมหาชัยไอศครีมได้ ที่ นายสมชาย เลิศสมิทวงษ์ เบอร์โทรศัพท์ 02-977-4961
  • จุดเด่น ความมีชื่อเสียงของไอศครีมมหาชัยเป็นที่ทราบดีของคนไทยจึงไม่จำเป็นต้องมี การโปรโมทมากมายแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีวิธีการขายที่ง่ายมากไม่จำเป็นต้องใช้ฝีมือในการทำที่สลับซับ ซ้อนแต่ประการใด จึงสามารถจ้างพนักงานขายได้ โดยที่ผู้ประกอบการสามารถกำหนดรูปแบบตามที่ตนเองต้องการได้ทั้งในส่วนของ ราคา และเครื่องโรยหน้าของไอศครีม นอกจากนี้ไอศครีมยังสามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่เน่าเสียอีกด้วย
  •  
  • จุดด้อย ถึงแม้มหาชัยไอศครีมจะมีวิธีการขายที่ไม่ยุ่งยากนัก แต่จุดอ่อนที่สำคัญคือมหาชัยไอศครีมมีผู้ขายที่เยอะมากทั้งของจริงและของ ปลอมในบางสถานที่มีการตั้งร้านค้าที่ซ้ำกันมากถึง 3 เจ้า ผู้ประกอบการที่สนใจจึงต้องศึกษาในรายละเอียดเรื่องนี้ให้มากเป็นพิเศษเพราะ เป็นเรื่องที่คุณแทบจะต้องดำเนินการเองทั้งหมด
ค่าแฟรนไชส์ 14,000 บาท
ราคาขายส่งต่อหน่วย 850 บาท ต่อ ถัง
ราคาขายปลีกต่อหน่วย 15-25 บาท ต่อ ถ้วย
ระยะเวลาในการคืนทุน 3-4 เดือน

7. ร้านปังสด ขนมปัง-นมสด

Pangsod

ขนมปัง-นมสด เป็นอีกหนึ่งกลุ่มร้านแฟรนไชส์เกี่ยวกับอาหารว่างที่ขายดีมากในทุกโอกาส ซึ่งแฟรนไชส์ที่อยากจะขอแนะนำคือร้าน ปัง-สด ที่มีจุดเด่นอยู่ที่เครื่องดื่มและอาหารว่างให้เลือกมากมายหลายรายการ ซึ่งแฟรนไชส์นี้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับประเทศพิสูจน์ได้จากจำนวนสาขา ที่มีเป็นจำนวนมาก โดยสมาชิกผู้ซื้อร้านแฟรนไชส์แห่งนี้ผู้ไม่ขอเปิดเผยชื่อกล่าวกับเราว่า “จุดเด่นที่ชอบมากที่สุด ก็คงเป็นเรื่องของจำนวนเมนูของสินค้าที่เรามีให้ผู้บริโภคสามารถเลือกทานได้ เป็นจำนวนมาก เพราะมันดีทั้งกับทางเราที่เป็นคนขายและดีในมุมของลูกค้าด้วยที่เขามีโอกาส ได้เลือกทานมากขึ้นทั้งน้ำและขนม แต่ถ้าให้พี่พูดถึงจุดอ่อนก็คงไม่มีอะไรมากนอกจากเรื่องของการหาทำเลค้าขาย ที่เราจะใช้ตั้งร้านเพราะบางทีเราก็ต้องหลบคู่แข่งที่เป็นร้านขนาดใหญ่และ พวกรถเข็นประเภทกาแฟโบราณเจ้าต่างๆ”

ผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจสมัครสมาชิกแฟรนไชส์ร้านปังสดจะได้รับการอบรม และบอกสูตรเคล็ดลับของเครื่องดื่มและการทำอาหารว่างประเภทต่างๆจากทางร้าน พร้อมทั้งได้รับการดูแลเอาใจใส่ในทุกๆเรื่องทั้งด้านของอุปกรณ์ร้านค้า การตกแต่ง และการนำส่งวัตถุดิบโดยตรงถึงหน้าร้านของผู้ประกอบการ ขอเพียงผู้ประกอบการมีที่ขายสินค้าเป็นพอ

ติดต่อได้ที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ปัง สด เบอร์โทรศัพท์ 089-5190066, 089-5098056, 089-5197700
  • จุดเด่น แฟรนไชส์นี้ร้านปังสดจะดูแลในธุรกิจของลูกค้าสมาชิกในทุกๆเรื่อง ผู้ประกอบการจึงลดภาระไปได้ในส่วนหนึ่ง
  •  
  • จุดด้อย การทำจะธุรกิจประเภทนี้ให้ประสบความสำเร็จได้นั้นต้องอยู่ที่ฝีมือการทำ เครื่องดื่มของผู้ประกอบการเป็นหลัก เพราะบางทีระยะเวลาเพียงแค่ 1 วันไม่สามารถจะทำให้รสชาติในการชงเครื่องดื่มอยู่ตัวได้ ดังนั้นผู้ประกอบการที่คิดจะทำต้องหมั่นฝึกซ้อมให้ดีเสียก่อนที่จะไปเปิด ร้านขายจริง เพราะในตลาดการค้าขายเครื่องดื่มก็มีคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือเป็นจำนวนมากอยู่ แล้ว
ค่าแฟรนไชส์ 28,000 - 50,000 บาท
ราคาขายส่งต่อหน่วย แล้วแต่ตกลงกับทางเจ้าของแฟรนไชส์
ราคาขายปลีกต่อหน่วย ตามเมนูที่กำหนด
ระยะเวลาในการคืนทุน 1-3 เดือน

8. เอ็น แอนด์ บี เครป

n&b crepe

แฟรนไชส์ เอ็น แอนด์ บี เป็นร้านค้าที่ขายสินค้าเกี่ยวกับขนมและเครปโดยเฉพาะซึ่งเป็นรูปแบบของอาหาร ที่นิยมในหมู่วัยรุ่นเป็นอย่างมาก โดยมีตัวสินค้าที่ได้รับการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาประกอบไปด้วย 4 หมวดหลักคือ มินิเครป ซุปเปอร์เครป ไส้กรอกทวิน และพิซซ่าเครปหน้าต่างๆ โดยสมาชิกแฟรนไชส์เอ็นแอนด์บีท่านหนึ่งได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ธุรกิจของร้านตนเองว่า “เอาแค่เฉพาะตัวร้านของพี่นะ พี่ว่ามันโอเคขายดีมากเลย มีลูกค้าเรื่อยๆตลอดทั้งวัน ส่วนปัญหาพี่ขอติแค่นิดเดียวคือหน้าร้านค่อนข้างเล็กจัดวางของยากและอุปกรณ์ เสริมบางอย่างพังง่าย” ส่วนในเรื่องการดูแลและให้ความช่วยเหลือสมาชิกเธอกล่าวว่า “ดีมาก ยิ่งวันไหนสั่งของไปน้อยวันรุ่งขึ้นจะมีพนักงานเดินทางมาหาเราโดยทันที”
ผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจจะสมัครเป็นสมาชิกร้านแฟรนไชส์เอ็น แอนด์ บี สามารถติดต่อได้ที่คุณบุญประเสริฐ พู่พันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 08-1890-2402 โดยตรง
  • จุดเด่น เป็นอาหารว่างที่ได้รับความนิยมเป็นพื้นฐานเดิมอยู่แล้วสำหรับกลุ่มอาหาร ประเภทนี้ จึงค่อนข้างที่จะขายได้ง่ายและหมดในระยะเวลาที่รวดเร็ว บวกกับการคิดค้นสูตรและปรับปรุงตัวสินค้าอยู่ตลอดเวลาทำให้เป็นธุรกิจที่น่า ลงทุนมาก เพราะมีความต่อเนื่องมาจากบริษัทเจ้าของแฟรนไชส์นั่นเอง 
  •  
  • จุดด้อย การเลือกทำเลที่ตั้งต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะอาจจะไปติดกับร้านที่ขายสินค้ามีลักษณะเหมือนกันแต่ขายตัดราคาถูกกว่า พราะไม่สามารถสู้รสชาติและความอร่อยของทางร้านได้ นอกจากนี้ผู้ประกอบการควรต้องฝึกฝนวิธีการขายให้ชำนาญเสียก่อนที่จะไปเปิด ร้านจริงเพื่อประโยชน์ในการประกอบธุรกิจ
ค่าแฟรนไชส์ 49,000 บาท
ราคาขายส่งต่อหน่วย แล้วแต่ตกลงกับทางเจ้าของแฟรนไชส์
ราคาขายปลีกต่อหน่วย แล้วแต่ตกลงกับทางเจ้าของแฟรนไชส์
ระยะเวลาในการคืนทุน ไม่เกิน 6 เดือน

ธุรกิจแฟรนไชส์จะประสบความสำเร็จได้ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งนั้นต้องขึ้น อยู่กับตัวของผู้ประกอบการเองเป็นกำลังสำคัญส่วนหนึ่งด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเลือกทำเลที่ตั้ง รูปแบบการบริหารงาน หรือแม้กระทั่งฝีมือในการทำสินค้าล้วนมีที่มาจากตัวผู้ประกอบการเองเป็นผู้ กำหนดขึ้นมาแทบทั้งสิ้น แฟรนไชส์จึงมีส่วนช่วยประมาณ 50% เท่านั้น ผู้ประกอบการจึงต้องหมั่นศึกษาและเรียนรู้แนวทางการทำธุรกิจอยู่เสมอๆ อย่าหวังพึ่งพากับบริษัทแม่เจ้าของแฟรนไชส์อยู่แต่เพียงอย่างเดียว ให้คิดเสียว่าเจ้าของแฟรนไชส์คืออาจารย์ผู้ให้คำปรึกษาในการทำธุรกิจแต่ไม่ ใช่ผู้ที่จะคอยอุปการะธุรกิจของผู้ประกอบการเสมอไป

credit :  http://incquity.com/

Read More...




----------------

ปรับปรุง
รายการบทความทั้งหมด



การบำรุงรักษารถยนต์เบื้องต้น



ร้านค้าเคลื่อนที่ ใช้ รถบรรทุกขนาดเล็กมาดัดแปลง



รวมบทความอาชีพ เสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม



รวมบทความงานฝีมือ-สิ่งประดิษฐ์ รายได้เสริม



ทองม้วน thong muan ; rolled wafer





MASK รุ่นสายคล้องคอ







MASK รุ่นสายคล้องคอ. ��รุ่นนี้เป็นที่นิยมใช้กันมาก #ขายดีมาก
ทำจากผ้าคอตตอนแท้ 100%  ไม่ผสม เนื้อผ้านุ่ม 
3 ชั้น. สวมใส่พอดีกับใบหน้า ไม่เจ็บหู มีสายคล้องคอปรับได้
เวลาถอดออก ไม่ต้องกลัวลืม เพราะถอดแล้วคล้องคอไว้ได้
บรรจุในถุงซิปฟรอย์อย่างดี
ราคาชิ้นละ. 59. บาท. ไม่รวมส่ง 
มีหลายสีให้เลือกนะคะ   สนใจทักแชทขอดูสีผ้าได้นะคะ
หน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน หรือ สนใจสั่งไปจำหน่าย 
มีเรทราคาส่งค่ะ

-> id line : noeyhorm_06
#มีวางจำหน่ายหน้าร้านชานมไต้หวันมาราชาสาขาจรัญ44


ร้านมาราชาชานมไข่มุก สาขาจรัญสนิทวงศ์ 44
● รับบัตรสะสมครบ 10 แก้ว แลกรับฟรี 1 แก้ว
● สั่งเดลิเวอรีผ่าน LINE MAN, Foodpanda ,GET ...ถึงมือปั๊บพร้อมดื่มปุ๊บ!
● อัพเดทโปรโมชั่นใหม่ๆ รสชาติใหม่ ตลอดเวลา
● มีเมนูให้เลือก 40 กว่าเมนู : https://bit.ly/2Z9iqV0






























































เลือกช่องทางติดต่อและรับข่าวสารบริการหลังการขาย
ฟอร์ด พลปิยะอยุธยาและฟอร์ด พลปิยะวังน้อย

--------------------------------------------------------------------------------------------
แคมเปญ-โปรโมทชั่น อะไหล่ฟอร์ด อัพเดททางออนไลน์และปรับปรุงข้อมูลออนไลน์
อะไหล่ฟอร์ด อะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่รถยนต์ฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ดแท้ ร้านขายอะไหล่รถฟอร์ด ขายอะไหล่รถฟอร์ด อะไหล่ฟอร์ด
 
Option

รวมบทความอาชีพเสริม หลากไอเดียวิธีหารายได้เสริม หาอาชีพเสริมอิสระทำเงิน สร้างอาชีพอิสระงานฝีมือ แนะนำการสร้างรายได้เสริมทำเงินด้วยการขายสินค้าหรือขายของเป็นอาชีพเสริม อิสระงานฝีมือ แนะแนวธุรกิจ อาชีพเสริม อาชีพแก้จน อยากจะมีรายได้เสริมนอกเหนือจากงานประจำ บล๊อกจัดทำขึ้นเป็นวิทยาทานเพื่อเผยแผ่ความรู้อันจะเป็นไปเพื่อบุญกุศล ขอให้ทุกท่านที่มีส่วนร่วมในบทความของบล๊อกนี้ จงได้รับอานิสงฆ์ด้วยเทอญ.